“ทำงานจากบ้าน VS ทำที่ออฟฟิศ อันไหนมีประสิทธิภาพมากกว่า”
ก่อนที่จะไปเรื่องสิ่งแวดล้อม ต้องมาถกกันก่อนว่าประสิทธิภาพของการทำงานทัดเทียม ดี หรือ ด้อยกว่า การทำงานที่ออฟฟิศมั้ย มีผลการศึกษา แตกออกเป็น 2 เสียง
มีทั้งกลุ่มที่สนับสนุนการทำงานจากบ้าน เพราะทำให้เกิดประสิทธิภาพงานมากขึ้น โดยมีหลายงานวิจัยสนับสนุน เช่น
งานวิจัยจากสแตนฟอร์ด ศึกษา คนงานกว่า 16,000 คน พบว่า ประสิทธิภาพของคนเพิ่มขึ้น 13% เมื่อได้ทำงานจากบ้าน เพราะเงียบสงบกว่า ทำงานได้นานกว่า พักเบรคน้อยกว่า และลาป่วยน้อยกว่า คน 77% สร้างผลลัพธ์งานได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานที่มีรายได้สูง นิยมทำงานจากบ้านมากกว่า เพราะมีความพร้อม มีอิสระในการทำงาน ลดเวลาการเดินทาง เริ่มงานได้เร็วขึ้น และเมื่องานเสร็จไวก็มีเวลาให้ตัวเองมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน หลายบริษัทมองว่า ประสิทธิผลของงานอาจลดลงในระยะยาว เพราะพนักงาน อาจเหี่ยวเฉาจากการขาดปฏิสัมพันธ์กับสังคม และมีบางงานวิจัยก็ออกมายืนยันว่า ประสิทธิภาพของพนักงานลดลง 18% เมื่อทำงานที่บ้าน ทำให้หลายบริษัทเริ่มมอง การทำงานแบบไฮบริด คือ ทำทั้งที่บ้าน + เข้าออฟฟิศ ผสมกันไป แต่ในอุตสาหกรรมบริการ เช่นภาคธนาคาร โรงแรม ศูนย์ราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพนักงานระดับสูง ผู้บริหารมองว่า ควรต้องทำจากที่ออฟฟิศเท่านั้น
“ทำงานจากบ้าน VS ทำที่ออฟฟิศ อันไหนช่วยลดโลกร้อนมากกว่า”
มีการศึกษาระหว่าง มหาวิทยาลัย Cornell และ Microsoft ร่วมกันเก็บข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบการทำงานของพนักงานระหว่างทำงานที่บ้านหรือทางไกลแบบ WFH กับทำงานที่สำนักงานแบบไหนปล่อยคาร์บอนมากกว่ากัน โดยเก็บข้อมูล ตั้งแต่ การใช้อินเทอร์เน็ต เทคโนโลยีการสื่อสาร การใช้พลังงานภายในบ้านและสำนักงาน การเดินทาง ระหว่างผู้ที่ทำงานทางไกล กับพนักงานที่ทำงานแบบไฮบริด
ผลการศึกษาพบว่า การทำงานระยะไกล หรือ Work from home 1 วันต่อสัปดาห์ช่วยลดคาร์บอนได้ 2%
แต่หากทำงานที่บ้าน 2-4 วันต่อสัปดาห์ จะลดคาร์บอนลงได้ถึง 29% แต่การทำงานแบบไฮบริด สำนักงานก็ยังจำเป็นต้องใช้พลังงานจำนวนมากตามปกติ เช่น เครื่องทำความร้อน แอร์ แสงสว่าง และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ต้องเปิดแม้จะมีคนทำงานอยู่น้อย
แต่หากทำงานจากบ้าน เต็มเวลาตลอดทั้งสัปดาห์จะลดคาร์บอนได้ 54%
แต่การทำงานในออฟฟิศก็สามารถลดคาร์บอนได้ หากบริษัทนั้น ๆ มีการจัดการที่ดี
ทีมศึกษาวิจัยของ Microsoft แนะว่าองค์กรต้องออกนโยบายที่เหมาะสมกับพฤติกรรมการทำงานของพนักงานยุคปัจจุบัน และสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ความยืดหยุ่นคือกุญแจสำคัญ งานวิจัยบางชิ้นก็ยังเผยว่า งานบางอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเมื่อได้ทำงานพร้อมหน้าพร้อมตากัน ดังนั้น บริษัทต้องสร้างสมดุลในการดูแลจัดการใช้พลังงานในองค์กร และนโยบายเพื่อพนักงาน เช่น มีระบบการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สนับสนุนการใช้จักรยาน อาจจะช่วยให้การลดคาร์บอนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
และเมื่อดูงานวิจัยต่างประเทศ องค์กรต่าง ๆ ในบ้านเรา อาจนำมาปรับใช้ เพื่อลดทั้งค่าใช้จ่าย ลดการใช้พลังงานขององค์กร เพิ่มคุณภาพชีวิตพนักงาน ซึ่งตอนนี้ มีหลายองค์กร เช่นบางธนาคารใหญ่ในไทย ให้พนักงาน IT ทำงานจากบ้านเป็นการถาวร หรือ กลุ่มโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่บางราย ยุบแผนกคอลเซ็นเตอร์ ในกรุงเทพ ให้ทำงานจากบ้านได้ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงสภาพการจราจร และน้ำท่วมของกรุงเทพ ที่ยังไม่มีวี่แววจะจัดการได้ในเร็ว ๆ นี้
ข้อมูลจาก :
https://www.pnas.org/doi/full/10.1073/pnas.2304099120
https://www.apollotechnical.com/working-from-home-productivity-statistics/
https://www.businessinsider.com/wfh-workers-less-efficient-than-people-in-office-new-research-2023-8#:~:text=A%20study%20published%20by%20the,of%20those%20in%20the%20office.
