
22 ก.ค. 2025
ไปทำงานที่ต่างประเทศอยู่กับแฟน แรกๆไม่มีปัญหาอะไร มีน้องที่รู้จักมาเที่ยวหาเราที่บ้าน ตอนแรกปรึกษาเราว่า เขามีคนรู้จักที่มีลูก อายุเท่าๆลูกของพี่เลย แล้วสามีเขามีชู้ เราก็ให้คำปรึกษาไปไม่ได้คิดอะไร หลังจากนั้นอีก 1 อาทิตย์ น้องคนเดิมมาหาที่บ้าน
ไปทำงานที่ต่างประเทศ อยู่กับแฟน แรกๆไม่มีปัญหาอะไร มีน้องที่รู้จักมาเที่ยวหาเราที่บ้านตอนแรกปรึกษาเราว่า เขามีคนรู้จักที่มีลูก อายุเท่าๆลูกของพี่เลย แล้วสามีเขามีชู้เราก็ให้คำปรึกษาไปไม่ได้คิดอะไร หลังจากนั้นอีก 1 อาทิตย์ น้องคนเดิมมาหาที่บ้านแล้วตัดสินใจบอกเราว่า เรื่องที่เคยปรึกษา คือเรื่องของพี่เองนะ สามีพี่มีอะไรกับน้องที่ทำงานเขาเพื่อนๆร่วมงานก็รู้ แต่ไม่มีใครกล้าพูด หลังจากนั้นเราก็สืบ และ รู้ว่าสามีไม่ได้นอกใจแค่คนเดียวแต่มีอะไรกับผู้หญิงอื่นอีก 4-5 คน โดยไม่ป้องกันเลย ตอนนี้เรารู้สึกรังเกียจตัวเองมากๆแต่ก็จำเป็นต้องอยู่กับเขาต่ออีก 2 ปี เพื่อรอเอาสัญชาติของลูกที่นั่นอยู่เพื่ออนาคตที่มั่นคงของลูก ทั้งๆที่หัวใจตัวเองเจ็บเหลือเกิน “คุณฟ้า (นามสมมติ)” สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [16 ก.ค 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจต้นหอม – ดีเจเติ้ล – ดีเจตู่ภพธร” เกี่ยวกับปัญหาจับได้ว่าสามีมีชู้ แต่ตอนนี้เราอยู่กับสามีที่ออสเตรเลีย โดย “คุณฟ้า (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูกับแฟนมีลูกกัน ลูกอายุประมาณ 4 ขวบ แฟนกับหนูอยากย้ายไปอยู่ต่างประเทศเพราะอยากให้ลูกมีอนาคตที่ดี จึงตัดสินใจย้ายมาอยู่ต่างประเทศด้วยเงินของทางครอบครัวฝ่ายหนู ซึ่งแฟนเป็นคนมาที่ต่างประเทศก่อน และตอนนี้กำลังหาโรงเรียนอยู่เพราะลูกต้องเข้าโรงเรียนปีหน้า หลังจากนั้นหนูก็รอวีซ่าประมาณ 6 เดือนถึงได้ตามไป ดำเนินชีวิตมาเรื่อย ๆ จน 3 ปีกว่า หนูเองทำงานพอได้ค่าขนมกรุบกริบเล็กน้อย พอจ่ายแค่ค่า nursery เฉย ๆ ส่วนแฟนก็ทำงานอยู่ร้านอาหารร้านหนึ่ง เขาเป็นคนที่ตั้งใจทำงานดีทุกอย่าง ตั้งใจเลี้ยงลูก เป็น Family Man ดูแลเรา ซึ่งสังคมแฟนในที่ทำงานเพื่อนเขาก็กลายเป็นเพื่อนเราด้วย และด้วยความที่อยู่ต่างประเทศจะเป็นการแชร์บ้านกันอยู่กับเพื่อนคนไทยด้วยกัน ซึ่งคนที่มาแชร์อยู่ด้วย มีบางคนที่ทำงานอยู่ที่เดียวกันกับสามีหนูด้วย จนอยู่มาวันหนึ่งน้อง ๆ ที่รู้จักได้มาเล่นกับเรา แล้วสักพักเขาก็เริ่มเกริ่น ๆ กับเรามาประมาณว่า “พี่หนูอยากมาปรึกษา คือหนูสนิทกับทั้งฝ่ายหญิงและชาย เขาเป็นครอบครัวที่มีลูกรุ่นราวคราวเดียวกันกับพี่แหละ แล้วหนูรู้มาว่าเขานอกใจแฟนเขา พวกหนูเคยเตือนไปแล้วรอบนึง เขาก็เลิกลากันไปแต่ก็ดันกลับไปคบกันอีก” ซึ่งเรื่องที่น้องเอามาปรึกษา เขาบอกหนูว่าเป็นเรื่องของคนอื่น แล้วยังปรึกษาหนูเพิ่มอีกว่า “หนูจะทำยังไงดี บอกผู้ชายก่อนดีไหมหรือควรบอกฝ่ายหญิงไปเลย ถ้าพวกหนูบอกไปแล้วพวกหนูจะเป็นหมาไหม” หนูเลยได้แต่ให้คำแนะนำน้องเขาไปว่า “เออ ถ้าเขาจดทะเบียนแล้วก็ฟ้องชู้กันไปหรือถ้าเขายังไม่จดทะเบียนอาจจะยากหน่อย ส่วนเรื่องหมาหรือไม่หมา เราไม่ต้องไปใส่ความเห็นอะไรว่าให้เขาเลิกหรือไม่เลิก แค่บอกรายละเอียดที่เรารู้ก็พอ ให้เขาไปจัดการเรื่องในครอบครัวของเขากันเอง” อยู่มาวันหนึ่งน้อง ๆ เขาก็ได้มาเฉลยกับหนูว่า “เรื่องที่พวกหนูปรึกษาพี่ไป จริง ๆ มันเป็นเรื่องของพี่ และเขานอกใจตั้งแต่พี่ยังไม่มาที่นี่” แต่น้อง ๆ เขาก็จัดการให้เขาเลิกยุ่งกันแล้ว แต่ทีนี้น้อง ๆ ดันจับได้อีก เลยทนไม่ไหวเขาเลยอยากมาบอกหนู ที่ช็อคไปกว่านี้คือ คนที่เขานอกใจไปหาคือคนที่หนูรู้จักด้วย ซึ่งพอหนูรู้เรื่องนี้วันนั้นหนูก็รอให้เขากลับมาบ้านและได้ถามความจริงอย่างตรงไปตรงมาเลย ตอนแรกเขาก็เงียบ ไม่ได้ตอบอะไร แต่หนูก็เค้นเขาไปเรื่อย ๆ ว่า “นอกใจกัน มีอะไรกันไหม” จนเขายอมรับออกมาว่าเขานอกใจและเคยมีอะไรกันด้วยจริง ๆ หลังจากที่หนูรู้เรื่องนี้หนูก็ให้โอกาสเขาพูดอีกครั้งว่า “ตั้งแต่ที่มาเหยียบออสเตรเลียมีอะไรอีกไหมที่จะพูด” แต่เขาก็ไม่ยอมพูด บอกแค่ว่ามีแค่นี้ แต่น้อง ๆ ก็ยังมาบอกเพิ่มอีกว่า “พี่ มันไม่ใช่แค่นั้น ไม่ใช่แค่คนนี้คนเดียว” และตั้งแต่แฟนหนูมาเหยียบออสเตรเลียอาทิตย์แรก เขาก็ไปมีคนอื่นเลย และเท่าที่หนูดูมาจากหลักฐานก็ประมาณ 4-5 คนเลย จริง ๆ เรื่องนี้พึ่งเกิดมาประมาณ 4-5 วันมานี้ ตอนนี้หนูยังคงปล่อยเบลออยู่ คือหนูไม่โอเคนั่นแหละ แต่หนูไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี หนูยังตัดสินใจไม่ได้เพราะว่าเงินที่ฝ่ายครอบครัวหนูให้มาไม่ได้แปลว่าเขาจะให้หนูเลย มันเป็นเงินที่หนูยืมครอบครัวมา ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 ปี หนูคิดว่าเงินที่ยืมมาน่าจะเป็นจำนวนเงินล้านกว่าบาทแล้ว และไม่ได้ใช้หนี้เลยเพราะว่ายังอยู่ในช่วงของวีซ่านักเรียน เราต้องเอาไปจ่ายค่าเทอม และสิ่งที่หนูอยากปรึกษาคือ หนูจะอยู่ต่อดีไหมเพื่อให้ลูกหนูได้วีซ่า’ โดย “ดีเจตู่ภพธร” ได้ให้คำว่าปรึกษาว่า ‘ใจผมถ้าด้วยความที่เราเป็นแม่แล้ว ให้เอาลูกก่อน เอาลูกเป็นหลัก เรามีเป้าหมายของเราแล้ว เราอย่าให้คน ๆ นึงมาทำลายการที่เราจะสร้างโอกาสให้กับลูก และเรื่องความช้ำใจพี่ตู่มองว่า ความช้ำใจอยู่ที่ไหนมันก็ยังช้ำหรือเปล่า ถ้าในกรณีที่เราไม่ได้ทำงานก็อยากจะแนะนำแบบนี้ แต่ถ้าวิธีอื่นก็อาจจะแยกกันอยู่ แต่ว่าเวลาส่งข้อมูลเรื่องของการขอสัญชาติก็ทำส่งด้วยในฐานะที่เขาก็เป็นพ่อที่อยากให้ลูกได้สัญชาติด้วยเหมือนกัน คือผมไม่แน่ใจว่าจะมีวิธีไหนหรืออย่างไร แต่จากที่ฟังมันดูเหมือนกับว่ามันก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ง่ายสำหรับคุณฟ้า อยากให้อยู่แล้วใช้ชีวิตของเราด้วย เพราะสุดท้ายถ้าแยกกัน เราก็ตัวคนเดียว ไม่ว่าจะอยู่เมืองนอก อยู่ไทย หรืออยู่ที่ไหนบนโลกมันก็ยาก คุณฟ้าก็ต้องเป็น single mom อยู่ดี และผมมองว่าเรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณฟ้ามากกว่าด้วย’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาต่อว่า ‘ถ้าเอาสถานการณ์ตอนนี้ สำหรับพี่ พี่อยากให้ฟ้าทำอะไรที่จะทำให้ฟ้ามีความสุขมากกว่า พอนึกออกแหละว่าคนที่บอกว่า “เฮ้ย เลือกลูกก่อนสิวะ ทนหน่อยได้ไหม 2 ปี ให้ลูกได้วีซ่า” แต่สำหรับพี่พี่รู้สึกว่า มันจะไม่มีวิธีอื่นจริง ๆ ใช่ไหม เพื่อให้ลูกมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นโดยที่เราไม่ต้องทนอยู่กับผู้ชายแบบนี้ ตอนนี้มันคือเรื่องมันพึ่งเกิด พี่ไม่รู้ว่าเขาเป็นยังไง มันขึ้นอยู่กับตัวฟ้าเองว่ารู้จักผู้ชายคนนี้มากแค่ไหน แต่เอาจริง ๆ พี่ว่าฟ้าก็คงไม่ได้รู้จักเขาจริง ๆ หรอก เพราะถ้ารู้จักเขาจริง ๆ ฟ้าน่าจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาเป็นคนแบบนี้ พี่เลยอยากแนะนำให้ฟ้าลองดูวิธีอื่นก่อนไหม ถ้ายังไม่ต้องกลับ มันจะมีวิธีอื่นอีกไหมที่จะทำให้ชีวิตลูกของฟ้าดีขึ้นได้ โดยที่ไม่ต้องทนอยู่กับผู้ชายคนนี้ หรือไม่ก็อาจจะแยกกันอยู่เลย แต่ยังไงผู้ชายคนนั้นมันก็ต้องเลี้ยงลูกด้วยนะ เขาต้องมีความเป็นพ่อที่จะต้องรับผิดชอบลูกคนนี้อยู่ เพียงแต่ว่าไม่อยากให้เขาต้องมาเป็นหลักสำคัญในชีวิตเพียงแค่ฟ้าต้องการวีซ่าให้ลูกเฉย ๆ เพราะถ้าถึงฟ้าจะดูแลตัวเองได้ เลี้ยงลูกได้ แต่มันต้องเหนื่อยมาก ๆ เลยนะที่เมืองนอกในการที่ต้องเลี้ยงลูกไปด้วย ท้ายที่สุดถ้ามันไม่ได้จริง ๆ แล้วฟ้ายอมให้ตัวเองทุกข์ระทมตอนนี้เพื่ออนาคตของลูก พี่ก็ยังไม่รู้ว่าอนาคตมันจะดีจริงไหม จะโอเคหรือเปล่า เพราะว่าฟ้าคิดไว้แล้วว่าลูกจะดีถ้าอยู่ที่นู้น และแน่นอนอยู่แล้วมันดีกว่าเมืองไทยจริง ๆ พวกสวัสดิการต่าง ๆ เพียงแต่พี่ไม่แน่ใจว่า ถ้าฟ้าต้องแลกความสุขของชีวิตตอนนี้เพื่อให้ลูก มันจะดีไหม เพราะมันก็เป็นอนาคตที่ค่อนข้างไกลเหมือนกัน พี่ไม่ได้อยากจะบอกให้ฟ้าทิ้งเลย แต่ฟ้าต้องถามตัวเองดี ๆ เพราะมันพึ่งเกิดขึ้น และต้องดูปัจจัยหลัก ๆ อย่างแฟนคุณฟ้าด้วยว่าเขาเป็นคนยังไง มั่นใจได้ใช่ไหม และถ้าสมติดูแล้วว่าผู้ชายคนนี้ยังรับผิดชอบลูกอยู่ ก็น่าจะไปแตะในเรื่องของเงินได้ด้วย เพราะอย่างน้อยฟ้าต้องใช้เงินในการเลี้ยงดูลูก’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘โอเคแยกห้องนอน แต่ต้องคุยกันว่าสถานะตอนนี้เราจะเป็นแค่พ่อและแม่ ไม่ใช่สามีภรรยาแล้ว เธออยากมีใครเธอมีเลย ฉันจะมีใครเรื่องของฉันนะ เพราะมันคือความ รับผิดชอบลูก เป้าหมายของเราคือแค่ต้องการสัญชาติให้กับลูก ฉะนั้นเธอใช้ชีวิตแบบนี้ เราจะใช้ชีวิตแบบนี้นะ และพี่รู้สึกว่าฟ้าจะต้องหางานทำแล้วจ้างคนเลี้ยงลูกหรือถ้าจ้างไม่ไหว อาจจะต้องรอปีหน้า ต้องคุยกับเขาว่าเราจะ support อะไรซึ่งกันและกันบ้าง เขาต้องรับผิดชอบดูแลอะไรบ้าง และระหว่างนี้หนูหาสามีใหม่รอเลย ถ้าหนูอยากได้สัญชาติ มันจะเร็วกว่าด้วย และสมมติถ้าเราทนไม่ได้แล้วให้เอาลูกกลับไทยเลย ช่างสัญชาติไปเลย ปัดแอปหาคู่เลย มันไม่ได้ปิดกั้นขนาดนั้น สุดท้ายก็คืออยากให้คุยกันเลยในฐานะพ่อแม่ว่าจะรับผิดชอบลูกอย่างไร จะรับผิดชอบไปถึงเมื่อไหร่ แต่ยังไงฟ้าต้องเตรียมแผน B ของตัวเองไว้ด้วยนะ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin



