ไอซ์ ปรีชญา เสียดายที่ปัญหาด้านสุขภาพ ทำให้เธอพลาดโอกาสร่วมงานหนัง GDH เรื่องใหม่

ENTERTAINMENT NEWS

ไอซ์ ปรีชญา เสียดายที่ปัญหาด้านสุขภาพ ทำให้เธอพลาดโอกาสร่วมงานหนัง GDH เรื่องใหม่

10 มี.ค. 2025

ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร นักแสดงสาวมากความสามารถ ได้ออกมาอัปเดตสุขภาพของตนเอง หลังจากที่เธอเคยเปิดเผยถึงการต่อสู้กับภาวะซึมเศร้า แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ด้วยความเข้มแข็งและความมุ่งมั่น เธอสามารถก้าวผ่านมันมาได้ ปัจจุบันอาการดีขึ้นกว่าก่อนมาก แม้จะยังคงต้องดูแลตัวเองและรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ แต่เธอมั่นใจว่าในไม่ช้า จะกลับมาเป็น ไอซ์ ที่สดใสและสนุกสนานเหมือนเดิม

เธอบอกว่าหนึ่งในสิ่งที่เธอรู้สึกเสียดายมากที่สุด คือการที่อาการป่วยทำให้พลาดโอกาสร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องใหม่ของ GDH อย่าง Beauty and The Beat ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่เธอให้ความสนใจและตื่นเต้นกับการทำงานร่วมกับเพื่อนนักแสดงสายอารมณ์ดี รวมถึงผู้กำกับมากฝีมืออย่าง ไตเติ้ล-กิตติภัค ทองอ่วม แม้จะไม่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่เธอยังคงส่งกำลังใจให้ทีมงานและนักแสดงทุกคนในการสร้างสรรค์ผลงานให้ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ

“โปรเจกต์นี้เป็นสิ่งที่ไอซ์เสียดายมากค่ะ เพราะบทบาทต้องมีการเพิ่มน้ำหนักตัว ซึ่งไอซ์ขอไม่เปิดเผยว่าต้องเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ แต่ด้วยความที่สุขภาพของไอซ์ยังต้องได้รับการดูแล การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายเช่นนี้อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการทำงานได้ ดังนั้นไอซ์จึงตัดสินใจถอนตัว แม้ว่าจะรู้สึกเสียดายมากก็ตาม” เธอกล่าว พร้อมย้ำว่าเธอเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับงานเสมอ แต่เมื่อต้องเลือกระหว่างสุขภาพกับหน้าที่ เธอเลือกที่จะดูแลตัวเองก่อน อย่างไรก็ตาม เธอจะคอยติดตามและให้กำลังใจทีมงานทุกคน และตั้งตารอชมภาพยนตร์เรื่องนี้เช่นกัน

นอกจากนี้ ไอซ์ ยังได้แบ่งปันแนวคิดในการใช้ชีวิตให้มีความสุขขึ้น โดยเน้นการปล่อยวางสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ พร้อมกับให้ความสำคัญกับพลังใจจากตัวเอง เธอเชื่อว่ากำลังใจจากคนรอบข้างมีความหมาย แต่ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการที่เราสามารถให้กำลังใจตัวเองได้ เพราะสุดท้ายแล้วความเข้มแข็งจากภายในจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราก้าวข้ามช่วงเวลายากลำบาก และเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง

ภาพ : icepreechaya / GDH

related ENTERTAINMENT NEWS

นักแสดง-ผู้กำกับ-โปรดิวเซอร์ ร่วมบวงสรวงเปิดกล้อง ‘The Chinese Family’ โปรเจกต์ภาพยนต์เรื่องล่าสุดจาก GDH

28 มิ.ย. 2023

นักแสดง-ผู้กำกับ-โปรดิวเซอร์ ร่วมบวงสรวงเปิดกล้อง ‘The Chinese Family’ โปรเจกต์ภาพยนต์เรื่องล่าสุดจาก GDH

เป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์จาก GDH ที่ถูกจับตามองตั้งแต่วันที่มีการแถลงข่าวเปิดตัวในงาน GDH LINE UP 2023 เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา สำหรับภาพยนตร์เรื่อง The Chinese Family ฝีมือการกำกับของ พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นการเข้ามารับบทนำในภาพยนตร์แบบเต็มตัวครั้งแรกของ บิวกิ้น พุฒิพงศ์ นี่ยังเป็นผลงานที่จะหยิบเอาเรื่องราว และบรรยากาศที่เกิดขึ้นในครอบครัวของคนไทยเชื้อสายจีน มาให้ทุกคนได้สัมผัสในรูปแบบของภาพยนตร์ด้วยล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา GDH ได้ฤกษ์ดีทำพิธีบวงสรวงเปิดกล้องถ่ายทำ The Chinese Family เป็นที่เรียบร้อย โดยมีนักแสดงนำ ทั้ง บิวกิ้น พุฒิพงศ์, ตู ต้นตะวัน, เผือก พงศธร, แต๋ว อุษา ร่วมถึงผู้กำกับและโปรดิวเซอร์อย่าง โปรดิวเซอร์โดย พี่เก้ง-จิระ มะลิกุล และ พี่วรรณ-วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ ร่วมพิธีด้วยสำหรับ The Chinese Family เป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวคนจีน และ Generation Gap ในครอบครัวยุคใหม่ โดยได้ไอเดียและแรงบันดาลใจมากจากเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นกับหลายครอบครัว ซึ่งคุ้นเคยกับบรรยากาศของการอยู่ร่วมบ้านกันหลายๆ เจนเนอเรชั่น แต่เมื่อวันหนึ่งมีการแยกไปเป็นครอบครัวเดี่ยว จนเกิดเป็นความห่างเหินขณะที่ บิวกิ้น เคยถูกถึงความรู้สึกที่ได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์นี้เอาไว้ว่า “ดีใจมากๆ นะครับ เพราะว่าจริงๆ นี่เป็นหนังเรื่องแรกของผม และเป็นโปรเจกต์แรกที่ทำกับ GDH แบบเต็มตัว พอได้คุยกันรู้สึกว่ามีหลายๆ ส่วนที่คล้ายกับครอบครัวของตัวเอง ก็จะเป็นผลงานอีกเรื่องที่ผมเต็มที่แน่นอนครับ”The Chinese Family จะเริ่มต้นถ่ายทำในเร็วๆ นี้ และมีกำหนดจะเข้าฉายอย่างเป็นทางการในโรงภาพยนตร์ช่วงต้นปีหน้า และนอกจากฉายในเมืองไทย ยังมีเป้าหมายไปตีตลาดวงการบันเทิงที่ประเทศจีน รวมถึงประเทศต่างๆ ในเอเชียด้วยภาพ : GDH

เจฟ ซาเตอร์ จะมารับบทนำใน Project D ของ GDH ร่วมกับ อิงฟ้า วราหะ ซึ่งมีกำหนดเปิดกล้องปลายปีนี้

29 ส.ค. 2023

เจฟ ซาเตอร์ จะมารับบทนำใน Project D ของ GDH ร่วมกับ อิงฟ้า วราหะ ซึ่งมีกำหนดเปิดกล้องปลายปีนี้

GDH ออกมาอัปเดตความคืบหน้าของ Project D (Working Title) หนึ่งในโปรเจกต์ภาพยนตร์ชิ้นใหม่ของ GDH ผลงานของผู้กำกับ บอส-นฤเบศ กูโน ว่าจะกลับมาเริ่มกระบวนการทำงานอีกครั้ง หลังต้องระงับการทำงานไปชั่วคราว โดยมีความเปลี่ยนแปลงลิสของนักแสดงซึ่งครั้งนี้ได้ เจฟ ซาเตอร์ (Jeff Satur) ศิลปินและนักแสดงมากความสามารถมารับบทนำคู่กับ อิงฟ้า วราหะ“บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด ขอประกาศอัปเดตความคืบหน้าของภาพยนตร์ โปรเจกต์ D (Working Title) ซึ่งทางบริษัทมีเหตุจำเป็นต้องระงับการถ่ายทำไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากความไม่ลงตัวของระยะเวลาในการเตรียมงาน“ซึ่งทางบริษัทฯ ผู้กำกับภาพยนตร์ และทีมงานที่เกี่ยวข้องกับโปรเจกต์นี้ ได้ใช้เวลาในช่วงที่ผ่านมาในการแก้ไขปรับเปลี่ยนรายละเอียดต่างๆ ของบทภาพยนตร์จนสมบูรณ์เรียบร้อย ทางบริษัทฯ จึงขอแจ้งให้แฟน ๆ ทราบว่า ขณะนี้ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวกำลังจะเข้าสู่กระบวนการเตรียมงานก่อนการถ่ายทำจริงแล้ว โดยทีมนักแสดงหลักทั้ง 5 ท่าน ได้แก่ เจฟ ซาเตอร์, อิงฟ้า วราหะ, พงศกร เมตตาริกานนท์, หฤษฎ์ บัวย้อย และ สีดา พัวพิมล จะเริ่มทำการเวิร์กช็อปร่วมกัน เพื่อให้พร้อมสำหรับการเปิดกล้องที่จะเกิดขึ้นในปลายปีนี้“ทางบริษัทฯ ขอขอบคุณแฟนๆ ที่ให้ความสนใจรอชมภาพยนตร์เรื่องนี้ และให้การสนับสนุนที่ดีเสมอมา”สำหรับ Project D ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน GDH Line Up 2023 นำแสดงโดย พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร แต่เนื่องด้วยระยะเวลาในการเตรียมงาน รวมถึงสถานที่ที่ไม่ลงตัว ทำให้ต้องระงับการถ่ายทำไปชั่วคราว ขณะที่แฟนคลับเองก็แอบเสียดายที่จะไม่ได้เห็นฝีมือการแสดงภาพยนตร์ของ พีพี แต่ก็เคารพการตัดสินใจของทุกฝ่ายทางด้าน เจฟ ซาเตอร์ ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้แล้วว่า เป็นโอกาสดีที่ได้ร่วมงานกับทาง GDH และนักแสดงทุกคนในเรื่อง ส่วนตัวเขารู้สึกว่าเป็นงานที่ท้าทายมาก รวมถึงประเด็นหลักของเรื่องที่จะพูดถึงก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจทีเดียว“จริงๆ เราคุยกันมาประมาณ 3-4 เดือนแล้ว พอได้เห็นตัวบทก็รู้สึกว่ามันท้าทายมาก หลังจากนั้นก็ได้เข้าไปแคสต์กับพี่บอสผู้กำกับ ความน่าสนใจของตัวบทคือ มีการพูดถึงประเด็นที่น่าสนใจมาก ๆ ซึ่งเกี่ยวกับ LGBT ด้วย แล้วมันเป็นประเด็นที่ผมพูดมาตลอด เรารู้สึกว่าก็ดีนะถ้าเราจะได้เป็นตัวแทนในการพูดถึงเรื่องนี้แทนคนที่เขาไม่สามารถพูดออกมาได้ รวมถึงไดนามิกของเรื่องมันค่อย ๆ ไล่ไปจนถึงจุดที่มันไม่น่าจะไปถึงได้“ตอนแรกผมก็รู้สึกกังวลว่าผมเหมาะหรือเปล่า ซึ่งผู้ใหญ่บอกว่าจากการได้ดูวิดีโอแคสต์ก็รู้สึกว่านี่เป็นเวอร์ชั่นที่เขาอยากจะเห็นในหนังเรื่องนี้ ตอนแรกที่ผมกังวลเพราะตัวบทมันท้าทายมาก แล้วผมอาจจะมีเวลาเตรียมตัวไม่ได้เยอะขนาดนั้น แล้วการที่จะต้องทรานส์ฟอร์มตัวเองไปเป็นคนอื่นมันก็ยาก การทำงานเพลงมันคือการเป็นตัวเรา แต่งานหนังมันเป็นการทิ้งตัวเราแล้วไปเป็นคนอื่น“ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันกดดันอะไรในเรื่องนี้ แต่ถ้าจะกดดันผมกดดันกับเรื่องบทมากกว่า ในฐานะเป็นนักแสดงสิ่งที่ต้องทำการบ้านจริง ๆ คือตัวบท แล้วเราจะไปเป็นคนคนนั้นในหนังเรื่องนี้ได้ยังไง”เจฟ ยังบอกอีกว่า คาแร็กเตอร์ในเรื่องนี้ถือว่าเป็นที่สุดของการทรานส์ฟอร์มตัวเอง เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกที่แฟน ๆ ได้เห็นเขาในลุคผิวดำและต้องโกนหัว ซึ่งเขามองว่าหากจะต้องไปเป็นคนอื่น ก็ต้องทิ้งตัวตนของตัวเองไว้ที่หน้าเซ็ตแล้วเข้าไปในโลกของตัวละครนั้นจริง ๆ ต้องรอดูว่าฝีมือการแสดงของเขาจะออกมาเป็นยังไง แต่ที่แน่ ๆ เจฟ ก็ทุ่มสุดตัวเลยทีเดียวภาพ : Wayfer Records

ลดน้ำหนัก 17 กิโลกรัม-โกนหัว-ทำความเข้าใจกับผู้ป่วยมะเร็ง 3 สิ่งที่ ไอซ์ซึ ทุ่มเทเพื่อรับบท “อู๊ด” ในหนัง “One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ”

08 ก.พ. 2022

ลดน้ำหนัก 17 กิโลกรัม-โกนหัว-ทำความเข้าใจกับผู้ป่วยมะเร็ง 3 สิ่งที่ ไอซ์ซึ ทุ่มเทเพื่อรับบท “อู๊ด” ในหนัง “One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ”

นอกจากจะเป็นภาพยนตร์ที่คอหนังชาวไทยรอคอยแล้ว “One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ” กำกับโดย บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ดูแลงานสร้างโดย หว่องกาไว ยังเป็นผลงานอีกหนึ่งเรื่องพิสูจน์ฝีมือ ความสามารถ และความทุ่มเทของทีมนักแสดงด้วย โดยเฉพาะ ไอซ์ซึ-ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ ที่เชื่อว่าหลายคนคงได้เห็นภาพข่าวก่อนหน้านี้ ที่เจ้าตัวนั้นลงทุนรีดน้ำหนักหายไปหลายสิบกิโลกรัม เพื่อความสมจริงของตัวละคร “อู๊ด” ที่ ไอซ์ซึ รับเล่นโดยภาพที่ถูกเผยแพร่ออกมา ทำเอาหลายคนฮือฮามากๆ เพราะแสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายชนิดที่ว่าจากหน้ามือเป็นหลังมือ จนแฟนคลับอดเป็นห่วงไม่ได้ว่า จะกระทบถึงสุขภาพในระยะยาวของ ไอซ์ซึ หรือไม่ ก่อนที่เจ้าตัวจะออกมาเปิดเผยว่า ทุกขั้นตอนของการลดน้ำหนักนั้น เป็นไปด้วยความปลอดภัย บวกกับ ไอซ์ซึ เองก็เคยมีประสบการณ์การลดน้ำหนัก จึงรู้กระบวนการและที่วิธีการที่ทำให้รับมือกับร่างกายที่เปลี่ยนไปได้สำหรับระยะเวลาหนึ่งเดือนครึ่งของการเตรียมตัว ไอซ์ซึ ลดน้ำหนักลงไปถึง 17 กิโลกรัม ไม่เพียงเท่านั้น เขายังลงทุนโกนหัวของตัวเอง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆ ในฐานะนักแสดงอาชีพ ทั้งยังต้องเข้าไปศึกษา ทำความเข้าใจกับผู้ป่วย ไม่ใช่แค่ให้รู้เรื่องภายนอก แต่ต้องเข้าใจถึงความคิดของคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ด้วย“บทอู๊ดเป็นงานที่ท้าทายสำหรับผมมาก ผมมีไปปรึกษาคุณหมอ และได้รู้จักเพื่อนพี่บาสที่อเมริกาที่เป็นโรคนี้ ซึ่งพี่ลอยด์มาช่วยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องทางจิตใจแล้วก็ร่างกาย พี่ลอยด์ทำให้ผมเข้าใจกระบวนความคิดของตัวละครอู๊ดมากขึ้น แกเป็นเหมือน role model ที่ผมนำมาใช้กับการแสดงเป็นตัวละครอู๊ด หนังเรื่องนี้ให้ประสบการณ์ชีวิตผมหลายอย่างมาก ได้ทำงานกับพี่บาส และหว่องกาไว ได้ร่วมงานกับนักแสดงสุดยอดฝึมือทุกคน ต่อ, พี่เอก ธเนศ, พลอย, ออกแบบ, พี่นุ่น, วี ทุกคนเก่งมาก ทุกคนทำให้ผมสามารถสวมบทอู๊ด และไปสู่จุดที่ทำให้ออกมาเป็นหนังเรื่องนี้ได้ ขอบคุณทีมเวิร์คทีมนี้มากๆ ครับ”เตรียมออกเดินทางไปพร้อมกันในหนัง “One for the Road วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ” 10 กุมภาพันธ์นี้ ในโรงภาพยนตร์ภาพ : GDH

คุณแม่เผยว่า ไอซ์ ปรีชญา เครียดหลายเรื่องรุมเร้า โดนฟ้อง-งานถูกยกเลิก ก่อนพบนอนหมดสติในบ้าน

05 ก.ค. 2023

คุณแม่เผยว่า ไอซ์ ปรีชญา เครียดหลายเรื่องรุมเร้า โดนฟ้อง-งานถูกยกเลิก ก่อนพบนอนหมดสติในบ้าน

เป็นเหตุการณ์ที่แฟนๆ หลายคนตกใจและเป็นห่วงอย่างมาก เพราะเมื่อวานนี้ (4 กรกฎาคม 2566) มีรายงานว่า ไอซ์ ปรีชญา นักแสดงชื่อดัง ถูกหามส่งโรงพยาบาลโดยด่วนด้วยอาการวิกฤต ชีพจรเต้นอ่อน ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังพบว่าเป็นลมและสติในบ้านพักจากนั้นทางทีมข่าวของ วันบันเทิง มีโอกาสได้พูดคุยและอัปเดตอาการของเธอกับคุณแม่บังอรว่า ขณะนี้ยังคงอยู่ในการดูแลใกล้ชิดของทีมแพทย์ รักษาตัวอยู่ในห้อง ICU และมีการใช้เครื่องช่วยหายใจคุณแม่บังอร เปิดเผยว่า ในช่วงหลังมานี้ ไอซ์ มีภาวะเครียดหนักจากปัญหาหลายเรื่องรุมเร้า ทั้งปัญหาเรื่องงานที่ข่าวต่างๆ ส่งผลกระทบทำให้งานถูกยกเลิกและเลื่อนออกไปแบบไม่มีกำหนด อีกทั้งยังทราบว่าถูกกรมโรงงานยื่นฟ้องเรื่องการครอบรองสารไซยาไนด์ด้วย รวมถึงอีกหลายๆ เรื่องที่รุมเร้าเธอจนเครียด ไม่กินไม่นอน บวกกับเธอป่วยด้วยโรคซึมเศร้าอยู่แล้ว ทำให้หลายเรื่องหนักเพิ่มเข้าไปอีกโดยช่วงที่เกิดเหตุ คุณแม่บอกว่าได้รับข้อความจาก ไอซ์ ที่ส่งมาเพื่อบอกรักแม่ ทั้งๆ ที่นอนอยู่ในห้องติดกัน จึงเดินเข้าไปดูก่อนพบว่าเธอหมดสติไปแล้ว จึงรีบพาตัวส่งโรงพยาบาลส่วนอาการตอนนี้เริ่มดีขึ้นและรู้สึกตัวแล้ว ก่อนที่เธอจะออกมาเคลื่อนไหวด้วยการโพสต์ภาพชูสองนิ้วขณะที่กำลังนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล พร้อมกับข้อความระบุว่า ‘ไอซ์เราจะสู้ไปด้วยกันนะไอซ์’ มีแฟนๆ จำนวนมากเข้าไปส่งกำลังให้เธอก้าวผ่านสถานการณ์นี้ และกลับมามีสุขภาพที่ดีเหมือนเดิมโดยเร็วภาพ : icepreechaya

album

0
0.8
1