ENTERTAINMENT NEWS

แสตมป์ อภิวัชร์ ทำใจยอมรับหากชีวิตในฐานะศิลปินต้องจบลงหลังจากนี้ พร้อมเผยงานแสดงถูกยกเลิกหมดแล้ว

20 ม.ค. 2025

แสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข ศิลปินชื่อดังโฟนอินเพื่อตอบทุกข้อสงสัยจากดราม่าร้อนบนโซเชียลมีเดียตอนนี้อีกครั้งหนึ่งในรายการ โหนกระแส พร้อมย้ำถึงสถานะของตนเองกับ นิว คู่กรณีว่าเคยสานสัมพันธ์กันจริงในฐานะ ‘ชู้’ หลังจากอีกฝ่ายพยายามยืนยันผ่านรายการว่าเป็นเพียงแฟนคลับและสไตล์ลิส

โดย แสตมป์ เผยว่าภรรยาของตนนั้นมีหลักฐานเป็นแชตและข้อความต่าง ๆ กว่า 500 หน้า ที่สามารถยืนยันความสัมพันธ์ของตนกับ แจม ได้ว่าไม่ใช่แค่คนทำงานร่วมกัน ซึ่งตนไม่มีความจำเป็นที่จะต้องออกมาโกหกเพื่อทำให้ชื่อเสียงเสียหาย เหตุผลที่ต้องออกมายืนยันแบบนี้เป็นเพราะเลือกแล้วว่า อยากให้ภรรยาได้ใช้ชีวิตต่อไปแบบที่ไม่ต้องถูกใครมองว่าเป็นคนไม่ดี

พร้อมกันนี้ยังยอมรับว่าเคยมีช่วงหนึ่งที่ตนนั้นคิดไม่ดีกับภรรยา เพราะเป็นช่วงที่หลงในความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ แจม ดังจะเห็นได้จากข้อความแชตที่มีเพื่อนของตนนำมาโพสต์บนโซเชียลมีเดีย โดยเขาได้อ้างกับภรรยาว่า แจม เข้ามาช่วยงานในฐานะสไตล์ลิสเพื่อใช้เวลาร่วมกัน และก็อยากให้ แจม ยอมรับด้วยว่าเคยมีสัมพันธ์พิเศษกันจริง

อีกทั้ง แสตมป์ ยังเผยถึงผลกระทบจากข่าวที่ถูกแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางตอนนี้ว่า มันอาจกระทบต่อภาพลักษณ์ของตน แต่ตนก็พร้อมทำใจยอมรับหากเส้นทางศิลปินต้องจบลงตรงนี้ ตอนนี้ตารางงานแสดงคอนเสิร์ตที่เคยลงไว้ถูกผู้ว่าจ้างและลูกค้ายกเลิกทั้งหมดแล้ว

ภาพ : stamp
ขอบคุณข้อมูลจาก : โหนกระแส

related ENTERTAINMENT NEWS

24 เม.ย. 2022

“เจ้าอารมณ์” ซิงเกิลใหม่จาก แสตมป์ อภิวัชร์ Feat. เปาวลี ที่ได้ 2 นักแสดงสุดฮอต ใหม่-กลัฟ ร่วมแสดง เปิดตัวสุดเดือดครองเทรนด์อันดับสองของโลก!

แสตมป์- อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข ศิลปินชื่อดังเจ้าของเพลงเพราะมากมาย เตรียมแกะกล่องซิงเกิลใหม่ “เจ้าอารมณ์” โดยครั้งนี้ได้ชวนนักร้องลูกทุ่งหญิงอย่าง เปา-เปาวลี พรพิมล มาร่วมงานกันแบบเต็มตัวครั้งแรก และมีกำหนดจะปล่อยเพลงพร้อมกับ Music Video ตัวเต็มให้ได้ชมกันวันที่ 26 เมษายนนี้ แต่ที่ทำเอาแฟนๆ ตื่นเต้นกันสุดๆ คือ ก่อนหน้านี้ แสตมป์ ได้เปิดเผยภาพชวนลุ้นว่า 2 นักแสดงสุดฮอตที่จะมาร่วมแสดงใน Music Video เพลงนี้จะเป็นใคร และแม้จะเป็นเพียงภาพเงา แต่ด้วยพลังความรักของแฟนคลับ 90% ทายถูก! ก่อนที่จะถูกเฉลยด้วยการปล่อย Teaser ว่าเป็น ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ และ กลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ ที่จะมาร่วมแสดงในผลงานชิ้นนี้ และด้วยความฮอตนี้เอง ทำให้วันแรกที่มีการปล่อย Teaser แฟนคลับต่างพากันส่งพลังด้วยการติดแฮชแท็ก จนพา #เจ้าอารมณ์Teaser พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 2 ของเทรนด์ทวิตเตอร์โลก เพื่อเป็นการเคาท์ดาวน์รอพบกับการแสดงของทั้งคู่ และผลงานเพลงใหม่ของ แสตมป์ และ เปาวลี ด้วย แค่ Teaser ยังเดือดขนาดนี้ อดใจรอชม Music Video เต็มๆ ได้ 26 เมษายนนี้ ที่ YouTube : 123records รับรองว่าดุเดือดเลือดสาดแบบคาดไม่ถึงแน่นอนภาพ : 123records

18 ม.ค. 2025

Tilly Birds ออกแถลงการเพื่อชี้แจงถึงดราม่า #แสตมป์อภิวัชร์

เหตุการณ์ที่ศิลปินดังอย่าง แสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข และครอบครัว ถูกคุกคามและข่มขู่จากคู่กรณี ซึ่งเคยเป็นคดีและขึ้นศาลกันไปแล้วก่อนหน้านี้ ถูกนำมาพูดถึงและแสดงความคิดเห็นอีกครั้งบนโซเชียลมีเดีย หลัง แสตมป์ ออกมาประกาศต่อสังคมว่าเขาและครอบครัวยังคงเผชิญกับการคุกคามและข่มขู่ต่อเนื่อง แม้ศาลจะตัดสินให้ชนะคดีแล้วก็ตาม โดยในประเด็นนี้มีการพาดพิงไปถึงวงดนตรีดังที่เข้ามาเอี่ยวกับเหตุการณ์นี้ แต่กลับเพิกเฉยที่จะจำการกับทีมงานซึ่งเป็นคู่กรณีในประเด็นดังกล่าวโดยล่าสุด Tilly Birds ได้ออกแถลงการณ์เพื่อชี้แจงถึงเรื่องนี้แล้วว่า รู้จักกับคู่กรณีของ แสตมป์ จริง แต่ในช่วงเวลาที่ผ่านมาทางวงได้รับทราบข้อเท็จจริงที่ ‘ไม่ตรงกัน’ มาโดยตลอด และเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ถือเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งเคยวางใจว่าคดีจบลงแล้ว จึงไม่ได้มีการติดต่อเพื่ออัปเดตรายละเอียดเรื่องดังกล่าวต่อส่วนสาเหตุที่วงออกมาชี้แจงต่อเรื่องนี้ล่าช้า เป็นเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ทางวงจึงไม่อยากพูดถึง และขอวางตัวเป็นกลางในเรื่องนี้ จนกว่าจะมีการแสดงหลักฐานที่ชัดเจนได้ หากทั้งสองฝ่ายมีการแสดงหลักฐานที่ชัดเจน วงก็พร้อมจะดำเนินการต่อไปในส่วนที่สามารถทำได้ อีกทั้งยังยืนยันว่าวงไม่มีการสนับสนุนการคุกคามหรือการกระทำที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลแต่อย่างใด“สืบเนื่องจากประเด็นที่มีการพูดถึงวงดนตรีของพวกเรา Tilly Birds ว่าได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของ คุณแสตมป์ อภิวัชร์ ตามที่ได้เห็นบนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ“พวกเราขอเรียนชี้แจงว่ารู้จักกับคู่กรณีจริง โดยบุคคลดังกล่าวเป็นแฟนสาวของ Sound Engineer (FOH) ประจำวง ซึ่งพวกเราได้ทราบและติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ช่วงปี 2566 แต่เนื่องจากว่าเรื่องราวที่เราได้จากรับจากทั้ง 2 ฝ่าย (คุณแสตมป์ คู่กรณี) เป็นเรื่องที่ไม่ตรงกันโดยสิ้นเชิง และเป็นเพียงการบอกกล่าวโดยไม่มีพยานหลักฐานชัดเจนทั้งสองฝ่ายมาโดยตลอด“เนื่องจากเรื่องดังกล่าวค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นเรื่องส่วนตัว จึงแนะนำให้ทั้งสองฝ่ายไปตกลงกันเองให้จบสิ้น ซึ่งหลังจากนั้นข้อมูลที่ทางวงได้รับมาจากคุณแสตมป์ และคู่กรณี คือการฟ้องร้องในคดีชู้สาว มิใช่คดีคุกคามแต่อย่างใด จากที่วงได้รับทราบมา ทั้งสองฝ่ายมีการเจรจายอมความกันโดยมีค่าเสียหาย เราจึงวางใจว่าเรื่องคดีความนี้จบลงไปแล้ว ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการติดต่อหรืออัพเดทใด ๆ ในเรื่องดังกล่าวอีก“จนกระทั่งงาน Monster Music Festival 2024 ซึ่งบุคคลดังกล่าว (คู่กรณีสาว) ได้มาช่วยงานที่บูธของวง และคุณแสตมป์มาพบเห็นเข้า จึงมีความพยายามติดต่อมาอีกครั้งเพื่อขอให้วงไล่บุคคลดังกล่าวออก ไม่ให้มาทำงาน เนื่องจากตนมีความไม่สบายใจในการพบเห็น ซึ่งกรณีนี้ ทางวงตัดสินใจไม่ทำตามคำขอ เนื่องจากมองว่าการจ้างงานในลักษณะดังกล่าว ไม่เกี่ยวข้องกันในเรื่องคดีแต่อย่างใด“ขออภัยที่ทางเราไม่ได้ชี้แจงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนบุคคลอย่างยิ่ง ทางวงจึงไม่อยากพูดถึง และประสงค์จะวางตัวเป็นกลางไปจนกว่าคู่กรณีจะสามารถแสดงพยานหลักฐานได้ชัดเจน หากพยานหลักฐานจากคู่กรณีทั้งสองฝ่ายปรากฏชัดเจน ทางวงก็จะไม่เพิกเฉย และพร้อมจะเทคแอ็กชันในส่วนที่วงทำได้ต่อไป“ทั้งนี้ วงดนตรีของพวกเราขอยืนยันว่าไม่สนับสนุนการคุกคามหรือการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่นแต่อย่างใดครับ”ภาพ : Tilly Birds

25 พ.ย. 2024

แสตมป์ อภิวัชร์ ระบายความในใจเพื่อปกป้องภรรยา หลังถูกคนดิสเครดิตจนต้องขึ้นศาลฟ้องร้อง

กลายเป็นเรื่องที่ช็อกแฟนเพลง เมื่อศิลปินและนักแต่งเพลงมากความสามารถ แสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข ระบายความในใจระหว่างแสดงคอนเสิร์ต เกี่ยวกับปัญหาที่เขาและภรรยาได้เผชิญก่อนหน้านี้ และเป็นเหตุผลที่เขาต้องหายไปจากการทำงานเพลงพักใหญ่โดย แสตมป์ เล่าว่าก่อนหน้านี้มีบุคคลกลุ่มหนึ่งพยายามดิสเครดิตภรรยาของเขา โดยมีการกล่าวหาว่าภรรยาเป็นบ้า ฉ้อโกง และชีวิตคู่ต้องแยกทาง ซึ่งบุคคลกลุ่มดังกล่าวมีการบุกเข้ามาหลังเวทีเพื่อบันทึกวิดีโอและเสียง ก่อนจะนำไปเผยแพร่สร้างความเข้าใจผิด จนต้องมีการฟ้องร้อง และศาลได้ตัดสินให้ฝ่ายเขาและภรรยาชนะคดี ให้คู่กรณีชดใช้เงิน 1,000,000 ล้านบาท แต่อีกฝ่ายจ่ายเพียง 100,000 ทั้งยังไม่มีท่าทีที่จะหยุดสร้างความที่ส่งผลกระทบต่อครอบครัว แสตมป์“ถ้าติดตามกันก็จะรู้ว่าผมหายไป ผมพาภรรยาไปขึ้นศาลมาครับ เมื่อปีที่แล้วมีคนกลุ่มหนึ่งปล่อยข่าวเท็จเกี่ยวกับภรรยาผม แล้วก็บุกมาหลังเวทีเพื่ออัดคลิปวิดีโอ อัดเสียงเอาไปแบล็กเมลว่าภรรยาผมเป็นบ้า โรคจิต เราพยายามบอกเรื่องจริงกับเขาว่ามันคืออะไรแต่ก็ไม่เป็นผล“สุดท้ายเราไปขึ้นศาลกันครับ ผมคิดว่าเรื่องนี้จะจบลงแต่ว่า เรื่องที่เขาโกหกไว้มันไม่เคยถูกแก้ไข เขาบอกว่าเขาเหนือกว่าเรา แล้วเขาก็หายไป ถ้าเขาไม่แก้ไขผมจะแก้ให้เองวันนี้ ภรรยาผมชนะคดีได้เงินหนึ่งล้านบาท ปัจจุบันจ่ายมาแล้วหนึ่งแสน เหลืออีกเก้าแสนมาจ่าย XX ด้วย แล้วคลิปวิดีโอที่ XX ถ่ายเพื่อเอาไปบอกว่าภรรยาผมเป็นบ้า ใครได้ดูหรือเห็นคนเอาไปโชว์ที่ไหนมาแจ้งกับผม ผมจะดำเนินคดีถึงที่สุด“ผมไม่รู้ว่าจะต้องสู้เรื่องนี้ไปถึงเมื่อไหร่ ผมอยากจะบอกแทนภรรยาผม เธอไม่ได้เป็นคนบ้า เธอเป็นคนฉลาดมาก เธอปกป้องผมทุกอย่าง เอาตัวเองเข้าแลกมาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันจนถึงวันนี้ ขอให้ทุกคนเข้าใจเธอ เธอไม่ได้ฉ้อโกงใคร เราไม่เคยแยกทางกัน บ้านเราไม่เคยมีปัญหา เป็นคำโกหกล้วน ๆ”ซึ่งบรรยากาศช่วงดังกล่าวมีผู้ชมบันทึกภาพไว้และนำมาแชร์จนกลายเป็นไวรัล และก็มีหลายคนเข้าไปแสดงความเห็นใจ พร้อมกับให้กำลังใจไปยัง แสตมป์ และครอบครัวภาพ : stampapiwat

17 ม.ค. 2025

แสตมป์ อภิวัชร์ เผยว่ายังคงถูกคุกคาม แต่พร้อมลุกขึ้นสู้เพื่อปกป้องตัวเองและครอบครัว

แฟนเพลงต่างร่วมกันส่งกำลังใจเพื่อซัปพอร์ต แสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข และครอบครัว หลังจากที่เขาได้เปิดใจบนเวทีคอนเสิร์ตว่า ปัจจุบันเขาและคนในครอบครัว ยังคงเผชิญกับการคุกคามข่มขู่ จากครอบครัวของคู่กรณีที่เคยมีประเด็นฟ้องร้องกันก่อนหน้านี้ แม้ศาลจะมีการตัดสินใจ แสตมป์ ชนะคดีแล้วก็ตามแสตมป์ ได้เล่ารายละเอียดของเรื่องนี้ให้ได้ทราบกันด้วยว่า ย้อนไปปี 2565 เป็นช่วงที่คู่กรณีเริ่มเข้ามาแสดงพฤติกรรมก่อกวนในพื้นที่หลังเวทีคอนเสิร์ต และยังเคยทำพฤติกรรมอันเป็นการคุกคาม เช่น ดักรอหน้าห้องพัก หาเรื่อง อัดคลิปไปส่งต่อเผยแพร่ จากนั้นสืบทราบพบว่าคู่กรณีมีการไปดิสเครดิตกับบุคคลรอบตัว กล่าวหาภรรยาว่าเป็นโรคประสาท อาการโรคประสาทกำเริบ จึงเป็นเหตุผลให้เขานั้นตัดสินใจฟ้องดำเนินคดีต่อศาลในช่วงที่ไปศาลได้ทราบว่าคู่กรณีมีพ่อเป็นนายทหาร ‘ยศพลตรี’ ซึ่งเดินทางจาก จ.พิษณุโลก เพื่อมาขึ้นศาลแทนลูก โดยมีการข่มขู่อ้างว่าตนกำลังจะบรรจุเป็นทหารราชองครักษ์ ขอให้เขาและภรรยาถอนฟ้อง หากไม่ทำเช่นนั้นจะโดนคดีทางการเมือง ไม่เพียงเท่านั้นนายพลท่านนี้ยังเคยขับรถไปในบริเวณบ้าน ได้พบและทำการถ่ายรูปคุณแม่ ส่วนภรรยาของนายพลก็ปะปนอยู่ในกลุ่มแฟนคลับ ซึ่งมักทำทีว่าสอบถามตารางคอนเสิร์ตสิ่งที่น่าตกใจคือ แสตมป์ บอกว่าคู่กรณีได้ติดตามเขามากว่า 10 ปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นปั๊มน้ำมัน โรงแรมที่พัก สนามบิน ชนิดที่ว่าเคยใช้เส้นสายของเพื่อนล็อกที่นั่งติดกันบนเครื่องบินมาแล้ว นั่นก็ทำให้เขาตัดสินใจไม่รับงานคอนเสิร์ตที่ต้องเดินทางโดยเครื่องบิน เพราะกังวลเรื่องสวัสดิภาพ และจะยังคงไม่กลับมารับงานจนกว่าศาลจะมีคำสั่งคุ้มครองต่อมาในเดือนพฤษภาคม ปี 2567 ศาลตัดสินใจเขาและภรรยาชนะคดี ฝ่ายจำเลยก็รับสารภาพยอมจำนวนต่อหลักฐาน พร้อมยกมือไหว้ขอโทษและยืนยันจะไม่ยุ่งกับภรรยาอีก แต่พฤติกรรมหลังออกจากศาลก็ยังมีการโจมตีว่าร้ายภรรยาให้เสียหายอยู่เหมือนเดิม แม้จะมีการติดต่อไปยังเจ้าของค่ายเพลงซึ่งเป็นต้นสังกัดของวงดนตรีที่คู่กรณีได้ร่วมงานด้วย แต่กลับได้คำตอบว่าไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ เพราะยังไม่สามารถบอกได้ว่าฝ่ายเขาเป็นผู้ชนะคดีก่อนที่เขาจะทิ้งท้ายว่า ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะต้องเจอกับสถานการณ์ใดอีก แต่เขาก็พร้อมจะสู้เพื่อปกป้องสวัสดิภาพของตัวเองและคนในครอบครัวภาพ : stampapiwatขอบคุณข้อมูลจาก : x.com/92whywhile

0.8