น้ำหยดลงหินทุกวัน หินบอกอย่าทำแบบนี้ เปลืองน้ำ!

GREEN HEART

น้ำหยดลงหินทุกวัน หินบอกอย่าทำแบบนี้ เปลืองน้ำ!

07 มี.ค. 2022

เพื่อนๆ คงเคยได้ยินประโยคที่ว่า ‘น้ำหยดลงหินทุกวัน หินบอกเป็นแค่พี่น้อง’ วลีเด็ดของคนทุ่มเทไปทั้งใจ แต่อีกฝ่ายยังเมิน วันนี้อยากชวนทุกคนลองมองในมุมของคนแคร์โลกมากกว่าหินดูบ้าง

เพราะน้ำหยดเล็กๆ จากก๊อกน้ำหรือท่อน้ำที่ติดตั้งไม่แน่นหนา ไม่ว่าจะหยดลงอะไร เราไม่ควรเมินเด็ดขาด ถ้าปล่อยทิ้งไว้ในแต่ละวันจะสูญเสียน้ำไปประมาณ 75 ลิตร ยิ่งท่อน้ำมีขนาดใหญ่จะเสียน้ำไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 387 ลิตร คิดดูว่าสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุแค่ไหน?

น้ำเป็นสิ่งสำคัญต่อทุกสรรพสิ่งบนโลก ถ้าโลกปราศจากน้ำ สิ่งมีชีวิตต่างๆ บนโลกก็จะไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ แต่การใช้น้ำมากเกินไป ก็อาจทำให้ขาดแคลนน้ำในอนาคตได้ สหประชาชาติคาดการณ์ไว้ว่า ภายในปี 2025 จะมีคนราว 2 พันล้านคนที่ขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง 

สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผยผลสำรวจองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) (ข้อมูลสถิติปี 2557) พบคนไทยใช้น้ำเปลืองติด 1 ใน 10 ของโลกรองจากอินเดีย จีน สหรัฐฯ ปากีสถาน และญี่ปุ่น โดยส่วนใหญ่ถูกใช้ในภาคอุตสาหกรรมเกษตร อาหาร เพื่อการส่งออกเฉลี่ย 2,131 ลูกบาศก์เมตรต่อคนต่อปี นอกจากนี้ พบว่ายังไม่มีการจัดการทรัพยากรน้ำที่ดี โดยเฉพาะการพัฒนาเครื่องมือวัดร่องรอยการใช้น้ำ (Water Footprint) ตามแบบสากลอีกด้วย

สศอ. จึงร่วมกับสถาบันอาหาร จัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนด้วย "วอเตอร์ฟุตปริ้นท์" ในอุตสาหกรรมอาหารเพื่อการส่งออก โดยยกระดับผู้ประกอบการอาหารส่งออกไม่น้อยกว่า 24 ราย ให้มีการระบุวอเตอร์ฟุตปริ้นท์บนฉลากผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และยังใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารไปยังผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศว่า สินค้าของบริษัทมีการใช้น้ำมากน้อยเพียงใด เพื่อรองรับมาตรการกีดกันทางการค้าในอนาคตได้

Water Footprint (รอยเท้าน้ำ) เป็นค่าชี้วัดปริมาณการใช้น้ำทั้งทางตรงและทางอ้อมใน Supply Chain ซึ่งเริ่มตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนสินค้าส่งถึงมือผู้บริโภค โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ผลิตและผู้บริโภค ทราบถึงปริมาณน้ำที่ใช้จริงในกระบวนการต่างๆ และทราบต้นตอแหล่งทรัพยากรน้ำที่ใช้ จนสามารถหาวิธีการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างถูกต้องและเหมาะสมต่อไป แบ่งออกเป็น 3 ส่วน

1. วอเตอร์ฟุตพริ้นท์สีเขียว (Green Water Footprint) หมายถึง ปริมาณน้ำจากฝนที่ตกลงในพื้นที่เพาะปลูกและถูกเก็บกักในเขตรากถูกพืชดูดขึ้นมาใช้ในกระบวนการระเหย การคายน้ำ และการสังเคราะห์แสงของพืช

2. วอเตอร์ฟุตพริ้นท์สีน้ำเงิน (Blue Water Footprint) คือ ปริมาณน้ำจากแหล่งน้ำผิวดิน เช่น แม่น้ำ ทะเลสาบ อ่างเก็บน้ำ หรือแหล่งน้ำใต้ดินที่ถูกใช้ในการผลิตสินค้าแล้วสูญเสียไปในกระบวนการผลิต

3. วอเตอร์ฟุตพริ้นท์สีเทา (Gray Water Footprint) หมายถึง ปริมาณน้ำดีที่ต้องใช้ในการบำบัดน้ำเสีย ให้มีคุณภาพมาตรฐานตามที่กำหนด ก่อนปล่อยลงสู่แหล่งน้ำ 

ตัวอย่างค่าเฉลี่ยระดับโลกสำหรับปริมาณน้ำเสมือนที่ใช้ในการผลิตสินค้าต่อหน่วยผลิตภัณฑ์ เช่น   

  • เบียร์ 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร) ใช้น้ำในกระบวนการผลิตทั้งหมด 75 ลิตร
  • นม 1 แก้ว (200 มิลลิลิตร) ใช้น้ำ 200 ลิตร
  • กาแฟ 1 แก้ว (140 มิลลิลิตร) ใช้น้ำ 140 ลิตร
  • ไวน์ 1 แก้ว (125 มิลลิลิตร) ใช้น้ำ 117 ลิตร
  • น้ำส้ม 1 แก้ว (200 มิลลิลิตร) ใช้น้ำ 170 ลิตร
  • ไข่ 1 ฟอง (40 กรัม) ใช้น้ำ 135 ลิตร
  • เสื้อยืดคอกลมทำจากเส้นใยฝ้าย 1 ตัว ใช้น้ำ 2,000 ลิตร
  • กระดาษ ขนาด A4 ความหนา 80 แกรม 1 แผ่น ใช้น้ำ 10 ลิตร เป็นต้น


การลด Water Footprint จึงเป็นเป้าหมายสำคัญในการจัดการน้ำทั้งในระดับประเทศในภาคธุรกิจและผู้บริโภค โดยภาครัฐควรส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน มีประสิทธิภาพและเป็นธรรม และลดความเสี่ยงในการทำลายสภาพแวดล้อม ส่วนผู้บริโภคสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่การลดการใช้น้ำโดยตรง ลดการทิ้งอาหารอย่างสูญเปล่า และลดการบริโภคสินค้าที่ต้องใช้น้ำมาก เป็นต้น

หากยังชะล่าใจปล่อยให้การขาดแคลนน้ำเข้าขั้นวิกฤติ ถ้าถึงวันนั้น... มนุษย์เราอาจต้องแย่งชิงน้ำเพียง 1 หยดก็เป็นได้


ที่มา :

https://www.bltbangkok.com/bangkok-update/4879

https://www.thairath.co.th/content/414249

http://irre.ku.ac.th/otpaper/pdf/Water%20Footprint-vv.pdf

https://www.g-able.com/digital-review/water-footprint

https://www.breeze.co.th/how-to-live-at-the-pool/green-conservation.html

http://moomon-ud.go.th/?p=85421

https://www.bbc.com/thai/international-49622222

https://waterfootprint.org/en/resources/interactive-tools/product-gallery

www.waterfootprint.org

album

0
0.8
1