บ้านพักร้างสร้างเรื่อง! 12 พยานหลอนเห็นตรงกัน ขนาดทำบุญใหญ่แล้วก็ยังดุดัน ไม่เกรงใจใคร! | อังคารคลุมโปง

ENTERTAINMENT NEWS

บ้านพักร้างสร้างเรื่อง! 12 พยานหลอนเห็นตรงกัน ขนาดทำบุญใหญ่แล้วก็ยังดุดัน ไม่เกรงใจใคร! | อังคารคลุมโปง

27 ธ.ค. 2022

รายการ ‘อังคารคลุมโปง’ ที่ผ่านมา (20 ธันวาคม 2565) ได้เชิญ ‘คุณแจ็ค The Ghost Radio’ กลับมาเล่าเรื่องผีกันอีกครั้ง คราวนี้แพ็คความหลอนมาเต็มกระเป๋าต้อนรับปีใหม่ กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘ผีในวงเหล้า’ งานนี้ทำเอาดีเจแนน และดีเจซันเดย์ต้องอ้าปากค้าง ยกให้เป็นเรื่องหลอนระดับสิบกันเลยทีเดียว !

คุณแจ็คเกริ่นเรื่องว่า ในทุก ๆ วงสนทนา และการดื่มกินสังสรรค์ ภายใต้ค่ำคืนแห่งความมืดมิด บรรยากาศหลอน ๆ ชวนให้ต้องเล่าเรื่องผี ดังนั้นเรื่องที่จะเล่านี้ ผีไม่ได้ปรากฏขึ้นมาในวงเหล้าให้เห็นจะ ๆ แต่เป็นเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นในวงสนทนา

เรื่องนี้มาจาก ‘คุณเยี่ยม’ เพื่อนของ ‘คุณเซน’ แฟนรายการ The Ghost Radio เขาเล่าว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับกลุ่มคน 12 คน ที่อยู่ในสถานที่เดียวกัน ทั้งหมดเป็นพยานความหลอนในครั้งนี้ ย้อนกลับไปเมื่อช่วงที่พึ่งเข้าไปทำงานใหม่กับบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งในตำแหน่ง ‘โฟร์แมน’ หรือ ‘ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง’ ครั้งนั้นได้รับมอบหมายให้ไปทำงานสร้างห้างสรรพสินค้าในจังหวัดปราจีนบุรี ทางคุณเยี่ยมและเพื่อนร่วมงาน ก็ต้องเดินทางไปประจำที่ไซต์งานแห่งนั้น โดยทางบริษัทได้จัดหาที่พักไว้ให้ และต้องอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 7 เดือนเต็ม

ที่พักแห่งนี้มีลักษณะเป็นคูหาทั้งหมด 8 ห้องใหญ่ กำแพงไม่ติดกัน เหมือนเป็นแท่งสี่เหลี่ยมยาว ๆ ลึกเข้าไป ด้านหน้าของตึกติดตั้งระเบียงเหล็ก (คล้ายกับตะแกรงเหล็ก) และมีบันไดขึ้นทั้ง 2 ทาง เหมือนทางขึ้นเมรุอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งทางบริษัทจัดหาไว้ให้ 3 ห้อง นับเรียงจากฝั่งซ้าย (คุณแจ็คขอเรียกเป็นห้องซ้าย ห้องกลาง ห้องขวา) แต่ละห้องจะแบ่งเป็น 2 ห้องนอน (นอนด้วยกันห้องนอนละ 2 คน ก็จะพอดีจำนวน 12 คน) คุณแจ็คเล่าเสริมว่า อาชีพโฟร์แมนจะมีความรู้เรื่ององค์ประกอบการก่อสร้าง แต่เมื่อได้เห็นที่พักที่ถูกจัดให้พักนั้นก็เกิดความรู้สึกว่ามัน ‘แปลก’ ชอบกล

ในแต่ละห้อง ส่วนของชั้นล่างจะโล่ง มีบันไดขึ้นชั้นบน มีห้องนอน 2 ห้อง คือ ห้องนอนด้านหน้าที่ติดกับระเบียงเหล็ก และห้องนอนด้านหลัง ส่วนที่แปลกคือประตูทางเข้าของห้องนอนด้านหน้าต้องเข้าจากทางระเบียงเท่านั้น ไม่มีประตูให้เข้าจากข้างใน แม้จะเป็นสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยเพียงใด เหล่าโฟร์แมนทั้ง 12 คนก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะที่พักแห่งนี้ถูกจัดมาให้เรียบร้อยแล้ว ถ้าจะให้หาที่พักใหม่ ก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง

วันหนึ่ง หลังจากเลิกงาน ก็มีปาร์ตี้สังสรรค์กินดื่มกันบ้างเป็นเรื่องปกติ 1 ใน 12 โฟร์แมน นามว่า ‘คุณต้อม’ บอกว่ารู้สึกเหนื่อย จึงขอเข้าไปนอนพักแทนที่จะสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงาน สมาชิกที่เหลือไม่ได้ผิดสังเกตอะไร จึงดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน จนถึงเวลาประมาณ 4 ทุ่ม คุณต้อมก็วิ่งหน้าตื่นออกมาจากห้อง แล้วบอกว่า “ผีอำว่ะ” เพื่อนร่วมงานที่เป็นชายปากกล้าก็ถามกลับไปว่า “คิดมากไปหรือเปล่า นอนมากไป ฝันมากไป ผีไม่มีหรอก และผีที่อำเนี่ย ผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าเป็นผู้หญิง เดี๋ยวจัดการให้” สิ้นเสียงนั้น ทุกคนในที่นั้นก็เห็นผ้าขนหนูผืนบางที่ถูกแขวนอยู่ตรงผนังหลุดออกมา แล้วก็ถูกเหวี่ยงมาใส่หน้าของผู้ชายคนนั้น! ทุกคนทั้งอึ้งและงงกับเหตุการณ์นั้น จากนั้นพี่ซีเนียร์ในกลุ่มก็พยายามพูดเพื่อไม่ให้ทุกคนหวั่นกระเจิงไปกันใหญ่ว่า “ห้องนี้ไม่ได้ปิดประตูหน้าต่างให้มันดี ลมมันอาจจะพัดมาก็ได้” แต่ทุกคนก็อดคิดไม่ได้

ช่วงกลางวันของวันต่อมา คุณเยี่ยมก็ออกเดินสำรวจพื้นที่รอบ ๆ สิ่งหนึ่งที่เห็นคือบริเวณหน้าประตูมีปี่เซียะตั้งอยู่ นั่นไม่ใช่จุดที่ผิดสังเกต แต่สิ่งที่ชวนสงสัยคือทุกซอกทุกมุมของตึกไม่ว่าจะเป็นประตู หน้าต่าง มีปี่เซียะวางอยู่ทุกจุด! คุณเยี่ยมคิดว่าเจ้าของตึกอาจจะมีความเชื่อทางด้านนี้ และเขาเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปี่เซียะมีไว้ทำไม จึงไม่ได้สนใจแม้จะสงสัยอยู่ในใจก็ตาม

หลังจากนั้นหลังเลิกงาน ปาร์ตี้สังสรรค์ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง เวลาประมาณเที่ยงคืนทุกคนก็เริ่มแยกย้ายไปนอน เริ่มจากห้องกลาง เป็นห้องของคุณเยี่ยมและคุณต้อม ระหว่างที่กำลังจะเคลิ้มหลับประมาณตีหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงคนเดินขึ้นมาจากบันได คล้ายกับเสียงรองเท้าคัทชูไม่ก็ส้นสูง คุณเยี่ยมนอนฟังอยู่ก็นึกสงสัยว่าใครกันที่จะใส่รองเท้าแบบนั้นเดินขึ้นบันได เพราะทั้งเขาและคุณต้อมต่างก็เป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ จากเสียงรองเท้ากระทบกับปูนก็เปลี่ยนเป็นเสียงที่กระทบกับเหล็กดัง “ก๊องแก๊ง ก๊องแก๊ง” ไปตามจังหวะการเดิน

คุณเยี่ยมที่นอนอยู่มองเห็นเงาของผู้หญิงผ่านหน้าต่าง สักพักเงานี้ก็เอาอะไรบางอย่างทุบกำแพงดัง “ตึงๆๆๆๆ” ซึ่งคุณเยี่ยมที่นอนอยู่ก็คิดว่าคงโดนเข้าให้แล้ว จึงหันไปหาคุณต้อมที่นอนอยู่ข้าง ๆ ก็พบว่า คุณต้อมเองก็ไม่ได้หลับเช่นกัน! ทั้งคู่ตาเบิกโพลงและทำได้แค่มองหน้ากัน ไม่ทันได้หายตกใจ เงาร่างนั้นก็เดินไล่บนระเบียงไปห้องซ้ายไปห้องขวา เดินไปเดินมา (ระเบียงเชื่อมกันหมด) จนถึงตีสาม คุณเยี่ยมและคุณต้อมก็ยังนอนฟังเสียงนั้นอยู่และไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเจอกับอะไร!

วันต่อมา ทั้งคู่ได้เล่าเรื่องที่เจอให้กับทุกคนฟัง ฝ่ายห้องขวาเป็นผู้หญิงก็บอกว่า “หนูคิดว่าหนูได้ยินแค่ 2 คน” ส่วนห้องทางซ้ายเป็นพี่ซีเนียร์คู่กับผู้ชายปากกล้าก็บอกว่า “ได้ยินเสียงเดินแบบนี้ทั้งคืน ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร” เมื่อทุกคนไม่รู้ว่ากำลังเจอกับอะไร แต่หลังจากนั้นเป็นเวลากว่า 1 อาทิตย์ เมื่อเข้าสู่เวลาตีหนึ่ง เสียงนั้นก็จะดังขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และไม่มีใครใจกล้าพอที่จะออกไปดูว่ามันคืออะไรกันแน่..

เรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นจากห้องข้างหน้าไม่พอ ห้องข้างหลังเองก็เช่นกัน เขาเล่าว่า “ตอนที่นอนอยู่นั้น ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย แต่ผมโดนผีอำ” ไม่ได้โดนผีอำแค่คนเดียว แต่ทุกคนที่นอนอยู่ห้องข้างหลังก็โดนผีอำกันทุกคน! เมื่อเรื่องมันชักจะไปกันใหญ่ ทุกคนจึงตกลงกันว่าหลังจากนี้จะไม่ดื่มแอลกอฮอล์กันอีกและนอนให้เร็วขึ้น เผื่อว่าจะดีขึ้น

เมื่อเปลี่ยนเวลาให้นอนเร็วขึ้น คุณเยี่ยมกลับไม่สบายตัวอย่างที่คิด เขานอนกระสับกระส่าย จนถึงเวลา 4 ทุ่ม เสียงเคาะหน้าต่างก็ดังขึ้น! “พี่ๆ ช่วยหนูด้วย!” เป็นน้องผู้หญิง 2 คน ที่มาจากห้องขวาวิ่งมาขอความช่วยเหลือ เมื่อเปิดประตูออกไป น้องก็บอกว่า “หนูอ่ะ หลับไปแล้ว ส่วนเพื่อนอีกคนลุกไปเข้าห้องน้ำ ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนมาทำกับข้าวอยู่ข้างล่าง แล้วก็มีเสียงคนซักผ้า” เธอเล่าต่อว่าพอเข้าห้องน้ำเสร็จก็ปิดไฟเดินกลับมาที่ห้อง เพื่อนคนที่นอนอยู่ก็นอนบิดไปบิดมา สักพักก็เอามาคว้าอะไรบางอย่าง แล้วก็ตะโกนออกมา “ว๊ากกกกก!” หลุดออกมาจากอาการผีอำ! เธอเล่าเพิ่มเติมว่าเหมือนมีผู้หญิงคนนึงมานั่งทับที่หน้าอก แล้วก็จับตัวไว้ไม่ให้ขยับ พอเพื่อนที่ลุกไปเข้าห้องน้ำกลับมา ถึงได้หลุดออกจากตรงนั้น เมื่อเห็นท่าไม่ดี จึงวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือ

หลังจากได้ยินเสียงผู้หญิงเรียก ทุกคนก็มารวมตัวกันที่ห้องกลาง และพร้อมใจบอกว่า “โดนผีอำเหมือนกัน” ซึ่งจะโดนแตกต่างกันไป ผู้หญิงบ้าง ผู้ชายบ้าง บางคนไม่เห็นตัวแต่ขยับตัวไม่ได้ คุณเยี่ยมซึ่งไม่เคยโดนผีอำก็โดนเช่นกัน เหตุการณ์คือ ขณะที่กำลังนอนอยู่ เห็นผู้หญิงเดินเข้ามาในห้อง แล้วก็เอามานั่งทับที่หน้าอก จากนั้นก็บีบคอ คุณเยี่ยมก็พยายามขัดขืนแต่ก็ทำไม่ได้ และหันไปหาเพื่อนที่นอนอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับตะโกนเรียก แต่เรียกเท่าไหร่ ก็ไม่มีเสียงใดเล็ดลอด  จึงนึกถึงพระ จากนั้นเสียงก็ออกมา เพื่อนที่นอนอยู่บอกว่าได้ยินเสียงแปลก ๆ จึงปลุกคุณเยี่ยมให้ตื่น

ด้วยความที่ทั้งหมดเป็นพนักงานใหม่ การจะย้ายออกแล้วต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเองนั้นก็ดูจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ทุกคนจึงจำใจอยู่ที่นี่ต่อ ในทุก ๆ คืน ตี 1 – 3 ก็จะต้องเจอกับเหตุการณ์หลอนซ้ำ ๆ วนมาไม่จบสิ้น จะมีเพียงวันเสาร์อาทิตย์ที่แต่ละคนได้กลับบ้าน นั่นจึงเป็นเวลาหาเครื่องรางของขลังมาป้องกันตัวเอง  ซึ่งมันก็ไม่ได้ช่วยอะไร…

เหตุการณ์ดำเนินมาจนถึงช่วงประมาณเดือนที่ 4 – 5 บริษัทได้เรียกพนักงาน 6 คน เปลี่ยนไปทำงานที่อื่น ทำให้เหลือเพียง 6 คน ที่โชคร้ายยังต้องเผชิญเรื่องหลอนไม่จบไม่สิ้น ทุกคนตกลงกันว่าจะนอนด้วยกัน ห้องละ 3 คน เพื่อความสบายใจ พี่ซีเนียร์พูดขึ้นมาว่า “ที่เราเจอกันอยู่เนี่ย มันไม่ใช่ผีแค่ตัวเดียว น่าจะมีเป็นสิบ” น้อง ๆ ในกลุ่มจึงถามขึ้นว่า “พี่รู้ได้ยังไง?” พี่ซีเนียร์ตอบว่า “กูไปรู้อะไรบางอย่างมา มึงรู้มั้ยว่าค่าเช่าของที่นี่เดือนละเท่าไหร่? 3 คูหา มันเดือนละ 5,000” ซึ่งก็ได้วิเคราะห์ว่า อาจเป็นเพราะตึกนี้มันร้างมาก่อน แล้วพอมีบริษัทมาเช่าให้พนักงานอยู่ เขาก็เลยพยายามมาเคลียร์โดยการเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ มาวางไว้ และยังสังเกตอีกว่า ตลอดเวลา 4 – 5 เดือนที่ผ่านมานี้ ไม่มีใครสักคนที่เดินเข้ามาถามว่าอีก 5 คูหาที่เหลือยังว่างให้เช่ามั้ย ทั้ง ๆ ที่ตรงนี้เป็นทำเลดี ติดถนนใหญ่ ทุกคนจึงคุยกันอีกรอบว่าจะแก้ปัญหานี้กันอย่างไรดี ได้ข้อสรุปว่าจะทำบุญครั้งใหญ่ จึงไปซื้ออาหารและจัดเตรียมสิ่งของสำหรับการทำบุญ…

เมื่อวันทำบุญมาถึง ช่วงเวลากลางวันแสก ๆ หลังจากปักธูปไหว้เสร็จ พี่ซีเนียร์ก็ดันคิดอะไรแปลก ๆ ไปหยิบจานและตะเกียบมาเคาะแล้วพูดว่า “อ้าว มากินข้าวกินเร็ว” หลังจากเคาะ ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนกำลังวิ่งลงมาเป็นสิบ ๆ คน ผ้าม่านที่อยู่ตรงนั้นก็ไหวไปมา ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น!

หลังจากทำบุญให้ ก็ยังเจออยู่เหมือนเดิมไม่เบาลงเลย แม้ทุกคนจะรู้อยู่แก่ใจว่าที่แห่งนี้มีอะไรบางอย่างมาอยู่ร่วมด้วย แต่ก็ทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ จึงต้องอยู่และทำงานกันต่อไป จนกระทั่งถึงเดือนที่ 7 พนักงานกลุ่มนี้ต้องย้ายออก ก็ได้มีพนักงานใหม่เข้ามาอยู่แทน ทั้ง 2 กลุ่มได้คุยกัน หนึ่งในกลุ่มที่มาใหม่บอกว่า “ผมเอาลูกมาอยู่ด้วย วันหนึ่งผมเห็นลูกผมยื่นขนมให้ใครก็ไม่รู้” ในวันย้ายออกมีการจ้างรถชาวบ้านมาช่วยขนย้าย คุณลุงที่เป็นคนขับรถก็ชวนคุยระหว่างทาง “นึกว่าใครมาอยู่ ที่แท้ก็นายช่างนี่เอง แล้วมาอยู่ได้ยังไง ที่นี่ผีดุ นายช่างไม่รู้เหรอ” จากนั้นทุกคนก็รุมถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่…

คุณลุงเล่าว่าย้อนกลับไปว่า สมัยก่อนที่ตรงนั้นยังเป็นป่าช้า จากนั้นก็มีการล้างป่าช้า ซึ่งก็ไม่รู้ว่าล้างหมดหรือไม่ ส่วนใกล้ ๆ กับบริเวณนั้นเป็นลานโล่ง แล้วก็มีการสร้างโรงพยาบาล คนที่เป็นเจ้าของที่เห็นว่ามันน่าจะพัฒนาที่ดินได้ จึงอยากสร้างอาคารพาณิชย์ แม้จะมีเสียงรอบข้างห้ามปราม แต่เขาก็ดึงดันที่จะสร้าง รวมทั้งไม่ได้สนใจโครงสร้างและการออกแบบเลย ตึกที่ได้จึงมีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมยาววางเรียงกันเหมือนกับโลงศพ! พอมีคนมาเช่า ผลประกอบการก็ไม่ดี ทำมาค้าขายไม่ขึ้น จึงให้ซินแสเข้ามาช่วยดู เขาจึงแนะนำว่าให้ปรับหน้าตาของอาคารให้ดูดีขึ้น ให้มันมีอะไรอยู่ข้างหน้าหน่อย จึงเป็นที่มาของการสร้างระเบียงนั่นเอง นั่นยิ่งทำให้เหมือนทางขึ้นเมรุเข้าไปอีก เรียกได้ว่ายิ่งแก้ยิ่งเละ

และเมื่อขุดประวัติลึกเท่าไหร่ ความน่ากลัวของคูหาเหล่านี้ก็ยิ่งทวีคูณ ห้องกลางนั้นมีเคยมีผู้หญิงผูกคอตาย ห้องขวาเคยมีสามีภรรยาทะเลาะกัน ฝ่ายชายลงมือฆ่า ส่วนห้องซ้ายเป็นสามีภรรยาเช่นกัน ฝ่ายชายฆ่าฝ่ายหญิง แล้วกินยาฆ่าตัวตายตาม ยังไม่นับรวมเคสอื่น ๆ อีก รวมแล้วมีการเสียชีวิตเกิดขึ้นกว่า 5 ราย ส่วนคูหาอื่นที่ไม่มีคนเข้าไปอยู่ก็ไม่รู้ว่ามีเคสอะไรเกิดขึ้นบ้าง…

และนี่คือเหตุการณ์หลอนทั้งหมด ที่โฟร์แมนทั้ง 12 คนเป็นพยานรู้เห็นความหลอนในครั้งนี้

ติดตามความหลอนย้อนหลังได้

related ENTERTAINMENT NEWS

“แจ็คสัน หวัง” โพสต์ความรู้สึกผ่านทวิตเตอร์ หลังอากาเซ่พร้อมใจไปส่งกันถึงสนามบิน

02 ส.ค. 2022

“แจ็คสัน หวัง” โพสต์ความรู้สึกผ่านทวิตเตอร์ หลังอากาเซ่พร้อมใจไปส่งกันถึงสนามบิน

เรียกได้ว่าสนามบินแทบแตกกันเลยทีเดียว เมื่อเหล่าอากาเซ่พร้อมใจไปส่ง “แจ็คสัน หวัง” ที่จะเดินทางไปสิงคโปร์ งานนี้แฟน ๆ ก็ได้พูดถึงแฟชั่นสนามบินของ “พี่แจ็ค” ที่มาด้วยเสื้อสก็อตสีแดง กางเกงลายตารางสีเขียว และหมวกสีชมพู ซึ่ง “พี่แจ็ค” ก็ได้โพสต์ความรู้สึกผ่านทวิตเตอร์ว่า ‘Thailand, unforgettable experience,feel blessed honored to be here seeing u all. Thank u for showing love under the rain, supporting no matter where or when it is. Welcoming sending me back on to the plane. Plz remember, get home safe I love u I’ll be back for #MAGICMAN’(ถึง... ประเทศไทย ประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม ผมรู้สึกยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พบกับทุกคน ขอบคุณที่แสดงความรักภายใต้สายฝน คอยสนับสนุนไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือเมื่อไหร่ ต้อนรับและส่งผมกลับขึ้นเครื่อง โปรดจำไว้ กลับบ้านอย่างปลอดภัย ผมรักคุณ และผมจะกลับมา #MAGICMAN) หลังจากเห็นข้อความทำเอาเหล่าอากาเซ่ใจฟูกันสุด ๆ เข้ามาร่วมกันส่งและอวยพรให้ “พี่แจ็ค” เดินทางปลอดภัย พร้อมพาแฮชแท็ก P’Jack ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 กันเลยทีเดียว ภาพ : BALLSIRIN

“แนนนี่ เกิร์ลลี่เบอร์รี่” คลอดลูกชายคนแรกแล้ว พร้อมเผยความในใจสุดซึ้ง

28 มิ.ย. 2022

“แนนนี่ เกิร์ลลี่เบอร์รี่” คลอดลูกชายคนแรกแล้ว พร้อมเผยความในใจสุดซึ้ง

ขอแสดงความยินดีกับคุณแม่คุณพ่อป้ายแดง “แนนนี่ ภัสสรณันฐ์ สุนทรฐิติ” อดีตเกิร์ลกรุ๊ปสาววง เกิร์ลลี่เบอร์รี่ และสามี “ปวินท์ สุนทรฐิติ" ได้คลอดลูกชายคนแรกแล้ว พร้อมตั้งชื่อสุดน่ารัก “น้องเอเรน” เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งทางคุณแม่ได้โพสต์ภาพคู่กับเบบี๋ตัวน้อย พร้อมเขียนข้อความในใจสุดซึ้งผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว “ไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ ภาพนี้! ชั้นผู้อุ้มเด็กไม่เป็นด้วยซ้ำ เล่นกับเด็กก็ไม่เป็น แต่วันนี้มีลูกเป็นของตัวเองละจ้า แม่จะทำให้ดีที่สุด จะรักหนูให้ดีที่สุดนะ เจ้าเอเรนน้อย” ทันทีที่ได้เห็นความน่ารักของหนูน้อยเอเรน เพื่อนๆ ในวงการบันเทิง และแฟนๆ ต่างก็เข้ามาคอมเมนต์แสดงความยินดีกับคุณแม่ป้ายแดงอย่างล้นหลามกันเลยทีเดียว EFM 94 ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะภาพ : nannie__nn

“หนุ่ม กะลา” เปิดตัวคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรก “MY NAME IS NUM KALA ‘FIRST IMPACT CONCERT’ #อยากจับมือกับฉันเรื่อยไปรึเปล่า”

31 ก.ค. 2022

“หนุ่ม กะลา” เปิดตัวคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรก “MY NAME IS NUM KALA ‘FIRST IMPACT CONCERT’ #อยากจับมือกับฉันเรื่อยไปรึเปล่า”

“หนุ่ม กะลา” ศิลปินร็อกมากความสามารถ จากค่าย Genie records ในเครือ GMM GRAMMYพร้อมแล้วที่จะระเบิดความมันไปกับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในชีวิต! กับ “MY NAME IS NUM KALA ‘FIRST IMPACT CONCERT’ #อยากจับมือกับฉันเรื่อยไปรึเปล่า”ซึ่ง “หนุ่ม กะลา” ได้เผยว่า “หลังจากที่ผมได้ Live ประกาศจัดคอนเสิร์ตไปเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ก็ได้กระแสตอบรับจากแฟนเพลงดีมากๆ ครับ ผมเข้าไปอ่านทุกคอมเมนต์ ชื่นใจมากครับ ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้กันเรื่อยมาครั้งนี้ถือเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของผมที่อิมแพ็คอารีน่า แต่ผมจะทำให้เราได้รู้สึกใกล้กันมากที่สุดเหมือนกับที่ผมติด #อยากจับมือกับฉันเรื่อยไปรึเปล่า เรื่องเพลงที่จะนำมาร้องในคอนเสิร์ตครั้งนี้ ผมคัดเพลงฮิตจัดเต็ม เรียกว่าเตรียมมาให้แฟนๆ มีความสุข ความสนุกตลอดทั้งโชว์ พร้อมแขกรับเชิญพิเศษที่ตอนนี้ยังขอเก็บไว้เป็นความลับก่อน แต่รับรองได้ว่าแฟนๆ ต้องร้องว้าวแน่นอนครับ แล้วไปเจอกันที่อิมแพ็คให้ได้นะครับ”สำหรับคอนเสิร์ต “MY NAME IS NUM KALA ‘FIRST IMPACT CONCERT’ #อยากจับมือกับฉันเรื่อยไปรึเปล่า” จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 17 และ วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน 2565 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานีแฟนๆ “หนุ่ม กะลา” เตรียมตัวกดบัตรกันให้พร้อม เริ่มจำหน่ายบัตร วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ทาง Thaiticketmajorภาพ : GMM SHOW

อึ้งทั้งสตู! 3 ดีเจรับสายลูกสาวเครียดหนัก คุณพ่อตกเป็นเหยื่อแก๊งค์ “Romance Scammer” สูญเงินกว่า 4 ล้านบาท!!

09 มิ.ย. 2022

อึ้งทั้งสตู! 3 ดีเจรับสายลูกสาวเครียดหนัก คุณพ่อตกเป็นเหยื่อแก๊งค์ “Romance Scammer” สูญเงินกว่า 4 ล้านบาท!!

เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (8 มิถุนายน 2565) สายแรกของรายการ ‘พุธทอล์ค พุธโทร’ เป็นสายที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ในรายการมี “ดีเจเผือก – ดีเจไตเติ้ล - ดีเจต้นหอม” คอยให้คำปรึกษา สายแรกเป็นสายของ “คุณเมย์” (นามสมมติ) ที่ได้โทรเข้ามาปรึกษาเรื่องราวของคุณพ่อที่กำลังตกเป็นเหยื่อของแก๊งค์ “Romance Scammer” แก๊งค์นี้จะหลอกให้เหยื่อหลงรักเพื่อหาผลประโยชน์จากความเชื่อใจของเหยื่อ โดยทำกันเป็นกระบวนการ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา เริ่มจากมีหญิงสาวชาวต่างชาติรายหนึ่งแอดเฟรนด์มาในเฟซบุ๊กของคุณพ่อ โดย “คุณเมย์” (นามสมมติ) ได้ค้นหาโปรไฟล์จนพบว่าหญิงรายนี้ไร้ตัวตน เอกสาร รูปภาพต่างๆที่ส่งมาให้คุณพ่อดูก็เป็นของปลอมทั้งหมด และที่พีคที่สุดคือคุณพ่อหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไปให้เป็นเงินจำนวนหลักแสนหลายครั้ง จนถึงปัจจุบันนี้มียอดรวมกว่า 4 ล้านบาทแล้ว! สำหรับวิธีการของแก๊งค์ “Romance Scammer” จะออกอุบายว่าจะส่งของมาให้คุณพ่อ แต่จะมีค่าขนส่ง ของที่จะส่งมาให้นั้น เป็นกระเป๋าเดินทางที่ข้างในใส่เงินไว้ ซึ่งแก๊งค์ “Romance Scammer” นี้ มีทั้งหมด 3 คน ประกอบไปด้วย 1. หญิงสาวที่เข้ามาคุย 2. คนที่อ้างตัวว่ามาจากกรมศุลกากร และ 3. ทนายความ ทาง “คุณเมย์” (นามสมมติ) ยอมรับในรายการว่า แชทที่ปรากฏ ทุกคนทำงานอย่างมืออาชีพ ขนาดคุณพ่อซึ่งเคยทำงานธนาคาร ยังหลงเชื่อได้ หลังจากนั้นลูก ๆ ทุกคนได้พยายามเตือนและหาหลักฐานมาให้คุณพ่อดูแล้วว่าเป็นของปลอม แต่ก็ไม่ได้ผล จนกระทั่ง “คุณเมย์” (นามสมมติ) ได้ทำข้อตกลงกับคุณพ่อว่า ถ้าไม่มีกระเป๋าเงินส่งมาให้ต้องไปแจ้งความนะ สุดท้ายก็ไม่มีของมาส่งจริงๆ ทางคุณพ่อเลยต้องยอมเข้าแจ้งความและเล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ พร้อมแนบหลักฐานให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดูเหมือนทุกอย่างจะจบลงแต่ล่าสุดสด ๆ ร้อน ๆ ก่อนที่ “คุณเมย์” (นามสมมติ) จะโทรเข้ามาในรายการ คุณพ่อก็ได้โอนเงินเพิ่มไปอีกจำนวนหนึ่งแสนบาททำให้ “คุณเมย์” (นามสมมติ) เองก็ยังไม่เข้าใจในตัวคุณพ่อมาถึงทุกวันนี้ว่าทั้งๆที่มีหลักฐานหมดแล้ว แต่ทำไมคุณพ่อก็ยังโอนเงินไปอีก จน “คุณเมย์” (นามสมมติ) ไม่รู้จะรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร จึงได้โทรมาปรึกษาในรายการ ‘พุธทอล์ค พุธโทร’ ของ EFM94 เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร อยากให้ทุกคนได้ติดตามชมเพื่อเป็นอุทาหรณ์และระมัดระวังไว้รับมือกับมิจฉาชีพในยุคนี้ ชมรายการ ‘พุธทอล์ค พุธโทร’ แบบเต็มๆ ได้ที่ และรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00 – 23.00 น. #พุธทอล์คพุธโทร #ดีเจเผือก #ดีเจต้นหอม #ดีเจไตเติ้ล #แฉข่าวเช้า #EFM94

album

0
0.8
1