
12 มิ.ย. 2023
ผิดขนาดนั้นเลยหรอ... สาวโทรปรึกษา 3 ดีเจ คบกันมา 7 ปี แต่สามีฟ้องหย่า เพราะหนูแค่ถามเขาว่า “มึงจะกลับไม่กลับ!” ต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน เขาให้เหตุผลว่า เราใช้คำพูดไม่สุภาพ รุนแรง แต่เขาก็เคยต่อยเบ้าตาเราแตก จนต้องเข้าโรงพยาบาล...
ผิดขนาดนั้นเลยหรอ... สาวโทรปรึกษา 3 ดีเจ คบกันมา 7 ปี แต่สามีฟ้องหย่า เพราะหนูแค่ถามเขาว่า “มึงจะกลับไม่กลับ!” ต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน เขาให้เหตุผลว่า เราใช้คำพูดไม่สุภาพ รุนแรง แต่เขาก็เคยต่อยเบ้าตาเราแตก จนต้องเข้าโรงพยาบาล หนูไม่อยากหย่าเพราะยังรู้สึกผูกพันและรักมาก ทำยังไงดีคะ? “คุณมิว (นามสมมติ)” อายุ 26 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [7 มิ.ย. 66] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจปุ๊กกี้ ปวีณ์นุช เกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์กับสามี โดย “คุณมิว (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูกับสามีอยู่ด้วยกันมาเข้าปีที่ 7 เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนของปีที่ผ่านมา หนูกับแฟนตกงานกันทั้งคู่ ทีนี้มันมีผู้หญิงคนหนึ่งและสามีของเขาที่รู้จักกับครอบครัวหนูมาประมาณ 10 ปี เขามาชวนหนูไปทำงานที่ร้านอาหารของเขา หนูก็เลยพาแฟนเข้าไปทำด้วยในตำแหน่งพนักงานทั่วไป ซึ่งแฟนหนูก็เพิ่งรู้จักกับพี่คนนี้จากการที่หนูพาแฟนเข้าไปทำงานด้วย ทำงานตอนแรกๆก็ดี แต่ทำไปได้ประมาณอาทิตย์หนึ่ง หนูก็มีปากเสียงกับแฟน ทะเลาะกันขึ้นมา จากความรู้สึกหนูเรื่องที่ทะเลาะกันมันเป็นเรื่องเล็กๆนิดเดียวเอง มันควรที่จะคุยกันได้ แต่แฟนหนูกลับโมโหใหญ่โตมาก ไม่ยอมคุย วันนั้นที่ทะเลากัน ด้วยความที่ทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 2 ทุ่ม พอเลิกงานหนูก็เหนื่อย ล้า แล้วก็เป็นประจำเดือนด้วยเลยมีหลายอารมณ์ พอเลิกงานก็ชวนสามีกลับบ้านแต่เขามัวแต่คุยกับเพื่อนที่ทำงาน หนูก็เลยโมโหแล้วก็มีการตะคอก ขึ้นเสียงใส่เขาไป ต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน อาจจะหยาบนิดหนึ่ง คือหนูพูดว่า “มึงจะกลับหรือไม่กลับ” ก็เลยทำให้เขาโมโหและทะเลาะกัน ปกติหนูไม่ค่อยพูดคำหยาบ หรือขึ้นเสียงเลยถ้าไม่รู้สึกว่าอารมณ์มันสุดจริงๆ แต่วันนั้นทั้งเหนื่อย หลายเรื่อง อารมณ์เลยขึ้นไป เหมือนอารมณ์ชั่ววูบ ในระหว่าง 7 ปีก็เคยทะเลาะหนักกว่านี้ แต่มันไม่ถึงกับแยกกันแบบนี้ พอหนูตะคอกใส่เขา เขาก็เดินกลับบ้านไปเก็บกระเป๋าเสื้อผ้า แล้วก็ออกมาไปอยู่กับพี่เจ้าของร้านเลย หนูก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร พี่เจ้าของร้านเขาอาจจะเอ็นดูแฟนหนูหรือเปล่าหนูก็ไม่แน่ใจ เหมือนพี่เจ้าของร้านเป็นที่พักพิงให้กับแฟนหนู หลังจากที่ทะเลาะกัน หนูกับสามีอยู่คนละที่แต่ก็มาเจอกันที่ทำงาน สามีหนูเขาก็ไม่สนใจ ไม่พูดคุย เห็นหนูเป็นฝุ่น เป็นอากาศ ส่วนตัวพี่เจ้าของร้านก็ยังพูดดีในตอนแรกว่าให้ค่อยๆพูด ค่อยๆเคลียร์กัน แต่หนูก็ไม่รู้ว่าพี่เขาไปคุยอะไรกับแฟนหนู จน 2 - 3 วันถัดมาพี่เขาก็เริ่มเปลี่ยนท่าที เริ่มบอกให้หนูกับสามีหย่ากัน ให้เลิกกันไปเลย อย่ามายุ่งกัน คำพูดเขาแบบ “ก็มันไม่เอาแล้ว จะมาอะไรกับมัน!” หนูรู้สึกได้เลยว่าการพูดของพี่เขาไม่ใช่ไกล่เกลี่ยหรือคนกลาง แต่อยากให้หนูไปเลิกกับสามี แต่หนูก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมพี่เขาถึงเป็นแบบนี้ หนูก็ไม่อยากเลิก หนูกับสามีอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา 7 ปี พี่คนนั้นก็คอยพูดเรื่อยๆ ทุกวันๆที่ไปทำงานแล้วก็มีบอกว่า ถ้ายังไม่หยุดเร้าหรือกับสามีของหนู เขาจะไล่หนูออกจากงาน พนักงานทุกคนจะได้วันหยุดหนึ่งวัน ซึ่งวันนั้นเป็นวันหยุดพักผ่อนของหนู แต่พี่ผู้หญิงเจ้าของร้านเขาโทรมาว่า “สรุปจะเอายังไง จะเลิก จะหย่าให้ไหม” หนูก็ตอบไปว่า “ยังไงหนูก็ไม่หย่า” สำหรับความรู้สึกหนู หนูอยากให้สามีมากลับมาคุยกันดีๆ เพราะตั้งแต่ที่ทะเลาะกันเขาไม่เคยมาคุยกันสักคำ เขาหายไปเลย เจอกันแค่ที่ทำงาน นอกนั้นก็ติดต่อไม่ได้เลย อยู่ที่ทำงานก็ไม่ยอมคุยกับหนู แล้วพี่เขาก็พูดอีกว่า “ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวจะดูแลสามีหนูอย่างดี” พี่เขาพูดถึงขนาดว่าจะเอาชื่อของสามีหนูเข้าทะเบียนบ้านของเขา เขาสงสารสามีเราเพราะเป็นคนต่างจังหวัดแล้วมาอยู่บ้านเดียวกับหนู เห็นว่าตอนนี้สามีหนูตัวคนเดียว สงสารเลยอยากดูแล สามีของพี่เขาก็รู้เรื่องทั้งหมด แต่ทุกคนก็ถามหนูว่า สามีเขาว่ายังไงบ้าง เหมือนสามีพี่เขาก็เชื่อ พี่เขาพูดอะไรก็เชื่อหมด หนูก็ไม่รู้ วันนั้นที่พี่เขาโทรมา เขาก็ยังบอกอีกว่า ถ้าไม่อย่าพี่จะหาทนายมาให้สามีหนูฟ้องหย่า หนูอยู่แบบนี้ไม่ได้ มันเสียสุขภาพจิตหนู หนูต้องกินยานอนหลับ ก็เลยตัดสินใจออกจากงาน เพื่อที่จะเว้นระยะห่างกับสามี เผื่อวันไหนที่เขาเย็นลง หรือโอเคขึ้นเขาจะกลับมาคุยกับเรา หลังจากหนูออกจากงานมาจนประมาณเดือนมีนาคม หนูได้รับหมายศาลการฟ้องหย่า โดยให้สาเหตุคร่าวๆคือ หนูด่าทอด้วยคำพูดที่ไม่สุภาพ รุนแรงในที่สาธารณะ ทำให้อับอาย หนูก็ได้ไปยื่นเรื่อง ไปไกล่เกลี่ยอะไรเรียบร้อยค่ะ หนูก็ไม่ได้ติดต่อกับเขาอีกเลย จนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีเพื่อนของหนูไปเห็นเฟซบุ๊กของผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ไม่ใช่พี่เจ้าของร้าน เขาเป็นลูกของแม่ค้าที่อยู่ในระแวกเดียวกัน ลงภาพซ้อนมอเตอร์ไซค์ให้เห็นต้นคอ ด้านหลังว่าเป็นสามีหนู แล้วบอกว่า “เป็นคนพิเศษ” ทีนี้หนูก็เลยโทรไปเคลียร์กับทางผู้หญิงคนนี้ (อายุประมาณ 17-18ปี) เขาก็บอกกับหนูว่า กำลังคุยๆดูๆกับอยู่ แต่ผู้ใหญ่ยังไม่อนุญาตให้คบกัน เพราะทางผู้ชายบอกว่ากำลังจะหย่ากับเมีย หนูก็คิดในใจว่า อ้าว ถ้าผู้ใหญ่รู้แบบนี้ ทำไมเขาไม่ห้ามหรอ ผู้ชายก็ยังมีเมียมี ทะเบียนสมรส หนูก็เลยโทรไปหาแม่ของน้องผู้หญิงด้วย แม่ของน้องเขาก็รับรู้ว่าผู้ชายที่น้องคุยมีเมียอยู่แต่ก็บอกหนูว่า ก็กำลังจะหย่ากันไม่ใช่หรอ เขาฟ้องเธออยู่ ระหว่างที่หนูกำลังคุยกับแม่เขา หนูได้ยินเสียงคนๆหนึ่งเข้ามาในโทรศัพท์ มันมีคำที่หนูไม่คิดว่าเกิดมาหนูจะได้ยินอะไรแบบนี้ มันทำให้หนูเจ็บใจมากที่สุด เขาพูดมาว่า “มึงจะโทรมาทำไม ทำไมไม่ไปคุยกับผัวมึง มึงเอาผัวมึงไม่อยู่เอง จะมาอะไรกับฝ่ายนี้!” แต่สามีหนูไม่ยอมคุยกับหนูเลย มีแต่ฝากพี่เจ้าของร้านมาคุย หนูอยากจะสู้ให้ถึงที่สุด ส่วนหนึ่งหนูก็อยากได้สามีกลับมา แล้วก็อยากให้มีความยุติธรรมว่าทำไมหนูต้องมาเจออะไรแบบนี้ ถ้าเขาชนะในคดีนี้ หนูจะกลายเป็นคนที่ไม่ได้ผิดขนาดที่จะต้องเป็นคดีหรือขึ้นศาลเพราะเรื่องแค่นี้ ดีเจทั้ง 3 คน ให้คำปรึกษากับ “คุณมิว (นามสมมติ)” ว่า ‘เรื่องฟ้องก็คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของศาลตัดสินว่าผลมันจะเป็นยังไง แต่มันไม่สมเหตุผลกับการฟ้องหย่านี้เลย คนที่ควรจะฟ้องควรเป็นคุณมิวด้วยซ้ำ ในความเป็นจริง เวลาสามีภรรยามีปากเสียงแล้วใช้คำที่ไม่สุภาพเวลาทะเลาะกัน ไม่เห็นมีคู่ไหนที่ต้องขึ้นศาลขนาดนี้เลย “คุณมิว (นามสมมติ)” บอกต่อว่า หนูไม่เคยใช้คำที่ไม่สุภาพกับเขาเลยนะคะ หยาบสุดของหนูคือมึงกับกู มีแต่เขาที่ใช้คำไม่สุภาพกับหนูตลอด 3 ดีเจ จึงบอกว่า ถ้าเป็นอย่างที่คุณมิวบอก แบบนั้นมันก็เห็นชัดอยู่แล้ว เขาใช้สิ่งนี้เป็นข้ออ้างในการที่จะเลิกกับคุณมิวหรือเปล่า “คุณมิว (นามสมมติ)” ตอบกลับว่า คนรอบข้างส่วนมากบอกว่า เขาหาจังหวะมานาน แล้วมาเจอเรื่องนี้พอดี เขาเลยใช้จังหวะนี้ที่จะเลิกกับหนู ตอนไปไกล่เกลี่ยหนูก็ถามเขาว่า ฉันทำอะไรให้เธอหนักหนาขนาดนั้นเลยหรอ เขาตอบกลับมาว่า ความรู้สึกมันต่างกัน เรื่องเล็กสำหรับหนูอาจจะใหญ่สำหรับเขาก็ได้ 3 ดีเจ ถาม “คุณมิว (นามสมมติ)” ถึงเหตุผลว่าทำไมถึงไม่หย่า แล้วผู้ชายคนนี้มีข้อดีอะไร? “คุณมิว (นามสมมติ)” ตอบว่า หนูยังมีหวังอยู่ว่าสักวันเราจะกลับมาเป็นครอบครัวได้ แล้วก็เพราะความผูกพันที่อยู่ด้วยกันมาตลอด 7 ปี ข้อดีนอกจากผูกพันก็คงมีแต่ไม่ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ เพราะว่ามันมีช่วงที่เคยทะเลาะกันแล้วเขาชกเบ้าตาหนูแตก เย็บไปหลายเข็ม ต้องนอนโรงพยาบาลอะไรแบบนี้ แต่หนูไม่ได้บอกคนรอบข้างว่าเขาเป็นคนทำ หนูบอกว่าหนูล้มเอง เพราะว่าหนูรักเขา แล้วหนูก็คอยสนับสนุนเขาในหลายๆเรื่องเลยไม่อยากหย่ากับเขา หนูอยากถามพี่ๆดีเจว่าหนูจะ move on ต่อยังไงดีคะ? “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า คนแบบนี้ควรเอามาเป็นสามีหรอ จากที่ฟังแรกๆก็สงสัยว่าทำไมต้องหย่ากันด้วยเหตุผลแค่นั้น แต่พอคุณมิวเล่าต่อ เขาทั้งทำร้ายร่างกาย ใช้คำหยาบคาย ไม่ให้เกียรติ ตอนทะเลาะกัน แค่นี้ก็ไม่โอเคแล้ว แล้วก็ไม่มีความเป็นลูกผู้ชายเลย พี่ไม่เห็นค่าอะไรที่ควรจะเอาเขากลับมาเลย หย่าไปเลย 7 ปีมันจะมีค่าเฉพาะคนที่ดีกับเรา แต่สำหรับคนนี้ 7 ปีคือเสียเวลาชีวิต คุณมิวควรเอาความรักนี้ไปให้กับคนที่สมควรจะได้รับและดีกับคุณมิวจริงๆ นี่คือเรื่องดีที่เกิดขึ้นในชีวิตคุณมิวแล้ว ปล่อยเขาไปเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น “ดีเจปุ๊กกี้” แนะนำให้คุณมิวมีคนใหม่ และเจอคนที่ดีกว่า ถ้าเราทำดีให้เขาไปทุกอย่างแล้วเราไม่ได้รับกลับมาจากคนๆนั้น แสดงว่าเขาไม่อยู่ในชีวิตเรา ไปหาคนที่ดีกว่า เปิดใจ อย่าไปยึดติดกับคนเก่า คุณมิวอายุยังน้อยมีโอกาสที่จะได้เจอคนดีๆอีก แล้วก็เลิกถามตัวเองได้แล้วว่าตัวเองผิดอะไร เพราะเรื่องนี้คุณมิวไม่ได้ผิดเลย คำพูดแค่นั้นไม่สามารถฆ่าจิตใจคนได้ ส่วน “ดีเจเผือก” แนะนำให้คุณมิวไปปรึกษาจิตแพทย์เกี่ยวกับความเศร้าที่กำลังพบอยู่ แล้วก็ไม่ต้องไปเสียเวลาคิดหาเหตุผลว่าเราทำอะไรผิด เอาเวลาไปทำให้ตัวเองดีขึ้น มีความสุขขึ้นดีกว่า ถ้ามองย้อนกลับไป 7 ปีแล้วคุณมิวเห็นว่าตัวเองเปลี่ยนไปขนาดไหน เขาทำให้คุณมิวกลายเป็นคนไม่รักตัวเอง คุณมิวควรเซ็นใบหย่าแบบไม่ต้องคิดเลย ไม่ต้องกลัวเสียศักดิ์ศรีอะไรทั้งนั้น ควรรักตัวเองก่อน สุดท้ายดีเจทั้ง 3 ขอส่งกำลังใจให้คุณมิวมีสติ และผ่านพ้นเรื่องนี้ไปให้ได้ รักตัวเองให้เยอะๆเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

