ทันทีที่ภาพของนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง แม่สีดา พัวพิมล ปรากฎตัวเป็นหนึ่งในทีมนักแสดงนำของภาพยนตร์เรื่อง ‘วิมานหนาม’ จากค่าย GDH ผ่านการกำกับของ บอส-นฤเบศ กูโน ก็สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับคอหนังไทยมากทีเดียว เพราะนี่นับว่าเป็นการหวนคืนงานแสดงในรอบกว่า 20 ปี และหากย้อนไปเฉพาะงานภาพยนตร์ก็นานกว่า 36 ปีทีเดียว
ดังนั้นกลับมาทั้งทีแม่สีดาเลยหยิบเอาสกิลการด้านแสดง จากประสบการณ์ในฐานะนักแสดง และประสบการณ์ในฐานะแม่ที่สะสมมาตลอดชีวิต ร่วมถ่ายทอดลงไปเพื่อนำเสนอและสื่ออารมณ์ที่ดุเดือด ร่วมกับนักแสดงรุ่นใหม่ทั้ง อิงฟ้า วราหะ, เจฟ ซาเตอร์, เต้ย พงศกร และ เก่ง หฤษฎ์ แม้ว่าการถ่ายทำจะต้องเจอกับอุปสรรคและความท้าทายมากขนาดไหน แม่ก็สู้สุดใจไม่มีหวั่น จนเมื่อตัวอย่างแรกของ ‘วิมานหนาม’ ปล่อยออกมาก็ได้รับคำชื่นชมอย่างมาก โดยเฉพาะฝีมือของแม่สีดา
แม่สีดาเล่าถึงการคัมแบ็กบนจอเงินรอบนี้ว่า สำเร็จตั้งแต่วันที่หนังยังไม่เข้าฉาย เพราะจากตัวอย่างและโปสเตอร์ที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ มีคนเข้ามาชื่นชมเรื่องการแสดงมากมาย จนทำให้แม่รู้สึกภาคภูมิใจ แม้ว่าจะอายุมากแล้ว แต่กระแสแรงมากจริง ๆ ก่อนที่จะยืนยันว่ายังแกร่ง ยังสู้ และยังอยากที่จะทำงานที่รักนี้ต่อไป
“ที่ผ่านมาช่วงชีวิตมีหลายเรื่องราวมาก ความที่เราอยู่โดดเดี่ยวมานาน จนเกินจะอธิบาย พอได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ รู้สึกดีใจปนความไม่มั่นใจ มันกล้า ๆ กลัว ๆ ในหลาย ๆ อย่าง แต่ดีใจที่ได้กลับมาสู่อาชีพที่เรารัก ดีใจที่ยังมีคนเห็นคุณค่า บอกเลยว่าภูมิใจจนน้ำตาไหล ที่ผ่านมาเราได้ร่วมงานกับผู้กำกับรุ่นบรมครู พอได้มาร่วมงานกับน้องบอส ยอมรับเลยว่าต้องปรับตัวเยอะมาก แต่พอได้เห็นการทำงานของเขา ต้องยอมใจเลย เพราะเขาเป็นผู้กำกับรุ่นใหม่ที่มีฝีมือคนหนึ่ง เวลาบรีฟในแต่ละซีนทำให้เราเห็นภาพตัวละครชัดเจนมาก ทำให้เราดึงเอาอารมณ์มาใช้ได้แบบตรงคาแรกเตอร์”
แม่สีดาบอกอีกว่า พาร์ตความท้าทายที่สุดคือบทที่จะต้องเป็นแม่ที่สูญเสียลูกเลย เลยหยิบเอาอารมณ์และความสู้สึกของตัวเองที่เคยต้องสูญเสียลูกชายไปจริง ๆ มาใช้ในการช่วยสื่ออารมณ์ ซึ่งบทที่ได้รับกับความเป็นจริงในชีวิต ก็มีความคล้ายกันคือชีวิตที่ยากลำบาก และการสูญเสีย
“ฉากงานบวชเป็นอีกฉากที่ทำให้แม่อินมาก เพราะมีความเหมือนกับชีวิตจริงของแม่ ที่ลูกตายไปก่อนที่จะบวชให้ ซึ่งพอได้เล่นในซีนนี้ทำเอาน้ำตาซึม ตื้นตันใจ แถมยังยังตื่นตาตื่นใจกับประเพณีการบวชของแม่ฮ่องสอนที่เราเองยังไม่เคยเห็นมาก่อน อีกอย่างที่ดีใจมาก คือการที่ได้มาร่วมงานกับคนรุ่นใหม่ อย่างน้องอิงฟ้า น้องเจฟ น้องเต้ย น้องเก่ง ยอมรับฝีมือเลยว่าเด็กสมัยนี้เขาเก่งกันจริง ๆ
“และถึงเบื้องหน้ามีฉากที่ต้องปะทะกันรุนแรงแค่ไหน แต่เบื้องหลังคือทุกคนดูแลแม่ดีมาก รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่มากองถ่าย แม้ว่าเวลาทำงานจะใส่เต็มจนหมดแรง เพราะบท ‘แม่แสง’ เป็นบทที่หนักหน่วงและท้าทายมาก ๆ เป็นตัวละครที่มีมิติ มีด้านน่าสงสาร มีด้านร้าย มีมุมที่คาดไม่ถึง แม่อยากขอบคุณที่เลือกแม่มารับบทนี้ เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจในชีวิตการแสดงของแม่ ซึ่งแม่เองอยากเชิญชวนแฟนภาพยนตร์ให้มาดูหนังวิมานหนามกันด้วยนะคะ เป็นหนัที่น่าดูมาก ตัวละครแต่ละตัวก็คือไม่ธรรมดา ฟาดฟันแล้วก็เชือดเฉือนกันหนักมาก ตัวแม่เองก็ฟาดมากเช่นกันค่ะ มาดูกันเยอะ ๆ นะคะ รับรองว่าจะติดใจค่ะ”
‘วิมานหนาม’ เข้าฉายพร้อมกัน 22 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
ภาพ : GDH