‘นิรันดร์ (Niran)’ พวงหรีดสุดกรีนจากผ้าดิบห่อศพ งานจบส่งต่อ ไม่ก่อขยะเพิ่ม

การมอบ “พวงหรีด” ในงานศพ คือการแสดงออกถึงการไว้อาลัยและให้เกียรติผู้เสียชีวิต รวมถึงการแสดงถึงความรัก และความคิดถึงต่อผู้ล่วงลับ เป็นการบอกกล่าวว่าช่วงที่ผู้ตายยังมีชีวิตอยู่ได้เป็นบุคคลที่ทำคุณประโยชน์ต่อสาธารณะ เป็นมิตรและมีจิตใจเอื้อเฟื้อ ทำให้เป็นที่ระลึกถึงไม่เสื่อมคลายถึงแม้จะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม

ในอดีตเราอาจคุ้นเคยกับพวงหรีดในรูปของ “พวงหรีดดอกไม้สด” แต่ในปัจจุบัน ดอกไม้เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาขยะล้นเมือง เพราะดอกไม้พวงหรีด สามารถนำมาใช้ได้แค่ในงานศพ และหลังจากนั้นก็กลายเป็นขยะ ไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ กลายเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างมลพิษจากกลิ่นเน่าเสีย และมีผลกระทบทางอ้อมทำให้น้ำเน่าเสีย ซึ่งในแต่ละปีจะมีขยะจากพวงหรีดดอกไม้สูงถึง 125,320 ชิ้นต่อปี (อ้างอิงจาก : https://voicetv.co.th/read/SJudGVYdm)

จะดีกว่าไหม...หากพวงหรีดที่เราใช้แสดงความอาลัยต่อผู้วายชนม์ จะทำให้เราได้บุญ 2 ต่อ ทั้งช่วยลดขยะ ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม และสร้างบุญจากการบริจาคผ้าห่อศพต่อไป

วันนี้ Green Wave ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณเอิร์น อรนภัส บุญอนันตพัฒน์ เจ้าของแบรนด์ นิรันดร์ (Niran) ผู้เปลี่ยนผ้าดิบธรรมดา เป็นพวงหรีดสุดกรีน ที่ส่งต่อความรักความอาลัยได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด   

“นิรันดร์” ชื่อทีสื่อถึงการให้ที่ไม่สิ้นสุด

“นิรันดร์ (Niran)” ชื่อนี้เราเลือกด้วยความหมายของตัวคำเลยค่ะ คำว่านิรันดร์ แปลว่า ตลอดไป เหตุผลที่เราใช้ชื่อนี้เพราะเรามองว่า ความตาย ไม่ได้เป็นสิ่งที่มีแต่ความเศร้าเสมอไป และการมอบพวงหรีดจากนิรันดร์ จะเป็นการให้ต่อไปแบบไม่รู้จบ เป็นการส่งต่อไปเรื่อย ๆ อย่างถ้ามีบุคคลหนึ่งเสียชีวิต การมอบพวงหรีดจากนิรันดร์ จะสามารถนำผ้าดิบที่ใช้ทำพวงหรีด ไปบริจาคต่อเป็นผ้าห่อศพได้ เท่ากับได้ช่วยผู้วายชนม์ท่านอื่น ๆ อีก เป็นการให้ไปเรื่อย ๆ จึงเป็นเหตุผลที่เราใช้ชื่อเป็นนิรันดร์

จุดเริ่มต้นของ นิรันดร์

จุดเริ่มต้นของนิรันดร์มาจาก 2 ส่วน ส่วนแรกคือ ธุรกิจหลักของครอบครัวเราคือธุรกิจทอผ้า แล้วในปัจจุบัน ธุรกิจนี้ค่อนข้างที่จะซบเซาลง และไม่ค่อยเติบโตแล้ว ทำให้การดำเนินการในธุรกิจทอผ้าของเรามีความยากลำบาก ซึ่งที่ผ่านมาเราทำการขายแบบ B2B (Business-to-Business) ซึ่งไม่ได้ขายให้กับลูกค้าโดยตรง แล้วพอ เอิร์น มีโอกาสได้เข้ามาช่วยคุณพ่อคุณแม่ เลยอยากที่จะหา Product ที่เป็นมูลค่าเพิ่ม และสามารถขายให้กับผู้บริโภคโดยตรงได้

ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เราได้มีโอกาสทำเพจขึ้นมา ชื่อว่า ห่มบุญ ซึ่งเป็นเพจที่ขายถุงใส่ศพ และผ้าห่อศพ โดยที่ลูกค้าซื้อกับเรา แล้วเราจะไปประสานกับมูลนิธิต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย เพื่อทำการบริจาคถุงใส่ศพ และผ้าห่อศพให้แต่ละมูลนิธิ แล้วหลัง ๆ เราก็เริ่มมาทำให้กับโรงพยาบาล หรือ มหาวิทยาลัยที่มีคณะแพทยศาสตร์ ซึ่งพอเราได้ทำในส่วนนี้ก็ได้เรียนรู้ว่า มูลนิธิ หรือ หน่วยงานต่าง ๆ อย่างเช่น กู้ภัย ไม่ได้มีงบประมาณในการซื้อผ้าห่อศพ หรือ ถุงใส่ศพที่เพียงพอ เลยต้องมีการรับบริจาคจากหน่วยงานที่ใหญ่กว่าแทน อย่างเช่น มูลนิธิปอเต็กตึ๊ง หรือ โรงพยาบาลนิติเวช เราก็เลยเล็งเห็นถึงความยากลำบากของเจ้าหน้าที่

ส่วนที่สองคือ ในปัจจุบันนี้มีหลายที่ปฏิเสธการรับพวงหรีดดอกไม้ เราได้เห็นการรณรงค์ที่มากขึ้น และได้เห็นพวงหรีดทางเลือกมากขึ้น เช่น พวงหรีดพัดลม พวงหรีดช้อนส้อม พวงหรีดเสื่อ หรือ พวงหรีดต้นไม้ เราเลยมองว่าตลาดของพวงหรีดทางเลือกก็เป็นโอกาส แล้วคิดต่อว่ามีวิธีการอื่น ๆ อีกไหม ที่เราจะช่วยเหลือคนอื่นได้ จึงนำไปสู่การผสมผสานผ้าห่อศพที่เราได้ทำอยู่แล้วจากเพจห่มบุญ กับไอเดียพวงหรีดที่เราอยากจะช่วยในเรื่องการลดขยะ และทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น เลยกลายเป็น พวงหรีดนิรันดร์ ที่สามารถนำไปบริจาคเป็นผ้าห่อศพได้

นิรันดร์ ให้ความสำคัญกับเรื่อง ความเป็นธรรมชาติ

ในช่วงที่เรามีการคิด ศึกษา และทดลองทำพวงหรีดนิรันดร์ ในตอนนั้นมีหลายคนที่เสนอว่าทำไมถึงไม่ฟอกสีผ้าให้เป็นสีขาวไปเลยน่าจะสวยกว่า แต่ เอิร์น มองว่า ด้วยเทรนด์ผู้บริโภคในปัจจุบัน สีที่เป็นผ้าดิบเลยมันมีความธรรมชาติ ที่มีความมินิมอล และคลาสสิกได้ในแบบของผ้าดิบเอง และคนรุ่นใหม่ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นธรรมชาติ เอิร์น เลยรู้สึกว่าที่เราเลือกไม่ฟอกสีผ้าดิบเป็นการสร้างความแตกต่างเทียบกับพวงหรีดแบบอื่นได้ และ เอิร์น มองว่าความสวยงาม คือความเรียบง่าย และความสงบ ที่ทำให้ Product ดูหรูดูแพง ได้เหมือนกัน

และอีกเหตุผลที่เราเลือกใช้สีของผ้าดิบเลย เพราะเรามองเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย เพราะการฟอกให้ผ้าขาว มันเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เคมี และสร้างมลพิษเพิ่มเติม เราเลยมองว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องฟอกสีผ้าดิบที่ใช้ทำพวงหรีดของเรา

ตอนนี้พวงหรีดของนิรันดร์ มีกี่แบบ

ปัจจุบันมีพวงหรีด 5 แบบค่ะ และจะมีแค่ 2 ราคา คือราคา 1,900 บาท ซึ่งจะมี 4 แบบให้เลือก ซึ่งทั้ง 4 แบบ จะทำมาจากผ้าห่อศพ 5 ผืน อีกราคาคือ 2,900 บาท ซึ่งสามารถนำผ้าห่อศพไปบริจาคต่อได้ถึง 10 ผืน ค่ะ

ในการทำพวงหรีดของนิรันดร์ เราได้มีการคิดว่า ถ้ามีการตัดการเย็บเกิดขึ้น มันจะสร้างขยะเพิ่มขึ้น เราพยายามที่จะทำให้การสร้างขยะมันน้อยที่สุด จึงเลือกใช้หมุดในการยึดพวงหรีดของเรา และหมุดนี้สามารถนำมาดัด และกลับไปใช้ต่อได้ ไม่ว่าเจ้าภาพจะนำไปใช้ต่อเอง หรือ บริจาคให้กับทางวัด ซึ่งในกรณีที่ทางวัดจะต้องมีการตกแต่ง หรือประดับจุดต่าง ๆ ก็สามารถนำหมุดพวกนี้ไปใช้งานต่อได้อีก

ส่วนพวงหรีดของนิรันดร์ หากแกะหมุดออก ผ้าดิบที่ได้จะแยกเป็นผืน ๆ ซึ่งจะเป็นผ้าที่ได้ขนาดมาตรฐานอยู่แล้ว ผ้า 1 ผืน จะมีความยาว 3 หลา ซึ่งเป็นขนาดที่สามารถใช้บริจาคได้เลย เพราะจะสามารถห่อศพได้ทุกร่างอยู่แล้วค่ะ 

ผ้าห่อศพจากพวงหรีดนิรันดร์ สามารถบริจาคได้ที่ไหนบ้าง

สำหรับช่องทางในการบริจาคผ้าดิบ สามารถบริจาคได้หลายหน่วยงาน ทั้งในส่วนของวัด , สถาบันนิติเวชวิทยา ถ.อังรีดูนังต์ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร หรือตามมูลนิธิร่วมกตัญญูต่าง ๆ ซึ่งจะมีการรับบริจาคอยู่ตลอด นอกจากนี้ จุดรับบริจาคเราจะมีแจ้งไว้ที่หน้าเว็บไซต์ และพวงหรีดจากนิรันดร์ จะมีป้าย QR CODE ที่สามารถสแกน แล้วสอบถามแอดมินได้ เพื่อให้แอดมินช่วยประสานงาน เพราะเรามีหน่วยงานที่เป็นพาร์ทเนอร์ ที่สามารถสอบถามจุดที่ขาดแคลนผ้าห่อศพเป็นพิเศษ หรือสถานที่รับบริจาคที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงลูกค้าที่สุด ซึ่งแอดมินจะสามารถช่วยประสานงานในส่วนนี้ได้ด้วยค่ะ

มุมมองของ คุณเอิร์น ต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน

สำหรับ เอิร์น มองว่า การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน ประเทศไทยมีพัฒนาการที่ดีขึ้น คนเริ่มใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เรามีทางเลือกในการรักษาธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่ เอิร์น รู้สึกว่าอาจจะไม่สามารถทำได้เสมอไป อย่างเช่น มีหลายคนที่อยากจะรักษ์โลก รักษ์ธรรมชาติมากขึ้น แต่อาจจะต้องเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตที่มากเกินไป ทำให้หลาย ๆ คน รู้สึกว่าการรักษ์โลกมันกลายเป็นเรื่องไกลตัว

ซึ่งส่วนตัว เอิร์น ตั้งแต่เริ่มทำนิรันดร์ เราพยายามตอบโจทย์ตรงนี้ ที่จะทำให้คนที่สนใจรักษ์โลก ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนพฤติกรรมอะไรมาก และให้ตัว Product มีความรักษ์โลกมากขึ้น และเราทำให้เป็นทางเลือกที่ง่ายต่อการเปลี่ยนแปลง

เอิร์น อยากให้ทุก ๆ ภาคส่วน มีส่วนในการค่อย ๆ เริ่ม อาจจะไม่ต้องเริ่มด้วยก้าวยิ่งใหญ่ก็ได้ แต่เป็นก้าวเล็กที่มีความหมาย เป็นก้าวเล็ก ๆ ที่ทำจริง ๆ ในสิ่งที่เราสามารถทำได้ และต้องมั่นใจว่าสิ่งที่ทำสามารถช่วยลดขยะ ลดมลภาวะ หรือรักษาสิ่งแวดล้อมได้ ถ้าทุกคนเริ่มก้าวเล็ก ๆ ร่วมกันทั้งประเทศ เอิร์น เชื่อว่ามันจะกลายเป็นก้าวใหญ่ ๆ ของประเทศไทย ที่จะก้าวไปสู่การเป็นประเทศที่มีความยั่งยืนมากขึ้นในแง่ของสิ่งแวดล้อม

ในส่วนของการทำธุรกิจ แน่นอนว่าเรามีการมองถึงผลกำไรอยู่แล้ว แต่การทำธุรกิจต้องไม่สร้างผลกระทบ หรือสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นมากเกินไป และในส่วนของ นิรันดร์ จากที่เราให้ความสำคัญกับ Circle of Compassion จึงได้มีการทำแคมเปญล่าสุด โดยเรามีการทำงานร่วมกันกับ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร เพราะเรามองว่าการซื้อพวงหรีดจากนิรันดร์ ไม่ได้เป็นการแสดงความอาลัย หรือช่วยลดขยะได้ เท่านั้น แต่เราต้องการให้รายได้ส่วนหนึ่งของนิรันดร์ สามารถร่วมสมทบทุนให้กับผู้พิทักษ์ป่า เพื่อนำไปเป็นทุนการศึกษาของบุตรธิดา ของเหล่าผู้พิทักษ์ป่า ซึ่ง เอิร์น ได้พูดคุยกับ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร และได้ทราบปัญหาว่า ผู้พิทักษ์ป่า เป็นตำแหน่งที่ได้ผลตอบแทนน้อย มันน้อยจนน่าใจหาย แล้วอาชีพนี้มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง 
ในทุก ๆ ปี จะมีผู้พิทักษ์ป่าที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ และได้รับค่าชดเชยที่ไม่เพียงพอที่จะส่งต่อถึงครอบครัว และบุตรธิดา แล้ว เอิร์น เชื่อมั่นว่าเด็กทุกคนเป็นอนาคตของชาติ แล้วการที่เราจะมีอนาคตของชาติที่ดีได้ ควรเริ่มต้นจาการได้รับการศึกษาซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุด ดังนั้น ทุก ๆ การขาย 1 พวงหรีด เราจะแบ่งเงินออกมา 50 บาท เพื่อนำไปสมทบทุนการศึกษาให้กับบุตรธิดาของผู้พิทักษ์ป่าที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในแคมเปญที่เราเริ่มทำ ซึ่งในอนาคต เอิร์น มีแพลนอีกค่อนข้างเยอะที่อยากส่งต่อ เพราะในแง่ของความยั่งยืน ไม่ใช่แค่ธุรกิจของเราที่สามารถยั่งยืนได้ เราต้องทำให้ทุก ๆ คน ยั่งยืนไปพร้อม ๆ กันทั้งห่วงโซ่ ตั้งแต่ต้นจนจบค่ะ 

 ผลตอบรับ จากการทำพวกหรีดรักษ์โลก ‘นิรันดร์’

ในช่วงอาทิตย์ที่สาม หลังจากเปิดตัว เป็นช่วงที่พวงหรีดนิรันดร์ กลายเป็นไวรัล ซึ่งกระแสตอบรับดีมาก เรากลายเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วมาก ๆ ส่วนในช่วงหลัง ๆ อาจจะไม่ได้มีกระแสเท่าตอนเปิดตัว แต่ก็ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ซึ่ง เอิร์น มองว่าผลตอบรับที่ผ่านมาเป็นที่น่าพอใจ และ เอิร์น ดีใจมาก ๆ สำหรับฟีดแบคที่ได้กลับมาจากลูกค้าทุกคนค่ะ

การพัฒนาต่อในอนาคต ของ นิรันดร์

ในส่วนของ Product ในอนาคตเราจะมีการพัฒนาเรื่องการออกแบบเพิ่มขึ้น ให้มีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น และมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น และจะมีรูปแบบที่มีจำนวนผ้าดิบ และราคาที่หลากหลายขึ้น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า ซึ่งตอนนี้พอแบรนด์ของเราเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้น ทำให้หลายคนเริ่มพยายามลอกเลียนแบบเรา เราจึงดำเนินการยื่นจดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว เพราะเรากังวลใจมาก ๆ กับการคัดลอกผลงานค่ะ ซึ่งในอนาคต ผ้าของนิรันดร์ จะมีการพัฒนาให้เกิดเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เอง เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่านี่คือ Product จากนิรันดร์จริง ๆ และสิ่งที่กำลังพยายามเร่งทำอยู่คือการทำให้พวงหรีดนิรันดร์ สามารถซื้อได้ทั่วประเทศไทย ซึ่งเรากำลังดำเนินการในการหาตัวแทนจำหน่ายอยู่ค่ะ

และในส่วนของแคมเปญ เอิร์น ก็มีแพลนไว้แล้วว่าอยากจะสร้างประโยชน์ในทุก ๆ จุด อย่างที่ทำไปแล้วคือเรื่องการศึกษา ในอนาคต เราอยากจะไปปลูกสาหร่ายทะเล หรือ ทำธนาคารปู เพื่อเป็นการช่วยสิ่งแวดล้อมโดยตรง และอยากให้ความรู้กับผู้บริโภคของเรา ว่าปัจจุบันมีปัญหาสิ่งแวดล้อมอะไรบ้างในสังคม และเราก็อยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะเข้าไปช่วยเหลือ อาจจะไม่ได้สร้างการรับรู้ที่กว้างมาก เพราะเราก็ยังไม่ใช่แบรนด์ใหญ่ แต่ก็เป็นความตั้งใจในอนาคตที่เราได้แพลนไว้ค่ะ

“อยากจะฝาก นิรันดร์ ให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับทุก ๆ ท่าน ในโอกาสที่จะต้องใช้พวงหรีด และอยากให้มาเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดขยะที่เกิดขึ้นหลังจากงานศพ และสามารถให้ทุกท่าน ทำบุญต่อได้ ฝาก นิรันดร์ ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุก ๆ ท่านด้วยนะคะ” - คุณเอิร์น อรนภัส บุญอนันตพัฒน์

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของ 'นิรันดร์' พวงหรีดรักษ์โลก ได้ที่

Facebook : www.facebook.com/niranofficial.th

Line official : @niranwreath