Thailand Box Office เปิดตัวเลขรายได้ช่วงหยุดยาวของภาพยนตร์ ‘หลานม่า’ กวาดไปราววันละกว่า 30 ล้านบาท มุ่งหน้าสู่หนัง 100 ล้าน!

ENTERTAINMENT NEWS

Thailand Box Office เปิดตัวเลขรายได้ช่วงหยุดยาวของภาพยนตร์ ‘หลานม่า’ กวาดไปราววันละกว่า 30 ล้านบาท มุ่งหน้าสู่หนัง 100 ล้าน!

07 เม.ย. 2024

เรียกว่ามาได้ถูกจังหวะและเวลามาก ๆ สำหรับ ‘หลานม่า’ ภาพยนตร์ดราม่าครอบครัวเรื่องแรกของปี 2567 จากค่าย GDH เปิดตัวแรงพร้อมสร้างปรากฏการณ์ทั่วโลกออนไลน์ ไม่เพียงเท่านั้นความดังของหนังยังเป็นที่พูดถึงในแง่ของความทัชใจ และคุณภาพที่กลมกล่องลงตัวตั้งแต่วันแรกของการเข้าฉาย

ก่อนหน้านี้ทาง GDH ได้ออกมาเปิดเผยรายได้เปิดตัว ‘หลานม่า’ 4 เมษายนที่ผ่านมาว่า เป็นหนัง GDH ที่ทำรายได้เปิดตัวสูงที่สุดในอันดับที่ 4 อยู่ที่ 21 ล้านบาท เป็นรอง ‘ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค’ (55 ล้านบาท), ‘บุพเพสันนิวาส 2’ (51 ล้านบาท) และ ‘Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน’ (24 ล้านบาท)

แต่นั่นเป็นเพียงรายได้เปิดตัวเท่านั้น เพราะหลายคนจับตามองว่า หากกระแสของหนังยังทำงานกับใจคนแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นปากต่อปาก บวกกับจังหวะการเข้าฉายตรงกับช่วงวันหยุดยาว และบรรยกาศวันครอบครัวแบบนี้ น่าจะช่วยกระตุ้นให้รายได้ของภาพยนตร์ ‘หลานม่า’ ทะลุผ่านหลัก 200 ล้านบาทได้แบบไม่ยากนัก

ทางด้าน Thailand Box Office ก็ออกมาเปิดเผยรายได้ของ ‘หลานม่า’ ว่ายังสามารถทำเงินอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวนี้ (วันเสาร์กวาดรายได้ไปกว่า 30 ล้านบาท และวันอาทิตย์กวาดรายได้ไปกว่า 40 ล้านบาท) ทำให้ตอนนี้มุ่งหน้าสู่ 100 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

กระแสของหนังถูกพูดถึงไปในทิศทางเดียวกันนั้นคือ เป็นผลงานคืนฟอร์มของ GDH ที่คนดูประทับใจกับทุกสิ่งที่ผู้กำกับอย่าง พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ ผสมผสานให้เข้ากันได้อย่างกลมกล่อมลงตัว อีกทั้งยังหยิบเอาเรื่องราวใกล้ตัวมานำเสนอได้อย่างลึกซึ้ง ถ่ายทอดผ่านฝีมือการแสดงชั้นยอดของ บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล, ดู๋-สัญญา คุณากร, เผือก-พงศธร จงวิลาส, เจีย-สฤญรัตน์ โทมัส, ตู-ต้นตะวัน ตันติเวชกุล โดยเฉพาะ คุณยายแต๋ว-อุษา เสมคำ น้องใหม่อายุ 76 ปี ที่ช่วยสื่อสารบทต่าง ๆ ให้เข้าถึงคนดูอย่างตรงใจและเป็นธรรมชาติ

ไปซาบซึ้งด้วยกันกับภาพยนตร์ ‘หลานม่า’ เข้าฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์

ภาพ : GDH

related ENTERTAINMENT NEWS

GDH ส่งสุขท้ายปีด้วยความฮาขั้นสุด! เปิดตัวภาพยนตร์คอเมดี้–มิวสิกัล ‘ดีว่า..ราวี’ ระเบิดสงครามดวลไมค์แบบไฟลุก

19 พ.ย. 2025

GDH ส่งสุขท้ายปีด้วยความฮาขั้นสุด! เปิดตัวภาพยนตร์คอเมดี้–มิวสิกัล ‘ดีว่า..ราวี’ ระเบิดสงครามดวลไมค์แบบไฟลุก

GDH ประกาศความบันเทิงส่งท้ายปี ด้วยภาพยนตร์เรื่องใหม่ ‘ดีว่า..ราวี’ ผลงานล่าสุดจากผู้กำกับอารมณ์ดี เติ้ล–กิตติภัค ทองอ่วม เจ้าของผลงานฮิตอย่าง ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ เดอะซีรีส์ และ ตุ๊ดซี่ส์ เดอะเฟค ที่ครั้งนี้กลับมาพร้อมแพ็กพลังความสนุกแบบจัดเต็มทุกอารมณ์ ทั้งเสียงหัวเราะ ดราม่า และการปะทะที่พร้อมลุกเป็นไฟบนเวทีคอนเสิร์ต‘ดีว่า..ราวี’ เป็นภาพยนตร์เล่าเรื่องของ ปลายฝัน มาร์กาเรต เฮง (แจ็คกี้–ชาเคอลีน มึ้นช์) ดีว่าระดับตำนานเจ้าของฉายา ‘สองล้านตลับ’ ที่ห่างหายจากวงการไปกว่า 7 ปี เพราะทุ่มเทให้ความรักผิดคนจนชีวิตเกือบพัง ทว่าชีวิตพลิกอีกครั้งเมื่อเธอตัดสินใจคัมแบ็กสู่วงการ ด้วยการจัดคอนเสิร์ตร่วมกับ แก๊งตาคลี ไอดอล GEN Z สุดป่วน ได้แก่ พิตต้า พี (ปิงปอง–ธงชัย ทองกันทม) แรปเปอร์ปากแซ่บ, ไลลา (นินิว เพชรด่านแก้ว) ลูกทุ่งสายมูผู้สร้างสีสันทุกเวที และ คอปเตอร์ (นุนิว–ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์) พรินซ์ออฟทีป็อปเสียงสูงสะเทือนเครื่องบินแต่ยังไม่ทันเริ่มคอนเสิร์ต ความวายป่วงก็ประทุ งานแถลงข่าวเปิดตัวยกระดับกลายเป็นศึกแย่งซีนปะทะเดือดแบบ ดีว่า vs ไอดอล ชนิดตาต่อตาไมค์ต่อไมค์ แถมยังต้องให้แขกรับเชิญลับระดับอินเตอร์ (เก่ง–หฤษฎ์ บัวย้อย) มาช่วยห้ามทัพไม่ให้เวทีลุกเป็นไฟไปมากกว่านี้คอนเสิร์ตคืนบัลลังก์ของ ปลายฝัน จะปังสมศักดิ์ศรีตัวแม่ หรือจะพังเพราะดราม่าไม่รู้จบ เตรียมพิสูจน์ความอลหม่านสุดฮา ส่งท้ายปีแบบแฮปปี้ไปพร้อมกันในโรงภาพยนตร์‘ดีว่า..ราวี’ จะเข้าฉายพร้อมกัน 10 ธันวาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ภาพ : GDH

GDH แจ้งเปลี่ยนตัวนักแสดงนำในโปรเจกต์ Beauty and The Beat

17 ม.ค. 2025

GDH แจ้งเปลี่ยนตัวนักแสดงนำในโปรเจกต์ Beauty and The Beat

GDH ออกมาแจ้งความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับโปรเจกต์ภาพยนตร์ Beauty and The Beat (working title) ซึ่งถูกเปิดตัวเป็น 1 ใน 5 ผลงานใหม่จากงาน GDH LINEUP 2025 LOOK FORWARD รุก (เกิน) คาด เมื่อปี 2567 ว่ามีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนนักแสดงนำของเรื่อง เนื่องด้วย ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร มีปัญหาสุขภาพ“บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด ขอแจ้งให้ทราบว่าภาพยนตร์ Beauty and the Beat (working title) ที่ได้ประกาศเปิดตัวไปเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา มีเหตุจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนนักแสดง เนื่องจาก ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร มีปัญหาด้านสุขภาพ จึงกังวลว่าจะไม่สามารถปรับเปลี่ยนตัวเองให้เหมาะกับคาแรกเตอร์ของตัวแสดงได้ทันกำหนดเปิดกล้อง ไอซ์ จึงปรึกษากับทางบริษัทฯ เพื่อหาทางออกร่วมกัน ซึ่งสุดท้าย ไอซ์ ตัดสินใจขอถอนตัวจากโปรเจกต์ภาพยนตร์ดังกล่าว“ทางบริษัทฯ ขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง สำหรับความเข้าใจและความสนับสนุนที่มีให้เสมอมา บริษัทฯ จะดำเนินโปรเจกต์นี้ต่อ หากมีความคืบหน้าจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง”สำหรับ Beauty and The Beat เป็นหนังเวรี่คอมเมดี้ที่เล่าถึงนักร้องตัวแม่ตัวลูกทั้ง 4 ที่สวรรค์แกล้งให้ต้องมาเล่นคอนเสิร์ตด้วยกัน นางสิงห์ 2 ตัวยังอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ 4 DIVA ในคอนเดียวกันจะบันเทิงขนาดไหน โดยได้ ไตเติ้ล-กิตติภัค ทองอ่วม มานั่งเก้าอี้เป็นผู้กำกับ พร้อมด้วยโปรดิวซ์เซอร์ เดียว-วิชชพัชร์ โกจิ๋วและ สุย-สุวิมล เตชะสุปินัน และมีการเปิดตัว 4 นักแสดงนำอันประกอบด้วย ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร, นุนิว-ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์, ปิงปอง-ธงชัย ทองกันทม และ นินิว เพชรด่านแก้ว ซึ่งก็ต้องมารอติดตามกันต่อไปว่านักแสดงที่จะมารับบทบาทนี้แทน ไอซ์ จะเป็นใครภาพ : GDH

ซองแดงแต่งผี’ หนังใหม่จาก GDH รีเมกจากหนังไต้หวันสุดฮิต ได้ บิวกิ้น-พีพี นำแสดง

25 ก.ย. 2024

ซองแดงแต่งผี’ หนังใหม่จาก GDH รีเมกจากหนังไต้หวันสุดฮิต ได้ บิวกิ้น-พีพี นำแสดง

ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ ‘Project Red’ ที่เคยถูกเปิดตัวในงาน GDH LINEUP 2025 ซึ่งเป็นการจับมือระหว่าง GDH กับค่าย Billkin Entertainment และ PP Krit Entertainment ซื้อลิขสิทธิ์จากสตูดิโอ Calendar Studios Company Limited เพื่อนำ ‘Marry My Dead Body’ หรือชื่อไทยที่ผู้ชมคุ้นเคยคือ ‘แต่งงานกับผี’ ภาพยนตร์ยอดฮิตจากไต้หวันมารีเมกใหม่ฉบับภาษาไทยในชื่อ ‘ซองแดงแต่งผี’ (The Red Envelope)สำหรับ ‘ซองแดงแต่งผี’ (The Red Envelope) จะเป็นเรื่องราวที่ถูกตีความใหม่ให้สนุกและแต่งต่างไปจากต้นฉบับ โดยฝีมือของผู้กำกับ หมู-ชยนพ บุญประกอบ ที่ฝากผลงานประทับใจไว้กับ ‘FRIEND ZONE ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน’ และโปรดิวเซอร์ โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล จาก ‘พี่มาก..พระโขนง’ และนี่จะเป็นการพบกันครั้งแรกบนจอเงินของ 2 ศิลปินและนักแสดงแห่งยุคอย่าง บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุลและ พีพี-กฤษฏ์ อํานวยเดชกรแฟน ๆ อดใจรอกันอีกนิด เพราะ ‘ซองแดงแต่งผี’ มีแผนจะเข้าฉายในช่วงต้นปี 2568ภาพ : GDH / Calendar Studios Company Limited

เจฟ ซาเตอร์ จะมารับบทนำใน Project D ของ GDH ร่วมกับ อิงฟ้า วราหะ ซึ่งมีกำหนดเปิดกล้องปลายปีนี้

29 ส.ค. 2023

เจฟ ซาเตอร์ จะมารับบทนำใน Project D ของ GDH ร่วมกับ อิงฟ้า วราหะ ซึ่งมีกำหนดเปิดกล้องปลายปีนี้

GDH ออกมาอัปเดตความคืบหน้าของ Project D (Working Title) หนึ่งในโปรเจกต์ภาพยนตร์ชิ้นใหม่ของ GDH ผลงานของผู้กำกับ บอส-นฤเบศ กูโน ว่าจะกลับมาเริ่มกระบวนการทำงานอีกครั้ง หลังต้องระงับการทำงานไปชั่วคราว โดยมีความเปลี่ยนแปลงลิสของนักแสดงซึ่งครั้งนี้ได้ เจฟ ซาเตอร์ (Jeff Satur) ศิลปินและนักแสดงมากความสามารถมารับบทนำคู่กับ อิงฟ้า วราหะ“บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด ขอประกาศอัปเดตความคืบหน้าของภาพยนตร์ โปรเจกต์ D (Working Title) ซึ่งทางบริษัทมีเหตุจำเป็นต้องระงับการถ่ายทำไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากความไม่ลงตัวของระยะเวลาในการเตรียมงาน“ซึ่งทางบริษัทฯ ผู้กำกับภาพยนตร์ และทีมงานที่เกี่ยวข้องกับโปรเจกต์นี้ ได้ใช้เวลาในช่วงที่ผ่านมาในการแก้ไขปรับเปลี่ยนรายละเอียดต่างๆ ของบทภาพยนตร์จนสมบูรณ์เรียบร้อย ทางบริษัทฯ จึงขอแจ้งให้แฟน ๆ ทราบว่า ขณะนี้ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวกำลังจะเข้าสู่กระบวนการเตรียมงานก่อนการถ่ายทำจริงแล้ว โดยทีมนักแสดงหลักทั้ง 5 ท่าน ได้แก่ เจฟ ซาเตอร์, อิงฟ้า วราหะ, พงศกร เมตตาริกานนท์, หฤษฎ์ บัวย้อย และ สีดา พัวพิมล จะเริ่มทำการเวิร์กช็อปร่วมกัน เพื่อให้พร้อมสำหรับการเปิดกล้องที่จะเกิดขึ้นในปลายปีนี้“ทางบริษัทฯ ขอขอบคุณแฟนๆ ที่ให้ความสนใจรอชมภาพยนตร์เรื่องนี้ และให้การสนับสนุนที่ดีเสมอมา”สำหรับ Project D ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน GDH Line Up 2023 นำแสดงโดย พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร แต่เนื่องด้วยระยะเวลาในการเตรียมงาน รวมถึงสถานที่ที่ไม่ลงตัว ทำให้ต้องระงับการถ่ายทำไปชั่วคราว ขณะที่แฟนคลับเองก็แอบเสียดายที่จะไม่ได้เห็นฝีมือการแสดงภาพยนตร์ของ พีพี แต่ก็เคารพการตัดสินใจของทุกฝ่ายทางด้าน เจฟ ซาเตอร์ ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้แล้วว่า เป็นโอกาสดีที่ได้ร่วมงานกับทาง GDH และนักแสดงทุกคนในเรื่อง ส่วนตัวเขารู้สึกว่าเป็นงานที่ท้าทายมาก รวมถึงประเด็นหลักของเรื่องที่จะพูดถึงก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจทีเดียว“จริงๆ เราคุยกันมาประมาณ 3-4 เดือนแล้ว พอได้เห็นตัวบทก็รู้สึกว่ามันท้าทายมาก หลังจากนั้นก็ได้เข้าไปแคสต์กับพี่บอสผู้กำกับ ความน่าสนใจของตัวบทคือ มีการพูดถึงประเด็นที่น่าสนใจมาก ๆ ซึ่งเกี่ยวกับ LGBT ด้วย แล้วมันเป็นประเด็นที่ผมพูดมาตลอด เรารู้สึกว่าก็ดีนะถ้าเราจะได้เป็นตัวแทนในการพูดถึงเรื่องนี้แทนคนที่เขาไม่สามารถพูดออกมาได้ รวมถึงไดนามิกของเรื่องมันค่อย ๆ ไล่ไปจนถึงจุดที่มันไม่น่าจะไปถึงได้“ตอนแรกผมก็รู้สึกกังวลว่าผมเหมาะหรือเปล่า ซึ่งผู้ใหญ่บอกว่าจากการได้ดูวิดีโอแคสต์ก็รู้สึกว่านี่เป็นเวอร์ชั่นที่เขาอยากจะเห็นในหนังเรื่องนี้ ตอนแรกที่ผมกังวลเพราะตัวบทมันท้าทายมาก แล้วผมอาจจะมีเวลาเตรียมตัวไม่ได้เยอะขนาดนั้น แล้วการที่จะต้องทรานส์ฟอร์มตัวเองไปเป็นคนอื่นมันก็ยาก การทำงานเพลงมันคือการเป็นตัวเรา แต่งานหนังมันเป็นการทิ้งตัวเราแล้วไปเป็นคนอื่น“ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันกดดันอะไรในเรื่องนี้ แต่ถ้าจะกดดันผมกดดันกับเรื่องบทมากกว่า ในฐานะเป็นนักแสดงสิ่งที่ต้องทำการบ้านจริง ๆ คือตัวบท แล้วเราจะไปเป็นคนคนนั้นในหนังเรื่องนี้ได้ยังไง”เจฟ ยังบอกอีกว่า คาแร็กเตอร์ในเรื่องนี้ถือว่าเป็นที่สุดของการทรานส์ฟอร์มตัวเอง เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกที่แฟน ๆ ได้เห็นเขาในลุคผิวดำและต้องโกนหัว ซึ่งเขามองว่าหากจะต้องไปเป็นคนอื่น ก็ต้องทิ้งตัวตนของตัวเองไว้ที่หน้าเซ็ตแล้วเข้าไปในโลกของตัวละครนั้นจริง ๆ ต้องรอดูว่าฝีมือการแสดงของเขาจะออกมาเป็นยังไง แต่ที่แน่ ๆ เจฟ ก็ทุ่มสุดตัวเลยทีเดียวภาพ : Wayfer Records

album

0
0.8
1