น้ำตาซึมส่งท้ายปีกับ 5 หนุ่ม PERSES จั๋ง, เน, กฤติน, ปาล์ม และปลั๊กกี้ กับผลงานล่าสุด "อย่าฝืน" (Over) ซิงเกิลที่ 2 จากอัลบั้ม ALTERLAND ถ่ายทอดเรื่องราวความรักที่เดินทางมาถึงทางตัน เมื่อคนสองคนต่างฝืนอยู่ในความสัมพันธ์ที่รู้ว่าสุดท้ายจะต้องจบลงด้วยการเลิกรา วันนี้เราเลยได้ชวนพวกเขาทั้ง 5 คน มาพูดคุยเกี่ยวกับเบื้องหลังการทำงานในซิงเกิลนี้ พร้อมเรื่องราวน่ารัก ๆ ที่จะทำให้ทุกคนตกหลุมรัก PERSES ได้แบบไม่ต้องฝืนกัน
ซิงเกิลล่าสุด “อย่าฝืน” (Over) มาในคอนเซปต์อะไร
NAY – “เพลง ‘อย่าฝืน’ เราก็จะพูดถึงความสัมพันธ์ที่เรารู้สึกว่ามันมาถึงทางตันแล้ว แต่เราพยายามฝืนไปต่อ สุดท้ายเราก็รู้สึกว่าอย่าฝืนแล้วจะดีกว่ากับทั้งสองฝั่ง”
ทำไมถึงเลือกปล่อยเพลงอกหักส่งท้ายปี
KRITTIN – “ผมว่าตอนช่วงปีใหม่ มันมีเพลง festive เพลงให้ความสุข เพลง celebration เยอะแล้ว พวกเราก็เลยเลือกที่จะอยู่ข้างคนเศร้า เพราะผมเชื่อว่าตอนท้ายปี ตอนปีใหม่ ต้องมีคนอกหัก มีคนเลิกกับแฟนอยู่แล้วแน่นอน”
PLUGGY – “จะมีบางคนที่มีความสุขทุกปีใหม่ แล้วก็จะมีบางคนที่เศร้าตลอดทุกปีใหม่ แล้วปีนี้ก็ยังเศร้าอยู่”
KRITTIN – “อันนี้พูดถึงตัวเองหรือเปล่าเนี่ย” (PERSES - หัวเราะ)
คิดว่าอะไรเป็นความยาก หรือเป็นอุปสรรคในการทำเพลงนี้บ้าง
NAY – “จริง ๆ ก็กดดันที่ต้องมารับบทเป็นตัวนำใน MV แล้วก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตัวเองจะทำได้ดีมั้ยในตอนแรก แต่ก็ขอบคุณพี่ ๆ ทีมงานที่ให้โอกาสเราได้ลองทำ เรียกว่าได้ explore ตัวเองมากกว่าครับ”
แล้วพาร์ทการร้องล่ะ มีตรงไหนยากไหม
JUNG – “พาร์ทการร้อง เรื่องสกิลอะไม่ค่อยยาก เพราะเป็นเพลงที่ค่อนข้างเข้าใจง่าย แล้วก็เน้นความหมาย พาร์ทที่ยากคือเรื่องฟีลลิ่งมากกว่าครับ เพราะว่าด้วยความที่เพลงนี้ ถ้าทุกคนได้ไปนั่งอ่านเนื้อ เนื้อทุกท่อนมันจะแบบ นี่ก็โดน นู่นก็โดน ดังนั้นความยากคือการร้องยังไงให้คนเชื่อจริง ๆ กับประโยคที่เราต้องการจะสื่อสาร”
มีท่อนไหนมั้ยที่อัดหลายรอบมาก ไม่ได้สักที
JUNG – “ทุกท่อนเลยครับ” (PERSES - หัวเราะ)
PLUGGY – “เพลงนี้เป็นเพลงที่ผมอัดนานที่สุด ใช้เวลาไป 1 ชั่วโมง 40 นาที”
JUNG – “ปกติปลั๊กกี้จะเป็นคนอัดคนที่ 2 แล้วอัดเร็วมาก”
PLUGGY – “ใช่ เพลงนี้ผมอัดนานสุด เพราะวันนั้นป่วย เสียงขึ้นจมูกนิดนึงด้วย แล้วพอเราอัดไป บางทีพี่เขาบอกว่าได้แล้ว แต่ผมฟังแล้วผมยังไม่รู้สึกกับประโยคนั้น ผมก็จะบอกว่า ‘พี่ครับ ผมว่าคำนี้มันยังไม่ได้นะ ขอใหม่ ๆ’ มีท่อน breakdown ตอนหลังท่อน bridge ที่ผมอัดหลายรอบ มันเป็นท่อนที่เบาที่สุด โวคอลมันจะเด่นมาก แล้วมันเป็นประโยคที่ผมรู้สึกว่ามันเจ็บมาก ผมอัดแล้วผมรู้สึกว่า ‘พี่ ไม่ได้ เอาใหม่ ๆ’ ประโยคนั้นมันจะบอกว่า ‘ให้มันจบตรงนี้ คงดีกว่าต้องกล้ำกลืนใช่ไหม’ ผมรู้สึกว่าประโยคนี้มันเจ็บมากเลย มันเหมือนเราบอกเขาว่า อย่าไปกันต่อเลย ยิ่งฝืนไป มันก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกไปเรื่อย ๆ”
มาที่พาร์ท MV บ้าง เราต้องการจะเล่าเรื่องอะไร
NAY – “จริง ๆ ก็พูดถึงเรื่องความสัมพันธ์แหละครับ เหมือนเราก็ฝืนกันมาจนถึงทางตัน เราพบว่าเราไปต่อกันไม่ได้แล้ว แล้ววันนึงตัวพระเอกก็ได้รับนาฬิกาสำหรับย้อนเวลามา แล้วเราก็ได้ย้อนเวลากลับไปเพื่อแก้ไขสิ่งต่าง ๆ ที่เราคิดว่าเราเคยทำพลาดไป แต่ว่าพอยิ่งย้อนกลับไป เราก็ยิ่งพบว่า ไม่ว่าเราจะกลับไปแก้ไขมันยังไง สุดท้ายแล้วเราก็ไม่สามารถที่จะทำให้ความสัมพันธ์นี้มันไปต่อได้ เราก็เลยเลือกที่จะกอดเขา ร่ำลาเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อให้เราจากกันด้วยดีดีกว่า”
สิรภพและกานดาใน MV นี้ เขาทะเลาะเรื่องอะไรกัน
KRITTIN – “ก็สิรภพเขาติดงาน เขาเป็นนักเขียนเพลง นักแต่งเพลง ใช้เวลาอยู่กับตัวเองเยอะ”
PLUGGY – “เขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับคนรัก”
KRITTIN – “ใช่ เอาง่าย ๆ เป็นผม ผมก็เลิกเหมือนกัน”
PALM – “วันเกิดก็ลืม ของขวัญปีใหม่ก็ลืม”
NAY – “ปาร์ตี้ก็อยู่แต่กับเพื่อน โดนเพื่อนลากไป”
KRITTIN – “นั่นแหละครับ ก็เหมือนแบบละเลยคนรัก”
บรรยากาศในการถ่ายทำ MV เป็นยังไงบ้าง
JUNG – “ของใครครับ” (PERSES - หัวเราะ)
KRITTIN – “คือเราจะอยู่กันคนละส่วนของบ้าน ของพวกผมจะอยู่ในห้องแต่งตัว บนเตียง ส่วนของพี่เนจะอยู่แต่ในฉากเลย”
NAY – “วันนั้นก็รู้สึกว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ ที่ได้เข้าไปอยู่ในฉาก ได้ไป explore ตัวเอง แล้วก็ดีที่ได้เจนคอยรับส่งอารมณ์ จริง ๆ เราก็เพิ่งเคยเจอกันด้วย ตอนแรกเราก็กลัวเกร็งเหมือนกัน แต่พอเอาเข้าจริง พอเข้าฉากแล้วเหมือนเราเข้าใจตรงกัน ว่ามันเป็นตัวละครสองตัว ที่ต้องมีการปฏิสัมพันธ์ หรืออะไรที่มันแบบว่าสื่อสารกันออกมา”
มีซีนไหนที่เรารู้สึกว่ายากไหม
NAY – “ซีนที่ยากผมว่าน่าจะเป็นซีนทะเลาะครับ เพราะว่าวันนั้นเราถ่ายช่วงความทรงจำที่ดีกันก่อน แล้วมันต้องตัดฟีลตัวเองเพื่อไปทะเลาะเลย ต้องค่อย ๆ บิ๊วตัวเองขึ้นมา ซึ่งในฉากนั้นก็รู้สึกว่าใช้เวลาในการถ่ายหลายเทคอยู่เหมือนกัน คือให้เราเข้าใจถึงสิ่งที่ตัวละครกำลังทะเลาะกันจริง ๆ”
แล้วคนอื่น ๆ ล่ะ เป็นยังไงกันบ้าง
JUNG – “รู้สึกว่าเป็นวันที่พวกเราคุยกันเยอะเหมือนกัน”
KRITTIN – “ใช่ พวกผม 4 คน คุยกันเยอะมาก เพราะว่าต้องรอเข้าฉาก มีฉากที่เหนื่อยที่สุดคือฉากเต้นในบ้านพี่เน เป็นปาร์ตี้อะครับ เหนื่อยมาก เหนื่อยจริง ๆ เหงื่อออก ผมเต้นแบบโจ๊ะพรึ่ม ๆ เลย”
PALM – “เขาบอกให้เอนเตอร์เทนให้เยอะที่สุด”
KRITTIN – “ใช่ ผมก็เต้นเอา ๆ แล้วพอใน MV ปุ๊บ ไม่เห็นเลย”
PALM – “เขาตีลังกาด้วยนะครับ”
KRITTIN – “ใช่ ผมเต้นไปเยอะมาก แต่ไม่มีเลย แต่ผมว่ามันทำให้มู้ดเพลงกระเพื่อมด้วยแหละ สมมุติถ้าเอาเข้าไป ถ้าเกิดมันมีใน MV ปุ๊บ เอ้า คนดูจะงง เมื่อกี้ยังร้องไห้อยู่ มันกระตุกฟีลเกิน ก็เลยเอาออกก็ได้”
PLUGGY – “ของผมมีซีนร้องเพลงถอยหลังที่รู้สึกว่ายาก อันนั้นมันจะมีท่าเต้นด้วย ที่พวกเราต้องเดินถอยหลัง แต่พอมันกลับหลังปุ๊บ เราจะต้องเดินขึ้นหน้าแทน แล้วก็จะมีของหล่นด้วย ตอนนั้นคือเราก็จะร้อง ๆ เดิน ๆ ไปอยู่ ก็จะมีของหล่น ปั้ง! ตู้ม! ฟรึ่ม! ตึ้ม! ตลอดเวลา”
KRITTIN – “เขาเซ็นซิทีฟกับเสียงดังครับ”
PLUGGY – “ใช่ เสียงมันจะเยอะมาก แล้วเพลงเราก็จะเบาลง แล้วเราก็ต้องโฟกัสที่จะร้องเพลงถอยหลัง ที่เป็นภาษาอะไรก็ไม่รู้ให้ถูกจังหวะ แต่เดินก็ต้องให้ตรงจังหวะด้วย”
เราร้องเพลงถอยหลังยังไง
PLUGGY – “มันคือการเอาเพลงไปรีเวิร์สครับ มันก็จะไม่เป็นคำเลย มันคือแบบ เช่น สมมุติว่า คำว่า ฝืน ปกติต้องเป็น ฝ.ฝา เริ่มก่อน แล้วถึงจะเป็น น.หนู ทีนี้พอถอยหลังก็จะกลายเป็น น.หนู ขึ้นก่อน ผมมีเนื้อที่แกะคำพวกนั้นอยู่ อ่านไม่รู้เรื่องเหมือนกันครับ เราก็ต้องจำแล้วก็ลองร้องให้ถูกจังหวะ”
แล้วเราถ่ายซีนนี้กันกี่เทค
KRITTIN – “อุ๊ย เยอะอยู่นะครับ แต่ไม่นานมากเว่อร์ขนาดนั้น เพราะว่าจริง ๆ ปลั๊กกี้อะร้องได้แล้ว แต่ว่าน่าจะเป็นเรื่องคิวของที่ตก เอฟเฟค ไม่ก็พวกเราเดินไม่พร้อมกันหน่อย ๆ อะไรงี้ครับ”
แต่ละคนมีเรื่องอะไรที่เคยฝืนในชีวิตบ้าง แล้วตอนจบของเหตุการณ์นั้นเป็นยังไง เราได้เรียนรู้อะไรจากมัน
JUNG – “ส่วนใหญ่จะเป็นชอบฝืนลองอะไรใหม่ ๆ กับตัวเองมากกว่าครับ อย่างเช่น ล่าสุดผมไปสั่งปัตตาเลี่ยนมา มันเป็นแบบถอดหัวเปลี่ยนหัวได้ มีหลายเบอร์มาให้ลอง ผมก็ลองตั้งแต่เบอร์ 2 เพราะว่ามันยาวสุด ลองฝึกปั้นเฟดดีกว่า แล้วก็ กรึ๊บ ขาด เฟดเอาต์เลย (หัวเราะ) เราก็ได้เรียนรู้ว่า บางทีก็ปล่อยให้มืออาชีพเขาทำดีกว่าครับ”
NAY – “ของผมเป็นช่วงที่เทรนอยู่ เคยรู้สึกว่าเราอยากทำอาหารกินเอง แล้วเราก็ไปตลาด ซื้อเนื้อมาเก็บไว้ เพื่อที่จะได้มีเนื้อสำหรับทำอาหารตอนกลางคืนอะไรแบบนี้ครับ แต่ว่าพอยิ่งเทรนไปเรื่อย ๆ เราก็เลิกดึกขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็รู้สึกว่า ไม่ไหวอะ ทำอาหารกินเองไม่ไหว ถึงมันจะถูกจริง หรือมันคุมปริมาณอาหารได้เอง แต่เราก็แบบว่า มันเหนื่อยเกินไป เราไปซื้อกินเอาดีกว่า สั่งเอาดีกว่า”
PALM – “ผมเคยฝืนไม่นอนครับ เคยคิดกับเพื่อนว่า ถ้าสมมุติเราทำชาเลนจ์ วันนึงเราไม่นอนเลยแบบเต็มวัน มันจะเป็นยังไงบ้าง ซึ่งคืนคืนนั้นผมก็...”
KRITTIN – “ง่วง”
PALM – “ไม่ใช่ (หัวเราะ) คืนนั้นผมก็เตรียมทุกอย่าง เตรียมเกม เตรียมของกิน เพื่อที่จะอยู่ทั้งคืนให้ได้กับเพื่อน ซึ่งเราก็เล่นเกม กินขนม แต่มันก็ยังไม่ค่อยง่วงสักเท่าไหร่ จนตีสี่ตีห้าแล้วมั้งครับ ที่จะแบบ ครบรอบแล้ว เราก็มานึกว่า เราทำไปทำไมอะ ทำแล้วมันได้อะไร ก็ไม่เห็นได้อะไรสักเท่าไหร่ งั้นเราก็แยกย้ายกันไปนอนดีกว่า จบแค่นี้ครับ”
KRITTIN – “ผมเคยฝืนอั้นตดครับ ตอนอยู่โรงเรียน ตอนเด็ก ๆ ไง เพราะว่าไม่มีเวลาไปห้องน้ำ เรียนอยู่แล้วครูก็ไม่ปล่อยไปไหนสักทีอะครับ คือตอนแรกมันไม่ได้หนักขนาดนั้นหรอก คือมันเป็นแบบ มานิด ๆ อะไรงี้ แต่พอเราอั้นไปสักพัก ถ้าสมมุติเราทำอะไรที่มันแบบ หัวเราะ มันจะ ปั้ง! มันจะเสียงดังกว่าเดิมเกทปะ ถ้าเกิดเราอั้นไว้นาน ๆ เสียงมันจะดังกว่าเดิม มันเป็นแบบนี้เลย แล้วเพื่อนก็ถาม ตดเหรอ แล้วผมอะเป็นคนแบบขี้ล่กใช่ปะ ผมก็บอก ไม่นะ ไม่ได้ตด ก็พูดไป ตัดบท จบ แต่ว่าไม่ได้มีกลิ่นอะไรขนาดนั้นนะ มันเป็นเสียงดังมากกว่า”
NAY – “เรื่องนี้พูดได้ด้วยเหรอ”
KRITTIN – “ได้แหละมั้งครับ เขียนให้มันดูน่ารัก ฝืนอั้นผายลม อั้นลมปราณ อะไรแบบนี้ครับ”
PLUGGY – “ของผม ฝืนทำตัวปกติต่อหน้าคนที่เราชอบครับ คืออันนี้อาจจะรวมไปถึงพี่ ๆ ไอดอลในวงการด้วย เราก็ยังเป็นศิลปินหน้าใหม่ใช่มั้ยครับ เราก็จะมีไอดอล มีศิลปินที่เราชอบ แล้วบางทีเราก็ต้องไปร่วมงานกัน หรือว่าเจอกันตามงาน ถ่ายคอนเทนต์ ถ่ายชาเลนจ์กัน บางทีเราก็จะแบบ เราชอบมาก เห็นผลงานเขามาตั้งนานแล้ว เป็นไอดอล เป็นศิลปินในดวงใจ แต่เราก็ทำนิ่ง ๆ สวัสดีครับ ทำเหมือนแบบ เพื่อนกัน ไม่มีอะไร ก็ฝืน แต่ในใจคือ (ดีดนิ้ว) อย่างงี้แล้ว แต่ภายนอกเราต้องแสดงออกมาว่า ไม่มีอะไร ชิล มาได้เลย”
ขอ 1 เรื่องที่ไม่อยากให้คนที่นั่งข้าง ๆ ฝืนอีก
NAY – “อยากให้กฤตไม่ต้องฝืนตลกครับ จริง ๆ เขาเป็นคนเท่ เขาเรียกว่าอะไรอะ มีความร็อคสตาร์ ความเสื้อหนังอะไรแบบนี้ ที่เห็นเขาตลกคือเขาฝืนอยู่ครับ”
KRITTIN – “เพราะในวงไม่ค่อยมีคนตลก ผมก็เลยต้องเป็นคนคนนั้น มันน้อยใจนะพี่ ที่ไม่ได้ใช้สิ่งที่ตัวเองมีจริง ๆ ที่ต้องสร้างอะไรขึ้นมาให้มันฝืน”
PLUGGY – “ก็ถือว่าทำสำเร็จนะ ฝืนจนดูเป็นธรรมชาติมากกกก”
KRITTIN – “ใช่ครับ มีต้องปรับจูนอยู่ช่วงนึง ช่วงนั้นก็คือกลับห้องไปแล้วนอนร้องไห้ตลอดเลย มันตลกไปอะ เพราะพ่อแม่เลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็ก ๆ ก็เลี้ยงมาให้เป็นคนหน้าตาดี กิริยามารยาทดี แต่พอโตมาปุ๊บเป็นแบบกักขฬะอะไรงี้ ก็เลยกลัวพ่อแม่ผิดหวังครับ”
JUNG – “อะ กฤตพูดถึงปลั๊กกี้”
KRITTIN – “ผมไม่อยากให้ปลั๊กกี้ฝืนทำงานของมหาลัยเยอะมาก จริง ๆ เพื่อน ๆ เขาก็พร้อมจะแบ่งเบาให้ เพราะว่าเขาเป็นคนที่แคร์ ไม่อยากให้เพื่อนทำเยอะ เลยต้องไปตลอด ต้องไปอยู่ด้วย จริง ๆ เขาเคยบอกผมว่า เขาต้องไปช่วยตัดงาน แล้วผมก็ถามว่า ‘ตัดเป็นเหรอ’ เขาก็บอกว่า ‘ไปช่วยเป็นกำลังใจให้’ เออ ก็น่ารักดี แต่ไม่ต้องฝืนมาก เพราะตอนเช้าตื่นมาก็บ่นว่าง่วง”
PLUGGY – “อันนี้ต้องอธิบายก่อนว่า คือบางทีผมจะชอบมาเสียดาย เวลาที่เห็นผลงานที่เรามีส่วนเกี่ยวข้อง แล้วเรารู้สึกว่า ถ้าเราอยู่ตรงนั้น เราจะบอกให้มันทำอย่างงี้ มันจะได้ดีขึ้นไปอีก เราอยากรู้สึกว่า ถ้ามันออกมาแบบไม่ได้ดีที่สุดอะ อย่างน้อยคือเราก็ได้ทำเต็มที่แล้วในส่วนของเรา”
KRITTIN – “อยากใส่ไอเดียเข้าไป อยากให้มีไอเดียในงาน เห็นมั้ย น่ารัก”
PLUGGY – “ใช่ครับ อยากให้ผลงานออกมาดีที่สุด แบบว่า at least ถ้ามีชื่อเราอยู่ในเครดิต ผลงานมันก็จะต้องออกมาแบบมีความเป็นเราบ้างนิดนึง คืออยากมีส่วนร่วม ไม่อยากปล่อยให้เป็นแบบ ทำไปเหอะ ไม่ใช่หน้าที่เรา อะไรแบบนี้”
KRITTIN – “เนอะ อะปลั๊กกี้พูดถึงพี่จั๋ง”
PLUGGY – “พี่จั๋งเหรอครับ ก็อยากให้พี่จั๋งไม่ต้องฝืน alert มากตลอดเวลา คือจริง ๆ เขาจะค่อนข้างแบบ”
KRITTIN – “เขาเป็นคนเฉื่อย”
PLUGGY – “มาก แบบว่า เหมือนบางทีเจอคนเยอะ เขาต้อง need energy อะไรแบบนี้ บางทีจะเห็นจังหวะที่เขาหัวเราะ แฮะ ๆ แล้วก็เงียบ”
KRITTIN – “เออ เขาชอบหัวเราะโช๊คแล้วก็หายไปเลย”
PLUGGY – “เป็นหัวเราะแบบมารยาท”
NAY – “เข้าสังคมครับ เข้าสังคม”
JUNG – “จริง ๆ ไม่ใช่หัวเราะมารยาท มันคือหัวเราะจริง ๆ แต่แบตมันหมด” (PERSES - หัวเราะ)
KRITTIN – “เหมือนเล่นเกมแล้วแบบเป็นเกจวิ่งใช่ปะ วิ่งแล้วเหนื่อย แล้วก็หยุด”
PALM – “เกจแบบ เขาเรียกอะไรนะ”
NAY – “stamina”
KRITTIN – “เออ stamina แฮะ ๆ แล้วก็หมด เขาเป็นคนหัวเราะแรงมาก แล้วเขาเป็นคนเส้นตื้นด้วย ผมว่าพลังเขาน่าจะหมดอยู่แหละครับ อะ พี่จั๋งพูดถึงปาล์ม”
JUNG – “ไม่อยากให้ปาล์มฝืนเป็นคนเสี่ยว เพราะว่าปาล์มจริง ๆ ลึก ๆ เนี่ยเขาเป็นคนไม่เสี่ยว เขาเป็นคนตลกจริง เขาดูมาเยอะ เขาเสพมาเยอะ เขา born to be ตลก บางทีเขาพยายามตลกเกิน ความธรรมชาติของเขามันจะหายไป”
KRITTIN – “ความธรรมชาติของเขาจะออกมาเอง ตอนที่เขาพยายามจะทำอะไรสักอย่างที่มันถูกต้อง”
JUNG – “มันไม่เชิงไม่อยากให้ฝืนเสี่ยว ไม่อยากให้ฝืนตลก เพราะบางทีเขาตลกอยู่แล้ว”
PLUGGY – “เขาเรียกว่าอะไรอะ เป็นคนโก๊ะ ๆ ตลก ๆ โดยที่แบบเขาไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ว่ามันดูตลก”
JUNG – “บางทีไม่ต้องยิงมุกก็ได้ปาล์ม ปาล์มแค่พูดผิดก็ขำแล้ว”
PLUGGY – “จริง ๆ เขาเป็นคนพูดน้อย แต่บางทีมันจะมีบางจังหวะที่เขาพูดขึ้นมาแล้วมันตลกบ้าง”
KRITTIN – “เป็นจังหวะผิดเวลา แบบเขาชอบผิดจังหวะอะไรแบบเนี้ย เข้าแทรกผิดจังหวะ ปึ้ง ทุกคนก็จะเงียบแล้วก็ขำ อะปาล์มพูดถึงพี่เนบ้าง”
PALM – “ของพี่เน เมื่อกี้คิดออกเลยว่า ไม่อยากให้พี่เนฝืนเก็บของกินไว้ คือพี่เนเขาเป็นคนที่เวลาเขากินอะไรไม่หมด เขาจะชอบเก็บไว้ในตู้เย็น แล้วบางทีเขาก็ลืม แล้วเขาก็เอากลับมากินอีก ซึ่งถ้าทิ้งไว้หลาย ๆ วัน มันอาจจะไม่ครบโภชนา มันอาจจะไม่ดีต่อสุขภาพ”
KRITTIN – “น้องปาล์ม หนูเก็บก๋วยเตี๋ยวไว้ในตู้เย็นสามวัน เอาใหม่ พูดใหม่”
PALM – “ไม่ แต่นาน ๆ ทีไง”
KRITTIN – “แล้วกินมั้ย”
PALM – “ถ้ากลิ่นไม่ดีก็ไม่กิน”
PERSES เดบิวต์มา 2 ปีแล้ว ภาพที่เราวาดไว้ตอนก่อนเดบิวต์กับตอนนี้ มันเหมือนหรือต่างจากที่เราคิดเอาไว้ไหม
KRITTIN – “ผมวาดไว้ว่ามันเท่มาก เราเป็นคนเท่ เราเป็นคนคูล”
แล้วตอนนี้เราไม่เท่เหรอ
KRITTIN – “พี่ โคโยตี้บนรถปิคอัพ หัวไหล่ตูด เราเปลี่ยนภาพเลย เพราะตอนแรกนะครับ ค่ายวางเอาไว้ว่าเราเป็นบอยกรุ๊ปที่เท่ แกร่ง แกลม ติดดาร์ค สีดำ แบบเป็นหมุด ๆ อะไรเงี้ย เป็นฟีลนั้นเลยนะ เท่ ๆ แกลม ๆ ปึ้ง มาสักพัก ภาพเริ่มกลายละ”
PLUGGY – “แต่ผมรู้สึกว่ามันเป็นเสน่ห์ของทีป๊อปนะ”
KRITTIN – “ใช่ มันเป็นเสน่ห์ของเราเรื่องนั้น แต่เราก็มีมุมแบบ bodyguard เท่ ๆ ละ พอสักพักนึง เปลี่ยนมู้ด เราก็มีหลายมู้ดให้คนได้ชิม”
PLUGGY – “ผมว่าเรื่องความกันเอง ความรั่ว ๆ ถือเป็นเสน่ห์ของทีป๊อปอีกอย่างนึง ไม่ค่อยเห็นที่ประเทศอื่น ก็รู้สึกว่าอันนี้แหละเป็นเสน่ห์ของทีป๊อป”
KRITTIN – “ใช่ ผมว่าทีป๊อป ผู้หญิงผู้ชายคือสนิทกันหมดเลย”
PERSES เคยคิดไว้ไหมว่าอยากพาวงไปให้ถึงจุดไหน มี goal ในใจที่เซตร่วมกันไหม
JUNG – “ผมว่า goal ไม่ได้เซตร่วมกัน แต่ว่ามีแนวทางที่ไปด้วยกัน อย่างเช่น ผมเชื่อว่าทุกคนในนี้ ปีหน้าอยากมีคอนเสิร์ตด้วยกัน ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะไปให้ถึงระดับ international เลย ให้คนต่างชาติได้รู้จักทีป๊อปมากขึ้น แล้วก็ได้รู้จักตัวตนของพวกเรา PERSES มาขึ้นด้วย”
อะไรคือความสุขที่สุดในการเป็น PERSES สำหรับเรา
PALM – “ความสุขก็คือการเป็นปาล์ม PERSES อะครับ การที่ได้เป็นตัวเองในอีกบทบาทนึง ก็คือการเป็นศิลปิน ผมรู้สึกว่าเวลาเราไปเพอร์ฟอร์มบนเวที มันก็เป็นความสุขอีกแบบนึงที่อธิบายได้ยากมากเลยครับ แต่ละเวทีมันก็มีความรู้สึกที่แตกต่างกัน ซึ่งผมคิดว่าตรงนี้เป็นความสุขสำหรับตัวเอง”
KRITTIN – “ผมทราบ ๆ สาวกรี๊ด เขาแฮปปี้แล้ว แกเต้นแล้วอยากให้สาวกรี๊ด”
PALM – “อันนั้นนานแล้ว ๆ”
NAY – “ผมมี ๆ การมาเป็น PERSES ตรงนี้ มันเป็นประสบการณ์นึงที่เราไม่สามารถหาได้จากการทำอย่างอื่น คือมันทั้งพาเราไปโชว์ต่างประเทศ พาเราไปเจอกับแฟนคลับหลาย ๆ ที่ ต่างจังหวัด หรือแม้แต่ในกรุงเทพเอง ที่ในแต่ละวันก็จะมีแฟนคลับหน้าใหม่มาตลอดเวลา ซึ่งมันเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ ที่เราได้เจอคนอื่น แล้วมันพาเราไปในจุดที่เราไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอ แต่พอได้เจอมัน แล้วได้ลองใช้ชีวิตในนั้นแล้ว มันทำให้แบบ เออ มันก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ ครับ แล้วก็ยิ่งได้ใช้กับอีก 4 คนที่เหลือ มันก็เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำครับ”
PLUGGY – “จริง ๆ การร้องเพลงกับการเต้นคือความสุขของผมอยู่แล้วครับ แต่ว่าช่วงหลัง ๆ มานี้ มีแอบคิดว่า ถ้าเกิดมีคนร้องเพลงตามเรา อันนี้เริ่มมีแล้ว แล้วก็เต้นตามเรา เอาท่าเราไปเต้น เช่น หัวไหล่ตูด ผมภูมิใจมาก so proud of หัวไหล่ตูดสุด ๆ เพราะว่าเห็นคนไปต่อแถวกับเพื่อน เต้นตบตูดกันเหมือนเรา ผมแบบ อุ๊ย น่ารักมาก (ปรบมือ) แล้วก็อีกอันนึงที่มีความสุขมาก ๆ เลย ก็คือการที่เราอยู่บนเวทีแล้วเรามองกลับมา เรายังเห็นอีก 4 คนอยู่ตรงนี้ อยู่กับพวกเราอะ เพราะว่าผมเป็นคนที่นึกภาพไม่ออกเหมือนกัน ว่าถ้าต้องเป็นศิลปินเดี่ยว ยืนอยู่คนเดียว มันจะเหงาแค่ไหน ผมเคยมีความฝันว่าถ้าได้เป็นศิลปิน อยากเป็นศิลปินกลุ่มที่ไม่ได้อยู่คนเดียว ก็เลย appreciate ทุกโมเมนต์ที่มองมาแล้วยังมีพวกเราครบ 5 คนอยู่”
JUNG – “ความสุขในการเป็น PERSES ของผม คือการที่ได้แชร์ความฝันร่วมกับคนที่เรารัก แล้วก็คนที่รักเรา เพราะว่าทั้งพวกเรา PERSES 5 คน รวมไปถึง PIECES แฟนคลับทุกคน หรือว่าทุกคนในค่าย ทุกคนจริง ๆ คือเรามีความฝันอยากเป็นศิลปิน แล้วเราได้แชร์สิ่งที่เรารักไปพร้อม ๆ กันกับทุกคน นี่คือความสุขมาก ๆ เลยเหมือนกันในการเป็น PERSES ครับ”
KRITTIN – “ของผม พื้นฐานผมเป็นคนชอบให้ความสุขคนอื่น แล้วผมก็ชอบให้คนอื่นให้ความสุขกลับมาที่ผม เป็นเหมือนการแชร์เอเนอร์จี้กัน เพราะเวลาเราอยู่บนเวที เราเต้น เราเห็นคนมีความสุข เราก็มีความสุข เราก็มีแรงมากกว่าเดิม เราจะเต้นแรงขึ้น ร้องให้ความสุขมากกว่าเดิม ยิ้มกว้างขึ้น ผมเป็นคนแบบ give and take อะไรฟีลนั้นอะครับ แล้วก็เป็นคนที่ชอบเห็นคนอื่นยิ้มให้ อะไรแบบนั้น นี่เป็นความสุขพื้นฐานหลัก ๆ”
ใกล้จะปีใหม่แล้ว มีเป้าหมายสำหรับปีหน้าหรือยังว่าอยากจะทำอะไรให้สำเร็จบ้าง
JUNG – “อยากปล่อยเพลงบ่อย ๆ แล้วก็อยากมีคอนเสิร์ตของ PERSES ครับ”
PLUGGY – “ของผมถ้า as ปลั๊กกี้ PERSES ก็อยากมีคอนเสิร์ตเหมือนกัน แล้วก็อยากให้ทุกคนได้เห็นอะไรในตัวพวกเราแบบเรียลขึ้นมาก ๆ เพราะว่าที่ผ่านมาคือเราเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เลย ก็ไม่คิดเหมือนว่าวันนึงจะมาเต้นหัวไหล่ตูดได้ หรือว่าเพลงโคโยตี้อะไรเงี้ย เป็นอีกมุมนึงที่ผมก็รู้สึกว่า เรายังสามารถ pull out อะไรหลาย ๆ อย่างในตัวพวกเรา PERSES ออกมาได้เรื่อย ๆ ครับ ก็อยากให้ทุกคนได้เห็นกันอีกหลาย ๆ มุม แล้วก็เพลงที่แตกต่างกันออกไปอีก แต่ถ้าของผมแบบ as ปลั๊กกี้เฉย ๆ ก็อยากนอนให้พอ อยากบริหารจัดการอะไรในชีวิตให้ดีกว่านี้ เพราะว่าด้วยความที่ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย คือผมอะถือ mindset ไว้ว่า ฉันจะต้องไม่สูญเสียชีวิตวัยรุ่นอีกต่อไปแล้ว เพราะว่าช่วงม.ปลายเราก็ติดโควิด ม.6 ผมต้องปัจฉิมออนไลน์ พี่ ผมเศร้ามาก แล้วผมรู้สึกว่า ผมอยากทำให้ทุกอย่างมันออกมาได้อย่างเต็มที่ที่สุด ในฐานะมนุษย์คนนึง เพื่อนคนนึง สมาชิกวง PERSES คนนึง แล้วก็ในฐานะลูกคนนึงด้วย ก็เลยพยายามบาลานซ์ทุกอย่างให้มันออกมาดีที่สุดครับ”
KRITTIN – “ผมก็เหมือนเพื่อน ๆ แหละ อยากมีคอนเสิร์ต แต่ถ้าเกิดเป็น goal ปีหน้าที่ตั้งไว้ของตัวเอง ผมอยากบาลานซ์ความสุขกับความเศร้าให้มันมีสมดุล อยากให้อารมณ์มันสมดุลกว่านี้ อยากเป็นคนคอนโทรลตัวเองได้ดีกว่านี้ อยากนิ่งขึ้น อยากเป็นคนที่ stable ขึ้น”
ถ้าสามารถอวยพร PIECES ได้คนละ 1 ข้อ อยากจะขอพรอะไรให้กับพวกเขา
NAY – “ขอให้รักตัวเองเยอะ ๆ ครับ อยากเห็นทุกคนรักตัวเอง มั่นใจในการเป็นตัวเอง แล้วก็ค่อยมาเจอกับเรา เราจะได้มาสนุกด้วยกันอย่างเต็มที่”
KRITTIN – “ขอให้เวลาของพวกเรามันตรงกัน โดยที่ทุกคนไม่ต้องพยายาม ไม่ต้องฝืนชีวิตตัวเองมา เพราะบางคนลางาน ป่วย เจ็บคอ แล้วก็ยังมาหาเราอยู่ เราเลยรู้สึกว่า อยากให้เวลาเราแมตช์กันแบบสบาย ๆ ทั้งสองฝ่ายบ้าง ไม่อยากให้ฝืนมา มาก็โอเค แต่ถ้าเห็นคุณป่วยแล้วส่งใบรับรองแพทย์มา เราก็แอบไม่สบายใจนิดนึง เพราะว่าคุณเป็นขนาดนี้แล้วยังมาหาเราอีก เราก็รู้สึกว่า เออ โอเค เราก็จะทำทุกอย่างให้ดีกว่าเดิม ให้คุณได้รับความสุขกลับไป แต่บางทีแบบ เรารักษาตัวเอง เราไม่ต้องฝืนมา แบบเจ็บป่วยอะไรมา เรามาแฮปปี้ด้วยกันดีกว่าครับ”
PLUGGY – “ผมอยากให้ PIECES มีความสุขในทุก ๆ วัน เยอะ ๆ ครับ เพราะเห็นเขาบอกว่า มาตาม PERSES แล้วมีความสุขมากเลย บางคนชีวิตเศร้ามาก แล้วพอเจอพวกเราก็ได้ inspiration ในการทำงานต่อไป ฉันจะทำงานเพื่อมาเจอพวกเราอะไรแบบเนี้ย แต่ว่าก็อยากให้ทุกคนได้มีความสุขไปเรื่อย ๆ แหละครับ ไม่ว่าจะจากพวกเราเอง หรือจากสิ่งรอบข้าง ถ้าเกิดว่าวันนี้พวกเรายังเป็นความสุข เป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้อยู่ พวกเราก็จะทำเต็มที่ แล้วก็หวังว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันไปนาน ๆ แต่ถ้าสมมุติว่าวันไหนที่รู้สึกว่า ความสุขของฉันไม่ใช่พวกเธออีกต่อไปแล้ว ก็ไม่เป็นไรครับ ก็ถือว่าอย่างน้อยเราก็เคยได้เป็นหนึ่งช่วงเวลา แล้วก็ความทรงจำดี ๆ ของกันและกัน”
JUNG – “อยากให้ PIECES สุขภาพแข็งแรงครับ แบบว่าทั้งกายแล้วก็ใจด้วยครับ ทางกายเนี่ย อย่างแรกเวลาที่เขามาเจอเรา บางทีเราเห็นเขาป่วยอย่างที่กฤตบอก หรือว่าเขาตะโกนจนเขาไม่มีเสียงแล้ว อันนี้ก็อยากให้รักษาตัวด้วย เอาที่ไหวเด้อ สนุกกันได้แหละ แต่ว่าเซฟ ๆ ในด้านจิตใจด้วย คือบางคนเขามีปัญหาเรื่องภาวะจิตใจต่าง ๆ เนี่ยแหละครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเคมีในร่างกายอะไรต่าง ๆ แต่ว่าถ้ายังเห็นว่าพวกเราเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วย cure เขาได้ ทำให้เขาดีขึ้นได้ ก็อยากให้ทุกคนลองมาเจอพวกเรา แล้วก็ลองมาฮีลใจไปด้วยกัน ก็อยากให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรงครับ”
PALM – “อยากให้ PIECES ใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุดครับ รู้สึกอยากทำอะไรก็ทำไปเลย อยากรู้สึกเศร้าก็เศร้าให้เต็มที่ อยากมีความสุขก็มีความสุขให้เต็มที่เลยครับ เกิดมาทั้งทีอะเนอะ ก็ใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุด เต็มที่ที่สุดครับ”
สุดท้ายให้ PERSES ฝากผลงานหน่อย จะมีอะไรให้เราได้ติดตามกันอีกบ้าง
NAY – “ก็ฝากเพลง ‘อย่าฝืน’ (Over) ที่เพิ่งปล่อยมา เป็นซิงเกิลที่ 2 จากอัลบั้ม ALTERLAND อยากให้ทุกคนได้ลองฟัง แล้วก็สามารถดู MV ได้ทาง YouTube: gnest_official นะครับผม แล้วก็สำหรับปีหน้า เราคิดว่าเราน่าจะแพลนปล่อยเพลงให้ทุกคนได้ติดตามกันเรื่อย ๆ เลย ไม่ทิ้งเวลาให้รอนานแน่นอนครับ”
KRITTIN – “อะไรใหม่ ๆ อะไรที่ทุกคนคิดไม่ถึง อะไรที่แบบ เฮ้ย! เซอร์ไพรส์ อะไรแบบนี้ ก็อยากให้รอติดตามกันครับ”