‘กูฟังเพลงไท’ คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของวงไททศมิตร ระเบิดพลังการแสดงได้ดุเดือด-ถึงใจ!

ENTERTAINMENT NEWS

‘กูฟังเพลงไท’ คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของวงไททศมิตร ระเบิดพลังการแสดงได้ดุเดือด-ถึงใจ!

16 ก.ย. 2024

เป็นอีกค่ำคืนที่ยิ่งใหญ่และน่าจดจำที่สุดสำหรับ ไททศมิตร (TaitosmitH) วงดนตรีร็อกเนื้อหาเพื่อชีวิตแห่งค่าย GeneLab ในเครือ GMM MUSIC และเหล่า ‘เสาไฟ’ (ชื่อเรียกแฟนเพลงของวง) กับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรก ‘กูฟังเพลงไท’ จัดเต็ม 2 รอบสุดพิเศษ ไปเมื่อวันที่ 14-15 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี งานนี้พวกเขาระเบิดพลังการแสดงที่อัดแน่นไปด้วยดนตรีที่มีเอกลักษณ์ แสง สี เสียง ที่ดุเดือด เร้าใจ ตลอดทั้งงานแบบใส่สุดแรงไม่มียั้งกว่า 4 ชั่วโมง

โดยบรรยากาศภายในงานคึกคักไปด้วยเหล่าเสาไฟ ที่เดินทางมาทั่วทุกสารทิศเพื่อรอเจอไททศมิตร วงดนตรีที่พวกเขาชื่นชอบ พร้อมต่อคิวจับจองของที่ระลึกคอนเสิร์ตและอัลบั้ม ‘ภาคพิสดาร’ ที่วางขายครั้งแรกที่งานอย่างเนืองแน่น ซึ่งการจัดคอนเสิร์ตถึง 2 รอบติดกันนี้ คือสิ่งที่ยืนยันได้ว่าไททศมิตรมีฐานแฟนเพลงที่เหนียวแน่น และพร้อมสนับสนุนพวกเขาอย่างเต็มที่ และเมื่อถึงเวลา 1 ทุ่มตรง เสียงดนตรีเริ่มดังขึ้นพร้อมเสียงเชียร์ของแฟน ๆ ที่ดังกระหึ่มในทันทีเมื่อ จ๋าย-อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี (ร้องนำ), โมส-ตฤณสิษฐ์ สิริพิชญาศานต์ (ร้องนำ), เจ-ธนกฤต สองเมือง (คีย์บอร์ด), มีน-ปัณณสิทธิ์ สุขโหตุ (กีตาร์ โซโล่), เจต-เจษฎา  ปัญญา (เบส), ตุ๊ก-พัฒนภูมิ ชอุ่มผล (กลอง) ปรากฏตัวขึ้นบนเวทีอย่างยิ่งใหญ่ด้วยพลังดนตรีที่ไร้ขีดจำกัดของพวกเขาที่มาพร้อมทีม Chorus, Percussions, Brass Section งานนี้พวกเขาขนเพลงตั้งแต่ยุคอินดี้จนถึงปัจจุบันมาโชว์ให้แฟนเพลงได้ฟังอยากจุใจกว่า 33 เพลง

เปิดด้วยเพลง ‘Amazing Thailand’ ต่อด้วย ‘ยุติ-ธรรม’ เพลงที่สะท้อนความเจ็บปวดและความเป็นจริงของสังคมไทย ตามด้วยเพลง ‘รจนา’ ที่มีการนำระนาดเอกบรรเลงเพิ่มสีสันให้แฟน ๆ ได้อินไปกับเพลงและร้องตามกันอย่างสุดเสียง ทำให้บรรยากาศในฮอลล์เดือดขึ้นทันทีตั้งแต่ช่วงแรก ต่อด้วยเพลงที่เป็นจุดเริ่มต้นให้แฟนเพลงได้รู้จักพวกเขาอย่าง ‘เป็นตะลิโตน’ , ‘Pattaya Lover’  และโยกหัวกันต่อไปกับเพลงที่ทำได้เข้าถึงอารมณ์อย่าง ‘ทนได้ทุกที’ และ ‘ผีพนัน’ จากนั้นพวกเขาก็ไต่กราฟความสนุกในคอนเสิร์ตนี้ขึ้นไปอีกแบบไม่มีพักด้วย ‘บังขายถั่ว’ , ‘จะหมัดจะมวย’ , ‘เพื่อนผมเกมได้ไง’ , ‘เสื้อกั๊ก’ และ ‘ไอ้สอง’ ที่มาพร้อมหางเครื่องและแดนเซอร์ชุดใหญ่ทำเอาแฟนเพลงทั้งโดดทั้งเต้นกันแบบสุดตัว

ต่อด้วยการเปิดตัวแขกรับเชิญสุดพิเศษช่วงแรก อย่าง เบิ้ล คณะขวัญใจ ที่มาในเพลง ‘แม่เสือสาว’, หมู ไววิทย์ กับเพลง ‘มีชีวิตเพื่อคนอื่น’ และ ไม้หมอน วชิรวิทย์ กับเพลง ‘หลุด’ ที่มาร่วมส่งต่ออุดมการณ์ดนตรีเพื่อชีวิตรุ่นใหม่ด้วยกันในเพลง ‘หัวใจเสรี’ ต่อด้วยเพลงจากอัลบั้มแรกของวงที่หลายคนคิดถึงอย่าง ‘ฮาคูน่า มาทาท่า’ , ‘คางคก’

จากนั้นไททศมิตรก็ได้เซอร์ไพรส์แฟนเพลงด้วยการปรากฏตัวในลุคแปลกตาด้วยชุดสูทพร้อมเล่นเพลงช้าสุดซึ้งเข้าถึงอารมร์อย่างเพลง ‘ตราบ’, ‘แอบเก็บความในใจไว้ภายในแว่นเรย์แบนสีดำ’ และพวกเขาได้นั่งพูดคุยกับแฟนเพลง โดย จ๋าย ได้เล่าถึงการเดินทางของวง ได้เปิดใจถึงความหมายเบื้องหลังของเพลงที่งานนี้ทำเอาหลายคนเสียน้ำตาไปกับมิตรภาพที่สวยงามและจริงใจแบบลูกผู้ชายของวงไททศมิตรในเพลง ‘มึงกับกู’ ตามด้วยเพลงช้าเนื้อหาเข้มข้นและเศร้าที่สุดจากไททศมิตรที่มาพร้อมแขกรับเชิญสุดพิเศษ ‘พี่ตูน Bodyslam’ มาร่วมถ่ายทอดทุกความรู้สึกของเพลง ‘กี่ฤดู’ และชวนเหล่าเสาไฟกระโดดกันต่อไม่ให้พักไปกับเพลง ‘ท่านผู้ชม’ , ‘คนมีตังค์’ สร้างความสนุกและประทับใจให้แฟนเพลงในฮอลล์

จากนั้นเวทีก็กลับมาเดือดและฮึกเหิมด้วยเพลงที่สะท้อนถึงการต่อสู้และการยืนหยัดในชีวิตอีกครั้งในเพลง ‘เพื่อชีวิตกู’ ตามด้วยเพลงที่ใครหลายคนรอคอยอย่าง ‘โคโยตี้’ ที่วงได้เซอร์ไพร์แฟนเพลงด้วยการชวน จินตหรา พูนลาภ มาร่วมร้องในเพลงนี้  และชวนเหล่าเสาไฟเซิ้งกันต่อไปกับเพลง ‘มาทำไม’ พร้อมเครื่องดนตรีประจำวงหมอลำอย่าง ‘พิณ’ ‘แคน’ และหางเครื่องแบบจัดเต็ม เหมือนยกเวทีหมอลำของแท้มาผสมผสานกับร็อกเพื่อชีวิตของไททศมิตรอย่างลงตัว และมาถึงช่วงที่ไททศมิตรสาดความเดือดกันต่อด้วยเพลง ‘หมวกกันน็อค’, ‘ไส้แห้ง’, ‘แดงกับเขียว’ ตามด้วยเพลงฮิตชวนคิดถึงบ้านอย่างเพลง ‘Hello Mama’ ที่แฟนเพลงร้องตามกันดังกึกก้องไปทั่วทั้งฮอลล์ พร้อมกับคำกล่าวขอบคุณที่วงตั้งใจมอบให้แฟนเพลงที่คอยสนับสนุนมาตลอด

ต่อด้วยเพลง ‘สักวันหนึ่ง’ ที่โมสและจ๋ายได้ลงจากเวทีไปหาคนดู เรียกว่าเป็นบรรยากาศที่อบอุ่นและมีความหมายกับทั้งศิลปินและแฟนเพลงมากจริงๆ ก่อนปิดท้ายคอนเสิร์ตด้วยความมันแบบพุ่งทะลุกราฟด้วยเพลง ‘นักเลงเก่า’ แต่เหมือนแฟนเพลงจะยังไม่อยากให้โชว์จบลง ต่างส่งเสียงเรียกชื่อวง ‘ไททศมิตร’ อย่างต่อเนื่อง วงเลยขึ้นมาโชว์เพลงที่มีความหมายกับวงอย่าง ‘อนัตตา’ และปิดท้ายคอนเสิร์ตด้วยเพลง ‘แดงกับเขียว’ อีกครั้ง งานนี้เรียกว่ามีเท่าไรใส่กันสุดพลังแทบไม่เหลือแรงกลับบ้าน ก่อนลากันไปด้วยเสียงปรบมือและเสียงตะโกนขอบคุณทั้งจากศิลปินและแฟนเพลงที่ดังก้องไปทั่วทั้งฮอลล์

เรียกได้ว่าคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของไททศมิตรจบลงไปด้วยความสำเร็จอย่างงดงาม เป็นค่ำคืนที่ครบรสด้วยพลังแห่งมิตรภาพ  ความสุข ความสนุกสุดมัน ‘กูฟังเพลงไท’ ไม่เพียงแต่เป็นคอนเสิร์ตที่แสดงถึงพลังดนตรีของไททศมิตรเท่านั้นแต่ยังเป็นการรวมตัวของเหล่าแฟนเพลงผู้รักในดนตรีที่สะท้อนสังคมอย่างแท้จริงด้วย

ภาพ : GeneLab

related ENTERTAINMENT NEWS

‘ก.เอ๋ย กอกี้’ อัลบั้มเต็มชุดแรกจาก กอกี้ กวิสรา 7 บทเพลง 7 สีสัน ที่ถ่ายทอดตัวตนอย่างหมดจด

03 มิ.ย. 2025

‘ก.เอ๋ย กอกี้’ อัลบั้มเต็มชุดแรกจาก กอกี้ กวิสรา 7 บทเพลง 7 สีสัน ที่ถ่ายทอดตัวตนอย่างหมดจด

กอกี้ กวิสรา ผู้คว้าตำแหน่งผู้ชนะจากรายการ 19Lab พร้อมก้าวแรกอย่างเต็มตัวในฐานะศิลปิน ด้วยอัลบั้มเต็มชุดแรกในชีวิต ก.เอ๋ย กอกี้ ผลงานที่เปรียบเสมือนบทเรียนบทแรกของเส้นทางดนตรีที่เธอกำลังเริ่มต้น และชวนให้ทุกคนท่องคำว่า กอ เอ๋ย ก.ไก่ ไปพร้อมกัน ผ่านเสียงร้องสำเนียงไทยแท้ที่เป็นเอกลักษณ์ชื่ออัลบั้มเล่นคำจากบทเรียนภาษาไทยที่เราคุ้นเคยในวัยเด็ก ก.เอ๋ย ก.ไก่ ผสานกับชื่อของเธอ กอกี้ ได้อย่างน่ารักและมีความหมาย เปรียบเหมือนการแนะนำตัวอย่างอบอุ่นให้ทุกคนได้รู้จักตัวตนของเธอในบทบาทศิลปินผู้เต็มเปี่ยมด้วยความตั้งใจก.เอ๋ย กอกี้ คือการเล่าเรื่องราวผ่านเสียงเพลงแบบไทยร่วมสมัย ถ่ายทอดผ่านเสียงร้องลูกทุ่งในแบบฉบับของ กอกี้ และผสานหลากหลายแนวทางดนตรีไม่ว่าจะเป็น เร็กเก้ ป็อป อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงบัลลาด ทำให้ทุกแทร็กมีสีสันเฉพาะตัวแต่ยังคงเอกลักษณ์ทางเสียงที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างกลมกล่อมอัลบั้มนี้ประกอบด้วย 7 เพลง 7 อารมณ์ ได้แก่ Life of อีหล่า, ลืมไปเลยหรือไม่เคยมีอยู่จริง ft. 4Moze TaitosmitH, สะออนยู (Jealous of You), โซซัดโซเซ, นอยนินอยด์, โอ้เจ้าดอกไม้ และ ชาติหน้าฉันใด ผลงานทั้งหมดเกิดจากปลายปากกาของกอกี้เอง ทั้งเนื้อร้องและทำนอง พร้อมการดูแลใกล้ชิดโดย โอม COCKTAIL และ เจ TaitosmitH 2 โปรดิวเซอร์ผู้เข้าใจในหัวใจของศิลปินนี่ไม่ใช่แค่อัลบั้มเปิดตัว แต่คือบันทึกการเดินทางครั้งใหม่ของศิลปินคนหนึ่งที่กำลังจะพาโลกใบเดิมไปฟังเสียงของเธอในแบบที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือนภาพ : 19official

กิต Three Man Down อัปเดตอาการป่วยจอประสาทตาอักเสบ ต้องทานยาต่อเนื่อง-ทำใจกับผลข้างเคียงที่อาจทำให้สุขภาพอ่อนแอลง

24 ต.ค. 2024

กิต Three Man Down อัปเดตอาการป่วยจอประสาทตาอักเสบ ต้องทานยาต่อเนื่อง-ทำใจกับผลข้างเคียงที่อาจทำให้สุขภาพอ่อนแอลง

กิต-กฤตย์ จีรพัฒนานุวงศ์ นักร้องนำแห่งวง Three Man Down ออกมาอัปเดตสุขภาพของตัวเอง หลังแพทย์วินิจฉัยว่าป่วยด้วยโรค Vost-Koyanagi-Harada disease (VKH) ซึ่งทำให้เขามีอาการจอประสาทตาอักเสบทั้งสองข้าง และสูญเสียการมองเห็นตรงกลางภาพ จนต้องมีการพักงานคอนเสิร์ตไป โดย กิต เล่าว่าตอนนี้สุขภาพเริ่มฟื้นฟูแล้ว แต่ยังต้องทานยาไปเรื่อย ๆ อีกราว 1 ปี และก็ทำใจกับผลงานเคียงที่จะตามมาจากการทานยาปริมาณมาก“เพื่อให้เข้าใจง่าย ๆ โรคนี้เกิดขึ้นจากภูมิคุ้มกันตัวเองโจมตีไปที่ดวงตาครับ ทำให้ดวงตาและประสาทตาเกิดความเสียหายครับ ปล่อยไว้นานอาจทำให้ดวงตาบอดได้ แต่ถ้าเจอเร็วก็จะยังสามารถรักษาได้ครับ ซึ่งผมอยู่ในหมวดที่เจอเร็ว ด้วยความที่อาการของโรคนี้สังเกตอยาก และในเมืองไทยคุณหมอที่รักษาโรคนี้ยังมีน้อยนับเป็นตัวเลขได้ 3-4 ท่านเอง ทำให้คนไข้บางคนเมื่อมีอาการก็ไม่รู้จะต้องไปรักษาที่ไหน จนสุดท้ายปล่อยไว้ก็ทำให้ตาบอด“อาการแรกเริ่มของผมคือเป็นไข้ครับ เจ็บเส้นผม และอาทิตย์ถัดมาตาผมอักเสบครับ วันถัดมาการมองเห็นของผมมันก็มืดไปเลย ตรงกลางที่เห็นจะเป็นภาพดำ ๆ เลยครับ ผมก็เลยไปหาหมอซึ่งต้องไปถึง 4 ที่จึงได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้“ซึ่งวิธีรักษาโรคนี้คือต้องทานยาสเตียรอยด์ติดต่อกันเป็นเวลา 1 ปี และเป็นการกินยาแบบ high dose ครับ ผมกินยาเยอะมาก และมันก็จะมีผลข้างเคียงคือทำให้ภูมิของเราอ่อนแอ พอภูมิอ่อนแอผมก็จะกลายเป็นคนอ่อนแอไปด้วย คุณหมอเลยแนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่ที่แออัด เพราะหากเราติดโรคเพิ่มมันอาจจะมีปัญหา ก็เลยต้องกำชับเรื่องการทำงาน ซึ่งช่วงแรกต้องหยุดการทำงานไปเลยครับ แต่ตอนนี้อาการก็ค่อย ๆ ดีขึ้น สุขภาพร่างกายโดยเฉพาะที่ดวงตาก็กลับมา 95% แล้วครับ”ภาพ : kittyumbsขอบคุณข้อมูลจาก : workpointgossip

COCKTAIL ชวนแฟน ๆ เก็บความทรงจำกับคอนเสิร์ตครั้งสุดท้าย 30 มีนาคม 2568 ณ ราชมังคลากีฬาสถาน

28 ต.ค. 2024

COCKTAIL ชวนแฟน ๆ เก็บความทรงจำกับคอนเสิร์ตครั้งสุดท้าย 30 มีนาคม 2568 ณ ราชมังคลากีฬาสถาน

แฟน ๆ หลายคนคงทราบกันดีเกี่ยวกับอนาคตของวงดนตรีรุ่นใหญ่อย่าง Cocktail ที่ประกาศไว้ว่าพวกเขามีแผนจะยุติบทบาทในฐานะวงดนตรีในปี 2568 และระหว่างทางก็มีโปรเจกต์รวมถึงผลงานต่าง ๆ มากมายออกมาให้แฟนเพลงได้ฟังกัน แต่ล่าสุดถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะประกาศข่าวจัดคอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบ และนี่จะเป็นคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของวง Cocktail ด้วยวันนี้แฟนเพจของวง Cocktail ได้แจ้งข่าวกับแฟน ๆ ด้วยการปล่อยทีเซอร์โปสเตอร์คอนเสิร์ต #COCKTAILEVERLIVE สะท้อนคอนเซ็ปต์ที่พูดเล่าถึงทุกอย่างเป็นเรื่องกลไกของเวลา พร้อมชวนแฟนเพลงไปเก็บความทรงจำร่วมกันในคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ที่จะมีขึ้นวันที่ 30 มีนาคม 2568 ณ ราชมังคลากีฬาสถานสำหรับ #COCKTAILEVERLIVE จะเปิดจำหน่ายบัตรอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 มกราคม 2568 ส่วนรายละเอียด ผังที่นั่งชมการแสดง และราคาบัตร จะมีการเปิดเผยออกมาให้ทราบกันในลำดับถัดไป รอติดตามกันได้ทางโซเชียลมีเดียของวง Cocktailภาพ : Cocktail

เป๊ก ผลิตโชค ขอโทษจากใจต่อเหตุการณ์ในปั๊ม–บนถนน ได้รับบทเรียนจากการดื่มจนขาดสติ พร้อมขอโอกาสปรับปรุงตัว

07 ส.ค. 2025

เป๊ก ผลิตโชค ขอโทษจากใจต่อเหตุการณ์ในปั๊ม–บนถนน ได้รับบทเรียนจากการดื่มจนขาดสติ พร้อมขอโอกาสปรับปรุงตัว

หลังเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาบาดแผลบริเวณใบหน้า เป๊ก–ผลิตโชค อายนบุตร ศิลปินชื่อดังสังกัด White Music ได้ออกมาสื่อสารกับสาธารณชนเป็นครั้งแรก ผ่านคลิปวิดีโอที่เขาอัดขึ้นเพื่อแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และขอโทษทุกคนที่ได้รับผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจ จากเหตุการณ์บนท้องถนนและภายในปั๊มน้ำมัน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างแรงสั่นสะเทือนในสังคมออนไลน์ จนชื่อของเขาติดเทรนด์บนโซเชียลมีเดีย พร้อมกระแสวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ในคลิปวิดีโอ เป๊ก ยอมรับผิดอย่างไม่มีข้อแม้ และเปิดใจถึงความรู้สึกผิด รวมถึงความตั้งใจในการเผชิญหน้ากับสิ่งที่เกิดขึ้น“ผลิตโชค อายนบุตร ครับ วันนี้ขออนุญาตมากราบขอโทษคนไทยทุก ๆ คนครับ ที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง ตัวของผมเองก็ผิดหวังในตัวเองเหมือนกัน เสียใจสำหรับการกระทำในวันนั้น ที่ทำให้เกิดเรื่องราวมากมายตามที่ทุกคนได้ชมคลิป ผมไม่มีเจตนาทำให้ใครเจ็บตัวหรือเสียใจเลย ด้วยความที่ผมพลาด ผมมีการดื่มเยอะเกินไป ทำให้ครองสติได้ไม่ดีเท่าไหร่ จึงเกิดเหตุต่าง ๆ ผมอยากขอโทษหลาย ๆ คนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น ผมไม่คาดคิดว่าเหตุวันนั้นจะทำให้ทุกคนลำบากเพราะผม“ขอโทษพี่แท็กซี่ที่ทำให้หวาดกลัว ขอโทษพี่ที่ขับกระบะสีขาวที่ทำให้ต้องทรมานกับการหวาดกลัวผม ทุกอย่างที่ผมทำลงไป ผมไม่ได้ตั้งใจให้ทุกคนเสียกำลังใจและบาดเจ็บ สำหรับพี่ที่ใส่หมวกกันน็อกที่เราต่อสู้กัน ผมก็ต้องขอโทษพี่คนนั้นด้วย ถ้าล่วงเกินอะไรพี่ไปผมกราบขอโทษมา ณ ที่นี้ ผมทำร้ายร่างกาย ต่างคนต่างมีบาดแผล และนำพาให้พี่ต้องมีความทุกข์ในชีวิต“ผมอยากขอให้ทุกคนขอโอกาสให้ผมได้ขอโทษ ขอให้ทุกคนได้ให้โอกาสผม ให้ผมได้ใช้โอกาสวันนี้ขอโทษพี่ ๆ ทุกคนจากใจจริง ผลิตโชคจะไม่มีวันหนีไปไหน ผมจะอยู่ตรงนี้เพื่อไปขอโทษพี่ ๆ ทุกคนด้วยใจจริง ผมอยากไปพบกับพี่ ๆ ทุกคนเพื่อแสดงความขอโทษจากใจจริง ๆ สิ่งที่ผมได้ล่วงเกินวันนั้น ทั้งบนท้องถนน ทั้งที่ปั๊ม หรือที่ใดก็ตามที่ทำให้ทุกคนหวาดกลัว”และในช่วงสุดท้าย เป๊ก ย้ำว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้กลายเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ในชีวิต และเขาพร้อมจะปรับปรุงตัวเองจากจุดนี้ ขอเพียงโอกาสจากสังคมให้ได้กลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง “บทเรียนเหล่านั้นผมได้รับกรรมแล้ว ผมไม่ได้อยากเป็นคนไม่ดีแบบนั้น ผมอยากขอแก้ตัวใหม่ ขอให้สังคมช่วยยกโทษให้ผมด้วยนะครับ ผมรู้สึกผิดมากครับ ผมขอโทษจากใจจริงด้วยนะครับ ขอโทษทุก ๆ คนนะครับ”ภาพ : White Music

album

0
0.8
1