เพราะน้ำหยดเล็กๆ จากก๊อกน้ำหรือท่อน้ำที่ติดตั้งไม่แน่นหนา ไม่ว่าจะหยดลงอะไร เราไม่ควรเมินเด็ดขาด ถ้าปล่อยทิ้งไว้ในแต่ละวันจะสูญเสียน้ำไปประมาณ 75 ลิตร ยิ่งท่อน้ำมีขนาดใหญ่จะเสียน้ำไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 387 ลิตร คิดดูว่าสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุแค่ไหน?

สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผยผลสำรวจองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) (ข้อมูลสถิติปี 2557) พบคนไทยใช้น้ำเปลืองติด 1 ใน 10 ของโลกรองจากอินเดีย จีน สหรัฐฯ ปากีสถาน และญี่ปุ่น โดยส่วนใหญ่ถูกใช้ในภาคอุตสาหกรรมเกษตร อาหาร เพื่อการส่งออกเฉลี่ย 2,131 ลูกบาศก์เมตรต่อคนต่อปี นอกจากนี้ พบว่ายังไม่มีการจัดการทรัพยากรน้ำที่ดี โดยเฉพาะการพัฒนาเครื่องมือวัดร่องรอยการใช้น้ำ (Water Footprint) ตามแบบสากลอีกด้วย
สศอ. จึงร่วมกับสถาบันอาหาร จัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนด้วย "วอเตอร์ฟุตปริ้นท์" ในอุตสาหกรรมอาหารเพื่อการส่งออก โดยยกระดับผู้ประกอบการอาหารส่งออกไม่น้อยกว่า 24 ราย ให้มีการระบุวอเตอร์ฟุตปริ้นท์บนฉลากผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และยังใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารไปยังผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศว่า สินค้าของบริษัทมีการใช้น้ำมากน้อยเพียงใด เพื่อรองรับมาตรการกีดกันทางการค้าในอนาคตได้

Water Footprint (รอยเท้าน้ำ) เป็นค่าชี้วัดปริมาณการใช้น้ำทั้งทางตรงและทางอ้อมใน Supply Chain ซึ่งเริ่มตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนสินค้าส่งถึงมือผู้บริโภค โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ผลิตและผู้บริโภค ทราบถึงปริมาณน้ำที่ใช้จริงในกระบวนการต่างๆ และทราบต้นตอแหล่งทรัพยากรน้ำที่ใช้ จนสามารถหาวิธีการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างถูกต้องและเหมาะสมต่อไป แบ่งออกเป็น 3 ส่วน
1. วอเตอร์ฟุตพริ้นท์สีเขียว (Green Water Footprint) หมายถึง ปริมาณน้ำจากฝนที่ตกลงในพื้นที่เพาะปลูกและถูกเก็บกักในเขตรากถูกพืชดูดขึ้นมาใช้ในกระบวนการระเหย การคายน้ำ และการสังเคราะห์แสงของพืช
2. วอเตอร์ฟุตพริ้นท์สีน้ำเงิน (Blue Water Footprint) คือ ปริมาณน้ำจากแหล่งน้ำผิวดิน เช่น แม่น้ำ ทะเลสาบ อ่างเก็บน้ำ หรือแหล่งน้ำใต้ดินที่ถูกใช้ในการผลิตสินค้าแล้วสูญเสียไปในกระบวนการผลิต
3. วอเตอร์ฟุตพริ้นท์สีเทา (Gray Water Footprint) หมายถึง ปริมาณน้ำดีที่ต้องใช้ในการบำบัดน้ำเสีย ให้มีคุณภาพมาตรฐานตามที่กำหนด ก่อนปล่อยลงสู่แหล่งน้ำ
ตัวอย่างค่าเฉลี่ยระดับโลกสำหรับปริมาณน้ำเสมือนที่ใช้ในการผลิตสินค้าต่อหน่วยผลิตภัณฑ์ เช่น
การลด Water Footprint จึงเป็นเป้าหมายสำคัญในการจัดการน้ำทั้งในระดับประเทศในภาคธุรกิจและผู้บริโภค โดยภาครัฐควรส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน มีประสิทธิภาพและเป็นธรรม และลดความเสี่ยงในการทำลายสภาพแวดล้อม ส่วนผู้บริโภคสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่การลดการใช้น้ำโดยตรง ลดการทิ้งอาหารอย่างสูญเปล่า และลดการบริโภคสินค้าที่ต้องใช้น้ำมาก เป็นต้น
หากยังชะล่าใจปล่อยให้การขาดแคลนน้ำเข้าขั้นวิกฤติ ถ้าถึงวันนั้น... มนุษย์เราอาจต้องแย่งชิงน้ำเพียง 1 หยดก็เป็นได้
ที่มา :
https://www.bltbangkok.com/bangkok-update/4879
https://www.thairath.co.th/content/414249
http://irre.ku.ac.th/otpaper/pdf/Water%20Footprint-vv.pdf
https://www.g-able.com/digital-review/water-footprint
https://www.breeze.co.th/how-to-live-at-the-pool/green-conservation.html
http://moomon-ud.go.th/?p=85421
https://www.bbc.com/thai/international-49622222
https://waterfootprint.org/en/resources/interactive-tools/product-gallery
www.waterfootprint.org
