10 - 11 มิถุนายนนี้! เตรียมระเบิดความมันส์ไปกับเวิลด์ทัวร์เดี่ยวครั้งแรก ‘SUGA | AGUST D TOUR BANGKOK’

ENTERTAINMENT NEWS

10 - 11 มิถุนายนนี้! เตรียมระเบิดความมันส์ไปกับเวิลด์ทัวร์เดี่ยวครั้งแรก ‘SUGA | AGUST D TOUR BANGKOK’

22 มี.ค. 2023

SUGA (ชูก้า) เมมเบอร์จากป๊อปไอคอนแห่งยุค BTS ประกาศเวิลด์ทัวร์เดี่ยวครั้งแรกใน ‘SUGA | AGUST D TOUR Bangkok’ อาร์มี่ไทยเตรียมตัวให้พร้อม เจอกันสองรอบจุใจ เสาร์ที่ 10 และอาทิตย์ที่ 11 มิถุนายนนี้ ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

 

ตั้งแต่ปล่อยผลงานชุดแรก Skool Luv Affair ชูก้าเป็นที่รู้จักในฐานะศิลปิน และนักแต่งเพลงที่ขยายจักรวาลเพลงของ BTS ให้กว้างขึ้นจนแทบไร้ขอบเขตในทุกอัลบั้ม นอกจากนี้ชูก้ายังมีผลงานมิกซ์เทปที่ตอกย้ำวิสัยทัศน์ในฐานะศิลปินในนาม Agust D และยังร่วมงานกับศิลปินระดับโลกมากมายไม่ว่าจะเป็น Juice WRLD Max และ So-ra Lee รวมไปถึงประสบความสำเร็จในฐานะโปรดิวเซอร์ ที่โปรดิวซ์เพลงให้กับศิลปินดังมากมายทั้ง Halsey PSY Epik High ØMI และศิลปินชื่อดังอื่นๆ อีกมากมาย

 

ด้วยผลงานเพลงอันหลากหลายภายใต้ชื่อ SUGA และ Agust D ก็ถึงเวลาแล้วที่แรปเปอร์ตัวจี๊ดแห่ง BTS จะได้แสดงผลงานซิกเนเจอร์ของตัวเองให้อาร์มี่ทั่วโลกได้เห็นในเวิลด์ทัวร์แรกของเขา

 

อาร์มี่ไทยเตรียมตัวฟิน ไปกับคอนเสิร์ตเดี่ยวของศิลปินสุดต๊าซแห่ง BTS ‘SUGA | AGUST D TOUR Bangkok’ บัตรราคาเริ่มต้น 2,500 บาท จำหน่ายบัตร ARMY MEMBER Presale  2 เมษายน (10.00 - 22.00 น.) ทาง thaiticketmajor.com จำหน่ายบัตรทั่วไป 3 เมษายน 10 โมงเช้าเป็นต้นไปทาง thaiticketmajor.com 

 

ภาพ : Live Nation Tero

related ENTERTAINMENT NEWS

เพลง ‘Standing Next to You’ จากอัลบั้ม GOLDEN ของ Jung Kook ถูกสตรีมไปแล้วกว่า 300 ล้านครั้งบน Spotify

22 ม.ค. 2024

เพลง ‘Standing Next to You’ จากอัลบั้ม GOLDEN ของ Jung Kook ถูกสตรีมไปแล้วกว่า 300 ล้านครั้งบน Spotify

แม้ว่าตอนนี้ จองกุก มักเน่ทองคำแห่งวง BTS จะยังคงรับราชการทหารอยู่ในรั้วกรมฯ แต่ผลงานต่าง ๆ ของเขาก็ยังคงเดินหน้าสะสมยอดการฟัง การดูอย่างต่อเนื่อง เพราะล่าสุดทาง Spotify แพลตฟอร์มมิวสิกสตรีมมิงดัง ออกมาเปิดเผยว่า ‘Standing Next to You’ เพลงไตเติลจากอัลบั้มเดี่ยวแรกของ จงกุก อย่าง GOLDEN ถูกสตรีมไปแล้วมากกว่า 300 ล้านครั้ง หลังวางจำหน่ายเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา โดยใช้เวลาเพียง 71 วันเท่านั้นในการสร้างสถิติการฟังถล่มทลายนี้ทำให้ ณ ขณะนี้ จองกุก มีเพลงที่ทำยอดสตรีมกว่า 300 ล้านครั้งมากถึง 6 เพลง ทั้ง ‘Euphoria’ (2018), ‘Dreamers’ (2022), ‘Seven’ (2023), ‘3D’ (2023), ‘Standing Next to You’ (2023) รวมถึงเพลง ‘Left and Right’ ที่เขาได้ร่วมงานกับ ชาร์ลี พูท (Charlie Puth) ในปี 2022 ซึ่งทุกความสำเร็จของทุกบทเพลง ตอกย้ำว่าเขาเป็นหนึ่งในศิลปินที่ทรงอิทธิพลทางดนตรีระดับโลกได้อย่างดีอีกทั้งจากความสำเร็จต่าง ๆ ทำให้ในปีนี้ จองกุก กลายเป็นศิลปิน K-POP ที่ถูกเสนอเชื่อเข้าชิงรางวัลจากเวทีต่าง ๆ มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของงานประกาศรางวัล อาทิ งาน iHeartRadio Music Awards ปี 2024 เขาถูกเสนอชื่อเข้าชิงทั้งหมด 4 สาขา อัลบั้มเดบิวต์ยอดนิยม, มิวสิกวิดีโอยอดเยี่ยม, ศิลปิน K-POP แห่งปี และ เพลง K-POP แห่งปี งาน E! People's Choice Awards เขาถูเสนอชื่อเข้าชิง 4 สาขาเช่นกัน คือ รางวัลขวัญใจประชาชน (PCA) ได้แก่ ศิลปินป๊อปแห่งปี, ศิลปินชายแห่งปี, ศิลปินหน้าใหม่แห่งปี และ เพลงคอลแล็ปส์แห่งปีเรามารอติดตามกันต่อไปว่า เขาจะสามารถกวาดรางวัลมาได้มากน้อยขนาดไหน รวมถึงยอดวิวและยอดสตรีมต่าง ๆ จะทะยานขึ้นไปสูงอีกเท่าใดภาพ : BIGHIT_MUSIC

EFM94 Exclusive Talk ‘Jackson Wang’ “พี่แจ็ค” น่ารักเกินปุยมุ้ย! ทำแฟนคลับใจฟู ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ประเทศไทย

25 ก.ค. 2022

EFM94 Exclusive Talk ‘Jackson Wang’ “พี่แจ็ค” น่ารักเกินปุยมุ้ย! ทำแฟนคลับใจฟู ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ประเทศไทย

ทำเอาตึก GMM แทบแตกกันเลยทีเดียว (19 กรกฎาคม 2565) เมื่อคลื่นวิทยุ “EFM94” ได้เปิดสตูดิโอต้อนรับ “Jackson Wang” สู่ Exclusive Talk ‘Jackson Wang’ จาก TEAM WANG records ร่วมพูดคุยกับ “ดีเจอ้อม สุนิสา” และ “ดีเจพีเค ปิยะวัฒน์” ซึ่งบรรยากาศในสตูดิโอเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสนุกสนาน เพราะด้วยความเป็นกันเองของ “พี่แจ็ค” จึงทำให้ทั้งดีเจและแฟนคลับได้มีความสุข ใจฟูไปตาม ๆ กันเริ่มต้น Exclusive Talk ก็เรียกเสียงหัวเราะด้วยการทดลองเป็น “ดีเจพี่แจ็ค” และได้พูดถึงทุเรียน ผลไม้สุดโปรดที่ “พี่แจ็ค” ชอบทานมาก งานนี้ดีเจก็ถามว่า มาประเทศไทยครั้งนี้ได้ทานทุเรียนหรือยัง? พี่แจ็คก็ตอบกลับพร้อมเสียงหัวเราะว่า “ผมชอบทุเรียน ทุกคนที่เจอผมมักจะเอาทุเรียนมาให้เต็มเลย จนผมอยากจะบอกไปว่าหยุดก่อนครับ...” เป็นอีกหนึ่งคำถามที่แฟนคลับส่งเข้ามาถามกันเยอะที่สุด คือ “พี่แจ็ค” มาประเทศไทยแล้วได้ไปเที่ยวที่ไหนหรือไปกินอะไรบ้างหรือยัง? งานนี้ “พี่แจ็ค” ก็ได้เล่าว่า “เมื่อสองสามวันก่อน เวลาประมาณตี 2 – 3 หลังจากซ้อมเต้นเสร็จ “พี่แจ็ค” แอบไป Foodland สั่งซุปข้าวโพดและข้าวผัดอเมริกัน อร่อยมาก อาหารก็มาไวรวดเร็วทันใจ และที่สำคัญถูกและดี”“พี่แจ็ค” ประทับใจจนต้องพูดออกมาว่า “แล้วจะบอกว่า ‘Foodland’ It’s the best”และอีกหนึ่งคำถามที่หลายคนอยากรู้ คือ ในวงการบันเทิง มีบทบาทไหนอีกบ้างที่ “พี่แจ็ค” อยากทำ? ซึ่ง “พี่แจ็ค” ก็ได้บอกว่า “อยากเป็นนักแสดงแอคชั่น แต่ยังไม่เข้าวงการภาพยนตร์จนกว่าจะพร้อมหรือมีการฝึกซ้อมจนกว่าทุกคนคิดว่าเขาเหมาะสมที่จะอยู่ตรงนี้ แต่ถ้าได้เล่นจริง ๆ ก็ขอบทที่ไม่โรแมนติก ไม่มีเลิฟซีน เพราะเขิน” ทำเอา “พี่แจ็ค” ต้องพูดเป็นภาษาไทยว่า ‘ไม่ไหว...’หลังจากดีเจบอกว่า #PJACKxEFM94 ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ประเทศไทย“พี่แจ็ค” ถึงกับพูดเป็นภาษาไทยว่า “ขอบคุณทุกคน รักนะจุ๊บ ๆ เราอยากจะบอกว่าสู้ ๆ ครับ” สุดท้ายก่อนจะจบรายการ “พี่แจ็ค” ก็ได้ฝากข้อคิดดี ๆ ถึงเหล่าอากาเซ “รักตัวเองมาก ๆ เพื่อจะได้มีพื้นที่ในการรักคนอื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นวันที่แย่แค่ไหน หวังว่าผลงานและความสามารถของผมจะเยียวยาคุณได้ สุดท้ายรักตัวเองให้มากที่สุด แล้วอย่าทิ้งความฝันของตัวเอง...” สามารถฟังสัมภาษณ์ได้ทาง

ยินดีกับคุณแม่ป้ายแดง “รถเมล์ คะนึงนิจ” ตั้งครรภ์แล้ว!

04 ก.ค. 2022

ยินดีกับคุณแม่ป้ายแดง “รถเมล์ คะนึงนิจ” ตั้งครรภ์แล้ว!

ยินดีกับคุณแม่ป้ายแดงคนใหม่ “รถเมล์ คะนึงนิจ” หลังจากแต่งงานกับหนุ่มนอกวงการ “คุณบอล สุเมธ” มาได้ 2 ปี ล่าสุดวันนี้ “รถเมล์” ตั้งครรภ์แล้ว! โดยโพสต์ภาพคู่ สามีและคุณแม่ ถือภาพอัลตร้าซาวด์ลงบนอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “สุขสันต์วันเกิดค่ะมามี๊ วันเกิดปีนี้ของขวัญสำหรับครอบครัวเราก็คือจิ๋วน้อย น้องจิ๋วลั้ลลาในท้องสบายใจ ในขณะที่แม่แพ้ท้องไปทำงานแทบไม่ไหว เข้าใจหัวอกของคนเป็นแม่เลยว่ายากและอดทนขนาดไหนกว่าลูกจะโตขึ้นมาได้… รักมามี๊นะคะ มีความสุขมากๆ แข็งแรงๆ รอมาเล่นกับจิ๋วปลายปีนะคะ ต่อไปสถานะเป็นอาม่าแล้วนะ” หลังจากที่โพสต์ภาพไปได้ไม่นาน ก็มีเพื่อนๆ ในวงการบันเทิง และแฟนคลับ ต่างเข้ามาคอมเมนต์แสดงความยินดีกันอย่างล้นหลาม EFM ขอร่วมแสดงความยินดีกับทั้งคู่ด้วยนะคะภาพ : rodmayaloha

จำฝังใจ!! แม่เปลี่ยนไป เพราะปลดเบาผิดที่…

20 ต.ค. 2022

จำฝังใจ!! แม่เปลี่ยนไป เพราะปลดเบาผิดที่…

เรื่องราวชวนขนหัวลุกนี้ มาจากคุณฟีน สายแรกที่โทรเข้ามาแชร์ประสบการณ์ของคุณแม่ให้ดีเจแนน และดีเจเคเบิลได้คลุมโปงไปด้วยกัน ในรายการ “อังคารคลุมโปง” เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา (18 ตุลาคม 2565)คุณฟีนเล่าว่า ครอบครัวของคุณฟีนมีกิจการคณะลิเก ในช่วงๆ หนึ่งของทุกปี จะต้องเดินทางไปแสดงลิเกที่วัดชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ และในปีที่ทำให้ต้องพบกับประสบการณ์หลอนนั้น คือปี พ.ศ. 2545 ทางวัดได้จัดพื้นที่ให้คณะลิเกตั้งซุ้มคณะใกล้ๆ กับพื้นที่ก่อสร้างด้วยพื้นที่ที่จำกัดทำให้คณะลิเก จัดตั้งได้เพียงแค่ด้านหน้าเวทีการแสดงเท่านั้น ส่วนด้านหลังที่เป็นพื้นที่พักผ่อนหรือแต่งตัวแต่งหน้าของทีมงานและนักแสดง ต้องย้ายไปจัดอยู่ในพื้นที่ก่อสร้างข้างๆ ที่เป็นลักษณะลานกว้างและหลังคายังสร้างไม่เสร็จดี ถัดจากลานกว้าง ก็มีห้องๆ หนึ่งที่ยังเป็นโครงประตู หน้าต่างที่กำลังก่อสร้างอยู่และเนื่องจากทางวัดไม่เคยจัดให้โรงลิเกอยู่ในพื้นที่นี้มาก่อน ทำให้ระยะทางระหว่างโรงลิเกและห้องน้ำอยู่ห่างกันมาก ทีมงานและนักแสดงหลายคนจึงตัดสินใจปลดเบาที่ห้องห้องนั้นแทน...จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่ยังมีการแสดงลิเกอยู่นั้น คุณแม่ของคุณฟีนก็ได้ไปปลดเบาที่ห้องนั้นเช่นเคย หลังจากนั้นแกก็เริ่มมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงราวกับว่ามีคนเอาไม้หน้าสามมาตีที่หัวอย่างไรอย่างนั้น!เมื่อการแสดงจบลง คนในครอบครัวก็สังเกตว่าอาการปวดหัวนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั้งทำให้ตาของคุณแม่เหล่ และเมื่อคุณแม่ไปหาหมอ ก็ได้รับมาเพียงยาพาราเซตามอลคุณฟีนเล่าต่ออีกว่า บ้านของเธอเป็นบ้าน 2 ชั้น ชั้นบนมี 4 ห้อง แบ่งเป็นฝั่งซ้ายขวาอย่างละ 2 ห้อง ซึ่งทางด้านขวาเป็นห้องพระ ในระหว่างที่คุณพ่อกำลังประคองคุณแม่เดินขึ้นมายังชั้น 2 จู่ๆ คุณแม่ก็ก้มหัวตัวเองลงกับพื้น จากนั้นก็ไถหัวแล้วเบนหน้าหนีจากห้องพระเพื่อขึ้นบันไดจนถึงห้องแล้วก็ปิดประตูทันที!คุณฟีนเสริมว่า ภายในห้องพระนั้น มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของต้นตระกูลอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคือพ่อแก่ที่ตกทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ของทวด ซึ่งไม่มีใครกล้าบูรณะให้เพราะหลายคนสัมผัสได้ถึงความดุของท่านเมื่ออาการของคุณแม่เริ่มหนักขึ้น บรรดาญาติๆ ต่างก็แวะเวียนมาเยี่ยมเยียน ไม่ต่างจากคุณลุง ผู้ซึ่งทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งแถบบางรัก คุณลุงเองก็อยากให้คุณแม่ไปรักษาที่โรงพยาบาลนี้ และตั้งใจจะไปขอให้คุณหมอที่สนิทกันช่วยรักษาให้เมื่อไปถึงโรงพยาบาล คุณหมอก็ยินดีรับคุณแม่เข้ารับการรักษา ซึ่งตอนนั้นคุณฟีนเองก็สัมผัสได้ว่าตอนนี้เหมือนคุณแม่ของเธอเหมือนมีสองคนอยู่ในร่างเดียว บางครั้งก็เป็นคุณแม่ที่คุณฟีนรู้จัก แต่ในบางครั้งก็จะแสดงท่าทีแปลกไปทางด้านลูกพี่ลูกน้องของคุณฟีน ก็รู้สึกแปลกใจเรื่องนี้เช่นกัน ขณะที่คุณแม่กำลังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ญาติของคุณฟีน จึงลองสวดคาถาชินบัญชร พอสวดเสร็จก็สอดคาถาไว้ใต้หมอนของคุณแม่ จากนั้น คุณแม่ก็ตื่นขึ้น!แต่กลับกลายเป็นว่า คุณแม่ไม่ยอมนอนหนุนหมอนที่มีคาถาซ่อนอยู่ พร้อมกันนั้นแกกลับสลับเอาเท้าไปพาดกับหมอนแทน ก่อนจะพูดว่า “ไม่นอน ไม่อยากนอน ไม่เอา” ซ้ำวนไปมาหลายรอบ แล้วยังบอกอีกว่า “เอาบทสวดมนต์ออกไป” เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนเข้าใจแล้วว่า คุณแม่ต้องโดนของหรืออะไรบางอย่างแน่ๆ... แต่ก็จะรักษาด้านวิทยาศาสตร์ควบคู่กับความเชื่อไปด้วยผ่านไปได้ 3-4 วัน คุณอาที่รับหน้าที่เฝ้าคุณแม่ก็ได้โทรมาบอกว่า คุณแม่เริ่มอาการไม่ดี ให้รีบมาที่โรงพยาบาลด่วน ถ้าคืนนี้ไม่ไหว ก็อาจจะต้องปล่อยให้คุณแม่ไป เมื่อไปถึงโรงพยาบาล บรรดาญาติก็เห็นว่าคุณแม่ไม่ได้นอนซมเพราะป่วย แต่ลุกขึ้นมาพูดด้วยเสียงเล็กเสียงน้อยว่า “ขอตังค์หน่อยสิ ขอตังค์หน่อยได้ไหม” ญาติก็ถามกลับว่า “จะเอาตังค์ไปทำอะไร?” แม่ก็ตอบว่า “อยากได้เงิน ต้องใช้เงิน”หลังจากนั้นคุณหมอก็พาเข้าห้องไป เมื่อรักษาเสร็จก็พาออกมา และดูเหมือนว่า อาการของคุณแม่จะดีขึ้น แต่ก็ถูกมัดมือมัดเท้าเพราะมีสายท่อที่ใช้ในการรักษาระโยงระยางเต็มไปหมดทางครอบครัวยังคงรักษาคุณแม่ต่อในโรงพยาบาล ส่วนในแง่ของความเชื่อ ก็มีคนแนะนำมาว่าให้ไปหาพระวัดป่ารูปหนึ่งในจ.ราชบุรี เผื่อท่านจะช่วยได้ จากนั้นคุณย่าก็ไปหาพระรูปนั้น เพื่อนำวันเดือนปีเกิดของคุณแม่ไปให้ พอยื่นให้ท่าน ท่านก็พูดว่า “เขาโกรธนะ ไปเยี่ยวรดหัวเขาแบบนั้น คนมอญน่ะเขาโกรธนะ เขาจะเอาไปเลยนะ”นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า “คนที่มาสิง เป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ ผิวสองสี เป็นคนมอญ”และยังถามอีกว่า “มีลูก 2 คนใช่ไหม?” ย่าก็ตอบว่า “ใช่” พระท่านจึงแนะนำว่า “ให้คนโตบวช 15 วัน ส่วนคนเล็กให้เลิกกินเนื้อตลอดชีวิต และให้นำของไหว้ ไปที่ที่แม่เคยโดนของ แล้วก็ขอขมา บอกว่าเราไม่ได้ตั้งใจ” หลังจากนั้นไม่กี่วัน คุณย่าก็รีบไปทำพิธีตามที่พระท่านบอก คุณย่าเล่าให้ฟังว่า ที่ตรงนั้นทั้งมืด ทั้งน่ากลัว แต่ก็ทำการสวดมนต์และขอขมาจนเสร็จสิ้นกลับมาที่ฝั่งของโรงพยาบาล ก็เหมือนมีอะไรมาดลใจคุณหมอให้เดินมาที่เตียงของคุณแม่ แล้วถามคุณอาว่า “ขอถามหน่อยสิ คนไข้ตาเหล่มาตั้งแต่กำเนิดเลยไหม?” อาก็ตอบกลับว่า “ไม่ใช่ค่ะ” เมื่อคุณหมอได้ยินดังนั้น ก็ให้นักศึกษาแพทย์มาช่วยกันตรวจอาการของคุณแม่ทันที เพราะมีเคสน้อยมากที่จะปวดหัวจนตาเหล่แบบนี้ เมื่อคุณหมอได้วินิจฉัยเสร็จแล้ว ผลตรวจออกมาว่า คุณแม่มีอาการไวรัสขึ้นสมอง เป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่คุณย่าได้ไปขอขมาพอดี คุณแม่ก็เริ่มมีอาการดีขึ้นแต่ก็ใช้เวลาเกือบ 1 เดือนเต็มเลยทีเดียวเมื่อได้ออกจากโรงพยาบาล คุณแม่ก็กลายเป็นคนที่พูดช้าลง รวมทั้งการกระทำต่างๆ ก็ด้วย แล้วคุณแม่ก็เล่าให้ฟังว่า “ก่อนที่แม่จะไปโรงพยาบาล แม่ก็ยืนอยู่หน้าห้องพระ แล้วพูดว่าพ่อแก่ ขอให้ลูกหายกลับมา ลูกจะบวช 15 วัน” แล้วก็บอกว่าตอนที่อยู่โรงพยาบาลแม่ฝันว่า “มีคนมาจ้างลิเกให้ไปเล่นบนสวรรค์ แม่ก็ชักรอกขึ้นไป แล้วก็มีคนเอาตุ๊กตามาให้แม่ถือเต็มมือเลย แต่แม่ก็ทำหล่น คนข้างล่างที่เป็นเหมือนคนมอญก็พูดขึ้นมาว่าทำหล่นเหรอ แล้วก็โดนด่า” แล้วยังฝันอีกว่า “แม่กระโดดข้ามตึกไปมา แล้วก็ไม่ตาย มีคนมาช่วย แล้วก็เห็นคนที่ตายทุกคนมายืนล้อมเตียงเหมือนพยายามจะมาช่วยแม่”หลังจากนั้น คุณแม่และพี่ชายของคุณฟีนก็ไปบวช ส่วนคุณฟีนก็เลิกกินเนื้อตลอดชีวิต และคุณแม่ก็ได้ไปหาพระรูปนั้นที่คุณย่าเคยไปหา พระท่านก็แนะนำอีกว่า “ให้เลิกกินหอยที่มีคนเอาไปปล่อย พยายามทำบุญตักบาตรเรื่อยๆ นะ”แต่หลายคนก็สงสัยว่ามีทีมงานและนักแสดงหลายคนที่ไปปลดเบาในห้องนั้น ไม่เห็นมีใครมีอาการเหมือนคุณแม่เลย ท่านจึงบอกว่า “อาจเพราะดวงกำลังตก และเป็นคนจิตอ่อนทำให้โดนได้ง่าย”นับตั้งแต่วันนั้น คุณแม่ก็ยังคงพูดช้าจวบจนทุกวันนี้ แต่ก็ไม่มีอาการแปลกๆ เหมือนช่วงที่เข้าโรงพยาบาลอีกเลย... สามารถติดตามชมความหลอนย้อนหลังแบบเต็มๆได้ทางหากคุณชอบเรื่องหลอน และอยากแชร์ประสบการณ์ขนหัวลุก รับชมรายการสดได้ทุกวันอังคาร เวลา 20.00-22.00 น. ทางคลื่นวิทยุ EFM94 และ App : Atimefungfin

album

0
0.8
1