จากรายงานสภาพอากาศในปี 2022 ของ IQAIR บริษัทเทคโนโลยีที่เก็บรวบรวมคุณภาพอากาศรอบโลก มีจุดวัดคุณภาพอากาศ กว่า 3 หมื่นที่ ในกว่า 7 พันเมือง พบว่า 90% ของประชากรโลกมีความเสี่ยงด้านสุขภาพจากอากาศที่หายใจ และเริ่มมีความต่างของคุณภาพอากาศระหว่างเมืองร่ำรวย และเมืองยากจนมากยิ่งขึ้น
ยกตัวอย่าง ค่าเฉลี่ย PM2.5 ตลอดปี 2022 ของเมืองเหล่านี้เช่น ซานฟราสซิสโก 8.1 , ลอนดอน 9.6 , นิวยอร์ค 9.9 , ปารีส 12.5 , ในขณะที่ กรุเทพ 18.0 , เชียงใหม่ 18.4 โดยที่ค่ามาตรฐาน PM2.5 ตลอดทั้งปี ขององค์การอนามัยโลกคือ ไม่เกิน 5
ซึ่งพบว่า ในปี 2022 เมื่อวัดค่า PM2.5 ในประเทศร่ำรวยมีค่าอากาศดีขึ้นกว่าปีก่อนหน้า(2021) โดยอุตสาหกรรมในประเทศเหล่านี้ ปรับเปลี่ยนตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลกมากขึ้น คมนาคม/ขนส่งเปลี่ยนเป็นระบบไฟฟ้า
ขณะที่ประเทศกำลังพัฒนายังตามไม่ทัน การเผาชีวมวล เพื่อการเกษตร ยังคงเป็นสาเหตุหลักของมลพิษทางอากาศของประเทศกำลังพัฒนา
ในขณะที่จีน มีการพัฒนาด้านอากาศดีขึ้น มลพิษลดลงตลอด 7 ปีที่ผ่านมา เพราะมีการจัดการจริงจังกับอุตสาหกรรมที่ปล่อยมลพิษ และเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียน เพิ่มยานยนต์ไฟฟ้า แต่ก็ยังมีการเผาถ่านหินที่สร้างปัญหาหนักในประเทศ
ด้านอินเดีย ที่เมือง นิวเดลี และ แบกแดด มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าที่ WHO กำหนดถึง 18 เท่า - ซึ่งในบรรดาประเทศอากาศแย่ที่สุดในโลก 15 เมือง มีอินเดียติดอยู่ในโผถึง 12 เมือง
ในปี 2022 มีเมืองที่อากาศแย่ที่สุดในโลก มาล้มแชมป์เก่าอย่าง เมืองนิวเดลี ในปีก่อนหน้า คือ เมือง เอนจามินา ประเทศแชด ในอาฟริกา หนึ่งในประเทศที่ยากจนสุดในโลก โดยสาเหตุหลักของอากาศแย่มาจากพายุฝุ่นจากทะเลทรายซาฮาร่า
กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง มีเมืองที่ติดกลุ่ม 20 เมือง อากาศแย่ที่สุดในโลก ในปี 2022
ขณะที่เพื่อนบ้านใกล้เราอย่าง ฮานอย เวียดนาม เป็นเมืองอากาศแย่อันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอยู่ในกลุ่ม 18 เมืองรั้งท้ายอากาศแย่ที่สุดในโลก
ในปีที่ผ่านมา ประเทศที่มีค่าอากาศ ตามเกณฑ์ WHO มีแค่ 6 ประเทศ จาก 131 ประเทศ คือ เกรนาดา นิวซีแลนด์ เอสโทเนีย ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ ออสเตรเลีย (ไม่ถึง 5% จากประเทศทั้งหมดที่สำรวจ)
และถ้านับเป็นเมือง ก็มีเมือง ฮามิลตัน ในเบอร์มิวด้า เมือง ซานฮวน จาก เปอร์โตริโก้ , เมือง เรคาวิค จากไอซ์แลนด์ที่มีอากาศบริสุทธิ์อันดับต้นๆ ส่วนเมืองที่อากาศทั้งปีดีที่สุดในโลกคือ แคนเบอรา ออสเตรเลีย ที่เอาชนะ แชมป์เก่าอย่างเมือง โนเมีย จาก ประเทศ นิวแคลิโดเนีย หมู่เกาะใน มหาสมุทรแปซิฟิก
ส่วนช่วงอากาศที่ดีที่สุด ในกรุงเทพ อยู่ระหว่าง มิ.ย.-ส.ค. เพราะมีลม และฝน เข้ามาช่วยบรรเทามลพิษ
องค์การอนามัยโลกประมาณยอดเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับ มลพิษทางอากาศรอบโลก มากถึง 7 ล้านคนต่อปี ขณะที่ธนาคารโลก ประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจจากมลพิษนี้ ที่ราว 8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
ที่มา: IQ AIR
สามารถคลิกเข้าไปดู เปรียบเทียบสภาพอากาศในแต่ละเมืองได้ที่: https://www.iqair.com/th-en/world-air-quality-report