กลายเป็นดราม่าที่สร้างผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งต่อคนรอบข้าง รวมถึงเพื่อนพี่น้องศิลปินอีกมากมาย สำหรับ #แสตมป์อภิวัชร์ ที่สังคมกำลังให้ความสนใจและมีการแสดงความคิดเห็นอย่างมากมายบนโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับความสัมพันธ์ส่วนตัวของ แสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข หลังออกมาประกาศท้าชนคู่กรณีที่ยังคงมีพฤติกรรมคุกคามและข่มขู่ แม้จะมีการไกล่เกลี่ยยอมความกันไปแล้วก็ตาม
โดยล่าสุดเช้าวันนี้ (20 มกราคม 2568) แสตมป์ ได้ออกมาเขียนข้อความเพื่อชี้แจงถึงประเด็นร้อนแรงที่เกิดขึ้นตอนนี้ว่า มีสาเหตุจากการนอกใจภรรยา และสาเหตุที่พูดไม่ครบทุกประเด็นตั้งแต่แรก เพียงต้องการแสดงให้ทราบถึงปัญหาว่าภรรยาเดือดร้อนและกังวลใจในเรื่องใดบ้าง แต่ข้อความบนเวทีวันนั้นทำให้มีการขุดคุ้ยข้อมูลมาเปิดเผย มีการคาดเดาตัวละครต่าง ๆ ในเรื่องที่มีต้นต่อของปัญหา เกิดขึ้นจากเขาที่เคย ‘นอกใจภรรยา’
จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์มากมายจนนำไปสู่การฟ้องร้องคู่กรณีและแฟนหนุ่ม ที่ทำงานให้กับวงดนตรีดังในฐานความผิดหมิ่นประมาท รวม 3 คดี แต่กลับถูกพ่อของคู่กรณีขมขู่ด้วยการแอบอ้างว่าเป็นทหารยศพลตรี และกำลังจะบรรจุเข้าเป็นกองทหารราชองครักษ์ หากไม่ถอนฟ้องจะมีการยัดข้อหา ม.112 โดย แสตมป์ ยืนยันว่าการถูกข่มขู่นั้นเกิดขึ้นจริง
พร้อมกันนี้ยังใช้พื้นที่ดังกล่าวขอโทษไปยังภรรยา ครอบครัวของคู่กรณี เพื่อนพี่น้องศิลปินที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ รวมถึงขอโทษแฟนเพลงที่ทำให้ผิดหวัง สัญญาว่าจะใช้ชีวิตอย่างมีสติ และขอบคุณสำหรับโอกาสที่ให้เขาได้เริ่มต้นใหม่
“ผมขอโทษทุกคนด้วยความเสียใจอย่างที่สุด ที่ผมพูดบนเวทีในวันที่ 15 มกราคม ไม่ครบทุกประเด็น ทำให้เกิดความเสียหายออกไปในวงกว้าง ทั้งกับตัวบุคคลและวงดนตรีต่าง ๆ มากมาย เป็นความผิดพลาดที่สุดของผม ที่ผมเลือกเว้นประเด็นที่เป็นสาเหตุตั้งต้นที่แท้จริงของปัญหาทั้งหมดที่หลายคนกำลังเดือดร้อนอยู่นี้ นั่นคือ การนอกใจภรรยาของผมเอง
“ผมมีเจตนาที่จะใช้เวทีนั้นเป็นสื่อกลางส่งสารไปยังคนจำนวนหนึ่ง เพื่อแจ้งให้เขาทราบว่า ภรรยาของผมเดือดร้อนและมีความกังวลจากเรื่องอะไรบ้าง และแจ้งให้คนจำนวนนึงทราบเกี่ยวกับผลของศาลที่แท้จริงที่เราเข้าใจว่าถูกบิดเบือนในสังคมอยู่ในขณะนั้น จึงใช้วิธีการเล่าแบบไม่ได้ระบุชื่อตัวบุคคล หลีกเลี่ยงประเด็นที่เป็นสาเหตุแท้จริง แต่สิ่งที่ผมคิดน้อยมากเกินไปและผิดพลาดที่สุดก็คือ ผมไม่ได้คิดไปถึงเลยว่าจะมีคนขุดคุ้ยมาเปิดเผยในที่สาธารณะ ว่าตัวละครที่ผมเล่าไปจะเป็นใครบ้างในชีวิตจริง จนมีคนเดือดร้อนกันเป็นวงกว้างได้ขนาดที่เป็นอยู่นี้
“ผมขอโทษน้อง ๆ วง Tilly birds เติร์ด บิลลี่ ไมโล และทีมงาน ที่ทำให้พวกเขาเดือดร้อนมาอย่างยาวนาน จากปัญหาที่ผมสร้างขึ้นมาเองในครอบครัว และทำให้พวกเขาถูกเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง ผมขอโทษน้อง ๆ จริง ๆ ครับ สิ่งที่เราสู้รบกันจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าผมซื่อสัตย์ต่อภรรยาผมตั้งแต่ต้น ผมขอโทษ คุณโอม Cocktail ที่มีการพาดพิงถึงในเรื่องเล่าของผม จนพลาดวันสำคัญในชีวิตไป ผมขอโทษนักร้องนักดนตรีทุกคน หรือใครก็ตาม ทีมงาน โบกี้ไลอ้อน วิว โทนี่ วง moving and cut วงมีน พี่จี๊บ LOVEiS คุณ จ๋าย ไททศสมิธ และทุก ๆ คนที่ติดร่างแหไปจากการเล่าเรื่องของผม
“ผมขอโทษคู่กรณีของผมและภรรยา และครอบครัวของพวกเขา ผมยอมรับว่าเคยมีความสัมพันธ์กับแจมในอดีตจริง และได้จบไปแล้ว และได้ละเว้นประเด็นนี้ไว้ในเรื่องเล่า จนคนเข้าใจผิด เอาใจช่วยผมไปในเรื่องที่ผมบิดเบือนว่าแจมเป็นเพียงแฟนคลับที่มาติดตาม
“เรื่องของการคุกคามและข่มขู่ด้วยคดีทางการเมือง ผมยังยืนยันว่าเคยเกิดขึ้นจริง หากแต่ปัจจุบันได้หยุดลงไปแล้ว และผมได้เล่าเรื่องเหล่านี้เพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ มาคุ้มครองดูแล
“เรื่องของคดีความ ผมฟ้องแกปกับแจมในคดีร่วมกันหมิ่นประมาท แยกเป็นแพ่งและอาญา รวม 3 คดี ผมถอนฟ้องให้ทั้งหมดเนื่องจากถูกข่มขู่ด้วย ม.112 ซึ่งมีพยานวัตถุเป็นแชท ส่วนภรรยาผมฟ้องคดีมือที่สาม และจบลงด้วยการได้รับค่าชดใช้หนึ่งล้านบาทจากแจม
“ผมขอโทษแฟนเพลงและทุกคนในสังคม ที่ผมได้มีการทำตัวในสิ่งที่ไม่เหมาะสมลงไป ผมขอสัญญาว่าต่อจากนี้จะใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทและครองสติอย่างดีที่สุด ที่สำคัญที่สุด ผมขอโทษนิว ภรรยาของผมและครอบครัว และขอบคุณที่ยังให้โอกาสผมในการเริ่มต้นใหม่
“ผมขอโทษทุกคนจริง ๆ ครับ ผมขอน้อมรับทุกความผิดที่เกิดขึ้นครับ ขอโทษที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อนครับ”
ภาพ : stamp

ภาพ : stamp