“ซันนี่ เกวลิน” ศิลปินลูกครึ่งไทย-จีน กับการกลับมาไทยในรอบ 3 ปี พร้อมเจาะลึก ‘ตัวตนไหนที่ใช่เธอ?’

EFM FANDOM RECAP

“ซันนี่ เกวลิน” ศิลปินลูกครึ่งไทย-จีน กับการกลับมาไทยในรอบ 3 ปี พร้อมเจาะลึก ‘ตัวตนไหนที่ใช่เธอ?’

17 มี.ค. 2023

         ในวันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา รายการ EFM Fandom live ได้แขกรับเชิญสุดพิเศษที่อิมพอร์ตมาจากเมืองจีน! เป็นการกลับไทยในรอบ 3 ปีของ “ซันนี่ เกวลิน บุญศรัทธา” นักร้องชาวไทยเชื้อสายจีน มาพูดคุยกันในรายการ โดยเธอเป็นอดีตสมาชิกของเกิร์ลกรุ๊ปจีนที่ชื่อว่า “ร็อกเก็ตเกิร์ลส์ 101” หลังจากจบอันดับที่ 8 ของรอบชิงชนะเลิศในรายการ “พรอดิวซ์ 101” ต่อมาเธอได้มีเพลงเดี่ยวเพลงแรกของเธอที่ชื่อว่า "Don't Cry" อีกด้วย

     และไม่เพียงเท่านั้นที่ไทยเองก็ยังมีแฟนคลับตัวตึงที่ตั้งหน้าตั้งตารอการกลับมาของซันนี่อยู่เสมอ จะเป็นใครไปไม่ได้เลยถ้าไม่ใช่ “คุณฝ้าย” แอดมินจากเพจเฟสบุ๊ค “Sunnee fc thailand” 

         โดยคุณฝ้ายเล่าว่าชื่อด้อมของซันนี่นั้นชื่อว่า “太阳星 ไท่ หยาง ซิง” หรือ Sun Star (ไท่หยาง แปลว่า พระอาทิตย์ ซิง แปลว่า ดาว) มันเกิดจากการที่เวลาซันนี่แนะนำตัว เธอมักจะแนะนำตัวว่า ”สวัสดีค่ะฉันชื่อซันนี่เป็นพระอาทิตย์ดวงโตของทุกคน”

      ภายในด้อมแฟนคลับก็เลยโหวตกันว่า อยากให้มีชื่อด้อมคล้องกับที่ซันนี่แนะนำตัว และยังพูดคุยถึงฉายาประจำตัวของซันนี่ อย่าง บอสหยาง, น้องฉิง , น้องนี มาเริ่มกันที่ “บอสหยาง” เกิดจากการที่พี่ๆ ทีมงานชอบเรียกน้องว่าบอสหยาง จนสุดท้ายน้องก็เลยนำมาตั้งเป็นชื่อสตูดิโอที่ทำงานที่จีน

        ต่อมาคือน้องฉิง หรือ “ฉิง เอ๋อ เม่เม๋” ฉิงมาจากชื่อจีน แปลว่า มีแดดออก สดใส เอ๋อ เป็นภาษาจีนที่เติมเข้าไปเพื่อให้คำมันดูน่ารัก เม่เม๋ แปลว่า น้องสาว ส่วน ”น้องนี” คือมาจากชื่อเล่นจริงๆ ของน้อง และบริษัทเห็นว่าน้องบุคลิกสดใส เลยตั้งสเตจเนมว่า Sunny แต่เปลี่ยนข้างหลังเป็น nee แทน

        และแฟนคลับของน้องไม่ได้มีแค่ที่จีนเท่านั้น มีทั้งประเทศไทย, สิงคโปร์, ฮ่องกง, มาเลเซีย เป็นประเทศที่ใช้ภาษาจีนเป็นหลัก รวมไปถึง ตอนที่มีคอนเสิร์ตที่จีนก็มีแฟนคลับจากประเทศญี่ปุ่นด้วย แฟนคลับเยอะขนาดนี้ แน่นอนว่าผลงานของน้องก็เยอะมากๆ เช่นกัน ซึ่งน้องมีผลงานที่โดดเด่นที่สุดเลยคืออัลบั้มแรกที่วางขายในจีน เป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ชื่ออัลบั้มว่า "How's The Weather Today?" (ฮาวส์ เดอะ เวทเธอร์ ทูเดย์) ซึ่งชื่ออัลบั้มนี้มาจากแฟนเพจใน Facebook ที่ตามถ่ายรูปให้ซันนี่ ตั้งแต่สมัยที่น้องอยู่ไต้หวัน-ไทเป ซึ่งอัลบั้มนี้ขายดีมากกว่า 11,000,000 หยวน (ประมาณ 55 ล้านบาท) ซึ่งก่อนหน้านั้นมีระยะเวลาที่พรีเซลล์ซึ่งขายได้ 10,000,000 ก่อนเปิดขายจริง โดยยอดเป็นอันดับที่ 72 ของอัลบั้มที่ขายดีตลอดกาลในจีน และมีผู้ติดตามน้องใน ”เหว่ยป๋อ” 22.1 ล้านคน

     และสาเหตุที่น้องมีแฟนคลับมากมายที่คอยสนับสนุนขนาดนี่คงจะหนีไม่พ้นอุปนิสัยของน้องเวลาสื่อสารหรือเจอแฟนคลับ น้องจะชอบเป็นคนที่ขี้แกล้งขี้หยอก เสมอ โดยคุณฝ้ายได้ยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่น้องไปออกรายการจีนชื่อรายการว่า “Roast” (แปลว่า เผา) ซึ่งเป็นรายการแรกๆ เลยหลังจากที่เดบิวต์เป็นวงร็อกเก็ตเกิลส์ ไปกับเพื่อนสมาชิกอีกคนหนึ่งในวง และ concept ของรายการคือให้ดาราศิลปินมาเผากัน แหย่เล่นกันเอง ซึ่งน้องเองก็โดนแซวว่า เนี่ยอ่านภาษาจีนยังอ่านไม่ออกเลยนะ ซันนี่ก็เลยแซวกลับไปว่าฉันเป็นคนไทยนะ เธอก็ยังอ่านภาษาไทยไม่ออกเลยใช่มั้ยล่ะ โดยยกประโยคที่ว่า “ยายกินลำไยน้ำลายยายไหลย้อย” ให้เพื่อนฟัง พร้อมกับตบท้ายด้วยประโยคท้าทายว่า “คุณเข้าใจไหมล่ะ” อือหือแสบใช่ย่อยเลยล่ะ 

       และเมื่อน้องได้เข้าวงการตั้งแต่อยู่ที่ไต้หวันจนถึงปัจจุบันรวม 10 กว่าปี ตั้งแต่อายุ 15-16 พอน้องกลับมาที่ไทยแฟนคลับก็ไปรอรับที่สนามบิน ซึ่งในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา คุณฝ้ายเองก็มีการ โปรโมทหนักมากทั้งช่องทางโซเชียลมีเดีย จนน้องมีแฟนคลับเพิ่มมากขึ้น ทำให้แฟนคลับที่ไปรับที่สนามบินตอนนี้มีประมาณ 100 กว่าคนจากวันแรกที่เดบิวต์ rockets girls มีแค่ 30-40 คนเท่านั้น

ซึ่งแน่นอนว่ามีคลิปคลิปหนึ่งที่เป็นไวรัลที่สามารถตกแฟนคลับเข้าด้อมเพิ่มได้ นั่นก็คือคลิปที่น้องร้องเพลง”โต๊ะริม ของนน ธนนท์” โดยที่ไทยชาวโซเชียลก็ได้แสดงความคิดเห็นว่า ”ทำไมคนจีนคนนี้ร้องเพลงไทยเพราะจัง” และคนจีนเองก็งงว่า “คนนี้เป็นคนไทยหรอ? ทำไมร้องเพลงไทยชัดจัง” 

        และมีเรื่องน่ารักอย่างแรกของน้องเลยก็คือแฟนคลับมักจะแซวน้องในแพลตฟอร์ม TikTok ว่า “นี่แอคจริงหรือ แอคหลุม” เพราะ TikTok ของน้องเพิ่งเปิดใช้ได้ไม่นาน น้องเองก็ไม่ค่อยได้ลงรูปหรืออัพเดตอะไร ซึ่งคนติดตามใน TikTok ประมาณ 8,000 คน แต่คนติดตามในเพจเฟสบุ๊คแฟนคลับประมาณ 160,000 คน เลยถูกแซวตามประโยคข้างต้น ซึ่งสามารถไปติดตาม TikTok ของน้อง @sunnee_kewalin ให้กลายเป็นแอคจริงได้สักที

         เรื่องน่ารักต่อมาคือ แรงผลักดันที่ทำให้น้องมีความตั้งใจที่จะโด่งดังให้ได้ ส่วนหนึ่งมาจากป้าข้างบ้านเพราะสมัยที่น้องเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ชอบทักว่าทำไมถึงไม่เรียนให้จบ  น้องเองก็ไม่อยากหน้าแตกจึงเกิดเป็นพลังไฟในครั้งนั้นที่นำพาน้องจนประสบความสำเร็จ

        เรื่องน่ารักอย่างสุดท้ายคือน้องเคยมาร์คหน้าไปซื้อกาแฟ จนล่าสุดมีพนักงานที่ร้านมาคอมเม้นต์ใน TikTok ของแฟนคลับว่า “จำน้องได้ว่าน้องมาร์คหน้ามาซื้อของตลอด” ไม่เพียงแต่มาส์กหน้าออกไปซื้อของเท่านั้น เวลาน้องออกไปเที่ยว น้องก็แทบจะไม่แต่งหน้าเลย จนถึงขนาดที่ว่าแฟนคลับคิดว่าน้องไม่มีเครื่องสำอางติดที่บ้านเลย นอกจากนี้น้องยังเคยให้สัมภาษณ์ด้วยว่า “ถ้าเราพึ่งการแต่งหน้าไปแล้วครั้งหนึ่ง ละพึ่งมันไปเรื่อยๆ มันอาจจะทำให้วันนึงเราจะไม่มีความสุขกับหน้าตัวเอง” 

          และขอย้อนกลับไปถึงเรื่องกาแฟที่น้องชอบซื้อดื่มประจำนั่นก็คือ “ไอซ์ อเมริกาโน่” มักจะถือติดมือตลอด ในส่วนของอาหาร น้องก็จะไม่ค่อยกินอาหารที่ยากๆ (ทั้งยากต่อการทำและยากต่อการกิน) จะกินของง่ายง่ายเช่น ผัดกะเพรา ข้าวเหนียวหมูปิ้ง บะหมี่หมูแดง 

      และนอกจากเรื่องอาหารเครื่องดื่มที่น้องชอบแล้วแล้ว ในตอนนี้ซันนี่เองก็กำลังให้ความสนใจกับการเที่ยวชมคอนเสิร์ตที่เมืองไทย เพราะต้องการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ว่าคอนเสิร์ตในไทยเป็นอย่างไร ศิลปินท่านอื่นๆ ในไทยมีวิธีการดึงความสนใจผู้ชมแบบไหน โดยซันนี่เองก็มี “พี่เบิร์ด ธงไชย” เป็นไอดอล รวมไปถึงศิลปินชายอีกคนที่เขาชอบมากๆ เลยก็คือ “ต่อ ธนภพ” และอยากร่วมงานกับศิลปินของเมืองไทยคนอื่นๆอีกด้วย เช่น โบกี้ ไลอ้อน, พีพี กฤษฏ์ และแฟนคลับเองก็อยากเห็นน้องได้ร่วมงานกับศิลปินเหล่านี้เช่นกัน เพราะอยากให้น้องมีความสุข

         ซึ่งก่อนหน้านี้ซันนี่เองก็ได้ร่วมงานกับศิลปินไทยไปแล้วกับเกิร์ลกรุ๊ปสัญชาติไทยอย่างวง “VYRA(ไวร่า) เพลงต๊ะต่อนยอน” นั่นเอง โดยเป้าหมายต่อไปที่น้องสนใจอยากจะทำคงหนีไม่พ้นการได้มีส่วนร่วมในการทำเพลงมากขึ้น อยากจะลองร้องเพลงสไตล์ใหม่ๆ หรือมีเวทีที่น้องจะได้ร้องเพลงต่อหน้าคนหลายๆ คนที่ตั้งใจมาฟังน้องร้องเพลง

         และสุดท้ายนี้คุณฝ้ายที่เป็นตัวแทนของแฟนคลับหลายๆ คนก็อยากจะฝากถึงแฟนคลับคนอื่นๆ ว่า “ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาตลอด ทุกๆ คนเป็นคนสำคัญที่ทำให้เรามาถึงจุดนี้ และฝ้ายเองก็คิดว่าคนในด้อมก็มีนิสัยเหมือนกันนั่นก็คือชอบของยาก ชอบความท้าทาย เลยทำให้เราหากันเจอ

และอยากฝากถึงซันนี่ว่า “อยากให้น้องมีความมั่นใจเยอะๆ เพราะน้องมีเสน่ห์ในตัวและมีความน่ารักในตัวที่รอให้คนมาเห็น ขอให้น้องเป็นตัวของตัวเอง น่ารักกับทุกคนแบบนี้ไปนานๆ  ขอให้ประสบความสำเร็จในทุกสิ่งที่ตั้งใจ ในเรื่องของหน้าที่การงานก็ขอให้มีผู้ใหญ่เอ็นดูน้องเยอะๆ ค่ะ” คุณฝ้ายกล่าว 

และก็มาถึงช่วงที่เราจะได้เจาะลึกถึงตัวตนของซันนี่กันแล้ว จากที่คุณฝ้ายเล่าว่าน้องมีหลายคาแรกเตอร์ ซึ่งคาแรกเตอร์แรกคือ”คาแรกเตอร์ซันนี่” จะเป็นลุคที่มีความเป็นบอส เซ็กซี่ๆ ส่วน”คาแรกเตอร์เกวลิน” จะเป็นลุคน่ารักขี้เล่น ซึ่งในรายการวันนี้ คุณฝ้ายและดีเจทั้งสองคนเองก็ไม่แน่ใจว่าน้องจะพกคาแรกเตอร์แบบไหนมา ไปติดตามกันได้เลย! 

 

‘เปิดโมเม้นท์สุดประทับใจกับการกลับมาประเทศไทยในรอบ 3 ปี’

 

อย่างที่บอกไปว่าช่วงโควิดที่ผ่านมา ซันนี่ ก็ไม่ได้กลับมาประเทศไทยนานมาก ถ้ารวมแล้วก็ระยะเวลากว่า3ปีแล้ว ดีเจดาวจึงเอ่ยแซวเรื่อง Vlog ของซันนี่ ที่ไปเห็นโมเม้นสุดน่ารักของคุณพ่อคุณแม่ไปรับและยังปลอกทุเรียนมาให้อีกด้วย

ซันนี่เองจึงตอบว่า ใช่แล้วค่ะ จริงๆ แล้วอยู่ที่จีนก็ได้ทานเหมือนกัน แต่ที่นู่นเขาจะเป็นแบบนิ่ม ส่วนเราเองจะชอบแบบกรอบมากกว่าค่ะ พอพูดถึงทุเรียนกรอบดีเจพี่แนนเลยเล่นมุขว่า แล้วแบบนี้ทำไมไม่ทานทุเรียนกรอบเอาล่ะคะ (หัวเราะ) ซันนี่จึงบอกว่า จริงๆ แล้วหนูทานได้แค่ทุเรียนจริงส่วนที่ผ่านกระบวนการอื่นหนูไม่ค่อยทานเลยค่ะ ดีเจแนนและดีเจดาวก็ต่างเซอร์ไพรส์ จึงแซวซันนี่บอกว่า ต้องลองซักครั้ง อย่างทุเรียนทอดก็ถือเป็นมรดกโลกเลยนะ ซันนี่ยิ้มขำพร้อมบอกว่า ได้เลย ไว้หนูจะลองดูค่ะ

พร้อมบอกเล่าความประทับใจที่เหล่าแฟนคลับต่างไปรอต้อนรับตนกลับไทยที่สนามบิน เพราะตนไม่คาดคิดว่าจะมีแฟนคลับที่ประเทศไทยมากขนาดนี้ จึงส่งผ่านคำขอบคุณแฟนคลับ Sunstar  太阳星 ทุกคนที่ผลักดันตนมาถึงจุดนี้และคอยซับพอร์ตเราอยู่เสมอ ทำให้ซันนี่เป็นที่รู้จักมากขึ้นอีกด้วย

 

‘ความฝันในวัยเด็ก สู่ ความสำเร็จในปัจจุบัน’

 

พอพูดมาถึงการเป็นศิลปินแล้ว ดีเจพี่ดาวก็เลยเอ่ยถามว่า เด็กหญิงซันนี่ในวัยเด็ก นอกเหนือจากความฝันหรือการเข้าสู่วงการบันเทิงแล้ว ซันนี่มีอาชีพอะไรอีกมั้ยที่อยากจะทำ ตัวซันนี่เองจึงตอบอย่างชัดเจนเลยว่า ไม่มีเลยค่ะ แต่ตอนเดบิวท์แรกๆ และเราหายไปประมาณ 3 ปี มันก็มีช่วงที่เราคิดเหมือนกันค่ะ ว่าการเป็นดารานักร้อง ก็คงไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ก็เลยเรียนการโรงแรมไว้ เผื่ออนาคตจะสามารถมีอาชีพรองรับเราไว้ด้วย

 

ซึ่งเราก็รู้กันอยู่แล้วว่าการไปเป็นศิลปินที่ต่างประเทศความยากลำบากอีกอย่างหนึ่งคือเรื่องภาษา แล้วตัวซันนี่เองพบปัญหาอะไรบ้างด้านนี้ ซันนี่จึงตอบว่าจริงๆ แล้ว ภาษาไม่ใช่อุปสรรคเท่าไหร่เลยค่ะ เพราะตอนอยู่ไทยเราเรียนภาษาจีนอยู่แล้วด้วย พอไปอยู่ได้ซักพักก็เริ่มพูดคุยได้ค่ะ แต่ตอนนี้ก็อาจจะยังไม่ถนัดการเขียนซักเท่าไหร่ ซึ่งเราก็ได้ใช้ภาษาจีนกับคุณพ่อมากขึ้นด้วยเพราะคุณพ่อเป็นคนจีนค่ะ จนหลังๆมาก็ไม่ได้ใช้ภาษาไทยกับคุณพ่อเลยค่ะ (หัวเราะ) มีใช้ภาษาไทยก็กับน้องชายเลยค่ะ เพราะเขาชอบโทรมาคุยด้วยบ่อยๆ ตอนอยู่ที่จีน แต่ว่าตอนคุยกันก็ไม่ค่อยใช้ภาษาสุภาพซักเท่าไหร่ค่ะ (หัวเราะ) ตอนกลับมาไทยก็เลยยังไม่ชิน รอบหลังเลยต้องให้น้องชายพยายามพูดภาษาสุภาพกับเรามากขึ้น ในอนาคตเผื่อเราจะต้องใช้ในการทำงาน ก็เลยจะกลัวดูไม่ดีซักเท่าไหร่ค่ะ

 

‘แพลนในอนาคตกับการกลับมาทำงานในประเทศไทย’

 

ซันนี่เองก็ได้กล่าวกับทางรายการว่า รู้สึกว่าปีนี้ถือเป็นปีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ของตนมากๆ จึงอยากที่จะไปในจุดที่ตน อาจจะยังไม่มีประสบการณ์มาก่อน ซึ่งประเทศไทยก็ถือว่าเป็นหนึ่งในนั้นที่เราสนใจ หรือในอนาคตเราก็อยากที่จะให้ทุกคนรู้จักเรามากขึ้น ก็เลยค่อยๆ ดูไป และยังคงหาโอกาสให้กับตัวเองเรื่อยๆเลยค่ะ

 

โมเมนต์สุดน่ารักของ ’ซันนี่’ กับศิลปินไทยที่ตนชื่นชอบ

 

- ตำนาน อุ้ย !! เฮ้ย !! ว๊ายย !!

เมื่อดีเจแนนเอ่ยแซวถึงดาราไทยที่ซันนี่ชื่นชอบอย่าง ‘ ต่อ ธนภพ ‘ ซันนี่ก็ถึงกับเสียอาการและตอบกลับมาว่า ถ้าตามสเปคจริงๆ ของหนูเลย ก็เป็นลุคคล้ายๆ พี่ต่อเลยค่ะ สูง ตาโต ดูสะอาดสะอ้าน จริงๆ เราชอบและชื่นชมผลงานการแสดงของเขามากกว่า เพราะเรารู้สึกว่าเขามีเสน่ห์ในแบบของเขาเวลาเล่นละครมากๆ เลยค่ะ 

ดีเจแนนจึงถามถึงล่าสุดที่ทาง ต่อ ธนภพ ได้มีการมาตอบคอมเมนท์ตนในไอจี เป็นอย่างไรบ้างกับความรู้สึกตอนนั้น ซันนี่จึงเล่าโมเมนต์นั้นให้ฟังว่า ตนพึ่งเห็นเมื่อเช้าตอนกำลังเช็คโทรศัพท์ แล้วพอเห็นปุ๊บรีแอคชั่นที่ออกมาก็อุทานเลยค่ะว่า

อุ้ย!! เฮ้ย!! ว๊ายย!! น้อย!” ซึ่งน้อยก็คือน้องเราเอง แล้วกว่าหนูจะตอบกลับเขาก็คือพิมพ์แล้วลบทิ้งหลายรอบมาก รอบแรกพิมพ์ว่า ‘ สวัสดีค่ะ หนูซันนี่นะคะ’  แล้วลบทิ้ง รอบสองก็พิมพ์ใหม่ ‘ พี่ต่อติดตามหนูหน่อยได้มั้ย’ แล้วก็ลบอีกค่ะ (หัวเราะ) แล้วก็พิมพ์อีกว่า ‘พี่ต่อ หนูซันนี่นะคะ’ จนสุดท้ายกว่าจะกดส่งก็กลายมาเป็น “ อุ้ย เฮ้ย ว๊ายย “ เนี่ยแหละค่ะ เพราะตรงกับความรู้สึกตอนนั้นเราดี (หัวเราะ) ซึ่งโมเมนต์การเล่าเรื่องของซันนี่ก็ทำให้สร้างเสียงหัวเราะให้พี่ดีเจทั้งสองไปตามๆกัน

 

- ศิลปินไทยคนไหนที่อยากร่วมงานด้วยที่สุด

เมื่อดีเจดาวถามซันนี่ถึงศิลปินที่ตนอยากร่วมงานด้วยในไทยคือใคร ตนก็ตอบกลับมาอย่างไวเลยว่า ‘พี่เบิร์ด ธงไชย’ ซึ่งคำถามนี้เวลาตนให้สัมภาษณ์ที่ไหนตนก็จะให้คำตอบเดิมเสมอ เพราะเราชื่นชอบมาก ตั้งแต่ตนเกิดมา 26 ปี ก็ยังไม่เคยเจอเลย และยังไม่มีโอกาสได้ไปคอนเสิร์ตด้วย เรารู้สึกว่าเพลงของพี่เบิร์ดหลายเพลงเวลาเราเฟล เราได้ฟังก็ทำให้รู้สึกดีไปด้วยค่ะ

พฤติกรรมแปลกที่คนอื่นไม่เคยรู้

คิดว่าพฤติกรรมของเราที่คนอื่นไม่น่าจะทำคืออะไร ซันนี่จึงตอบว่า จริงๆ ไม่รู้ว่าแปลกมั้ยนะคะ ไม่รู้คนอื่นเป็นมั้ย แต่เวลาที่เราไปพักโรงแรมสิ่งแรกที่มักจะดูก่อนก็คือ ห้องน้ำค่ะ เพราะส่วนตัวเราเป็นคนซีเรียสเรื่องห้องน้ำ เรื่องความสะอาดอะไรแบบนี้ รวมไปถึงเช็คพวกเสื้อคลุมอาบน้ำ และฝักบัวด้วยว่าสกปรกมั้ย ถ้าสกปรกก็จะเอาแอลกอฮอล์มาเช็ดเลย  ซึ่งคิดว่าแปลกตรงที่ก็ซีเรียสอยู่แค่ห้องน้ำนี่ล่ะค่ะ (หัวเราะ)  อีกอย่างเป็นพวกความรู้สึกซะมากกว่าค่ะ อย่างเวลาทำงานถ้าสตูดิโออะไรแบบนี้ ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับหรือเซ้นท์มั้ย แต่ก็จะมีบางที่ที่รู้สึกอึดอันหรือเวียนหัวแต่พอทำงานเสร็จออกมาก็กลับมาปกติแบบนี้ก็มีค่ะ หรืออย่างพวกโรงแรมที่เราไปพัก ถ้าห้องไหนที่เราเข้าไปแล้วรู้สึกว่า มืด หรือหัวตื้อๆ อะไรแบบนี้ ก็จะย้ายโรงแรมเลยค่ะ

 

การ ’เปลี่ยนแปลง’ ที่ดีเพื่อ ’ความรัก’ และ ’แฟนคลับ’

หลังจากดีเจทั้งสองเอ่ยปากชมความชิล ความเป็นตัวของตัวเองของซันนี่ในรายการแล้ว ดีเจแนนก็เกิดคำถามว่า ทำไมซันนี่ถึงคิดว่าตัวเองเป็นคนไม่มั่นใจ ซันนี่จึงบอกว่า เมื่อก่อนตนเป็นคนไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองซักเท่าไหร่ ตนจึงพรีเซนท์ตัวเองในรูปแบบความสดใส และปล่อยเอเนอจี้ที่ดีออกมาให้คนที่เรารักดีกว่า และด้วยความเราอยู่และทำงานที่จีนด้วย ถ้าเรายังไม่มีความมั่นใจ หรือเซนซิทีฟกับปัญหาต่างๆ เราคิดว่า มันก็จะทำให้คนที่ชื่นชอบเราเขาก็รู้สึกดาวน์ไปด้วย หรือถ้าวันไหนเรารู้สึกสภาวะจิตใจเราไม่ค่อยดี เราก็จะบอกกับแฟนคลับตามตรงเลยค่ะ เพื่อที่จะกลับไปปรับตัวเองให้กลับมาเป็นซันนี่คนเดิมตามปกติค่ะ

 

       และนอกจากนี้น้องยังได้เปิดเผยความรู้สึกตอนที่ได้คุยกับแฟนคลับว่า “หนูรู้สึกเฟล ในเรื่องของหน้าที่การงานในปีที่แล้วมาก เพราะมีปัญหาหลายอย่าง และในปีนี้ที่กลับมาไทยคือกลับมา”ชาร์จแบต”(หมายถึง พักผ่อน เติมพลังกายพลังใจ) กลับมาหาความมั่นใจของตัวเองอีกรอบ จริงๆในใจก็รู้สึกกลัวมากที่มารายการในวันนี้ กลัวจะทำออกมาได้ไม่ดี ที่ต้องไลฟ์สดคุยกับทุกๆคน และต่อมาคือกลัวว่ายังจะมีคนชื่นชอบเราอยู่หรือเปล่า แต่พอมาเจอแฟนคลับในวันนี้ น้ำตาใหลเลย ทำให้พูดกับตัวเองว่าเราไม่ได้แย่ขนาดนั้น เรายังมีคนชื่นชอบเยอะอยู่นะ เลยอยากขอบคุณทุกคนมากๆ หนูเลยจะพยายามที่จะทำให้หนูและแฟนคลับได้เจอกันบ่อยๆ มากขึ้น”

 

และดีเจดาวก็ได้พูดเพื่อให้กำลังใจน้องด้วยว่า 

“มันเป็นเรื่องดีมากๆ เลยที่คนๆ หนึ่งสามารถเผยความรู้สึกของตัวเอง และเปิดเผยมุมที่อ่อนแอบางอย่างได้ พี่ดาวว่ามันต้องใช้ความกล้าเยอะมากๆ และพี่ก็นับถือตรงนั้นจริงๆ”

        สุดท้ายนี้ซันนี่เองก็ยังอยู่ในช่วงวางแผนการจัดแฟนมีตที่จะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมหากใครที่ต้องการพบปะน้องแบบพิเศษใส่ไข่ก็อย่าลืมติดตามข่าวสารจากน้องได้เลยน๊าา แล้วเจอกันสัปดาห์ถัดไปจ้า

ติดตามความน่ารักของซันนี่ย้อนหลัง

related EFM FANDOM RECAP

10 TRAINEE จาก CHUANG ASIA S2 บุกรายการ EFM FANDOM LIVE พร้อมแจกความสดใสละลายใจแฟน ๆ และเล่นเกมสุดฮา โชว์สกิลความเป็นไทยที่ทุกคนต้องทึ่ง!

21 เม.ย. 2025

10 TRAINEE จาก CHUANG ASIA S2 บุกรายการ EFM FANDOM LIVE พร้อมแจกความสดใสละลายใจแฟน ๆ และเล่นเกมสุดฮา โชว์สกิลความเป็นไทยที่ทุกคนต้องทึ่ง!

รายการ EFM FANDOM LIVE [ 27 มีนาคม 68] ต้อนรับ “10 TRAINEE จาก CHUANG ASIA S2” พร้อมพูดคุยกับ 2 ดีเจสุดสวย “ดีเจดาว” และ “ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ พี่ๆดีเจอ่าน 5 จดหมาย “EFM FANDOM LOVE LETTERS”ที่ถูกเลือกมาจากแฟนๆส่งความในใจที่อยากจะบอกศิลปินเข้ามาจดหมายฉบับที่ 1 ชื่อจดหมายว่า... ตัวซีเคร็ทที่ว่าเด็ดยังสู้เด็กรายการ CHUANG ASIA ไม่ได้เลย ถึงเด็กฝึกที่รักทุกคน เป็นยังไงกันบ้างทุกคน หลายเดือนที่ผ่านมาที่ต้องซ้อม ต้องพยายามอะไรหลาย ๆ อย่าง เก่งกันมากแล้วนะ ทุกคนต้องดูแลสุขภาพดี ๆ นอนพักผ่อน มีความสุขให้มากนะ เป็นรอยยิ้มให้แฟนคลับเยอะ ๆ มีคนรักพวกคุณทั่วประเทศเลย วันไหนที่โลกใจร้าย อยากให้รู้ว่าแฟนคลับพร้อมกอดพวกคุณเสมอคนเก่ง ซุปเปอร์ไทยมาสร้างตำนานจริง ๆ ทีเด็ดตัวจริงLetter #1: This letter is titled... The secret one that’s rumored to be amazing doesn’t standa chance against the kids from the CHUANG ASIA program. Hey everyone, how's it going? I just wanted to take a moment to say how proud I am of all the hard work you've put in over the past few months. You're all doing an amazing job! Remember to take care of yourselves, get enough rest, and find ways to stay happy. Your fans are out there cheering for you and loving what you do. On tough days, always remember that your supporters are there to lift you up. You are truly remarkable—real stars who are making history!จดหมายฉบับที่ 2 ชื่อจดหมายว่า... ไฟความฝันติดแล้ว ไม่มีดับ! ไฟความฝันติดแล้ว ดับไม่ได้! ตั้งแต่วันแรกที่พวกนายก้าวเข้ามา ไม่มีวันไหนที่ไม่ทุ่มสุดตัว ความเหนื่อยล้าอาจทำให้ใครบางคนถอย แต่พวกนายใช้มันเป็นเชื้อไฟ เผาไหม้ทุกขีดจำกัดของตัวเอง เราเห็นพวกนายไต่แรงก์ อัปสกิล ปล่อยของไม่มียั้ง และบอกเลยว่าพวกนายโคตรเท่! ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง พวกนายเดบิวต์ในใจเราไปแล้วLetter #2: This letter is titled... The flame of our dreams is ignited and will keep burning! The passion for your dreams is ignited and unstoppable! From the very first day you arrived, you’ve put in your maximum effort every single day. While fatigue might make some people hesitate, you turned it into motivation, pushing past all your boundaries. We’ve watched you rise through the ranks, enhance your skills, and confidently showcase your talents. Honestly, you’re amazing! Regardless of the results, you’ve already made a lasting impression on us.จดหมายฉบับที่ 3 ชื่อจดหมายว่า... CHUANG นี้... ทำไมคิดถึงเธอ CHUANG นี้! รายการใหม่ๆ เข้ามาเยอะมาก มีผู้คนมากมายที่ให้ได้ติดตาม นักแสดง ศิลปิน นักร้องใหม่ ๆ เข้ามาไม่ขาดสาย แต่พอได้เริ่มดู CHUANG ASIA S2 ก็ตกหลุมรักหนุ่ม ๆ ทั้ง 60 คนจำชื่อน้อง ๆ ได้ภายในไม่กี่ EP และเริ่มโหวต เริ่มอยากให้กำลังใจ และอยากเจอถึงแม้จะห่างไกลกัน คนละภาษา คนละวัฒนธรรม แต่ก็อยากเรียนรู้ไปกับน้อง ๆ เติบโตไปกับน้อง ๆ ขอบคุณที่ทำให้ช่วงนี้ถึงจะเป็นเวลาสั้น ๆ มีความสุขไปด้วยกันนะLetter #3: This letter is titled... Why have I been missing you lately? Lately, so many new shows have been popping up, and there’s a lot of fresh talent to check out. New actors, artists, and singers keep on appearing. But when I started watching CHUANG ASIA S2, I instantly connected with the 60 contestants. I quickly learned their names in just a few episodes and began voting for them. I wanted to support them and connect with them, even though we’re miles apart, speak different languages, and come from different cultures. I’m excited to learn and grow alongside them. Thanks for making this brief time together so enjoyable!จดหมายฉบับที่ 4 ชื่อจดหมายว่า... ฝันให้ไกล ถึงแม้จะไปไม่ถึง แต่โคตรมีความสุข ผม respect ทุกคนมากและชื่มชมในความสามารถของทุกคน ผมไม่รู้ว่าหลังรายการจบ ใครจะได้เดบิวต์ 7 คน แต่ผมอยากบอกว่า พวกคุณคือศิลปินในใจผมเสมอ มิตรภาพจากหลายประเทศ ผมนั่งดูพวกคุณทุกครั้งที่ว่าง ผมนำเรื่องราวของแต่ละคนไปเล่าให้นักเรียนที่ผมสอนฟัง พวกเค้าน่าจะมีแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตบนเส้นทางไอดอล นอกจากหน้าตาและความสามารถแล้ว พวกคุณทุกคนมีอินเนอร์ที่ positive มาก ถ้าขอเป็นจริงอยากให้เดบิวต์มากกว่า 7 คน รักมาก ๆLetter #4: This letter is titled... Have big dreams; even if you don’t achieve them,you'll find joy along the way. I have immense respect for everyone and truly admire each person's talent. I’m not sure who will make their debut among the seven contestants once the show wraps up, but I want you to know that you’ll always be artists in my eyes. I cherish the friendships that have developed across different countries and often find myself watching you whenever I have a moment to spare. I love sharing each of your stories with my students to inspire them to pursue their own dreams of becoming idols. Beyond just looks and talent, each of you possesses wonderful inner qualities. Honestly, I would love to see more than just seven of you debut. I care for all of you deeply.จดหมายฉบับที่ 5 ชื่อจดหมายว่า... สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดีเสมอ To. เด็กฝึกทุกคน อันดับแรก... ขอบคุณที่เลือกเส้นทางนี้ เลือกมารายการ ทำให้เราได้รู้จักกัน การเดินทางครั้งนี้ก็ไม่ง่ายเลยล่ะซิ เหนื่อยกันไหมคับ ในระหว่างทางแอบท้อไปหลายครั้งล่ะซิ คงไม่บอกว่าให้สู้ ๆ เพราะที่ดูมา ทุกคนสู้กันมาก ๆ เลย อีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะจบแล้ว หวังว่าระหว่างทางถึงมันจะเหนื่อยมาก ๆ แต่ก็ยังมีความสุขกันนะคับ เก่งกันมาก ๆๆ เลยนะ ไว้มาเจอกันข้างนอกนะคับ จะจบไงไม่สำคัญ จำไว้สิ่งที่เกิดขึ้นดีเสมอLetter #5: This letter is titled... Everything that has happened holds its own value. To all the trainees, first of all… I just want to say thank you for taking this journey with us. It’s been great getting to know all of you. I know this path hasn’t always been easy, right? Are you feeling worn out? It’s understandable if you’ve felt discouraged at times. I don’t think I need to tell you to keep pushing through, since I’ve seen how hard everyone has been working. Just a few more weeks to go! Even though it’s been tough, I hope you find some joy in the experience. You’ve all done an amazing job. Let’s get together outside. No matter how it ends, remember that everything we’ve gone through has been worthwhile.ถึงเวลาเข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ EFM FANDOM LIVEมาพูดคุยกับ “10 TRAINEE จาก CHUANG ASIA S2” กันเลย“แนะนำตัวให้โลกจำ! สไตล์ CHUANG ASIA” DONGDONG : สวัสดีครับ ผมชื่อตงตงครับ ผมคุณชายอัครเดช เมื่อครู่พี่เท่หรือไม่? NINJA : สวัสดีครับ ผมนินจา จากประเทศไทยครับ ผมนินจาเต่า ที่รักของคุณนะครับ YAO ZIHAO : Hello Everyone, My name is Yao Zihao. You can call me Rainbow Pony. สวัสดีครับ ผมชื่อจี๊ดครับ OMAR : Hello, My name is Omar. สวัสดีครับ ผมชื่อตั้งโอ๋ครับ SHEN : Hello Everyone, My name is Shen. I’m from China. YUCHEN : สวัสดีครับ ผมชื่ออยู่เชินนะครับ Hello Everyone, My name is Yuchen from China. คิดว่าหัวใจอยู่ข้างซ้าย แต่ที่ไหนได้ อยู่ข้างเธอนี่เอง XIONG : Hello, My name is Xiong. สวัสดีครับ ผมชื่อน้องหมีครับ ผมคิดถึงคุณ HU YETAO : สวัสดีครับ ผมชื่อหูเย่เทานะครับ ฉันรักคุณ DORN : สวัสดีครับ ผมดรณ์นะครับ หรือฉายาที่แฟน ๆ ตั้งให้คือ “เฮียดรณ์” ครับ THI-O : สวัสดีครับ Hello, my name is Thi-O from Thailand. Nice to meet you guys.“แฟนมีต…อบอุ่นเบอร์นี้~ หัวใจ Trianee ไม่ไหวแล้วค้าบ!” DORN : โห ผมรู้สึกว่าแฟนมีตที่ผ่านมาค่อนข้างที่จะอบอุ่น ผมรู้สึกว่าผมได้รับใยอบอุ่นจริง ๆ … ไออบอุ่น! โอ้ ลิ้นเปลี้ยหมดแล้วครับ พวกเรา 15 คนตอนนั้นที่อยู่บนเวที รับรู้ได้จริง ๆ ว่าทุกคนมาเพื่อซัพพอร์ตพวกเราจริง ๆ ผมก็รู้สึกว่าผมอยากจะขอบคุณพวกเขามาก ๆ เหมือนกัน ที่ทำให้พวกผมได้อยู่บนเวทีครับ ผมชอบทุกตอน ทุกโมเมนต์เลย ผมรู้สึกว่าผมชอบทุก process ของในงานจริง ๆ HU YETAO : รู้สึกตื่นเต้นแล้วก็ดีใจมาก ๆ รู้สึกขอบคุณมาก ๆ ที่มีแฟนคลับมาดูเยอะขนาดนี้ เพราะว่าแฟนคลับมาจากหลายประเทศ ไม่ใช่แค่ที่ไทย แล้วมันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่จะเดินทางมา มันเป็นเรื่องที่ลำบากกว่าจะเดินทางมาได้ รู้สึกอบอุ่นมาก ๆ สำหรับแฟนมีตติ้งที่เพิ่งจบไป พูดจริง ๆ จากใจเลย รู้สึกว่าแฟนคลับลำบากมากจริง ๆ กว่าจะได้มาเจอกันแต่ละครั้ง“โค้งสุดท้ายของการแข่งขัน! เผยความรู้สึกก่อนถึงเส้นชัย ☆” NINJA : สำหรับผมนะครับ พอเข้าถึงโค้งสุดท้ายนั่นแปลว่าเราต้องทำ Final Stage แล้ว พวกผมรู้สึกว่ามันจะเป็นการทิ้งท้ายในการแข่งขันครั้งนี้ มันทำให้ทุกอย่างชัดเจนขึ้นว่าใครถนัดอะไรที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้ครับ และพวกเราก็เตรียมตัวกันอย่างดี เพื่อที่จะสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้ดีที่สุด แล้วก็อยากรอให้ทุกคนติดตามด้วยครับ เพราะผมเชื่อว่าทุกคนตรงนี้เต็มที่กันทุกคนเลย HU YETAO : คือจริง ๆ แล้ว เป็นผู้เข้าแข่งขันที่เคยแข่งมาแล้วเมื่อซีซั่นที่แล้ว แล้วกลับมาอีกรอบนึง เพราะฉะนั้นผ่านประสบการณ์การแข่งไฟนอลมาแล้ว และรอบนี้มันกำลังจะกลับมาอีก เพราะฉะนั้นรู้เลยว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือน้ำตาจำนวนมาก มันจะต้องมีเรื่องโศกเศร้า การจากลาเกิดขึ้น หวังแค่อย่างเดียว… อย่าร้องไห้จนหน้าเละหรือไม่หล่อ และหวังว่าจะมีความทรงจำดี ๆ กับเพื่อน ๆ เป็นครั้งสุดท้าย“เพลงไทยดังไกลระดับโลก จน Trainee ต้องร้อง!” DONGDONG : ร้องเพลง ลืมไปแล้วว่าลืมยังไง (Fade) – Jeff Satur YUCHEN : ร้องเพลง ไม่ได้ก็ไม่เอาแล้ว (Whatever) – PiXXiE feat. Zom Marie YAO ZIHAO : ร้องเพลง สบาย สบาย – เบิร์ด ธงไชย(สามารถเข้าไปรับชมหนุ่มๆร้องเพลงได้ใน YT : ATIME)“ความฝันยังรออยู่ตรงนั้นนะ! ท้อได้…แต่ห้ามลืมว่าทำไมถึงเริ่ม” DONGDONG : การเดินทางเป็นไอดอลไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย และก็เป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก ๆ มีอุปสรรคมากมายแต่ว่าขอแค่ทำเรื่องที่ตัวเองชอบให้ดีที่สุดก็พอแล้ว วันหนึ่งความสำเร็จมันจะมาถึงเอง THI-O : ถ้าเริ่มทำตามความฝันไปแล้ว แล้วเริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะ หรือว่าเริ่มรู้สึกว่า ตัวเองอาจจะเหนื่อย หรือท้อที่จะทำตามความฝันต่อ ผมอยากให้ทุกคนกลับไปคิดดูว่า ตั้งแต่วันแรกที่ทุกคนตัดสินใจที่จะมาทำความฝันเนี่ย มันเป็นเพราะอะไร?“อีกนิดเดียวจะได้เดบิ้วต์~ มาลุ้นไปพร้อมกันใน Final EP!” DORN : รายการมันก็ใกล้จะจบ ผมไม่รู้ว่าทุกคนจะได้เริ่มดูตอนไหน แต่อย่างน้อยผมอยากให้ทุกคนรับรู้ว่า ที่พวกเราผ่านมาตั้งแต่ EP.1 พวกเราล้วนมีความตั้งใจ มีหยาดเหงื่อที่เสียลงไป ผมรู้สึกว่าทุกคนน่าจะรับรู้ได้แหละ ว่าพวกผมมีใจรักในอาชีพนี้ขนาดไหน มีความฝันมากขนาดไหน เพราะฉะนั้นผมไม่อยากให้ทุกคนมองข้ามในจุดนี้ไป ผมอยากให้ทุกคนลองหันมาเอ็นดูพวกเราทุก ๆ คนที่ผ่านมาครับ ก็ฝากติดตาม EP. ต่อไป วันที่ 6 เมษายน ฝากติดตามด้วยครับทุก ๆ คน ก็รบกวนเหลียวแลพวกผมด้วยนะครับ OMAR : วันที่ 6 เมษายน อย่าลืมมาดูรายการ รอบไฟนอลของเรา มาดูกันว่าใครจะได้เดบิวต์ SHEN : ผมชื่อเซินนะครับ เพื่อน ๆ รอบตัวทุกคนนี้เก่งมาก ๆ เลย อย่าลืมตามมาดูสเตจของพวกเรานะครับ ทุกคนต้องทำได้ดีแน่นอนนอกจากมาพูดคุยกันแล้ว ทางรายการ EFM FANDOM LIVEก็มีเกมมาให้ “10 TRAINEE จาก CHUANG ASIA S2 ” เล่นกันด้วยชื่อเกมว่า “THAILAND LAND OF …” แล้วมาดูกันว่าหนุ่มๆจะได้รับภารกิจอะไรกันบ้าง(เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย ทางรายการเสิร์ฟความฟินกันแบบจุกๆมี QA ให้ “10 TRAINEE จาก CHUANG ASIA S2” ได้ตอบคำถามแฟนคลับกัน(เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME)อยากรู้ประสบการณ์ที่ประทับใจ หรือเรื่องที่น่าจดจำที่สุดตั้งแต่เข้าร่วมรายการ CHUANG ASIA S2 มา เล่าให้ฟังหน่อย? XIONG : ประสบการณ์ที่ฟินที่สุดในรายการก็คือ ตอนที่ได้แอบหนีไปจากหอ แอบไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ รู้สึกชอบมาก จำไม่ลืมแต่มันก็เป็นเรื่องที่ไม่ดีแหละ SHEN : ความประทับใจที่สุด คือตอนที่ประกาศผลรอบแรก ตอนนั้นขึ้นไปดาดฟ้าแล้วเห็นวิวทั่วกรุงเทพฯ เลยแล้วก็มีพระอาทิตย์ตกด้วย แสงสวยมากจำไม่ลืมเลยถ้าตอนนี้ไม่ได้เป็นเทรนนี คิดว่าตัวเองจะทำอะไรอยู่? YAOZIHAO : อยากแข่ง NBA (บาสเกตบอล) แต่รู้ว่ามีข้อจำกัดของตัวเองอยู่ เลยอาจจะเป็นไปไม่ได้อยากถามเด็กไทยว่าถ้าให้พาเพื่อนต่างชาติไปเที่ยวที่จังหวัดบ้านเกิดตัวเองได้จะเลือกพาไปที่ไหน เพราะอะไร? NINJA : ผมเป็นคนจังหวัดสุรินทร์ อยากพาเค้าไปดูหมู่บ้านช้าง เพราะเป็นหมู่บ้านที่คนอยู่ร่วมกับช้าง และที่นี่เป็นหมู่บ้านเลี้ยงช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก แล้วก็อยากพาไปวัดด้วยครับ ผมชอบเข้าวัด THIO : สำหรับผม ถ้าผมพาเพื่อน ๆ ไปที่ไหนได้สักที่ ผมจะพาไปกระบี่ ทางภาคใต้ของประเทศไทย แม่ของผมเป็นคนกระบี่ ถ้าสุรินทร์เป็นดินแดนของช้าง งั้นกระบี่ก็คงเป็นดินแดนของทะเลและชายหาด ที่นั่นมีโลกใต้ทะเลที่สวยมาก ๆ แล้วผมก็จะพาทุกคนไปดำน้ำกัน! DORN : ผมเกิดกรุงเทพฯ แต่พอมีไปหมู่บ้านช้างแล้ว มีไปทะเลแล้ว อยากพาไปเที่ยวธรรมชาติ ผมรู้สึกว่าถ้าธรรมชาติที่ผมนึกถึงน่าจะเป็นเชียงใหม่ความฝันสูงสุดของการเป็นไอดอลของทุกคนคืออะไร? YUCHEN : เป้าหมายมันก็ตั้งได้สูงแหละ แต่มันต้องสมจริงนิดนึง เพราะว่าจริง ๆ แล้วรอบตัวก็มีคนเก่งมากมายก็ไม่อยากทำเกินตัว อย่างคนเก่ง ๆ รอบตัวก็คือ Hu Yetao และ Yao Zihao เพราะฉะนั้นก็หวังว่าทุกคนจะเติบโตไปด้วยกัน และทำให้มันดีที่สุดก็พอแล้ว HUYETAO : เป้าหมายของการเป็นไอดอลกผ็คือการที่จะเป็นต้นแบบที่ดีให้กับแฟนคลับ ถ้าเกิดว่าสตอรี่เส้นทางชีวิตของเขา ประสบการณ์ทุกอย่างที่ผ่านมามันสามารถจุดประกายทำให้แฟนคลับได้มีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้นในชีวิตหรือรู้สึกมีกำลังใจได้ อันนั้นเขาก็รู้สึกว่าเขาทำถึงแล้วสำหรับการเป็นไอดอลคิดว่าตัวเองจะมีตำแหน่งอะไรในวง? เช่น ลีดเดอร์ วิชวล เมนร้อง เมนเต้น เมนแร็ป เมนกรี๊ด เมนตีลังกาฯลฯ (ตอบเอาสาระหรือเอาฮาก็ได้) THIO : แบบไร้สาระ - ผมจะเมนตีลังกาครับ แทนพี่ดรณ์ ส่วนแบบมีสาระ - ผมอยากเป็น Producer ให้กับวงครับ ผมรู้สึกว่าตำแหน่งไอดอลก็สำคัญครับ แต่ว่ากรุ๊ปที่ดีมันควรจะทำให้ทุกอย่างได้มาตรฐานที่ดี ผมรู้สึกว่านาน ๆ ทีจะมีวงที่ให้ Input ตัวเองได้ขนาดนั้นจริง ๆ ผมก็อยากที่จะลองไปเป็น Producerความรู้สึกตอนรอบออดิชั่นเทียบกับตอนนี้ที่กำลังจะเข้ารอบไฟนอลแล้ว รู้สึกว่ามีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้างไหม? DORN : ผมต้องเกริ่นก่อนว่าเมื่อก่อนผมเป็น Dancer เรารักในการเต้นก็จริงครับแต่การเต้นนี้มันเพื่อหากิน แต่ผมรู้สึกว่าพอได้มาอยู่เบื้องหน้า การเต้นครั้งนี้คือการเต้นที่เป็นความรักที่เราไปพร้อมกันทุก ๆ คน เป็นเส้นทางใหม่ OMAR : คิดว่าโตขึ้นมาก ๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่มาเริ่มที่ เวที Chuang ก็ไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไงเดินขึ้นไปบนเวทีก็ยังงง ๆ อยู่แต่ว่าตอนนี้รู้สึกมั่นใจขึ้นมากแล้วก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว สุดท้ายนี้... ฝากทุกคนติดตามน้องๆทั้ง 10 คนและฝากรายการ CHUANG ASIA S2 กับการแข่งขันรอบ FINAL STAGE วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายนนี้ด้วยน้าาาสามารถเข้าไปรับชมความฟิน ความสนุกกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

ก็แค่แอบรัก ไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ กับซิงเกิลสุดเศร้าจาก “LYKN” ที่จะมาให้มุมมองของคนที่แอบรักว่า…ยังไงมันก็ไม่ถึงตายหรอก

27 ธ.ค. 2023

ก็แค่แอบรัก ไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ กับซิงเกิลสุดเศร้าจาก “LYKN” ที่จะมาให้มุมมองของคนที่แอบรักว่า…ยังไงมันก็ไม่ถึงตายหรอก

รายการ EFM FANDOM LIVE [23 พฤศจิกายน 66] ขอต้อนรับ 5 หนุ่ม “LYKN” ‘วิลเลี่ยม - เลโก้ – ตุ้ย - ฮง และ นัท’ ที่กลับมาในรายการครั้งนี้ มาพร้อมกับเพลงใหม่ แอบรักไม่ทำให้ใครตาย วันนี้จะสนุกขนาดไหนไปดูกันเล้ยยยในช่วงแรกของรายการ วันนี้เราจะมาพูดคุยกับตัวแทนแฟนคลับของ “LYKN” ชื่อด้อม คือ LYKYOU ความหมายคือ แฟน ๆ ทุกคนชอบ LYKN และ LYKN ก็ Like You เหมือนกัน เลยกลายมาเป็น LYKYOU ซึ่งชื่อนี้น้อง ๆ ช่วยกันตั้งขึ้นมา ชื่อด้อมนี้ก็ได้มีกันมา 5 เดือนแล้ว ผลงานของน้อง ๆ ตอนนี้คือ Big Mountain วันที่ 10 นี้ , Siam Music Fest วันที่ 17 นี้ , GMMTV MUSICON IN JAKARTA วันที่ 16 นี้ ที่อินโดนีเซียกับรุ่นพี่ใน GMM , GMMTV STARLYMPIC วันที่ 23 นี้ น้อง ๆ ก็เข้าร่วมเหมือนกัน และเพลงใหม่ล่าสุดที่น้องจะมาโปรโมทวันนี้ คือ เพลง แอบรักไม่ทำให้ใครตาย เพลงนี้คือดีมาก ๆ มีสตอรี่ performance ดีมาก ๆ ทุกอย่างดีไปหมดสิ่งที่อยากจะบอก ช่วงนี้งานน้องน่าจะเยอะกันมาก ๆ อยากให้ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ พักผ่อนเยอะ ๆ กินเยอะ ๆ มีกำลังใจเป็น LYKYOU ขอให้สู้ ๆ กับงานทุก ๆ งานที่ผ่านมา LYKYOU ทุกคนเป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ มีอะไรก็มาบ่น ๆ ให้ LYKYOU ได้ฟัง ได้คุยได้เม้าท์ด้วยเข้าสู่ช่วงที่สองของรายการเราจะมาพูดคุยไปกับ “LYKN” มาทำความรู้จักกันให้มากกว่าเดิมที่มาของ LYKYOU ตุ้ย : LYKYOU มันเป็นชื่อที่ผม อย่างชื่อวงเรา LYKN แล้ว LYK ภาษของกรีกมันแปลว่า หมาป่า แล้วผมก็คิดว่า ชื่อแฟนคลับก็อยากให้น่ารัก ๆ คล้าย ๆ กัน แล้ว Concept ของ LYKN คือ เมื่อขึ้นไป Stage แล้วจะกลายร่างเป็นคนที่มอบความสุขให้คนดู พอลงมาก็จะกลายเป็นเพื่อน พี่ น้อง กับทุกคน มันก็แบบเหมือนทุกคนเลยหนิ I just like youรีวิวชีวิตตั้งแต่มาเป็น LYKN ฮง : ชีวิตผมเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น แบบว่าถ้าผมเป็นนักเรียนธรรมดา ผมก็จะแค่เรียนไปวัน ๆ ไม่ได้มีเป้าหมายในชีวิตอะไรขนาดนั้น ขอแค่แบบผ่านพอจบมหาลัย แต่ว่าพอต้องไปเรียนมหาลัยด้วย ต้องมาทำงานด้วย ต้แงร้องเพลง ต้องเต้นด้วย ออกอีเว้นท์ด้วย ทำอะไรหลาย ๆ อย่าง รู้สึกว่าชีวิตนี้มีอะไรทำ มีจุดหมายในชีวิต แบบว่า 30 ผมก็มีอะไรทำ เลโก้ : ผมได้รู้อะไรหลาย ๆ อย่างมากขึ้น รู้สึกว่าได้มาอยู่ตรงนี้ ได้ฝึกเหมือนวุฒิภาวะตัวเอง ในเรื่องของการทำงาน เมื่อก่อนผมคิดว่าที่อยากเป็นศิลปิน คืออยากแค่ได้แสดง ได้ร้อง ได้เต้น ได้แสดงต่อหน้าคนดูเฉย ๆ แต่พอได้มาอยู่จริง ๆ มันรู้ว่าเราต้องใช้อะไรมากขึ้น เราต้องฝึกการเข้าสังคม มีการวางตัว มีอะไรที่มันมากกว่าร้องเต้น ได้เรียนรู้มากขึ้น ได้รู้สึกว่าตัวเองโตมากขึ้นครับ วิลเลี่ยม : ผมได้ทำในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำ เหมือนได้เจอในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยเจอ ปกติผมจะร้องอย่างเดียว พอได้มาเต้นทุกวันแล้วผมรู้สึกว่า มันรู้สึกแปลกเหมือนกัน มันต้องปรับตัวไปเรื่อย ๆ จนแบบว่า โอเคนี่มันเป็นงานของเรานะ เราต้องคอย Practise ไปตลอด นัท : รู้สึกว่าตัวเอง Manage เวลาได้ดีขึ้น เพราะมีหลายอย่างให้ผมได้ทำเยอะมาก ทั้งเรียน ทั้งร้อง ทั้งเรียน ไหนจะต้องออกงานแล้วก็จะต้องแบ่งเวลาให้กับอ่านหนึงสือด้วย ไปฟิตเนสด้วย เพราะร่างกายเราต้องฟิต เพราะว่าเราต้องร้องต้องเต้นไปด้วย ตุ้ย : ของผม ก่อนหน้านี้ผมจะค่อนข้างใช้ชีวิตเพื่อตัวเองเป็นส่วนมาก แบบถ้าเราเหนื่อยเราก็ไปเที่ยว เราอยากทำอันนี้ก็เพราะเราอยากทำ แต่ว่าพอเรามาเป็นศิลปินแล้ว มีคนที่รักเรามากขึ้น เราเห็นเลยว่าบางคนเขารักเราจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับหรือว่าพี่ ๆ ทีมงานทุกคน หรือครอบครัวเราที่เขาซัพพอร์ตเรา เราก็รู้สึกว่าแบบ สมมุติเราเหนื่อยมาก ๆ เมื่อก่อนผมจะ โอ้ย ไม่เอาแล้ว แต่ว่ามาถึกตรงนี้แล้วมันมีแรงซัพพอร์ต มันมีคนที่รอดูเราอยู่ มันก็ฮึบกลับมาคริสต์มาสนี้อยากให้ของขวัญ…ซานต้าวิลเลี่ยม To. ฮง เมื่อวันเกิดพี่ฮงที่ผ่านมา เขาชอบอย่างนึง แต่ผมหาไม่ได้ แล้วผมไปร้านนึงแล้วผมเจอพอดี คือมาสค์ไรเดอร์เดนโอ คือผมหาแล้วไม่เจอสักที ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็ซื้ออย่างอื่นไปก่อนเพราะว่าหาอันนี้ไม่ทัน พอผมซื้อไปแล้วหลังจากนั้น 1 - 2 วัน ผมก็ไปเจอพอดี ผมก็อยากซื้ออันนี้ให้เขาซานต้าฮง To. ตุ้ย น้องเขาเป็นผู้ดูแล Family น้องเขาเป็นมาเฟีย เขาชอบรีบอร์น ผมจะซื้อหนังสือตั้งแต่เล่ม 1 จนถึกเล่มสุดท้ายให้เขา เพื่อน้องเขาชอบสะสมหรือเอาไปอ่านระหว่างวันซานต้าตุ้ย To. นัท พี่นัทเขาจะมีเกมนึงที่เขาชอบมาก แต่ผมยังไม่เคยเห็นเขาเล่นเลยก็คือ Kirby อยากซื้อเกม Kirby ให้ ผมเคยซื้อแบบพวกของเล่น พวงกุญแจ Kirby ให้เขาแล้ว เขาก็บ่นว่า เนี่ยอยากเล่นเกม Kirby ก็อาจจะซื้อเกมให้เขาซานต้านัท To. เลโก้ ผมอยากซื้อเก้าอี้นวดให้เลโก้ครับ เพราะว่น้องใช้ร่างกายได้หนักมาก ทุกเพลงที่เราเต้นกัน น้องทั้งแบบตีลังกา ม้วนหน้าแล้วลุกขึ้นมาเต้นต่อ ผมรู้สึกว่าเก้าอี้นวดจำเป็นมากสำหรับเลโก้ซานต้าเลโก้ To. วิลเลี่ยม คงจะเป็น Gadget น่ารัก ๆ ให้น้องหมา (ฮง : ซื้อให้วิลเลี่ยมเนาะ555555 ) อ๋อๆๆ ต้องแจ้งก่อนนะฮะวิลเลี่ยมเลี้ยงสุนัขนะฮะ ก็เลยอยากให้ความรู้สึกต่อ “แอบรักไม่ทำให้ใครตาย” วิลเลี่ยม : พี่แกงเรียกเข้าไปในห้องดำ เขาเอาท่อนฮุคมาให้ฟัง เราก็ลองร้องดู แล้วเขาก็ถามว่ารู้สึกยังไง ผมก็ เออมันติดหูดี เนื้อมันกรองง่ายเข้าใจได้ง่าย ชอบมาก ๆ ครับ แล้วมันยากมาก ๆ ในการ Manage ลมในตัวเอง รู้สึกว่ามันยากมาก ๆ ฮง : ตอนรับท่าแรก ๆ ผมรู้สึกว่ามันยังแปลก ๆ อยู่ แต่พอปรับไปเรื่อย ๆ กับพี่ ๆ Choreograph เรารู้สึกว่าเราชอบเวลาเต้นมาก ๆ ถึงแม้มันจะยาก เพราะว่าเพลงช้ามันจะเต้นยากกว่าเพลงเร็ว เลโก้ : ความยากของเพลงนี้คือ เรื่องของความหมาย การตีความเพลงช้า เพลงเศร้า มันเหมือนจะเป็นอะไรที่ fit in ง่ายแต่กับเพลงนี้มันรู้สึกว่ามันต้องทำการบ้านหนักขึ้น กับเพลงนี้ ต้องเข้าใจจริง ๆ ถึงจะสื่อสารออกมาได้ นัท : ผมรู้สึกว่าความยากมันคือเรื่องของการถ่าย MV เพราะว่ามันเป็นแนวใหม่ที่เราไม่เคยทำ ก็คือการแสดง มันก็เลยรู้สึกเป็ณอะไรที่แปลกใหม่ เหมือนได้ลองทำอะไรแปลกใหม่ แรก ๆ อาจจะยากครับ แต่พอลองไปเรื่อย ๆ รู้สึกว่าผมก็ชอบการแสดงเหมือนกันครับ ตุ้ย : จริง ๆ ความยากของเพลงนี้นี่ จริง ๆ LYKN นี่ตุ้ยคือตัวขายเลยนะ ( : ขายความสามารถ? ) ขายหน้า 55555 ครับ ก็สำหรับผมเพลงนี้ยากมากครับ เพราะว่ามันเป็นเพลงช้าเพลงแรก แล้วก็เป็นเพลงเศร้าด้วย การที่เราจะเต้นหรือร้องไปด้วย มันต้อง Continue อารมณ์ไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่แรกไปยันจบจริง ๆ แต่ละท่อนแต่ละท่ามันมีเรื่องราวของมันจริง ๆ รวมถึงตอนถ่าย MV ด้วยที่มันต้องเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดนอกจากซีนของตัวเองด้วย ต้องกลับไปทำการบ้าน วันนี้ทางรายการEFM FANDOM LIVE ของเราก็มีเกมให้กับ “LYKN”ได้เล่น รับรองเลยว่า LYKYOU จะต้องหูเคลือบทองกันเลยทีเดียว กับเกมที่ชื่อว่า “T-POP T-ใจ LYKN” (เข้าไปชมได้ในYouTube : ATIME)ช่วงสุดท้ายของรายการเปิดโอกาสให้ LYKYOU ได้โทรเข้ามาพูดคุยกับ “LYKN” อยากบอก LYKN ว่า ขอบคุณทุกคนเลย ที่เข้ามาเป็นสิ่งดี ๆ ให้เราในปีนี้ เราเห็น LYKN อยู่หลาย ๆ งานแล้วก็ได้ยินเพลงอยู่ตลอด แต่มันเป็น Right Time Right Person จริง ๆ ที่เราได้ไปเห็น Performance ครั้งแรกด้วยตา แล้วรู้สึกว่าแบบ เหมือนเราหาเพชรเจอ ขอบคุณ LYKN ที่ Appreciate กับการมี LYKYOU ทุก ๆ คน เวลาเราเหนื่อย ๆ เราก็จะไปหา LYKN อยากให้ LYKN เติบโตไปกับ LYKYOU เรื่อย ๆ เลย รักทุกคนมาก ๆ รอติดตามทุกผลงานนะคะ อยากจะบอกว่า เป็นครั้งแรกที่กล้าคุยกับ LYKN เลยจริง ๆ เพราะว่าตอนอยู่ต่อหน้าคือเราสั่นมาก ไม่กล้าเลย เรารู้จัก LYKN ผ่าน ไอจีของ GMM เป็นครั้งแรกที่เราโดน LYKN ตกจาก Performance ตั้งแต่ตอนนั้นก็ตามดู LYKN ตลอด อยากบอกว่ารักเด็ก ๆ ทุกคน อยากให้ LYKN อยู่กับ LYKYOU ไปนาน ๆ เราจะคอยติดตามไปเรื่อย ๆ อยากบอกว่า LYKYOU ทุกคนเห็นถึงความทุ่มเทแล้วก็พร้อมที่จะซัพพอร์ต LYKN ทุก ๆ คน แล้วก็อยากจะพาไปถึกฝันที่ทุกคนตั้งใจเอาไว้ ไม่ต้องเติบโตแบบก้าวกระโดดก็ได้ แต่เดินไปพร้อม ๆ กับ LYKYOU ก็พอค่ะ แล้วก็อยากบอกว่า สู้ ๆ นะเราเป็นกำลังใจให้ ดีใจทุกครั้งที่ได้เจอ LYKN การที่เราได้เจอกับ LYKN มันทำให้เราหายเหนื่อย ทุกอย่างมันมีความสุขมากทุกครั้งที่ไปเจอ แล้วก็อบากบอกว่าดีใจที่ได้เป็น LYKYOU ของ LYKN นะคะLYKN To… LYKNฮง To… LYKN ก็ 7 เดือน ++ ที่อยู่ด้วยกันมาก็รู้สึกว่าตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ทุกคนก็เติบใหญ่ พี่ภูมิใจเว้ย ที่เป็นพี่พวกเอ็ง พี่ดีใจมากเลยที่พี่ได้ชนะรายการ ได้มาอยู่กับพวกเอ็ง เป็นประสบการณ์ชีวิตที่พี่จะไม่มีวันลืม ไม่รู้ว่าจะอยู่ด้วยกันนานแค่ไหน แต่ว่าทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันจะทำให้เต็มที่ตลอด ทั้งในฐานะพี่ชายคนนึง หรือว่าเมมเบอร์คนนึง และในฐานะเพื่อนคนนึงเลโก้ To… LYKN ผมรู้สึกว่าผมรู้จักพี่ ๆ มาปีนิด ๆ ผมรู้สึกว่าอยู่ด้วยกันมา เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่รู้สึกว่าพราวที่ได้อยู่และได้อวดรู้ด้วยว่ามีอยู่ ๓มิใจทุกครั้งที่ได้เห็ฯทุกคนได้เติบโต รู้สึกว่าเป็นวงที่จริงใจมาก ๆ เราเป็นวงที่หน้าบ้านเป็นยังไงหลังบ้านก็เป็นอย่างนั้น อยากให้รู้ว่าหน้ากล้องที่เราบ้า ๆ บอๆ อย่างนี้ ที่หลังก็บ้า ๆ บอๆ อย่างนี้ เหมือนกัน เวลาที่เหลือต่อจากนี้ก็จะใช้เวลากับพี่ ๆ ได้อย่างคุ้มค่าที่สุดวิลเลี่ยม To… LYKN ระยะเวลาที่ผ่านมาผมได้รู้สึกว่า ได้เรียนรู้ ได้สนิทกันมากขึ้น ก็รู้สึกว่าเหมือนอยู่ด้วยกันมาหลายปีมาก ๆ เวลาอยากไปไหนก็จะคิดถึง LYKN มาก่อนเสมอเลย ก่อนจะนอนผมจะคิดภาพตลอดว่า อยากมีคอนเสิร์ตเดี่ยวของ LYKN เอง แล้วมีพี่ LYKYOU มาเยอะ ๆนัท To… LYKN ตั้งแต่ 7 เดือนที่อยู่กันมาผมรู้สึกว่านี่คืออีกครอบครัวนึง เป็นเหมือน Safe zone ของผม เพราะว่าเวลาที่ได้มาอยู่ด้วยกันมันมีแต่พลังบวก เวลาผมเครียด ๆ แล้วได้มาอยู่ด้วยกันมันก็จะมีเสียงหัวเราะอยู่ตลอด มันก็เหมือนเป็นพลังบวกของผมที่ได้มาอยู่กับ 5 คนนี้ รักน้องทุกคนครับ ขอบคุณที่คอยอยู่เป็นความสุขของผมตุ้ย To… LYKN อยากขอบคุณที่พยายามกันมาตั้งแต่เทรนโปรเจกต์เลย เรารู้ว่าทุกคนมีความฝัน แล้วก็ดีใจที่อย่างน้อยเราได้เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ความฝันของทุกคนเป็นจริงได้ และรู้ว่าทุกคนมีอะไรที่อยากทำ อยากให้รู้ว่าจริง ๆ เราจะจับมือและก้าวไปพร้อมกัน ไม่ว่าระหว่างทางจะเป็นยังไงเราจะไม่ทิ้งกัน แล้วก็จะไปถึงฝั่งพร้อมกัน สุดท้ายนี้EFM FANDOM LIVEขอขอบคุณ“LYKN”ที่มาร่วมพูดคุย สร้างความสุข สดใส เฮฮา สนุกสนานให้กันในรายการ และก่อนที่จะจบรายการกันไป ฝากติดตามเพลง แอบรักไม่ทำให้ใครตาย เป็นซิงเกิลใหม่ล่าสุดจาก LYKN ไปฟังกันได้เล้ยยยยสามารถเข้าไปรับชมได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

FANDOM AWARDS ของ “ออฟ - กัน” กับรางวัลความสัมพันธ์ที่น่ารักที่สุดในโลก! และ ‘หมอเท็น’ จะดูแล ‘เชฟเปรม’ ดีขนาดไหน! ตามไปดูกันในซีรีส์ “Cooking Crush อาหารเป็นยังไงครับหมอ”

24 ม.ค. 2024

FANDOM AWARDS ของ “ออฟ - กัน” กับรางวัลความสัมพันธ์ที่น่ารักที่สุดในโลก! และ ‘หมอเท็น’ จะดูแล ‘เชฟเปรม’ ดีขนาดไหน! ตามไปดูกันในซีรีส์ “Cooking Crush อาหารเป็นยังไงครับหมอ”

EFM FANDOM LIVE [18 มกราคม 67] คืนนี้ต้อนรับ “ออฟ - กัน” กับซีรีส์คู่ล่าสุด “Cooking Crush” พร้อมอัปเดตพูดคุยไปกับ 2 สาว “ดีเจดาว และ ดีเจแนน”ในช่วงแรกของรายการ เป็นการคัดเลือกชื่อ FANDOM AWARDS จากที่แฟน ๆ เสนอและเปิดให้โหวต1.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “ความสัมพันธ์ที่น่ารักที่สุดในโลก” อยากมอบรางวัลความสัมพันธ์ที่น่ารักที่สุดในโลกให้ “ออฟ – กัน” เพราะ ออฟ – กัน เป็นคู่ที่คอยซัพพอร์ตดูแลกันเสมอ เติบโตมาด้วยกัน ผ่านหลาย ๆ เรื่องตลอด 8 - 9 ปีนี้มาด้วยกัน เวลาไปออกงานหรือสัมภาษณ์ที่ไหน ถึงจะไปคนเดียวก็เหมือนไปสองคนเพราะพูดถึงอีกคนตลอด เป็นพื้นที่สบายใจของกันและกัน เหมือนที่น้องกันเคยบอกว่า “มีป่าปี๊อยู่ก็อุ่นใจ” เป็นคนที่เล่นอะไรขำ ๆ ด้วยกัน เวลาเล่นมุกหรือเล่นเกมอะไร ก็เป็นสองคนที่ทันกันแบบสุด ๆ จากปีแรก ๆ ที่อาจจะมีที่ไม่พอใจกันบ้าง วันนี้ก็ค่อยๆ ปรับจนแทบจะเรียกว่ามองตาก็รู้ใจ จากที่ไลฟ์สไตล์ต่างกันแบบสุด ๆ ก็ค่อย ๆ แชร์พื้นที่แบ่งเวลามาให้กัน “ออฟ - กัน” เป็นทั้งเพื่อนร่วมงานที่ดีแล้วยังเป็นพี่น้องที่น่ารัก เป็นความสัมพันธ์ที่ทําเบบี๋อย่างเราอบอุ่นหัวใจสุด ๆ ขอมอบรางวัลนี้เพื่อบอกเจ้าตัวและคนทั้งโลกว่า “ออฟ-กัน” เป็นความสัมพันธ์ที่น่ารักที่สุดในโลกเล้ยยย2.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “Best Grow Together Infinity” สำหรับแนวคิดชื่อรางวัลนี้ เพราะว่า ออฟ – กัน เป็นคู่ที่เติบโตมาด้วยกัน ปีนี้เข้าสู่ปีที่ 9 แล้วที่ทั้งคู่เดินเคียงข้างกันมา อยากให้ออฟกันเดินไปด้วยกันเติบโตไปด้วยกัน แบบนี้ไม่มีที่สิ้นสุดเหมือนสัญลักษณ์ infinity (อีกอย่างโลโก้ออฟกัน OG มีลักษณะเหมือนสัญลักษณ์ Infinity ด้วย)3.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “Comfort zone” ฟังดูเหมือนเป็นพื้นที่สบาย ๆ อบอุ่น ดูเหมือนว่าจะชัดเจนที่ความสัมพันธ์เชิงโรแมนติกแบบสบาย ๆ อีกรูปแบบหนึ่ง และหากพูดถึงความสัมพันธ์รูปแบบนี้เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงไม่คุ้นหูเท่าไหร่นัก ชอบความสัมพันธ์ในรูปแบบของ “ออฟ – กัน” มาก ความสัมพันธ์ที่เขาคอยเป็นห่วงกัน คอยดูแลกัน คอยให้คำปรึกษากัน คอยซัพพอร์ต มีเรื่องอะไรก็เล่าให้กันฟัง คอยบอกคอยเตือนกันตลอด เอาจริงไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะได้เจอความสัมพันธ์ที่น่ารักอบอุ่นมาก ๆ แบบนี้ไหม ประทับใจในตัว “ออฟ – กัน” ทุกอย่าง ทุกเรื่อง “ออฟ – กัน” เป็นคนเก่งพัฒนาตัวเองให้ทุกคนได้เห็น เป็นคนที่ตั้งใจทำงานเป็นคนที่ใส่ใจ แสนดีกับเบบี๋และคนรอบข้างตลอด ทั้งคู่ก็เป็น Partner ที่ดีต่อกันมาก ๆ เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของกันและกัน เติมเต็มส่วนที่ขาดให้กันและกัน เป็นที่ปรึกษา คอยใส่ใจกัน เป็นความสัมพันธ์ที่น่ารักมาก ๆ ก็อยากให้มีคนรักเขาเพิ่มขึ้นทุก ๆ วัน “ออฟ – กัน” รักแฟนคลับมาก ๆ รักแบบบรรยายไม่ได้จริง ๆ คอยซัพพอร์ตแฟนคลับอยู่ข้าง ๆ คอยเล่นกับแฟนคลับ “ออฟ – กัน” จะคอยปกป้องแฟนคลับอยู่เสมอ และจะไม่ชอบคนที่ว่าแฟนคลับของตัวเอง ‘เราโตมาด้วยกัน เราร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน ทำงานมาด้วยกัน มีวันนี้ก็มีด้วยกัน’ ถ้า OG กำลังรู้สึกขอบคุณพวกเรา ได้โปรดรับรู้ไว้ว่าเราเองก็รู้สึกขอบคุณ OG อยู่ตลอดเหมือนกัน ขอบคุณที่เกิดมาบนโลกนี้ และขอบคุณความพยายามของคุณที่พาคุณมาถึงจุดนี้ จนทำให้เราได้พบได้รู้จักและได้รักคุณ อยากจะบอก OG ว่า “อยู่ตรงนี้เสมอหันมาเมื่อไหร่ก็เจอ”4.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “MY PERFECT COUPLE” กว่าจะได้มาเป็น "ออฟ - กัน" ในวันนี้ ทั้งคู่ผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะมาก ถึงแม้จะมี Personality ที่ต่างกัน แต่ทั้งคู่ก็พร้อมที่จะปรับตัวและเรียนรู้ไปพร้อมกันเสมอ ชอบความสัมพันธ์ของทั้งคู่มาก ชอบที่ทั้งคู่คอยซัพพอร์ตกันในทุก ๆ เรื่อง มีแต่ความหวังดีให้กันตลอด เป็นความสบายใจของกันและกัน พร้อมอยู่ข้างเสมอเมื่ออีกคนต้องการ หันมาเมื่อไหร่ก็เจอแน่นอน เป็นความสัมพันธ์ที่น่ารักมาก นี่แหละ MY PERFECT COUPLE คู่ที่สมบูรณ์แบบของจริง5.ชื่อ/แนวคิด ของรางวัล “THE BEST ACTOR(S) IN A SUPPORTING ROLE FOR BABII.” รางวัลนี้ เป็นรางวัลที่สามารถตีความได้ 3 ความหมาย โดยความหมายแรก “THE BEST ACTOR(S)” เพราะออฟกันเป็นนักแสดงคนเก่งของเบบี๋ ไม่ว่าจะเล่นหนัง ละคร หรือซีรีส์เรื่องไหน ออฟกันก็ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเองให้อยู่กับที่เลยสักวินาทีเดียว ทำให้เบบี๋ทึ่งได้ตลอด เพราะคาแรกเตอร์ สายตา น้ำเสียงไม่เคยซ้ำกันเลยสักครั้งและมีความสุดใหม่ ไม่เบื่อเลย นอกจากนี้ออฟกันยังเป็นศิลปินที่ดี จากวันแรกที่ออฟกันเต้น ร้องเพลง มาวันนี้ออฟกันก็พัฒนาตัวเองขึ้นมาเรื่อย ๆ สามารถร้องได้เพราะขึ้นจากที่เพราะอยู่แล้ว สามารถเต้นได้เก่งขึ้น แข็งแรงขึ้นจากที่เต้นเก่งอยู่แล้ว เซียนเวทีขึ้นกว่าเดิม เอนเตอร์เทนดี ตลกแบบไม่ประดิษฐ์ จนทุกคนเอ็นดู ความหมายที่สอง “SUPPORTING ROLE FOR BABI” เพราะออฟกัน เป็นสองคนที่ทำอยู่ในช่วงชีวิตของเบบี๋หลาย ๆ คน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน โดยออฟกันจะเป็นแรงผลักดัน กำลังใจ เป็นคนที่อยากทำให้เบบี๋หลาย ๆ คนพัฒนาตัวเองไปให้ดีกว่าเดิมเพื่อให้ออฟกันภูมิใจ นอกจากนี้ยังเป็นคนที่พาเบบี๋หลาย ๆ คนขึ้นมาจากช่วงที่เหนื่อย ช่วงที่ท้อ ช่วงที่เครียด จนเหมือนไม่มีแสงสว่าง แต่ก็จะมีออฟกันเป็นแรงซัพพอร์ตให้ผ่านพ้นเรื่องราวต่าง ๆ ได้ และความหมายสุดท้าย ความหมายโดยรวมของรางวัลนี้คือการที่ออฟกันเป็น Best Partner กัน คอยให้กำลังใจ ซัพพอร์ตกันและกันและการที่เบบี้ซัพพอร์ตออฟกันเหมือนกัน ถ้าใครคนใดคนนึงหายไปก็อาจจะไม่สมบูรณ์จนเป็น The Best ได้ และถ้าวันใดวันนึงออฟกันอยากที่จะลองทำอะไรใหม่ ๆ ออฟกันสามารถหันมามองรางวัลนี้ และมั่นใจได้เลยว่าในทุกการเดินทางใหม่นั้น ออฟกันจะมีกันและกัน และเบบี๋เดินซัพพอร์ตเคียงข้างเสมอถึงเวลาที่เบบี๋รอคอย~ เข้าสู่ช่วงที่สองของรายการ เราจะมาพูดคุยกับ “ออฟ - กัน”ถ้าพูดถึงความสัมพันธ์ที่น่ารักที่สุดในโลก.. ออฟ : คิดว่าเป็นความสัมพันธ์ที่เราเข้าใจกัน ไม่ค่อยทะเลาะกัน คือยิ่งอยู่ด้วยกันมันต้องยิ่งเข้าใจกัน รู้สึกว่ามันต้องเป็นแบบนั้น ซึ่งคู่เราก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาทำงานด้วยกันมาประมาณ 8 ปี เราทะเลาะกันอยู่สองครั้ง ครั้งแรกคือ เราเคยไปวิ่งงานนึงมา แล้วเขาก็มาเล่นกับเรา แล้วเราก็ปัดมือไปโดนหน้าเขา อันนี้คือทะเลาะกันเรื่องความร้อนเพราะเราเพิ่งไปวิ่งกันมาต่างคนก็ต่างเหนื่อย และเรื่องที่สองคือ “ตด” คือเราซ้อมเต้นคอนเสิร์ตนึงกันอยู่ มันมีกลิ่นไม่พึ่งประสงค์มากระแทกจมูกแล้วเหม็นมาก แล้วเราก็แบบ “ใครตด ๆ ” ด้วยความเราก็ “ไอกันตด ๆ แน่เลยยย” กันก็บอกว่า “กันไม่ได้ตด!” เริ่มโมโหขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็ทะเลาะกัน จนถึงวันนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่าใครตด.. กัน : ความสัมพันธ์ที่น่ารักสำหรับกันก็รู้สึกว่าอย่างงี้แหละ อยู่ซัพพอร์ตกันไปเรื่อย ๆ แล้วก็เหมือนเรื่องที่ป่าปี๊บอกก็คือ เข้าใจกัน และกันก็รู้สึกว่ากันกับป่าปี๊พักหลังไม่ค่อยมีเรื่องที่ไม่ค่อยเข้าใจกัน ก็จะช่วยกันตลอดอย่างเช่น ป่าปี๊เขาจะรู้ว่ากันถ้าเล่นคอนเสิร์ต กันจะเป็นคนที่ตื่นเต้น เครียด ลืมที่ฝึกมาลืมหมด เขาก็จะช่วยกันตลอด ออฟ : อย่างคอนเสิร์ตล่าสุด “STARLYMPIC” ที่เขาติดไปงานแต่งเพื่อนไม่ได้มาบล็อคกิ้ง เราก็ช่วยจำว่าพอถึงท่อนนี้ต้องรวมนะ อะไรอย่างงี้ก็จำเผื่อแล้วลากเขาไปเวลาทะเลาะกันปกติใครเป็นคนง้อ.. ออฟ : ผม! กัน : กันไม่ค่อยง้อ ออฟ : เพราะว่าอีกวันมันต้องถ่ายละครใช่ไหม แล้วถ้าเราทะเลาะกัน ความที่มันจะต้องเข้าด้วยกัน สายตาที่เวลามองมันจะไม่ได้ เราก็เลยคิดว่าเคลียร์เลยดีกว่า เราไม่อยากให้ข้ามคืนด้วยเพราะรู้สึกว่ามันจะคาราคาซังไปเรื่อย ๆFEEDBACK จาก ‘ซีรีส์ Cooking Crush อาหารเป็นยังไงครับหมอ’ ออฟ : เราชอบอ่านจาก X ว่าเขาพิมพ์ถึงเราว่ายังไง แล้วในทุกEP.ที่ออนแอร์ เราก็พยายามดูแล้วสื่อสารกับเขา ณ ตอนที่ออนแอร์อยู่ กัน : ที่จริงเรื่องนี้แฟน ๆ เขาชอบแซวว่าแบบ “ให้ทำอาหารให้หน่อย” เพราะมีช่วงนึงกันเคยเปิดร้านในไอจีชื่อร้านว่า ‘หิวไหมอะ’ ตอนนั้นทำข้าวคลุกกะปิ ขายเมนูเดียวแล้วปิดเลย เป็นช่วงโควิดแล้วอยากหาอะไรทำอยู่บ้าน พอออเดอร์มันเยอะจริง ๆ แล้วข้าวคลุกกะปิมันใช้วัตถุดิบเยอะมาก กันก็เลยทำแค่รอบเดียวพอเลย กัน : ซีรีส์เรื่องนี้ตอนเราทำอยู่บ้าน เราอาจทำแบบผิด ๆ ถูก ๆ แต่พอเรามาเรียนต้องเป็นเชฟจริง ๆ มันมีวิธีเยอะ ต้องทำแบบนี้ หั่นแบบนี้ เวลายืนต้องหลังตรง การทำอันนี้ต้องเตรียมอันนี้ไว้ก่อน.. ออฟ : คือคนเป็นเชฟจริง ๆ แล้วมันต้องยืน 8 - 12 ชั่วโมงต่อวัน ถ้ายูหลังงอเมื่อไหร่แล้วยูติดเป็นนิสัย หลังยูจะมีปัญหาแน่นอน5ถ้าถาโถมเป็นปี ๆ ไปเรื่อย ๆวันเกิด “ออฟ” 20 มกราคม นี้แล้ว ~ ออฟ : ปีนี้ตั้งใจจะลงเสาบ้านให้สำเร็จ! พูดมาปีกว่าแล้วยังไม่ได้ลงสักที กัน : ก็ขอให้ป่าปี๊มีความสุขมาก ๆ คิดอะไรอยากจะทำอะไรก็ขอให้สมหวัง สุขภาพร่างกายแข็งแรง มีงานมาเยอะ ๆ ออฟ : ให้เยอะ ๆ คู่ดีเลย ขอบคุณค้าบ สาธุ ๆการร่วมงานกับ ‘พี่ตั้ม พี่โดม พี่ส้วม’ ในซีรีส์ Cooking Crush กัน : สนุก~ ออฟ : กันชอบเข้ากับพี่ส้วม กัน : กันชอบเพราะพี่ส้วมเขาจะแบบเล่นมุก ทั้งพี่ตั้ม พี่โดมด้วย ทุกคนเก่งหมด เวลาเราเข้าซีนด้วยกันแล้วมันต้องจริงจัง กันก็จะขำตลอด ออฟ : คือพี่ส้วมแค่พูดธรรมดาก็ขำแล้ว พูดธรรมดาไม่ต้องบทเลย แล้วพอไปอยู่ในซีน ซีนครึ่งชั่วโมงขำอีกประมาณครึ่งชั่วโมงตอนแรกซีรีส์อาจมีความคอมเมดี้ แต่ตอนหลังมีความโรแมนติกมาก ออฟ : มีความโรแมนติก มีดราม่านิดหน่อย มันก็ต้องมีโรแมนติกอยู่แล้ว ไม่งั้นแบบหนังตลก ๆ อย่างเดียว คนก็จะรู้สึกว่ามันจะตลกไปไหม ต้องมีอะไรมาตัดความตลกบ้าง มีความรักมาเกี่ยวข้องบ้าง ซึ่งใน EP.7 มันเหมือนเราต้องห่างกัน แล้วพอ EP.8 ที่จะถึงมันเหมือนเป็นบททดสอบของเราแล้วว่าหลังจากนี้พอเราห่างกันแล้วแต่ละคนจะเป็นยังไงบ้างวันนี้ทางรายการ EFM FANDOM LIVE ของเราก็มีเกมให้ “ออฟ - กัน” เล่นกันด้วย กับเกมที่ชื่อว่า “อาการเป็นยังไงครับหมอ” โดยเปิดสตูแห่งนี้ให้เป็นห้องตรวจของหมอออฟ และให้กันเป็นคนไข้มาหาคุณหมอด้วยอาการต่าง ๆ สนุกสนานกันแน่นอน! (เข้าไปชมได้ใน YouTube: ATIME)เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย รายการได้เปิดโอกาสให้เหล่าเบบี๋ ได้โทรเข้ามาพูดคุยกับ “ออฟ-กัน” เป็นเบบี๋ตอนช่วงทฤษฎีจีบเธอ ไปโดนน้ำตาน้องกันใน EP. สุดท้ายตก ที่พี่ค่ายไปขอเติร์ดเป็นแฟนบนเวที อยากขอบคุณทั้งพี่ออฟ แล้วก็น้องกันมาก ๆ ที่เป็นกำลังใจให้กับเบบี๋หลาย ๆ คน ให้ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตมาได้ พอมาชอบ ออฟ-กัน ก็อยากตั้งใจเรียนให้มากขึ้น ไม่อยากให้ทั้งพี่ออฟและน้องกันผิดหวังในตัวเรา พอวันนี้สอบติดก็ดีใจเพราะถึงเราติ่งไปด้วยมันก็ไม่ได้ทำให้การเรียนเราแย่ อยากบอกว่ารักทั้งคู่ แล้วก็อยากให้อยู่ด้วยกันด้วยความสัมพันธ์ที่ดีแบบนี้ไปเรื่อย ๆ มันดีมันน่ารักมาก ๆ แล้ว ช่วยกันส่งเสริมทั้งเรื่องส่วนตัวเรื่องการงานให้มันเจริญรุ่งเรืองไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ได้รู้จักน้อง ๆ มา น้อง ๆ เป็นเด็กที่น่ารัก เป็นเด็กที่ทำงานเก่ง แล้วก็เป็นที่รักของแฟนคลับ ก็อยากขอบคุณทั้งคู่ที่เป็นความสุขให้แฟนคลับ เป็นความสุขให้กันและกันในแต่ละวัน เป็นห่วงน้อง ๆ ในเรื่องสุขภาพ เพราะอย่างที่เห็นกันคือ น้องทั้งคู่ทำงานหนัก ทั้งถ่ายละคร แฟนมีต ไหนจะอีเว้นท์ อยากให้น้อง ๆ พักเยอะ ๆ แล้วก็กินให้อิ่มนอนให้หลับ มีความสุขมาก ๆ ในการใช้ชีวิตในแต่ละวันรางวัล “ความสัมพันธ์ที่น่ารักที่สุดในโลก” กัน : ขอบคุณทุกคนที่โหวตรางวัลนี้ให้กันกับป่าปี๊ เราสองคนก็จะรักษาความสัมพันธ์แบบนี้ที่น่ารักที่สุดในโลกไปเรื่อย ๆ ออฟ : ยินดีมาก ๆ ที่ได้รับรางวัลนี้ ถือว่าเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่ของเราทั้งสองคนมากสุดท้ายนี้ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “ออฟ-กัน” ที่มาร่วมพูดคุย สร้างความสุข ความน่ารักให้กันในรายการ และก่อนที่จะจบรายการกันไป ฝากติดตามซีรีส์ “Cooking Crush อาหารเป็นยังไงครับหมอ” ทุกวันอาทิตย์ เวลา 20:30 น. ทางช่อง GMM25 และเพลง What's Zabb ซึ่งเป็นเพลงที่สามที่ออฟกันได้ร้องคู่กัน ไปติดตามกันได้เลยยย!สามารถเข้าไปรับชมกันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

สองสาวแสนซน “เอมี่ – บอนนี่” มาพร้อมความสดใส จนคว้าใจแฟนคลับอยู่หมัด ร่วมสร้างรอยยิ้มไปด้วยกันกับเกมใน EFM FANDOM LIVE ที่บอกเลย... โลกใบนี้กลายเป็นสีชมพู

09 มิ.ย. 2025

สองสาวแสนซน “เอมี่ – บอนนี่” มาพร้อมความสดใส จนคว้าใจแฟนคลับอยู่หมัด ร่วมสร้างรอยยิ้มไปด้วยกันกับเกมใน EFM FANDOM LIVE ที่บอกเลย... โลกใบนี้กลายเป็นสีชมพู

รายการ EFM FANDOM LIVE [15 พฤษภาคม 68] คืนนี้ต้อนรับสองสาวสวย “เอมี่ - บอนนี่” ที่มาเสิร์ฟความฟินส่งท้ายซีรีส์ “Us รักของเรา” พร้อมพูดคุยกับ 2 ดีเจ “ดีเจเคเบิ้ล” และ “ดีเจโซเซฟ”ในช่วงแรกของรายการ พี่ ๆ ดีเจอ่าน 5 จดหมายความในใจจากแฟน ๆ สุดน่ารักที่อยากจะบอกศิลปิน และถูกเลือกมาใน “EFM FANDOM LOVE LETTERS”จดหมายฉบับที่ 1 ชื่อจดหมายว่า... เพราะเป็นเรา(Us) ... จึงถูกรัก เพิ่งได้มารู้จัก เอมี่ - บอนนี่ ผ่านซีรีส์ค่ะ ประทับใจการแสดงของน้องทั้งคู่เลยอยากให้กำลังใจ ไม่ว่าต่อจากนี้น้องทั้งคู่จะยืนอยู่ตรงจุดไหน อยากให้รู้ว่ามีคนรักซีรีส์เรื่องนี้มากๆ เพราะการแสดงของน้องทั้งคู่นะคะ รู้ว่าเหนื่อยมากตอนถ่าย บทก็เครียดด้วย แต่ขอบคุณมากที่ตั้งใจและเล่นออกมาได้ละเอียดมากทั้งคู่เลย ประทับใจมากจริงๆค่ะ ขอบคุณที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้กลายมาเป็นซีรีส์ GL ที่พี่ชอบที่สุดเรื่องนึงนะLetter #1: This letter is titled... Since it’s truly Us ... we are embraced with love. I recently discovered Emi and Bonnie through this series and was really impressed by their performances. I want to show my support for both of them. Regardless of where their careers take them in the future, I hope they realize that a lot of viewers love this series thanks to their talent. I understand that filming was tough and the script was challenging, but I truly appreciate the hard work they put in to bring their characters to life. I'm genuinely impressed and grateful for making this one of my favorite GL series.จดหมายฉบับที่ 2 ชื่อจดหมายว่า... รับรู้ด้วยภาษากาย ติดต่อกันด้วยภาษาใจ การได้เจอ เอมี่ - บอนนี่ ในทุกๆครั้งที่ได้เจอกันจะใช้แค่เพียง ‘รับรู้ภาษากาย’ สื่อสารกัน จะมีพัด , ป้ายไฟ , สติ๊กเกอร์ ติดเคสหน้าเอมี่บอนนี่คอยให้กำลังใจในทุกงาน ทั้งคู่จะรู้ว่าแฟนคลับอยู่ตรงนี้นะ โอเคนี่คือกำลังใจที่เกิดขึ้นและเรื่องราวที่ผูกพันกันของแฟนคลับและทั้งคู่ที่ ‘ติดต่อกันด้วยภาษาใจ’ ความรักคือกำลังใจ เราจะอยู่ตรงนี้เสมอในทุกครั้งที่เอมี่บอนนี่หันมาก็จะเจอกัน เอมี่บอนนี่จะมองหาสัญลักษณ์ของเขาเสมอในทุกงานที่มีแฟนคลับมาหาLetter #2: This letter is titled... Understand through your body's expressions, and connect through the language of the heart. Whenever we meet Emi and Bonnie, they communicate solely through body language. At every event, you'll find fans holding up signs, shining lights, and displaying stickers on Emi-Bonnie's face cases, offering their support. It’s clear to both of them that their fans are present. This encouragement creates a special bond between the fans and the duo as they connect "heart to heart." Love manifests as support, and we’ll always be there whenever Emi and Bonnie share a glance. Emi-Bonnie consistently seeks out their symbol at every event where fans come to show their love.จดหมายฉบับที่ 3 ชื่อจดหมายว่า... ความบังเอิญที่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ต้นเดือนมีนาคมที่แสนเหงาหงอยและเหนื่อยล้า ปลายนิ้วที่สัมผัสบนหน้าจอมือถืออย่างแสนน่าเบื่อ เสียงของเธอที่ดังออกมากลับทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้น สายตาจดจ้องหญิงสาวที่กำลังเปล่งเสียงร้องแสนไพเราะ "ทสร" ชื่อไม่คุ้นหู แต่ใบหน้าของเธอกลับคลับคล้ายคลับคลาราวกับเคยรู้จัก ฉันตกหลุมรักในเสียงร้องของเธอตั้งแต่วินาทีนั้น และเพราะ "ทสร" คนนี้ เธอทำให้ฉันตกหลุมรักหญิงสาวใบหน้าจิ้มลิ้มอีกคน "บอนนี่"Letter #3: This letter is titled... Coincidences that are not coincidences.In early March, after feeling worn out and a bit lonely, I found myself scrolling through my phone when her voice suddenly caught my attention. I watched a girl singing a lovely song. 'Thasorn’, the name was unfamiliar, but her face seemed oddly recognizable, as if I had seen her somewhere before. At that moment, I was captivated by her beautiful voice, and because of 'Thasorn,' I ended up falling for another girl with an adorable face, named 'Bonnie.'จดหมายฉบับที่ 4 ชื่อจดหมายว่า... สำเนาหนังสือความในใจให้พี่หน้าสวยและม๋าเด็ก เมี๊ยวโฮ่ง! กราบเรียน พี่คนหน้าสวยและม๋าเด็ก เราขอเป็นตัวแทนของแฟนคลับคนนึงที่อยากขอบคุณ เอมี่ - บอนนี่ ที่ถ่ายทอดตัวละครแพมและดอกรักออกมาให้เห็นถึงคุณค่าของการมีความรักที่ดีและทำให้เรากลับมาเชื่อมั่นในความรักอีกครั้ง การได้ดูซีรีส์และติดตามทั้งคู่ ถือเป็นส่วนหนึ่งในความสุขของเราในช่วงนี้เลยค่า ขอบคุณในความทุ่มเทและอยากบอกพวกคุณว่า ‘คุณเก่งมากๆ’ ขอให้เอมี่บอนนี่ได้ถูกค้นพบและถูกรักมากขึ้นเรื่อยๆนะคะLetter #4: This letter is titled... A heartfelt book of messages for my lovely sister and our little pups, Meow-woof! Dear lovely and little pups, I want to take a moment to express my gratitude on behalf of fans of Emi-Bonnie for bringing the characters Pam and Dokrak to life. They've truly highlighted the importance of love and helped us believe in it again. Watching the series and following their journey has been a wonderful source of joy for us during this time. Thank you for your commitment and hard work; you’re both so talented. I hope Emi and Bonnie continue to gain recognition and love from even more people.จดหมายฉบับที่ 5 ชื่อจดหมายว่า... เริ่มต้นด้วยรัก...ที่ไม่มีตอนจบ สวัสดี นี่คือจดหมายรักฉบับแรกที่ส่งถึง "เอมี่ - บอนนี่" ดีใจที่ได้มารู้จักมากๆนะคะ อยากบอกเอมี่บอนนี่ว่า "ขอบคุณที่เป็นตัวของตัวเอง ทำให้เราและหลายๆคนตกหลุมรัก ขอบคุณที่เป็นรอยยิ้มในทุกๆวัน การได้ติดตามทั้งคู่ก็ฮีลใจเราได้มากมายแล้ว" ในอนาคตอยากให้ทั้งสองคนรู้ไว้ว่า จะมีคนๆนี้และอีกมากมายที่ติดตามผลงานเรานะ คอยซัพพอร์ตและเป็นกำลังใจให้เราทั้งคู่เสมอ รักนะพวกม๋าเด็ก ฝากเรื่อง Us รักของเรา ด้วยนะคะLetter #5: This letter is titled... Start with love that lasts forever. Hi there! This is my very first love letter to Emi and Bonnie. I'm really happy to have crossed paths with you. I just want to say thank you, Emi and Bonnie, for being your true selves and for helping so many of us fall in love with life. Your smiles bring joy to our days, and following both of you has truly helped heal my heart. As we move forward, I want you to know that there will always be people, including me, who will support and cheer for our journey together. Love you, little pups! Please keep supporting Us the series.ความสวยแสบซ่า ส่งมาถึงช่วงที่สองของรายการ EFM FANDOM LIVE แล้ว !“เอมี่ – บอนนี่” จะพูดเก่งขนาดไหน ไปดูกันเล้ยยย….ถึงแม้ซีรีส์จะจบแล้ว แต่ใจเราคู่ยังไม่จบ เอมี่ : สบายดีค่ะ แฮปปี้ค่ะ บอนนี่ : สบายดีค่ะ เอมี่ : กินอิ่ม นอนหลับ บอนนี่ : กินอิ่ม นอนหลับ ฝันดีบ้างไม่ดีบ้างการมองตาก็รู้ใจของ “เอมี่ – บอนนี่” เอมี่ : ก็มีบ้างเพราะเขาจะไม่ค่อยพูด หมายถึงว่าแบบ เขาไม่ชอบพูดบางอย่างที่ไม่โอเค เราก็จะรู้บ้างว่าอันไหนเขาโอเคไม่โอเคบางอย่างบอนนี่ : สมมติว่าเวลาหนูเจออะไรที่ไม่ชอบ แล้วหนูหน้าเจื่อน เขาจะรู้หรือเวลาเขาคิ้วขมวด เราก็จะ “อ่ะ ไม่ชอบ.. เปลี่ยนน” อะไรอย่างงี้ความชอบที่แตกต่างอย่างลงตัว ! เอมี่ : คือความชอบต่างกันสิ้นเชิง ทุกอย่าง บอนนี่ : สิ้นเชิงเลย เอมี่ : ทุกอย่าง บอนนี่ : เห้ย ! ไหว้พระไง เอมี่ : อ๋อจะมีแบบ … เอมี่/บอนนี่ : เราสายมูกัน เอมี่ : อันนี้เป็นสิ่งที่ตรงกันเพียงอย่างเดียว เอมี่ : แต่อย่างอื่นไม่เหมือนกันเลย ตรงกันข้ามแต่ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นอุปสรรคอะไร เช่น เรื่องของกิน เรากินต้มโคล้งอยู่ มันมีเห็ดกับปลา เอมี่จะกินปลา ส่วนบอนนี่จะกินเห็ด เลยไปด้วยกันได้ บอนนี่ : เวลากินข้าวกับพี่เอมี่ก็จะแฮปปี้นิดนึง เอมี่ : ช่าย เห็นและ บอนนี่เริ่มมองละ ก็จะบอกได้เอาไปเลย เอมี่ไม่กิน บอนนี่ : ยกเว้นแซลมอนดอง จะแย่งกัน เอมี่ : ใช่ ยกเว้นแซลมอนดองจะแบบ หมดแล้วหรอ บอนนี่ : เอ๊ะ ! หายไปไหนนะ เอมี่ : ยังไม่อิ่มเลย เอมี่ : ในส่วนของ Activities อาจจะคล้ายกันตรงที่ไม่ค่อยทำอะไร บอนนี่ : อาจจะไม่นะถ้าพูดถึงไลฟ์สไตล์ เอมี่ : บอนนี่อาจจะชอบอยู่เฉย ๆ มากกว่าหนู หนูจะออกไปทำกิจกรรมบ้าง บอนนี่ : ถ้าว่างหนูชอบอยู่เฉย ๆแอบส่องฟีดแบคซีรีส์ “Us รักของเรา” กันหน่อย เอมี่ : สำหรับหนูก็อ่านบ้าง แต่ก็จะเป็นคอมเมนต์ชม บางทีก็จะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ บอนนี่ : เพราะอวยงี้หรอ เอมี่ : ใช่ เพราะจะรู้สึกว่าอวยหรือเปล่าเธอคนนั้นคือฉันอีกคน ระหว่างตัวละครกับชีวิตจริง เอมี่ : ตอนแรกหนูก็คิดว่าตัวเองต่างจากแพมมากแบบไม่เหมือนเลยเพราะรู้สึกว่าหนูไม่ใช่คนนิ่งขนาดนั้น มีปมขนาดนั้นก็อาจจะไม่ อ่อนหวานก็ไม่ บอนนี่ : เขาขี้งอน พี่แพมก็ชี้งอน เอมี่ : อ๋ออ หนูรู้สึกไม่เหมือน จนกระทั่งเล่นมาถึงคิวท้ายๆ มันมีบางมุมที่แอบเหมือนนิดหน่อย อาจจะเป็นมุมมองด้านความรักที่เราไม่ได้เชื่อมากขนาดนั้น บอนนี่ : เรื่องที่เหมือนคือความชอบของดอกรักเหมือนหนูมาก แบบชอบวาดรูป เล่นดนตรี ร้องเพลง มันค่อนข้างเชื่อมโยงกับความชอบของหนู กระบวนการคิดบางอย่างของดอกรักมันซิงค์กับหนูได้ หรือว่าการมองโลกบางอย่างคล้ายเรา แต่ทัศคติบางอย่างก็ต่างไปเลยชีวิตพลิกผันยัน...วันซีรีส์จบ เอมี่ : ก็เปลี่ยนนะคะ มีคนรู้จักมากขึ้นแหละ มีงานเยอะขึ้น สนิทกันมากขึ้น บอนนี่ : หนูก็ได้สนิทกับพี่เอมี่มากขึ้นด้วย“เอมี่ - บอนนี่” ไปเที่ยวด้วยกันสักที่ คงมีความสุขไม่น้อย เอมี่ : ไปทะเล ใส่บิกินี่ บอนนี่ : ห้ะ ใครใส่ 5555555 เอมี่ : บอนนี่ใส่ บอนนี่ : แล้วพี่เอมี่ล่ะ ! เอมี่ : พี่ไม่ใส่ บอนนี่ : ไม่ได้นะคะ อันนี้ไม่แฟร์นะคะ เอ้ออ บอนนี่ : หนูชอบไปทะเล ถ้าได้พักผ่อนก็ชอบฟังเสียงทะเล ชอบไปนั่งริมทะเลดูพระอาทิตย์ตกแต่ไม่ชอบเล่นน้ำทะเลนะบทเลือกคน คนเลือกบท บอนนี่ : อยากเล่นคอมเมดี้จ๋า ๆ แบบโบ๊ะบ๊ะเลย ชอบ เอมี่ : จ่ะ เล่นคนเดียวเลย อาจจะไม่ได้อยากเล่นด้วย555555 บอนนี่ : อ่าว เล่นคนเดียวเลยหรอ ไม่ได้ ต้องเล่นด้วย บอนนี่ : แล้วก็อยากเล่นแฟนตาซี อะไรก็ได้ที่ไม่มีความจริง แบบมีพลังพิเศษ เอมี่ : เป็นฟีลโกหกกันทั้งเรื่อง ไม่มีความจริงเลย บอนนี่ : อาจจะไม่ใช่ คืออาจจะแบบแม่มดปลอมตัวมาเป็นคน แฝงตัวกับมนุษย์และตกหลุมรักมนุษย์ที่จริง ๆ แล้วเป็นหมาป่าปลอมตัวมาอีกที เอมี่ : แล้วใครเป็นหมาป่านะ บอนนี่ : พี่เอมี่เป็นหมาป่า แต่ว่าปลอมตัวมาอยู่บนโลกมนุษย์ ส่วนหนูเป็นแม่มดที่ปลอมตัวมาอยู่บนโลกมนุษย์เหมือนกัน แล้วเราก็คิดว่าเราเป็นมนุษย์เหมือนกัน เอมี่ : อุ้ย อะไรใหม่ ๆ นะ แม่มดกับหมาป่า บอนนี่ : สุดท้ายก็กลายเป็นแม่มดกับหมาป่ารักกัน แล้วก็นึกได้ว่าหึ้ยเรารักกันไม่ได้เราคนละเผ่ากัน แต่จริง ๆ พี่เอมี่อาจจะไม่ใช่หมาป่า แต่เป็นจิ้งจอกที่ปลอมตัวเป็นหมาป่าอีกที เอมี่ : อ่าห้ะคว้าใจไป BLUSH BLOSSOM FAN FEST เอมี่ : มี มิ้ลค์ - เลิฟ , น้ำตาล - ฟิล์ม , เอมี่ - บอนนี่ , วิว - มิ้ม , จูน - มิวนิค ค่ะ 10 คน บอนนี่ : 5 คู่ ในงานมีทุกอย่างที่ทุกคนอยากเห็น เอมี่ : อ่าา หรืออาจจะไม่อยากเห็นที่หมายถึงว่า เอมี่ /บอนนี่ : อาจจะไม่คาดคิด เอมี่ : อาจจะเป็นกายกรรม บอนนี่ : หรือละครคุณธรรมก็ได้ เอมี่ : แต่จริง ๆ ก็มีร้องเพลง ตอนนี้เริ่มลิสต์เพลงแล้ว อาจจะเป็นเพลงที่ทุกคนไม่คาดคิด เพลงที่เราชอบ เพลงที่เหมาะกับคู่เราสองคนShow yourself เอมี่ : หนูมีส่วนคิดทั้งหมดเลยค่ะ พี่เขาให้อิสระในการเลือกเพลง คิดโชว์ อยากให้มีอะไรในโชว์ก็บอกได้ บอนนี่ : อยากให้มีอะไรในโชว์ อยากเปลี่ยนเพลงเป็นแบบไหน ยังไง มีส่วนออกไอเดียได้หมด เอมี่ : ใช่ แล้วเค้าก็จะครีเอทมาให้ ละถามว่าชอบไหม ถ้าไม่ชอบอยากปรับตรงไหน ก็แฮปปี้มาก ๆ มันก็จะเป็นความพิเศษที่ไม่สามารถเห็นได้ที่ไหนเลยเพราะว่าเวอร์ชันนี้ก็คงได้เห็นแค่ในคอนเสิร์ตเท่านั้นนอกจากจะเม้าท์มอยปาร์ตี้ พูดคุยกับพี่ ๆ แล้ว ทางรายการ EFM FANDOM LIVEชวน “เอมี่ - บอนนี่” มาเล่นเกมไปด้วยกัน ชื่อเกมว่า “Us ของเรา”(เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME)เข้าสู่ช่วงสุดท้าย ทางรายการส่งต่อความสุขด้วยการสานฝันให้ “เอมี่ - บอนนี่” ได้โทรหาแฟนคลับมาพูดคุยกัน(เข้าไปชมได้ใน YouTube : ATIME)สุดท้ายนี้... รายการ EFM FANDOM LIVE ขอขอบคุณ “เอมี่ - บอนนี่” ที่มาร่วมพูดคุย สร้างสีสัน และเสียงหัวเราะไปกับเรา และสามารถดูผลงานการแสดงเรื่อง “Us รักของเรา” ได้ที่ Youtube: GMMTV Official และฝากโปรเจกต์ของทาง GMM TV อย่าง BLUSH BLOSSOM FAN FEST ในวันที่ 28-29 มิถุนายนนี้ รวมถึงผลงานในอนาคตของทั้งคู่ด้วยน้าาสามารถเข้าไปรับชมความฟินและความฮากันได้ทางเจอกันใหม่ Week หน้าค่าา

album

0
0.8
1