หนูเลิกกับแฟนไปแล้ว กลับรู้สึกว่าสบายตัว สบายใจจังเลย แต่ก็แอบคิดถึงเพราะเขาเป็นคนเกาหลีที่หล่อมาก

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูเลิกกับแฟนไปแล้ว กลับรู้สึกว่าสบายตัว สบายใจจังเลย แต่ก็แอบคิดถึงเพราะเขาเป็นคนเกาหลีที่หล่อมาก

12 ธ.ค. 2025

หนูเลิกกับแฟนไปแล้ว กลับรู้สึกว่าสบายตัว สบายใจจังเลย 
แต่ก็แอบคิดถึงเพราะเขาเป็นคนเกาหลีที่หล่อมาก 
ก่อนที่จะเลิกกัน หนูทำงาน Dancer ของหนู 
แล้วแฟนชาวเกาหลีคนนี้ขี้หึงมากกก เขาห้ามหนูส่งยิ้มให้ลูกค้า
แล้วเวลาคบกัน จะต้องวิดีโอคอล คุยกันเกือบ 24 ชั่วโมง
คุยกันตลอดเวลา และ เขาก็ขี้หึงแบบไม่มีเหตุผลเลย
ตอนนี้หนูเลิกกับเขามาแล้ว แต่ลึกๆก็คิดถึงเขาค่ะ

       “คุณปาล์ม (นามสมมติ)” อายุ 22 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์คพุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (10 ธันวาคม 2568) ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับเรื่องที่ตนนั้นเลิกกับแฟนมาได้ 5 วัน เพราะรู้สึกสบายใจที่ไม่ต้องมาคอยรับโทรศัพท์ตลอดเวลา แต่ใจลึก ๆ ก็ยังแอบคิดถึงเขา

       โดย “คุณปาล์ม (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘แฟนหนู อายุ 22 ปี คบกันมาได้ 1 ปีแล้ว คือหนูรู้สึกสับสนในตัวเอง แฟนหนูเป็นคนเกาหลี เขาจะชอบบอกว่า วัฒนธรรมบางอย่างมันไม่เหมือนกัน หนูกับแฟนจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน เขาจะมาหา 3 เดือนครั้ง ตอนที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เวลานอนเขาชอบวิดีโอคอล ต้องเปิดกล้องกันตลอด ถ้าสายตัดต้องรีบโทรกลับมา เพื่อดูว่าหนูนอนคนเดียวไม่นอนกับใคร

       คือหนูเป็นแดนซ์เซอร์ ทำงานกลางคืน หนูกับแฟนเจอกันที่ผับ พอเจอกันแล้วก็รู้สึกชอบกันเลยได้ตกลงคบกัน แรก ๆ เขาก็เข้าใจงานของหนู ว่าต้องคุยกับลูกค้าบ้าง แต่หลัง ๆ เขาหึงหนู เริ่มห้ามไม่ให้คุย ไม่ให้ยิ้ม กับลูกค้าเพราะเขาหวง จนมีอยู่วันหนึ่งเขามาเซอร์ไพรส์ที่ผับ ตอนนั้นหนูกำลังยิ้มเล่นเกมกับลูกค้า เขาก็เข้ามาบอกเห็นหมดแล้วนะ หนูเลยบอกเขาว่า หนูขอโทษคือหนูเมาเลยเผลอยิ้มให้ลูกค้า

       พอเขากลับประเทศไปก็เหมือนเดิม คือต้องโทรหากันตลอดเวลา แต่อยู่มาวันหนึ่ง เขาก็มาบอกว่าเราเลิกกันเถอะ หนูก็ยื้อเขาไว้แต่เขาก็ไม่ฟังบอกจะเลิก วันนั้นหนูเลยไปกินเหล้าหนักมากแล้วไปนอนบ้านเพื่อนต่อ เขาทักมาแต่หนูไม่ได้ตอบเพราะเมาจนหลับไป เขาก็ทักไปหาเพื่อนหนูทุกคน ถามว่าหนูอยู่ที่ไหน สรุปก็ทักมาบอกเลิกหนูอีกรอบ เพราะบอกว่าหนูไปนอนบ้านเพื่อน ที่ประเทศเขาไม่มีแบบนี้นะ เหตุผลที่เขาบอกเลิกหนู เขาบอกว่าไม่อยากจะต้องมาคอยหึง หรือคอยทะเลาะด้วย

       พอเลิกกันมาได้ 5 วัน หนูแฮปปี้มาก คือมันนอนได้เต็มอิ่ม แต่เขาก็ยังโทรมาหาบ้าง มีจะบินมาหาบ้าง แต่หนูก็บอกไม่ต้องมาไม่ว่างเจอ เขาก็ประชดหนูว่ามีคนอื่นแล้วใช่มั้ย คือตอนนี้ก็ยังไม่ได้ดีกัน แต่เขาก็ชอบคิดเองว่าเราดีกันแล้ว ปัญหาของปาล์มที่อยากจะปรึกษาดีเจทั้ง 3 คนคือ หนูจะทำยังไงกับความรู้สึกตัวเองดีคะ?  คือตอนเลิกกันหนูก็สบายใจ ที่ไม่ต้องคอยรับสายเขา แต่อีกใจก็ยังคิดถึงเขาอยู่ เพราะเวลาเขามาง้อแล้วเขาหล่อดี’

       เริ่มด้วย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เราทำงานหาเงิน เป้าหมายหลักคือเงิน ถ้าเขาจะเข้ามา ต้องเข้ามาเติมเต็ม ไม่ใช่เข้ามาเป็นภาระ หน้าหล่อ ๆ ของเขาไม่ได้ทำให้เรารวยขึ้น รอยยิ้มของเราต้องเอาไว้หาเงิน จำไว้แล้วบอกเขาไปเลยว่าชีวิตเราเป็นแบบนี้ ถ้าไม่เชื่อใจอยู่ไม่ได้ก็ไปหาคนอื่นเลย ถ้ารอบนี้เรายอมเขาอีก เราจะยอมเขาไปตลอด ชีวิตคู่มันต้องหล่อโดยนิสัย ยิ่งเราทำงานแบบนี้ ผู้ชายต้องเข้าใจเรามาก ๆ ต้องสอนให้รู้บทเรียน คำว่าเลิกไม่ใช่จะพูดได้บ่อย ๆ’

       ต่อด้วย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าจะให้เขากลับมา เราต้องต้องเชิ่ดเลย การเมืองมันเปลี่ยนขั้วแล้ว พูดให้เคลียร์เลยว่างานคืออะไร อะไรที่ให้ได้หรือไม่ได้ เราต้องเป็นฝ่ายที่คอนโทรลเขา คนที่หล่อแล้วดีมีอีกเยอะ ถ้าเขากลับมาชีวิตเราต้องได้นอนเต็มอิ่ม ไม่ใช่กลับไปเป็นแบบเดิม’

       ต่อด้วย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ณ วันแรกที่คบกันเขาเข้าใจเรา ไม่ได้ขออะไรมาก ให้เขาเป็นคนเดิม เหมือนในวันที่เข้ามาจีบเรา ถ้าเขาเป็นคนภายใต้บังคับบัญชาของเราได้ ก็ให้โอกาสเขา คุมอำนาจให้อยู่’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 –23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ยังไงคะคุณแม๊! คบกับแฟนมา 5 ปี ย้ายไปอยู่บ้านแฟน แต่แม่แฟนใช้ชื่อแฟนเก่า เรียกเราทุกครั้ง ทั้งๆที่ชื่อไม่เหมือนกันเลย แฟนเก่าแฟนเค้าเคยคบกันมา 7 ปี จนตอนนี้เราอึดอัดย้ายออกจากบ้านแฟนมาแล้ว ล่าสุด แม่เพิ่งแชร์รูปแฟนเก่าของแฟนใน Facebook ด้วย

22 มี.ค. 2024

ยังไงคะคุณแม๊! คบกับแฟนมา 5 ปี ย้ายไปอยู่บ้านแฟน แต่แม่แฟนใช้ชื่อแฟนเก่า เรียกเราทุกครั้ง ทั้งๆที่ชื่อไม่เหมือนกันเลย แฟนเก่าแฟนเค้าเคยคบกันมา 7 ปี จนตอนนี้เราอึดอัดย้ายออกจากบ้านแฟนมาแล้ว ล่าสุด แม่เพิ่งแชร์รูปแฟนเก่าของแฟนใน Facebook ด้วย

“คุณปาล์ม (นามสมมติ)” อายุ 33 ปีสายที่ 3 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [20 มี.ค. 67] ได้โทรมาปรึกษา ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล และ ดีเจต้นหอม เกี่ยวกับแม่แฟนชอบเรียกชื่อเราเป็นแฟนเก่าตลอด โดย “คุณปาล์ม (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคบกับแฟนมา 5 ปี ทุกครั้งที่ต้องไปเจอแม่แฟนหรือพูดคุยกัน เขาจะชอบเรียกชื่อหนูเป็นชื่อแฟนเก่าของลูกชายเขาตลอด ปกติหนูแทนตัวเองว่าหนูตลอด แต่แฟนจะเรียกชื่อของหนู แล้วคุณแม่เขาก็ชอบไปแชร์รูปแฟนเก่าของแฟนเราด้วย เพราะเป็นรูปที่แฟนเก่าถ่ายกับหลานเขา หลานเป็นลูกของน้องชายแฟนที่แม่เคยเลี้ยง แต่หนูก็พยายามที่จะทำดีด้วย พยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ดีตลอด ตอนนี้หนูกับแฟนมีลูกด้วยกันแล้ว และก็แยกบ้านอยู่กับแม่แฟน แต่ก่อนที่จะแยกบ้านแม่เขาเคยพูดว่า ไม่ชอบเด็ก เกลียดเด็ก ไม่อยากได้ยินเสียงเด็ก หนูเลยแยกออกมาอยู่ที่อื่น เพราะหนูคิดว่า 5 ปีแล้วทำไมถึงยังเรียกผิดอยู่ แล้วหนูก็รู้สึกในใจว่าแม่เขาคิดอะไรเพราะแม่ก็อายุแค่ 55 เอง หนูอยากถามพี่ ๆ คิดว่าแม่เขาคิดอะไรไหมแล้วมีวิธีรับมือยังไงบ้าง คำแนะนำจากดีเจเผือก : มันแก้ไม่ได้หรอกกับคนที่ใช้ชีวิตมา 55 ปี มันมีแหละเวลาที่ผ่านไปแล้วจะชนะใจแม่ผัวได้ แต่ก็อย่าไปคาดหวังว่าทุกอย่างมันจะต้องดีขึ้นแบบที่จะต้องรักกันเอ็นดูกัน แต่ถ้าเราเปลี่ยนเขาไม่ได้เราก็ต้องเปลี่ยนที่ความรู้สึกของตัวเองว่าเราอย่าเอาความสุขของเราไปผูกกับปฏิกิริยาของเขามาก แล้วยิ่งได้แยกกันอยู่คิดว่าความปวดหัวมันลดไปเยอะเลยนะ คือจินตนาการว่าถ้ายังอยู่บ้านเดียวกันพวกคำพูดอะไรเหล่านี้คงจะทำร้ายเราแทบจะทุกวัน ซึ่งคำว่าทำร้ายเราต้องเข้าใจก่อนว่าบางทีเขาก็พูดไปเรื่อยนะ มันอาจจะไม่ถูกต้องถูกใจเราแต่บางทีเราก็ไม่รู้หรอกว่าเจตนาเขาเป็นแบบไหน เราฟังก็ไม่รู้หรอกว่าคาแรคเตอร์แม่สามีคุณปาล์มเขาเป็นแนวไหนกันแน่ พูดไปเรื่อย ปากร้ายใจดีหรือไม่ชอบหน้ากันจริง ๆ แต่เอาเป็นว่าถ้าคุณปาล์มอยากเอาชนะใจก็เป็นตัวของตัวเองแหละ เพราะสุดท้ายแล้วถ้าเราเชื่อมั่นว่าตัวเราไม่ได้มาร้ายอะไร แล้วเราก็เป็นแม่ของหลานเขา เป็นเมียของลูกเขาวันนึงก็อาจจะดีขึ้นก็ได้ แต่คุณปาล์มไม่ต้องไปหวังว่าจะดีขึ้นอะไรมากมายเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องไปอยู่ใกล้อะไรมากมีความสุขกับสามีกับลูกของตัวเอง เดี๋ยวพอเขาอายุสัก 3-4 ขวบ คุณปาล์มก็จะมีความสุขกับลูกมาก เพราะเดี๋ยวเขาเริ่มพูดเอง มีความคิดเป็นของตัวเองมากขึ้น อะไร ๆ ที่ออกมาจากปากเขามันจะทำให้เรามีความสุขมากขึ้น ก็อยู่กับสิ่งที่สร้างความสุขให้เราอะไรที่มันทำให้เรารบกวนจิตใจมากก็เลี่ยง ๆ ไม่ต้องไปเจอ ส่วนเรื่องเรียกชื่อผิด ๆ ถูก ๆ อยู่ก็แทนชื่อตัวเองไปเลย ถ้ายังผิดอีกก็หายใจลึก ๆ และคิดว่าเขาเป็นแม่ผัวเราแค่นั้นเอง คำแนะนำจากดีเจเติ้ล : พี่เห็นด้วยกับพี่เผือกว่าต้องไม่คาดหวังว่าเขาเรียกเราถูก ทำตัวให้ชินไปเลยว่าถ้าฉันไปบ้านเมื่อไรฉันจะมีอีกชื่อนึง เพราะว่าตอนนี้เราไม่รู้ว่าที่เขาเรียกเพราะเขาหลงลืม เขาติดปากหรือเขาตั้งใจซึ่งคิดไปก็ปวดหัว แต่ตอนนี้หนูออกมาอยู่กับครอบครัวแล้วอะพี่ว่าก็แฮปปี้และที่เขายอมปล่อยออกมา แล้วยิ่งไปคาดหวังก็จะยิ่งเฮิร์ทป่าว ๆ สำหรับพี่ก็แค่คนคนนึงที่เราไม่ได้สนิทอะไรกับชีวิตมากก็ไม่ต้องคาดหวังว่าเขาจะมาจำอะไรเราหรอกสำหรับพี่นะ ถ้ามันจะทำให้พี่ะบายใจอันนี้ตอบแบบจริงใจ ถ้าตอบแบบขำ ๆ ปาล์มลองแทนตัวเองเป็นชื่อที่เขาเรียกไปเลย สมมติเขาเรียกหนูว่ากิ๊ฟ อ๋อค่ะกิ๊ฟก็ว่าอย่างนั้นแหละ ดูสิว่าเขาจะเอ๊ะไหม ถ้าเขาแกล้งจริง ๆ เขาก็คงแบบ อ้าวไม่ได้ชื่อกิ๊ฟแล้วทำไมแทนตัวเองว่ากิ๊ฟอะ ก็ลองดูว่าจะเอายังไง และ คำแนะนำจากดีเจต้นหอม : พี่ว่าแม่ผัวยังไม่ได้ร้ายอะไรมาก มันแค่มีปัญหาเล็กน้อยสำหรับการได้แม่ผัวอย่างนี้ แล้วเขาไม่ยุ่งกับเราคือเป็นบุญที่สุดแล้ว การที่เรามีครอบครัวและแม่ผัวไม่มาวุ่นวายกับเรานี่คือข้อดีที่ใหญ่มากมาทดแทน แต่ถ้าเรื่องนี้มันกวนใจ อันดับที่ 1 คือแทนชื่อตัวเองทุกครั้งแบบที่พี่เผือกบอก แทนตัวเองว่าปาล์มอย่างนู้น ปาล์มอย่างนี้ และอย่างที่ 2 ก็คือพี่เติ้ล ก็เป็นคนนั้นไปเลยไม่ต้องไปคิดว่ามันคือแฟนเก่า แต่มันชื่อซ้ำกันได้ไม่เป็นไรฉันชื่อนี้ได้ กับ 3 แสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ไปเลยที่เกี่ยวกับชื่อคุณ ถ้าสุดท้ายแล้วไม่รอดจริง ๆ ก็เปลี่ยนที่ความคิดเราเพราะว่าสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา ชั่งน้ำหนักแล้วมันมากกว่าสิ่งเล็กน้อยนี้มาก แล้วให้ลูกเราเรียกว่า แม่ปาล์ม ๆๆ ทุกครั้ง หรือจริง ๆ เขาอาจจะลืมจริง ๆ ก็ได้เพราะเราก็ไม่ได้เจอเขาบ่อยขนาดนั้นเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

คบแฟนมา 11 ปี ผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ จนตอนนี้เช่าบ้านด้วยกัน ภาระค่าใช้จ่ายแบ่งเป็นส่วนๆ แฟนรับผิดชอบค่าเช่าบ้าน หนูเพิ่งมารู้ความจริงว่า สลิปที่เค้าจ่ายค่าบ้านทุกเดือน แชทไลน์ที่คุยกับแม่เรื่องเงิน เค้าปลอมขึ้นมาทั้งหมด

02 ส.ค. 2024

คบแฟนมา 11 ปี ผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ จนตอนนี้เช่าบ้านด้วยกัน ภาระค่าใช้จ่ายแบ่งเป็นส่วนๆ แฟนรับผิดชอบค่าเช่าบ้าน หนูเพิ่งมารู้ความจริงว่า สลิปที่เค้าจ่ายค่าบ้านทุกเดือน แชทไลน์ที่คุยกับแม่เรื่องเงิน เค้าปลอมขึ้นมาทั้งหมด

คบแฟนมา 11 ปี ผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ จนตอนนี้เช่าบ้านด้วยกันภาระค่าใช้จ่ายแบ่งเป็นส่วนๆ แฟนรับผิดชอบค่าเช่าบ้าน หนูเพิ่งมารู้ความจริงว่าสลิปที่เค้าจ่ายค่าบ้านทุกเดือน แชทไลน์ที่คุยกับแม่เรื่องเงิน เค้าปลอมขึ้นมาทั้งหมดเจ้าของบ้านบอกจ่ายไม่เคยตรงมา 3 ปี ตั้งแต่ย้ายเข้า “คุณบุ้งกี๋ (นามสมมติ)” อายุ 28 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (31 ก.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม - ดีเจก็อตจิ – ดีเจอั๋น’ เกี่ยวกับปัญหาที่เพิ่งรู้ความจริงถูกแฟนหลอกเรื่องเงินมาตลอด 3 ปี โดย “คุณบุ้งกี๋ (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘เราคบกับแฟนมา 11 ปี อายุเท่ากัน เราไม่ได้มีบ้านเป็นหลักเป็นแหล่ง เราเช่าบ้านอยู่ แต่เราจะส่งค่าเช่าบ้านให้แฟน เพื่อให้แฟนส่งต่อเจ้าของบ้าน เพราะเป็น Connection ของแฟน แฟนเคยทำงานกับเจ้าของบ้าน แล้วเราไม่เคยติดต่อกับเจ้าของบ้านโดยตรง ไม่มีเบอร์ ไม่เคยเห็นหน้า แต่เราตกลงกับแฟนว่าให้แฟนผ่อนค่ารถ ส่วนเราผ่อนค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต เพราะมีพ่อกับน้องอยู่ด้วย โดยเรากับแฟนจะมีพื้นที่ให้กัน เรามีห้องของเรา แฟนมีห้องของแฟน เราย้ายมาเช่าบ้านนี้ได้ประมาณ 3 ปี วันนั้นเราทะเลาะกัน แฟนเราโดนที่บ้านเรากดดันว่า “ทำไมหาเงินไม่ได้เท่าบุ้งกี๋ เป็นผู้ชายทำไมถึงให้ผู้หญิงนำตลอด” เงินเดือนของเขาประมาณ 18,000 - 20,000 บาท ซึ่งเราเองไม่ได้มองตรงนี้ บุ้งกี๋มีพี่น้อง 5 คน แต่ 2 คนแรกตัดขาดกันไปแล้ว ไม่ได้ติดต่อกันแล้ว ตอนนี้เหลือพี่สาว บุ้งกี๋ และน้องชาย พี่สาวจะกดดันตลอดว่า “ไม่อยากให้คบคนนี้ ไม่มีอนาคต อยากเลี้ยงผู้ชายไปเรื่อยๆหรอ” แต่เราไม่ได้เลี้ยงผู้ชายนะ ก็อยู่กันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ด้วยความที่เขามีเรื่องโดนคดีละเมิดลิขสิทธิ์ เมื่อ 3 ปีก่อนเขามีหนี้ก้อนหนึ่งประมาณ 250,000 บาท เขายืมเพื่อนเราไป 100,000 ยืมเรา 50,000 ที่เหลือเขาออกเอง 100,000 บาท มันพังมาเรื่อยๆ ที่ทะเลาะกันเพราะเราไปกระตุ้นเขาว่า “ทำไมไม่คืนเงินเพื่อนสักที บอกว่าจะยืมแค่ 1 เดือน แต่นี่มันผ่านมา 1 ปี กับอีก 2 เดือนแล้ว ไม่กระตือรือร้นเลย ทำไมไม่คิดจะคืน” แล้วเขาก็ขับรถออกไป ทีนี้เราไม่รู้เป็นอะไร เราไม่เคยเช็คไลน์ หรือข้อความอะไรของเขาเลย แต่วันนั้นมีคอมพิวเตอร์ของเขาอยู่ข้างๆ เราเลยลองเช็คไลน์เขาดู ปรากฎว่าเราเห็นไลน์ของคุณแม่ของแฟน 2 ไลน์ พอเปิดดูกลายเป็นว่า 1 ในนั้นเป็นไลน์ของคุณแม่ที่เป็นของปลอม เอาไว้แคปหน้าจอมาให้เราดูว่า “แม่กำลังจะขายบ้านนะลูก เดี๋ยวเอาเงินไปคืนเขานะ กำลังจะได้เงินนะลูก” มันคือไลน์ที่เขาคุยกับตัวเอง แล้วแคปหน้าจอมาให้เรา เราตกใจมาก แล้วเราก็เลื่อนแชทไปเรื่อยๆ จนไปเจอแชทหนึ่ง เป็นผู้หญิง ซึ่งเขาเป็นเจ้าของบ้าน ส่งมาบอกว่า “จะไม่ให้อยู่แล้วนะ จะเอาบ้านคืนแล้วนะ” เราตกใจมาก เพราะเราส่งเงินในส่วนของค่าเช่าบ้านไปให้แฟนตลอดทุกวันที่ 29 - 30 ของทุกเดือนกลัวจะลืม ก็เลยโทรหาเขาเลยทั้งที่ทะเลาะกันอยู่ “เกิดอะไรขึ้น ทำไมมันเป็นแบบนี้ ทำไมเขาถึงบอกว่าจะไล่ออกจาบ้าน” เขาก็โกหกว่า “มันไม่เกี่ยวกัน มันเป็นเงินที่กู้มาจากเจ้าของบ้าน แล้วเขาเอาเงินมารวมกัน” เราเสียใจมากเพราะมันเป็นครั้งที่ 2 แล้ว พอวันรุ่งขึ้นก็ขอไลน์ ขอเบอร์เจ้าของบ้านมาจากเขา ตอนเช้ายังไม่ส่ง พอตกเย็นถึงจะส่งมาให้ เราก็โทรหาเจ้าของบ้านปรากฎว่าเรื่องมันเลวร้ายกว่านั้น เจ้าของบ้านบอกว่า “ไม่เคยปล่อยเงินให้นะ นี่คือค่าเช่าบ้าน จริงๆแล้วเขาไม่ได้ส่งเงินมาเลยตั้งแต่เดือนแรกที่เช่าบ้าน” คือค่าเช่าบ้านเดือนละ 6,000 บาท เขาส่งค่าเช่าบ้านแค่ 1,000 - 2,000 บาท เขาทำมาตลอดระยะเวลา 3 ปี เรารู้สึกว่าโลกทั้งใบพังทั้งหมด เพราะไว้ใจเขามาก เขาคือคนที่อยู่ข้างๆ เรารับภาระทุกอย่าง เลี้ยงพ่อ เลี้ยงน้อง แล้วก่อนหน้านี้บ้านเราเคยล้มละลายต้องสร้างใหม่เองทั้งหมด สู้มาตลอดตั้งแต่มหาลัย เราผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะ หลังจากจับได้เราก็ถามเขาว่า “ทำไมถึงโกหก นี่มันค่าเช่าบ้านไม่ใช่ยอดเงินกู้” เขาบอกว่าทำมาแค่ 4 เดือน คราวนี้เราเลยติดต่อไปหาคุณแม่ของเจ้าของบ้าน เขาบอกว่า “ทักมาเลื่อนค่าเช่าบ่อยมากนะ ไม่เคยส่งเลย เคยค้างมากสุด 6 เดือน ถ้าเป็นคนอื่นลาออกไปแล้ว แต่คนนี้เคยทำงานด้วยกัน เป็นคนทำมาหากินเลยยังให้อยู่” แล้วแฟนเราก็ยังไปโกหก เจ้าของบ้านว่าจะทำก๋วยเตี๋ยวขายหน้าบ้าน จะทำของขาย ซึ่งจริงๆแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย แล้วเราก็ถามแฟนว่าทำไมถึงโกหก เขาเล่าว่า “เขาจำเป็นจริงๆ เพราะป้าเขาป่วยกำลังจะเสียชีวิต แล้วป้าก็บีบบังคับเขาว่าให้ส่งเงิน” เราก็เปิดแชทดูแล้วว่าเขาโดนป้ากดดัน แม่ก็ส่งมาว่าให้ส่งเงินให้แม่ ให้น้อง ซึ่งเราก็เข้าใจในเหตุผลเขา แต่มันก็ยังเยือกเย็นเกินไป เพราะตลอดระยะเวลา 3 ปี บุ้งกี๋ให้เขาส่งสลิปมาหลังจากที่โอนค่าเช่าบ้านทุกเดือน เขาก็ส่งมา ตอนนี้เราเลยถามเขาว่า “สลิปที่ส่งมาคืออะไร?” เขาบอกว่าเขาตัดต่อ เราก็เลยถามเขาว่า “เรารักกันแบบไหนหรอ ตลอด 3 ปีที่นั่งตัดต่อมันไม่รู้สึกผิดอะไรเลยหรอ” เขาก็ร้องไห้ ขอโทษ ตอนนั้นเขาคิดไม่ได้ เขาไม่มีทางเลือก ทุกวันนี้เรายังหาทางออกไม่เจอ เพราะที่ผ่านมาเขาเป็นคนดีมาก ดูแลเราทุกอย่าง ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ดื่ม ไม่สูบบุหรี่ ไม่นอกใจ ตอนที่คุณแม่ของเรามีชีวิตอยู่ เขาก็ดูแล เหมือนเป็นสมาชิกคนหนึ่ง แต่มาติดตรงที่เรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ แล้วมาทำรอบ 2 อีก ทำไมถึงคิดไม่ได้ แล้วพี่ก็เคยบอกว่าไม่อยากให้คบกับคนนี้ แต่พ่อก็พูดอีกแบบว่า “ถ้าพ่อต้องตายไป อย่างน้อยพ่อก็สบายใจถ้าบุ้งกี๋อยู่กับผู้ชายคนนี้” ซึ่งคนในครอบครัวจะรู้เรื่องทุกอย่าง แล้วอีกอย่างบ้านเขามีปัญหาครอบครัว แม่ของเขามักจะพูดเสมอว่า “ฉันไม่ได้อยากเลี้ยงแกนะ ที่แกเกิดมาเนี่ย ฉันพลาด” แล้วแม่ก็ไม่เลี้ยง ให้ไปอยู่กับป้าตั้งแต่คลอดเสร็จ แล้วก็เอากลับมาอยู่กับแม่เพื่อใช้งาน เรารู้จักกับเขาตอน ม.6 คุณแม่ของเรารู้สึกว่าเขาเป็นเด็กดี ก็เลยเลี้ยงดู จ่ายค่าใช้จ่ายให้ แล้วแม่ก็บอกว่าถ้าเกิดว่า “ถ้าอยู่บ้านนั้นแล้วเขาไม่รักเราเหมือนลูก งั้นมาอยู่บ้านแม่มั้ย” นั่นคือจุดเริ่มต้นที่เราโตด้วยกันมา ในตอนที่แม่เราอยู่ ตอนนี้ปรึกษาคนในบ้านแล้วแต่เสียงก็แตกออกเป็น 2 ฝั่ง เลยอยากถามว่า “ผู้ชายแบบนี้เขาคือดีมั้ย?” แล้วเรามีความกลัวเพราะเขาคนนี้คือแฟนคนแรก ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน เขากลับไปอยู่บ้านคุณแม่ แต่คุณแม่เขาก็ไล่เพราะคุณแม่มีสามีใหม่ แล้วถ้าถามว่าตอนนี้เราตัดเขาได้มั้ย เราตัดได้ แต่ก็ลังเลกับที่พ่อพูด และลังเลว่าเขาจะใช้ชีวิตยังไงเหมือนเราไปตัดเขาออกไปเลย’ ซึ่งทางด้าน “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่เคยเจอผู้ชายไม่เอาไหน ที่ที่บ้านเขาไม่เอา โดยประสบการณ์พี่ตัดทันที เพราะพี่คิดว่าชีวของเราเรามีสิทธิ์ออกแบบเหมือนกัน โดยส่วนตัวพี่รู้สึกว่า คนที่มาอยู่ในชีวิตพี่ จะมาเป็นภาระพี่ไม่ได้ การที่เขาจะลำบากยากแค้นขนาดไหน มันเป็นชีวิตของเขา เป็นเรื่องของเขา และต้องเป็นตัวเขาที่ต้องดิ้นรน ถ้าสงสารเขา อาจจะช่วยเหลือได้ในบางเรื่อง แต่สำหรับพี่ พี่ไม่เอาภาระเข้ามาในชีวิต แล้วอย่างที่คุณพ่อบอกว่า คนนี้หาไม่ได้อีกแล้ว พี่ไม่ได้รู้สึกว่าคนนี้ดีเลิศประเสริฐศรีจนหาไม่ได้ เพราะถ้าบุ้งกี๋จับไม่ได้ วันนึงเจ้าของบ้านก็ต้องมาไล่เราอยู่ดี เขาคงไม่ได้ห่วงเราเท่าไหร่ การที่เลือกว่าจะอยู่หรือไป มันเป็นการตัดสินใจของคุณบุ้งกี๋ พี่จะแนะนำให้ 2 แนวทาง 1. ตัดออกไปเลย ชีวิตไม่มีภาระ แต่ความสุขหายไป ความเหงาเข้ามาแทน เพราะความผูกพันธ์มันหายไป 2. เอาเขาที่เป็นภาระเข้ามา ให้โอกาสเขา เผื่อเชาจะดีขึ้น แล้วก็สุ่มเสี่ยงไปด้วยกัน มันตอบไม่ได้ว่าเขาจะดีขึ้น หรือแย่ลง ก็เสี่ยงกับเขาไปอีกรอบนึง ในกรณีที่เลือกไม่ได้ อันนี้คือให้เลือกชีวิตของตัวเอง ชีวิตที่ไม่มีเขา เหงาแน่ๆ แต่ความสะดวกสบาย ความสบายใจจะมาในอนาคต ยันนึงมีโอกาสเจอผู้ชายที่ดี หรือไม่ดีก็ได้ อย่ายคดติดกับคนๆนึงว่า ชีวิตฉันจะหาผู้ชายที่ดีแบบนี้ไม่ได้แล้ว ถ้าหาไม่ได้ ให้เอาอีกตัวเลือกนคงขึ้นมา คืออยู่คนเดียว มาเป็นอีก 1 ตัวเลือก ไม่งั้นเราจะไม่กล้าเดินออกมา ไม่กล้าเริ่มใหม่ เพราะต่อให้ไม่มีเขาเราก็ยังอยู่คนเดียวได้’ ต่อมา “ดีเจก็อตจิ” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เวลาคนเราหลอกกัน หรือโกหก ควาทเชื่อใจจะหายไปเลย คุณบุ้งกี๋ลองคิดูนะ ถ้าให้โอกาสเขากลับมา ความเชื่อใจจะให้ได้ 100% ไหม ถ้าไม่มันจะอยู่ด้วยความกลัวว่าเขาจะหลอกยังไง เมื่อไหร่ แล้วคิดว่าจะมีความสุขไหมถ้าอยู่กับคนนี้ไปตลอดชีวิต แล้วเรื่องคำแนะนำของคนรอบตัว คุณพ่อพูดเองด้วยนะว่าถ้าวันหนึ่งคุณพ่อไม่อยู่แล้วหนูจะอยู่ยังไง แสดงว่าความคิดเห็นเหล้านั้นเป็นความคิดเห็นที่คุณพ่อเสนอมา แต่การตัดสินใจคือต้องเป็นตัวหนูเอง หนูลองตัดข้อเสนอทิ้งไปก่อน แล้วลองชั่งใจเองว่าหนูจะอยู่กับเขาได้มั้ย ชีวิตเราไม่ค้องไปแบกรับเรื่องของใคร เราสามารถมีความสุขของเราได้ ชีวิตคู่ต้องมีความสุขไปด้วยกัน แต่ถ้าเราต้องแบกรับเขาขนาดนี้พี่ว่ามันไม่ใช่นะ คนเราถ้าจะอยู่ด้วยกันมันปรึกษากันได้ จริงๆแล้วเขาไม่จำเป็นต้องทำสลิปปลอม ไม่ต้องหลอกหนู แค่เขาพูดตามตรงเลยว่า ”ฉันไม่ไหวแล้วนะ เราหมุนเงินไม่ทัน ฉันหาเงินมาคืนไม่ทัน“ เราต้องคุยกันตรงๆเพราะเราต้องอยู่ด้วยกันไปตลอด แต่เขาเลือกที่จะหลอกเรา อันนี้น่ากลัวนะ ทั้งการทำสลิปปลอม การปลอมไลน์เป็นแม่แล้วแคปหน้าจอมาให้หนูดู ครั้งนี้จับได่ แปลว่าครั้งหย้าเขาจะทำให้มันแนบเนียนมากกว่านี้อีกนะ แล้วหนูบอกว่าคบคนนี้คนเเรก แล้วหนูจะรู้ได้ไงว่าอีก 500 ล้านกว่าคนบนโลกจะไม่มีใครดีเลย ไม่ต้องกลัวคงามผิดพลาดจากการเริ่มต้นกับคนอื่น คนเราผิดพลาดได้ หนูผิดพลาดที่คนนี้มาหลอกหนู ก็แค่จำไว้เป็นบทเรียน แล้วหนูก็ไแหาบทเรียนอันใหม่ มันอาจจะผิดพลาดอีก หรือหนูอาจจะโชคดีที่เจออีกคนที่จะมาอยู่เป็นคู่ชีววิตเราก็ได้ มันก็จะเป็นบทเรียนสินชีวิตเราว่าในอนาคตเราต้องระวังคนแบบไหน เอาง่ายๆหนูตัดความคิดเห็นคนอื่นให้หมด แล้วถามตัวเองว่าหนูยอมรับได้ไหมที่ต้องระแวงเขาไปตลอดชีวิต ถ้าได้หนูก็อยู่เลย แต่ถ้าอยู่ไม่ได้ แค่ออกมา’ และสุดท้าย “ดีเจอั๋น” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘มันง่ายๆเลยพี่ว่าถ้าเอาเขาออกจากชีวิต ชีวิตเราจะสบายขึ้นทันทีเลย แต่ปัญหาตอนนี้คือพวกเรา 3 คนจะพูดได้ง่าย เพราะพวกเราไม่มีความผูกพันธ์ หรือความรัก อีกด้านหนึ่งคือ พอมาอยู่ด้วยกันมานาน มันจะมีความ อิน เหมือนว่าเขาเป็นครอบครัว เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ว่าถ้าตัดเขาไปเขาจะอยู่ยังไง แต่ถ้าสมมุติว่า บุ้งกี๋ไม่ซีเรียสเรื่องเงิน สามารถปิดหนี้ให้เขาได้ เเล้วเรามั่นใจว่าคนคนนี้เป็นคนดี แต่เรื่องการเงินเขาวนไม่ออก ก็อาจจะเลือกทางนั้นได้คืออยู่ต่อ แต่ถ้าฉันเองก็ต้องแบกรับครอบครัว แล้วถ้ามาใช้หนี้ให้อีก ฉันเองก็จะไปไม่รอด อันนี้พี่แนะนำให้บุ้งกี๋เมตตาตัวเองและครอบครัวตัวเองก่อน ถ้ารักเขา ให้เขาไปแก้ปัญหาชีวิตเขา แล้วค่อยกลับมาคุยกันใหม่ คือจริงๆแล้วการที่รายได้น้อย หรือเป็นหนี้ มันยังพอให้อภัยได้ แต่การที่เขาโกหก ปลอมแปลงสลิป คือมันล้ำลึกจนน่ากลัวเกินไปแล้ว’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เราเป็นทอม เคยคบกับแฟนผู้หญิงตอนมัธยม เลิกกันไป มาเจออีกที แฟนเก่าเราอุ้มลูก มีสามีแล้ว เราโกรธบล็อกเขาทุกช่องทาง แล้วเราก็มีแฟนใหม่ จนทราบข่าวว่าแฟนเก่าเสียชีวิต ย้อนดูในโซเชียลเขาไม่เคยลบรูปเราเลย พยายามติดต่อมาคุยกับเรา

07 มิ.ย. 2024

เราเป็นทอม เคยคบกับแฟนผู้หญิงตอนมัธยม เลิกกันไป มาเจออีกที แฟนเก่าเราอุ้มลูก มีสามีแล้ว เราโกรธบล็อกเขาทุกช่องทาง แล้วเราก็มีแฟนใหม่ จนทราบข่าวว่าแฟนเก่าเสียชีวิต ย้อนดูในโซเชียลเขาไม่เคยลบรูปเราเลย พยายามติดต่อมาคุยกับเรา

เราเป็นทอม เคยคบกับแฟนผู้หญิงตอนมัธยม เลิกกันไป มาเจออีกที แฟนเก่าเราอุ้มลูก มีสามีแล้วเราโกรธบล็อกเขาทุกช่องทาง แล้วเราก็มีแฟนใหม่ จนทราบข่าวว่าแฟนเก่าเสียชีวิตย้อนดูในโซเชียลเขาไม่เคยลบรูปเราเลย พยายามติดต่อมาคุยกับเรา รู้สึกติดค้างไม่ได้พูดอะไรกับเขาเลย “คุณนิค (นามสมมติ)” อายุ 27 ปี สายที่สองในรายการพุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [5มิ.ย.67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาความรักที่ความรู้สึกยังค้างคา โดย “คุณนิค (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เป็นเรื่องราวที่เราเคยถูกผู้หญิงคนหนึ่งทิ้งไปนานมากแล้ว ซึ่งเรื่องมันจบไปแล้วแต่เรายังรู้สึกผิดอยู่ เริ่มจากเราเคยเป็นเพื่อนร่วมห้องกันมาก่อนตั้งแต่ม.ปลาย เค้าเคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อนแล้วก็ค่อยมาคบกับเราที่เป็นทอม เวลาที่เค้าทะเลาะกับเพื่อนเราก็จะอยู่ข้าง ๆ เค้าตลอด เค้าก็มักจะบอกกับเราว่า “อย่าทิ้งเค้าไปไหนนะ” เพราะเราเหมือนเป็นที่พึ่งทางใจให้กับเค้า จนจุดเปลี่ยนมันเกิดช่วงที่เราทั้งคู่เข้ามหาลัย เค้าสอบติดมหาลัยที่อยู่ต่างจังหวัด เราก็ไปส่งเค้าที่สนามบิน แต่หลังจากนั้นได้ 2 อาทิตย์เค้าก็โทรมาบอกเลิกเราเลย ทั้งๆไม่มีสัญญาณอะไรและเราก็ไม่ได้เตรียมใจไว้เลย ซึ่งเหตุผลที่เค้าบอกเราคือเราขี้หึงเกินไป งี่เง่าเกินไป โทษความผิดให้กับเราหมดเลย เราเลยไปส่องเฟซบุ๊คของเค้า และสิ่งที่เราเจอคือเค้าโพสรูปคู่กับผู้ชายคนหนึ่งที่น่าจะเป็นคนคุยใหม่ของเค้า เราเลยโกรธเค้ามาก ไล่ลบรูปคู่ทั้งหมด บล็อกเค้าทุกช่องทาง แต่ด้วยความที่พี่สาวของเราเรียนที่มหาลัยเดียวกับเค้า เราเลยยังได้ทราบข่าวเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง หลังจากจบมหาวิทยาลัย แฟนเก่าเราประกาศแต่งงานทันที เราก็แอบรู้สึกช็อคนิดนึงแต่ก็รู้สึกว่ามันผ่านมานานมากแล้วทำไมถึงต้องไปคิดอีก แต่มันดันมีเรื่องบังเอิญที่ทำให้เราต้องไปเจอเค้าและภาพที่เราเห็นคือเค้ากำลังอุ้มลูกอยู่ เราตัวชา ทำตัวไม่ถูก เลยเลือกที่จะเดินสวนไป ผ่านไปสักพักเราก็ได้ยินข่าวคราวอีกทีคือเค้าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ทั้งแม่และพี่สาวก็ไปให้กำลังใจเค้าและเหมือนจะดีขึ้น แต่สุดท้ายเค้าก็เสียชีวิต พอเราได้ยินแบบนั้นก็เหมือนโลกถล่ม สิ่งที่เราพยายามเกลียดเค้าหรือลืมเค้ามาโดยตลอดทำให้เราเสียศูนย์ไปเลย เราเลยขอแฟนคนปัจจุบันไปงานศพของเค้า และเราก็เสียใจที่คุยกับเค้าผ่านธูป และบอกกับตัวเองว่าทำไมเราไม่ทักไปคุยกับเค้า ทำไมเราถึงใจร้ายกับเค้า เราเลยกลับไปดูในเฟสบุ๊คคือเค้าไม่เคยลบรูปคู่กับเราเลย มันเลยยิ่งทำให้เราคิดว่าทำไมมีแต่เราที่มีทิฐิ และโกรธเค้าอยู่ฝ่ายเดียว ทำให้เราต้องไปปรึกษาจิตแพทย์และกินยา แต่เมื่อไหร่ที่นึกถึงเค้าเราก็จะร้องไห้ตลอด เลยอยากจะถามพี่ ๆ ว่าเราผิดมั้ยที่ตอนเลิกกันเราบล็อกเค้าทุกช่องทาง และถ้าอยากเลิกคิดเรื่องนี้พี่ช่วยแนะนำมุมมองใหม่ให้ได้มั้ยคะเพราะเราจมปลักกับตรงนี้มานานมาเกินครึ่งปีแล้ว’ ซึ่ง “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘คุณนิคไม่ผิดที่บล็อกเค้าเพราะเค้าบอกเลิกเรา จริง ๆ สำหรับผู้หญิงเรื่องแบบนี้เค้าวางแผนมาแล้วว่าจะเลิก กะว่าไปถึงอีกจังหวัดเค้าจะหาวิธีบอกเลิก หรือเค้าอาจจะไปแล้วไปเจอใครที่นู้นภายใน 2 อาทิตย์ สำหรับหอมมันก็คือการนอกใจ ก็ไม่มีอะไรที่ทำให้เราต้องเสียดาย เป็นหอมหอมก็ไม่ทักหา อาจจะใช้เวลาไปสักพักถึงจะให้อภัย ฉะนั้นตรงนี้ไม่ผิดอยู่แล้วเพราะเลิกกันไม่ดี ส่วนรื่องเปลี่ยนมุมมอง หอมว่าเราไม่ใช่หมอดู ไม่มีใครรู้อนาคตว่าใครจะต้องไปเจออะไร แล้วสัจธรรมของชีวิตคน เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องปกติมาก ไม่วันหนึ่งคุณนิคไปเค้าก็ไป มันไม่ใช่ความผิดเรา สิ่งที่เราทำมันก็ถูกต้องแล้วคือต่างคนต่างใช้ชีวิตเพราะเลิกกันไปแล้ว นิคอาจจะรู้สึกเสียดายที่น่าจะให้อภัยและคุยกับเค้าเพราะนี่คือเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่ง หอมคิดว่ามันเป็นความเสียดายมากกว่าที่คุณนิคจะเก็บมาโทษตัวเองว่าเราทำผิดทำไมเราไม่คุยกับเธอ มันไม่ใช่แค่คุณนิคอย่างเดียว เค้าอยากคุยกับเรารึเปล่า อันนี้ก็ไม่รู้ แล้วที่บอกว่าไลน์เด้งมาหาเราก็มีคนให้ข้อสันนิฐานว่า จริง ๆ เค้าอาจจะไม่ได้แอดเรามา แต่ถ้ามีเบอร์เราไลน์มันก็จะเด้งอัตโนมัติเวลาที่เค้าเปลี่ยนมือถือ และในเมื่อเค้าเป็นคนทิ้งเราก่อนเราก็ไม่ผิดที่เราทักเค้าไป แล้วการที่คุณนิครู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และวันที่เค้าเสียชีวิตแล้วคุณนิคจะไปอโหสิกรรมอันนี้ก็เปนเรื่องที่ถูกต้อง เพราะเราไม่รู้เลยว่าวันหนึ่งเค้าจะเจออะไร เค้าจะจากเราไปตอนไหน ถ้าคุณนิครู้สึกว่านี่เป็นบทเรียนและไม่อยากเจอเรื่องแบบนี้อีก วันนี้คนที่อยู่ข้าง ๆ คุณนิค คุณนิคก็ต้องทำดีกับเค้าเช่น แฟนใหม่ที่เราคบ ถ้าวันหนึ่งเค้าเป็นอะไรขึ้นมาเราจะเสียดายอะไรที่เรายังไม่ได้ทำบ้าง ให้ทำกับคนนี้หรือทำกับคนรอบข้างเหมือนจะจากกันตลอดเวลา เพราะงั้นทำตีต่อกันกับคนที่ยังเหลืออยู่ อันนี้หอมว่าดีกว่า และเลิกคิดถึงคนที่จากไปแล้วและไม่ต้องโทษตัวเอง เพราะเค้าไปแล้วและไม่รับรู้อะไรแล้ว’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ก็ใกล้เคียงกับหอม เพราะพี่ก็ถามว่าว่าทำไมนิคคิดว่าตัวเองผิด แต่ด้วยจังหวะของการเลิกกันมันอาจจะกระทันหัน ซึ่งการเลิกกันแบบนี้ก็ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้นกับคู่อื่น ๆ คนเรามีการบอกบอกเลิกหรือวิธีหยุดความสัมพันธ์ที่ไม่เหมือนกัน บางคนก็หายไปเลย บางคนก็มานั่งคุย อันนี้ก็แล้วแต่คู่ แล้วพอเลิกกันไปผมมองว่าต่างคนต่างวางตัวกันดี เอาจริงคุณนิคก็ไม่ควรทักไปอยู่แล้ว เพราะมันไม่มีสาเหตุที่ต้องคุยกันในฐานะเพื่อนเก่าหรืออะไรก็ตาม ยิ่งทักคุยกันอาจจะยิ่งเป็นปัญหากับความสัมพันธ์ปัจจุบันของแฟนเค้าซะมากกว่า ผมว่าต่างฝ่ายต่างทำถูกแล้วที่ไม่ได้ติดต่อกัน และสุดท้ายคนที่จะติดค้างเรื่องคำขอโทษก็น่าจะเป็นฝ่ายเค้ามากกว่า ผมมองว่าทุกอย่างดำเนินไปตามปกติที่ควรจะเป็นอยู่แล้ว ไม่เห็นว่าจะมีความผิดอะไรจากคุณนิคเลย ในเรื่องของมุมมองคุณนิคต้องล้างความคิดว่าตัวเองผิดก่อน ผมไม่เห็นว่าคุนนิคจะต้องมีอะไรที่ติดค้างหรือรู้สึกผิด เพราะต่างฝ่ายก็ต่างไปมีชีวิต คนที่เลิกกันแล้วบางทีก็ไม่เหมาะไม่ควรที่เราจะคบหากันต่อ แม้จะเป็นเพื่อนกันก็ตามมันต้องย้อนกลับไปตั้งแต่เป็นเพื่อนกัน เมื่อไหร่ที่ตัดสินใจก้าวข้ามความเป็นเพื่อนมาเป็นแฟน มันคือการเปลี่ยนแปลงที่ย้อนกลับไปไม่ได้ พอเลิกกันก็ต้องทำใจว่าความสัมพันธ์แบบเพื่อนมันจะไม่กลับมา และทุกอย่างี่เกิดขึ้นมาผมมองว่ามันเป็นเรื่องปกติทุกอย่าง’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่จะเสนอมุมมองที่ต่างพี่เผือกพี่หอมนิดนึง เท่าที่พี่ฟังมาพี่รู้สึกเสียดายชีวิตคุณนิคมากเลย พี่รู้สึกว่า 9 ปีตั้งแต่เลิกกับเค้าคุณนิคไม่ได้ไปไหนเลย อย่างตอนที่เจอเค้าอุ้มลูกแล้วคุณนิคหนี ถ้าเป็นคนที่มูฟออนแล้วพี่ว่าเค้าคงเดินไปถามสารทุกข์สุขดิบ แต่สำหรับเติ้ลมองว่าเหมือนคุณนิคยังอยากได้เค้าเป็นแฟน ยังเฝ้าดูชีวิตเค้าตลอด เรื่องของเค้ายังเข้ามากระทบจิตใจคุณนิคตลอด แล้วสุดท้ายคนที่ไม่ไปไหนก็คือตัวคุณนิค แต่วันนี้เค้าเสียไปแล้วแต่คุณนิคเองที่ยังไม่ไปไหน ซึ่งทำให้เติ้ลเสียดายเวลาที่คุณนิคจะไปมีความสุขกับตัวเอง ถ้าคุณนิคยังไม่เลิกคิดว่าตัวเองผิด ก็โปรดให้อภัยตัวเอง’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

พ่อหนูเป็นคนเจ้าชู้มาก มีเมียมาแล้ว 8 คน มีลูก 11 คน เพิ่งรู้ว่าพ่อยังมีเด็กเลี้ยงอีกคนนึง ปรากฏว่า เป็นเพื่อนสนิทหนูเอง พอจับได้ถึงรู้ว่า ที่ผ่านมา ที่เพื่อนกินหรู อยู่คอนโด เปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ เป็นเงินจากพ่อเรา พีคสุด เจอแหวนพ่อที่ห้องเพื่อนด้วย

21 มิ.ย. 2024

พ่อหนูเป็นคนเจ้าชู้มาก มีเมียมาแล้ว 8 คน มีลูก 11 คน เพิ่งรู้ว่าพ่อยังมีเด็กเลี้ยงอีกคนนึง ปรากฏว่า เป็นเพื่อนสนิทหนูเอง พอจับได้ถึงรู้ว่า ที่ผ่านมา ที่เพื่อนกินหรู อยู่คอนโด เปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ เป็นเงินจากพ่อเรา พีคสุด เจอแหวนพ่อที่ห้องเพื่อนด้วย

พ่อหนูเป็นคนเจ้าชู้มาก มีเมียมาแล้ว 8 คน มีลูก 11 คน เพิ่งรู้ว่าพ่อยังมีเด็กเลี้ยงอีกคนนึงปรากฏว่า เป็นเพื่อนสนิทหนูเอง พอจับได้ถึงรู้ว่า ที่ผ่านมา ที่เพื่อนกินหรูอยู่คอนโด เปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ เป็นเงินจากพ่อเรา พีคสุด เจอแหวนพ่อที่ห้องเพื่อนด้วย “คุณเอ (นามสมมติ)” อายุ 20 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (19 มิ.ย. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล – ดีเจเผือก’ เกี่ยวกับปัญหาพึ่งรู้ว่าเด็กเลี้ยงของพ่อเป็นเพื่อนสนิทเราสมัยมัธยม โดย “คุณเอ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘คุณพ่อเป็นคนที่เจ้าชู้ หน้าตาดี อายุยังไม่ถึง 50 ปี คุณพ่อเป็นคนมีเงิน ผ่านการแต่งงานมาทั้งหมด 8 ครั้ง และมีลูกทั้งหมด 10 คน ส่งเสียลูกทุกคน โดยคุณแม่ของหนูเป็นคนที่ 7 ส่วนตอนนี้คุณพ่ออยู่กับภรรยาคนที่ 8 ซึ่งหนูเรียนอยู่มหาลัยอาศัยอยู่กับคุณแม่ แต่หนูจะไปหาคุณพ่อบ่อยๆ เพราะสนิทกับคุณย่า และคุณพ่อก็จดทะเบียนกับภรรยาทุกคน ถ้าใครรับไม่ได้ก็จะหย่า เรื่องมันเกิดขึ้นตรงที่หนูมีเพื่อนสนิทตั้งแต่ประถมแต่อยู่คนละห้องกัน และก็มาสนิทกันอีกตอนมัธยม และเวลาหนูมีอะไรก็จะเล่าให้เขาฟัง รวมถึงเรื่องพ่อด้วย พอขึ้นมัธยมปลายเรารู้สึกว่าเขาดูมีเงินมากขึ้น ปกติเขาอยู่กับคุณแม่ 2 คน หนูก็ถามว่า “ไปทำอะไรมา ทำไมมี iPhone” มีอะไรหลายๆอย่างใช้ คือดูรวยมากกว่าเรา ซึ่งตอนนั้นเขายังยืมเงินหนูจ่ายค่าเทอมอยู่เลย เขาก็บอกว่า “แม่เขาได้ไปทำงานเป็นแม่บ้านของฝรั่ง นานๆกลับบ้านมาทีเลยส่งเงินมาให้” ส่วนตัวหนูไม่เคยพาเพื่อนผู้หญิงไปรู้จักคุณพ่อเลย และคุณพ่อก็จะไม่รู้จักเพื่อนผู้หญิงของเราสักคน เพราะเรารู้ว่าพ่อเราเป็นคนแบบนี้เผลอไม่ได้ ช่วงปิดเทอมหนูกลับมาที่บ้านต่างจังหวัด ซึ่งบ้านหนูและเพื่อนสนิทอยู่ใกล้กัน และเขาก็พยายามจะให้หนูไปบ้านเขาทั้งที่แม่เขาก็อยู่ ปกติเวลาหนูไปบ้านเขาก็จะทำกับข้าวและกินข้าวกับแม่เขา แต่วันนั้นเขาพยายามจะพูดให้หนูเข้าไปในห้องเขาให้ได้ ประมาณว่า “เห้ย เข้าไปห้องเรามั้ย เพิ่งติดโทรทัศน์ใหม่ ติดแอร์ใหม่” พอเข้าไปเราก็เจอแหวนคุณพ่อ ตอนแรกก็ไม่ได้สงสัย แต่แหวนของคุณพ่อจะสลักชื่อเอาไว้ คือชื่อเขา พอหนูเห็น หนูก็เบลอไปหมด และถามเขาว่า “นี่อะไร มึงไปเอาของพ่อกูมาได้ไง” เขาบอกว่า “เขาขอโทษ เขาไม่ได้ตั้งใจ” เหมือนตั้งใจให้หนูรู้ว่าเป็นเด็กเลี้ยงของพ่อ ทีนี้ก็ทะเลาะกันบ้านแตก ถึงขั้นลงมือกับเขา แต่ก็แค่ตบหน้า เพราะหนูโกรธมาก คือเป็นเพื่อนกันมา 10 ปี แต่มาทำกันแบบนี้ หนูถามเขาอีกว่า “ไปเจอพ่อได้ยังไง” เขาก็ได้แต่ร้องไห้และขอโทษ หนูเลยกลับบ้าน บล็อคแชท บล็อคทุกอย่างไป และไม่ได้สนใจเพื่อน หลังจากนั้นหนูก็กลับบ้านมาถามพ่อว่า “พ่อรู้มั้ยคนนี้เพื่อนหนูนะ” พ่อก็บอกว่า “พ่อไม่รู้ พ่อไม่เคยรู้มาก่อนเลย” และพ่อก็บอกว่า “พ่อไปเจอกับเพื่อนหนูที่บาร์ประจำของพ่อและเพื่อนพ่อ” ซึ่งหนูก็เชื่อ เพราะเคยเล่าให้เพื่อนฟังว่าพ่อจะมานั่งที่บาร์นี้บ่อยๆ เหมือนเขาพาตัวเองไปเจอพ่อหนูบ่อยๆ ตอนนี้หนูกลับมาที่กรุงเทพ เพื่อนหนูเขาก็พยายามจะโทรหา พยายามทักหาโดยเอาแอคหลุมทักมา แล้วก็พยายามติดต่อพ่อหนู เพราะพ่อฟังหนูและตัดเขาออก ไม่ได้เลี้ยงหรือส่งเสียอะไร แล้วก็มีเพื่อนมาบอกว่าเขาจะไม่เรียนต่อเพราะมหาลัยที่เรียนเป็นมหาลัยเอกชน เขาไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม เขาเริ่มมีของใช้เริ่มรวยขึ้นมาตั้งแต่มัธยมปลาย แต่ตอนนั้นเขาก็ทำงานที่บาร์หลายๆที่ แถมมีแฟนเป็นผู้ชายมาตลอด เลยไม่รู้ว่าพ่อหนูส่งเสียเขาตั้งแต่ตอนไหน จนหนูไปถามพ่อ พ่อก็บอกว่า “ก็เลี้ยงมาตั้งแต่มัธยมปลาย” ประมาณเกือบ 4 ปี หนูจะต้องกลับบ้านไปหาคุณพ่อคุณยายบ่อยๆ เลยอยากปรึกษาพี่ๆดีเจว่า หนูจะทำยังไงเมื่อเจอหน้าเพื่อนคนนี้? เพราะบ้านก็อยู่ใกล้กัน น่าจะได้เจอกันแน่นอน และเขาก็ยังคงพยายามติดต่อเรากับพ่อมาตลอด แต่พอติดต่อไม่ได้ก็จะมารังควานหนู พอหนูไม่ตอบโต้ ก็ไปรังควานภรรยาคนปัจจุบันของพ่อ จนพ่อต้องทะเลาะกับภรรยา โดยการพยายามแสดงตัวตน’ ซึ่ง “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เท่าที่ฟังมาดูเหมือนเอไม่อยากยุ่ง เพราะฉนั้นเวลาเจอหน้า เราก็ปฏิสัมพันธ์ หรือคุยกันให้น้อยที่สุด คือไม่จำเป็นต้องพยายามไม่มองหน้า พยายามไม่คุย เพราะมันจะทำให้เขายิ่งพิเศษขึ้นมา ถ้าเวลาเจอกันในกลุ่มเพื่อนเยอะๆแล้วจงใจไม่มองเขาคนเดียว จะกลายเป็นว่าเขาอาจจะดูมี Something ขึ้นมา แต่ถ้าเราทักทายแค่แบบ พยักหน้าให้ และไม่สนใจ ทักเหมือนคนเคยรู้จักและไม่สารสัมพันธ์อะไรต่อ ไม่ต้องไปให้ค่าอะไรเขามากมาย ก็อาจจะทำให้คนอื่นที่มาเห็นอาการของเราสองคน มันก็จะดูปกติ เอาแค่พอเป็นมารยาท’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าได้เจอกันจริงๆพี่จะเคลียร์เลยว่า พอแล้วไม่ต้องขยันส่งอะไรมาหากูอีกแล้ว เพราะที่กูเงียบไปคือไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกันอีกแล้ว สิ่งที่มึงทำคงไม่ต้อฝพูดแล้วว่ามันรุนแรงขนาดไหนในแง่ของความรู้สึก ถ้าเจอกันก็เมินๆกันไป หนูมีชีวิตของหนู แล้วก็ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าเทอม หรือเรื่องเงินอะไรของเขาเพราะนั่นก็คือชีวิตของเขา เขาต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเอง’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้เห็นด้วยกับคำปรึกษากับทั้งดีเจเผือก และดีเจเติ้ล พร้อมให้คำแนะนำเพิ่มเติมให้บอกกับเพื่อนไปว่า “ออกไปจากชีวิตฉัน ฉันจะไม่คุยกับเธอแล้ว แล้วไม่ต้องมายุ่งกันอีก สิ่งที่มีงทำกูให้อภัยไม่ได้”เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1