สระผมเวียดนาม คลายเครียด ที่ร้าน Lamer Sleep Salon

Beauty & Health

สระผมเวียดนาม คลายเครียด ที่ร้าน Lamer Sleep Salon

16 ธ.ค. 2024



ใกล้สิ้นปีแล้ว แอดขอแนะนำร้านLamer Sleep Salon ที่จะทำให้ทุกคนคลายเครียด ด้วยการสระผมสไตล์เวียดนาม ที่กำลังได้รับความนิยมในประเทศไทย เป็นการผสมผสานระหว่างการสระผมแบบดั้งเดิมของเวียดนาม กับเทคนิคการนวดศีรษะ บำรุงผม และดูแลหนังศีรษะในครั้งเดียว



 

ร้าน Lamer Sleep Salon ตั้งอยู่ที่ โครงการ The Platinum Place 21 ถ. วัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน โดยร้านจะอยู่ที่ชั้น 2 ของโครงการ ตกแต่งแบบเรียบง่าย สะอาดตา ภายในมีกลิ่นหอมของโรม่าทำให้ผ่อนคลาย 

สำหรับใครที่ต้องการนวดน้ำมัน ทางร้าน Lamer Sleep Salon จะมีกลิ่นน้ำมันให้เลือกทั้งหมด 4 กลิ่น ได้แก่ กลิ่นลาเวนเดอร์ กลิ่นรีแรกซ์ กลิ่นมะพร้าว และกลิ่นกลามมิ่ง

 

ขั้นตอนแรกทางร้าน Lamer Sleep Salon จะเริ่มจาก การใช้เสียงแบบ ASMR เพื่อทำให้ผ่อนคลายและสงบ ต่อด้วยการสัมผัส และนวดตามจุด เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต 

 

 

และสระผม 2 รอบ โดยรอบแรกจะเป็นการสระแบบล้างสารพิษ รอบที่สองเป็นการสระผมเพื่อผ่อนคลาย ลงทรีตเม้นท์พร้อมนวดศรีษะ และผ่อนคลายกับวงแหวนน้ำอุ่น หากใครที่ซื้อคอร์สเพิ่มเติม ก็จะมีการนวดกัวซาหน้า และศรีษะ นวดหน้าด้วยเครื่องนวดหน้า EMS เพื่อยกกระชับ ชะลอวัย และการอบไอน้ำแบ NANO

 

หากใครสนใจสระผมเวียดนาม ตอนนี้ทางร้านกำลังจัดโปรโมชันส่วนลด สำหรับลูกเพจ Atime ดังนี้

  • คอร์สสระผมเวียดนาม 1 ชัวโมง 15 นาที ปกติราคา 590 บาท เหลือ 550 บาท เพียงแลก 5,000 พ้อยท์ จำนวน 30 สิทธิ์
  • คอร์สคอร์สสระผมเวียดนาม 1 ชัวโมง 45 นาที ปกติราคา 990 เหลือ 890 บาท เพียงแลก 8,000 พ้อยท์ จำนวน 30 สิทธิ์

*กรณีต้องการใช้สิทธิ

  • กรุณาติดต่อ 096-723-3311 เพื่อทำการจองคิวกับทางร้าน
  • กรุณายื่นบัตรประชาชน พร้อมหน้า Redeem Points จากแอปพลิเคชัน Atime FungFin ที่หน้าร้าน LAMER SLEEP SALON

*เงื่อนไขต่างๆ เป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเงินสดได้

 

สามารถแลกแต้งเพื่อรับส่วนลดกันได้ทางแอปพลิเคชัน Atime FungFin

ดาวน์โหลดได้ทาง IOS และ Android

  • พิกัดร้าน : โครงการ The Platinum Place ชั้น 2 21 ถ. วัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ
  • เดินทาง : รถยนต์ส่วนตัว - มีที่จอด หรือ BTS สถานีมัยลาภ
  • ติดต่อ : 082 098 9168
  • ไลน์ : @lamersleepsalon

 

ผู้เขียน : เบญญาภา แนบเนียน

ภาพ : นินจา ซิมทิม

related Beauty & Health

อาการสมองเมา หลังเกิดแผ่นดินไหว

01 เม.ย. 2025

อาการสมองเมา หลังเกิดแผ่นดินไหว

โรคสมองเมาหลังแผ่นดินไหว หรืออาการสมองเมาที่เกิดหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว อาจเกิดจากผลกระทบทางจิตใจและร่างกายจากสถานการณ์ที่ตึงเครียดและท้าทายแบบฉับพลัน เช่น แผ่นดินไหวที่ทำให้เกิดความวิตกกังวล ความกลัว และความเครียดสูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมอง ทำให้เกิดอาการสมองเมาความเครียดและความวิตกกังวล หลังจากแผ่นดินไหว คนจำนวนมากอาจรู้สึกเครียดและวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของตัวเองและครอบครัว สถานการณ์เช่นนี้อาจทำให้สมองรู้สึกเหมือนถูกคลุมเครือ หรือไม่สามารถคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพการนอนหลับไม่เพียงพอ ความเครียดและความวิตกกังวลอาจทำให้คนนอนไม่หลับ หรือมีการนอนหลับที่ไม่ลึก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสมองและทำให้เกิดอาการสมองเมาผลกระทบทางจิตใจ จากเหตุการณ์ที่กระทบใหญ่ การเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น แผ่นดินไหว สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการทางจิตใจที่คล้ายกับอาการ PTSD (โรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ) ซึ่งอาจรวมถึงอาการสมองเมา, ความจำแย่ลง, และรู้สึกเหนื่อยล้าการขาดสารอาหาร หรือการดูแลตัวเอง หลังจากแผ่นดินไหว อาจมีการขาดแคลนอาหาร น้ำ และการดูแลสุขภาพที่เพียงพอ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพทั่วไปและการทำงานของสมองขอบคุณข้อมูลจาก www.bangkokinternationalhospital.com

พาทัวร์ BDMS WELLNESS CLINIC ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบครบวงจร บนถนนวิทยุ

21 ก.ย. 2023

พาทัวร์ BDMS WELLNESS CLINIC ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบครบวงจร บนถนนวิทยุ

ช่วงนี้เทรนด์สุขภาพกำลังมาแรง เพราะรอบตัวเต็มไปด้วยมลพิษต่าง ๆ ผู้คนก็เลยหันมาสนใจในการดูแลตัวเองมากขึ้น วันนี้เราเลยจะชวนทุกคนมาดูแลตัวเองแบบครบวงจร ตั้งแต่หัวจรดเท้า ที่ BDMS WELLNESS CLINIC ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบครบวงจร บนถนนวิทยุ ปาร์คนายเลิศBDMS WELLNESS CLINIC มีทั้งหมด 8 ชั้น ก็จะครอบคลุมหมดเลย ทั้งสุขภาพร่างกาย การเสริมวิตามินต่าง ๆ ทันตกรรม เส้นผม ผิวพรรณ รวมไปถึงภาวะการมีบุตรยากด้วยสำหรับโปรแกรมที่เราได้ทดลองทำ คือโปรแกรม BWC Antioxidants Plus Customized Vitamin เป็นการตรวจเลือด เพื่อวิเคราะห์ปริมาณวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระ 10 ชนิด พร้อมรับวิตามินเฉพาะบุคคลออกแบบตามผลเลือด สำหรับ 1 เดือนวิธีการของเขาก็คือจะมีแบ่งเป็นขั้นตอน เริ่มต้นกันที่วัดความดัน ตรวจสุขภาพในร่างกายทางด้านต่างๆต่อมาคุณหมอก็จะทำการสอบถามเช็คประวัติในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ภาวะความเครียด การรับประทานอาหารแต่ละมื้อ และการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อทำการวิเคราะห์ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนถัดไปคือ "การเจาะเลือด" เพื่อตรวจวัดระดับวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย จากนั้นนำผลตรวจไปวิเคราะห์โดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ป้องกันหลังจากนั้นทางคลินิคก็จะจัดวิตามินเฉพาะบุคคลมาให้เราทาน 1 เดือน เรียกได้ว่าขาดตรงไหน ก็ทานเสริมตรงนั้นแบบตรงจุดของแต่ละคนเลยอีกโปรแกรมที่เราได้ทดลอง และน่าจะถูกใจคนที่กำลังกังวลเรื่องปัญหาผิวพรรณ ก็คือโปรแกรม Skin Analysis การตรวจวิเคราะห์สภาพผิวเฉพาะบุคคล โปรแกรมนี้จะทำให้เรารู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาผิว โดยใช้กล้องที่มีความละเอียดสูง ตรวจวิเคราะห์ผิวชั้นบนและผิวชั้นที่ลึกลงไป ซึ่งจะช่วยในการประเมินการเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตั้งแต่ปริมาณรอยดำ รอยแดง ฝ้า กระ ริ้วรอย ความไม่สม่ำเสมอของผิว ความกว้างของรูขุมขน UV Spots สารที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดสิวบนใบหน้า รวมถึงประเมินอายุผิวของแต่ละบุคคลด้วย หลังจากที่ได้ใช้กล้องตรวจแล้ว เราก็จะได้พบแพทย์ เพื่อฟังคำอธิบายในแต่ละส่วน แพทย์ที่นี่ก็จะชี้ให้เราเห็นเลยว่า เรามีปัญหาผิวทางด้านใดบ้าง ต้องเสริมตรงไหน ดูแลยังไง ใครมีคำถามอะไรเกี่ยวกับปัญหาผิว ก็สามารถปรึกษาแพทย์ที่นี่ได้หมดเลย เขาพร้อมที่จะให้คำแนะนำอย่างเป็นกันเองสุด ๆเมื่อรู้ปัญหาผิวแล้ว ก็ตบท้ายด้วยการทำ BWC Royal Bright ทรีตเมนต์ผลักวิตามินและสารอาหารเข้าสู่ผิวพรรณบริเวณใบหน้าและลำคออย่างล้ำลึก โดยไม่ต้องใช้เข็ม สำหรับใครที่กลัวเจ็บ หมดความกังวลทันที เพราะที่ BDMS WELLNESS CLINIC เขาเน้นการดูแลแบบไม่จำเป็นต้องเจ็บตัวสำหรับโปรแกรม BWC Royal Bright ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที โดยเขาจะใช้นวัตกรรมจากเครื่อง Infusion ทำงานโดยใช้กระแสไฟฟ้าที่มีความถี่และเวลาในการปล่อยที่เหมาะสม เพื่อสร้างช่องว่างชั่วคราวบริเวณเซลล์ผิวหนังชั้นนอกสุด และส่งผ่านวิตามินลงไปซึ่งวิธีนี้สามารถส่งวิตามินและสารอาหารผิวลงไปได้อย่างล้ำลึก และมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผิวพรรณขาวกระจ่างใส ชุ่มชื้น ลดเรือนริ้วรอย กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้เผชิญมลภาวะมาเยอะ จนทำให้ผิวเสื่อมโทรม และต้องการกู้ให้ผิวกระจ่างใส เปล่งปลั่งเห็นแบบนี้แล้ว เริ่มสนใจกันบ้างหรือยัง สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่ดูแลตัวเองแบบครบวงจร เรียกว่ามีปัญหาสุขภาพตรงส่วนไหน ก็สามารถมาดูแลได้อย่างตรงจุด สามารถแวะมาได้ที่ BDMS WELLNESS CLINIC ถนนวิทยุ ปาร์คนายเลิศ ได้เลย แล้วมาดูแลตัวเองไปด้วยกันนะ

Ashram Scent ธุรกิจออกแบบน้ำหอม เสน่ห์ของอาศรมแห่งกลิ่น

25 ก.พ. 2025

Ashram Scent ธุรกิจออกแบบน้ำหอม เสน่ห์ของอาศรมแห่งกลิ่น

“ในโลกนี้ที่กลิ่นหอมไม่ใช่แค่เครื่องหอมธรรมดา แต่ล้วนเป็นภาษาของอารมณ์ ความทรงจำ และตัวตน”Ashram Scent เป็นร้านน้ำหอมแบรนด์ไทยและเป็นสถานที่ซึ่งศิลปะแห่งกลิ่นที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างวิจิตร อาศรมแห่งนี้ไม่ใช่แค่เพียงร้านน้ำหอมแต่เป็นสตูดิโอแห่งการสร้างสรรค์ ที่ซึ่งศาสตร์และศิลป์ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อสะท้อนตัวตนของแต่ละบุคคลจุดเริ่มต้นของอาศรมเซ้นท์แห่งนี้ เริ่มมาจากนักปรุงน้ำหอมอย่างคุณเฟิร์ส และ CEO อาศรมเซ้นท์ อย่างคุณแก้ว ที่จับมือกันสร้างธุรกิจที่เรียกว่า การรังสรรค์น้ำหอมเฉพาะบุคคลคณเฟิร์สสนใจด้านน้ำหอม และได้ค้นพบว่าตัวเองมีความหลงใหลในศาสตร์แห่งกลิ่นอย่างลึกซึ้ง ซึ่งกลิ่นมันไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของ ‘หอมหรือไม่หอม’ อีกต่อไป แต่มันคือศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ ความทรงจำ และจิตวิญญาณเมื่อความสนใจนี้เริ่มก่อตัวขึ้น คุณเฟิร์สจึงตัดสินใจศึกษาศาสตร์ของน้ำหอมอย่างจริงจัง ตั้งแต่โครงสร้างของกลิ่น วัตถุดิบที่ใช้ วิธีการสกัด จนไปถึงอิทธิพลของกลิ่นที่มีต่อความรู้สึกของมนุษย์ สิ่งที่เขาค้นพบคือกลิ่นไม่ได้เป็นแค่สิ่งที่รับรู้ผ่านจมูก แต่ยังสามารถกระตุ้นอารมณ์ และสร้างประสบการณ์ที่ทรงพลังให้กับผู้คนได้จากจุดนี้เองที่คุณเฟิร์สรู้ตัวว่า ‘กลิ่น’ ไม่ใช่แค่ความชอบธรรมดา แต่มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนของเขา และเขาต้องการแบ่งปันความพิเศษนี้ให้กับคนอื่น ๆ ด้วยการสร้างน้ำหอมที่มีเอกลักษณ์และสะท้อนตัวตนของผู้ใช้เมื่อมีความชอบในเรื่องของกลิ่น คุณเฟิร์สจึงตัดสินใจเดินหน้าสร้างธุรกิจน้ำหอมของตัวเอง และได้ทุ่มเทเวลาไปกับการออกแบบและผลิตกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ แต่เมื่อธุรกิจเริ่มขยายตัว ก็พบว่าตัวเองไม่ถนัดเรื่องการบริหารเพราะชอบการสร้างสรรค์กลิ่นมากกว่าการดูแลระบบธุรกิจ เช่นนั้น คุณเฟิร์สจึงได้ชักชวน ‘คุณแก้ว’ และ ‘คุณเหวิน’ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ คุณแก้วเป็นนักบริหารที่มีความสามารถในการจัดการระบบธุรกิจและยังมีความหลงใหลในศาสตร์ของกลิ่นเช่นเดียวกัน ขณะที่คุณเหวินก็มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารทำให้ธุรกิจการรังสรรค์น้ำหอมเติบโตขึ้นมาและภายใต้บรรยากาศที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอม Ashram Scent เชิญให้ทุกคนเข้ามาสัมผัสกับประสบการณ์สุดพิเศษ ผ่านการออกแบบกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผ่านผู้ปรุงกลิ่นน้ำหอม ไม่ว่าจะเป็นความหอมละมุนอ่อนหวาน เย้ายวนชวนหลงใหล หรือกลิ่นที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน กลิ่นทุกกลิ่นล้วนมีเรื่องราว ที่ถูกถ่ายทอดผ่านสัมผัสแห่งการดมที่ Ashram Scent เชื่อว่า “กลิ่น” เป็นส่วนหนึ่งของตัวตน เป็นลายเซ็นที่ไม่เหมือนใคร และยังเป็นเครื่องประดับที่สำคัญและยังสามารถสร้างการจดจำของคนได้ดีที่สุด เพราะฉะนั้นการออกแบบกลิ่นน้ำหอมเฉพาะตัวมักจะคำนึงถึงความเป็นธรรมชาติ เจาะลึกถึงอารมณ์ ความรู้สึก ไลฟ์สไตล์ และความทรงจำของแต่ละบุคคล เพื่อที่จะสามารถทำการเลือกสรรและผสมผสานวัตถุดิบอย่างประณีตและเกิดเป็นกลิ่นหอมที่สะท้อนตัวตนของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบซึ่งขั้นตอนการสร้างสรรค์กลิ่นหอมของที่นี่เริ่มต้นจากการวิเคราะห์บุคลิกภาพและอารมณ์ของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นความร่าเริงสดใส ความสุขุม หรือแม้แต่ความรู้สึกโหยหาอดีต นักออกแบบจะนำข้อมูลเหล่านี้มาประกอบกับองค์ประกอบของน้ำหอม ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นของดอกไม้ เครื่องเทศ สมุนไพร หรือแม้แต่กลิ่นของธรรมชาติที่ช่วยสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละบุคคล รวมไปถึงมีการสำรวจทางกายภาพที่เช็คไปถึงรูขุมขน ว่าลักษณะรูขุมขนเปิดหรือปิด ผิวแห้งหรือมันช่วงไหนบ้าง และลักษณะของเหงื่อว่าเป็นอย่างไรด้วยเช่นกันน้ำหอมจาก Ashram Scent ไม่ใช่เพียงผลิตภัณฑ์ แต่เป็นประสบการณ์ เป็นการเดินทางที่พาผู้ใช้ไปสำรวจอารมณ์ ความทรงจำ และตัวตน ผ่านมิติของกลิ่นหอม กลิ่นหนึ่งอาจพาผู้ใช้ย้อนกลับไปสู่วัยเด็ก หวนคิดถึงรักแรก หรือสะท้อนความสง่างามที่แฝงเร้นอยู่ภายในใจแต่ละกลิ่นที่ออกแบบขึ้นมาล้วนได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของลูกค้า บางคนอาจต้องการกลิ่นที่สื่อถึงการเดินทางในต่างแดน บางคนอาจต้องการกลิ่นที่แสดงถึงพลังของตนเอง หรือแม้แต่กลิ่นแปลก ๆ อย่างน้ำมันรถที่ลูกค้าอยากให้รังสรรค์ ไม่ว่าคุณจะต้องการให้กลิ่นสะท้อนความรู้สึกแบบใด Ashram Scent สามารถรังสรรค์ให้เป็นจริงได้หากคุณกำลังมองหาน้ำหอมที่ไม่เพียงแต่หอม แต่สามารถบอกเล่าเรื่องราวของคุณได้ Ashram Scent พร้อมเปิดประตูสู่อาณาจักรแห่งกลิ่นที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อคุณโดยเฉพาะ ที่นี่จะช่วยคุณค้นหากลิ่นที่เป็นตัวคุณ… กลิ่นที่ไม่มีใครเหมือน และไม่มีใครแทนที่ได้เพราะที่นี่ ทุกกลิ่นหอมล้วนเป็นเรื่องราว เป็นงานศิลปะที่ต้องการสื่อถึงอารมณ์และตัวตนของผู้ใช้ ทุกขวดที่ออกแบบขึ้นมาล้วนผ่านกระบวนการคิดและผสมผสานอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้มั่นใจว่ากลิ่นที่ได้จะเป็นตัวแทนของบุคลิกและอารมณ์ของแต่ละบุคคลอย่างแท้จริง หากคุณพร้อมที่จะค้นพบกลิ่นที่เป็นตัวเองที่สุด Ashram Scent ยินดีต้อนรับคุณเข้าสู่โลกแห่งความหอมที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์และความหมายอันลึกซึ้งร้าน อาศรมเซ้นท์ Ashram Scentพิกัด จตุจักร พลาซ่า ล็อค B165โทรศัพท์ 064 224 4289 , 094 632 2616Facebook : Ashram Scentผู้เขียน วิภูษิตา ญาติจันทึก

ทำความรู้จักกับ โรคลมแดด หรือฮีทสโตรก โรคยอดฮิตช่วงหน้าร้อน

21 เม.ย. 2025

ทำความรู้จักกับ โรคลมแดด หรือฮีทสโตรก โรคยอดฮิตช่วงหน้าร้อน

เดือนเมษายน เดือนแห่งความร้อน ทั้งอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นจนเป็นที่น่าตกใจ ซึ่งภาคเหนือเองได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากจากมรสุมลมร้อน ทำให้มีอากาศที่ร้อนสูงสุดถึง 42 องศาเซลเซียส นั้นอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้คุณเป็น “โรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก (Heat Stroke)” โรคที่ใหม่ในยุคปัจจุบันแต่อาจคร่าชีวิตของคุณ และคนใกล้เคียงได้โรคลมแดด คือภาวะที่อุณหภูมิในร่างกายสูงเกิน 40.5 องศาเซลเซียส เกิดจากการที่อยู่ในสถานที่ที่อุณหภูมิร้อนมากๆ และร่างกายไม่สามารถปรับตัวลดอุณหภูมิให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้ ส่งผลเสียต่อระบบประสาท หัวใจ และไต เป็นเหตุให้เสียชีวิตได้สาเหตุการเกิดโรคลมแดดเกิดจากการอยู่ในสถานที่ที่อากาศร้อนจัด โดยเฉพาะขณะที่อากาศร้อนชื้น หรือการออกกำลังกายอย่างหนัก โดยเฉพาะเมื่อออกกำลังกายในสถานที่ที่อากาศร้อน อาจมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่กระตุ้นให้เป็นโรคลมแดดได้ง่ายขึ้น เช่น การสวมใส่เสื้อผ้าที่หนาเกินไปจะทำให้เหงื่อระบายได้ยาก การดื่มแอลกอฮอล์ ร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำ ทานน้ำน้อย เป็นต้นกลุ่มคนที่มีโอกาศเป็นโรคลมแดดได้มากกว่ากลุ่มอื่นคือ กลุ่มเด็กเล็ก และผู้สูงอายุ (อายุเกิน 65 ปี) มีการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้ช้า และเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำได้ง่ายหรือทหารที่ต้องฝึกหนัก หรือ นักกีฬาที่ต้องเล่นกีฬาในที่ที่อุณหภูมิร้อนจัด, ผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับอากาศร้อน เช่น ต้องเดินทางไปประเทศที่อุณหภูมิอากาศร้อนกว่า หรือเจอมรสุมพายุฤดูร้อน, ผู้ที่ทานยาบางชนิด ได้แก่ ยาลดความดันโลหิตบางประเภท ยาขับปัสสาวะ ยารักษาโรคจิตเวช ยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูก ยาระบาย ยาบ้า โคเคน และผู้ที่มีโรคหัวใจ โรคปอด โรคอ้วน หรือเคยเป็นโรคลมแดดมาก่อนอาการของโรคลมแดดอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 40.5 องศาเซลเซียสมีอาการผิดปกติทางระบบประสาท ได้แก่ ลุกลี้ลุกลน พูดช้า สับสน ชัก เพ้อ หมดสติต่อมเหงื่อทำงานผิดปกติไป เช่น อยู่ในสถานที่ร้อนจัด แต่ไม่มีเหงื่อออกคลื่นไส้ อาเจียนผิวหนังและหน้าเปลี่ยนเป็นสีออกแดงเหนื่อย หายใจเร็ว ใจสั่นชีพจรเต้นเร็วผิดปกติปวดศีรษะไตวาย ปัสสาวะสีเข้มผิดปกติ เอนไซม์ในกล้ามเนื้อสูงผิดปกติวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนรีบนำส่งโรงพยาบาลผู้ป่วยที่มีอาการควรรีบหลบแดด ย้ายมาอยู่ในที่ร่มถอดเสื้อคลุมที่ไม่จำเป็นออกทำให้ร่างกายเย็นด้วยวิธีต่างๆ เช่น รดตัวด้วยน้ำเย็น เช็ดตัวด้วยน้ำเย็นโดยเฉพาะที่บริเวณหลังคอ ข้อพับ และขาหนีบ เป่าพัดลมที่มีไอน้ำเย็น เปิดแอร์ดื่มน้ำ และน้ำเกลือแร่ให้มากๆ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำและป้องกันไม่ให้ร่างกายสูญเสียเกลือแร่อีกทั้งยังมีวิธีการป้องกันไม่ให้เป็นโรคลมแดดได้ง่ายๆ อาทิ สวมใส่เสื้อผ้าที่โปร่งสบายและบาง เพื่อให้ผิวหนังได้มีการถ่ายเทความร้อนออกไปได้ง่ายขึ้น ใช้อุปกรณ์บังแดด เช่น ร่ม หมวกปีกกว้าง แว่นตากันแดด และทาครีมกันแดด ดื่มน้ำให้มากๆ อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน ไม่ควรอยู่ในรถที่จอดกลางแดด อุณหภูมิในรถสามารถขึ้นไปได้อย่างรวดเร็วถึง 50 องศาเซลเซียส ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ห้ามทิ้งเด็กไว้ในรถเด็ดขาด หาเวลาพักมาอยู่ในที่ร่มเป็นระยะ โดยเฉพาะช่วงที่ร้อนสุดคือช่วงกลางวัน ถ้าต้องการออกกำลังกายควรออกเวลาที่เย็นที่สุดของวัน คือตอนรุ่งเช้า และตอนเย็น ถ้ายังไม่คุ้นเคยกับอากาศร้อน เช่น เพิ่งย้ายมาอยู่ในประเทศที่ร้อนกว่าที่เดิม ควรหลีกเลี่ยงการทำงานหนัก หรือการออกกำลังกายหนักในระยะแรก จนกว่าร่างกายจะชินกับอุณหภูมิที่ร้อนขึ้น ถ้าทราบว่าตนเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อโรคลมแดด เช่น มีโรคประจำตัว สูงอายุ ทานยาที่มีความเสี่ยง ควรสังเกตอาการตนเอง ถ้าเริ่มมีอาการที่เข้าได้กับโรคลมแดด ควรรีบปฐมพยาบาลตนเองเบื้องต้น และรีบไปโรงพยาบาลทันทีขอบคุณข้อมูลจากโรงพยาบาลกรุงเทพ