ด้านมืดของขนมไหว้พระจันทร์

GREEN HEART

ด้านมืดของขนมไหว้พระจันทร์

16 ต.ค. 2023

วัฒนธรรมจีนสมัยใหม่ ขนมไหว้พระจันทร์ ถือเป็นขนมที่ใช้เชื่อมความสัมพันธ์ เพื่อสังสรรค์กันในหมู่ญาติครอบครัว ในช่วงเทศกาลหยุดยาว  และซื้อเป็นของฝากให้ผู้ใหญ่ ผู้มีพระคุณ

 

นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพความสัมพันธ์แล้ว ทั้งรูปลักษณ์ และ บรรจุภัณฑ์ ของขนมไหว้พระจันทร์รุ่นใหม่ ได้พัฒนา แข่งขันมาถึงขีดสุด ที่ขนาดผู้เล่นอย่างแบรนด์เนม ไฮเอนด์จากยุโรป หลากหลายเจ้าต่างกระโดดเข้าร่วมสมรภูมิขายขนมด้วย ยิ่งทำให้ราคาสินค้าถีบตัวขึ้นสูง จนขนมชนิดนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกสถานะทางสังคมอีกด้วย

 

ในปี 2022 ประเทศไทย ขนมไหว้พระจันทร์ทั้งตลาด มีมูลค่าเกือบ 1,000 ล้านบาท ต่อปี และมีแนวโน้มที่เติบโตสูงขึ้น ทั้งปริมาณ และ ราคา

 

แต่ปัญหาที่เป็นภัยมืดมาตลอดหลายปี เริ่มส่งสัญญาณมาจากฮ่องกง ศูนย์กลางต้นตำรับ ขนมไหว้พระจันทร์ยุคใหม่ ที่ประสบปัญหา สินค้าล้นตลาดมาสักพักใหญ่แล้ว นอกจาก ฮ่องกง จะเป็นแหล่งผลิตขนมไหว้พระจันทร์ขนาดใหญ่ ยังส่งออก ขนมเป็นสินค้าไปยังประเทศต่าง ๆ ด้วย

 

ปัญหาขยะอาหาร (Food Waste) 

 

รู้หรือไม่ ในการสำรวจปี 2016 พบว่า คนฮ่องกง 60% ไม่ชอบขนมไหว้พระจันทร์ และ 12% ไม่อยากได้เป็นของขวัญ

 

ตลอดหลายปีที่ผ่าน คนฮ่องกง ทิ้งขนมไหว้พระจันทร์ ปีละประมาณ 3 ล้านชิ้น และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี

 

ซึ่งฮ่องกง คืออีกเมือง ที่มีปัญหาขยะอาหารล้นเมือง ขยะอาหารมากปริมาณ กว่า 3 พันตัน ต่อวัน ถูกเอาไปฝัง ย่อยสลายเป็นก๊าซมีเทน และ ก๊าซเรือนกระจกประเภทอื่น ๆ ขึ้นไปทำลายชั้นบรรยากาศ

 

งานวิจัยยังบอกอีกว่า แหล่งที่สร้างขยะอาหารมากที่สุด แท้จริงมาจากครัวเรือน มากถึง 68% การแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ จึงอยู่ที่ การเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคเท่านั้น

 

ความจริงที่น่าสะเทือนใจเรื่องปัญหาขยะอาหาร ก็คือ ในขณะที่มีอาหารถูกทิ้งมากกมายในฮ่องกง แต่เกาะนี้กลับมีประชากรเกือบ 1 ใน 4 หรือ ประมาณ 1.65 ล้านคน เป็นคนยากจน ไม่มีอาหารกินเพียงพอ

 

ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา องค์กรการกุศล อย่าง Food Grace ได้รวบรวมขนมไหว้พระจันทร์กว่า 8 หมื่นชิ้น และกระจายไปให้องค์กรการกุศลกว่า 100 ที่  โดยพวกเขาได้นำขนมที่ยังไม่หมดอายุ ในสภาพดี ไปแจกจ่ายแก่ ผู้เปราะบาง ผู้ป่วย คนยากจน  แต่ปัญหานี้ ก็ยังไม่มีวี่แววที่จะลดลง

 

ปัญหาขยะบรรจุภัณฑ์ (Packaging Waste)

 

ขนมไหว้พระจันท์แต่ละยี่ห้อ ล้วนแต่พยายามแข่งขัน เพิ่มความอลังการให้กับหีบห่อขนมไหว้พระจันทร์มากขึ้นทุกปี โดยคาดว่า 30% ของต้นทุน หมดไปกับค่าแพคเกจจิ้ง ซึ่งยังไม่มีแบรนด์ไหนสนใจเรื่อง ปัญหาขยะจากบรรจุภัณฑ์ของพวกเขาเลย

 

หน่วยงานสิ่งแวดล้อมในสิงคโปร์ ชี้ว่า กว่า 40% ของแพคเกจจิ้ง หีบห่อขนมไหว้พระจันทร์ไม่มีความจำเป็น และสร้างขยะ ที่จัดการได้ยาก เพราะประกอบจากวัสดุหลายประเภท แม้แต่ในมาเลเซีย ก็ประสบปัญหาเดียวกัน ซึ่งทุกประเทศล้วนกำลังเผชิญวิกฤต การกำจัดขยะทั้งสิ้น

 

ผู้บริโภคในฮ่องกง มากกว่า 80% เห็นตรงกันว่า ภาครัฐควรหันมากวดขันเรื่องบรรจุภัณฑ์ ขนมไหว้พระจันทร์ มากกว่านี้   เพราะถ้าไม่มีกฎหมายเข้ามาควบคุม ก็ไม่มีทางจะหยุดเทรนด์การบริโภคนี้ได้เลย  ยกตัวอย่างเช่น กฎหมายในเยอรมัน ที่บังคับให้ธุรกิจมีส่วนร่วมแชร์ค่ารีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ของสินค้าตัวเอง 

 

ผู้บริโภคเองก็มีส่วนสำคัญ ในการเลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม ไม่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่สร้างขยะ ทำจากวัสดุรีไซเคิลยาก บริโภคแต่พอควร ไม่เหลือ และสร้างขยะอาหาร

 

ยิ่งถ้ามีระบบในการนำบรรจุภัณฑ์กลับเข้าสู่ระบบใหม่ มีการ ให้รางวัล ลดราคาสินค้า หากลดการใช้บรรจุภัณฑ์ใช้แล้วทิ้ง สนับสนุนให้คนนำกล่องมาใส่เอง -บังคับให้ผู้ผลิตสินค้า ระบุว่าส่วนใดของหีบห่อ ที่สามารถรีไซเคิลได้  ซึ่งส่วนใหญ่ วัสดุที่ปนเปื้อนอาหาร ก็มักรีไซเคิลไม่ได้ 

 

ถึงแม้ปัจจุบันจะยังไม่มีการสำรวจ เรื่องขยะอาหารจากขนมไหว้พระจันทร์ ในประเทศไทย แต่ไทยก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ประสบปัญหาขยะล้นเมือง โดยเมื่อทำการสำรวจขยะในไทย พบว่า กว่า 1 ใน 3 เป็นขยะจากอาหารทั้งนั้น


Credits :
 

https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/1026029#

 

https://www.scmp.com/lifestyle/food-drink/article/3234251/heartbreaking-how-stop-millions-mooncakes-becoming-food-waste-give-surplus-ones-hong-kong-food

 

https://www.greenqueen.com.hk/mooncakes-wasteful-excess-packaging-mid-autumn-festival/

 

https://www.thestar.com.my/news/nation/2023/09/28/tackling-mid-autumn-fest-waste

 

https://www.sophiepettit.com/post/the-dark-side-of-the-mooncake

album

0
0.8
1