ต้อนรับ 3 หนุ่ม 3 สไตล์ “เจ็ท – ภูมิ - เออร์วิน ” ATLAS กับฉายาสุดแปก! พร้อมเผยโมเมนต์ความประทับใจที่มีให้เหล่าแฟนคลับ

EFM FANDOM RECAP

ต้อนรับ 3 หนุ่ม 3 สไตล์ “เจ็ท – ภูมิ - เออร์วิน ” ATLAS กับฉายาสุดแปก! พร้อมเผยโมเมนต์ความประทับใจที่มีให้เหล่าแฟนคลับ

03 เม.ย. 2023

           มวลความสนุกกลับมาให้เราคึกคักกันอีกครั้ง กับ 3 หนุ่ม  จาก  ATLAS ‘ ภูมิ ‘ เดชาธร วรรณวานิชกุล ‘ เจ็ท ’ภัทร์ไพบูลย์โอภาส สุวรรณ และ เออร์วิน ศุภกฤต เพนนอร์ส ที่ได้กลับมาเยี่ยมเยือน EFM Fandom live อีกครั้ง!

          ในช่วงแรกเหล่าแฟนคลับของสามหนุ่มก็ได้มีโอกาสมาร่วมพูดคุยกับทางรายการ EFM Fandom live พร้อมบอกเล่าเรื่องราวความน่ารักและวีรกรรมสุดแสบของ เจ็ท ภูมิ และเออร์วิน พร้อมฉายามากมายที่เผยความเป็นตัวตนในแบบ ATLAS

 

ฉายานี้นั้น ท่านได้แต่ใดมา ?

 

“เออร์วิน”  ตัวตึงประจำวง ใครเห็นเป็นต้องเรียกน้อง ‘หรั่ง’

             มาเริ่มกันที่น้องเล็กของเรา เออร์วิน บุคคลที่แฟนคลับการันตีว่า ‘ตัวตึง’ ประจำวง !  ฉายาเบสิคที่ใครหลายๆ คนเคยได้ยินนั้นก็คือ ‘ หรั่ง ’  ด้วยความที่เป็นลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส สมาชิกในวงและแฟนคลับเลยเรียกกันด้วยฉายานี้นั่นเอง และนอกจากนี้เหล่าแฟนคลับก็ยังแอบกระซิบมาว่า เออร์วิน ก็ยังมีฉายามากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็น ‘ ตัวตึง ’ สมญานามที่ได้มาจากความขี้แกล้งขี้หยอกของน้อง หรือ ฉายา ‘หลง’ ฉายาที่เพื่อนให้ไว้จากวีรกรรมช่วงเปิดเทอม กับตำนานหาห้องเรียนใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง !

          ถ้าหากให้แฟนคลับพูดถึง ‘ เออร์วิน ’ กับความน่ารักที่มีต่อแฟนคลับของน้องเอง เหล่าเอลิสก็ได้เล่าให้พวกเราชาวแฟนด้อมไลฟ์ฟังว่า จริงๆ แล้วหลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้ว่าเออร์วินเป็นคนขี้เขินแฟนคลับมาก น้องจะคอยใส่ใจกับดีเทลของแฟนคลับอยู่เสมอ มากกว่านั้นความน่ารักอีกอย่างของน้องเลยก็คือ เออร์วินจะคอยเก็บของที่แฟนคลับให้ไว้ทุกชิ้นอยู่เสมอ

 

“เจ็ท” พี่ใหญ่สุดเท่กับฉายาสุดคูล ‘ เจ็ท (เคย) สงบ ’

           มาต่อกันที่พี่ใหญ่ของเรา เจ็ท กับฉายาที่มีชื่อว่า เจ็ท (เคย) สงบ ฉายาที่ถูกเปลี่ยนมาจากนิยามเก่าของพี่เจ็ท โดยเจ็ทเองได้เคยบอกว่า นิยามของตัวเองนั้นก็คือ ‘เจ็ทสงบ’ แต่หลังมานี้ความสงบก็ไม่มีอีกต่อไป เมื่อได้อยู่กับเมมเบอร์ในวง ความแปก ความปล่อยจอยก็มีมากยิ่งขึ้น จนกลายมาเป็น ‘เจ็ท(เคย)สงบ ชื่อในตำนานที่เมมเบอร์และแฟนคลับใช้เรียกกันนั่นเอง นอกจากนี้เจ็ท ก็ยังมีฉายาที่แฟนคลับเรียกอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มุแตม หรือ พี่น้องแตม ที่มาจากชื่อ ‘เฌอแตม’ ชื่อสมัยก่อนของเจ็ท ‘มุแตม’ ชื่อนี้จะมีไว้ใช้เรียกตอนแฟนคลับรู้สึกเอ็นดูพี่เจ็ทมากๆ ส่วน  ‘พี่น้องแตม’ ก็จะเป็นบางช่วงที่ตัดสินใจไม่ได้ว่าแฟนคลับจะให้เจ็ทเป็นพี่หรือเป็นน้องดีก็เลยกลายเป็นสองคำรวมกันเป็น พี่น้องแตม นั่นเอง

         โดยแฟนคลับพี่เจ็ทก็ได้เล่าว่า หนุ่มเจ็ทเป็นบุคคลที่ใส่ใจรายละเอียดแฟนคลับเสมอ แม้ว่าเมื่อก่อนที่รู้จักเขาจะเป็นคนเงียบๆ ก็ตาม แต่เขาก็จะคอยมองแฟนคลับ มองป้ายไฟที่มีชื่อเขา แม้ดีเทลเล็กๆ อย่างการเปลี่ยนสีป้ายไฟของแฟนคลับเอง เขาก็จะจำได้และถามทันทีว่า รอบนี้เปลี่ยนสีป้ายไฟมารึเปล่า หรืออย่างของขวัญวันเกิดที่แฟนคลับได้ส่งมาให้ เจ็ทก็จะรอจนกว่าแฟนคลับจะส่งของมาครบทุกชิ้น แล้วค่อยลงขอบคุณแฟนคลับทุกคน นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เหล่าเอลิสรักในตัวเจ็ทมากๆ เพราะเจ็ทเองก็เป็นคนใส่ใจคนรอบข้างเสมอมาเช่นกัน

 

“ภูมิ” แจกความน่ารักสดใสในแบบ ‘ภูมิมี่โป๊ะโกะ’

         และคนสุดท้ายของเรา ภูมิ หนุ่มน้อยตัวขาว แก้มป่อง คาแรคเตอร์ความน่ารักชัดเจน จนได้รับฉายาว่า  ภูมิมี่โป๊ะโกะ ฉายาที่แปลงมาจาก Mamypoko ที่เรารู้จักกันนั่นเอง  นอกจากนี้ภูมิก็ยังมีอีกหลายฉายาที่แฟนคลับใช้เรียก ไม่ว่าจะเป็น ภูมิมี่ , ภูมิมี่ภูมิ , พี่เด ( เดชาธร) หรืออีกชื่อที่ถูกแซวจากเมมเบอร์อยู่ตลอด กับชื่อ ดาราเบอร์ใหญ่ จนกลายมาเป็นซิกเนเจอร์ภูมิ ที่ชอบเล่นใหญ่จนกลายมาเป็นฉายา

        และแฟนคลับของน้องภูมิก็ได้มาบอกเล่าตัวตนที่น่ารักของน้อง จนทำเอาดีเจทั้งสองประหลาดใจไปหลายเรื่องเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความชอบส่วนตัว กับการทำอาหาร ถึงขั้นทำอาหารให้เมมเบอร์ในวงอยู่บ่อยครั้งจนกลายมาเป็นเมนูพิเศษอย่าง ผัดกระเพราหนอนไหม รวมไปถึงคาแรคเตอร์ความกวน ความสนุกสนานที่สวนทางกับความสายบุญของภูมิก็เช่นกัน เพราะภูมิถือว่าเป็นคนชอบทำบุญอย่างมาก แต่เอลิสก็แอบกระซิบมาว่า ความสามารถพิเศษอีกหนึ่งอย่างของภูมิ  

      นั่นก็คือ ความสามารถในการนั่งห้องน้ำได้เป็นเวลานานเป็นชั่วโมงนั่นเอง ! เพราะเจ้าตัวก็ได้ออกมาบอกว่า การได้ใช้ชีวิตในห้องน้ำ ถือเป็นการผ่อนคลายอย่างที่สุด ไม่ว่าเราจะสามารถเล่นโทรศัพท์ได้ หรือคิดทบทวนอะไร ห้องน้ำก็ถือว่าเป็นอีกส่วนในการที่ทำให้ผ่อนคลายได้เช่นกัน  

 

          และในช่วงที่สองของรายการก็ได้พบกับสามหนุ่ม ATLAS เจ็ท – ภูมิ – เออร์วิน ที่มาสร้างสีสันและเสียงหัวเราะกันภายในรายการ พร้อมคำถามสุดวัดใจที่ทำเอา EFM Fandom live มองสามหนุ่มเปลี่ยนไปในทันที !

 

ว่าด้วยเรื่อง…‘ แอทลาส สายบุญ ’

 

       ทำเอาดีเจดาวและดีเจแนนเซอร์ไพรส์ไปตามๆ กันกับการเดินทางสายบุญของหนุ่มๆ แอทลาส ที่ทั้ง เจ็ท ภูมิ และเออร์วิน ก็ได้ออกมาบอกกับทางรายการว่า ปกติแล้ว แอทลาสชอบไปทำบุญกันมาก และแฟนคลับ เอลิสก็ชอบไปทำบุญเช่นกัน ถึงขั้นบางทีซ้อมเสร็จ มีไปทำบุญต่อกันก็มี 

          ซึ่งเจ็ทได้เสริมขึ้นมาว่า การ อาบแสงจันทร์ หรือ ถวายระฆัง พวกเราแอทลาสก็เคยเข้าร่วมมาหมดแล้ว  เพราะแอทลาสส่วนใหญ่ก็มีความเชื่อเรื่องดวง เรื่องโชคชะตากันมาอยู่บ้าง พอเล่าเรื่องเสร็จ จึงทำให้ภูมิเอ่ยปากแซวเสริมขึ้นมาว่า จริงๆ แล้วสิ่งเหล่านี้เป็นส่วนช่วยทำให้เรามีทัศนคติดีมากขึ้นครับ เพราะหากเราเกิดผิดพลาดอะไร ก็จะได้ไม่ต้องโทษดวงอย่างเดียว เพราะแอทลาสเราทำบุญกันเยอะมากแล้ว (หัวเราะ)

 

‘เจ็ท - ภูมิ - เออร์วิน’ ใครขี้ลืมมากที่สุด ?

 

      เมื่อทางรายการถามถึงความขี้ลืมของแต่ละคน พี่เจ็ทจึงชี้ไปที่เออร์วินในทันที พร้อมบอกว่า ปกติแล้วเวลาซ้อมเต้น เจ็ทมักจะเป็นคนออกห้องซ้อมเป็นคนสุดท้าย และก็จะต้องเก็บของใช่เออร์วินได้ตลอด ไม่ว่าจะเป็น กุญแจรถ หมวก โทรศัพท์ กระเป๋าตัง ก็มักจะลืมไว้เป็นประจำ

      ทำให้เออร์วินตอบกับทางรายการว่า เพราะปกติแล้วตัวเองเป็นคนชอบคิดไปล่วงหน้าแล้วว่าเราจะทำอะไร พอเวลาคิดไปแล้วก็จะไม่ได้มาวอกแวกว่าเราลืมอะไรไว้เลย ก็เลยมักจะลืมของอยู่เป็นประจำนั่นเอง

 

ATLAS คนไหน… ตรงใจที่สุด ?

      ถ้าหากให้เลือกความเป็น ‘ Boyfriend Material ’ เมมเบอร์ใน ATLAS แต่ละคนจะเลือกใคร ?

     เออร์วินจึงตอบว่า ขอยกให้พี่เจ็ทเพราะรู้สึกว่าตัวพี่เจ็ทเองเป็นคนใส่ใจในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ถ้าให้เลือกได้ก็อยากมีคาแรคเตอร์แบบพี่เจ็ทดูบ้าง เพราะเราติดเล่นไว้เยอะแล้ว คาแรคเตอร์ความนิ่งแบบพี่เจ็ท จึงถือเป็นเสน่ห์อย่าหนึ่งที่เราอยากมี เพราะเท่มากๆ ภูมิเลยเสริมมาว่า พี่เจ็ทเป็นคนที่ใส่ใจคนอื่นก่อนเสมอ อย่างบางทีเขาขึ้นเสียงใส่ เขาก็จะโทรมาขอโทษที่ขึ้นเสียง ซึ่งบางทีเรายังไม่รู้เลยว่าเขามาเสียงดังใส่เราตอนไหน

      ส่วนภูมิเองก็ขอตอบเป็นตัวเอง เพราะรู้สึกว่าความชอบของเราแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนก็อาจจะชอบแนวแบบพี่เจ็ท อบอุ่น เทคแคร์ แต่ถ้าอย่างเราเวลาเขาไม่สบาย ภูมิก็จะเป็นฟีลอยากที่จะป่วยเป็นเพื่อน เพราะไม่อยากให้เขาอยู่คนเดียวอะไรประมาณนั้น อยากที่จะอยู่กับเขาได้อีกด้วย

      ส่วนเจ็ทเลือกภูมิ เพราะด้วยคาแรคเตอร์ของภูมิที่มีความ positive ตลก สดใส เทคแคร์ เจ็ทเลยรู้สึกว่าส่วนตัวเราเป็นคนคิดมาก ก็อยากที่จะได้คนแบบนี้ ที่บางทีเขาก็เปลี่ยนมู้ดเราไปให้อารมณ์ดีได้เข้ามาในชีวิต

‘ภูมิ - เจ็ท - เออร์วิน’ กับทัศนคติของความรัก

       ภูมิ : ภูมิรู้สึกว่าเวลาเราเจอใครหรือชอบใคร ถ้าถึงเวลาเราจะชอบเอง คิดว่าส่วนใหญ่ก็คงไม่ได้มีแฟนตรงสเปคกันเลยด้วยซ้ำ ถ้าเรารู้สึกใช่มันก็โอเคแล้ว

        เจ็ท : รู้สึกว่าเห็นด้วยกับภูมิมาก เพราะความเข้าใจในตัวตนของเจ็ทเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะถ้าใครก็ตามที่จะมาเป็นคู่ด้วยก็จะต้องรับได้ใส่สิ่งที่เราเป็น ไม่ว่าจะเป็นความเจ้าระเบียบของเรา สิ่งที่เราเป็น หรืออย่างการมีโลกส่วนตัวสูงก็ด้วย เลยคิดว่าการยอมรับในตัวตนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

        เออร์วิน : ของเออร์วินก็คล้ายพี่เจ็ทเลย เพราะความเข้าใจเป็นสิ่งที่สำคัญมากจริงๆ ในชีวิตเราส่วนตัวเราใช้อารมณ์นำทางเป็นส่วนใหญ่ ถ้าเรารู้สึกอะไร เราก็จะทำแบบนั้นเลย ด้วยความติสนิดนึงของเรา บางทีก็ต้องการพื้นที่ส่วนตัว ดังนั้นความเข้าใจจึงเป็นสิ่งสำคัญเหมือนที่บอกไว้เลย

      สุดท้ายนี้ ก็ขอขอบคุณ ATLAS ทุกคนที่มาร่วมสนุก สร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้ฟุ้งกระจายกันไปทั้งรายการ และขอขอบคุณแฟนคลับทุกท่านที่คอยติดตามและซับพอร์ตหนุ่มๆ ATLAS จากทางรายการ EFM Fandom live ทั้งสองอีพี ก็ขอฝากซับพอร์ตทุกผลงานของ ATLAS กับซิงเกิลล่าสุด ‘แกล้งลืม(Boyfriend)’ และผลงานเพลงประกอบซีรีส์ ค่อยๆรัก Step By Step “รักเธอ ONLY YOU” กันด้วยน้า

 

         ก่อนจะจากกันไป วันนี้ทางเราจึงมีข้อความเล็กๆ จากสามหนุ่ม ATLAS ภูมิ – เจ็ท – เออร์วิน

ฝากถึงแฟนคลับทุกคนที่คอยซับพอร์ต ATLAS เสมอมา...

“ATLAS to ALIS”

 

-          Poom

ทุกวันนี้ที่เราใช้ชีวิตอยู่ มันก็เหมือนอยู่ในความฝันภูมิแล้ว แค่คนที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อนมารักเรา เราก็รู้สึกพิเศษมากแล้ว ก็อยากที่จะเป็นกำลังใจให้ทุกคนเพราะเราก็ต่างเป็น positive thinking ที่ดีต่อกัน ก็ขอให้เอลิสมีความสุขมากๆ แล้วภูมิก็จะตั้งใจทำงานมากๆ เพราะมีเอลิสเป็นกำลังใจในทุกวันเลยครับ

 

-          Erwin

ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่รักพวกเรา เวลาเราจะทำผลงานออกมา เราจะนึกถึงเอลิสเสมอ ว่าเราจะทำผลงานออกมายังไงให้ทั้งเอลิสและก็เราฟูลฟีลด้วยกันทั้งคู่ ทุกครั้งที่เราอยากจะพัฒนาตัวเองหรืออยากทำให้โชว์ของพวกเราดีขึ้น เพราะทุกคนจะได้มีความสุข ก็ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้เรามาตลอด เราก็จะคอยเป็นกำลังใจให้เอลิสทุกคนด้วยนะครับ

 

-          Jet

ขอบคุณทุกคน ถ้าไม่มีพวกคุณ ‘เอลิส’ เราก็อาจจะไม่ได้มาถึงขนาดนี้ เรารู้สึกดีใจทุกครั้งที่ได้มาอยู่ตรงนี้ เอลิสบอกว่าโชว์ต่างๆ ของเราทำให้แต่ละวันสดใสขึ้นมาได้ นั่นก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งเลยที่ผมตั้งใจเอาไว้ที่จะทำแบบนั้น เราก็รู้สึกดีใจมากๆ เราจะทำให้ทุกผลงานของเราให้ดีขึ้นมาเรื่อยๆ และไม่รู้สึกเสียใจเลยที่ซับพอร์ตพวกเรา

 

‘ALIS เป็นภาษาละติน แปลว่า ปีก’

 

“ ATLAS ได้นิยาม ALIS ไว้ว่า หาก ATLAS เป็นนักสำรวจ ALIS ก็จะคอยเป็นปีกให้

และสำรวจแผนที่ไปพร้อมๆกัน คอยจับมือ และซับพอร์ตกันไปเรื่อยๆ ”

 

ชมความสนุกย้อนหลัง

 

ภาพ : EFM Fandom live

related EFM FANDOM RECAP

รางวัล “เสียงหัวเราะอรรถรสแห่งปี” บอกเลย...ชื่อนี้เหมาะกับ “มิว ศุภศิษฏ์” ที่สุด พร้อมพูดคุยอัปเดตผลงานในปี 2024 นี้!!

07 ก.พ. 2024

รางวัล “เสียงหัวเราะอรรถรสแห่งปี” บอกเลย...ชื่อนี้เหมาะกับ “มิว ศุภศิษฏ์” ที่สุด พร้อมพูดคุยอัปเดตผลงานในปี 2024 นี้!!

EFM FANDOM LIVE [1 กุมภาพันธ์ 2567] คืนนี้ต้อนรับ “มิว ศุภศิษฏ์” พร้อมอัปเดตผลงานใหม่ๆ พูดคุยกับ 2 สาว “ดีเจดาว - ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการเป็นการคัดเลือกชื่อ FANDOM AWARDS จากที่แฟน ๆ เสนอและเปิดให้โหวต1.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “เสียงหัวเราะอรรถรสแห่งปี” แนวคิด 1: พี่มิวเป็นคนหัวเราะได้เป็นเอกลักษณ์มากค่ะ เสียงจะออกมาจากลำคอ ปลายเสียงหัวเราะจะคีย์สูง และมีเสียงนาสิกแอดลิบออกมา ใครอยู่ใกล้ก็จะได้อรรถรสมาก แต่อยู่ไกลก็จะไม่เหงา เพราะเสียงหัวเราะของพี่มิวสามารถได้ยินในระยะ 500 เมตรเลยค่ะ​ แนวคิด 2: น้องมิวเป็นคนที่หัวเราะได้สุดมาก ๆ หัวเราะแล้วโลกสดใส ได้ยินเสียงน้องมิวหัวเราะจากที่เครียดอยู่จะอดยิ้มตามไม่ได้ แค่ได้ยินเสียงหัวเราะน้องมิวจะต้องยิ้มตามทุกครั้ง2.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ศิลปินแห่งความภูมิใจ”​ พี่มิวเป็นทั้งนักร้อง และนักแสดง อีกทั้งยังทำงานเบื้องหลังเช่นการเป็นผู้จัดซีรี่ย์ และการเป็นเจ้าของบริษัท รวมทั้งยังมีด้านการเรียนปริญญาเอก พี่มิวตั้งใจทำทุกอย่างอย่างเต็มที่มาเสมอ ตั้งใจทำงานเพื่อตอบแทนแฟนคลับทุกคนที่รักเขา และยังสามารถแบ่งเวลาชีวิตของตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม แม้เวลาจะมีน้อยแต่หากมีเวลาก็จะแบ่งมาให้แฟนคลับด้วยตลอด พี่มิวโชว์ทัศนคติที่ดีของตัวเองออกมาให้แฟน ๆ ภูมิใจมาเสมอไม่ว่าด้านใดก็ตาม คอยเป็นกำลังใจ ส่งความเชื่อมั่น ส่งต่อความคิดดี ๆ ให้แฟนคลับอย่างตั้งใจ เป็นคนที่ทำให้mewlionsภูมิใจมากๆมาเสมอเลยค่ะ3.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “Perfect Man” ในมุมมองของแฟนคลับคนนึงคิดว่ามิวเป็นคนที่เพอร์เฟคมาก ๆ ทั้งหล่อ น่ารัก นิสัยดี เรียนเก่ง ร้องเพลงเพราะ วาดรูปสวย ขยันทำงาน ขี้อ้อนเป็นหนุ่มคลั่งรักมากกกก รักครอบครัว รักแฟนคลับ รักสัตว์ และคอยที่จะเรียนรู้พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาอาวุธของมิวที่จะทำให้ตกหลุมรัก คือ​ 1. สายตาพิฆาต / เวลาสบตาที่ไรเหมือนโดนมนต์สะกด​ 2. รอยยิ้มที่สดใส / เจอยิ้มทีละลายไปเลยจ้า​ 3. เสียงหัวเราะที่อร่อยมากกกกกกกกก / ไม่ว่าจะเหนื่อยหรือเครียดอะไรมาพอได้ฟังเสียงหัวเราะของมิวคือช่วยได้เยอะมากๆ4.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “เทพบุตรรอยยิ้มรักโลก” แนวคิดมาจากอยากให้โลกนี้มีแต่ความรัก ความใจดี ความเมตตา ให้กันและกัน รอยยิ้มเป็นสิ่งที่แต่ละคนสามารถให้ผู้อื่นได้โดยไม่ต้องลงทุนอะไร เป็นกำลังใจ เป็นความรู้สึกดีๆที่ส่งต่อให้กัน สร้างวันที่ดีให้กันและกัน มีพลังในการใช้ชีวิตต่อไปได้ อยากมอบรางวัลนี้ เทพบุตรรอยยิ้มรักโลก ให้แด่พี่มิว ศุภศิษฏ์ ชายหนุ่มผู้มีรอยยิ้มที่ฮีลหัวใจของมิวเลียนส์ที่สุด รอยยิ้มแสนอบอุ่น ที่ส่งผ่านแววตาเวลาที่ได้พบเจอแฟนคลับ รอยยิ้มที่แสดงถึงความรู้สึก ดีใจที่ได้เจอกันนะครับ หรือ ขอบคุณทุกคนที่มาหาผมนะครับ เป็นการส่งกลับพลังงานดี ๆระหว่างศิลปินและแฟนคลับ ทำให้แต่ละครั้งที่ได้ใช้เวลาด้วยกันเป็นช่วงเวลาที่แสนพิเศษ การไปหาไปให้กำลังใจพี่มิวในแต่ละงาน อาจจะเสียพลังงานในเดินทางหรือการรอที่จะได้เจอกัน แต่ทุกครั้งเมื่อเราได้เจอกันแล้ว รอยยิ้มของพี่มิว ฮีลพลังงานที่เสียไปกลับมาได้เสมอ รอยยิ้มที่แสนอบอุ่นนี้ต่อให้ไม่ใช่แฟนคลับได้เห็นก็รู้สึกได้ถึงความสุขที่ส่งออกมาได้ อยากให้รางวัลนี้เป็นตัวแทนบอกกับพี่มิวว่า ขอบคุณที่คอยรักษาโลกใบนี้ของมิวเลียนส์มาตลอดเวลา ไม่ว่าจะเจอสถานการณ์แบบไหน รอยยิ้มของพี่มิวเป็นกำลังใจช่วยให้ผ่านมาได้ตลอด พี่มิวเหมาะสมกับรางวัลนี้ที่สุดเลย ขอบคุณรอยยิ้มแสนสดใสที่คอยมอบให้กันมาเสมอนะคะ รักนะคะ5.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “คนจริงใจดีเด่น” เขาหล่อ เขาน่ารัก เขาเก่ง ร้องเพลงก็เพราะ งานแสดงก็ทรงเสน่ห์! รุ่มรวยด้วยความสามารถรอบตัว! แต่! สิ่งที่ทำให้ตกหลุมรัก และยังทำให้รักอยู่เสมอ คือ ความจริงใจของเค้าค่ะ! เค้าจะบอกทุกครั้งว่า อะไรเป็นอะไร ให้ข้อเท็จจริงกับเรา ให้ข้อมูล ให้เราเอาไปคิดพิจารณาเอง ถือว่ามิวเคารพในทุกการตัดสินใจของแฟนคลับ และมันทำให้เรารู้สึกดีตรงนี้มาก ๆ เลยค่ะ มิวไม่ใช่เพื่อน พี่น้อง คนรัก หรือคนในครอบครัว มิวเป็นศิลปินคนนึงที่เราติดตามจากการเสพความบันเทิงในชีวิตทั่วไป แต่เราไม่คิดไม่ฝันว่า คนคนหนึ่งจากคนที่เรารู้จักในโลกบันเทิงเท่านั้น กลับยิ่งทำให้เรารู้จัก ก็ยิ่งรักเค้า ทั้งที่ไม่ใช่คนสนิท แต่มิวกลับหยิบยื่นความรัก ความจริงใจ ให้กับแฟนคลับอย่างเรา ๆ ตลอดมา​ มิวเคยบอกว่าบนเวทีมันก็มีการแสดงอยู่ในนั้น แต่มันก็เกิดจากความตั้งใจที่จะให้ทุกคนมีความสุข จากที่เคยคิดว่าเค้าเป็นศิลปิน เค้าก็คงเลือกให้เห็นแต่สิ่งที่สวยงามสิ แต่มิวเลือกที่จะบอกว่าในโลกกลม ๆ นี้ ก็มีอีกหลายด้านไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง มิวเคยมีวันที่แย่ ๆ ที่ทำให้เค้าไม่มีความสุข แต่เค้าก็เลือกที่จะบอกตรงนี้กับทุกคน เลือกที่จะให้แฟนคลับรับรู้ บางคนอาจจะถอยห่าง แต่หลายคนก็ไม่ไปไหน กลับรู้สึกดีที่มิวเลือกที่จะเล่าให้มิวเลี่ยนส์ฟัง ในเมื่อมิวเลือกให้เรารับรู้ทั้งสุขและทุกข์ แสดงว่ามิวก็เห็นมิวเลี่ยนส์ เหมือนคนในครอบครัวแล้วค่ะ ในโลกใบนี้ เราพบเจอกับคนต่างครอบครัว ต่างที่มามากมาย จากคนแปลกหน้าคนนึง ได้มารู้จักกัน จะมีซักกี่คนที่ให้ความจริงใจกับเราได้ขนาดถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย! เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ เราจะมาพูดคุยกับ “มิว ศุภศิษฏ์”รางวัล “เสียงหัวเราะอรรถรสแห่งปี”สิ่งที่มิวอยากเห็นแฟนคลับมีในทุก ๆ วันนอกจากรอยยิ้ม อยากเห็นมากที่สุดคือเรื่องความสุข เพราะเหมือนเขาก็คอยให้กำลังใจเรา คอยให้ความรัก ให้การสนับสนุน เราก็รู้สึกว่าอยากเห็นเขามีความสุขเหมือนกัน ไม่ว่าจะด้วยเรื่องเราหรือว่าเรื่องการใช้ชีวิตของเขาใดใดก็แล้วแต่ อยากให้เขาแฮปปี้เรื่องที่กำลังศึกษาและกำลังพัฒนาตัวเอง ช่วงนี้รู้สึกอยาก Discover เรื่องศิลปะ ตอนเด็กชอบวาดรูปมากก็เลยรู้สึกว่าอยากได้ Activity บางอย่างที่สามารถทำให้เรามีสมาธิมากขึ้น ก็เลยกลับไปวาดรูป แล้วก็ Discover ว่าการวาดรูปมันทำให้เรามีสมาธิได้มาก ๆ คือระหว่างวาดรูปผมสามารถวาดไป 5 ชั่วโมงได้โดยไม่ทำอะไรเลย อยู่กับมันไปได้เรื่อย ๆแนวการวาดรูปที่ชอบ ผมจะชอบแนว อินเพรสชั่นนิสม์ (Impressionism) ละกัน คือไม่ใช่ เรียลลิสติก (realistic) เกินไป แต่ว่าเหมือนเอาความรู้สึกเรา เช่นสมมติว่าถ้าเราไปเที่ยวแล้วก็เห็นภาพทะเล ท้องฟ้า ภูเขาอะไรต่าง ๆ นานา แต่ถ้าอินเพรสชั่นนิสม์ (Impressionism) มันจะมีความเหมือนเก็บความรู้สึกตอนนั้นมาแล้วก็ระบาย เช่น เราอาจจะรู้สึกว่าท้องฟ้าเราอาจจะไม่สีฟ้าก็ได้ ผมรู้สึกว่าเราสามารถเอาสมาธิไปอยู่กับมันได้นาน ก็แปลกใจเหมือนกัน แต่รู้สึกว่าเป็นการที่เราได้ทำอะไรที่ชอบและได้ฝึกสมาธิไปในตัวด้วยถ้าพูดถึงเรื่อง Mew Mories Special B Day With You งานครบรอบวันเกิดมิว : จริง ๆ เกิดวันที่ 21 กุมภาพันธ์ แต่งานเกิดขึ้นวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ก็เลยต้องจัดก่อนเพราะวันเกิดต้องไปทำงานที่ต่างประเทศเหตุผลที่เลือกคอนเซ็ปท์นี้ คือ…ตัวคอนเซ็ปท์จะมีความเหมือนปฏิทินที่ทำทุกปี ปีนี้จะเป็นคอนเซ็ปท์ที่ลิงก์กัน ก็จะมีความเอารูปเก่า ๆ มา และก็ทำแบบถ้าปัจจุบันแล้วเป็นยังไง ตัวงานนี้ก็เหมือนกันจะเป็นการเก็บความทรงจำ แต่ด้วยความเป็นแฟนมีตก็จะมีเพลงต่าง ๆ ด้วยที่ถูกใส่เข้ามาในการร้องและกิจกรรม ซึ่งเพลงก็จะเป็นแนวยุคตั้งแต่เราเกิดผ่านอะไรมาบ้างจนถึงปัจจุบัน แต่ที่เป็นชอปเปอร์ก็คือเป็นอีกหนึ่งความทรงจำดี ๆ ที่อยู่ด้วยกันกับเรามาจนปัจจุบัน อยู่ด้วยกัน 10 ปีแล้วอายุปีนี้ของมิว ศุภศิษฏ์มิว : เราก็ใกล้ ๆ กัน ผม 33 แล้วปีนี้ ทำไมถึงถามออกรายการแบบนี้! 555สิ่งที่พิเศษในวันเกิดปีนี้ที่ต่างจากปีอื่น ๆ วันเกิด 21 กุมภาพันธ์ ก็ปีนี้นี่ไงที่บอกไปทำงาน ไป fashion week แล้วมันชนกับวันเกิดพอดี ช่วงหลัง ๆ ก็ทุกปี แต่บางทีก็พยายามเก็บช่วงกลางคืน เผื่อไว้ดินเนอร์กับที่บ้าน เป่าเค้กหน่อย ตอนเด็ก ๆ มีธรรมเนียมต้องตื่นไปทำบุญก่อน ไปกินข้าวที่บ้าน พอโตมาแล้วไม่ไหวละ 555 แต่ปกติก็อย่างที่บอกไป แต่ปีนี้ก็อดเพราะไปต่างประเทศสิ่งที่ห้ามพลาด แฟน ๆ ต้องมาเท่านั้น! ทุกอย่างเลย เพราะว่าปีนี้มีกิจกรรมใหม่ ๆ อย่างที่บอกไปก็ช่วงนี้อินกับศิลปะ ก็เลยจะเอาพวกงานที่วาดรูปไปโชว์ ไปโชว์วาดรูปได้ไหม จะยอมมากันไหม ผมว่าแฟน ๆ ก็อาจจะปวดสลักเพชร อาจจะมีบริการก็คือให้หมอนวดเข้ามานวดและดูวาดรูปไปด้วย 555sequence ในงานครั้งนี้ ถูกวางไว้เรียบร้อยแล้ว ก็จะมี sequence อย่างที่บอกไปเป็นช่วงอายุและก็เป็นแนวเพลงต่าง ๆ ที่ถูกทำมารวมทั้งชุดและกิจกรรมต่าง ๆ อาจจะยังสปอยเยอะไม่ได้ แต่ก็จะมีอย่างในโปสเตอร์เดี๋ยวจะพาชอปเปอร์มาด้วย ตัวหลักคนนี้ถ้าร้องเพลงได้จะให้ออกงานละ ดันชอปเปอร์ออกงานละ 555 ธีมชุดก็คิดหนักมากว่าควรจะเป็นธีมอะไร เพราะว่างานมีตบางอันก็เคยจัดช่วงฮาโลวีน คอสเพลย์ผีมาเรียบร้อยละ ปีนี้ถ้าคอนเซ็ปท์ยากไปไม่รู้เขาจะทำได้หรือเปล่ามีอยู่ในใจ คอนเซ็ปท์ผีตาโขน ไปเปิดดูถ้าแฟน ๆ ใส่เป็นผีตาโขนก็น่ารักดีนะ แต่คิดว่าไม่น่าผ่าน งั้นเอาเป็นว่าง่าย ๆ เป็นตัวอักษร ม.ม้า หรือไม่ก็ตัว M และมีการแจกรางวัลให้กับคนที่แต่งตัวปังที่สุดด้วย สามารถซื้อบัตรได้ที่ช่องทาง eventpop.me ซื้อได้เลยตอนนี้ ขายบัตรไปแล้ววันที่ 18 มกราคม สถานที่ At KBang Siam Pic-Ganeshaถ้าพูดถึงละคร “มนต์รักลูกทุ่ง 2567”ความรู้สึกหลังจากที่ทางละครติดต่อมา คิดหนักจริง เพราะว่าแต่ละเวอร์ชั่นเขาก็ปังมาก แล้วก็ยังไม่เคยร้องเพลงลูกทุ่งมาก่อน ก็เลยจะทำยังไงดี แล้วเขาอยากให้เราร้องหลายเพลงด้วย ในเวอร์ชั่นเก่า ๆ พี่ ๆ พระเอกก็ไม่ได้ร้องเอง จะเป็นศิลปินมาร้อง แล้วเวอร์ชั่นนี้เป็นเวอร์ชั่นแรกที่เหมือนเขาจะให้ผมร้องเองเลย พอออนแอร์ไปแล้ว EP. แรก วีคที่แล้วกระแสดีมาก ในยอด X ก็เยอะเหมือนกันเป็นล้านเหมือนกันนะที่ลงทวิต แล้วเรตติ้งก็น่าพอใจเลยสำหรับช่วงเวลานั้น พอหลังจากออนวันเดียว ผมไปนั่งกินข้าวร้านข้างทาง มีคนเรียกพี่คล้าวการโคจรมาพบกันกับ “ชาล็อต ออสติน” น้องน่ารักมาก น่ารักจริง ๆ เป็นอีกเหตุผลหนึ่งเลยที่รับเรื่องนี้ พอรู้ว่าทองกวาวคือชาล็อต คนดูต้องเซอร์ไพรส์แน่เลยถ้าเป็นชาล็อตความท้าทายในละคร “มนต์รักลูกทุ่ง 2567” ตอนเริ่มแรกเรื่องร้องเพลงเป็นปัญหาหลัก แต่พอตอนถ่ายปัญหาเต็มไปหมด 555 มันจะมีความที่เห็นเป็นรอมคอมแบบนี้แต่มันจะมีซีนที่แอคชั่นเยอะ เช่น การขี่ควายก็ต้องขี่จริง ๆ แล้วตอนนั้นผู้กำกับคืออาสำรวย ซึ่งกำกับตั้งแต่เวอร์ชั่นพี่ตั้วเลย แล้วก็พี่ป๋อ และนี่ก็เวอร์ชั่นที่ 3 เขาก็แบบถ้าทำแบบเดิมก็จะไม่ทำ เขาอยากทำให้มันแตกต่างจากเดิม เพลงต่าง ๆ ก็ยังมีอยู่ทั้งมนต์รักลูกทุ่ง ทั้งสิบหมื่น 2 เพลงนี้ก็ร้องเองเหมือนกัน พอร้องลูกทุ่งร้องยากมากเลยอะ น้ำตาจะไหล นึกไปแล้วทำไมทรมานจังตอนอัด คนที่คุมอัดก็เป็นครูลูกทุ่งเลยวันนี้ทางรายการ EFM FANDOM LIVE ก็มีเกมสำหรับคนเก่งรอบด้านอย่าง “มิว ศุภศิษฏ์” เล่นกันด้วย กับเกมที่มีชื่อว่า ‘พี่มิวทำได้’ สนุกสนานกันแน่นอน (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย รายการได้เปิดโอกาสให้เหล่าแฟนคลับ ได้โทรเข้ามาพูดคุยกับ “มิว ศุภศิษฏ์” อยากจะขอบคุณพี่มิว ที่เลือกที่จะอยู่ตรงนี้ให้พวกเราได้รัก จะบอกว่าตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่ได้มาตามพี่มิวทุก ๆ วันเป็นวันที่มีความสุขมาก ๆ เลย แล้วก็ในทุกเส้นทางที่พี่มิวจะเลือกเดินต่อจากนี้ จะมีพวกเราแฟนคลับ มิวเลียนส์ทุกคนคอยซัพพอร์ตพี่มิวเสมอ ถ้าวันไหนพี่มิวเหนื่อยให้หันกลับมามองก็จะมีพวกเรายืนส่งยิ้มให้ แล้วก็ชูสองนิ้ว แล้วบอกว่าสู้ ๆ จะเป็นกำลังใจให้เสมอ รู้ว่าพี่มิวเหนื่อย ก็อย่างที่สายเมื่อกี้บอกพวกเราเป็นกำลังใจเสมอ หันกลับมาเมื่อไหร่ก็จะเจอพวกเรา และก็อยากบอกว่าขอบคุณด้วย รอยยิ้มหรือเสียงหัวเราะของพี่มิวมันช่วยฮีลใจในแต่ละวันของพวกเรามาก ๆ ก็เหมือนที่น้องมิวบอกพวกมิวเลียนส์ทั้งหลาย ที่บอกว่าอยากให้มีความสุข พวกมิวเลียนส์ทุกคนก็อยากให้น้องมิวมีความสุขมาก ๆ เหมือนกัน“มิว ศุภศิษฏ์” ขอบคุณสำหรับรางวัล “เสียงหัวเราะอรรถรสแห่งปี” ต้องขอบคุณทุกคนที่ทำให้ผมได้รับรางวัลเสียงหัวเราะอรรถรสแห่งปีนี้ ก็พยายามจะรักษาคุณภาพเสียงหัวเราะต่อไปในปีนี้ด้วย ฝากติดตามเสียงหัวเราะของผมและคุณภาพเสียงของผมหลังจากนี้ด้วยสุดท้ายนี้ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “มิว ศุภศิษฏ์” ที่มาร่วมพูดคุย สร้างความสุข ความน่ารักให้กับรายการ และก่อนจะจบรายการกันไป ฝากติดตามละคร “มนต์รักลูกทุ่ง 2567” ทั้งดูสดทั้งย้อนหลัง , ภาพยนตร์เรื่อง The Package พัสดุฝ่าแดนมรณะ กำลังจะออนแอร์เร็ว ๆ นี้ , ซีรีส์เรื่อง Homeroom 29 ตัวประกัน , ซีรีส์เรื่อง ถึงคุณภรรยาจากสามีที่รัก และซีรีส์เรื่อง Love is like a cat ไปติดตามกันได้เลยสามารถเข้าไปรับชมกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

ความพยายามของกระต่ายน้อย “เป็นต่อ” ไม่ว่าวันไหนก็จะไม่ ชอดอด็อด ช๊อด ช็อต ฟีล

20 ก.ค. 2023

ความพยายามของกระต่ายน้อย “เป็นต่อ” ไม่ว่าวันไหนก็จะไม่ ชอดอด็อด ช๊อด ช็อต ฟีล

EFM FANDOM LIVE [13 กรกฎาคม 2566] เปิดสตูดิโอต้อนรับเสียงหัวเราะและความสนุกสนานจาก “เป็นต่อ” พร้อมมาพูดคุยกันในรายการกับ ‘ดีเจแนน และ ดีเจโซเซฟ’ ก่อนที่จะไปพูดคุยกับ “เป็นต่อ” ช่วงแรกในรายการ พี่ๆดีเจก็ได้พูดคุยกับตัวแทนแฟนคลับที่มาเล่าถึงความประทับใจและโปรเจกต์ต่างๆที่ได้ทำให้กับศิลปินที่รัก...ทำไมเป็นต่อถึงต้องเปรียบเหมือนกระต่าย? กระต่ายจะเป็นตัวแทนของเป็นต่อ เพราะกระต่ายเป็นสัตว์ที่ตัวเล็กๆ นุ่มฟู เห็นแล้วมันน่ารักนุบนิ้บเหมือนเป็นต่อ ก็เลยเป็นที่มาของชื่อด้อมและแฮชแท็กประจำตัว#ลักยิ้มของเป็นต่อความประทับใจที่มีกับเป็นต่อ เป็นต่อเป็นคนที่น่ารักกับแฟนคลับเสมอ เป็นต่อจะชอบพูดกับลักยิ้มทุกคนว่า ‘เติบโตไปกับเป็นต่อนะ’ เป็นต่อใส่ใจแฟนคลับตลอด ไม่ว่าใครพูดถึง เป็นต่อรับรู้ทั้งหมด เป็นคนที่ขยันมากๆ จากคนที่ไม่มีพื้นฐานเรื่องการเต้นเลย เป็นต่อพัฒนาจนมามีซิงเกิลแรกเป็นของตัวเอง มีทั้งโชว์สเตปการเต้น การร้อง และการแร็ปพูดถึงโปรเจกต์ที่ผ่านมา เป็นโปรเจกต์วันเกิดของเป็นต่อ จัดเมื่อวันที่ 8 - 9 กรกฏาคมที่ผ่านมา จัดเป็นคาเฟ่เล็กๆที่ BTS ปุณณวิถี มีรถตุ๊กๆที่ กรุงเทพฯ และจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงมีการขึ้น LED Billboard ที่ Seoul station ประเทศเกาหลีใต้อีกด้วยความรู้สึกที่อยากจะบอกเป็นต่อ อยากบอกเป็นต่อว่าช่วงนี้ดูแลสุขภาพตัวเองด้วย ถ่ายละครค่อนข้างหนัก ฮีลร่างกาย ฮีลจิตใจตัวเองให้ได้มากที่สุด พักผ่อนให้เพียงพอ ส่วนอะไรที่ทำให้ไม่สบายใจก็ปล่อยผ่านไปก็ได้ ไม่เป็นไรน้าา อยากให้เป็นต่ออยู่กับลักยิ้มไปนานๆ เป็นคนที่น่ารัก สดใส รักลักยิ้มแบบนี้ตลอดไป เติบโตไปกับลักยิ้มเหมือนกันน้าา... หลังจากที่เราได้พูดคุยกับตัวแทนแฟนคลับของ “เป็นต่อ” ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในช่วงต่อไปจะเป็นการได้มาพูดคุย ทำความรู้จักกับ “เป็นต่อ” ตัวเป็นๆของจริง! เริ่มต้นพูดคุยด้วยการถาม “เป็นต่อ” ถึงโปรเจกต์วันเกิดที่ทางบ้านแฟนคลับได้จัดทำให้ ซึ่ง “เป็นต่อ” ก็ได้เล่าว่า ตอนแรกแพลนจะไปอีกประเทศหนึ่งก่อน แต่พอรู้ว่ามีโปรเจกต์วันเกิดก็เลยเลื่อน ขอไปเก็บโปรเจกต์ก่อน เพราะยังมีช่วงเวลาที่ว่างอยู่ 3 - 4 วัน พอได้ไปเห็นโปรเจกต์ที่แฟนๆทำให้ “เป็นต่อ” ดีใจมากๆ เหมือนเป็นสถานีที่คนเดินผ่านไปผ่านมาเยอะมากๆ พอเรายืนอยู่ตรงกลาง หันไปก็มีจอเต็มไปหมดเลย และก็ขึ้นเป็นหน้าเรามาทีเดียว ขึ้นทุกๆ 4 นาที หลังจากนั้นก็ได้ถ่ายรูปกับโปรเจกต์ ต้องขอบคุณเหล่า ลักยิ้มของเป็นต่อ ที่ทำโปรเจกต์นี้ขึ้นมา เมื่อถามถึงวันเกิดที่ครบรอบ 24 ปี “เป็นต่อ” เล่าว่า เป็น 24 ปีที่มีความสุข อย่างแรกเลยที่รู้สึกมีความสุขมาก คือ การได้เติบโตมาจนถึง 24 ปีนี้ ถึงแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมามันมีอะไรที่เราต้องผ่านมาเยอะเหมือนกัน ไม่ว่าทั้งการประสบความสำเร็จ ผิดหวังบ้าง เสียใจบ้าง ร้องไห้บ้าง แต่รวมๆแล้ว มีความสุขมากๆ ที่เดินมาจนถึง 24 ปี เราไม่รู้ว่าชีวิตเราจะมี 24 , 25 , 26 ไปได้ถึงเมื่อไร เรามีความสุขในทุกๆวันดีกว่า ลองดูหน้าตอนที่กำลังพูดถึงตัวเองในวัย 24 ปี มันดูเปร่งประกาย แบบมีความสุขจริงๆ (ดีเจแนนพูดพร้อมมองหน้าเป็นต่อ)ความรู้สึกที่ได้เป็นกระต่ายของ ลักยิ้มของเป็นต่อ จริงๆก็รู้สึกดี ขอบคุณที่ให้มาเป็นสัตว์น่ารักๆในชีวิต น่าจะมีบางอย่างที่คล้าย เช่น ลักษณะการกิน (เป็นต่อสาธิตวิธีการกินของกระต่ายในรายการ) เพราะว่าเป็นคนชอบกิน เวลาได้กินก็จะเคี้ยวตุ้ยๆแบบนี้เมื่อถามถึงเรื่องการเรียนของเป็นต่อ “เป็นต่อ” เพิ่งจบการศึกษา ในฐานะนักเรียนทุน จาก ‘Shanghai International Studies University’ สาขาวิชาการสอนภาษาจีนสำหรับชาวต่างชาติ “เป็นต่อ” เรียนเป็นครูภาษาจีน จริงๆตามหลักสูตรต้องเรียน 4 ปี แต่เราเรียน 5 ปี และสามารถจบภายใน 3 ปีได้ แต่เราเลือกที่จะยังไม่จบ เพราะเราเป็นนักเรียนทุน เรียนฟีลๆ เพราะโอกาสครั้งนึงที่เราได้ไปอยู่ที่ประเทศจีน ก็เอาให้คุ้ม เก็บประสบการณ์ เก็บความรู้ในทุกๆปีให้แน่นเลยFirst impression ในการไปเรียนต่อที่ประเทศจีน ก่อนหน้านั้น ตอนม.5 “เป็นต่อ” เคยไปเรียนที่เซียงไฮ้ระยะสั้นมาก่อนแล้ว ประมาณ 2 อาทิตย์ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันที่ทำให้อยากไปเรียนต่อที่นั่น ครั้งแรกที่ไปสิ่งแรกที่ชอบ คือ ชอบทุกอย่างเลย ตอนลงเครื่องบิน พอเปิดประตูเครื่องบิน ก็ได้รับอากาศของเซี่ยงไฮ้เลย จนหลุดปากพูดมาคำหนึ่งว่า ‘นี่นะหรือ อากาศเซี่ยงไฮ้’ และตอนนี้ก็ยังจำอากาศตอนนั้นได้ พอไปเจอบ้านเมือง เจอผู้คน เจอวิถีชีวิต วัฒนธรรมของเขา มันก็เข้ากับชีวิตเราอยู่ประมาณนึงที่มีความอิสระ แต่ตอนนั้นก็ยังพูดภาษาจีนไม่ได้ ให้เพื่อนคอยพูดให้อยู่ จนกลับไทยมาก็เลยตัดสินใจเรียนภาษาจีน ยังไงจะต้องกลับไปอยู่ที่ประเทศจีนให้ได้ถ้าเป็นต่อคิดจะทำอะไรแล้ว ก็จะตั้งใจทำสุดๆ แม้กระทั่งเรื่องเต้น จริงๆแล้ว ก่อนหน้านี้ “เป็นต่อ” ก็เต้นไปเรื่อย ไม่มีพื้นฐาน ไม่เคยเรียนเลย จนได้ออดิชั่นเข้ามาเป็น Trainee เหมือนเริ่มจาก 0 เลย เข้าไปเจอเพื่อนๆทุกคนที่มาเป็น Trainee เหมือนกัน แต่เขาเต้นกันมาเป็น 10 ปีแล้ว ทุกอย่างมันกดดันมาก เราจะต้องรีบฝึกด้วยภายในระยะเวลาอันสั้น ที่เราจะออกไปเผชิญโลกในอนาคต... บางวันมีเหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง เพราะตอนนั้นเราเรียนไปด้วย เทรนไปด้วย เทรนตั้งแต่ 11 โมง – 5 ทุ่ม ,เที่ยงคืน แล้วกลับมานั่งเรียนออนไลน์ที่ห้อง มันก็มีโมเมนต์ที่แบบนั่งเรียนไปด้วย ร้องไห้ไปด้วย คือมันเหนื่อยมาก จากชีวิตเด็กคนนึงที่นอนกลางวันอยู่ที่บ้าน ตื่นมาเรียน 2 ชั่วโมงต่อวันเป็นอีก 1 โปรเจกต์ที่จะเป็นการรวมตัวของ LAZ1 “Gotcha POP Concert” ตื่นเต้นมากๆ ตอนนี้ยังไม่ได้ซ้อมอะไร “เป็นต่อ” เพิ่งกลับมาจากเกาหลี ต่างคนต่างมีโปรเจกต์ของตัวเองอยู่ แต่อีกไม่นานแล้วเพราะมีแพลนซ้อมมาแล้วDebut Single “ช็อตฟีลแรงไปไหม” (Buzzkill) - PentorJrp Feat. F.HERO ซิงเกิลแรกก็ได้ร่วมงานกับพี่กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ ตัวเพลงนี้มาจากทางพี่กอล์ฟ คือเคยเจอกันมาก่อนหน้านี้แล้ว มันเป็นช่วงจังหวะแหละ เราติดตามผลงานของพี่กอล์ฟมาตลอด ตอนที่รู้ว่าพี่กอล์ฟให้เกียรติมา Feat ด้วย ส่วนในพาร์ทแร็ปของพี่กอล์ฟก็ทำมาดีมากๆ และทุกวันนี้ก็ยังเครียดอยู่เลย เวลาต้องไปร้องเพลง และต้องแร็ปท่อนของพี่กอล์ฟด้วย (เป็นต่อถึงกับแร็ปให้ฟังกันสดๆในรายการ - เข้าไปชมได้ใน Youtube : ATIME) เป็นต่อมาทั้งที! ทางรายการก็มีเกมสนุกๆมาให้ “เป็นต่อ” เล่น ชื่อเกมว่า “Acting Challenge เล่นแบบช็อตๆ” (เข้าไปชมใน Youtube : ATIME) ถึงช่วงสุดท้าย ทางรายการเปิดโอกาสให้ “ลักยิ้มของเป็นต่อ” (ชื่อแฟนคลับ) ได้พูดคุยกับศิลปินคนโปรด “เป็นต่อ” สุดท้ายนี้ EFM FANDOM LIVE ขอบคุณ “เป็นต่อ” มากๆที่มาพูดคุยกัน บอกเลยว่า “เป็นต่อ” เป็นคนที่ไม่ตายไมค์ของจริง! และฝากซิงเกิลแรก “ช็อตฟีลแรงไปไหม” สามารถเข้าไปฟังกันได้ทุกช่องทางสตรีมมิ่งได้เลยน้าเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

กฎแรงดึงดูด หรือจะเท่า...กฎแห่งรักดึงดูดของ “แจม-ฟิล์ม” ที่ทำให้กลายมาเป็น ‘แมวน้อย กับ หมายักษ์’ ที่ทุกคนรักขนาดนี้ บอกเลยมันโคตรพิเศษที่สุด

06 ก.ย. 2023

กฎแรงดึงดูด หรือจะเท่า...กฎแห่งรักดึงดูดของ “แจม-ฟิล์ม” ที่ทำให้กลายมาเป็น ‘แมวน้อย กับ หมายักษ์’ ที่ทุกคนรักขนาดนี้ บอกเลยมันโคตรพิเศษที่สุด

รายการ EFM Fandom Live [31 สิงหาคม 2566] มาฟินจิกหมอนไปกับ “แจม - ฟิล์ม” มาพร้อมกับความน่ารัก ความสนุก และเสียงหัวเราะ พร้อมพูดคุยในรายการกับ “ดีเจเเนน และ ดีเจโซเซฟ” ก่อนที่จะไปพูดคุยกับ “แจม-ฟิล์ม” ในช่วงแรกของรายการพี่ๆดีเจพูดคุยกับตัวแทนของแฟนคลับที่มาพูดถึงความประทับที่มีต่อ “แจม-ฟิล์ม” และ สิ่งที่อยากจะบอก “แจม-ฟิล์ม”ความประทับใจและสิ่งที่อยากบอกกับแจม การแสดงจากที่ได้รับบทเล็กๆไม่มีอะไรเลย เเต่มีเสน่ห์ของแจมที่ดึงดูดคนดู และยังมีความมุ่งมั่นการทำงานผ่านสายตา สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ ขอบคุณที่ไม่ละทิ้งความฝันไม่ว่าจะมีอุปสรรคมากแค่ไหน ก็ฝ่าฟันทำตามความฝันทำให้ก้าวมาถึงจุดตรงนี้ได้ความประทับใจและสิ่งที่อยากบอกกับฟิล์มฟิล์มพูดเสมอเลยว่า “ผมไม่ขอให้อยู่กับผมตลอดไป แต่ขอให้ทักคนมีความสุขในทุกนาทีที่ได้อยู่ด้วยกัน” สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ ทุกการเดินทางของเราที่อยู่เคียงข้างฟิล์มมันจะมีความสุข มีเสียงหัวเราะ มีรอยยิ้ม เพราะเรารู้ว่านี่คือความสุขที่สุดของฟิล์ม ในวันที่ฟิล์มเหนื่อยล้าแฟนฟิล์มทุกคนพร้อมจะเป็นลมใต้ปีกให้เสมอ เเละสิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นเรารู้ด้วยว่าวันที่เราเหนื่อยล้าฟิล์มก็พร้อมที่จะเป็นลมใต้ปีกให้เราเหมือนกันความประทับใจและสิ่งที่อยากบอกกับแจมฟิล์มทั้งคู่มีเคมีที่เข้ากันมากๆจากซีรีส์ทำให้ตกหลุมรักคู่นี้ สิ่งที่อยากจะบอกคือ ยินดีสนับสนุนทั้งแจมและฟิล์มทุกๆผลงาน ไม่ว่าจะเป็นผลงานของตัวเองที่เเสดงกับคนอื่นก็ยินดีที่จะสนับสนุนต่อไปเรื่อยๆ เพราะว่ามีสโลแกนว่า “Walk Together Support Forever (เราจะเดินไปด้วยกัน ซัพพอร์ตกันเเละตลอดไป)” มีกำลังใจในการทำงานทุกเส้นทาง ยินดีที่จะเป็นพลังรักให้กับทั้งสองคนตลอดไปมาสู่ช่วงที่สองของรายการที่จะมาพูดคุยไปกับ “แจม-ฟิล์ม”การเปลี่ยนแปลงของชีวิตในช่วงนี้ “แจม” งานเยอะขึ้นเวลานอนลดลง เพราะว่าต้องทำงานเช้าขึ้น เเต่ก่อนเคยพูดกับพี่ฟิล์มนะว่าผมอยากทำงาน 7 วัน พี่ฟิล์มก็บอกว่าเดี๋ยวก็รู้ เวลาพักผ่อนก็น้อยลงจริงๆเลยต้องหาเวลาแบบที่งานไหนที่ไม่ไหวก็จ้างรถตู้เเล้วก็นอนบนรถ เวลาออกกำลังยังเเบ่งเวลาไม่ค่อยได้ดีสักเท่าไหร่ จริงๆเป็นคนที่กินหมดทุกอย่างจะมีบางมื้อที่จะเน้นอกไก่เน้นโปรตีนเป็นหลัก ตอนนี้ก็กลายมาเป็นอกไก่หายไปเป็นหนังไก่แทน แต่ก็ยังออกกำลังมีเเตะบอล ตีแบตกับเพื่อน เพราะว่าชอบออกกำลังกายอยู่เเล้ว “ฟิล์ม” เป็นอีกช่วงหนึ่งที่ได้เรียนรู้ ย้อนไปเมื่อ 5 - 6 ปีที่แล้วเราก็มาจากละครปกติมากกว่า ได้เรียนรู้กลุ่มคนใหม่ๆที่ได้ทำแล้วก็สนุกเหมือนกัน แล้วก็มีน้ำหนักที่ลดลงในช่วงต้นปีกินคลีนทำได้ประมาณ 90% แรกๆก็เครียดหลังๆมาก็คิดว่ากินแค่ไม่อดตายให้อิ่มท้องพอ ก็ลงมาประมาณ 6 - 7 กิโลกรัม ใช้เวลา 9 เดือน“Laws of Attraction กฎแห่งรักดึงดูด” เคยคิดไหมว่าทั้ง 2 คนได้มาเจอเป็นเรื่องของแรงดึงดูด ในมุมมองของแจมคือทำงานกับใครก็หวังให้ไปด้วยกันอยู่เเล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะไปได้ขนาดไหน ก็ไม่ได้คืดเหมือนว่าจะมาได้ขนาดนี้บทบาทใหม่ของทั้งคู่จาก “คุณเทียน - อาจิว” สู่ คุณครู กับ ทนาย” “แจม” ในชีวิตจริงผมเรียนจบครุศาสตร์ดนตรี ได้เป็นนักศึกษาฝึกสอนแล้วบรรจุได้ พอบรรจุเเล้วยังเรียกลำดับยังไม่ถึง ที่เคยเรียนเป็นพวกดนตรีไทย ดนตรีสากล ดนตรีพื้นเมือง พิน โปรงลาง ถ้าตอนไปสอนจะเป็นดนตรีสากล ส่วนในเรื่องจะเป็นครูสอนกีฬาก็คือ กีฬาเทควันโด ซึ่งไม่เคยเล่นไม่เคยเรียน ไปเวิร์คช็อปวันเดียวเเล้วสายดำทันที ความท้าทายของผมคือเทควันโดกับความดราม่าที่ไม่เคยเล่นขนาดนั้นมาก่อน เป็นซีนอารมณ์ที่หนัก ด้วยเวลาที่เร่งถ่ายก็คือต้องทำการบ้านแบบเร็วๆ “ฟิล์ม” ก็คือต้องจำบทเพราะบทยาว ด้วยเวลาที่มีให้เตรียมตัวน้อยมาก สิ่งที่เราทำได้จริงๆเราไม่ได้ไปนั่งศึกษากฎหมายสิ่งที่ต้องทำคือเวลาได้บทมามันคือการจำบท เป็นอะไรที่ยากกว่าปกติ เพราะเป็นภาษาที่ไม่สามารถที่จะพลิกแพลงหรือเปลี่ยนคำพูดแล้วให้ความหมายเเบบเดิมได้ ภาษากฎหมาย หรือประมวลกฎหมายมันต้องพูดแบบเดิมทุกคำ คำว่าและกับหรือต่างกันแล้ว ความหมายเปลี่ยนทันที คำต้องเป๊ะหมด ต้องใช้เวลาในท่อง 3 - 4 เท่าของซีนปกติ คาแรคเตอร์ก็จะได้รับบีฟจากคนเขียนบทหรือผู้กำกับว่าเป็นแบบนี้นะ ที่เหลือเราก็จะต้องไปหามาเสริมเพิ่มเติมเอง เลยรู้สึกว่าเป็นการบ้านที่ต้องทำเยอะที่สุดเเล้วแจม พูดเรื่อง ฟิล์ม บนเครื่องบิน ตอนนั้นไปแฟนมีทครั้งแรกมาเก๊า เวลาพี่ฟิล์มอยู่บนเครื่องก็คือใส่เครื่องนวดตานอน คือมันมีเสียงเพลงเเล้วมีไฟ แล้วบนเครื่องมันมืด เเล้วมันไฟก็กระจายบนเครื่องฟิล์ม พูดเรื่อง แจม บนเครื่องบิน เขาก็นอนเหมือนกัน ใส่หูฟังเสร็จก็นอนไม่ต่างกันเล่นละครด้วยกันมา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 ของทั้งคู่แล้ว เวลาเข้าซีนด้วยกัน จริงๆไม่มีอะไรจะเขินนะ ไม่รู้จะเขินอะไร เพราะว่าเป็นตัวละคร แต่เวลาซ้อมมันก็จะมีนิดๆ ด้วยความที่ยังเป็น แจมกับฟิล์ม ยังไม่ได้เอาตัวละครเข้ามาอยู่ในตัวเองจะรู้สึกว่า หึ้ยยย มันแปลกอะ...พัฒนาการของแจมในมุมมองของฟิล์ม ก็เห็นรายละเอียดที่มากขึ้น ผมคิดว่าเป็นเรื่องของประสบการณ์บางสิ่งบางอย่างมันพูดเเล้วมันทำเลยไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างมันอาศัยประสบการณ์ แต่ว่าผมได้เห็นการพัฒนาการด้านการแสดงรายละเอียดที่มันมากขึ้นมากกว่าเรื่องที่เเล้ว เเล้วก็เห็นถึงความสบายตัวที่มากขึ้น ทางรายการ EFM Fandom Live ของเราก็มีเกมให้ “แจม-ฟิล์ม” ได้เล่นสนุกๆกันด้วย ชื่อเกมว่า “ท้าพิสูจน์ กฎแรงดึงดูด แห่ง…” (เข้าไปชมได้ใน Youtub : ATIME) มาถึงช่วงสุดท้ายของรายการเเล้ว ทางรายการเปิดโอกาสให้แฟนคลับได้โทรเข้ามาพูดคุยกับ “แจม-ฟิล์ม”To... แจม ดีใจด้วยที่วันนี้ประสบความสําเร็จไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว มีคนรู้จักเยอะขึ้น สามารถทำตามความฝันของตัวเองได้คือซ่อมแซมบ้านให้คุณย่าได้ ก็คือความพยายามของเเจมนะที่ทำให้เเจมมาถึงตรงนี้ อยากให้ดูแลสุขภาพ พักผ่อนเยอะๆ พร้อมที่จะซัพพอร์ตตลอดTo... ฟิล์ม อยากจะบอกว่าดีใจมากๆที่ได้เจอนักแสดงเก่งๆอย่างฟิล์ม จากที่ได้ดูรายการอื่นและละคร ทำให้รับรู้ถึงทัศนคติดีๆของฟิล์ม การที่มาซัพพอร์ตพี่ฟิล์มทำให้เป็นคนที่เก่งขึ้น เเละมีความสุขมากขึ้น อยากให้พักผ่อนเยอะ พร้อมซัพพอร์ตเสมอ“แจม-ฟิล์ม” พูดถึงกันและกันฟิล์ม To เเจม อยากให้น้องจัดลำดับความสำคัญในชีวิตให้ถูก เพราะเป็นคนจัดลำดับความสำคัญยังไม่ถูก ทำบางสิ่งบางอย่างคิดว่าสำคัญแล้วไม่ได้นอน ซึ่งเป็นสิ่งที่มุกคนเป็นห่วงเรื่องการพักผ่อน ทำให้สุขภาพมันเเย่ พูดกับเขาเเล้วไม่ค่อยฟัง ก็ฝากแฟนๆบ้านคู่แล้วก็บ้านแจมเตือนเรื่องการพักผ่อน บางทีปากเขาบอกว่านอนมาเเต่อาการวันนี้มารู้ว่าเมื่อวานอดนอนเรารู้ทันที มันดูออกไม่ยากเลย อันนี้เป็นสิ่งที่ห่วงมากจริงๆ แล้วก็ทุกวันนี้ก็ดีเเล้วอะไรที่มันดีอยู่เเล้วเก็บรักษาไว้ อะไรที่มันไม่ดีเราต้องยอมรับแล้วคอยปรับ เรายอมรับเพื่อให้เราได้เติบโตแจม To ฟิล์ม ขอบคุณตลอดเวลา 1 ปีกว่าๆได้เรียนรู้อะไรอีกเยอะ เขาก็สอนวิธีการตีความตัวละคร แม้กระทั่งมุมกล้องเขาก็จะคอยดูให้ตลอด เขาก็คอยช่วยบอกช่วยสอน เป็นประสบการณ์ที่ดีเลย สุดท้ายนี้... EFM Fandom Live ก็ขอขอบคุณ “แจม-ฟิล์ม” ที่มาร่วมสนุกและสร้างเสียงหัวเราะภายในรายการทั้งคู่น่ารักกันมาก ฝากซีรีส์ล่าสุดเรื่อง “Laws of Attraction กฎแห่งรักดึงดูด” ทนายไร้หัวใจและครูผู้ต้องการความยุติธรรมมาปะทะกัน จะเป็นแรงดึงดูดให้พวกเขาใกล้ชิดกันได้อย่างไร? ตามลุ้นกันได้เลย...สามารถเข้าไปรับชมกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

2 สายรหัส กับ 2 สุดที่รัก “บุ๊ค - แซนต้า - จูเนียร์ - มาร์ค” มาสร้างสีสันใน EFM FANDOM LIVE พร้อมกับการเปิดใจอ่านจดหมายจากแฟนๆ และเล่นเกมสุดฟิน~~

31 ม.ค. 2025

2 สายรหัส กับ 2 สุดที่รัก “บุ๊ค - แซนต้า - จูเนียร์ - มาร์ค” มาสร้างสีสันใน EFM FANDOM LIVE พร้อมกับการเปิดใจอ่านจดหมายจากแฟนๆ และเล่นเกมสุดฟิน~~

รายการ EFM FANDOM LIVE [23 มกราคม 68] คืนนี้พร้อมต้อนรับ 4 สายรหัสเทวดาสุดหล่อ “บุ๊ค - แซนต้า - จูเนียร์ - มาร์ค” พร้อมพูดคุยเม้าท์มอยกับ “ดีเจโซเซฟ” และ “ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ พี่ๆดีเจอ่าน 5 จดหมาย “EFM FANDOM LOVE LETTERS”ที่ถูกเลือกมาจากแฟนๆส่งความในใจที่อยากจะบอกศิลปินเข้ามาจดหมายฉบับที่ 1 ชื่อจดหมายว่า “วันอาทิตย์เปลี่ยนไป...เพราะเธอ” วันอาทิตย์เคยเป็นวันที่ไม่ชอบที่สุด เพราะรู้ว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงต้องกลับไปทำงาน แต่พอได้มารู้จักสายรหัสเทวดา ซีรีส์เรื่องนี้ทำให้ตั้งหน้าตั้งตารอวันอาทิตย์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มีความสุขที่ตื่นมาแล้วรู้ว่าวันนี้วันอาทิตย์ เพราะจะได้ดูซีรีส์แล้ว แถมยังวนดูซ้ำไปซ้ำมาทั้งอาทิตย์ ขอบคุณนะที่ทำให้ทุกวันเป็นวันพิเศษ รู้จักพวกแก พี่ก็ไม่เหงาอีกต่อไป อยู่เป็นความสุขของกันและกันไปนานๆนะคะ รักเสมอค่า ♡‧₊˚Letter #1: This letter is titled... Sundays feel different now... and it's all thanks to you. Sunday used to be my least favorite day because I dreaded the thought of going back to work soon. However, since discovering ‘Perfect 10 Liners’, I’ve started to look forward to Sundays like never before! It brings me joy to wake up knowing I can enjoy the series today. I even find myself watching it multiple times during the week. Thank you for making every day feel special. With all of you in my life, I no longer feel lonely. Let’s continue to bring each other joy for a long time to come. I cherish you all! ♡‧₊˚จดหมายฉบับที่ 2 ชื่อจดหมายว่า “ไม่ต้องทำแล้วข้อสอบ เพราะทุกคำตอบอยู่ที่พี่” สวัสดีค่ะ หนูเขียนจดหมายนี้เพื่ออยากจะขอบคุณสำหรับการมีอยู่ของพวกพี่ทุกคนมากๆนะคะ ช่วงนี้หนูกำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย บางครั้งก็กดดันตัวเองมากไปจนเกิดความเครียด แต่พอได้ดูซีรีส์หรือมีมตลกๆของพวกพี่ ตอนพักจากการอ่านหนังสือก็ทำให้ยิ้มได้และมีแรงที่จะสู้ต่อ ขอเป็นกำลังใจให้พี่ทุกๆคนเช่นกันนะคะ (หนูขออนุญาตหายไปพักนึงนะคะเพราะเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเตรียมสอบแล้ว ด้วยรักจากใจของเด็กมอหกคนหนึ่ง)Letter #2: This letter is titled... You can set aside the test now, as I have all the answers right here. Hi there! I just wanted to take a moment to express my heartfelt gratitude for each and every one of you. As I get ready for my university entrance exams, I sometimes find myself feeling overwhelmed and stressed. But when I take a break from studying to enjoy your series or check out some funny memes, it brings a smile to my face and gives me the motivation to keep going. Please know that I am cheering for you all! (I hope you won't mind if I take a little break for a while as I focus on the last phase of my exam preparations. Sending you love from the heart of a sixth-year high school student.)จดหมายฉบับที่ 3 ชื่อจดหมายว่า “ความเหมือนที่แตกต่าง”โยธา เหมือนเป็นกาแฟดำร้อนๆที่มีแต่ความมืดมนในชีวิตส่วน กรรณ เป็นเหมือนขนมหวานที่ทำให้อารมณ์ดีขึ้นทุกครั้งที่ได้เห็นส่วน พี่ไฟฟ้า เป็นเหมือนพลังงานไฟฟ้าที่คึกคักและสร้างความสนุกสนานให้กับทุกคนและ น้องไวน์ เป็นเหมือนหนังสือเล่มนึงที่ซ่อนเรื่องราวที่น่าสนใจไว้ในนั้น แต่พอทุกคนมารวมกันอยู่ในสายรหัสเทวดาแล้ว ทุกคนเหมือนเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ เพราะทุกคนเต็มที่กับงานนี้มาก ๆ ขอบคุณนะLetter #3: This letter is titled... Similarities but differences.Yotha is reminiscent of a cozy cup of rich black coffee, offering a moment of warmth and depth amid life's shadows.Kan is like a delightful treat that lifts my spirits whenever I come across it.P'Faifah brings a vibrant energy that lights up the room, spreading joy and creating an enjoyable atmosphere for everyone around him.And N' Wine is akin to a delightful book, filled with captivating stories waiting to be discovered. When everyone gathers in 'Perfect 10 Liners', it feels just like being part of a wonderful family. Their dedication to this work truly shines through. Thank you for being a part of this journey!จดหมายฉบับที่ 4 ชื่อจดหมายว่า “ถึงมือจะไม่เคยได้จับ แต่สัญญาจะไม่มีวันปล่อย” พี่สาวติ่งวัย 33 ปีคนนี้ อยากขอบคุณเด็กๆที่เข้ามาเป็นความสุขของพี่สาวคนนี้ ขอบคุณที่สร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ น้ำตา(อินซีรีส์) ให้กับพี่สาว เอาจริงไม่อินนักแสดงไทยเท่าไหร่ แต่ แต่ แต่... ตอนนี้คือคลั่งรักทีมนักเเสดงเรื่องนี้มาก จังหวะมันเข้าแบบสุดๆ เพิร์ธ-แซนต้า เคมีปีศาจมาก ดีจนพี่สาวอยากตายแล้วฟื้นกลับมาดูอีก แล้วตายซ้ำอีก! ส่วนมาร์ค พี่สาวขอโทษ ขอพี่จูให้พี่สาวได้ไหมลูกกกกกกกกกLetter #4: This letter is titled... Although our hands have never intertwined, I assure you that I will always be by your side. This 33-year-old fangirl is filled with gratitude for the wonderful young people who have brought joy into my life. Thank you for filling my days with smiles, laughter, and even a few happy tears through your series. Honestly, I haven't been a big fan of Thai actors before, but at this moment, I'm absolutely captivated by this amazing cast. The timing feels just right! Perth and Santa share such incredible chemistry that it leaves me wanting to relive those moments over and over again! And as for Mark, I'm so sorry, but could I kindly ask for P'Ju all to myself?จดหมายฉบับที่ 5 ชื่อจดหมายว่า “รองเท้า การเดินทาง ขวากหนามและกลีบดอกไม้” ถ้าหากเปรียบเส้นทางในวงการบันเทิงเป็นการเดินทาง ย่อมต้องมีรองเท้าสวมเพื่อปกป้องอันตราย หากแต่ไม่เพียงแค่มีรองเท้าใส่ แต่ต้องเป็นรองเท้าที่ซัพพอร์ตการเดินด้วย ไม่เช่นนั้นก็คงไม่สามารถเดินอย่างมั่นคงได้ เช่นเดียวกับนักแสดงเรื่องสายรหัสเทวดาที่ระหว่างทางอาจจะต้องเดินเหยียบขวากหนามบ้าง แต่ในท้ายที่สุดก็พบกลีบดอกไม้ ถึงจะยากสักหน่อย แต่มั่นใจได้เลยว่าวันนี้คุณถูกรักอย่างสุดหัวใจจากใครสักคนแล้วนะคะ :-)Letter #5: This letter is titled… Shoes, journey, thorns, and petals. Think of the entertainment industry as a journey where it's important to wear supportive shoes to keep us safe and steady on our feet. Just like the talented actors in 'Perfect 10 Liners,' who might encounter a few thorns along the way, they ultimately discover beautiful rose petals that bring joy. And while the path may have its difficulties, I truly believe that today, you are cherished and appreciated by someone special. :-)ถึงเวลาที่แฟน ๆ ชาวด้อมรอคอยกันแล้วว~~เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ EFM FANDOM LIVEเราจะมาพูดคุยกับ “บุ๊ค – แซนต้า – จูเนียร์ – มาร์ค” กัน น้องรหัสในฝันของเหล่าสายรหัสเทวดา บุ๊ค : จูเนียร์นี่ตัดอออกก่อนเลย เพราะเราน่าจะเอาไม่อยู่ น่าจะเป็นน้องที่ดื้อมาก และเรารู้สึกว่าเราไม่ชอบ จูเนียร์ : เอาความจริงนะบุ๊ค คิดผิดละเพราะกูรวยมาก อาจจะเลี้ยงขนมมึงแทนก็ได้ บุ๊ค : อ่ะฟอสตัดออก เพราะกล้ามใหญ่เกิน ละดุ ๆ เราไม่เอา เราไม่ชอบรุ่นน้องที่ดุ จูเนียร์ : เค้าไม่ได้อยากได้เป็นน้องรหัส แต่เค้าอยากได้เป็นอย่างอื่นรึป่าวกับฟอสอ่ะ บุ๊ค : ไม่ ๆ ถ้าอยากเป็นน้องรหัสใช่ปะ ขอเป็นแซนต้าล่ะกัน น่ารัก คุยง่าย จูเนียร์ : ละน้องผมผิดอะไร ทำไมคุณถึงไม่เลือกมาร์ค บุ๊ค : อันนี้เงียบไปหน่อย ชอบนิสัยน่ารัก คุยง่าย ไปเที่ยวนู้นไปเที่ยวนี่ได้ แซนต้า : ผมอยากได้แบบพี่บุ๊คละกัน เพราะว่าชอบคนที่สดใส เป็นคนที่น่ารัก อยู่ด้วยแล้วมีพลังบวก บุ๊ค : น้องเลือกผมว่ะ จูเนียร์ : เดี๋ยวฟังคำตอบกู ๆ จูเลือกบุ๊คครับ เพราะเดี๋ยวมันโดนแน่ ทุกคน : 555555 จูเนียร์ : ผมเนี่ยชอบแกล้งอยู่ละ เพราะฉนั้นเนี่ยน้องรหัสเป็นเหยื่อชั้นดี โดนแน่ ๆ บุ๊ค : ไม่ อยากบอกเหมือนกันว่าน้องรหัสก็มีมือมีตีนเหมือนกัน มาร์ค : ต่อยเลย ๆ บุ๊ค : ก็ไม่ได้กลัว 555555 มาร์ค : ผมอยากน้องแซนต้าเป็นน้องรหัส น้องกัน ๆ เพราะรู้สึกว่าใช้ชีวิตด้วยง่ายที่สุด แล้วก็น่าจะมีความสุขที่สุด เพราะว่าน้องกันเป็นคนน่ารักในเรื่องสุด ๆรุ่นพี่สายนี้…ทำเฟรชชี่มีหนาว! มาร์ค : ถ้าเกิดว่าใน6คนมีรุ่นพี่คนนึง ผมกลัวเพิร์ธมากที่สุด เพราะว่าทุกวันนี้เพิร์ธแกล้งผมน้อย เพราะเพิร์ธเป็นรุ่นน้องผม แล้วผมรู้สึกว่าเมื่อไหร่ที่เพิร์ธโตกว่าผม มันเล่นผมแน่ บุ๊ค : เออ เพิร์ธเหมือนกันนะพอมานั่งคิด เพราะเพิร์ธเป็นคนขี้แกล้งมาก ถ้าในกองหนักสุดคือเพิร์ธ แซนต้า : ผมเลือกกลัวพี่มาร์คละกัน คือผมอะเป็นคนที่ไม่ชอบคนที่เงียบ ๆ ดูเข้าถึงยาก ผมรู้สึกว่าอุ้ย เราจะเข้าถึงพี่เขาได้มั้ยอะไรอย่างเงี่ย กลัวว่าจะไม่สามารถทำความสนิทด้วยได้ บุ๊ค :แต่จริง ๆ มาร์คไม่ได้เป็นคนนิ่งนะ หมายถึงลุคภายนอกถ้าใครมองครั้งแรกเนี่ย โห้ดูเข้าถึงยากมากนู้นนี่นั่น แต่ถ้าสมมุติรู้จักกันไป อ่ะให้เต็มที่เลย2เดือน จะรู้ว่ามาร์คเป็นคนยังไง คือน้ำนิ่งไหลลึกคนเนี่ย จูเนียร์ : จูตอบมาร์คครับ บุ๊ค : กลัวหลงรักรุ่นพี่ครับ แซนต้า : อัยย๊าา บุ๊ค : ล้อเล่น ๆ อ่ะหอม ๆ จูเนียร์ : กลัวมาร์คเพราะว่าถ้าสมมุติไม่รู้จักมาร์คมาก่อนเลย เห็นมาร์คครั้งแรกจะรู้สึกว่าเป็นคนนิ่ง ๆ แล้วเราจะไม่ค่อยรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ จะไม่ค่อยกล้าไปคุยด้วยเพราะกลัวพูดอะไรผิดหูเข้าไปแล้วเขาจะอารมณ์ไม่ดี“จูเนียร์” ยกให้ “บุ๊ค” น่าแกล้งที่สุดในสายรหัสเทวดา จูเนียร์ : เกิดมาในโลกใบนี้ไม่เคยแกล้งใครแล้วมีความสุขเท่าบุ๊คมาก่อน มันหมั่นเขี้ยว คือเวลาแกล้งถ้าสมมุติเขาไม่ค่อยตอบโต้อ่ะ ก็จะเเบบไม่ค่อยสนุกไง แต่นี่ตอบโต้แล้วทำเป็นเหมือนสู้อ่ะ บุ๊ค : เชื่อปะ อันนี้ยอมรับนะ บุ๊คเคยไปเสริชในเน็ตอ่ะ ว่าคนชอบแกล้งเราบ่อย ๆ ต้องทำยังไง แต่บุ๊คไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้นนะ แต่บุ๊ครู้ละมันคือการนิ่งเพราะว่าสมมุติเราพยายามจะสู้อ่ะ เขาจะสนุก จูเนียร์ :แล้วบุ๊คเป็นคนที่ชอบสู้มาก เหมือนเอาปอมปอมมาอยู่กับร็อคไวเลอร์แล้วเห่าแข่งกัน มันมีทางที่ปอมจะสู้ร็อคไวเลอร์ได้อยู่แล้ว บุ๊ค : เคยได้ข่าวปอมปอมกัดร็อคไวเลอร์ตายปะ จูเนียร์ : ยังไม่เคยได้ยินอยากเห็นอยู่เหมือนกัน55555EP.14 แล้ว แต่ความปังยังต่อเนื่องไม่แผ่ว! ทุกคน : ฟีดแบคดีมาก บุ๊ค : ก็ดีมากครับ อยากขอบคุณแฟน ๆ เรามีกำลังใจในการถ่ายทำต่อมากเพราะว่าเรื่องนี้ทั้งออนไปแล้วก็ถ่ายไปนานมาก ตอนนี้ก็คิวที่ 51 แล้ว แล้วพอกระแสตอบรับมันดี เราก็มีกำลังใจสปอยความพีค 1 คำ! ของสายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners” บุ๊ค : “ทุกอาทิตย์” ครับ แซนต้า : “หลายรสชาติ” ครับ จูเนียร์ : “จิกหมอน” ครับ มาร์ค : ผมเอา “แซ่บ”“แซนต้า” กับบท “น้องกัน” ร้องไห้บ่อยขนาดนี้ คงเหนื่อยไม่น้อยเลย บุ๊ค : เหนื่อยอยู่กับพี่จูมากกว่า(กระซิบ) จูเนียร์ : ได้ยินนะ จริงๆไม่ต้องกระซิบก็ได้ ได้ยินอยู่ แซนต้า : ครับ ก็เหนื่อยกับการอยู่กับพี่จูมากกว่า ทุกคน : 555555 แซนต้า : ไม่เหนื่อย ๆ เพราะว่าเรามีคนปลอบ มีกำลังใจที่ดี ก็คือพี่ไฟฟ้านั่นเอง จูเนียร์ : ทำไม พี่ไฟฟ้าทำไม ก็หล่อไง บุ๊ค : อะไรอ่ะ แซนต้า : อะไรอ่ะ บุ๊ค : ถึงตับไหนแล้วเนี่ย จูเนียร์ : ถึงตับไหน ก็ไม่รู้เหมือนกัน55555ผูกเนคไทให้คนใจร้าย มันก็ไม่ง่ายเลยนะ แซนต้า : มันอาจจะเป็นเหมือนการเสพติดความเจ็บปวดนิดนึง แบบเค้าเข้ามาทำให้เรารู้สึกแล้วมันก็รักไปแล้ว ซึ่งปกติผมผูกเนคไทไม่เป็นเลยครับ คือคืนนั้นมันจะมีคิวที่ต้องผูกเนคไทครั้งแรก กดดันมากเพราะว่าผูกไม่เป็น ผมก็เลยผูกกับคอพัดลม ผูกแบบนั้นทั้งคืนเลยครับ จนไปออกกองตอนเช้าเสิร์ฟความหวาน! “จูเนียร์ – มาร์ค” 10 อีพีสุดท้าย จูเนียร์ : มีแน่นอนครับ เรียกได้ว่าหวาน ๆ เน้น ๆ เลยครับเพราะว่าเดี๋ยวตอนของโยธา-กรรณ เนี่ยก็ใกล้จบละ พอเข้าช่วงประมาณอีพีที่16-17 ก็จะเป็นเรื่องของไฟฟ้ากับน้องไวน์ ทีเนี่ยมู้ดของเรื่องมันจะเป็นความโรเมนติก คอมเมดี้ซะส่วนใหญ่ หรือชื่อภาษาอังกฤษของนิยายมันชื่อว่า charming and sweet ครับ ก็คือความมีเสน่ห์และความหวาน ก็จะได้เห็นแบบนั้นเต็ม ๆ เลยทั้งเรื่องคาแรคเตอร์ของ “พี่ไฟฟ้า” กับ “จูเนียร์” ในชีวิตจริงก็เหมือนกันนะ บุ๊ค : ถ้าในพาร์ทความกวนเหมือนครับ แต่ความอบอุ่นไม่มีเลยครับ จูเนียร์ : คุณอ่ะ ไม่ใช่คนที่ผมจะอบอุ่นด้วย บุ๊ค : คุณก็ไม่ใช่เหมือนกัน จูเนียร์ : ตัวไฟฟ้ากับตัวจูเนี่ยแทบจะเหมือนกัน100%เลย เพราะว่าตอนที่อ่านนิยาย คนจะชอบบอกว่าพี่ไฟฟ้าแปลก มีพฤติกรรมบางอย่างที่พี่ไฟฟ้าทำแล้วรู้สึกแปลก แต่เรารู้สึกว่าในชีวิตจริงเราสามารถทำแบบนี้ได้ อย่างเช่น เดินไปทักคนแปลก คุยกับคนแปลกหน้า ซื้อน้ำให้เค้า ทำเหมือนเราสนิทกันมานาน10ปี เรารู้สึกว่าไม่แปลก มาร์ค : เอาจริง ๆ พี่จูกับพี่ไฟฟ้าเหมือนกันมาก แต่ว่าพี่ไฟฟ้าเขาชอบน้องไวน์เขาก็จะบุกเข้าไปจีบตรง ๆ เลยแต่พี่จูเขาก็อาจจะไม่เป็นแบบนั้นนอกจากมาพูดคุย เม้าท์มอยกันแล้ว ทางรายการ EFM FANDOM LIVEก็มีเกมมาให้ “บุ๊ค - แซนต้า - จูเนียร์ - มาร์ค” เล่นกันด้วยชื่อเกมว่า “ฝากเกียร์ไว้กับใคร ฝากใจไว้กับเธอ”ทั้งสี่คนจะได้ทำภารกิจอะไรกันบ้าง? (เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย ทางรายการเสิร์ฟความฟินกันแบบจุกๆ ให้“บุ๊ค – แซนต้า – จูเนียร์ – มาร์ค” ได้กดเบอร์โทรกลับหาแฟนคลับมาพูดคุยกัน(เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME) สุดท้ายนี้... รายการ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “บุ๊ค – แซนต้า – จูเนียร์ – มาร์ค” มากๆเลยน้าที่มาร่วมพูดคุย สร้างสีสัน ความน่ารัก สร้างความสนุก ความสุขให้กับแฟนๆ และฝากซีรีส์ "สายรหัสเทวดา Perfect 10 Liners" ทุกวันอาทิตย์ เวลา 20:30 น. ทางช่อง GMM25 และ WeTV เท่านั้นน้าาสามารถเข้าไปรับชมความฟิน ความสนุกกันได้ทางSee you next week nakaa : )

album

0
0.8
1