คนไปทะเล ไม่หนีร้อน ก็หนีรัก ทำไมพื้นทื่สีฟ้าถึงเยียวยาใจได้?

GREEN HEART

คนไปทะเล ไม่หนีร้อน ก็หนีรัก ทำไมพื้นทื่สีฟ้าถึงเยียวยาใจได้?

26 เม.ย. 2024

เคยสงสัยมั้ยว่า ทำไมเราถึงสบายใจขึ้น เวลาไปเดินริมคลอง แม่น้ำ ลำธาร น้ำตก ชายทะเล หรือ ทะเลสาบ ความสงบผ่อนคลายที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดจากการที่เราคิดไปเอง เพราะมีงานวิจัยเกี่ยวกับพื้นที่สีฟ้านี้ ต่อเนื่องกันมานับสิบปี ว่าสามารถบำบัด เยียวยาหัวใจคนเราได้ ไม่ต่างจากพื้นที่สีเขียวเลย

 

เมื่อย้อนกลับไป ตลอดสิบปีที่ผ่านมา งานวิจัย BlueHealth จาก University of Exeter  ทำการศึกษาใน 18 ประเทศ ส่วนใหญ่ในยุโรป จากผู้สำรวจประมาณ 20,000 คน พบว่า การอยู่ใกล้พื้นที่สีฟ้า (หรือผืนน้ำ) เหล่านี้ทำให้พวกเขาความสุขมากกว่า อยู่ในเมือง อย่างชัดเจน 

 

งานวิจัยพบความเชื่อมโยง การได้อาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่ง 1-5 กม. กับ สุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดี และยังพบอีกว่าคนที่ไปชายหาดอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ มีสุขภาพทั้งกายและใจที่ดีกว่า คนที่ไม่ได้เจอพื้นที่สีฟ้าเลย และในงานวิจัยระบุว่า การใช้เวลาใกล้แหล่งน้ำอย่างน้อย 2 ชม. ต่อสัปดาห์ ช่วยให้สุขภาพดีขึ้น แม้แต่การแค่มองวิวทะเล ก็ทำให้สุขภาพจิตดีขึ้นแล้ว

 

สิ่งที่อาจเป็นสาเหตุ ว่าคนที่อยู่ใกล้พื้นที่สีฟ้า ดีต่อมนุษย์มากขึ้น คือ

1.อาจเป็นเพราะพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำ คุณภาพอากาศดีกว่า มีแสงแดดเยอะกว่า

2.คนที่อยู่ใกล้น้ำ มักจะมีกิจกรรมที่ต้องออกแรงเยอะกว่า ไม่ใช่แค่กีฬาทางน้ำ แต่ รวมถึงการเดิน การปั่นจักรยานที่เพิ่มขึ้นด้วย

3.น้ำมีคุณสมบัติเยียวยาจิตใจ ช่วยเพิ่มอารมณ์ด้านบวก ลดอารมณ์ด้านลบ และความเครียด ได้มากกว่าพื้นที่สีเขียว

 

ในบรรดาพื้นที่สีฟ้าทั้งหมด ผืนน้ำกว้างใหญ่ อย่างทะเล จะได้รับคะแนนโหวดมากที่สุด ว่าช่วยเยียวยาใจได้  และเมื่อเอาคอนเซปท์นี้มาประยุกต์กับการตกแต่งภายในอาคาร หรือ พื้นที่ใดๆ การเอาภาพธรรมชาติมาประดับตกแต่งสถานที่ ถ้าในภาพนั้น ไม่ได้มีแค่พื้นที่สีเขียว แต่มีภาพน้ำมาประกอบด้วย ก็ได้รับคะแนนโหวดมากกว่า หรือ การติดตั้งน้ำพุ ในสถานที่ต่างๆ ก็ทำให้สถานที่นั้นดูผ่อนคลายมากขึ้น

 

ทีมวิจัย Bluehealth ก็เชื่อว่าพื้นที่สีฟ้าจะสามาถใช้ประโยชน์กับการพัฒนาสุขภาพแบบองค์รวมด้านต่างๆได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมออกกำลังกาย การลดความอ้วน หรือ แม้แต่การที่นักจิตบำบัดที่นำพื้นที่สีฟ้ามาช่วยบำบัดให้สุขภาพจิตดีขึ้น ซึ่งในเบื้องต้นนักวิจัย ได้ลองตีมูลค่าของประโยชน์ที่ได้จากพื้นที่สีฟ้า อาจมีมูลค่ามากว่า 8 พันล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว

 

อีกงานวิจัยหนึ่งโดยนักจิตวิทยาสิ่งแวดล้อม  ศึกษาการเดินริมชายหาด เปรียบเทียบกับ การเดินบนบกทั่วไป โดยนำคนอายุ 21-82ปี จำนวน 100 คน ครึ่งนึงเดินริมทะเล อีกครึ่งเดินในแผ่นดินทั่วไป เช่นเดินป่า เดินในสวน  ทั้ง 2 กลุ่ม เดินด้วยระยะทางเท่ากัน พบว่า คนที่เดินริมทะเล จะผ่อนคลาย หลับดี นอนได้เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 47 นาที -เมื่อเทียบกับ การเดินบนบกด้วยระยะทางที่เท่ากัน กลับนอนเพิ่มเพียง 12 นาที เท่านั้น

 

แม้จะยังไม่มีใครรู้สาเหตุว่าทำไมการเดินริมทะเล ให้ผลในการผ่อนคลาย หลับสบายมากกว่า แต่ในเชิงจิตวิทยา อาจเป็นไปได้ว่า การเดินชายหาด อาจเชื่อมโยงในใจว่าเป็น“วันหยุดพักผ่อน”มากกว่า วันปกติธรรมดาที่เดินบนดิน เลยทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ก็เป็นได้ 

 

นอกจากนี้ยังพบว่า การเดินริมชายหาด ทำให้คนเรานึกถึง ครอบครัว อดีตในวัยเด็ก และมีการนึกทบทวน สะท้อน และ ตกตะกอนทางความคิดได้มากกว่า เดินบนแผ่นดินทั่วไป

 

และในธุรกิจสุขภาพปัจจุบัน ก็มีการเพิ่มตัวช่วยการนอนหลับ ด้วยการฟังเสียงธรรมชาติ โดยเฉพาะเสียงทะเลก็ช่วยทำให้หลับสบายได้จริงๆ เพราะมีซีดี และ แอพเสียงธรรมชาติต่างๆ ที่ช่วยการนอนหลับขายอยู่อย่างดาดดื่น

 

อย่างไรก็ตาม ในโลกปัจจุบัน พื้นที่สีฟ้าในเมืองใหญ่ หรือ แหล่งธรรมชาติเริ่มถูกเบียดเบียนโดยกลุ่มทุนเพิ่มมากขึ้น ราคาของอสังหาริมทรัพย์ ใกล้พื้นที่สีฟ้า มักมีราคาสูง ทำให้ทุกคนไม่สามารถเข้าถึง การบำบัดทางธรรมชาติได้อย่างเท่าเทียม บ้านของมหาเศรษฐี ยึดเอาพื้นที่ชายหาดสาธารณะ ไปเป็นหาดส่วนตัวของตัวเอง มีให้เห็นเป็นจำนวนมาก

 

อาจารย์ Sian Rees นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล จาก University of Plymouth  ย้ำว่า พื้นที่สีฟ้า เช่น ชายหาดเป็นพื้นที่ ที่บุคคลทุกชนชั้นควรเข้าถึงได้  ต้องเป็นพื้นที่สบายใจที่ทุกคนสามารถไปได้  และในอนาคตอันใกล้ หากพื้นที่สีฟ้าได้รับการยืนยันอย่างมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชัดเจน ก็อาจจะทำให้เราได้พื้นที่สีฟ้ากลับคืนมา เพื่อเป็นประโยชน์กับทุกคนอย่างแท้จริง

 

 

Source: The Guardian

album

0
0.8
1