Netflix เตรียมสร้างการแข่งขัน Squid Game ชิงเงินรางวัลมหาศาลสูงถึง 4.56 ล้านเหรียญฯ หรือ 160 ล้านบาท

ENTERTAINMENT NEWS

Netflix เตรียมสร้างการแข่งขัน Squid Game ชิงเงินรางวัลมหาศาลสูงถึง 4.56 ล้านเหรียญฯ หรือ 160 ล้านบาท

16 มิ.ย. 2022

    หลังจากซีรีส์เกาหลี Squid Game ซีซั่น 1 ได้สร้างปรากฏการณ์ไปทั่วโลก จนกลายเป็นซีรีส์ที่มีคนดูมากที่สุดของ Netflix และเพิ่งประกาศอย่างเป็นทางการของการกลับมาในซีซั่น 2 (วันที่ 12 มิถุนายน 2565)

ล่าสุด! Netflix เตรียมสร้างการแข่งขัน Squid Game: The Challenge จำนวนทั้งหมด 10 ตอน ที่เลียนแบบเกมในซีรีส์ ซึ่งจะเปิดโอกาสรับสมัครผู้เข้าแข่งขันมากถึง 456 คน เพื่อชิงเงินรางวัลมหาศาลสูงถึง 4.56 ล้านเหรียญฯ หรือประมาณ 160 ล้านบาทไทย ถือได้ว่าทุบสถิติในประวัติศาสตร์รายการเรียลลิตี้โชว์ทั้งจำนวนผู้เล่นและเงินรางวัล โดยทางเน็ตฟลิกซ์ยังไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลของการถ่ายทำหรือช่วงกำหนดฉายแต่อย่างได้

แต่ทางเว็บไซต์ของ SquidGameCasting.com ได้ยืนยันว่าการแข่งขันในครั้งนี้จะไม่มีมีใครได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแค่กลับบ้านไปมือเปล่าเท่านั้น เพราะฉะนั้นแฟนๆ “สควิดเกม” ที่มีคุณสมบัติ อายุ 21 ปีขึ้นไป สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ และพร้อมถ่ายทำเป็นเวลานานถึง 4 สัปดาห์ ในช่วงต้นปี 2566 พุ่งตัวเข้าไปสมัครทางเว็บ ตอนนี้! ได้เลย

 

โดยการแข่งขัน จะแบ่งผู้เล่นเป็น 

วงกลม : ผู้สมัครสหรัฐอเมริกา

สามเหลี่ยม : ผู้สมัครในสหราชอาณาจักร

สี่เหลี่ยม : ผู้สมัครจากทั่วโลก

 

ภาพ : Netflix

related ENTERTAINMENT NEWS

เซอร์ไพรส์!! ‘แพทริเซีย’ ถูก “โน้ต วิเศษ” ขอแต่งงานแล้ว พร้อมโชว์แหวนเพชรเม็ดโต

24 มิ.ย. 2022

เซอร์ไพรส์!! ‘แพทริเซีย’ ถูก “โน้ต วิเศษ” ขอแต่งงานแล้ว พร้อมโชว์แหวนเพชรเม็ดโต

เตรียมตัวเป็นว่าที่เจ้าสาวแล้ว สำหรับนางเอกชื่อดัง “แพทริเซีย กู๊ด” หลังจากถูกนักธุรกิจหนุ่ม “โน๊ต วิเศษ” เซอร์ไพร์สคุกเข่าขอแต่งงานที่ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุดทั้งคู่เพิ่งจะออกมาประกาศข่าวดีให้แฟน ๆ ได้ทราบกันโดยโพสต์รูปคู่สุดหวาน พร้อมโชว์แหวนเพชรเม็ดโต ผ่านอินสตาแกรม และเขียนแคปชั่นว่า “The next chapter of our lives.. 02.06.2022” ภาพ : notevisesซึ่งงานนี้ก็มีเหล่าดารา คนในวงการบันเทิงและแฟน ๆ ต่างก็เข้ามาร่วมกันคอมเมนต์แสดงความยินดีกันอย่างล้นหลาม EFM ขอแสดงความยินดีกับทั้งคู่ด้วยนะคะ

“เวียร์ ศุกลวัฒน์” เผยฤกษ์แต่งสาวนอกวงการ “วิกกี้” 17 กรกฎาคมนี้

01 ก.ค. 2022

“เวียร์ ศุกลวัฒน์” เผยฤกษ์แต่งสาวนอกวงการ “วิกกี้” 17 กรกฎาคมนี้

หลังมีข่าวลือว่าพระเอกชื่อดัง “เวียร์ ศุกลวัฒน์” เตรียมสละโสดจะแต่งงานกลางเดือนกรกฏาคมนี้กับสาวนอกวงการ “วิกกี้”ล่าสุด “เวียร์” ได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่า ‘มันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะแล้วเราน่าจะต้องมีครอบครัวและด้วยวัยความพร้อม จังหวะ ก็ได้คุยกันและไปดูคิว สรุปได้ฤกษ์งานแต่งวันที่ 17 กรกฏาคม 2565 ซึ่งเป็นวันที่ดีที่สุดของปีนี้เลย ก็พยายามทำทุกอย่างให้พร้อม และรักครั้งนี้ดีที่สุดแล้ว เราสามารถคุยกันได้ทุกเรื่องและเข้าใจกัน ส่วนเจ้าสาวก็ตื่นเต้น ตั้งใจจะจัดงานที่กรุงเทพและจัดแบบภายในครอบครัว อยากให้งานออกมาอบอุ่นที่สุด’ ภาพ : patti_nazซึ่ง “เวียร์” ก็ได้พูดถึง “วิกกี้” แฟนสาวว่า ‘เขาเป็นคนน่ารักและเพอร์เฟคทุกอย่าง ถามว่าคลั่งรักไหม ก็นิดนึงแต่เรารู้สึกว่า พอทุกอย่างลงตัวอะไรก็ดีไปหมด ตอนโดนเปิดวาร์ปเขาก็ไม่ชิน แต่ก็พยายามอธิบายให้เขาเข้าใจว่าต้องทำยังไงต่อ วงการเราต่างกันก็เป็นห่วงเขานิดนึง เราก็ทำตัวปกติ ดูแลกันไป ส่วนเรื่องจะมีลูกเลยไหม อายุขนาดนี้ก็อยากมีลูกแล้ว และพร้อมเป็นคุณพ่อ’ EFM ขอแสดงความยินดีกับทั้งคู่ด้วยนะคะ

ไปกางเต็นท์คนเดียว.. ระวังเจอเซอร์ไพร์สโดนเขย่าเต็นท์! สุดท้ายไม่ได้หลับไม่ได้นอน

19 ธ.ค. 2022

ไปกางเต็นท์คนเดียว.. ระวังเจอเซอร์ไพร์สโดนเขย่าเต็นท์! สุดท้ายไม่ได้หลับไม่ได้นอน

ในรายการ ‘อังคารคลุมโปง’ ที่ผ่านมา (13 ธันวาคม 2565) มีสายจาก ‘คุณโก้’ ได้โทรเข้ามาเล่าเรื่องชวนขนหัวลุกเกี่ยวกับการไปตั้งแคมป์นอนเต็นท์ที่ต่างจังหวัดคนเดียว ชวนให้ดีเจแนน - ดีเจ็ม - และดีเจมดดำ ได้อุทานร้องหวอไปตาม ๆ กัน กับเรื่องที่มีชื่อว่า ‘เขย่าเต็นท์’การตั้งแคมป์นอนเต็นท์ เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ในการท่องเที่ยวของบ้านเรา คุณโก้เองก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่อยากจะชมวิว ชิลไปกับบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนตุลาคมของปีที่แล้ว คุณโก้นัดกับเพื่อนว่าจะไปนอนเต็นท์ด้วยกันในวันธรรมดา เพราะวันหยุดจะมีคนเยอะ เมื่อได้จัดการจองและจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย พอถึงหนึ่งวันก่อนจะออกเดินทาง เพื่อนคุณโก้กลับเปลี่ยนใจไม่ไปเสียอย่างนั้น คุณโก้ที่เสียดายเงินที่จ่ายไป บวกกับสถานที่นอนเต็นท์อยู่ใกล้บ้าน ห่างประมาณ 30 กิโลเมตร จึงตัดสินใจเดินทางไปคนเดียวคุณโก้ไปถึงลานกางเต็นท์ในช่วงเที่ยง ลูกของเจ้าของสถานที่ ซึ่งมีเชื้อสายไทย-มอญ ก็เดินเข้ามาต้อนรับด้วยความอัธยาศัยดีและช่วยกางเต็นท์จนเสร็จเรียบร้อย จนเกือบจะถึงเวลาเย็น คุณโก้ก็ออกไปกินข้าว พอใกล้ 6 โมงเย็น ก็กลับมาที่เต็นท์ของตัวเอง ก็พบว่าบริเวณนั้น แทบจะไม่มีใครมากางเต็นท์นอนกันเลย ส่วนลูกเจ้าของสถานที่ก็กลับบ้านพักซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณนี้ไป คุณโก้อธิบายเสริมว่า ด้านหน้าของเต็นท์จะมีลำธารเล็ก ๆ ที่สามารถลงไปเล่นน้ำได้ เวลาผ่านไปจนถึง 1 ทุ่ม แม้จะมีแสงไฟอยู่บ้าง แต่ความมืดที่มากกว่าก็ปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณ คุณโก้ตัดสินใจเข้าไปนอนในเต็นท์ เพราะลึก ๆ ก็แอบหวั่นใจกับบรรยากาศในที่แห่งนี้…ใช้เวลาไม่นานคุณโก้ก็ผล็อยหลับไป กระทั่งเวลา 2 ทุ่ม คุณโก้ตื่นเพราะได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือ เป็นเพื่อนคนที่ตั้งใจจะมาด้วยกันนั่นเองที่โทรเข้ามา คุณโก้หัวเสียเล็กน้อยเพราะเพื่อนโทรมาจนทำให้ตื่น และบอกเพื่อนว่าที่นัดกันไว้นั้นตนมาคนเดียว คุยกันได้สักพักก็วางสายไป คุณโก้ตั้งว่าจะนอนต่อแต่ก็ไม่สำเร็จ ผ่านไปสักพัก ก็ได้ยินเสียงของคนประมาณ 3-4 คน เหมือนกำลังหาปลาอยู่ในลำธารด้านหน้าเต็นท์ (ซึ่งความสูงของน้ำในลำธารนั้นประมาณค่อนเอว) เสียงนั้นเดินใกล้เต็นท์มากขึ้นทุกที จากนั้นก็หยุด แล้วเสียงภาษาพม่าก็เริ่มดังขึ้น คุณโก้เริ่มคิดเตลิดในหัว ถ้าเปิดออกไปแล้วเป็นคน ก็คงจะน่ากลัวไม่น้อย เพราะเขามากันหลายคน แต่ถ้าเปิดไปแล้วไม่เจอใคร ก็ยิ่งทวีความน่ากลัวมากขึ้นไปอีก เสียงคุยยังคงดำเนินต่อไปประมาณ 10 นาทีได้ คุณโก้ที่เริ่มทนไม่ไหวก็ตัดสินใจจะเปิดเต็นท์ออกไปดู เพราะคิดว่าอย่างน้อยถ้าเป็นคนก็คงจะชื่นใจกว่า เมื่อคิดได้ดังนั้น ก็เปิดเต็นท์ออกไป ภาพที่เห็นนั้นแทบไม่เชื่อสายตา!คุณโก้พบว่าข้างนอกนั้น ไม่มีใครอยู่เลย! ภาพข้างหน้าเป็นธารน้ำที่เงียบสงัด มีเพียงแสงไฟสลัวจากดวงไฟไม่กี่ดวง คุณโก้เริ่มตระหนักในใจว่ายังไงก็โดนเข้าให้แล้ว แต่ด้วยความใจกล้า จึงจะยังนอนอยู่ที่นี่ อีกสักหน่อยตัวเองคงจะหลับไปเอง แต่แล้วก็ไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ เวลาผ่านไปไม่นาน ก็ได้ยินเสียงคนเดินเหยียบใบไม้บริเวณรอบ ๆ เต็นท์ และก็อีกครั้ง ที่เสียงนั้นมาหยุดอยู่ที่หน้าเต็นท์ คุณโก้ที่นอนหันหลังให้ฝั่งนั้นก็ต้องสั่นสะท้าน ไม่กล้าหันไปมอง จากนั้นเสียงก็ค่อย ๆ ย่องเดินไปต่อจนเริ่มเบาและหายไป วินาทีนั้นคุณโก้ก็โล่งใจ เพราะคิดว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว..อากาศข้างนอกดูเหมือนจะเย็นลง แต่คุณโก้ก็ไม่แน่ใจว่าข้างนอกมีลมแรงหรือไม่ สักพักเต็นท์ก็เริ่มเขย่าโดยอะไรบางอย่าง! คุณโก้ลุกขึ้นมานั่งชันเข่าตัวแข็งไปหมด เพราะจิตใจเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ในใจคิดว่าจะเอายังไงดี ถ้าจะกลับบ้านมันก็ดึกแล้ว ประมาณ 5 ทุ่มถึงเที่ยงคืนได้ ครั้นจะอยู่ต่อมันก็นอนไม่หลับแล้ว คุณโก้จึงบอกกับตัวเองว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นอีก จะกลับบ้านทันที!ไม่นาน ขณะที่คุณโก้นั่งชันเข่าอยู่ที่มุมบนตรงกลางเต็นท์ ใบหน้าก็มองไปที่อีกฝั่ง ทันใดนั้นก็มีหน้าคนยื่นเข้ามาจากข้างนอกทั้งที่ไม่ได้เปิดเต็นท์แล้วก็เด้งกลับไปในเสี้ยววินาที! (มียื่นหน้าเข้ามา แม้จะมีผ้าเต็นท์กั้นอยู่ คล้ายกับแม่พิมพ์) จังหวะนั้นคุณโก้ก็รู้ดีว่ามันคือใบหน้าของคนแน่ ๆ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร จากที่กลัวมาก คุณโก้ก็ปลดล็อคดับเครื่องชน รีบเปิดเต็นท์ออกไปดูและตะโกนลั่นป่าถามว่า “ใครครับ! ออกมาได้มั้ย?” สุดท้ายก็ไม่มีใครหรือเสียงอะไรตอบกลับมา ด้วยความที่อยู่คนเดียว จึงโทรหาเพื่อนคนเดิมแล้วเปิด Speakerphone ไว้ แต่เพื่อนบอกว่าคุยกับแฟนอยู่ คุณโก้จึงบอกว่า “กูกำลังเก็บเต็นท์กลับบ้าน มึงพูดอะไรก็ได้ แต่กูขอเก็บเต็นท์แปปนึง” (ประมาณว่าให้เพื่อนอยู่ในสายรอไว้) คุณโก้ใช้เวลาเก็บเต็นท์น้อยกว่ากางเต็นท์มาก คุณโก้เล่าเสริมว่า ขณะที่เดินกลับรถ ก็พึ่งจะรู้ตัวว่าบรรยากาศตรงนั้น มันไม่ปลอดภัยมาก ๆ ทั้งมืด และไม่มีใคร แล้วก็บอกกับตัวเองในใจว่า “กูนอนไปได้ไงเนี่ย” จากนั้นก็รีบออกไปโดยไม่ได้หันหลังกลับไปมองลานกางเต็นท์นั้นอีกเลยซึ่งทางดีเจเจ็มจึงถามกลับไปว่า “ปกติแล้ว เวลาเราไปกางเต็นท์ ก็มักจะต้องบอกเจ้าที่เจ้าทาง คุณโก้ได้ทำบ้างมั้ย?” คุณโก้บอกว่าไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นเลย เพราะคิดว่าคงไม่มีอะไร เรามานอนคนเดียว ไม่มีเจตนาร้ายใครได้ฟังหรืออ่านเรื่อง ‘เขย่าเต็นท์’ จากคุณโก้กันแล้ว ถ้ามีแพลนจะไปนอนเต็นท์กลางป่า ก็พกเพื่อนตัวเป็น ๆ ไปด้วยสักคน ดีกว่าไปเจอเพื่อนที่อาจไม่ใช่คนจะดีกว่านะ...ติดตามความสนุกย้อนหลัง

วิ่งหนีขวัญผวา เมื่อตื่นมาหาเพื่อนไม่เจอ! จะทำยังไงเมื่อเจอชายแปลกหน้ากวักมือเรียก แต่คนเรียกดันไม่มีหัว!!

06 ต.ค. 2022

วิ่งหนีขวัญผวา เมื่อตื่นมาหาเพื่อนไม่เจอ! จะทำยังไงเมื่อเจอชายแปลกหน้ากวักมือเรียก แต่คนเรียกดันไม่มีหัว!!

เรื่องชวนขนหัวลุกนี้ มาจากคุณอาร์ม สายที่ 2 ในรายการ “อังคารคลุมโปง” เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา (4 ตุลาคม 2565) ได้โทรเข้ามาเล่าเรื่องราวสุดหลอนของคุณพ่อ ให้กับดีเจแนน และดีเจเจ็มได้คลุมโปงไปด้วยกัน เรื่องราวจะเป็นอย่างไร เราสรุปไว้ให้คุณแล้วเรื่องราวนี้เป็นเรื่องราวที่คุณพ่อได้เล่าให้คุณอาร์มฟัง ในสมัยที่คุณพ่อยังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 วันนั้นเป็นวันที่จะมีการฉายหนังกลางแปลงที่ต่างจังหวัด คุณพ่อจึงชวนเพื่อนอีก 2 คน ที่ชื่นชอบการดูหนังเหมือนกัน นั่นก็คือ “ลุงโพน” กับ “ป้าแกะ”ระหว่างทางที่เดินมา ป้าแกะได้สังเกตเห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินวนไปวนมาอยู่ใต้ต้นมะม่วง เธอจึงหันไปถามพ่อของคุณอาร์ม แต่คุณพ่อก็ตอบกลับไปว่า “ไม่ต้องไปสนใจหรอก เจ้าของสวนมะม่วงมั้ง ไป ๆ รีบไปดูหนังกันดีกว่า”เมื่อทั้ง 3 ไปถึงงานประมาณ 4 โมงเย็น ก็เริ่มโพล้เพล้แล้ว และเมื่อเจ้าหน้าที่ได้เตรียมอุปกรณ์เพื่อฉายหนังกลางแปลงเสร็จ พอเข้า 6 โมงเย็น หนังก็เริ่มฉาย…หนังกลางแปลงที่ได้ดูในวันนั้น คุณอาร์มเล่าให้ฟังว่ามันคือเรื่อง “แสงกระสือ” เมื่อหนังฉายจบ ทั้ง 3 ต้องกลับบ้าน แต่ด้วยเส้นทางที่แทบจะไม่มีไฟ ทำให้ทั้ง 3 คนเริ่มเสียวสันหลัง คุณพ่อคุณอาร์มเลยตัดสินใจถามเพื่อนทั้งสองว่า “คืนนี้จะไปนอนที่ไหนกันดี ระหว่างนอนที่วัด, เถียงนา หรือโรงเรียน” เพราะทุกที่ล้วนเป็นสถานที่คุ้นเคย ทั้ง 3 คนจึงตกลงกันว่า ไปนอนที่โรงเรียนดีกว่า เพราะไปง่าย แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยแยกย้ายกันกลับบ้านเมื่อทั้ง 3 คนเดินมาถึงโรงเรียน ก็จัดแจงหาพื้นที่นอน แต่พอนอนไปสักพัก คุณพ่อก็เริ่มรู้สึกแปลก ๆ จึงคิดจะปลุกเพื่อน แล้วชวนไปนอนที่เถียงนาดีกว่า แต่พอจะปลุกลุงโพน เขาก็รู้สึกเหมือนว่าไปจับโดนมือที่เย็นเฉียบของใครบางคนเข้า ตอนแรกก็คิดว่าลุงโพนคงจะหนาว ครั้งนี้เขาก็เลยเริ่มสะกิดเพื่อนอีกครั้ง และพอพ่อคุณอาร์มเริ่มปรับสายตาให้ชินความมืดได้แล้ว ทันใดนั้นก็มองเห็นผู้หญิงคนหนึ่งผมปิดหน้า พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “มึงจะไปไหน นอนเป็นเพื่อนกันก่อน” เมื่อได้ยินดังนั้น คุณพ่อก็ตกใจ แล้วพยายามปลุกเพื่อนทั้งสอง แต่ปรากฏว่าเพื่อนไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว เขาจึงรีบวิ่งหนีออกมาทันที!ซึ่งในระหว่างทาง จะต้องผ่านต้นมะม่วง ที่ป้าแกะเคยเห็นผู้ชายเดินวนอยู่ คุณพ่อจึงหยุดวิ่งแล้วมองไปที่ต้นมะม่วงต้นนั้น ก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมาแต่ไม่มีหัว! จากนั้น ชายคนนั้นก็ค่อย ๆ หยิบหัวตัวเองออกมา แล้วถามคุณพ่อว่า “ไปไหน! ไปไหนไอ้หนุ่ม! เอามะม่วงไปกินป่าว?” พูดจบ คุณพ่อก็สบถคำหยาบแล้วก็วิ่งออกไปที่เถียงนาทันที!เช้าวันถัดมา เมื่อคุณพ่อตื่นขึ้นก็เห็นป้าแกะและลุงโพนนอนอยู่ที่นั่นแล้ว คุณพ่อจึงถามว่า “พวกมึงไปไหนกันเมื่อคืน ทำไมทิ้งให้กูอยู่คนเดียว” ทั้ง 2 จึงตอบกลับว่า “เห็นมึงนอนสบายดี ปลุกยังไงก็ไม่ตื่น กูก็เลยไปก่อน” หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดจากคุณพ่อ เพื่อนอีก 2 คนก็บอกว่าตอนที่วิ่งหนีออกมาจากโรงเรียนนั้น ไม่ได้เจอกับผู้ชายที่อยู่ใต้ต้นมะม่วงเหตุการณ์วันนั้น ทำให้คุณพ่อไปถามคนที่อาศัยอยู่ระแวกใกล้เคียงกับต้นมะม่วงว่าเคยเกิดอะไรขึ้นแถวนี้หรือเปล่า? คนแถวนั้นจึงตอบกลับมาว่า “เคยมีเจ้าของสวนมะม่วงอยู่ เขาชอบแกล้งเด็ก และเป็นคนนิสัยหวงของ พอเสียชีวิตไป วิญญาณก็ยังคงวนเวียนอยู่แถวนี้” นอกจากคุณพ่อแล้ว ก็ยังมีเด็กอีกหลายคนถูกแกล้งเยอะเหมือนกัน ส่วนสาเหตุการตายนั้น คุณพ่อเองก็ไม่แน่ใจ คิดว่าน่าจะตกจากต้นมะม่วงแล้วเสียชีวิต!!สามารถติดตามชมความหลอนย้อนหลังเพิ่มเติมได้ทางรับชมรายการสดได้ทุกวันอังคาร เวลา 20.00-22.00 น. ทางคลื่นวิทยุ EFM94 และ App : Atimefungfinภาพ : อังคารคลุมโปง

album

0
0.8
1