Tilly Birds ออกแถลงการเพื่อชี้แจงถึงดราม่า #แสตมป์อภิวัชร์

ENTERTAINMENT NEWS

Tilly Birds ออกแถลงการเพื่อชี้แจงถึงดราม่า #แสตมป์อภิวัชร์

18 ม.ค. 2025

เหตุการณ์ที่ศิลปินดังอย่าง แสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข และครอบครัว ถูกคุกคามและข่มขู่จากคู่กรณี ซึ่งเคยเป็นคดีและขึ้นศาลกันไปแล้วก่อนหน้านี้ ถูกนำมาพูดถึงและแสดงความคิดเห็นอีกครั้งบนโซเชียลมีเดีย หลัง แสตมป์ ออกมาประกาศต่อสังคมว่าเขาและครอบครัวยังคงเผชิญกับการคุกคามและข่มขู่ต่อเนื่อง แม้ศาลจะตัดสินให้ชนะคดีแล้วก็ตาม โดยในประเด็นนี้มีการพาดพิงไปถึงวงดนตรีดังที่เข้ามาเอี่ยวกับเหตุการณ์นี้ แต่กลับเพิกเฉยที่จะจำการกับทีมงานซึ่งเป็นคู่กรณีในประเด็นดังกล่าว

โดยล่าสุด Tilly Birds ได้ออกแถลงการณ์เพื่อชี้แจงถึงเรื่องนี้แล้วว่า รู้จักกับคู่กรณีของ แสตมป์ จริง แต่ในช่วงเวลาที่ผ่านมาทางวงได้รับทราบข้อเท็จจริงที่ ‘ไม่ตรงกัน’ มาโดยตลอด และเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ถือเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งเคยวางใจว่าคดีจบลงแล้ว จึงไม่ได้มีการติดต่อเพื่ออัปเดตรายละเอียดเรื่องดังกล่าวต่อ

ส่วนสาเหตุที่วงออกมาชี้แจงต่อเรื่องนี้ล่าช้า เป็นเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ทางวงจึงไม่อยากพูดถึง และขอวางตัวเป็นกลางในเรื่องนี้ จนกว่าจะมีการแสดงหลักฐานที่ชัดเจนได้ หากทั้งสองฝ่ายมีการแสดงหลักฐานที่ชัดเจน วงก็พร้อมจะดำเนินการต่อไปในส่วนที่สามารถทำได้ อีกทั้งยังยืนยันว่าวงไม่มีการสนับสนุนการคุกคามหรือการกระทำที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลแต่อย่างใด

“สืบเนื่องจากประเด็นที่มีการพูดถึงวงดนตรีของพวกเรา Tilly Birds ว่าได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของ คุณแสตมป์ อภิวัชร์ ตามที่ได้เห็นบนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ

“พวกเราขอเรียนชี้แจงว่ารู้จักกับคู่กรณีจริง โดยบุคคลดังกล่าวเป็นแฟนสาวของ Sound Engineer (FOH) ประจำวง ซึ่งพวกเราได้ทราบและติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ช่วงปี 2566 แต่เนื่องจากว่าเรื่องราวที่เราได้จากรับจากทั้ง 2 ฝ่าย (คุณแสตมป์ & คู่กรณี) เป็นเรื่องที่ไม่ตรงกันโดยสิ้นเชิง และเป็นเพียงการบอกกล่าวโดยไม่มีพยานหลักฐานชัดเจนทั้งสองฝ่ายมาโดยตลอด

“เนื่องจากเรื่องดังกล่าวค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นเรื่องส่วนตัว จึงแนะนำให้ทั้งสองฝ่ายไปตกลงกันเองให้จบสิ้น ซึ่งหลังจากนั้นข้อมูลที่ทางวงได้รับมาจากคุณแสตมป์ และคู่กรณี คือการฟ้องร้องในคดีชู้สาว มิใช่คดีคุกคามแต่อย่างใด จากที่วงได้รับทราบมา ทั้งสองฝ่ายมีการเจรจายอมความกันโดยมีค่าเสียหาย เราจึงวางใจว่าเรื่องคดีความนี้จบลงไปแล้ว ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการติดต่อหรืออัพเดทใด ๆ ในเรื่องดังกล่าวอีก

“จนกระทั่งงาน Monster Music Festival 2024 ซึ่งบุคคลดังกล่าว (คู่กรณีสาว) ได้มาช่วยงานที่บูธของวง และคุณแสตมป์มาพบเห็นเข้า จึงมีความพยายามติดต่อมาอีกครั้งเพื่อขอให้วงไล่บุคคลดังกล่าวออก ไม่ให้มาทำงาน เนื่องจากตนมีความไม่สบายใจในการพบเห็น ซึ่งกรณีนี้ ทางวงตัดสินใจไม่ทำตามคำขอ เนื่องจากมองว่าการจ้างงานในลักษณะดังกล่าว ไม่เกี่ยวข้องกันในเรื่องคดีแต่อย่างใด

“ขออภัยที่ทางเราไม่ได้ชี้แจงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนบุคคลอย่างยิ่ง ทางวงจึงไม่อยากพูดถึง และประสงค์จะวางตัวเป็นกลางไปจนกว่าคู่กรณีจะสามารถแสดงพยานหลักฐานได้ชัดเจน หากพยานหลักฐานจากคู่กรณีทั้งสองฝ่ายปรากฏชัดเจน ทางวงก็จะไม่เพิกเฉย และพร้อมจะเทคแอ็กชันในส่วนที่วงทำได้ต่อไป

“ทั้งนี้ วงดนตรีของพวกเราขอยืนยันว่าไม่สนับสนุนการคุกคามหรือการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่นแต่อย่างใดครับ”

ภาพ : Tilly Birds

related ENTERTAINMENT NEWS

Tilly Birds ใส่สุด! จัดเต็ม! กับ Virtual Concert ในรูปแบบ Cinematic ครั้งแรก “Is Everything OK?” รับชมได้ทั่วโลก 22 ม.ค.นี้

20 ม.ค. 2022

Tilly Birds ใส่สุด! จัดเต็ม! กับ Virtual Concert ในรูปแบบ Cinematic ครั้งแรก “Is Everything OK?” รับชมได้ทั่วโลก 22 ม.ค.นี้

เตรียมระเบิดความมันส์แบบสุดขีด ไปกับวงดนตรีที่กำลังมาแรงแซงทุกทางโค้ง Tilly Birds จากค่าย GeneLab ในเครือ GMM GRAMMY ที่เตรียมสาดพลังดนตรี ขยี้ไอเดียบรรเจิด และพร้อมเขย่าวงการเพลงด้วยไลฟ์คอนเสิร์ต แนวภาพยนตร์ (Cinematic) โดยมีการปรับรูปแบบให้เข้าสถานการณ์ปัจจุบัน ที่จะทำการแสดงสดเสมือนจริงผ่านหน้าจอ การันตีความสนุกแปลกใหม่แบบฉบับ Tilly Birds กับคอนเสิร์ตที่มีชื่อว่า “Is Everything OK?” แฟนเพลงทั่วโลกสามารถชมพร้อมกันได้ใน วันเสาร์ ที่ 22 มกราคมนี้ เวลา 6 โมงเย็นที่ YouTube : GeneLabโดยคอนเสิร์ตในครั้งนี้ Tilly Birds ได้ฉีกกฏ Virtual Concert แบบเดิมๆ ใส่ไอเดียที่แสดงตัวตนออกมาเป็นคอนเซ็ปต์ได้อย่างชัดเจน โดยร้อยเรียงเพลงในอัลบั้มให้มีเรื่องราวต่อเนื่องกันจนออกมาเป็นรูปแบบของภาพยนตร์ (Cinematic)“เราจัดหนักจัดเต็มทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำเพลง ตั้งแต่ขั้นตอนคัดเลือกนักแสดง กำกับ แสดง ภาพ เสียง คอสตูม กราฟฟิก ตลอดจนภาพที่ใช้ในการโปรโมท และความท้าทายล่าสุดที่พวกเราได้ทำคือทำงานเบื้องหลัง คอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วยตัวพวกเราเองทั้งหมดครับ ครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็น Cinematic Virtual Concert (คอนเสิร์ตเล่าเรื่องราวแบบหนัง) ซึ่งเป็นสิ่งใหม่ในเมืองไทยมากๆ เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์ความแปลกใหม่ให้กับวงการเพลงไทยอย่างแน่นอนครับ”ทั้งนี้หนุ่มๆ Tilly Birds ยังทิ้งท้ายไว้ว่า คอนเสิร์ต “Is Everything OK?” เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่ใหญ่ที่สุดของวงที่เคยทำมา มีความแปลกใหม่ และความแตกต่างไปจากเดิมบ้าง ซึ่งเราได้พยายามทำทุกอย่างให้เป็น Tilly Birds มากที่สุดครับ อยากให้ทุกคนมาชมกันเยอะๆ จะได้เห็นถึงความเป็นพวกเรา และหวังว่าจะชอบกันนอกจากนี้ทางวงยังแอบกระซิบมาว่า คอนเสิร์ตนี้จะมีเซอร์ไพร์สุดพิเศษที่ทุกคนไม่คาดคิดมาก่อนแน่นอน เตรียมไปทำความรู้จักตัวตนของ Tilly Birds ให้ลึกขึ้นกว่าเดิมไปพร้อมกันในรอบ Premiere วันเสาร์ ที่ 22 มกราคมนี้ เวลา 6 โมงเย็นที่ YouTube : GeneLabภาพ : GeneLab

แสตมป์ อภิวัชร์ เผยปมเหตุแห่งดราม่าเกิดจากการนอกใจภรรยา แต่ประเด็นถูกข่มขู่ยัดข้อหาเคยเกิดขึ้นจริง

20 ม.ค. 2025

แสตมป์ อภิวัชร์ เผยปมเหตุแห่งดราม่าเกิดจากการนอกใจภรรยา แต่ประเด็นถูกข่มขู่ยัดข้อหาเคยเกิดขึ้นจริง

กลายเป็นดราม่าที่สร้างผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งต่อคนรอบข้าง รวมถึงเพื่อนพี่น้องศิลปินอีกมากมาย สำหรับ #แสตมป์อภิวัชร์ ที่สังคมกำลังให้ความสนใจและมีการแสดงความคิดเห็นอย่างมากมายบนโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับความสัมพันธ์ส่วนตัวของ แสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข หลังออกมาประกาศท้าชนคู่กรณีที่ยังคงมีพฤติกรรมคุกคามและข่มขู่ แม้จะมีการไกล่เกลี่ยยอมความกันไปแล้วก็ตามโดยล่าสุดเช้าวันนี้ (20 มกราคม 2568) แสตมป์ ได้ออกมาเขียนข้อความเพื่อชี้แจงถึงประเด็นร้อนแรงที่เกิดขึ้นตอนนี้ว่า มีสาเหตุจากการนอกใจภรรยา และสาเหตุที่พูดไม่ครบทุกประเด็นตั้งแต่แรก เพียงต้องการแสดงให้ทราบถึงปัญหาว่าภรรยาเดือดร้อนและกังวลใจในเรื่องใดบ้าง แต่ข้อความบนเวทีวันนั้นทำให้มีการขุดคุ้ยข้อมูลมาเปิดเผย มีการคาดเดาตัวละครต่าง ๆ ในเรื่องที่มีต้นต่อของปัญหา เกิดขึ้นจากเขาที่เคย ‘นอกใจภรรยา’จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์มากมายจนนำไปสู่การฟ้องร้องคู่กรณีและแฟนหนุ่ม ที่ทำงานให้กับวงดนตรีดังในฐานความผิดหมิ่นประมาท รวม 3 คดี แต่กลับถูกพ่อของคู่กรณีขมขู่ด้วยการแอบอ้างว่าเป็นทหารยศพลตรี และกำลังจะบรรจุเข้าเป็นกองทหารราชองครักษ์ หากไม่ถอนฟ้องจะมีการยัดข้อหา ม.112 โดย แสตมป์ ยืนยันว่าการถูกข่มขู่นั้นเกิดขึ้นจริงพร้อมกันนี้ยังใช้พื้นที่ดังกล่าวขอโทษไปยังภรรยา ครอบครัวของคู่กรณี เพื่อนพี่น้องศิลปินที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ รวมถึงขอโทษแฟนเพลงที่ทำให้ผิดหวัง สัญญาว่าจะใช้ชีวิตอย่างมีสติ และขอบคุณสำหรับโอกาสที่ให้เขาได้เริ่มต้นใหม่“ผมขอโทษทุกคนด้วยความเสียใจอย่างที่สุด ที่ผมพูดบนเวทีในวันที่ 15 มกราคม ไม่ครบทุกประเด็น ทำให้เกิดความเสียหายออกไปในวงกว้าง ทั้งกับตัวบุคคลและวงดนตรีต่าง ๆ มากมาย เป็นความผิดพลาดที่สุดของผม ที่ผมเลือกเว้นประเด็นที่เป็นสาเหตุตั้งต้นที่แท้จริงของปัญหาทั้งหมดที่หลายคนกำลังเดือดร้อนอยู่นี้ นั่นคือ การนอกใจภรรยาของผมเอง“ผมมีเจตนาที่จะใช้เวทีนั้นเป็นสื่อกลางส่งสารไปยังคนจำนวนหนึ่ง เพื่อแจ้งให้เขาทราบว่า ภรรยาของผมเดือดร้อนและมีความกังวลจากเรื่องอะไรบ้าง และแจ้งให้คนจำนวนนึงทราบเกี่ยวกับผลของศาลที่แท้จริงที่เราเข้าใจว่าถูกบิดเบือนในสังคมอยู่ในขณะนั้น จึงใช้วิธีการเล่าแบบไม่ได้ระบุชื่อตัวบุคคล หลีกเลี่ยงประเด็นที่เป็นสาเหตุแท้จริง แต่สิ่งที่ผมคิดน้อยมากเกินไปและผิดพลาดที่สุดก็คือ ผมไม่ได้คิดไปถึงเลยว่าจะมีคนขุดคุ้ยมาเปิดเผยในที่สาธารณะ ว่าตัวละครที่ผมเล่าไปจะเป็นใครบ้างในชีวิตจริง จนมีคนเดือดร้อนกันเป็นวงกว้างได้ขนาดที่เป็นอยู่นี้“ผมขอโทษน้อง ๆ วง Tilly birds เติร์ด บิลลี่ ไมโล และทีมงาน ที่ทำให้พวกเขาเดือดร้อนมาอย่างยาวนาน จากปัญหาที่ผมสร้างขึ้นมาเองในครอบครัว และทำให้พวกเขาถูกเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง ผมขอโทษน้อง ๆ จริง ๆ ครับ สิ่งที่เราสู้รบกันจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าผมซื่อสัตย์ต่อภรรยาผมตั้งแต่ต้น ผมขอโทษ คุณโอม Cocktail ที่มีการพาดพิงถึงในเรื่องเล่าของผม จนพลาดวันสำคัญในชีวิตไป ผมขอโทษนักร้องนักดนตรีทุกคน หรือใครก็ตาม ทีมงาน โบกี้ไลอ้อน วิว โทนี่ วง moving and cut วงมีน พี่จี๊บ LOVEiS คุณ จ๋าย ไททศสมิธ และทุก ๆ คนที่ติดร่างแหไปจากการเล่าเรื่องของผม“ผมขอโทษคู่กรณีของผมและภรรยา และครอบครัวของพวกเขา ผมยอมรับว่าเคยมีความสัมพันธ์กับแจมในอดีตจริง และได้จบไปแล้ว และได้ละเว้นประเด็นนี้ไว้ในเรื่องเล่า จนคนเข้าใจผิด เอาใจช่วยผมไปในเรื่องที่ผมบิดเบือนว่าแจมเป็นเพียงแฟนคลับที่มาติดตาม“เรื่องของการคุกคามและข่มขู่ด้วยคดีทางการเมือง ผมยังยืนยันว่าเคยเกิดขึ้นจริง หากแต่ปัจจุบันได้หยุดลงไปแล้ว และผมได้เล่าเรื่องเหล่านี้เพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ มาคุ้มครองดูแล“เรื่องของคดีความ ผมฟ้องแกปกับแจมในคดีร่วมกันหมิ่นประมาท แยกเป็นแพ่งและอาญา รวม 3 คดี ผมถอนฟ้องให้ทั้งหมดเนื่องจากถูกข่มขู่ด้วย ม.112 ซึ่งมีพยานวัตถุเป็นแชท ส่วนภรรยาผมฟ้องคดีมือที่สาม และจบลงด้วยการได้รับค่าชดใช้หนึ่งล้านบาทจากแจม“ผมขอโทษแฟนเพลงและทุกคนในสังคม ที่ผมได้มีการทำตัวในสิ่งที่ไม่เหมาะสมลงไป ผมขอสัญญาว่าต่อจากนี้จะใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทและครองสติอย่างดีที่สุด ที่สำคัญที่สุด ผมขอโทษนิว ภรรยาของผมและครอบครัว และขอบคุณที่ยังให้โอกาสผมในการเริ่มต้นใหม่“ผมขอโทษทุกคนจริง ๆ ครับ ผมขอน้อมรับทุกความผิดที่เกิดขึ้นครับ ขอโทษที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อนครับ”ภาพ : stampภาพ : stamp

แสตมป์ อภิวัชร์ ทำใจยอมรับหากชีวิตในฐานะศิลปินต้องจบลงหลังจากนี้ พร้อมเผยงานแสดงถูกยกเลิกหมดแล้ว

20 ม.ค. 2025

แสตมป์ อภิวัชร์ ทำใจยอมรับหากชีวิตในฐานะศิลปินต้องจบลงหลังจากนี้ พร้อมเผยงานแสดงถูกยกเลิกหมดแล้ว

แสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข ศิลปินชื่อดังโฟนอินเพื่อตอบทุกข้อสงสัยจากดราม่าร้อนบนโซเชียลมีเดียตอนนี้อีกครั้งหนึ่งในรายการ โหนกระแส พร้อมย้ำถึงสถานะของตนเองกับ นิว คู่กรณีว่าเคยสานสัมพันธ์กันจริงในฐานะ ‘ชู้’ หลังจากอีกฝ่ายพยายามยืนยันผ่านรายการว่าเป็นเพียงแฟนคลับและสไตล์ลิสโดย แสตมป์ เผยว่าภรรยาของตนนั้นมีหลักฐานเป็นแชตและข้อความต่าง ๆ กว่า 500 หน้า ที่สามารถยืนยันความสัมพันธ์ของตนกับ แจม ได้ว่าไม่ใช่แค่คนทำงานร่วมกัน ซึ่งตนไม่มีความจำเป็นที่จะต้องออกมาโกหกเพื่อทำให้ชื่อเสียงเสียหาย เหตุผลที่ต้องออกมายืนยันแบบนี้เป็นเพราะเลือกแล้วว่า อยากให้ภรรยาได้ใช้ชีวิตต่อไปแบบที่ไม่ต้องถูกใครมองว่าเป็นคนไม่ดีพร้อมกันนี้ยังยอมรับว่าเคยมีช่วงหนึ่งที่ตนนั้นคิดไม่ดีกับภรรยา เพราะเป็นช่วงที่หลงในความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ แจม ดังจะเห็นได้จากข้อความแชตที่มีเพื่อนของตนนำมาโพสต์บนโซเชียลมีเดีย โดยเขาได้อ้างกับภรรยาว่า แจม เข้ามาช่วยงานในฐานะสไตล์ลิสเพื่อใช้เวลาร่วมกัน และก็อยากให้ แจม ยอมรับด้วยว่าเคยมีสัมพันธ์พิเศษกันจริงอีกทั้ง แสตมป์ ยังเผยถึงผลกระทบจากข่าวที่ถูกแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางตอนนี้ว่า มันอาจกระทบต่อภาพลักษณ์ของตน แต่ตนก็พร้อมทำใจยอมรับหากเส้นทางศิลปินต้องจบลงตรงนี้ ตอนนี้ตารางงานแสดงคอนเสิร์ตที่เคยลงไว้ถูกผู้ว่าจ้างและลูกค้ายกเลิกทั้งหมดแล้วภาพ : stampขอบคุณข้อมูลจาก : โหนกระแส

แกล้งทักชื่อผิด! มุกตลกที่ เติร์ด Tilly Birds ไม่ได้ตลกด้วย พร้อมแชร์ประสบการณ์ถูกบูลลี่จนไม่อยากอ่านคอมเมนต์

19 ต.ค. 2022

แกล้งทักชื่อผิด! มุกตลกที่ เติร์ด Tilly Birds ไม่ได้ตลกด้วย พร้อมแชร์ประสบการณ์ถูกบูลลี่จนไม่อยากอ่านคอมเมนต์

แม้เบื้องหน้าจะเป็นศิลปินที่แฟนๆ ชื่นชอบและมีงานเพลงดีๆ ออกมาให้ได้ติดตาม แต่เบื้องหลังชีวิต เติร์ด-อนุโรจน์ เกตุเลขา ฟรอนต์แมนของวง Tilly Birds กลับเป็นอีกคนที่ยังต้องพบเจอกับเรื่องที่ทำให้เหนื่อยใจเพราะถูกบูลลี่ รวมถึงการเล่นมุกที่ไม่ได้ฮาแถมส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจโดยในรายการ ‘ป๋าเต็ดทอล์ค EP.105’ ทางช่องยูทูปป๋าเต็ด เติร์ด Tilly Birds มาเป็นแขกรับเชิญและมีช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์ที่ เติร์ด ได้พูดถึงชีวิตที่ต้องถูกบูลลี่มาตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน โดยช่วงวัยเรียนสิ่งที่ถูกบูลลี่มากที่สุดคือคำว่า Overacting และถูกล้อชื่อพ่อ-แม่ จากนั้นชีวิตการทำงานในฐานะศิลปินก็ยังหนีไม้พ้นถูกแฟนเพลงบางคนและบางกลุ่มทักทายด้วยการเล่นมุกทักชื่อผิด หรือ Name Calling ซึ่งสำหรับบางคนอาจดูเป็นเรื่องขำขัน แต่คงไม่ใช่สำหรับ เติร์ด และเพื่อนในวง อีกทั้งที่ผ่านมาพยายามสร้างความเข้าใจในเรื่องนี้มาแล้ว แต่ก็ยังโดนอยู่“จริงๆ มันแกล้งกันได้ แต่มันควรมีความเคารพให้กันและกันด้วย บูลลี่กันสนุกๆ อันนี้พอเข้าใจ แต่ถ้าเหยียดหยามกัน ถ้ามาย่ำยีจิตใจกันอันนี้ไม่ดี และมันส่งผลต่อสุขภาพจิต ตอนนั้นเนื่องจากผมเป็นคนที่ชอบแสดงออกก็มักจะโดนคำบูลลี่ว่า overacting ซึ่งผมเองก็รู้สึกว่าก็เราเป็นอย่างนี้ แล้วก็สิ่งที่โดนมาตั้งแต่มัธยาคือการล้อชื่อพ่อชื่อแม่ ผมก็เห้ย..ทำไมเรียกชื่อเราไม่ได้เหรอ นี่คือเรียกว่า name calling ผมเคยพูดใน TEDtalk อยู่หรือจะแบบเห้ย! นี่ Three Man Down นี่หว่า มุกแบบนี้ไม่โอเคนะ ไม่สนุกนะ แล้วไม่ใช่แค่ผมที่โดนคนเดียวนะเพราะมีศิลปินหลายคนหนึ่งในนั้นคือพี่ปั๊บ Potato เคยส่งข้อความมาหาผมแล้วบอกว่าได้ดูในสิ่งที่ผมพูด TEDtalk นะ เติร์ดพูดแทนใจพี่มาก ขอบคุณที่ออกมาพูดเรื่องนี้ เพราะทุกวันนี้พี่ปั๊บเองก็ยังโดนล้อว่าเป็นพี่ตูนอยู่เลย วงพี่ยังโดนล้อเป็น Bodyslam อยู่เลย ผมอยากให้คนส่วนมากและสังคมรู้ว่ามุกแบบนี้ไม่โอเคการที่คนโดนล้อไม่มีใครเขาโอเคหรอก แต่ว่าเราตอบสนองทุกคน ณ ตอนนั้นเลยได้ไหม ผมบอกเลยว่าทำไม่ได้หรอกเพราะว่ามันเยอะมาก ผมพูดเลยว่าทุกวันนี้ถ้าจะเล่น TikTok หรือดูคอมเมนต์ใน YouTube ก็จะไม่ค่อยเลื่อนดูแล้ว เพราะจะรู้สึกว่าเป็นมวลลบกับเรา มันอาจจะมีคนเอ็นจอยกับการโดนแซว แต่ถ้าโดนเรื่อยๆ ผมว่าไม่มีใครโอเคหรอก ถ้าไม่รู้จะทักอะไรเรายิ้มให้เราก็พอแล้ว หรือไม่ก็กินข้าวหรือยังกินข้าวกันไหม ทักทายง่ายๆ แค่สวัสดีครับชอบเพลงพี่มากเท่านี้ก็พอแล้ว”หลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมาไป ก็มีผู้ชมหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เป็นเรื่องที่อาจจะดูเล็กสำหรับบางคน แต่กับคนที่โดนไม่ว่าจะเป็นการบูลลี่หรือเล่นมุกที่คนโดนไม่ขำด้วย มันไม่ใช่เรื่องที่เหมาะควรเลยสักนิด ในขณะที่บางมุมก็คิดเห็นกับสิ่งนี้ว่าคิดเยอะเกินไป ก่อนที่ทางเพจจะเข้าไปชี้แจงว่าวิดีโอนี้เผยแพร่มาเพื่อทำให้ทุกคนเรียนรู้และเข้าใจในความแตกต่างหลากหลาย เพียงหวังให้มีความเคารพซึ่งกันและกันมากขึ้นภาพ : 2nd__4th

album

0
0.8
1