เจเจ กฤษณภูมิ และ ต้าเหนิง กัญญาวีร์ เปิดค่าย QOW Entertainment ของตัวเอง โดยมี 4NOLOGUE ร่วมหุ้น

ENTERTAINMENT NEWS

เจเจ กฤษณภูมิ และ ต้าเหนิง กัญญาวีร์ เปิดค่าย QOW Entertainment ของตัวเอง โดยมี 4NOLOGUE ร่วมหุ้น

03 ก.พ. 2022

กอดคอกันเติบโตขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว สำหรับ 2 นักแสดงชื่อดังอย่าง เจเจ กฤษณภูมิ และ ต้าเหนิง กัญญาวีร์ เพราะล่าสุดออกมาเปิดตัว QOW Entertainment ค่ายใหม่ของตัวเอง และได้นั่งเก้าอี้เป็นผู้บริหารด้วยตัวเองด้วย

โดยมีการเปิดเผยรายละเอียดของ QOW Entertainment ว่า เป็นการร่วมลงทุนกันของทั้ง เจเจ และ ต้าเหนิง โดยมี วุธ อนุวัติ บิ๊กบอสค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่าง 4NOLOGUE ร่วมหุ้นก่อตั้งบริษัทด้วย และเป็นที่ปรึกษาด้วย ซึ่งจะยังคงดำเนินงานต่างๆ ในวงการบันเทิงไทยของทั้งคู่ และจะเริ่มมีการเปิดโอกาสในการลุยงานในต่างประเทศด้วย

ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการวางแผนในการเปิดรับศิลปินหน้าใหม่ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการเทรนด์ และเตรียมปลุกปั้นสร้างผลงานในวงการบันเทิงต่อไป ซึ่งแฟนๆ สามารถเข้าไปติดตามความเคลื่อนไหวของ QOW Entertainment ได้ทุกช่องทาง QOW_Ent ทั้ง Facebook, Instagram, Twitter, TikTok และ YouTube

ภาพ : ELLE Thailand

related ENTERTAINMENT NEWS

เจ เจตริน เผยผลตรวจติดเชื้อ COVID-19 แม้ฉีดวัคซีนแล้ว 4 เข็ม เบื้องต้นไม่มีอาการใดที่น่าเป็นห่วง-งานทั้งหมดถูกเลื่อน

22 ก.พ. 2022

เจ เจตริน เผยผลตรวจติดเชื้อ COVID-19 แม้ฉีดวัคซีนแล้ว 4 เข็ม เบื้องต้นไม่มีอาการใดที่น่าเป็นห่วง-งานทั้งหมดถูกเลื่อน

เจ เจตริน เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่ออกมาเปิดเผยว่าติดเชื้อโควิด-19 หลังจากเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตื่นมารู้สึกมึนหัว และมีไข้ต่ำๆ จึงเดินทางไปตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ที่โรงพยาบาล ก่อนจะทราบผลในภายหลังว่าเป็นบวก โดยเบื้องต้นไม่มีอาการใดที่น่าเป็นน่าเป็นห่วง และได้ปฏิบัติตามมาตรฐานการรักษา และตำแนะนำจากแพทย์ประจำแล้ว รวมทั้งแจ้งผู้ใกล้ชิดที่ถือว่ามีความเสี่ยงในเวลาที่ผ่านมา เพื่อเฝ้าระวังสังเกตอาการแล้ว ส่วนงานต่างๆ จำเป็นต้องถูกเลื่อนออกไปก่อนจนกว่าจะรักษาหายดี หรือได้รับอนุญาตจากแพทย์ว่าสามารถกลับไปทำงานได้แล้ว สำหรับ เจ เจตริน มีประวัติได้รับวัคซีนแล้ว 4 เข็ม และคาดว่าการติดเชื้อครั้งนี้น่าจะเกิดจากการไปสัมผัสระหว่างการแสดงคอนเสิร์ตแห่งหนึ่ง ยืนยันว่าจะระมัดระวังตัวเองให้ดีมากยิ่งขึ้นภาพ : jjetrin

ไปกางเต็นท์คนเดียว.. ระวังเจอเซอร์ไพร์สโดนเขย่าเต็นท์! สุดท้ายไม่ได้หลับไม่ได้นอน

19 ธ.ค. 2022

ไปกางเต็นท์คนเดียว.. ระวังเจอเซอร์ไพร์สโดนเขย่าเต็นท์! สุดท้ายไม่ได้หลับไม่ได้นอน

ในรายการ ‘อังคารคลุมโปง’ ที่ผ่านมา (13 ธันวาคม 2565) มีสายจาก ‘คุณโก้’ ได้โทรเข้ามาเล่าเรื่องชวนขนหัวลุกเกี่ยวกับการไปตั้งแคมป์นอนเต็นท์ที่ต่างจังหวัดคนเดียว ชวนให้ดีเจแนน - ดีเจ็ม - และดีเจมดดำ ได้อุทานร้องหวอไปตาม ๆ กัน กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘เขย่าเต็นท์’การตั้งแคมป์นอนเต็นท์ เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ในการท่องเที่ยวของบ้านเรา คุณโก้เองก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่อยากจะชมวิว ชิลไปกับบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนตุลาคมของปีที่แล้ว คุณโก้นัดกับเพื่อนว่าจะไปนอนเต็นท์ด้วยกันในวันธรรมดา เพราะวันหยุดจะมีคนเยอะ เมื่อได้จัดการจองและจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย พอถึงหนึ่งวันก่อนจะออกเดินทาง เพื่อนคุณโก้กลับเปลี่ยนใจไม่ไปเสียอย่างนั้น คุณโก้ที่เสียดายเงินที่จ่ายไป บวกกับสถานที่นอนเต็นท์อยู่ใกล้บ้าน ห่างประมาณ 30 กิโลเมตร จึงตัดสินใจเดินทางไปคนเดียวคุณโก้ไปถึงลานกางเต็นท์ในช่วงเที่ยง ลูกของเจ้าของสถานที่ ซึ่งมีเชื้อสายไทย-มอญ ก็เดินเข้ามาต้อนรับด้วยความอัธยาศัยดีและช่วยกางเต็นท์จนเสร็จเรียบร้อย จนเกือบจะถึงเวลาเย็น คุณโก้ก็ออกไปกินข้าว พอใกล้ 6 โมงเย็น ก็กลับมาที่เต็นท์ของตัวเอง ก็พบว่าบริเวณนั้น แทบจะไม่มีใครมากางเต็นท์นอนกันเลย ส่วนลูกเจ้าของสถานที่ก็กลับบ้านพักซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณนี้ไป คุณโก้อธิบายเสริมว่า ด้านหน้าของเต็นท์จะมีลำธารเล็ก ๆ ที่สามารถลงไปเล่นน้ำได้ เวลาผ่านไปจนถึง 1 ทุ่ม แม้จะมีแสงไฟอยู่บ้าง แต่ความมืดที่มากกว่าก็ปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณ คุณโก้ตัดสินใจเข้าไปนอนในเต็นท์ เพราะลึก ๆ ก็แอบหวั่นใจกับบรรยากาศในที่แห่งนี้…ใช้เวลาไม่นานคุณโก้ก็ผล็อยหลับไป กระทั่งเวลา 2 ทุ่ม คุณโก้ตื่นเพราะได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือ เป็นเพื่อนคนที่ตั้งใจจะมาด้วยกันนั่นเองที่โทรเข้ามา คุณโก้หัวเสียเล็กน้อยเพราะเพื่อนโทรมาจนทำให้ตื่น และบอกเพื่อนว่าที่นัดกันไว้นั้นตนมาคนเดียว คุยกันได้สักพักก็วางสายไป คุณโก้ตั้งว่าจะนอนต่อแต่ก็ไม่สำเร็จ ผ่านไปสักพัก ก็ได้ยินเสียงของคนประมาณ 3-4 คน เหมือนกำลังหาปลาอยู่ในลำธารด้านหน้าเต็นท์ (ซึ่งความสูงของน้ำในลำธารนั้นประมาณค่อนเอว) เสียงนั้นเดินใกล้เต็นท์มากขึ้นทุกที จากนั้นก็หยุด แล้วเสียงภาษาพม่าก็เริ่มดังขึ้น คุณโก้เริ่มคิดเตลิดในหัว ถ้าเปิดออกไปแล้วเป็นคน ก็คงจะน่ากลัวไม่น้อย เพราะเขามากันหลายคน แต่ถ้าเปิดไปแล้วไม่เจอใคร ก็ยิ่งทวีความน่ากลัวมากขึ้นไปอีก เสียงคุยยังคงดำเนินต่อไปประมาณ 10 นาทีได้ คุณโก้ที่เริ่มทนไม่ไหวก็ตัดสินใจจะเปิดเต็นท์ออกไปดู เพราะคิดว่าอย่างน้อยถ้าเป็นคนก็คงจะชื่นใจกว่า เมื่อคิดได้ดังนั้น ก็เปิดเต็นท์ออกไป ภาพที่เห็นนั้นแทบไม่เชื่อสายตา!คุณโก้พบว่าข้างนอกนั้น ไม่มีใครอยู่เลย! ภาพข้างหน้าเป็นธารน้ำที่เงียบสงัด มีเพียงแสงไฟสลัวจากดวงไฟไม่กี่ดวง คุณโก้เริ่มตระหนักในใจว่ายังไงก็โดนเข้าให้แล้ว แต่ด้วยความใจกล้า จึงจะยังนอนอยู่ที่นี่ อีกสักหน่อยตัวเองคงจะหลับไปเอง แต่แล้วก็ไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ เวลาผ่านไปไม่นาน ก็ได้ยินเสียงคนเดินเหยียบใบไม้บริเวณรอบ ๆ เต็นท์ และก็อีกครั้ง ที่เสียงนั้นมาหยุดอยู่ที่หน้าเต็นท์ คุณโก้ที่นอนหันหลังให้ฝั่งนั้นก็ต้องสั่นสะท้าน ไม่กล้าหันไปมอง จากนั้นเสียงก็ค่อย ๆ ย่องเดินไปต่อจนเริ่มเบาและหายไป วินาทีนั้นคุณโก้ก็โล่งใจ เพราะคิดว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว..อากาศข้างนอกดูเหมือนจะเย็นลง แต่คุณโก้ก็ไม่แน่ใจว่าข้างนอกมีลมแรงหรือไม่ สักพักเต็นท์ก็เริ่มเขย่าโดยอะไรบางอย่าง! คุณโก้ลุกขึ้นมานั่งชันเข่าตัวแข็งไปหมด เพราะจิตใจเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ในใจคิดว่าจะเอายังไงดี ถ้าจะกลับบ้านมันก็ดึกแล้ว ประมาณ 5 ทุ่มถึงเที่ยงคืนได้ ครั้นจะอยู่ต่อมันก็นอนไม่หลับแล้ว คุณโก้จึงบอกกับตัวเองว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นอีก จะกลับบ้านทันที!ไม่นาน ขณะที่คุณโก้นั่งชันเข่าอยู่ที่มุมบนตรงกลางเต็นท์ ใบหน้าก็มองไปที่อีกฝั่ง ทันใดนั้นก็มีหน้าคนยื่นเข้ามาจากข้างนอกทั้งที่ไม่ได้เปิดเต็นท์แล้วก็เด้งกลับไปในเสี้ยววินาที! (มียื่นหน้าเข้ามา แม้จะมีผ้าเต็นท์กั้นอยู่ คล้ายกับแม่พิมพ์) จังหวะนั้นคุณโก้ก็รู้ดีว่ามันคือใบหน้าของคนแน่ ๆ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร จากที่กลัวมาก คุณโก้ก็ปลดล็อคดับเครื่องชน รีบเปิดเต็นท์ออกไปดูและตะโกนลั่นป่าถามว่า “ใครครับ! ออกมาได้มั้ย?” สุดท้ายก็ไม่มีใครหรือเสียงอะไรตอบกลับมา ด้วยความที่อยู่คนเดียว จึงโทรหาเพื่อนคนเดิมแล้วเปิด Speakerphone ไว้ แต่เพื่อนบอกว่าคุยกับแฟนอยู่ คุณโก้จึงบอกว่า “กูกำลังเก็บเต็นท์กลับบ้าน มึงพูดอะไรก็ได้ แต่กูขอเก็บเต็นท์แปปนึง” (ประมาณว่าให้เพื่อนอยู่ในสายรอไว้) คุณโก้ใช้เวลาเก็บเต็นท์น้อยกว่ากางเต็นท์มาก คุณโก้เล่าเสริมว่า ขณะที่เดินกลับรถ ก็พึ่งจะรู้ตัวว่าบรรยากาศตรงนั้น มันไม่ปลอดภัยมาก ๆ ทั้งมืด และไม่มีใคร แล้วก็บอกกับตัวเองในใจว่า “กูนอนไปได้ไงเนี่ย” จากนั้นก็รีบออกไปโดยไม่ได้หันหลังกลับไปมองลานกางเต็นท์นั้นอีกเลยซึ่งทางดีเจเจ็มจึงถามกลับไปว่า “ปกติแล้ว เวลาเราไปกางเต็นท์ ก็มักจะต้องบอกเจ้าที่เจ้าทาง คุณโก้ได้ทำบ้างมั้ย?” คุณโก้บอกว่าไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นเลย เพราะคิดว่าคงไม่มีอะไร เรามานอนคนเดียว ไม่มีเจตนาร้ายใครได้ฟังหรืออ่านเรื่อง ‘เขย่าเต็นท์’ จากคุณโก้กันแล้ว ถ้ามีแพลนจะไปนอนเต็นท์กลางป่า ก็พกเพื่อนตัวเป็น ๆ ไปด้วยสักคน ดีกว่าไปเจอเพื่อนที่อาจไม่ใช่คนจะดีกว่านะ...ติดตามความสนุกย้อนหลัง

หลอนข้างทาง! เมื่อขับรถกลับบ้านคนเดียวยามวิกาล ดันเจอประสบการณ์ที่ทำให้ต้องโกนหัวตลอดชีวิต!

12 ต.ค. 2022

หลอนข้างทาง! เมื่อขับรถกลับบ้านคนเดียวยามวิกาล ดันเจอประสบการณ์ที่ทำให้ต้องโกนหัวตลอดชีวิต!

ประสบการณ์ขวัญผวานี้ มาจากคุณเบิร์ดพาหลอน สายแรกในรายการ “อังคารคลุมโปง” เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา (11 ตุลาคม 2565) ได้โทรเข้ามาแชร์ประสบการณ์ที่ได้ฟังจากรุ่นพี่ในวงดนตรีให้ดีเจแนน และดีเจเจ็มได้คลุมโปงไปพร้อมกัน เรื่องราวจะหลอนและชวนขวัญหนีดีฝ่ออย่างไร เชิญอ่านความหลอนกันได้เลย!คุณเบิร์ดเล่าว่าประสบการณ์หลอนนี้ ได้ฟังมาจากรุ่นพี่ที่เคยเล่นดนตรีด้วยกัน (ขอแทนว่า พี่เอ) ย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว คุณเบิร์ดยังเล่นดนตรีกลางคืนอยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทุกครั้งที่ต้องไปรับงานเล่นดนตรีด้วยกัน พี่เอจะใส่หมวกอยู่ตลอด จนกระทั่งวันหนึ่ง หลังเล่นดนตรีเสร็จ พี่เอได้ถอดหมวกออกมา ทำให้คุณเบิร์ดเห็นว่าพี่เอหัวโล้น จึงถามไปว่า “ทำไมถึงโกนหัวล่ะครับพี่?” พี่เอได้ตอบกลับมาว่า “เบิร์ด...เอ็งเชื่อเรื่องผีหรือเปล่า? ถ้าเอ็งเชื่อ พี่จะเล่าให้ฟัง แต่ถ้าไม่เชื่อ พี่จะไม่เล่า” คุณเบิร์ดตอบกลับด้วยเสียงหนักแน่นว่า “เชื่อครับ”พี่เอเล่าว่า ก่อนที่จะมาทำวงดนตรีกับคุณเบิร์ดในขณะนั้น เขาเคยเล่นอยู่อีกวงใน จ.พระนครศรีอยุธยาเช่นเดียวกัน แต่อาศัยอยู่ที่บ้านใน จ.อ่างทอง ทำให้ต้องขับรถไปกลับอ่างทองและอยุธยาอยู่เสมอ แน่นอนว่าหลังเลิกงาน เวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงตี 2-3 แล้ว และนั่นคือเวลาที่พี่เอต้องขับรถกลับบ้าน...จนกระทั่งคืนหนึ่ง พี่เอได้ขับรถกลับบ้านในเวลาปกติ โดยใช้เส้นทางที่หลายคนก็รู้กันดีว่ามืดมาก พอขับไปสักระยะ พี่เอก็สังเกตเห็น “คน” ยืนอยู่ข้างหน้าไกลๆ เมื่อรถขับเข้าไปใกล้ “คน” ที่ว่า ก็เริ่มเห็นชัดแล้วว่าคนคนนี้ “ไม่มีหัว!”เมื่อพี่เอเห็นดังนั้น ก็รวบรวมสติไม่ให้ตัวเองหันไปมอง และพยายามมองตรงไปข้างหน้า พอขับผ่านตรงนั้นไป พี่เอมองไปที่กระจกรถก็ยังเห็น “ร่างที่ไม่มีหัว” ยืนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน แต่ยังไม่ทันได้หายตกใจ ขับต่อไปอีกสักพัก ก็ยังเจอร่างเดิมย้ายมายืนอยู่ข้างหน้าอีกครั้ง!รอบนี้พี่เอแทบตั้งสติไม่อยู่ แต่ก็พยายามเอาหน้าไปแนบกับพวงมาลัย เพื่อที่จะได้ไม่เห็นเงาสะท้อนกระจกอีก ไม่กี่อึดใจ ก็มีเสียงดังมาจากหลังรถ “ตุ้บ! ตุ้บ! ตุ้บ!” พี่เอทำตามสัญชาติญาณหันกลับไปดูทันที สิ่งที่เห็นคือร่างที่ไม่มีหัว กำลังวิ่งตามรถมาอย่างบ้าคลั่ง และที่มาของเสียง “ตุ้บ! ตุ้บ! ตุ้บ!” คือ “หัว” ที่กระทบกระรถของพี่เอนั่นเอง!เมื่อขับรถกลับถึงบ้าน พี่เอก็รีบลงจากรถ และตรงไปที่นอนเพื่อคลุมโปงทันที ด้วยความแปลกใจของภรรยา เธอจึงถามพี่เอว่า “เกิดอะไรขึ้น?” แต่พี่เอก็ไม่ยอมตอบอะไรกลับมา ภรรยาที่เห็นดังนั้นจึงออกไปเลื่อนรถมาจอดในบริเวณบ้านเช้าวันรุ่งขึ้น พี่เอได้เล่าเรื่องเมื่อคืนให้กับภรรยาฟัง เธอจึงบอกว่า “ตอนที่ขับรถเข้าไปจอดในบ้าน เห็นมีคนมายืนอยู่หน้าบ้าน คิดว่าเป็นเพื่อนของพี่ กะว่าขยับรถเข้ามาแล้ว จะไปเรียกคนนั้นเข้ามาในบ้าน แต่พอลงจากรถมาก็ไม่เจอคนนั้นยืนอยู่แล้ว” นอกจากนี้ภรรยาก็ยังบอกเพิ่มเติมอีกว่าคนคนนั้นเขามีหัวปกติหลังจากคืนนั้น พี่เอต้องหยุดงานเล่นดนตรีกลางคืนเกือบทั้งสัปดาห์ เพราะมีไข้ขึ้นสูง และเส้นผมก็หลุดออกมาเป็นกระจุกอย่างไม่มีสาเหตุ แถมผมที่ขึ้นใหม่นั้น ยังมีสภาพไม่เหมือนเดิมอีกด้วย พี่เอจึงตัดสินใจตัดโกนผมจนกระทั่งทุกวันนี้…สามารถติดตามชมความหลอนย้อนหลังแบบเต็มๆ ได้ทางหากคุณชอบเรื่องหลอน และอยากแชร์ประสบการณ์ขนหัวลุก รับชมรายการสดได้ทุกวันอังคาร เวลา 20.00-22.00 น. ทางคลื่นวิทยุ EFM94 และ App : Atimefungfin

เจเจ และ ต้าเหนิง แจ้งความเอาผิดกับอดีตพนักงาน หลังพบว่ามีการนำข้อมูลบริษัทไปเผยแพร่จนเสียหาย

10 ม.ค. 2024

เจเจ และ ต้าเหนิง แจ้งความเอาผิดกับอดีตพนักงาน หลังพบว่ามีการนำข้อมูลบริษัทไปเผยแพร่จนเสียหาย

บ่ายวันนี้ (10 มกราคม 2567) 2 นักแสดงอย่าง เจเจ-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม และ ต้าเหนิง-กัญญาวีร์ สองเมือง ในฐานะซีอีโอของบริษัท QOW Entertainment เดินทางไปพร้อมกับทนาย เพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังกับการปราบปรามกองบัญชาการสอบสวนกลาง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายชิตภณ หรือ แต๊ก อดีตพนักงานในข้อหาเปิดเผยข้อมูลความลับทางการค้าของบริษัทฯ จนเกิดความเสียหายตัวแทนฝ่ายกฏหมายเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า นายชิตภณ หรือ แต๊ก นำเอาข้อมูลซึ่งเป็นประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งนับว่าเป็นความลับของบริษัทไปเปิดเผยกับบุคคลอื่น จนเป็นเหตุให้บริษัท รวมถึง เจเจ และ ต้าเหนิง เกิดความเสียหาย ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติความลับทางการค้า พ.ศ. 2545 มาตรา 33ขณะที่ เจเจ และ ตาเหนิง เล่าว่า การกระทำในลักษณะดังกล่าว ส่งผลโดยตรงเพราะถูกกล่าวหาว่าไม่รักษาความลับของลูกค้า และทำให้บริษัทเสียผลประโยชน์ทางธุรกิจ จากข้อมูลที่รั่วไหลเป็นความเสียหายอย่างหนัก สำคัญที่สุดคือส่งผลต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถประเมินค่าได้นอกจากนี้ เจเจ และ ตาเหนิง ยังบอกเพิ่มเติมว่า ทราบเรื่องตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 และได้มอบหน้าที่ให้ทีมกฏหมายตามสืบและรวบรวมพยานหลักฐาน จนมีการแจ้งความดำเนินคดีไว้ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายนปีเดียวกัน จากนี้เจ้าหน้าที่จะมีการเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง และออกหมายเรียกผู้ต้องหาเพื่อดำเนินการใส่ส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปภาพ : QOW Entertainment

album

0
0.8
1