ปัจจุบันภาวะโลกร้อนที่มาจากการใช้ชีวิตและกิจกรรมของมนุษย์ ได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือดูเหมือนจะเร็วมากกว่าปกติ ทั้งอุณหภูมิอากาศที่เพิ่มสูง ภัยธรรมชาติที่รุนแรงมากกว่าปกติ ล้วนมีผลกระทบต่อชาวโลกเป็นอย่างมาก
ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมได้คาดการณ์ว่า โลกเราจะร้อนขึ้นอีก ในช่วงต้นทศวรรษ 2030 ซึ่งอาจจจะส่งผลให้สภาพอากาศของโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง และทำให้เกิดภัยธรรมชาติที่รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย โดยในช่วงปี 2023 ที่ผ่านมาเริ่มมีเหตุการณ์ที่เป็นเหมือนสัญญาณเตือนจากโลกว่าภาวะโลกร้อน กำลังก่อให้เกิดภัยพิบัติรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ดังนี้
น้ำท่วมใหญ่ในประเทศลิเบีย
หลังจากที่ประเทศลิเบียได้เผชิญกับ พายุไซโคลนแดเนียล ไซโคลนที่รุนแรงที่สุดในรอบ 15 ปี เกิดฝนตกหนัก และส่งผลให้เขื่อนพัง เกิดเป็นกระแสน้ำเชี่ยว ท่วมเมืองเดอร์นาอย่างรวดเร็ว ราวสึนามิขนาดใหญ่ ที่พัดใส่บ้านเรือนของประชาชน โดยมีผู้บาดเจ็บ สูญหาย และเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้จำนวนมาก
สัตว์ป่าเสี่ยงสูญพันธุ์ และสัตว์ตายปริศนา
แม้กาลเวลาจะผ่านไปเรื่อย ๆ สัตว์หลากหลายชนิดก็สูญพันธุ์ตามเวลา แต่ก็ยังมีการสูญพันธุ์ที่ผิดธรรมชาติด้วย ตัวอย่างสัตว์ที่เสี่ยงสูญพันธุ์ เช่น
1.โลมาวากีตา (Vaquita) สัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม โลมาที่ขนาดเล็กที่สุด จากข้อมูลของ The Guardian พบว่า โลมาวากีตา เหลืออยู่เพียง 10 ตัวเท่านั้น
2.ซาวลา หรือ วัวหวูกวาง (Vu Quang ox) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ปัจจุบันไม่มีใครพบเห็นมานานแล้ว จากข้อมูลของ IUCN ได้ระบุไว้ว่า พวกมันอาจเริ่มลดลงตั้งแต่มีการค้นพบแล้ว
คลื่นความร้อนในเอเชียที่เพิ่มสูงขึ้น
ทวีปเอเชียหลายประเทศเช่น จีน ไทย ได้ถูกคลื่นความร้อนกระจายอยู่ในพื้นที่ สูงถึง 45 องศาเซลเซียส ถือว่าเป็นคลื่นความร้อนที่รุนแรงที่สุด
ปัญหาภาวะโลกร้อน ณ ตอนนี้ เราทุกคนบนโลกยังไม่สามารถทำให้มันหมดไปหรือทำให้มันหยุดได้ แต่เราสามารถทำให้มันเกิดขึ้นช้าลง ชะลอปัญหาโดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ประหยัดการใช้พลังงานให้ได้มากที่สุด ตระหนักและมองเห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น เพื่อทำให้โลกอยู่กับเราได้นานขึ้น และขอเพียงให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้เป็นเพียงคำเตือนจากโลกเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://www.sanook.com/news/9026294/
https://www.bangkokbiznews.com/environment/1084044
Author : SIRANKAMOL
