บ้านพักร้างสร้างเรื่อง! 12 พยานหลอนเห็นตรงกัน ขนาดทำบุญใหญ่แล้วก็ยังดุดัน ไม่เกรงใจใคร! | อังคารคลุมโปง

ENTERTAINMENT NEWS

บ้านพักร้างสร้างเรื่อง! 12 พยานหลอนเห็นตรงกัน ขนาดทำบุญใหญ่แล้วก็ยังดุดัน ไม่เกรงใจใคร! | อังคารคลุมโปง

27 ธ.ค. 2022

รายการ ‘อังคารคลุมโปง’ ที่ผ่านมา (20 ธันวาคม 2565) ได้เชิญ ‘คุณแจ็ค The Ghost Radio’ กลับมาเล่าเรื่องผีกันอีกครั้ง คราวนี้แพ็คความหลอนมาเต็มกระเป๋าต้อนรับปีใหม่ กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘ผีในวงเหล้า’ งานนี้ทำเอาดีเจแนน และดีเจซันเดย์ต้องอ้าปากค้าง ยกให้เป็นเรื่องหลอนระดับสิบกันเลยทีเดียว !

คุณแจ็คเกริ่นเรื่องว่า ในทุก ๆ วงสนทนา และการดื่มกินสังสรรค์ ภายใต้ค่ำคืนแห่งความมืดมิด บรรยากาศหลอน ๆ ชวนให้ต้องเล่าเรื่องผี ดังนั้นเรื่องที่จะเล่านี้ ผีไม่ได้ปรากฏขึ้นมาในวงเหล้าให้เห็นจะ ๆ แต่เป็นเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นในวงสนทนา

เรื่องนี้มาจาก ‘คุณเยี่ยม’ เพื่อนของ ‘คุณเซน’ แฟนรายการ The Ghost Radio เขาเล่าว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับกลุ่มคน 12 คน ที่อยู่ในสถานที่เดียวกัน ทั้งหมดเป็นพยานความหลอนในครั้งนี้ ย้อนกลับไปเมื่อช่วงที่พึ่งเข้าไปทำงานใหม่กับบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งในตำแหน่ง ‘โฟร์แมน’ หรือ ‘ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง’ ครั้งนั้นได้รับมอบหมายให้ไปทำงานสร้างห้างสรรพสินค้าในจังหวัดปราจีนบุรี ทางคุณเยี่ยมและเพื่อนร่วมงาน ก็ต้องเดินทางไปประจำที่ไซต์งานแห่งนั้น โดยทางบริษัทได้จัดหาที่พักไว้ให้ และต้องอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 7 เดือนเต็ม

ที่พักแห่งนี้มีลักษณะเป็นคูหาทั้งหมด 8 ห้องใหญ่ กำแพงไม่ติดกัน เหมือนเป็นแท่งสี่เหลี่ยมยาว ๆ ลึกเข้าไป ด้านหน้าของตึกติดตั้งระเบียงเหล็ก (คล้ายกับตะแกรงเหล็ก) และมีบันไดขึ้นทั้ง 2 ทาง เหมือนทางขึ้นเมรุอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งทางบริษัทจัดหาไว้ให้ 3 ห้อง นับเรียงจากฝั่งซ้าย (คุณแจ็คขอเรียกเป็นห้องซ้าย ห้องกลาง ห้องขวา) แต่ละห้องจะแบ่งเป็น 2 ห้องนอน (นอนด้วยกันห้องนอนละ 2 คน ก็จะพอดีจำนวน 12 คน) คุณแจ็คเล่าเสริมว่า อาชีพโฟร์แมนจะมีความรู้เรื่ององค์ประกอบการก่อสร้าง แต่เมื่อได้เห็นที่พักที่ถูกจัดให้พักนั้นก็เกิดความรู้สึกว่ามัน ‘แปลก’ ชอบกล

ในแต่ละห้อง ส่วนของชั้นล่างจะโล่ง มีบันไดขึ้นชั้นบน มีห้องนอน 2 ห้อง คือ ห้องนอนด้านหน้าที่ติดกับระเบียงเหล็ก และห้องนอนด้านหลัง ส่วนที่แปลกคือประตูทางเข้าของห้องนอนด้านหน้าต้องเข้าจากทางระเบียงเท่านั้น ไม่มีประตูให้เข้าจากข้างใน แม้จะเป็นสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยเพียงใด เหล่าโฟร์แมนทั้ง 12 คนก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะที่พักแห่งนี้ถูกจัดมาให้เรียบร้อยแล้ว ถ้าจะให้หาที่พักใหม่ ก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง

วันหนึ่ง หลังจากเลิกงาน ก็มีปาร์ตี้สังสรรค์กินดื่มกันบ้างเป็นเรื่องปกติ 1 ใน 12 โฟร์แมน นามว่า ‘คุณต้อม’ บอกว่ารู้สึกเหนื่อย จึงขอเข้าไปนอนพักแทนที่จะสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงาน สมาชิกที่เหลือไม่ได้ผิดสังเกตอะไร จึงดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน จนถึงเวลาประมาณ 4 ทุ่ม คุณต้อมก็วิ่งหน้าตื่นออกมาจากห้อง แล้วบอกว่า “ผีอำว่ะ” เพื่อนร่วมงานที่เป็นชายปากกล้าก็ถามกลับไปว่า “คิดมากไปหรือเปล่า นอนมากไป ฝันมากไป ผีไม่มีหรอก และผีที่อำเนี่ย ผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าเป็นผู้หญิง เดี๋ยวจัดการให้” สิ้นเสียงนั้น ทุกคนในที่นั้นก็เห็นผ้าขนหนูผืนบางที่ถูกแขวนอยู่ตรงผนังหลุดออกมา แล้วก็ถูกเหวี่ยงมาใส่หน้าของผู้ชายคนนั้น! ทุกคนทั้งอึ้งและงงกับเหตุการณ์นั้น จากนั้นพี่ซีเนียร์ในกลุ่มก็พยายามพูดเพื่อไม่ให้ทุกคนหวั่นกระเจิงไปกันใหญ่ว่า “ห้องนี้ไม่ได้ปิดประตูหน้าต่างให้มันดี ลมมันอาจจะพัดมาก็ได้” แต่ทุกคนก็อดคิดไม่ได้

ช่วงกลางวันของวันต่อมา คุณเยี่ยมก็ออกเดินสำรวจพื้นที่รอบ ๆ สิ่งหนึ่งที่เห็นคือบริเวณหน้าประตูมีปี่เซียะตั้งอยู่ นั่นไม่ใช่จุดที่ผิดสังเกต แต่สิ่งที่ชวนสงสัยคือทุกซอกทุกมุมของตึกไม่ว่าจะเป็นประตู หน้าต่าง มีปี่เซียะวางอยู่ทุกจุด! คุณเยี่ยมคิดว่าเจ้าของตึกอาจจะมีความเชื่อทางด้านนี้ และเขาเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปี่เซียะมีไว้ทำไม จึงไม่ได้สนใจแม้จะสงสัยอยู่ในใจก็ตาม

หลังจากนั้นหลังเลิกงาน ปาร์ตี้สังสรรค์ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง เวลาประมาณเที่ยงคืนทุกคนก็เริ่มแยกย้ายไปนอน เริ่มจากห้องกลาง เป็นห้องของคุณเยี่ยมและคุณต้อม ระหว่างที่กำลังจะเคลิ้มหลับประมาณตีหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงคนเดินขึ้นมาจากบันได คล้ายกับเสียงรองเท้าคัทชูไม่ก็ส้นสูง คุณเยี่ยมนอนฟังอยู่ก็นึกสงสัยว่าใครกันที่จะใส่รองเท้าแบบนั้นเดินขึ้นบันได เพราะทั้งเขาและคุณต้อมต่างก็เป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ จากเสียงรองเท้ากระทบกับปูนก็เปลี่ยนเป็นเสียงที่กระทบกับเหล็กดัง “ก๊องแก๊ง ก๊องแก๊ง” ไปตามจังหวะการเดิน

คุณเยี่ยมที่นอนอยู่มองเห็นเงาของผู้หญิงผ่านหน้าต่าง สักพักเงานี้ก็เอาอะไรบางอย่างทุบกำแพงดัง “ตึงๆๆๆๆ” ซึ่งคุณเยี่ยมที่นอนอยู่ก็คิดว่าคงโดนเข้าให้แล้ว จึงหันไปหาคุณต้อมที่นอนอยู่ข้าง ๆ ก็พบว่า คุณต้อมเองก็ไม่ได้หลับเช่นกัน! ทั้งคู่ตาเบิกโพลงและทำได้แค่มองหน้ากัน ไม่ทันได้หายตกใจ เงาร่างนั้นก็เดินไล่บนระเบียงไปห้องซ้ายไปห้องขวา เดินไปเดินมา (ระเบียงเชื่อมกันหมด) จนถึงตีสาม คุณเยี่ยมและคุณต้อมก็ยังนอนฟังเสียงนั้นอยู่และไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเจอกับอะไร!

วันต่อมา ทั้งคู่ได้เล่าเรื่องที่เจอให้กับทุกคนฟัง ฝ่ายห้องขวาเป็นผู้หญิงก็บอกว่า “หนูคิดว่าหนูได้ยินแค่ 2 คน” ส่วนห้องทางซ้ายเป็นพี่ซีเนียร์คู่กับผู้ชายปากกล้าก็บอกว่า “ได้ยินเสียงเดินแบบนี้ทั้งคืน ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร” เมื่อทุกคนไม่รู้ว่ากำลังเจอกับอะไร แต่หลังจากนั้นเป็นเวลากว่า 1 อาทิตย์ เมื่อเข้าสู่เวลาตีหนึ่ง เสียงนั้นก็จะดังขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และไม่มีใครใจกล้าพอที่จะออกไปดูว่ามันคืออะไรกันแน่..

เรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นจากห้องข้างหน้าไม่พอ ห้องข้างหลังเองก็เช่นกัน เขาเล่าว่า “ตอนที่นอนอยู่นั้น ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย แต่ผมโดนผีอำ” ไม่ได้โดนผีอำแค่คนเดียว แต่ทุกคนที่นอนอยู่ห้องข้างหลังก็โดนผีอำกันทุกคน! เมื่อเรื่องมันชักจะไปกันใหญ่ ทุกคนจึงตกลงกันว่าหลังจากนี้จะไม่ดื่มแอลกอฮอล์กันอีกและนอนให้เร็วขึ้น เผื่อว่าจะดีขึ้น

เมื่อเปลี่ยนเวลาให้นอนเร็วขึ้น คุณเยี่ยมกลับไม่สบายตัวอย่างที่คิด เขานอนกระสับกระส่าย จนถึงเวลา 4 ทุ่ม เสียงเคาะหน้าต่างก็ดังขึ้น! “พี่ๆ ช่วยหนูด้วย!” เป็นน้องผู้หญิง 2 คน ที่มาจากห้องขวาวิ่งมาขอความช่วยเหลือ เมื่อเปิดประตูออกไป น้องก็บอกว่า “หนูอ่ะ หลับไปแล้ว ส่วนเพื่อนอีกคนลุกไปเข้าห้องน้ำ ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนมาทำกับข้าวอยู่ข้างล่าง แล้วก็มีเสียงคนซักผ้า” เธอเล่าต่อว่าพอเข้าห้องน้ำเสร็จก็ปิดไฟเดินกลับมาที่ห้อง เพื่อนคนที่นอนอยู่ก็นอนบิดไปบิดมา สักพักก็เอามาคว้าอะไรบางอย่าง แล้วก็ตะโกนออกมา “ว๊ากกกกก!” หลุดออกมาจากอาการผีอำ! เธอเล่าเพิ่มเติมว่าเหมือนมีผู้หญิงคนนึงมานั่งทับที่หน้าอก แล้วก็จับตัวไว้ไม่ให้ขยับ พอเพื่อนที่ลุกไปเข้าห้องน้ำกลับมา ถึงได้หลุดออกจากตรงนั้น เมื่อเห็นท่าไม่ดี จึงวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือ

หลังจากได้ยินเสียงผู้หญิงเรียก ทุกคนก็มารวมตัวกันที่ห้องกลาง และพร้อมใจบอกว่า “โดนผีอำเหมือนกัน” ซึ่งจะโดนแตกต่างกันไป ผู้หญิงบ้าง ผู้ชายบ้าง บางคนไม่เห็นตัวแต่ขยับตัวไม่ได้ คุณเยี่ยมซึ่งไม่เคยโดนผีอำก็โดนเช่นกัน เหตุการณ์คือ ขณะที่กำลังนอนอยู่ เห็นผู้หญิงเดินเข้ามาในห้อง แล้วก็เอามานั่งทับที่หน้าอก จากนั้นก็บีบคอ คุณเยี่ยมก็พยายามขัดขืนแต่ก็ทำไม่ได้ และหันไปหาเพื่อนที่นอนอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับตะโกนเรียก แต่เรียกเท่าไหร่ ก็ไม่มีเสียงใดเล็ดลอด  จึงนึกถึงพระ จากนั้นเสียงก็ออกมา เพื่อนที่นอนอยู่บอกว่าได้ยินเสียงแปลก ๆ จึงปลุกคุณเยี่ยมให้ตื่น

ด้วยความที่ทั้งหมดเป็นพนักงานใหม่ การจะย้ายออกแล้วต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเองนั้นก็ดูจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ทุกคนจึงจำใจอยู่ที่นี่ต่อ ในทุก ๆ คืน ตี 1 – 3 ก็จะต้องเจอกับเหตุการณ์หลอนซ้ำ ๆ วนมาไม่จบสิ้น จะมีเพียงวันเสาร์อาทิตย์ที่แต่ละคนได้กลับบ้าน นั่นจึงเป็นเวลาหาเครื่องรางของขลังมาป้องกันตัวเอง  ซึ่งมันก็ไม่ได้ช่วยอะไร…

เหตุการณ์ดำเนินมาจนถึงช่วงประมาณเดือนที่ 4 – 5 บริษัทได้เรียกพนักงาน 6 คน เปลี่ยนไปทำงานที่อื่น ทำให้เหลือเพียง 6 คน ที่โชคร้ายยังต้องเผชิญเรื่องหลอนไม่จบไม่สิ้น ทุกคนตกลงกันว่าจะนอนด้วยกัน ห้องละ 3 คน เพื่อความสบายใจ พี่ซีเนียร์พูดขึ้นมาว่า “ที่เราเจอกันอยู่เนี่ย มันไม่ใช่ผีแค่ตัวเดียว น่าจะมีเป็นสิบ” น้อง ๆ ในกลุ่มจึงถามขึ้นว่า “พี่รู้ได้ยังไง?” พี่ซีเนียร์ตอบว่า “กูไปรู้อะไรบางอย่างมา มึงรู้มั้ยว่าค่าเช่าของที่นี่เดือนละเท่าไหร่? 3 คูหา มันเดือนละ 5,000” ซึ่งก็ได้วิเคราะห์ว่า อาจเป็นเพราะตึกนี้มันร้างมาก่อน แล้วพอมีบริษัทมาเช่าให้พนักงานอยู่ เขาก็เลยพยายามมาเคลียร์โดยการเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ มาวางไว้ และยังสังเกตอีกว่า ตลอดเวลา 4 – 5 เดือนที่ผ่านมานี้ ไม่มีใครสักคนที่เดินเข้ามาถามว่าอีก 5 คูหาที่เหลือยังว่างให้เช่ามั้ย ทั้ง ๆ ที่ตรงนี้เป็นทำเลดี ติดถนนใหญ่ ทุกคนจึงคุยกันอีกรอบว่าจะแก้ปัญหานี้กันอย่างไรดี ได้ข้อสรุปว่าจะทำบุญครั้งใหญ่ จึงไปซื้ออาหารและจัดเตรียมสิ่งของสำหรับการทำบุญ…

เมื่อวันทำบุญมาถึง ช่วงเวลากลางวันแสก ๆ หลังจากปักธูปไหว้เสร็จ พี่ซีเนียร์ก็ดันคิดอะไรแปลก ๆ ไปหยิบจานและตะเกียบมาเคาะแล้วพูดว่า “อ้าว มากินข้าวกินเร็ว” หลังจากเคาะ ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนกำลังวิ่งลงมาเป็นสิบ ๆ คน ผ้าม่านที่อยู่ตรงนั้นก็ไหวไปมา ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น!

หลังจากทำบุญให้ ก็ยังเจออยู่เหมือนเดิมไม่เบาลงเลย แม้ทุกคนจะรู้อยู่แก่ใจว่าที่แห่งนี้มีอะไรบางอย่างมาอยู่ร่วมด้วย แต่ก็ทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ จึงต้องอยู่และทำงานกันต่อไป จนกระทั่งถึงเดือนที่ 7 พนักงานกลุ่มนี้ต้องย้ายออก ก็ได้มีพนักงานใหม่เข้ามาอยู่แทน ทั้ง 2 กลุ่มได้คุยกัน หนึ่งในกลุ่มที่มาใหม่บอกว่า “ผมเอาลูกมาอยู่ด้วย วันหนึ่งผมเห็นลูกผมยื่นขนมให้ใครก็ไม่รู้” ในวันย้ายออกมีการจ้างรถชาวบ้านมาช่วยขนย้าย คุณลุงที่เป็นคนขับรถก็ชวนคุยระหว่างทาง “นึกว่าใครมาอยู่ ที่แท้ก็นายช่างนี่เอง แล้วมาอยู่ได้ยังไง ที่นี่ผีดุ นายช่างไม่รู้เหรอ” จากนั้นทุกคนก็รุมถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่…

คุณลุงเล่าว่าย้อนกลับไปว่า สมัยก่อนที่ตรงนั้นยังเป็นป่าช้า จากนั้นก็มีการล้างป่าช้า ซึ่งก็ไม่รู้ว่าล้างหมดหรือไม่ ส่วนใกล้ ๆ กับบริเวณนั้นเป็นลานโล่ง แล้วก็มีการสร้างโรงพยาบาล คนที่เป็นเจ้าของที่เห็นว่ามันน่าจะพัฒนาที่ดินได้ จึงอยากสร้างอาคารพาณิชย์ แม้จะมีเสียงรอบข้างห้ามปราม แต่เขาก็ดึงดันที่จะสร้าง รวมทั้งไม่ได้สนใจโครงสร้างและการออกแบบเลย ตึกที่ได้จึงมีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมยาววางเรียงกันเหมือนกับโลงศพ! พอมีคนมาเช่า ผลประกอบการก็ไม่ดี ทำมาค้าขายไม่ขึ้น จึงให้ซินแสเข้ามาช่วยดู เขาจึงแนะนำว่าให้ปรับหน้าตาของอาคารให้ดูดีขึ้น ให้มันมีอะไรอยู่ข้างหน้าหน่อย จึงเป็นที่มาของการสร้างระเบียงนั่นเอง นั่นยิ่งทำให้เหมือนทางขึ้นเมรุเข้าไปอีก เรียกได้ว่ายิ่งแก้ยิ่งเละ

และเมื่อขุดประวัติลึกเท่าไหร่ ความน่ากลัวของคูหาเหล่านี้ก็ยิ่งทวีคูณ ห้องกลางนั้นมีเคยมีผู้หญิงผูกคอตาย ห้องขวาเคยมีสามีภรรยาทะเลาะกัน ฝ่ายชายลงมือฆ่า ส่วนห้องซ้ายเป็นสามีภรรยาเช่นกัน ฝ่ายชายฆ่าฝ่ายหญิง แล้วกินยาฆ่าตัวตายตาม ยังไม่นับรวมเคสอื่น ๆ อีก รวมแล้วมีการเสียชีวิตเกิดขึ้นกว่า 5 ราย ส่วนคูหาอื่นที่ไม่มีคนเข้าไปอยู่ก็ไม่รู้ว่ามีเคสอะไรเกิดขึ้นบ้าง…

และนี่คือเหตุการณ์หลอนทั้งหมด ที่โฟร์แมนทั้ง 12 คนเป็นพยานรู้เห็นความหลอนในครั้งนี้

ติดตามความหลอนย้อนหลังได้

related ENTERTAINMENT NEWS

อากาเซ่ส่งกำลังใจรัวๆ ให้ “แบมแบม” สมาชิก GOT7 ขอพักเบรกความเคลื่อนไหวทางทวิตเตอร์

04 ก.ค. 2022

อากาเซ่ส่งกำลังใจรัวๆ ให้ “แบมแบม” สมาชิก GOT7 ขอพักเบรกความเคลื่อนไหวทางทวิตเตอร์

ทำเอาอากาเซ่ ถึงกับเป็นห่วง เมื่อ “แบมแบม – กันต์พิมุก ภูวกุล” สมาชิกวงGOT7 ทวิตข้อความขอพักเบรกความเคลื่อนไหวทางทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 2 กรกฏาคม ที่ผ่านมาว่า “ขอผมพักก่อนนะ” พร้อมแคปชัน “แล้วเจอกันครับ” งานนี้เหล่าอากาเซ่ ต่างคอมเมนต์ส่งกำลังใจให้หนุ่ม “แบมแบม” กันรัวๆเพราะถือว่าทวิตเตอร์เป็นช่องทางที่หนุ่ม “แบมแบม” ใช้อัพเดตเคลื่อนไหวมากที่สุด และยังเป็นไอดอล K-POP ที่มีผู้ติดตามทางทวิตเตอร์สูงสุดถึง 10.6 ล้านฟอลโลเวอร์ อีกด้วย นอกจากนี้อากาเซ่ ยังถามไถ่ถึงช่องทางอื่นๆ ว่าเจ้าตัวยังจะเคลื่อนไหวอยู่ไหม โดยทาง “แบมแบม” ก็ได้ตอบกลับว่า “เดี๋ยวผมขอพักให้หัวโล่งๆ ก่อนแล้วจะกลับมานะครับ”ภาพ : bambam1a

“BLACKPINK” ปล่อยทีเซอร์มิวสิกวิดีโอ “Pink Venom” เรียกเสียงฮือฮาจนคลิปวิดีโอ ทะลุ 10 ล้านวิวภายในไม่ถึง 1 วัน!!!

17 ส.ค. 2022

“BLACKPINK” ปล่อยทีเซอร์มิวสิกวิดีโอ “Pink Venom” เรียกเสียงฮือฮาจนคลิปวิดีโอ ทะลุ 10 ล้านวิวภายในไม่ถึง 1 วัน!!!

“บลิ๊งค์” สิ้นสุดการรอคอยแล้ว สำหรับการคัมแบคของ “BLACKPINK” ที่ก่อนหน้านี้ทาง “YG Entertainment” ได้ประกาศคัมแบคซิงเกิลใหม่ “Pink Venom” และปล่อยภาพโปสเตอร์ของทั้ง 4 สาวออกมาให้แฟน ๆ ได้ติดตามกัน ล่าสุด “BLACKPINK” ก็ได้ปล่อยทีเซอร์มิวสิกวิดีโอ “Pink Venom” ความยาววิดีโอเพียง 23 วินาที แต่ทำเอาเรียกเสียงฮือฮาจากแฟน ๆ ทั่วโลกจนคลิปวิดีโอ BLACKPINK - ‘Pink Venom’ M/V TEASER บน Youtube ทะลุ 10 ล้านวิวภายในไม่ถึง 1 วัน งานนี้สาว ๆ ทั้ง 4 คนก็ได้ดึงดูดสายตาด้วยเสน่ห์เกินต้านและโปรดักชั่นสุดอลังการ ไม่ว่าจะเป็นฉาก คน หรือดนตรี เรียกว่าเป็นการรอคอยที่คุ้มค่าจริง ๆ และ #BLACKPINK ติดเทรนด์ทวิตเตอร์กันเลยทีเดียวนอกจากนี้ซิงเกิลพรีรีลีส “Pink Venom” จะมีกำหนดปล่อยอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 สิงหาคม เวลา 12.00 น. ตามเวลาเกาหลี หรือ 10.00 น. ตามเวลาไทยภาพ : BLACKPINK

Noeul 1st Fan Meeting แฟนมีตติ้งเดี่ยวครั้งแรกของ “โนอึล ณัฐรัชต์” กับความปังที่เกินพิกัด!!

23 พ.ค. 2023

Noeul 1st Fan Meeting แฟนมีตติ้งเดี่ยวครั้งแรกของ “โนอึล ณัฐรัชต์” กับความปังที่เกินพิกัด!!

ผ่านไปแล้วกับแฟนมีตติ้งเดี่ยวครั้งแรกของหนุ่มหน้าหวาน “โนอึล-ณัฐรัชต์ ตังวาย” กับงาน Noeul 1st Fan Meeting presents by Tao Kae Noi ซึ่งงานนี้มีเพื่อนศิลปิน นักแสดง มาเป็นแขกรับเชิญพิเศษเรียกเสียงกรี๊ดลั่นฮอลล์ประเดิมเซอร์ไพรซ์ด้วย “พั้นช์ ทิพานัน นิลสยาม” หรือ พั้นช์ 4EVE ที่มาร่วมโชว์บนเวทีในเพลง Troublemaker now ต่อด้วยคู่จิ้น คู่บุญอย่าง “บอส ชัยกมล เสริมส่งวิทยะ” มาร่วมโชว์ในเพลง Perhap loveโดยบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความสนุก และเสียงกรี๊ดดังสนั่นทั่วงาน เซอร์ไพรซ์ยังไม่หมดเมื่อหนุ่มบอสเดินถือเค้กเบิร์ดเดย์ และช่อดอกไม้ขึ้นมาให้โนอึลถึงบนเวที ทำเอาแฟน ๆ กรี๊ด แซวไม่หยุด ปิดท้ายด้วยหนุ่มบอสใส่ชุดท่อนบนเป็นอุลตร้าแมน ซึ่งเป็นตัวการ์ตูนที่โนอึลคลั่งไคล้ เดินมาหาบนเวที ทำเอาโนอึล เขินหนัก ยิ้มปลื้มไม่หยุดภาพ MemindyOfficial

เซนส์แรงเป็นเหตุ จะเกิดอะไรขึ้น?! เมื่อ ‘คน’ มีเพื่อนเป็น ‘ผี’ !!

27 ต.ค. 2022

เซนส์แรงเป็นเหตุ จะเกิดอะไรขึ้น?! เมื่อ ‘คน’ มีเพื่อนเป็น ‘ผี’ !!

ใครเป็นเด็กหอต้องมีเสียวสันหลัง เมื่อได้ฟังเรื่อง “รูมเมท” จากคุณนุ๊ก สายที่ 2 ในรายการ “อังคารคลุมโปง” เธอได้โทรเข้ามาแชร์ประสบการณ์ขวัญผวาของคนมีเซนส์ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา (25 ตุลาคม 2565)“อยู่ที่ไหน นุ๊กก็จะมีรูมเมท” คุณนุ๊กเปิดหัวเรื่องด้วยประโยคชวนขนลุก ก่อนจะเล่าว่า ในช่วงที่ยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่นั้น คุณนุ๊กพักอยู่หอในกับรูมเมท (คน) ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทางคุณนุ๊กเองก็ได้บอกรูมเมทไปล่วงหน้าว่า “เราอาจจะเห็นอะไรแปลกๆ นะ” รูมเมทก็ตอบกลับมาว่า “เราชอบฟังเรื่องผี” ทั้งสองจึงอยู่ด้วยได้กันช่วงแรกหลังจากได้เข้าไปอยู่ คุณนุ๊กก็รู้สึกว่าเหมือนมีใครอีกคนอยู่ในห้อง หลังๆ ก็เริ่มรู้สึกมากขึ้น อย่างตอนที่นั่งทำงานอยู่บนโต๊ะก็จะรู้สึกว่าที่หางตามีผู้หญิงนั่งอยู่ปลายเตียงของรูมเมท ในทุกๆคืน คุณนุ๊กจะสวดมนต์ก่อนนอน แต่ถ้าวันไหนไม่ได้สวด ก็จะรู้สึกว่ามีอะไรมาดึงขาบ้าง มาทุบที่คางบ้างและนั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นมีอยู่วันหนึ่งคุณนุ๊กกลับมานอนพักที่ห้อง ระหว่างที่กำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น ตอนนั้นเธอรู้สึกตัว แต่ขยับไม่ได้ จากนั้นก็เห็นคนเปิดประตูเข้ามา ซึ่งก็คิดว่าเป็นรูมเมท สักพักพอคนนั้นเดินมาข้างๆ เตียง เธอก็เริ่มรู้สึกว่ามันแปลกเพราะตรงเตียงของคุณนุ๊กและรูมเมทนั้นจัดชิดติดกันตั้งแต่แรกไม่มีช่องว่างที่จะสามารถเดินเข้ามาได้แล้วคนๆ นั้นเธอเดินเข้ามาระหว่างเตียงคุณนุ๊กกับเตียงรูมเมทได้ยังไง?จากนั้นเธอก็ยื่นมือมาจัดหิ้งพระที่คุณนุ๊กนำมาวางไว้บนหัวเตียง พอเสร็จ เรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น ก็กำลังจะเกิดขึ้น!เธอค่อยๆ นั่งลงกับพื้นแล้วก็เอามือจับขอบเตียงทั้งสองข้าง ใบหน้ายื่นเข้ามาหาคุณนุ๊กในระยะประชิด! ลักษณะตาโบ๋ลึกเข้าไป ปากก็โบ๋กว้าง คุณนุ๊กคิดในใจว่าไม่ใช่รูมเมทแล้ว ไม่ใช่แม้กระทั่งคนด้วยซ้ำไป จึงพยายามคิดว่าจะทำยังไงให้หลุดออกจากตรงนี้ ในระหว่างนั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น คุณนุ๊กก็หลุดออกจากตรงนั้นพลันคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู ปรากฏว่าไม่มีเบอร์ใครโทรเข้ามาเลย คุณนุ๊กไม่รอช้า รีบออกจากห้องทันทีหลังจากวันนั้น คุณนุ๊กก็ไม่กล้านอนคนเดียวในตอนกลางวันอีกเลย และมักจะชวนเพื่อนอีก 2 คนมานั่งเล่นด้วยแทน หนึ่งในบทสนทนาคือประสบการณ์หลอนที่คุณนุ๊กมักจะเจอ แต่แล้วคุณนุ๊กและเพื่อนอีกคนก็ต้องหันมามองหน้ากัน เมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ดังแว่วมา ทั้งคู่พยายามไม่คิดอะไร และทำตัวให้ปกติที่สุด เพื่อให้เพื่อนอีกคนที่ไม่ได้ยินเสียงนั้นสบายใจนอกจากเหตุการณ์นั้นแล้ว คุณนุ๊กก็ยังเจออีกเรื่อยๆ เช่น มีเพื่อนมาอยู่ด้วยในขณะที่คุณนุ๊กนั่งสวดมนต์อยู่ เพื่อนคนนั้นก็ได้ยินเสียงสวดมนต์เป็นเสียงผู้หญิงหวานๆ ตอนแรกก็นึกว่าเป็นคุณนุ๊กที่สวด แต่พอมองไปที่คุณนุ๊กก็พบว่า เธอสวดอยู่ในใจ ไม่ได้อ้าปากออกเสียงอะไรเลย ส่วนคุณนุ๊กเองก็เคยได้ยินคนสวดมนต์ตามเสียงตัวเองเหมือนกัน ก็เข้าใจว่ารูมเมทมาร่วมสวดด้วย แต่พอหันไปดูก็พบว่าเขาแค่นั่งดูโทรทัศน์ไม่ได้ขยับปากแม้กระทั่งรูมเมทที่บอกว่าชอบฟังเรื่องผี แต่ไม่เคยเจอกับตัว กลายเป็นว่าเขาก็ต้องเจอไปด้วย อย่างในตอนที่ออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นผู้หญิงยืนหันหลังอยู่ คิดว่าเป็นคุณนุ๊ก จึงเรียก แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับแต่อย่างใด รูมเมทจึงไม่ได้สนใจ พอเดินมาที่กลางห้อง ถึงได้เห็นว่าคุณนุ๊กยืนส่องกระจกอยู่ที่หน้าห้องน้ำ ซึ่งเป็นคนละตำแหน่งกับที่เจอเมื่อสักครู่นี้เมื่อไม่สามารถย้ายหอได้เพราะข้อจำกัดหลายๆ อย่าง คุณนุ๊กจึงทำได้เพียงสวดมนต์และแผ่เมตตาให้บ่อยๆ หลังจากนั้นก็เริ่มดีขึ้น ไม่ค่อยปรากฏตัวให้เห็น และเริ่มมาเฉพาะตอนที่ต้องการความช่วยเหลือ เช่น มีครั้งหนึ่งที่คุณนุ๊กป่วย คืนนั้นคุณนุ๊กกำลังโทรคุยกับเพื่อน พอเวลาประมาณ 5 ทุ่ม เพื่อนก็ถามว่า “ห้ะ? พูดว่าอะไรนะ?” จากนั้นสายก็ตัดไป พยายามโทรกลับไปหาเท่าไหร่ก็ไม่ติด แต่ก็ไม่คิดอะไรแล้วก็นอนหลับไป วันต่อมา คุณนุ๊กก็ถามเพื่อนว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อนก็บอกว่าได้ยินเสียงผู้หยิงพูดแทรกเข้ามาว่า “พอแล้วนะ จะให้นอน” ด้วยน้ำเสียงไพเราะฟังสบายและอีกเหตุการณ์ที่คุณนุ๊กจำได้แม่นเลยก็คือ ในตอนนั้น สมุดบัญชีได้หายไปทั้งหมด 2 เล่ม คุณนุ๊กก็มานั่งที่เตียงแล้วก็พึมพำว่า “ช่วยนุ๊กหาสมุดบัญชีหน่อยสิ” สักพักก็มีความรู้สึกให้เดินไปที่เก้าอี้ที่มีประเป๋าแขวนไว้ พอเปิดดูก็พบสมุดบัญชีเล่มหนึ่ง จากนั้นคุณนุ๊กก็กลับมานั่งที่เตียงแล้วบอกว่า “เจอเล่มเดียวเอง แล้วอีกเล่มนึงล่ะ?” หลังจากนั้นก็รู้สึกว่าต้องเดินกลับไปที่เดิม แล้วก็มองไปที่พื้น ซึ่งรอบแรก คุณนุ๊กมั่นใจเลยว่าไม่มีอะไรอยู่ตรงนั้นจริงๆ พอมารอบนี้ก็พบสมุดบัญชีวางอยู่คุณนุ๊กเล่าเพิ่มว่า ช่วงหนึ่งรูมเมทที่เคยอยู่ด้วยกันมีเหตุต้องย้ายออกไป ทำให้คนใหม่ย้ายมา แต่ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันอย่างสบายใจนัก เพราะคนใหม่มักคุยโทรศัพท์เสียงดัง คุณนุ๊กจึงคิดในใจว่า “อยากนอนอ่ะ จัดการให้หน่อย” หลังจากพูดเสร็จ อยู่ดีๆ รูมเมทคนใหม่ก็วางสายแล้วก็นอนทันทีคุณนุ๊กเองในตอนนั้น ก็รู้สึกเหมือนว่าเขาเป็นเพื่อนคนนึงไปแล้ว ตอนที่ต้องย้ายออกจากหอ คุณนุ๊กก็ร้องไห้เพราะรู้สึกผูกพัน หลังจากนั้นก็มีทำบุญให้เรื่อยๆอีกเหตุการณ์ที่คุณนุ๊กเล่า คือก่อนหน้าที่คุณนุ๊กจะย้ายเข้าไปอยู่ ที่ชั้น 5 ของหอนี้ได้เกิดเหตุมีคนเสียชีวิต คุณนุ๊กเองก็ทราบและไม่อยากอยู่ที่นี่ ไม่อยากได้ห้องหมายเลข 214 ที่เป็นห้องตรงสามแยกพอดี แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ วันหนึ่งขณะกำลังจะเดินไปขึ้นลิฟต์ ก็สังเกตเห็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งใส่กระโปรงสั้นเดินเข้าไปในลิฟต์ก่อน แต่คุณนุ๊กอยากขึ้นแค่คนเดียว จึงยืนรออยู่หน้าลิฟต์ ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็ไม่กดลิฟต์สักที คุณนุ๊กจึงเดินเข้าไป ปรากฏว่าในลิฟต์ดันไม่มีใครอยู่เลย คุณนุ๊กที่ชินกับเรื่องแบบนี้ จึงไม่ได้คิดอะไรมาก แต่หลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสคุยกับยามประจำหอ พี่ยามก็บอกว่า “อ๋อ คนเห็นประจำ น่าจะเป็นคนที่ชั้น 5 ส่วนลิฟต์ตัวนั้น เป็นลิฟต์ที่ขนศพเขาลงมา”ปัจจุบัน คุณนุ๊กก็ยังคงมีเซนส์ มักจะเห็นอะไรที่คนปกติไม่เห็นอยู่เสมอสามารถติดตามชมความหลอนย้อนหลังแบบเต็มๆ ได้ทาง

album

0
0.8
1