ทำงานกับหัวหน้าคนนี้มา 3-4 ปี เวลาทำงานเราไม่เคยสาย แต่หัวหน้าใหญ่นัดกินเลี้ยงพนักงานแต่ละฝ่ายที่บ้าน เป็นงานไม่ทางการ กิน ดื่ม กันชิลล์ๆ แผนกไหนไปก็ไป แต่วันงานเราไปงานเลทกว่าหัวหน้าแผนกเราไป 1 ชั่วโมง หัวหน้าแผนกเราโกรธมาก ไม่มองหน้า ไม่รับไหว้ ไม่โอเค

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ทำงานกับหัวหน้าคนนี้มา 3-4 ปี เวลาทำงานเราไม่เคยสาย แต่หัวหน้าใหญ่นัดกินเลี้ยงพนักงานแต่ละฝ่ายที่บ้าน เป็นงานไม่ทางการ กิน ดื่ม กันชิลล์ๆ แผนกไหนไปก็ไป แต่วันงานเราไปงานเลทกว่าหัวหน้าแผนกเราไป 1 ชั่วโมง หัวหน้าแผนกเราโกรธมาก ไม่มองหน้า ไม่รับไหว้ ไม่โอเค

17 ต.ค. 2025

ทำงานกับหัวหน้าคนนี้มา 3-4 ปี เวลาทำงานเราไม่เคยสาย แต่หัวหน้าใหญ่นัดกินเลี้ยงพนักงานแต่ละฝ่ายที่บ้าน

เป็นงานไม่ทางการ กิน ดื่ม กันชิลล์ๆ แผนกไหนไปก็ไป แต่วันงานเราไปงานเลทกว่าหัวหน้าแผนกเราไป 1 ชั่วโมง

หัวหน้าแผนกเราโกรธมาก ไม่มองหน้า ไม่รับไหว้ ไม่โอเค  หัวหน้าแผนกรู้สึกเสียหน้ากับหัวหน้าใหญ่ ทั้งๆที่แผนกอื่น

เขามากันไม่ครบ บางคนมาเลทกว่าหนูด้วยซ้ำ หนูไม่สบายใจเลยเปิดใจคุยกับหน้าหัวแผนกเรา หัวหน้าแผนกเราบอกว่า

“ไม่ต้องมาขอโทษ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ พี่จะไม่รับเรามาทำงานตั้งแต่แรกเลย”

ทุกวันนี้เขายังไม่โอเคกับหนูเลย หนูจะรับมือยังไงดี??

                “คุณใหม่ (นามสมมติ)” อายุ 30 ปี เป็นสายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [8 ต.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อย” เกี่ยวกับปัญหาเรื่องหัวหน้าที่ทำงานโกรธเพราะเราไปงานเลี้ยงสาย 1 ชั่วโมงจนถึงขั้นบอกว่าไม่น่ารับเราเข้าทำงานเลย

                “คุณใหม่ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูทำงานอยู่ในบริษัทเอกชน ทำงานวันจันทร์-วันศุกร์ แล้วทางหัวหน้าก็มาขอความร่วมมือว่าวันเสาร์จะมีงานเลี้ยงของบริษัท เลี้ยงกันแค่เฉพาะบางแผนก ไม่ใช่เนื่องในโอกาสพิเศษอะไรแต่ก็อยากให้ไปกันทุกคนและหัวหน้าก็มีการนัดเวลาให้มากัน ซึ่งตัวหนูเองไม่ได้ตั้งใจจะไปสายแต่ด้วย Accident ต่าง ๆ ทั้งฝนตก น้ำท่วมและรถติด ทำให้หนูไปสายประมาณ 1 ชั่วโมงจากเวลาที่หัวหน้าอยากให้ไป แล้วทีนี้เราก็รู้ตัวว่าผิดเลยไปขอโทษ แต่เขาก็โกรธมาก ๆ จนไม่รับไหว้ ไม่คุยด้วย ไม่ออกมากินเลี้ยงด้วยกันแต่หนูก็เข้าใจว่า เออ เราก็ผิดแหละ

                พอวันจันทร์หนูไปทำงานปกติ หนูก็ยกมือไหว้เขาแต่เขาก็ยังไม่รับไหว้อยู่อีก ก็เลยทำให้หนูรู้สึกว่า เราผิดขนาดนั้นเลยเหรอ? หนูก็เลยใช้วิธีส่งข้อความไปขอโทษเขา เขาก็อ่านแต่ไม่ตอบ พอมาตอนเย็นหนูโทรไปเพราะอยากเคลียร์ใจ แต่เขาก็ตอบกลับมาว่าไม่ได้รู้สึกอยากยกโทษให้ รู้สึกผิดหวังมาก ๆ ไม่โอเค ถึงขั้นที่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะไม่รับหนูเข้าทำงาน

                เขาให้เหตุผลว่าเราไม่ได้ไปช่วยเขาเตรียมงานอยู่แล้ว ก็จะต้องไปเร็วนิดนึง ไม่อยากให้คนอื่นมองไม่ดีว่ามาเป็นแขกทำไมถึงสาย พอหนูอธิบายไปเขาก็บอกว่าอย่ามาโกหก บอกว่าหนูตั้งใจที่จะไปสาย ทั้งที่ตัวหนูกับหัวหน้าก็สนิทสนมกันในระดับหนึ่งและตั้งแต่ทำงานมาก็ไม่เคยเห็นเขาโกรธขนาดนี้ ทุกคนที่ไปช้ากว่าหนูก็โดนโกรธแบบเดียวกัน งานก็เป็นงานเลี้ยงปกติ ไปสร้างสรรค์กันไม่ได้มีลูกค้าพิเศษอะไร หนูเลยสงสัยว่าหนูผิดขนาดนั้นเลยเหรอคะ? แล้วหนูจะรับมือกับบรรยากาศน่าอึดอัดในที่ทำงานนี้ยังไง?’

                เริ่มที่ “ดีเจอ้อย” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ในที่สุดแล้ว ต่อให้เราตั้งคำถามไปก็เสียเวลา ทุกอย่างตอนนี้พี่รู้สึกว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลย ก็แค่ตอนนี้ทำในจุดของเราให้ดีที่สุดแล้วกัน วันนี้เราอาจจะไม่ได้บรรยากาศที่ดีเท่าไหร่เพราะมันมีเรื่องที่เราก็ยังงงอยู่เลยว่าทำไมต้องคุกกรุ่นขนาดนี้  และที่สำคัญก็คือบรรยากาศทั้งหมดมันไม่ได้โดนที่หนูคนเดียว เพราะเพื่อน ๆ ที่ไปสายในวันนั้นก็โดนเหมือนกัน พี่ว่าเขาก็ไม่ได้เป็นเจ้านายที่มีคุณสมบัติที่ดีนักในมุมนี้ เพราะพี่มีความรู้สึกว่าการเป็นผู้นำควรสร้างบรรยากาศในการทำงานให้ดี หรือแม้แต่เขาจะโกรธหนักขนาดนั้นก็ได้แต่เขาควรจะอธิบาย พี่รู้สึกว่าเขาดูโกรธเกินจริงไปมาก จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามทีแต่การเป็นหัวหน้าของเขาคือต้องสื่อสารให้เป็นและต้องรับฟัง เราควรจะเป็นทีมเดียวกัน ไม่ใช่แสดงอาการแบบนี้ ปัญหาก็ไม่ได้แก้ ยังไม่ต้องไปถึงขั้นแก้ปัญหาเพราะปัญหาคืออะไรเรายังไม่รู้เลย

                แต่ถ้าสมมติว่าเราทำงานในจุดที่ดีที่สุด เราจะไปขอโทษอีกครั้งก็ได้ ขอโทษเป็นสิทธิ์ของเรา ให้อภัยไหมคือสิทธิ์ของเขา ถ้าเขายังแบกเรื่องนี้เอาไว้ ผ่านไป 3 เดือนหรือ 4 เดือน ก็ให้เขาแบกต่อไปเพราะถือว่าเราผ่านเรื่องราวนั้นมาแล้วและเราก็กลับไปแก้อดีตไม่ได้ แค่ครั้งต่อไป ถ้ามันจะเกิดก็ให้เป็นบทเรียนของเรา ไม่ไปสายได้ก็ดีหรือถ้าสายก็ต้องสื่อสาร อุปนิสัยใด ๆ ของเขาก็ตามที่เราไม่ชอบ หรืออุปนิสัยใดที่เพื่อนร่วมงานทำแล้วเราไม่ชอบ บอกตัวเองไปเลยว่า “เราเปลี่ยนเขาไม่ได้หรอก” ในเมื่อเปลี่ยนไม่ได้ก็เลือกตกลงกับเขายังไงให้ทรมานใจน้อยที่สุดก็แล้วกัน’

                ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาเพิ่มเติมว่า ‘ก็รีแอคตามสถานการณ์ไปเลย ไม่ต้องไปค้นหาคำตอบแล้ว ไม่ต้องวอแวเรื่องขอโทษเขาอีก เราขอโทษไปแล้ว สถานการณ์มันจบไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว ใหม่ต้องยอมทำตามคนอื่นที่เขาบอกว่าไม่ต้องไปสนใจ ตราบใดที่มันไม่ได้กระทบการทำงาน แต่ถ้าเขายังคงงี่เง่า เช่น ถามงานแล้วไม่ช่วยและมันเป็นสิ่งที่เขาต้องทำในฐานะหัวหน้าแล้วเขาไม่ทำ พี่ว่าถ้ามันเริ่มบานปลายไม่จบไม่สิ้นก็อาจจะต้องแจ้งฝ่ายอื่น ๆ เรื่องการทำงานของเขา เราก็ผิดที่ไปสายแต่มันไม่ใช่ความผิดพลาดที่จะต้องมาพูดจาไม่ดีใส่กันและทำตัวไม่เป็นหัวหน้าที่ดี เขาไม่มืออาชีพ พี่ว่าอันนี้ก็ล้ำเส้นไป’

                และสุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาปิดท้ายว่า ‘ผมเชื่อว่าเมื่อเราพยายามหาเหตุผลเพื่ออธิบายอะไรสักอย่างหนึ่ง แล้วเราหาไม่ได้นั่นแปลว่า “ช่างมันครับ” มันอาจจะไม่มีเหตุผลก็ได้ คนบางคนอาจจะใช้อารมณ์ขับเคลื่อน ก็ทำตัวมืออาชีพอย่างที่เราควรจะเป็น ถ้ามันไม่ได้กระทบการทำงานถึงขนาดที่ไปทำงานแล้วไม่มีความสุข ก็จงเป็นมืออาชีพต่อไป พิสูจน์ด้วยผลงาน สุดท้ายถ้าเขาไม่เลิกก็ให้เป็นทุกข์ของเขา ใช้ชีวิตตามปกติ อะไรที่ผิดปกติก็ให้อยู่กับความรู้สึกที่ผิดปกติไป’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

 

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูเป็นเมียน้อยของเพื่อนสนิท ตอนนี้อยากถอยออกมา แต่เมียหลวงที่เป็นเพื่อนเรา กับ สามีของเพื่อน เขาโอเคที่เราสามคนจะอยู่ด้วยกัน กลับกลายเป็นหนูเอง ที่มีความรู้สึกว่าถ้าอยู่ในความสัมพันธ์นี้ต่อไป ก็จะมีแต่หนูที่จะเป็นฝ่ายเจ็บคนเดียว

17 ต.ค. 2025

หนูเป็นเมียน้อยของเพื่อนสนิท ตอนนี้อยากถอยออกมา แต่เมียหลวงที่เป็นเพื่อนเรา กับ สามีของเพื่อน เขาโอเคที่เราสามคนจะอยู่ด้วยกัน กลับกลายเป็นหนูเอง ที่มีความรู้สึกว่าถ้าอยู่ในความสัมพันธ์นี้ต่อไป ก็จะมีแต่หนูที่จะเป็นฝ่ายเจ็บคนเดียว

หนูเป็นเมียน้อยของเพื่อนสนิท ตอนนี้อยากถอยออกมา แต่เมียหลวงที่เป็นเพื่อนเรา กับ สามีของเพื่อนเขาโอเคที่เราสามคนจะอยู่ด้วยกัน กลับกลายเป็นหนูเอง ที่มีความรู้สึกว่าถ้าอยู่ในความสัมพันธ์นี้ต่อไปก็จะมีแต่หนูที่จะเป็นฝ่ายเจ็บคนเดียว ที่ผ่านมา หนูก็เคยมีแฟนมาตลอด แต่สามีเพื่อนสนิทบอกทำอะไรมากกว่านั้นไม่ได้เพราะหนูมีแฟน แต่ตอนนี้หนูโสด เขาเลยอยากจะคบเราอีกคนหนูรู้เลยว่าถ้าหนูตกลง เขาจะไม่เปิดตัวหนูกับที่บ้าน เขาจะไม่เปิดตัวกับใครเพราะเขาก็จดทะเบียนสมรสกับเพื่อนสนิทหนูไปแล้ว “คุณเอ (นามสมมติ) อายุ 29 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [8 ต.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจอ้อย” เกี่ยวกับปัญหาอยากออกจากสถานะเมียน้อย แต่ภรรยาหลวงเขาโอเคที่เราจะอยู่กันสามคน โดย “คุณเอ (นามสมมติ) ได้เล่าว่า ‘มีเพื่อนอยู่กลุ่มนึง ในทีแรกก็เป็นกลุ่มเพื่อนปกติ จนกระทั่งหนูโสด เลิกกับแฟนไปได้ไม่นาน แล้วมีคนเข้ามาจีบที่ร้านเหล้า เพื่อนผู้ชายก็แสดงท่าทีชัดเจนให้หนูรู้ว่า ไม่โอเคนะ ทั้งๆที่ตัวเขาก็มีแฟน ซึ่งเป็นเพื่อนหนูเอง เขาก็ชัดเจนออกไปว่า หนูเป็นของเขานะ ตอนแรกหนูก็คิดว่า เขาเมาหรือเปล่า จนกระทั่งได้มาเปิดใจคุยกัน เลยได้รู้ว่าเขารู้สึกมาตั้งนานแล้ว แต่ตอนนั้นตัวเราเองก็มีแฟน ก็เลยไม่คิดจะข้ามเส้น พอมองย้อนกลับไป เขาก็ดีกับเราจริงๆ ตัวหนูเองก็หวั่นไหว จนมองข้ามไปว่าเพื่อนผู้ชายของเรามีแฟนแล้ว เรื่องมันก็เลยเถิดไปถึงว่า พวกเราแอบคบกัน หนูอยู่ในความสัมพันธ์นี้ แบบเจียมเนื้อเจียมตัว รู้ว่าหน้าที่ของตนเองคืออะไร ทำได้มากแค่ไหน แต่ยิ่งนานก็ยิ่งถลำลึก เขามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปกับแฟนเขา หนูที่มีความรู้สึกผิดอยู่ในใจ ก็จะทำตัวไม่เหมือนเดิม จนกระทั่งแฟนเขาจับได้ ตอนจับได้ ก็ไม่มีอะไรร้ายแรง เพื่อนผู้หญิงหนูก็ถามว่าทำไมทำแบบนี้ เกิดการพูดคุยเพื่อตกลงเรื่องความสัมพันธ์กัน หนูตัดสินใจถอยออกมา ขอแค่เขาทั้งคู่อย่าเลิกกัน เพราะว่าเขาคบกันมานาน ผ่านไปสักพัก ผู้ชายก็ติดต่อมา ว่าเขาไม่อยากทิ้งเรา ใจหนูก็ยังรักอยู่ เลยกลับไปอีกครั้ง หนู ผู้ชาย และแฟนเขา ก็คุยกันว่า ถ้ายังไปไม่ได้ก็อยู่ด้วยกันนี่แหละ เขาโอเค ผู้ชายก็ชัดเจนว่า เขาก็รักแฟนเขา แต่ก็รักหนูเหมือนกัน ‘เราอยู่ด้วยกันได้มั้ย’ เป็นความสัมพันธ์ที่ทั้งคู่ แต่งงาน จดทะเบียนสมรสแล้ว หนูกับรู้สึกว่า รับไม่ได้ ไม่อยากอยู่ตรงนี้ ความรู้สึกผิด มันกัดกินในใจ ไม่อยากให้เพื่อนเราเสียใจ หนูเลยอยากจะปรึกษาพี่ๆดีเจว่า หนูจะออกจากความสัมพันธ์นี้ยังไงดี? อยากได้คำแนะนำให้เดินออกไปได้สักที’ เริ่มที่ “ดีเจอ้อย” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘การออกจากตรงนี้ ไม่มีอะไรยากเลย ถ้าหนูอยากออก ไม่มีใครกำหนดลมหายใจหนูได้ กับภรรยาของเขา ไม่มีทางเลิกกันหรอก เพราะผู้หญิงยอมให้หมดทุกอย่างเขาจะเลิกทำไม น้องจะหยุด หรือน้องจะทน เขาก็มีอีกคนอยู่ดี คุยกับตัวเองเยอะๆ ทางออกอยู่ที่เรา’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าเลิกไม่ได้ ก็อยู่กับความไม่สบายใจ ความนอย ความอยากที่จะมีเขาคนเดียว จนกว่ามันจะชิน หรือไม่ก็เจ็บจนไม่ไหวแล้ว เราจะเดินออกได้อัตโนมัติ เอบอกว่า เอรู้สึกผิด ลองเปลี่ยนจากความรู้สึกผิดจากเขา มารู้สึกผิดกับตัวเองมั้ย ว่าทำไม เราไม่ให้โอกาสตัวเองไปเจอสิ่งที่เรามองหา ทำไมเราต้องเลือกทางที่บัดซบให้ตัวเอง รักตัวเองให้มากๆ’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เมื่อใดก็ตามที่หนูอยากกลับเข้าไป ถ้าหนูรู้สึกผิดกับเพื่อนจริงๆ หนูก็ต้องมองตัวเองอย่างละอายใจ ว่าหนูทำให้เพื่อนที่เขารักหนู ยอมให้สามีเขามามีหนูอีกคนเสียใจ เขาต้องเจ็บขนาดไหน สุดท้ายแล้วมันทำลายคุณค่าของหนูเอง คุณค่าในการจะเลือกสามี ที่ไม่ใช่สามีของคนอื่น ตอนนี้หนูยังมีโอกาส ไม่มีใครให้หนูอยู่ตรงนั้นได้ นอกจากตัวหนูเอง’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการInboxฝากเรื่องมาที่FacebookFanpageEFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา20.00 – 23.00น. ทางรายการวิทยุEFM94และAppAtimeFung Fin

หนูเป็นคนเสียงเล็กมากตั้งแต่เด็กๆ จะโดนเพื่อนล้อมาตลอด มัธยมก็โดนล้อ มหาลัยก็โดนเลียนแบบเสียง คิดว่าจบมาน่าจะไม่มีแล้ว ตอนนี้ทำงานแล้วก็ยังโดนคนล้ออยู่ รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเลย จะเปลี่ยนเสียงตัวเองก็ไม่ได้ ควรจะปรับความคิดและรับมือกับคนแบบนี้ยังไงดี?

17 ต.ค. 2025

หนูเป็นคนเสียงเล็กมากตั้งแต่เด็กๆ จะโดนเพื่อนล้อมาตลอด มัธยมก็โดนล้อ มหาลัยก็โดนเลียนแบบเสียง คิดว่าจบมาน่าจะไม่มีแล้ว ตอนนี้ทำงานแล้วก็ยังโดนคนล้ออยู่ รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเลย จะเปลี่ยนเสียงตัวเองก็ไม่ได้ ควรจะปรับความคิดและรับมือกับคนแบบนี้ยังไงดี?

หนูเป็นคนเสียงเล็กมากตั้งแต่เด็กๆ จะโดนเพื่อนล้อมาตลอด มัธยมก็โดนล้อ มหาลัยก็โดนเลียนแบบเสียงคิดว่าจบมาน่าจะไม่มีแล้ว ตอนนี้ทำงานแล้วก็ยังโดนคนล้ออยู่ รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเลยจะเปลี่ยนเสียงตัวเองก็ไม่ได้ ควรจะปรับความคิดและรับมือกับคนแบบนี้ยังไงดี? “คุณแพรว (นามสมมติ)” อายุ 32 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [8 ต.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจอ้อย” เกี่ยวกับปัญหาชอบมีคนมาพูดกับเราว่าไม่ชอบเสียงเรา เสียงมันเล็ก น่ารำคาญ เหมือนยุง โดย “คุณแพรว (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูเป็นคนเสียงเล็กแล้วพูดเบาเลยรู้สึกมันเป็นปม เพราะชอบโดนล้อโดนบูลลี่ ปัญหามันเริ่มตอนมัธยม มันจะมีเพื่อนบางคนฝากเพื่อนมาบอกว่า ไม่อยากคุยกับเราเพราะว่ารำคาญเสียงเรา เราเลยไปถามเขาว่าทำไมถึงรำคาญเสียงเรา เขาพูดมาเลยว่า เสียงน่ารำคาญเหมือน ยุง แมลงหวี่ เราก็รู้สึกว่ามันไม่เป็นไรหรอกเพราะมันแค่บางคนที่ไม่ชอบเรา พอขึ้นมหาลัยมา ก็มีเพื่อนที่สนิทกับเราคุยด้วยกันทุกวัน แต่เขากลับพูดว่าทำไมถึงต้องแอ๊บเสียง เราก็เริ่มรู้สึกแปลก ๆ ว่าตอนนี้ยังมีคนคิดแบบนี้อีกหรอ เราก็ไม่อะไร พอมาถึงตอนทำงาน ตอนที่เราเข้าไปทำงานใหม่ ๆ ก็ยังมีคนมาพูดว่า เสียงเธอทำไมมันแง๊ว ๆ บางทีใช้ไมค์เราจะพูดเสียงปกติได้มากขึ้น เพราะมีเครื่องขยายเสียง มันไม่ต้องใช้พลังเยอะ ก็จะมีคนมาพูดว่า วันนี้เสียงเธอเป็นอะไรอะ ปกติเสียงมันแหลม ๆ เรารู้สึกว่ามีคนคิดหลายคนมันไม่น่าปกติแล้ว เราเคยลองอัดเสียงแล้วเอามาฟัง เสียงที่เราได้ยินมันก็ไม่ค่อยเหมือนกันจริง ๆ แต่ก็ไม่รู้สึกแปลกอะไร เราก็พูดระบายให้แฟนฟัง แล้วเราก็ร้องไห้น้ำตาซึม คนอื่นจะมองว่ามันเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เรารู้สึกว่ามันแก้ไขไม่ได้ เพราะว่าเราไม่ได้แอ๊บ เราพูดแบบนี้จริง ๆ เราเคยดูคลิปยูทูปที่เขามีเสียงเล็กกว่าเราอีก เขาก็ไม่เห็นจะมีปัญหาเรื่องนี้เลย แต่ทำไมเราถึงเป็นคนที่มีปัญหา หนูอยากรู้ว่าเสียงหนูปกติมั้ย หนูควรจะปรับแบบไหน? หรือควรปรับความคิดของตัวเองแบบไหน? ให้รู้สึกไม่แย่ในเวลาที่คนอื่นพูดขึ้นมาเรื่องเสียง’ เริ่มด้วย “ดีเจอ้อย” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เสียงเป็นสิ่งหนึ่งที่แก้ไม่ได้ พี่ไม่ได้รู้สึกว่าเสียงหนูไม่ปกติ บางทีคนอื่นเขามีปัญหากับเสียงเรา ปัญหาอยู่ที่เขานะ ไม่ใช่กับหนู แต่ว่ามันมีอยู่วิธีการหนึ่ง ถ้าหนูเป็นคนเสียงแหลมเล็ก เสียงแบบนี้มันเป็นคนแก้วเสียงใส ข้อดีคือมันจะฟังสดชื่น แต่ถ้าหนูพูดเร็วใช้พละกำลังออกเกินจริง เสียงมันจะบี้ คือแต่ละคนจะมีวิธีการใช้เสียงที่แตกต่างกัน แค่ปรับวิธีของการออกเสียง แต่ไม่จำเป็นจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้คนทั้งโลกถูกใจ’ ต่อด้วย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ไม่ได้รู้สึกว่าเสียงหนูมีปัญหา ปัญหามันอาจจะอยู่ที่เขา ตราบใดก็ตามที่หนูไม่ได้แอ๊บทำเสียง มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเรา คนมันจะอคติ บางทีมันอาจจะมีปัจจัยอื่นมาร่วมด้วย เขาอาจจะไม่ชอบคนหน้าแบบนี้ พอมีเสียงที่เล็กแบบนี้ เขาก็อคติ แต่ถ้าหนูยังสลัดความรู้สึกนี้ออกไปไม่ได้ ทุกวันนี้ก็มีคุณครูสอนเรื่องการใช้เสียง หรือคลาสต่าง ๆ มันช่วยเราออกเสียงได้ ถ้าหนูคิดว่ามันมีปัญหากับการทำงาน ก็ไปเรียนอะไรแบบนี้ก็ได้ เพราะเขาสามารถสอนให้ออกเสียง ให้ขึ้นกับกาลเทศะ เหมาะกับสถานการณ์ที่เราใช้ในแต่ละวัน แต่เสียงมันไม่สำคัญเท่าความหมายที่เราจะสื่อออกไป’ ต่อด้วย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เห็นด้วยกับการไปฝึกไปเรียน วิเคราะห์กันที่เนื้อเสียง ถ้าเรารู้ว่าเสียงของเราสูง มันอาจจะทำให้เขารู้สึกไม่ดีได้ แล้วเราอยากปรับ มันมีวิธีปรับแน่นอน ด้วยย่านเสียงสูงอย่างเดียว มันอาจจะไม่ใช่ทั้งหมดที่ทำให้หนู เจอปัญหามา อาจจะเป็น Message ที่เราพูดออกไปเยอะไปหรือเปล่า หนูต้องกลับมาดูตัวเองว่า เลือกพูดสื่อสาร ถูกจังหวะ ถูกกาลเทศะ ถูกเวลา หรือเปล่า เราอายุมากขึ้น วิธีการมองโลกจะเปลี่ยนไป มันเป็นเรื่องของวุฆิภาวะ กาลเทศะ และการเลือกที่จะพูดหรือไม่พูด ที่มันมีมามากขึ้นตามประสบการณ์ชีวิต ฉะนั้นไม่ต้องกลัวถ้าเราจะพูดน้อยลง เพื่อที่จะทำให้บรรยากาศ หรือตัวของเราเองรู้สึกดีขึ้น ลองปรับจังหวะต่าง ๆ การพูดให้ช้าลง ทั้งหมดนี้มันฝึกได้’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการInboxฝากเรื่องมาที่FacebookFanpageEFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา20.00 – 23.00น. ทางรายการวิทยุEFM94และAppAtimeFung Fin

หนูเจอคนคุยเก่าในแอปไฟ คุยกันได้ไม่กี่เดือน เขาก็มีปัญหาการเงิน หนูก็ใจปล้ำ เปย์ให้นิดๆหน่อย แรกๆเขาขอหลักร้อย หลังๆ หลักพัน จนตอนนี้เลิกคุยกันไปแล้ว เขาติดหนี้หนูหลักหมื่น พอหนูทักไปทวงเขา เขาไม่พอใจใส่เลย แล้วเขาก็พูดว่า ...

17 ต.ค. 2025

หนูเจอคนคุยเก่าในแอปไฟ คุยกันได้ไม่กี่เดือน เขาก็มีปัญหาการเงิน หนูก็ใจปล้ำ เปย์ให้นิดๆหน่อย แรกๆเขาขอหลักร้อย หลังๆ หลักพัน จนตอนนี้เลิกคุยกันไปแล้ว เขาติดหนี้หนูหลักหมื่น พอหนูทักไปทวงเขา เขาไม่พอใจใส่เลย แล้วเขาก็พูดว่า ...

หนูเจอคนคุยเก่าในแอปไฟ คุยกันได้ไม่กี่เดือน เขาก็มีปัญหาการเงิน หนูก็ใจปล้ำ เปย์ให้นิดๆหน่อยแรกๆเขาขอหลักร้อย หลังๆ หลักพัน จนตอนนี้เลิกคุยกันไปแล้ว เขาติดหนี้หนูหลักหมื่น พอหนูทักไปทวงเขาเขาไม่พอใจใส่เลย แล้วเขาก็พูดว่า ... “ทำไมต้องทวงด้วย ไม่ชอบเลย มาระบุวันคืนแบบนี้ ไม่ชอบ”ตอนนี้หนูเหนื่อยที่จะตามแล้ว เขาก็ไม่คืนสักที จะทำยังไงดีคะ ถ้าทุกคนเจอผู้ชายแบบนี้ ?? “คุณนีน่า (นามสมมติ)” อายุ 23 ปี เป็นสายที่ 3 ในรายการพุธทอล์ค พุธโทรเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [8 ต.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา“ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาเรื่องคนคุยที่เจอกันใน Application หาคู่ทักมาขอยืมเงิน แต่พอเลิกกันไปกลับไม่ยอมคืน “คุณนีน่า (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เริ่มแรกเลยคือเราเจอกันในแอปหาคู่ คุยกันได้สักพัก เขาก็ขอมาหาและมาอยู่ด้วยกันกับหนูประมาณ 2 อาทิตย์ จากนั้นเขาก็กลับบ้านที่ต่างจังหวัดไป กลายเป็น Long Distant Relationship แทน ซึ่งระหว่างนั้น เราก็พูดคุยกันอยู่ตลอด เขาโทรหาหนูแทบทั้งวันแต่ก็มีปัญหากันเรื่องที่เขาชอบไปกดไลก์ กดฟอลรูปผู้หญิงที่ไม่ใช่ดาราหรือเน็ตไอดอล หนูก็บอกเขาไปว่าไม่ชอบ ถ้าเปลี่ยนให้กันไม่ได้ก็เลิกกันไปดีกว่าเพราะหนูไม่สบายใจ อีกอย่างคือหนูเคยโดนนอกใจมาโดยตลอด พอเวลาหนูเห็นเขาทำแบบนี้ หนูก็จะไม่พอใจแล้วก็ใจร้อนไปวีนเขา ด่าเขาว่า “ทำไมทำอีกแล้ว รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่ชอบ” โดยที่ไม่รอฟังเขาอธิบายเลย หนูกับเขาเคยทะเลาะกันใหญ่โตเรื่องนี้ เขาก็อารมณ์ร้อน จนเคยทำลายข้าวของบนโต๊ะต่อหน้าเราที่วีดิโอคอลกันอยู่ แล้วหนูก็ร้องไห้ แต่หลังจากนั้นเขาก็มาขอโทษและขอโอกาส เราเลยค่อย ๆ ปรับกันไป แต่ว่าหลังจากคุยกันได้ประมาณ 2 เดือน เขาบอกว่ามีปัญหาเรื่องเงิน เขาเริ่มขอยืมเงินเราเพราะว่าต้องเอาไปจ่ายหนี้ ค่าบ้าน ค่ารถ หรือแม้กระทั่งวันนี้ไม่มีเงินกินข้าวก็จะทักมายืมหนู หนูก็ยอมรับว่าตอนนั้นรักเขาและก็โง่ด้วยเลยให้เขายืมไป เขาก็ขอหนูเรื่อย ๆ ยกปัญหามาอ้างนั่น อ้างนี่ตลอด จากหลักร้อยขึ้นเป็นหลักพัน จนตอนนี้จบความสัมพันธ์กันไปแล้วแต่ยอดที่ค้างรวมทั้งหมดก็อยู่ที่ประมาณหลักหมื่น พอเข้าเดือนที่ 3 เขาเริ่มตอบแชทช้าลง ไม่ค่อยโทรหา โทรหาแต่ละทีก็ไม่เคยเกิน 10 นาที จนหนูรู้สึกว่าหนูเหนื่อยที่จะต้องมาตามเขาแล้ว และก็เห็นเขายังกดไลก์รูปผู้หญิงคนอื่นอยู่ ทั้ง ๆ ที่เราเคยคุยกันแล้ว พอวีนเขาไป เขาก็ด่ากลับมาด้วยคำหยาบคาย หนูก็เลยคิดว่าเราควรจะเลิกกันดีกว่า ให้มันเหลือแค่เรื่องเงินแต่สุดท้ายเขาก็พยายามง้อหนูอยู่ตลอดเวลา หนูเลยให้โอกาสเขาไปอีกครั้ง แต่จุดพีคที่มันแย่ที่สุดเลยคือ ตอนช่วงเดือนสิงหาคม หนูจับได้ว่าเขาไปคุยกับคนอื่นในช่วงที่เขาหายใป เขาไปยืมเงินคนใหม่และก็ไปนอนกับคนใหม่ด้วยเหมือนกัน พอจับได้หนูก็มีโอกาสไปคุยกับน้องผู้หญิงที่เขาแอบไปหา น้องเขาก็เล่าให้ฟังว่าฝ่ายชายยืมเงินไปหลายพันบาท ตอนที่มีอะไรกันก็ขอถอดถุงยาง ซึ่งผู้ชายก็บอกน้องผู้หญิงคนนั้นอีกว่า “อยากให้ไปอยู่ด้วยกัน ค่าห้องไม่ต้องออก เดี๋ยวเขาออกเงินให้” หลังจากนั้นพอเขารู้ว่าหนูจับได้เรื่องมีคนอื่น เขาก็มาขอโทษและอธิบายว่าที่ไปมีน้องคนนั้นเพราะหนูไปกดดันเขาเรื่องกดไลก์ กดฟอลผู้หญิง พอเขาพูดแบบนั้นหนูก็เลยแอบคิดว่าหนูเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาไปมีคนอื่นรึเปล่า? สถานการณ์ตอนนี้คือจบกันไปแล้วแต่ยังมีติดต่อกันเพื่อขอเงินคืน หนูเคยยื่นคำขาดแล้วว่าให้เขาคืนเงิน เขาก็ไม่ตกลงและบอกว่าไม่ชอบให้กำหนดวัน ทำไมแค่นี้รอไม่ได้ถ้ารอไม่ได้ก็ไม่ต้องเอา หนูเลยเอาแชทอันนี้ไปลงสตอรี่ไอจีส่วนตัวของหนู เขาเห็นเขาก็โทรมาด่าหนู หนูเลยอยากจะปรึกษาพี่ ๆ ดีเจ ว่าที่เรื่องมันเป็นแบบนี้เพราะว่าหนูใจร้อนเองรึเปล่าเขาถึงไปจากหนูหรือหนูกำลังโดน Gaslighting อยู่กันแน่คะ?’ เริ่มที่ “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ใช่ค่ะ หนูโดน Gaslighting คือเท่าที่ฟังมาถ้าหนูจะผิดคือหนูผิดที่ใจร้อนให้เขามาอยู่กับหนูตั้งแต่แรก พี่ว่าเขารู้ว่าผู้หญิงอย่างหนูแพ้เขา พี่เลยถามหนูว่าเขาไปยืมเงินคนอื่นอีกไหม แน่นอนเลยคือเขาเล่นแอปนี้เพื่อหาเงินกับผู้หญิง เพราะฉะนั้นอย่าตั้งคำถามกับตัวเองเลย แต่ให้ตั้งคำถามว่าจากนี้ไปเราจะระวังตัวอย่างไรไม่ให้เจอแบบนี้อีกเพราะอันนี้ถือซะว่าเป็นค่าใจร้อนของเรา ไม่ต้องตั้งคำถามกับตัวเองเลยเพราะนั่นคือสันดานเขา สันดานโจรและก็เจ้าชู้ อย่าเชื่อในคน ๆ นี้ มันไม่มีอะไรจริงเลย เขาแค่หาเหยื่อ คิดแบบนี้’ ต่อมา “ดีเจอ้อย” ได้ให้คำปรึกษาเสริมว่า ‘หนูดูสิว่าทรงนี้ มันใช่ทรงที่คนรักกันจริง ๆ เหรอ จริง ๆ พี่ว่าความรักมันเป็นเรื่องยอมหรือไม่ยอม ไม่เกี่ยวกับเรื่องโง่หรือไม่โง่ ถ้าหนูจะเกิดคำถามว่าหนูโดน Gaslighting รึเปล่า ให้มองเป็นข้อดีเล็ก ๆ ว่าอย่างน้อยก็ได้กลับมาถามตัวเองว่าเราเป็นแบบนั้นไหม หรือเราใจร้อนไปไหม? หรือว่าถ้ามีความรักครั้งต่อไป เราจะไม่ใจร้อนเร็วขนาดนี้ ถ้าจะมองเป็นข้อดีพี่ถือว่ามันเป็นสิ่งดีเล็ก ๆ แค่นี้ ผู้ชายดี ๆเ ขาไม่แบมือขอเงินแฟนจนาดนี้เหรอ สังเกตดูว่าพอมีครั้งแรก เขาเลยดูมีปัญหาอื่นเต็มไปหมด อย่ารักเขาจนกระทั่งใช้แว่นตาสีชมพูใส่ไว้แล้วมองโลกแบบนี้เป็นสีชมพูทั้งหมด คิดบวกเป็นเรื่องนี้แต่อยากหลอกตัวเอง’และสุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาปิดท้ายว่า ‘คนมักจะเลือกโทษตัวเองหรือตั้งคำถามกับตัวเองก่อนเสมอ ในมุมหนึ่งมันฟังเหมือนจะดีที่เรามองตัวเองก่อนว่าเราทำอะไรผิดรึเปล่า แต่ถ้าเราเอาแต่หันมองตัวเองว่าฉันต้องผิด ฉันผิดรึเปล่า ชีวิตมันคงอยู่ด้วยความรู้สึกหดหู่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเรื่องนี้มันชัดเจนว่าหนูทนมามากพอด้วยซ้ำ คิดไว้ล่วงหน้าว่าครั้งนี้ต้องเสียเงินหมื่นเพื่อเป็นบทเรียนชีวิต ก็ต้องทำใจเผื่อไว้ด้วย มันดูเหมือนไม่ใช่ปัญหาการเงินแบบบริสุทธ์ใจ ถือว่าเราโชคดีที่เราพ้นมาแล้ว และก็ไม่ต้องโทษตัวเอง มันชัดเจนว่าไม่ได้เป็นเพราะเรา ครั้งต่อไปหาคนใหม่ก็ให้เอาครั้งนี้เป็นบทเรียนสำคัญ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการInboxฝากเรื่องมาที่FacebookFanpageEFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา20.00 – 23.00น. ทางรายการวิทยุEFM94และAppAtimeFung Fin

album

0
0.8
1