คบสามีมา 22 ปี ที่ผ่านมาเขาไม่เคยออกค่าใช้จ่ายอะไรเลย เก็บเงินเดือน 100% เข้ากระเป๋า จนตอนนี้ลูกกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย เราเลยขอให้เขาช่วยจ่ายค่าเทอมลูก เขาก็ยอม แต่ตอนนี้รู้สึกว่ารักของเราทั้งสองคนมันถึงจุดอิ่มตัวแล้ว

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

คบสามีมา 22 ปี ที่ผ่านมาเขาไม่เคยออกค่าใช้จ่ายอะไรเลย เก็บเงินเดือน 100% เข้ากระเป๋า จนตอนนี้ลูกกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย เราเลยขอให้เขาช่วยจ่ายค่าเทอมลูก เขาก็ยอม แต่ตอนนี้รู้สึกว่ารักของเราทั้งสองคนมันถึงจุดอิ่มตัวแล้ว

21 ก.ค. 2025

คบสามีมา 22 ปี ที่ผ่านมาเขาไม่เคยออกค่าใช้จ่ายอะไรเลย เก็บเงินเดือน 100% เข้ากระเป๋า

จนตอนนี้ลูกกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย เราเลยขอให้เขาช่วยจ่ายค่าเทอมลูก เขาก็ยอม

แต่ตอนนี้รู้สึกว่ารักของเราทั้งสองคนมันถึงจุดอิ่มตัวแล้ว เราจะขอหย่ากับสามี แต่สามีเสนอมาว่า

ถ้าจะหย่า ขอเงิน 5 แสนถึงจะยอมหย่า เรารู้สึกว่ามันไม่แฟร์ และไม่อยากจ่ายเงินก้อนนี้เลย

ที่ผ่านมาเราจ่ายทุกอย่างอยู่คนเดียว ถ้าทุกคนเจอสถานการณ์แบบนี้ ควรทำยังไงดีคะ?

 เพราะลูกก็เข้าใจเรามากๆ ถ้าหย่ากันไป ลูกจะมาอยู่กับเรา

                “คุณสุ (นามสมมติ)” อายุ 43 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [16 ก.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล - ดีเจตู่ ภพธร” เกี่ยวกับปัญหาการเลิกราจากความรักที่อิ่มตัว แต่กลับโดนสามีเรียกเงินเพื่อหย่า

                โดย “คุณสุ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูแต่งงานจดทะเบียนสมรส อยู่กับแฟนมารวม 22 ปี แต่เมื่อเดือนที่แล้วหนูก็ขอเลิกกับแฟนไป แต่แฟนไม่อยากเลิก ก็เลยเรียกเงินจากหนู 500,000 บาท เพื่อเอาไปสร้างเนื้อสร้างตัว แล้วจะยอมเซ็นต์หย่าให้ เรามีลูกด้วยกัน 1 คน ถ้าเราหย่ากัน ลูกจะมาอยู่กับหนู ตลอดเวลาที่ผ่านมาหนูเป็นคนซับพอร์ตค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ทั้งค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเลี้ยงดูลูก เขาเพิ่งมาช่วยออกตอนลูกเข้าวิทยาลัยแล้ว พอเขามีเงินเดือนของตัวเองเขาก็เก็บไว้หมด และนี่ก็เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้หนูอยากหย่าด้วย เขามักจะไม่ยื่นมือมาช่วยถ้าเราไม่ขอ แต่ถ้าเราต้องการอะไรเราต้องบอกเขา ปกติเราก็ไม่เคยทะเลาะกันเพราะหนูเป็นคนแบกรับทุกอย่าง เขาก็อยู่แบบสบาย ๆ แต่เมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมาเศรษฐกิจแย่ลงก็เริ่มมีปากเสียงกันเพราะปัญหาการเงินไปกระทบเขาแล้ว จะหย่าตอนนี้หนูก็ไม่มีเงินให้เขา แต่บอกเอาไว้ว่าขอเวลา 1 เดือน ในการหาเงิน ถ้าหาได้จะไปจ่ายเขาที่อำเภอทันที หลังจากเซ็นต์ใบหย่า แต่จริง ๆ แล้วก็ไม่อยากเสียเงินให้เขาสักบาทเลย รู้สึกว่าเขาไม่ควรได้รับ หนูจะทำยังไงได้บ้างคะ ?’

                ดีเจทั้ง 3 คน “ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล - ดีเจตู่” ได้ให้คำปรึกษาตรงกันว่า ‘ให้ไปปรึกษาทนายเพราะในทางกฎหมายเรามีสิทธิ์ที่จะฟ้องหย่า ยอมเสียค่าทนายดีกว่าเสีย 500,000 บาทให้ผู้ชายแบบนี้ ราคาถูกกว่าด้วย และทนายคงให้ข้อมูลได้ละเอียดกว่าโดยเฉพาะทนายที่ทำเรื่องครอบครัวมา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าจะอยากให้ถึงขั้นนั้นมั๊ย เพราะต้องใช้เวลาและขึ้นศาลกัน ที่สำคัญถ้าขึ้นศาลอย่าตอบว่าความรักอิ่มตัว ให้หาหลักการและเหตุผล รวมถึงหลักฐานไปสู้ สุดท้ายถ้าเขาไม่ยอมก็ให้ฟ้องหย่าได้ทุกกรณี’

                “ดีเจเติ้ล” ให้แนวทางเพิ่มเติมว่า ‘ให้ลองนำข้อมูลที่มีไปต่อรองกับสามีว่าถ้าหากฟ้องขึ้นมาอาจจะไม่ได้เงินสักบาทเลย ให้สามียอมไปเองก็ได้’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

กินข้าวกับเพื่อน จะโอนเงินให้เพื่อน ตั้งรายการโปรดไว้ ปรากฎโอนเสร็จ เพื่อนบอกเงินไม่เข้า อ้าว แล้วโอนไปให้ใคร สรุป เราโอนไปให้คนคุยเก่า ที่เลิกคุยกันไปแล้ว คนคุยคนนี้เราเป็นคนเทเขาด้วย ตอนนี้ยังลังเลอยู่ว่าจะทักไปทวงเงินตรงนี้ดีไหม? เพราะเสียดาย 139 บาท

22 ก.ค. 2025

กินข้าวกับเพื่อน จะโอนเงินให้เพื่อน ตั้งรายการโปรดไว้ ปรากฎโอนเสร็จ เพื่อนบอกเงินไม่เข้า อ้าว แล้วโอนไปให้ใคร สรุป เราโอนไปให้คนคุยเก่า ที่เลิกคุยกันไปแล้ว คนคุยคนนี้เราเป็นคนเทเขาด้วย ตอนนี้ยังลังเลอยู่ว่าจะทักไปทวงเงินตรงนี้ดีไหม? เพราะเสียดาย 139 บาท

กินข้าวกับเพื่อน จะโอนเงินให้เพื่อน ตั้งรายการโปรดไว้ ปรากฎโอนเสร็จ เพื่อนบอกเงินไม่เข้าอ้าว แล้วโอนไปให้ใคร สรุป เราโอนไปให้คนคุยเก่า ที่เลิกคุยกันไปแล้ว คนคุยคนนี้เราเป็นคนเทเขาด้วยหายไปจากเลย ตอนนี้ยังลังเลอยู่ว่าจะทักไปทวงเงินตรงนี้ดีไหม? เพราะเสียดาย 139 บาทที่โอนผิดไปแต่เขาก็มีแฟนของเขาอยู่แล้วกลัวจะมีปัญหา หรือให้คิดซะว่า เป็นค่าเวรกรรมที่เราเคยทำกับเขาไว้ถ้าเป็นทุกคนจะทำยังไงกันคะ? “คุณเจน (นามสมมติ)” อายุ 23 ปี เป็นสายที่ 2 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [16 ก.ค 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล – ดีเจตู่ ภพธร” เกี่ยวกับปัญหาที่ตัวเองโอนเงินผิดไปหาคนคุยเก่าที่เราไปเทเขาเอง โดย “คุณเจน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘เมื่อวันพฤหัสที่แล้วหนูไปเที่ยวกับเพื่อน ไปกินข้าวกัน ตอนนั้นรีบมากเพราะห้างกำลังจะปิดแล้ว เลยรวมบิลให้เพื่อนจ่ายไปก่อนเพราะหนูจะรีบไปซื้อไอติม กำลังจะโอนเงินให้เพื่อน ตอนนั้นหนูงงไม่ทันได้ดูมือถือ ตั้งชื่อเพื่อนในแอพธนาคารเอาไว้เป็นตัว M เลยกดโอนไป 139 บาท แต่พอโอนไปแล้วสรุปไม่ใช่ชื่อเพื่อนหนู เลยมานั่งระลึกชาติว่าคนนี้คือใคร สรุปคนนั้นคือคนคุยเก่า แล้วคนคุยคนนี้เราเป็นคนหายไปจากเขาเอง เราไปเขาก่อนไม่กี่วันที่จะไปเที่ยวกัน แล้วตอนนี้เขาก็มีแฟนแล้ว แต่เพื่อนหนูบอกว่ายังไงมันก็คือเงินหนู เลยอยากรู้ว่าถ้าทักไปทวงเงินเขาจะดูน่าเกลียดไหม?’ ซึ่ง “ดีเจต้นหอม” ได้คำคำปรึกษาว่า ‘ถ้าเป็นพี่ พี่จ่ายค่าโง่ตัวเอง การไปทวงเขาพี่รู้สึกว่ามันเสียศักดิ์ศรี ถ้าทักไปหาเขาเดี๋ยวก็มีปัญหากับแฟนเขาอีก หนูก็ได้บทเรียนแล้ว เวลาจะตั้งชื่อบัญชีใครก็ตั้งเป็นชื่ออย่าตั้งเป็นตัวย่อ’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าหนูเป็นคนที่เทเขา แล้วหนูจะกล้าโทรไปทวงเงิน 139 บาทอีกไหม พี่ว่าการไปทวงเขามันมีค่ามากกว่า 139 บาท มีสติเวลาจะกดโอน ถ้ามันเยอะกว่านี้มันจะยุ่งยากกว่านี้’ ต่อมา “ดีเจตู่ ภพธร” ได้คำคำปรึกษาว่า ‘เจนปล่อยเขาไปเถอะ เจนเทเขาแล้วเจนยังไปทวง 139 บาทที่เจนโอนพลาดไป เดี๋ยวเจนนั่งแท็กซี่มาเอาที่พี่เลย แต่มันมีวิธีที่เราติดต่อกับธนาคารได้ แล้วธนาคารเขาก็จะพยายามติดต่อเจ้าของบัญชีนั้น’ และสุดท้าย ดีเจทั้ง 3 คน (ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล - ดีเจตู่ภพธร) ก็ได้ให้คำปรึกษาตรงกันว่า ‘ไม่ต้องไปทวงเงินคนคุยเก่า ถือว่าเป็นบทเรียน และมีสติให้มากขึ้นก่อนจะโอนเงินออกจากบัญชี’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ไปทำงานที่ต่างประเทศอยู่กับแฟน แรกๆไม่มีปัญหาอะไร มีน้องที่รู้จักมาเที่ยวหาเราที่บ้าน ตอนแรกปรึกษาเราว่า เขามีคนรู้จักที่มีลูก อายุเท่าๆลูกของพี่เลย แล้วสามีเขามีชู้ เราก็ให้คำปรึกษาไปไม่ได้คิดอะไร หลังจากนั้นอีก 1 อาทิตย์ น้องคนเดิมมาหาที่บ้าน

22 ก.ค. 2025

ไปทำงานที่ต่างประเทศอยู่กับแฟน แรกๆไม่มีปัญหาอะไร มีน้องที่รู้จักมาเที่ยวหาเราที่บ้าน ตอนแรกปรึกษาเราว่า เขามีคนรู้จักที่มีลูก อายุเท่าๆลูกของพี่เลย แล้วสามีเขามีชู้ เราก็ให้คำปรึกษาไปไม่ได้คิดอะไร หลังจากนั้นอีก 1 อาทิตย์ น้องคนเดิมมาหาที่บ้าน

ไปทำงานที่ต่างประเทศ อยู่กับแฟน แรกๆไม่มีปัญหาอะไร มีน้องที่รู้จักมาเที่ยวหาเราที่บ้านตอนแรกปรึกษาเราว่า เขามีคนรู้จักที่มีลูก อายุเท่าๆลูกของพี่เลย แล้วสามีเขามีชู้เราก็ให้คำปรึกษาไปไม่ได้คิดอะไร หลังจากนั้นอีก 1 อาทิตย์ น้องคนเดิมมาหาที่บ้านแล้วตัดสินใจบอกเราว่า เรื่องที่เคยปรึกษา คือเรื่องของพี่เองนะ สามีพี่มีอะไรกับน้องที่ทำงานเขาเพื่อนๆร่วมงานก็รู้ แต่ไม่มีใครกล้าพูด หลังจากนั้นเราก็สืบ และ รู้ว่าสามีไม่ได้นอกใจแค่คนเดียวแต่มีอะไรกับผู้หญิงอื่นอีก 4-5 คน โดยไม่ป้องกันเลย ตอนนี้เรารู้สึกรังเกียจตัวเองมากๆแต่ก็จำเป็นต้องอยู่กับเขาต่ออีก 2 ปี เพื่อรอเอาสัญชาติของลูกที่นั่นอยู่เพื่ออนาคตที่มั่นคงของลูก ทั้งๆที่หัวใจตัวเองเจ็บเหลือเกิน “คุณฟ้า (นามสมมติ)” สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [16 ก.ค 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจต้นหอม – ดีเจเติ้ล – ดีเจตู่ภพธร” เกี่ยวกับปัญหาจับได้ว่าสามีมีชู้ แต่ตอนนี้เราอยู่กับสามีที่ออสเตรเลีย โดย “คุณฟ้า (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูกับแฟนมีลูกกัน ลูกอายุประมาณ 4 ขวบ แฟนกับหนูอยากย้ายไปอยู่ต่างประเทศเพราะอยากให้ลูกมีอนาคตที่ดี จึงตัดสินใจย้ายมาอยู่ต่างประเทศด้วยเงินของทางครอบครัวฝ่ายหนู ซึ่งแฟนเป็นคนมาที่ต่างประเทศก่อน และตอนนี้กำลังหาโรงเรียนอยู่เพราะลูกต้องเข้าโรงเรียนปีหน้า หลังจากนั้นหนูก็รอวีซ่าประมาณ 6 เดือนถึงได้ตามไป ดำเนินชีวิตมาเรื่อย ๆ จน 3 ปีกว่า หนูเองทำงานพอได้ค่าขนมกรุบกริบเล็กน้อย พอจ่ายแค่ค่า nursery เฉย ๆ ส่วนแฟนก็ทำงานอยู่ร้านอาหารร้านหนึ่ง เขาเป็นคนที่ตั้งใจทำงานดีทุกอย่าง ตั้งใจเลี้ยงลูก เป็น Family Man ดูแลเรา ซึ่งสังคมแฟนในที่ทำงานเพื่อนเขาก็กลายเป็นเพื่อนเราด้วย และด้วยความที่อยู่ต่างประเทศจะเป็นการแชร์บ้านกันอยู่กับเพื่อนคนไทยด้วยกัน ซึ่งคนที่มาแชร์อยู่ด้วย มีบางคนที่ทำงานอยู่ที่เดียวกันกับสามีหนูด้วย จนอยู่มาวันหนึ่งน้อง ๆ ที่รู้จักได้มาเล่นกับเรา แล้วสักพักเขาก็เริ่มเกริ่น ๆ กับเรามาประมาณว่า “พี่หนูอยากมาปรึกษา คือหนูสนิทกับทั้งฝ่ายหญิงและชาย เขาเป็นครอบครัวที่มีลูกรุ่นราวคราวเดียวกันกับพี่แหละ แล้วหนูรู้มาว่าเขานอกใจแฟนเขา พวกหนูเคยเตือนไปแล้วรอบนึง เขาก็เลิกลากันไปแต่ก็ดันกลับไปคบกันอีก” ซึ่งเรื่องที่น้องเอามาปรึกษา เขาบอกหนูว่าเป็นเรื่องของคนอื่น แล้วยังปรึกษาหนูเพิ่มอีกว่า “หนูจะทำยังไงดี บอกผู้ชายก่อนดีไหมหรือควรบอกฝ่ายหญิงไปเลย ถ้าพวกหนูบอกไปแล้วพวกหนูจะเป็นหมาไหม” หนูเลยได้แต่ให้คำแนะนำน้องเขาไปว่า “เออ ถ้าเขาจดทะเบียนแล้วก็ฟ้องชู้กันไปหรือถ้าเขายังไม่จดทะเบียนอาจจะยากหน่อย ส่วนเรื่องหมาหรือไม่หมา เราไม่ต้องไปใส่ความเห็นอะไรว่าให้เขาเลิกหรือไม่เลิก แค่บอกรายละเอียดที่เรารู้ก็พอ ให้เขาไปจัดการเรื่องในครอบครัวของเขากันเอง” อยู่มาวันหนึ่งน้อง ๆ เขาก็ได้มาเฉลยกับหนูว่า “เรื่องที่พวกหนูปรึกษาพี่ไป จริง ๆ มันเป็นเรื่องของพี่ และเขานอกใจตั้งแต่พี่ยังไม่มาที่นี่” แต่น้อง ๆ เขาก็จัดการให้เขาเลิกยุ่งกันแล้ว แต่ทีนี้น้อง ๆ ดันจับได้อีก เลยทนไม่ไหวเขาเลยอยากมาบอกหนู ที่ช็อคไปกว่านี้คือ คนที่เขานอกใจไปหาคือคนที่หนูรู้จักด้วย ซึ่งพอหนูรู้เรื่องนี้วันนั้นหนูก็รอให้เขากลับมาบ้านและได้ถามความจริงอย่างตรงไปตรงมาเลย ตอนแรกเขาก็เงียบ ไม่ได้ตอบอะไร แต่หนูก็เค้นเขาไปเรื่อย ๆ ว่า “นอกใจกัน มีอะไรกันไหม” จนเขายอมรับออกมาว่าเขานอกใจและเคยมีอะไรกันด้วยจริง ๆ หลังจากที่หนูรู้เรื่องนี้หนูก็ให้โอกาสเขาพูดอีกครั้งว่า “ตั้งแต่ที่มาเหยียบออสเตรเลียมีอะไรอีกไหมที่จะพูด” แต่เขาก็ไม่ยอมพูด บอกแค่ว่ามีแค่นี้ แต่น้อง ๆ ก็ยังมาบอกเพิ่มอีกว่า “พี่ มันไม่ใช่แค่นั้น ไม่ใช่แค่คนนี้คนเดียว” และตั้งแต่แฟนหนูมาเหยียบออสเตรเลียอาทิตย์แรก เขาก็ไปมีคนอื่นเลย และเท่าที่หนูดูมาจากหลักฐานก็ประมาณ 4-5 คนเลย จริง ๆ เรื่องนี้พึ่งเกิดมาประมาณ 4-5 วันมานี้ ตอนนี้หนูยังคงปล่อยเบลออยู่ คือหนูไม่โอเคนั่นแหละ แต่หนูไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี หนูยังตัดสินใจไม่ได้เพราะว่าเงินที่ฝ่ายครอบครัวหนูให้มาไม่ได้แปลว่าเขาจะให้หนูเลย มันเป็นเงินที่หนูยืมครอบครัวมา ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 ปี หนูคิดว่าเงินที่ยืมมาน่าจะเป็นจำนวนเงินล้านกว่าบาทแล้ว และไม่ได้ใช้หนี้เลยเพราะว่ายังอยู่ในช่วงของวีซ่านักเรียน เราต้องเอาไปจ่ายค่าเทอม และสิ่งที่หนูอยากปรึกษาคือ หนูจะอยู่ต่อดีไหมเพื่อให้ลูกหนูได้วีซ่า’ โดย “ดีเจตู่ภพธร” ได้ให้คำว่าปรึกษาว่า ‘ใจผมถ้าด้วยความที่เราเป็นแม่แล้ว ให้เอาลูกก่อน เอาลูกเป็นหลัก เรามีเป้าหมายของเราแล้ว เราอย่าให้คน ๆ นึงมาทำลายการที่เราจะสร้างโอกาสให้กับลูก และเรื่องความช้ำใจพี่ตู่มองว่า ความช้ำใจอยู่ที่ไหนมันก็ยังช้ำหรือเปล่า ถ้าในกรณีที่เราไม่ได้ทำงานก็อยากจะแนะนำแบบนี้ แต่ถ้าวิธีอื่นก็อาจจะแยกกันอยู่ แต่ว่าเวลาส่งข้อมูลเรื่องของการขอสัญชาติก็ทำส่งด้วยในฐานะที่เขาก็เป็นพ่อที่อยากให้ลูกได้สัญชาติด้วยเหมือนกัน คือผมไม่แน่ใจว่าจะมีวิธีไหนหรืออย่างไร แต่จากที่ฟังมันดูเหมือนกับว่ามันก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ง่ายสำหรับคุณฟ้า อยากให้อยู่แล้วใช้ชีวิตของเราด้วย เพราะสุดท้ายถ้าแยกกัน เราก็ตัวคนเดียว ไม่ว่าจะอยู่เมืองนอก อยู่ไทย หรืออยู่ที่ไหนบนโลกมันก็ยาก คุณฟ้าก็ต้องเป็น single mom อยู่ดี และผมมองว่าเรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณฟ้ามากกว่าด้วย’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาต่อว่า ‘ถ้าเอาสถานการณ์ตอนนี้ สำหรับพี่ พี่อยากให้ฟ้าทำอะไรที่จะทำให้ฟ้ามีความสุขมากกว่า พอนึกออกแหละว่าคนที่บอกว่า “เฮ้ย เลือกลูกก่อนสิวะ ทนหน่อยได้ไหม 2 ปี ให้ลูกได้วีซ่า” แต่สำหรับพี่พี่รู้สึกว่า มันจะไม่มีวิธีอื่นจริง ๆ ใช่ไหม เพื่อให้ลูกมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นโดยที่เราไม่ต้องทนอยู่กับผู้ชายแบบนี้ ตอนนี้มันคือเรื่องมันพึ่งเกิด พี่ไม่รู้ว่าเขาเป็นยังไง มันขึ้นอยู่กับตัวฟ้าเองว่ารู้จักผู้ชายคนนี้มากแค่ไหน แต่เอาจริง ๆ พี่ว่าฟ้าก็คงไม่ได้รู้จักเขาจริง ๆ หรอก เพราะถ้ารู้จักเขาจริง ๆ ฟ้าน่าจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาเป็นคนแบบนี้ พี่เลยอยากแนะนำให้ฟ้าลองดูวิธีอื่นก่อนไหม ถ้ายังไม่ต้องกลับ มันจะมีวิธีอื่นอีกไหมที่จะทำให้ชีวิตลูกของฟ้าดีขึ้นได้ โดยที่ไม่ต้องทนอยู่กับผู้ชายคนนี้ หรือไม่ก็อาจจะแยกกันอยู่เลย แต่ยังไงผู้ชายคนนั้นมันก็ต้องเลี้ยงลูกด้วยนะ เขาต้องมีความเป็นพ่อที่จะต้องรับผิดชอบลูกคนนี้อยู่ เพียงแต่ว่าไม่อยากให้เขาต้องมาเป็นหลักสำคัญในชีวิตเพียงแค่ฟ้าต้องการวีซ่าให้ลูกเฉย ๆ เพราะถ้าถึงฟ้าจะดูแลตัวเองได้ เลี้ยงลูกได้ แต่มันต้องเหนื่อยมาก ๆ เลยนะที่เมืองนอกในการที่ต้องเลี้ยงลูกไปด้วย ท้ายที่สุดถ้ามันไม่ได้จริง ๆ แล้วฟ้ายอมให้ตัวเองทุกข์ระทมตอนนี้เพื่ออนาคตของลูก พี่ก็ยังไม่รู้ว่าอนาคตมันจะดีจริงไหม จะโอเคหรือเปล่า เพราะว่าฟ้าคิดไว้แล้วว่าลูกจะดีถ้าอยู่ที่นู้น และแน่นอนอยู่แล้วมันดีกว่าเมืองไทยจริง ๆ พวกสวัสดิการต่าง ๆ เพียงแต่พี่ไม่แน่ใจว่า ถ้าฟ้าต้องแลกความสุขของชีวิตตอนนี้เพื่อให้ลูก มันจะดีไหม เพราะมันก็เป็นอนาคตที่ค่อนข้างไกลเหมือนกัน พี่ไม่ได้อยากจะบอกให้ฟ้าทิ้งเลย แต่ฟ้าต้องถามตัวเองดี ๆ เพราะมันพึ่งเกิดขึ้น และต้องดูปัจจัยหลัก ๆ อย่างแฟนคุณฟ้าด้วยว่าเขาเป็นคนยังไง มั่นใจได้ใช่ไหม และถ้าสมติดูแล้วว่าผู้ชายคนนี้ยังรับผิดชอบลูกอยู่ ก็น่าจะไปแตะในเรื่องของเงินได้ด้วย เพราะอย่างน้อยฟ้าต้องใช้เงินในการเลี้ยงดูลูก’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘โอเคแยกห้องนอน แต่ต้องคุยกันว่าสถานะตอนนี้เราจะเป็นแค่พ่อและแม่ ไม่ใช่สามีภรรยาแล้ว เธออยากมีใครเธอมีเลย ฉันจะมีใครเรื่องของฉันนะ เพราะมันคือความ รับผิดชอบลูก เป้าหมายของเราคือแค่ต้องการสัญชาติให้กับลูก ฉะนั้นเธอใช้ชีวิตแบบนี้ เราจะใช้ชีวิตแบบนี้นะ และพี่รู้สึกว่าฟ้าจะต้องหางานทำแล้วจ้างคนเลี้ยงลูกหรือถ้าจ้างไม่ไหว อาจจะต้องรอปีหน้า ต้องคุยกับเขาว่าเราจะ support อะไรซึ่งกันและกันบ้าง เขาต้องรับผิดชอบดูแลอะไรบ้าง และระหว่างนี้หนูหาสามีใหม่รอเลย ถ้าหนูอยากได้สัญชาติ มันจะเร็วกว่าด้วย และสมมติถ้าเราทนไม่ได้แล้วให้เอาลูกกลับไทยเลย ช่างสัญชาติไปเลย ปัดแอปหาคู่เลย มันไม่ได้ปิดกั้นขนาดนั้น สุดท้ายก็คืออยากให้คุยกันเลยในฐานะพ่อแม่ว่าจะรับผิดชอบลูกอย่างไร จะรับผิดชอบไปถึงเมื่อไหร่ แต่ยังไงฟ้าต้องเตรียมแผน B ของตัวเองไว้ด้วยนะ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ผิดปกติไหมคะ? เราไปสมัครงานบริษัทแห่งหนึ่ง เป็นบริษัทใหญ่ของต่างประเทศ เอ๊ะแรก ขอถ่ายบัตรประชาชนหน้า-หลัง เอ๊ะสอง ให้เซ็นรับรองบัตรประชาชนแบบห้ามขีดทับบัตร ทุกคนว่าแปลกไหมคะ

22 ก.ค. 2025

ผิดปกติไหมคะ? เราไปสมัครงานบริษัทแห่งหนึ่ง เป็นบริษัทใหญ่ของต่างประเทศ เอ๊ะแรก ขอถ่ายบัตรประชาชนหน้า-หลัง เอ๊ะสอง ให้เซ็นรับรองบัตรประชาชนแบบห้ามขีดทับบัตร ทุกคนว่าแปลกไหมคะ

“คุณปลา (นามสมมติ)” อายุ 25 ปี เป็นสายที่ 6 ในรายการ "พุธทอล์ค พุธโทร" เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (16 กรกฎาคม 2568) ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล - ดีเจตู่ภพธร” เกี่ยวกับปัญหาญาติไปสมัครงาน แล้วโดนขอสำเนาบัตรประชาชนทั้งหน้าและหลังบัตร แล้วห้ามขีดทับข้อมูล โดย “คุณปลา (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ช่วงนี้ญาติของหนูเขากำลังหางานอยู่ ก็มีการหว่านเรซูเม่ตาม platform ต่าง ๆ คราวนี้ก็มี recruit ติดต่อเข้ามาให้สัมภาษณ์ที่บริษัทแห่งหนึ่ง เป็นบริษัทใหญ่ในต่างประเทศ มีการเข้าไปสัมภาษณ์เรียบร้อย สัมภาษณ์เสร็จกลับมาบริษัทก็ไม่ได้มีการแจ้งผลกลับมาว่าผ่าน แต่เป็นทาง recruit ติดต่อกลับมาแทน ขั้นตอนต่อไปคือให้ญาติหนูส่งเอกสารต่าง ๆ และสลิปเงินเดือน แต่ติดที่สำเนาบัตรประชาชน ทาง recruit เขาขอสำเนาบัตรประชาชนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพราะถ้าแค่ยืนยันตัวตนแค่ด้านหน้าก็พอแล้วไหม เคยปฏิเสธไปแล้วแต่เขาก็บอกว่าทางนู้นขอมา แล้วเขาก็แจ้งว่าไม่ให้ขีดคร่อมบัตรหรือบังข้อมูลในบัตรประชาชน ให้เซ็นในที่ว่างเท่านั้น เลยอยากสอบถามดูว่าแบบนี้คือแปลกไหมและกลัวว่าถ้าปฏิเสธไปจะไม่ได้งาน?’ ซึ่ง “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ปกติเดี๋ยวนี้เขาไม่เอาข้างหลังบัตรกันแล้ว แต่คิดว่ามันไม่เป็นผลถ้าเราไม่ให้เอกสารแล้วจะไม่ได้งาน ถ้าคุณสมบัติเราผ่านแล้ว เขาก็ไม่น่าจะเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็น อยากให้เช็คดี ๆ เกี่ยวกับบริษัทและคนที่ติดต่อเข้ามา หรือไม่ก็ให้ลองติดต่อ HR ไปเองเลย น่าจะได้คำตอบ’ ต่อมา “ดีเจต้นหอม” ได้คำคำปรึกษาว่า ‘ถ้าไม่ขีดคร่อมบัตรเคยเจอ แต่ไม่ต้องถ่ายหลังบัตรก็ได้ เอาแค่หน้าบัตรแล้วแจ้งเขาไปว่าไม่สะดวกส่งหลังบัตร เพราะมันเป็นข้อมูลที่ส่วนตัวมาก ๆ แล้วลงรีวิวในโซเชียลถามเลยว่าใครเคยเจอบ้าง’ และสุดท้าย “ดีเจตู่ ภพธร” ได้คำคำปรึกษาว่า ‘สำหรับผมต่อให้เราขีดคร่อมทับข้อมูลไป แต่ถ้าคนมันจะเอาไปทำอะไรไม่ดี มันก็เอาไปทำได้อยู่แล้ว’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1