เปิดมุมมอง ส่องวิธีคิดของสองตัวมัม “หนิง ปณิตา” และ “ธัญญ่า ธัญญเรศ” จากเพื่อนรักสุดซี้ สู่คู่จิ้นยูริเพื่อนหญิงพลังหญิง

Club Pride Day Recap

เปิดมุมมอง ส่องวิธีคิดของสองตัวมัม “หนิง ปณิตา” และ “ธัญญ่า ธัญญเรศ” จากเพื่อนรักสุดซี้ สู่คู่จิ้นยูริเพื่อนหญิงพลังหญิง

20 มิ.ย. 2024

“อยากให้เด็กสมัยนี้ พยายามอย่าเสพสื่อที่เป็นดราม่า ที่มีคนด่าเยอะ มีคนวิจารณ์กันเยอะ ๆ อย่าไปอ่านเลย แป๊บเดียวเดี๋ยวมันก็เงียบ เพราะเป็นห่วงว่าเด็กสมัยนี้ถ้าจิตใจไม่เข้มแข็งพอ อาจจะเจอกับภาวะซึมเศร้าจนนำไปสู่การคิดสั้น

พ่อแม่ชอบคิดว่าลูกมีปัญหา แล้วเอาลูกไปพบจิตแพทย์ โดยที่บางครั้งลืมคิดไปว่าพ่อแม่เองนั่นแหละที่มีปัญหา ดังนั้นถ้าคิดจะพาลูกไปพบจิตแพทย์ตัวเราต้องไปด้วย แล้วถ้าปัญหามันส่งผลถึงใคร คนรอบข้างต้องไปหมด”

 

 

เปิดคลับให้ได้ฟังสีสันของชีวิต และเติมข้อคิดแรงบันดาลใจในทุกสัปดาห์ สำหรับรายการ Club Pride Day คุยอย่าง Proud เมาท์อย่าง Pride ทอล์คกระทบไหล่กับตัวแม่ กับสองดีเจสุดแซ่บ “ดีเจพี่อ้อย” และ “ดีเจก็อตจิ” ที่ได้เปิดไมค์ต้อนรับแขกรับเชิญสุดจิ้นที่สร้างความฟินให้กับแฟนคลับทั่วประเทศ “หนิง ปณิตา” และ “ธัญญ่า ธัญญเรศ” สองนักแสดงตัวแม่มากความสามารถ ถูกจับเป็นคู่จิ้นอีกคู่หลังจากเล่นซีรีส์วายเรื่องใหม่ “Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา” และมีฉากเลิฟซีนจูบสุดหวาน จนกลายเป็นไวรัล และมีด้อม “ธัญญ่า-หนิง” คู่ยูริคู่ใหม่ของวงการ เรื่องราวสีสันของชีวิต พร้อมข้อคิดแรงบันดาลใจจากทั้งคู่ได้ถูกแชร์ไว้ในรายการด้วย

 

Deep Night The Series กับเรื่องราวของสองเรา

ธัญญ่า “Deep Night The Series เรื่องราวหลักเลย มันเป็นเรื่องราวของผู้ชายซะส่วนใหญ่ แต่ว่าในพาร์ทของตัวละคร มาดามเฟรยา เค้าเป็นเจ้าของบาร์โฮสต์ แล้วก็จะมีเรื่องราวพาร์ทของ เฟรยา กับ เมจิ ในสมัยอดีตตอนเป็นนักเรียนเราเรียนมาด้วยกันแล้วก็เกิดชอบกันขึ้นมา แต่สุดท้ายมาดามเฟรยาจะต้องไปแต่งงานแล้วไปมีลูก ทั้งคู่เลยต้องห่างกันไป แล้วในซีรีส์จะเป็นเรื่องราวพาร์ทที่เรากลับมาเจอกัน แล้วปฏิบัติเหมือนเป็นแฟนกัน แต่ว่าตัวเฟรยาก็เกรงใจลูกด้วย เฟรยา ก็เลยต้องเรียก เมจิ ว่าเพื่อน มันก็เลยจะมีความน้อยใจให้เห็น แล้วพอซีรีส์มันจบไป ก็เกิดกระแส เกิดด้อมของ หนิง-ธัญญ่า เราก็เลยรู้สึกว่า ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเราสร้างพาร์ทของสองคนนี้ มาเล่าให้มันขนานไปกับเรื่องราวในซีรีส์ดีกว่า ก็เลยเกิดเป็น Side Story ที่จะลงทางช่อง Youtube ของ Deep Night The Series ก็จะเป็นเรื่องราวของเราสองคน ที่ไม่ได้เล่าในซีรีส์ตัวหลัก โดยจะมีทั้งหมด 6 EP. ให้ติดตามกันค่ะ”

 

หนิง “ต้องยอมรับว่าช่วงปีที่ผ่านมาที่หนิงมีข่าว ก็จะต้องมีชื่อพี่ธัญญ่า อยู่เคียงข้างเสมอ แล้วบ้านเราสองคนก็อยู่ใกล้กันมากแบบเดินไปหากันได้ แล้วคนคงชินกับภาพโมเมนต์เวลาพวกเราฟาดฟันเป็นส่วนใหญ่ แต่พอเห็นมุมเลิฟ ๆ มุมหวานของพวกเรา คนก็เลยฟินกัน อาจจะเป็นเพราะต่างคนต่างทำงานกันมาเยอะ ทำให้พอเข้าฉากแล้วมันไม่เขิน”

 

ธัญญ่า “พวกเราอายุใกล้เคียงกัน เจอปัญหาที่ใกล้เคียงกัน เลยทำให้เราสนิทกัน ตอนที่หนิงมีปัญหา ทำให้เราได้คุยกันบ่อย เจอกันบ่อย มันก็สนิทกันไปโดยปริยาย แล้วพอวันที่เราจะเล่นซีรีส์ เราก็ชวนว่าหนิงมาเล่นเป็นแฟนให้หน่อยสิ หนิงก็ตกลง แล้วทีแรกหนิงจะไม่เอาค่าตัวด้วย เค้ามาด้วยใจมาก หลังจากพอได้มาอ่านบทกัน ได้เวิร์คช็อป แล้วลองเล่นมันก็ไปตามฟีลลิ่ง ที่ผู้กำกับแทบจะไม่ต้องบอกอะไรเลย”

 

หนิง “แล้วเรื่องความรัก หนิงมองว่าทุกเรื่องราวความรัก มันไม่ต้องจบลงด้วยเรื่องชู้สาว หรือต้องเป็นแฟนกัน หนิงว่าหมดสมัยแล้ว ความรักสมัยนี้แค่อยู่กันแล้วขอให้แฮปปี้ ไม่ทำผิดต่อศีล 5 ข้อ แค่นั้นก็พอแล้ว”

 

 

ล้วงเบื้องหลังฉากชวนจิ้น ที่แฟนคลับฟินจนเกิดไวรัล

ธัญญ่า “มันก็จะมีซีนที่ธัญญ่า กับ หนิง ต้องจูบกัน ซึ่งด้วยฉากเขาเขียนอธิบายว่าให้เอาจมูกชนกัน แล้วในความรู้สึกของธัญญ่าเอง เราก็รู้สึกว่า ถ้าฟีลนี้มันต้องจุ๊บกันแล้ว แต่เราก็ไม่กล้า เหมือนเราก็ไม่รู้ว่าเขาคิดยังไง เพราะว่ามันพึ่งเป็นการเข้าฉากด้วยกันครั้งแรก แล้ววันนั้นพอจมูกชนสักพัก เราก็รู้สึกว่าหนิงก็ยื่นปากมา แล้วในเมื่อยื่นปากมา เราก็จุ๊บซะเลย”

 

หนิง “ในมุมของการเล่น ไม่ว่าจะซีรีส์ หรือละคร พอเวลาที่เราเป็นตัวละครตัวนั้น มันเหมือนเรารู้แล้วว่ามุมกล้องมันจับเรามุมไหน แล้วถ้าเราไม่อยากตายมุมกล้อง มันต้องเล่นตลอดเวลา มันก็ต้องหาลูกเล่นให้มันมีจริตแพรวพราวไว้บ้าง เวลาเล่นถึงต้องเล่นแบบนั้น แต่มันอยู่ที่คู่เล่นด้วย สมมติว่าถ้าเล่นแบบนี้ แล้วคู่ที่เล่นเป็นผู้ชาย เราก็อาจจะไม่เล่นแบบนั้น

ถ้าในมุมของหนิงที่เป็นผู้จัดด้วย หนิงว่าการแสดงในรูปแบบซีรีส์หญิงกับหญิง กับในรูปแบบละครทั่วไปไม่ต่างกัน เพราะว่าสุดท้ายแล้วมันก็ต้องเคมีพระนาง จะเป็น หญิงกับหญิง จะเป็น ชายกับชาย หรือว่า คู่ชายหญิง หนิงว่ามนุษย์มันเปิดกว้างในเรื่องของความรักอยู่แล้ว มันอยู่ที่เคมี ถ้าเคมีมันไม่ได้ มันก็ต้องขยี้เคมี”

 

ธัญญ่า “ในส่วนของธัญญ่าเอง ตอนแรกพอเราต้องเล่นด้วยกัน ก็จะรู้สึกเอ๊ะ เพราะเราไม่เคยเล่นแบบนี้มาก่อน แต่พอมันเป็นกับหนิง เราถึงกล้าเล่น แต่ในความกล้ามันก็มีความแบบเอ๊ะจะดีหรือเปล่า เอ๊ะแล้วภาพมันจะออกมายังไง ลูกจะว่าอะไรรึเปล่าแล้วหนิงจะว่าอะไรไหม แต่พอมันผ่านไปด้วยดีแล้ว เราก็รู้สึกสนุกกับมัน แล้วอยากเล่นฉากต่อไป เราจะเจออะไร หนิงจะเล่นอะไรมา แล้วเราจะเล่นอะไรกลับ แล้วภาพมันจะเป็นยังไง มันชวนให้คิดต่อแล้วอยากเล่นฉากต่อไป”

 

หนิง “สมมติว่าถ้าเราเป็นคนเบื้องหลัง แล้วเราทำงานในการขยี้ฉากเลิฟซีน มันจะมีทริคอยู่อย่างหนึ่งคือ หนิงมักจะไม่บอกพระเอกว่าจะให้นางเอกทำอะไร และจะไม่บอกนางเอกว่าพระเอกจะทำอะไร ให้เรื่องมันเกิดขึ้น ณ โมเมนต์นั้น แล้วดูว่าอีกฝ่ายจะรับมือยังไง แล้วเราจะได้โมเมนต์สดตรงนั้น เวลาเล่นแต่ละครั้งก็จะปล่อยดีไซน์การเล่นที่หลากหลายไป หนิงเชื่อว่าถ้าเราปล่อยไปแล้วมีการทำการบ้านมาล่วงหน้า มันจะได้ความธรรมชาติจากตรงนั้น”

 

 

ลงพื้นที่จริง เพื่อให้เข้าถึงบทบาทของตัวละคร

ธัญญ่า “เราทำเกี่ยวกับเรื่องบาร์โฮสต์ เลยต้องไปหาข้อมูลจริงโดยการไปเที่ยวบาร์โฮสต์ แล้วตอนนั้นเราก็รู้สึกว่าพาเด็ก ๆ ไปเลยดีกว่า ไปดูว่าบรรยากาศเป็นยังไง แล้วก็ชวนพี่เป๊กไปด้วย แล้วก็ไปดูบรรยากาศว่าข้างในเป็นยังไง”

 

หนิง “หนิงมีความฝัน ว่าอยากเที่ยวบาร์โฮสต์ แต่เห็นแบบนี้ หนิงเป็นเด็กเรียบร้อยมากนะ หนิงเป็นเด็กไม่ปาร์ตี้ ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ดื่ม ไปงานคือแค่ถ่ายรูปแล้วก็กลับ ขอนอนดีกว่า แต่ก็มีความฝันว่า วันนึงฉันจะต้องไปบาร์โฮสต์ให้ได้ มันมีความฝันอยู่”

 

ธัญญ่า “น้อง ๆ เขาก็จะมีใส่เป็นชื่อ หรือเบอร์นี่แหละ แล้วก็เดินเรียง ถ้าโต๊ะไหนสนใจก็จะเหมือนเชิญเค้า น้องก็จะถอดป้ายออกมา แล้วก็มานั่งคุยกัน เหมือนเป็นเพื่อนเที่ยวเพื่อนดื่มประมาณนั้นค่ะ”

 

กระแสตอบรับ กับคู่จิ้นยูริระดับตัวมัม

ธัญญ่า “เรื่องนี้เรื่องที่ 3 ที่ผ่านมาเคยเล่นตอนนั้นเป็นหนัง เล่นกับ ได๋ ไดอาน่า ตอนนั้นธัญญ่าน่าจะอายุ 19 ปี มันก็เป็นเรื่องราวน่ารัก ๆ ของเด็ก ๆ มาอีกเรื่องหนึ่งประมาณ 6-7 ปีที่แล้ว Club Friday The Series 7 เหตุเกิดจากความรัก ตอน รักออนไลน์ ตอนนั้นเล่นกับ กระแต ศุภักษร แต่เหมือนตอนนั้นก็ยังไม่ได้จิ้นเราสักเท่าไหร่ แต่พอเล่น Deep Night The Series คืนนี้มีแค่เรา เปลี่ยนมากเลย เพราะที่เล่นตอนเด็ก ๆ มันก็ไม่ได้มีกระแสแบบนี้ แต่พอมาครั้งนี้เราก็ตกใจ เพราะว่าในเรื่องซีนเราไม่ได้มีเยอะเลย คือนับจำนวนได้ประมาณ 5-6 ซีน แต่มีไวรัล มีด้อมขึ้นมา ฐานแฟนคลับเรามีตั้งแต่อายุ 11 ปี ไปถึงประมาณ 30 ปี 40 นี่ไม่ค่อยเห็น คงไปเลี้ยงลูกละ ถ้ามากสุดประมาณ 30 ปีค่ะ”

 

หนิง “จริง ๆ เราแอบกังวลด้วยนะ คือแอบมานั่งคุยกันว่า เราแอบไปขโมยซีนเด็ก เพราะจริง ๆ ความตั้งใจของพี่ธัญญ่าเอง อยากจะปั้นเด็กกลุ่มนี้ เราก็กลัวเหมือนกัน แต่สุดท้ายถ้าโอกาสมันมาแล้ว เราก็ต้องเดินหน้า ซึ่งหนิงรู้สึกว่า เรื่องนี้ผู้จัดประสบความสำเร็จ แล้วหนิงก็อยากให้เค้าต่อยอด”

 

ธัญญ่า “เราอยากให้ Deep Night  มันเกิด เพราะว่ามันเป็นเรื่องราวของเราสองคนในพาร์ทตอนเป็นเด็ก ซึ่งที่จริงมันก็จะต้องมีพาร์ทที่เป็นเราตอนสมัยสาว ๆ ด้วย มันก็จะต้องเกิดอีกคู่หนึ่ง พอพาร์ทผู้ใหญ่ก็จะเป็นเรา เหมือนจะต้องเล่าย้อนไปย้อนมาอย่างนี้ ก็อยากให้โปรเจกต์นี้เกิดเหมือนกัน อยากทำต่อ อยู่ที่ว่าผู้ใหญ่ใจดีจะโอเครึเปล่า”

 

 

หนิง & ธัญญ่า กับมุมมองการยอมรับความหลากหลายในสังคม

หนิง “ย้อนกลับไป หนิงเรียนโรงเรียนผู้หญิง ซึ่งสมัยนั้นเด็ก ๆ ไม่สามารถที่จะคบเพื่อนต่างเพศได้ ถ้าใครลองไปคบเพื่อนต่างเพศ หรือต่างโรงเรียนเขาแช่งเลยนะ แล้วจะโดนบูลลี่หนักมาก แต่ถ้าเป็นความรักกุ๊กกิ๊ก เขียนจดหมาย พับดาวพับนกกระยางใส่โหล ก็มีบ้าง แต่มันเป็นความรักแบบป๊อบปี้เลิฟแค่นั้น

ล่าสุดหนิงไปร่วมงาน Pride Month เพราะว่าหนิงติดตามเรื่อง พรบ.สมรสเท่าเทียม มาค่อนข้างนานมาก ๆ แล้วด้วยความที่เราทำงานอยู่ในวงการบันเทิง ก็จะเห็นความรักที่ไม่สมหวัง แล้วมันเป็นอะไรที่ถูกต่อต้าน หนิงรู้สึกว่าพอมาวันนี้จากประสบการณ์อะไรหลาย ๆ อย่าง สุดท้ายแล้วความรักคือเรื่องสวยงามมาก และความรักมีอีกหลายแบบ มันไม่ต้องมาในรูปแบบแค่ผู้หญิงผู้ชายเท่านั้น หนิงว่า ความเท่าเทียมกัน คือสิ่งที่ดีที่สุด ถ้าหาความลงตัวได้ความรักมันก็จะทำให้มีแรงขับเคลื่อนในการทำเรื่องดี ๆ ต่อไป แล้วถ้ามนุษย์เราชีวิตมีความสุข มันก็จะไม่เกิดเรื่องทุกข์ เราก็ไม่ต้องไปทำอะไรที่มันแย่ ๆ”

 

ธัญญ่า “ที่ต้องมาเล่นซีรีส์ เกิดเป็นคู่จิ้นกับหนิง ลูกไม่ว่าอะไรเลยค่ะ ตอนแรกที่เรากังวลว่าลูกจะเข้าใจไหม  แต่เค้าบอกว่าเป็นงานของแม่ เค้าเข้าใจ แล้วพอเป็นน้าหนิงด้วย เค้าก็รู้ว่าเราสนิทกัน แล้ว น้องลียา ก็รู้จัก น้องณิรินด้วย เพราะบ้านอยู่ใกล้กัน เค้าก็เข้าใจค่ะ”

 

หนิง “ตอนแรกแอบกังวลณิรินมาก เพราะด้วยความที่เค้าก็มีปัญหาหลายเรื่อง แต่พอบอกว่าเป็นป้าธัญญ่า ตอนแรกเค้าก็บอกเอ๊ะยังไง แล้วพอวันที่เค้ามางานเปิดตัวซีรีส์ เพื่อมาดูว่าแม่ทำอะไร เค้าก็สบายใจและโอเคมาก มันเป็นงานของแม่ แล้วเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร”

 

ธัญญ่า “สำหรับน้อง ๆ LGBTQ+ หลาย ๆ คน ที่ยังรู้สึกว่าตัวเองแปลกแยกจากคนอื่น ธัญญ่าเชื่อว่า ความรู้สึกนี้มันอาจจะเกิดขึ้นในอดีต เพราะว่าโลกเรา สังคมเรา ยังไม่ได้เปิดรับขนาดนี้ และอาจจะยังมีบางครอบครัวที่ตอนนี้ คุณพ่อ คุณแม่ ปู่ย่าตายาย ยังรับไม่ได้ ธัญญ่ายังไม่อยากให้ท้อนะคะ อยากให้ทุกคนสู้ต่อไป บางทีมันอาจจะยังไม่ถึงเวลาที่เราจะเปิดได้ ณ วันหนึ่งหากมีโอกาสที่เหมาะสม เวลาที่เหมาะสม เชื่อว่ามันจะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ ไม่อยากให้ทุกคนท้อ และเชื่อว่าตอนนี้โลกเรามันค่อนข้างที่จะเปิดกว้างขึ้นเรื่อย ๆ เดี๋ยวสักวันหนึ่ง พวกเค้าจะเปิดรับเอง อยากให้ทุกคนสู้นะ ๆ”

 

หนิง “หลาย ๆ เรื่องหนิงมองว่า คนสมัยนี้หัดที่จะรู้จักรอแทบจะไม่ได้แล้ว แต่ว่าการรอคอยมันเป็นสิ่งที่ทำให้เราเกิดความรอบคอบด้วยนะ บางครั้งมันก็ต้องรอเพื่อโอกาสที่ดี จังหวะที่ดี หรือสิ่งที่ดี อีกแค่นิดเดียวเอง แล้วถ้าจะมองว่าการรักชอบกันในเพศเดียวกัน หรือรักกันแบบต่างเพศ เหนือไปกว่านั้นสิ่งที่จะทำให้ความรักเกิดการแตกแยก คือการที่เราไม่เป็นคนดี หนิงว่าเราไปให้ความสำคัญกับตรงนั้นดีกว่า”

 

 

เปิดวิธีการเลี้ยงลูก ของสองนักแสดงตัวมัม

หนิง หนิงเลี้ยงลูกโดยการปรึกษาจิตแพทย์ค่ะ สิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากไว้กับพ่อแม่ทุกคนเลย คือพ่อแม่ชอบคิดว่าลูกมีปัญหาและเอาลูกไปพบจิตแพทย์ โดยที่บางครั้งลืมคิดไปว่า คุณเองนั่นแหละที่มีปัญหา ดังนั้นถ้าคิดจะเอาลูกไปพบจิตแพทย์ ตัวเราเองก็ต้องไปด้วย มันต้องเป็นการปรึกษาแบบทั้งหมด แล้วถ้าปัญหามันส่งผลถึงใครบ้าง คนรอบข้างต้องไปทั้งหมด

ต้องยกความดีความชอบให้ พี่อ้อม สุนิสา พี่อ้อมน่ารักมาก และรับรู้ปัญหาของหนิงมาตลอดตั้งแต่เด็ก ๆ เลย แล้วพี่อ้อมก็รู้จักกับจิตแพทย์คนนึงที่เก่งมาก เค้าก็บอกว่า อย่าไปนัดเจอกันในคลินิกหรือในสถานที่ที่มันดูเครียด ให้ไปเจอกันข้างนอก มาพูดคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกัน ต้องเป็นลักษณะอย่างนั้น แล้วก็บอกลูกว่า เวลาเราไม่สบาย เรายังต้องไปหาหมอเลย ดังนั้นถ้าเวลาเรากลุ้มใจ คนคนนี้จะรักษาความกลุ้มใจให้เราได้ แต่ไม่ใช่ว่าลูกผิดปกตินะ แม่ก็อาจจะผิดปกติเหมือนกัน ฉะนั้นไปด้วยกันเพราะเรามีกันอยู่แค่สองคน ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นว่า บาง Section ก็อาจจะมีอาม่า เลขา เพื่อนหรือคนรอบข้าง ที่มีผลกับเค้าก็ต้องไปด้วย ต้องให้ความร่วมมือกัน 360 องศา

ซึ่งพอได้ปรึกษาจิตแพทย์ หนิงเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างชัดมาก จากช่วงที่มีปัญหาคือลูกเหมือนโดนบูลลี่ที่โรงเรียน จากเด็กที่อยู่หน้าห้อง มีความมั่นใจ ชอบเต้น ชอบแสดงออก ชอบร้องเพลง ก็กลายเป็นว่าไม่กล้าที่จะโชว์ต่อหน้าใครที่โรงเรียน หรือแม้กระทั่งแม่ให้ทำงานกับแม่ เค้าก็จะบอกว่านั่นคือการบังคับเค้าไม่ได้อยากทำ แต่พอได้มีการพูดคุยตอนนี้ก็เริ่มกลับมาอยู่หน้าห้อง และเค้าก็พยายามพิสูจน์ตัวเค้าเอง ในการที่จะบอกว่าเค้าต้องเอาชนะความคิดบูลลี่เหล่านั้น โดยการที่เค้าจะต้องทำให้ตัวเองแข็งแรงให้ได้ เค้าก็เดินเข้าไปออดิชั่นละครเวทีของโรงเรียน และได้รับบทที่เด่นที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่เค้าก็ยังมีความกังวลลึก ๆ ว่าจะทำได้ ณ วันที่ต้องแสดงจริง ๆ รึเปล่า ซึ่งก่อนหน้านี้ หนิงไม่สนับสนุนเรื่องพวกนี้เลยนะ เพราะอยากให้เค้าเรียนหนังสือก่อน แต่พอหลังจากที่มีเรื่องมีราวหลายอย่างในชีวิต หนิงรู้สึกว่า ถ้ามันเป็นความสุขของลูก หนิงว่าไม่ผิดอะไร เมื่อลูกพิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่าจะกลับมาอยู่ตรงนี้ได้ หนิงก็จะผลักดันทุกอย่างเอง ส่วนใหญ่เด็กจะเกิดปัญหาเพราะผู้ใหญ่นั่นแหละที่เอาความคาดหวังไปให้กับเด็ก แล้วคิดว่าเด็กต้องเป็นอย่างนี้นะ โดยลืมคิดไปว่า แล้วตอนที่เราอายุเท่านั้น เราเป็นยังไง และโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ต้องเอาหัวใจเราไปเป็นหัวใจเด็กอายุ 11 ถึงจะเข้าใจกัน

ทุกวันนี้เวลาอยู่กับ ณิริน เราสองคนจะควบคุมการใช้โซเชียล แล้วก็ต้องหาอะไรที่ทำด้วยกันและใช้เวลาด้วยกันได้ อย่าง ณิริน เค้าชอบสิ่งสวย ๆ งาม ๆ ก็เลยชวนไปนวดตัวกันไหม ไปสระผม ไปทำเล็บ แล้วหนิงก็จะควบคุมการใช้งานโซเชียลผ่านทางโทรศัพท์ของหนิง ถ้ามันเลยเวลาควบคุมทุกอย่างมันก็จะถูกตัดทันที แล้วก็จะมีความผิด เป็นกฎกติกาว่าต้องโดนยึดนะ หรือต้องมีบทลงโทษนะ”

 

ธัญญ่า “ลียา เค้ากำลังจะอายุครบ 15 ปี เพื่อน ๆ เค้าหลายคนก็มีแฟนแล้ว แต่ด้วยความที่รูปร่างเค้ายังเด็กมาก ยังไม่ได้โตเท่าเพื่อน และยังไม่ได้มีความชอบฉันท์ชู้สาว ก็ยังโชคดีที่เค้ายังเด็กอยู่ในความรู้สึกเรา เราเองก็สบายใจไปเปราะนึง ด้วยความที่เป็นวัยรุ่นแล้ว ถ้ามีเรื่องที่ ลียา อยากเล่า เดี๋ยวเค้าจะเล่าเอง แล้วเค้าจะเป็นเด็กขี้อายนิดนึงเวลาอยู่โรงเรียน มันต้องใช้ความเข้าใจเยอะ ๆ ร้อยวันพันเหตุการณ์ แล้วก็ร้อยวันพันอารมณ์ด้วย มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เค้าเริ่มเปลี่ยนจากเด็กเข้าสู่วัยรุ่นแล้วเรามักจะคุยกันไม่รู้เรื่อง ซึ่งถ้าเรายิ่งไปดุหรือว่าเค้า มันยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปหมดเลย เจอหน้ากันก็มีแต่อารมณ์มัวหมอง จนวันหนึ่งเราก็รู้สึกว่าเราต้องปล่อยวาง เค้าแยกห้องนอนตั้งแต่อายุ 12 ปี เราก็จะรู้สึกคิดถึงเพราะปกติต้องนอนกอดกัน แล้วลียา เค้าจะติดเล่นปากเราตั้งแต่เด็กยันโต ทุกวันนี้บางทีเวลาทำอะไรอยู่ แล้วเผลอ ๆ เค้าก็จะเดินมาเล่นปากเรา เราก็จะแบบคิดถึงโมเมนต์นี้จังเลย”

 

หนิง “ถ้าถามว่าหนิงเป็นแม่ที่ดุไหม ต้องใช้คำว่ามาก คือจะดุต่อเมื่อคุณไม่ทำตามกฎกติกา หนิงผ่อนสามรอบทุกครั้ง 1 2 3 ล่าสุดเค้าท้าทายหนิง เค้าบอกว่า โอ้ย แม่ดุก็ดุไปเหอะ แม่ไม่เคยทำจริงสักรอบหรอก เดี๋ยวแม่หายโกรธแม่ก็สปอยหนูเหมือนเดิม ล่าสุดก็เลยโดนลงโทษแบบขั้นเด็ดขาด ตัดการเรียนทุกอย่างที่ชอบ เพราะว่าไม่รับผิดชอบ โดยเฉพาะการเรียนเต้นเรียนร้องเพลงตัดหมดเลย ไม่ให้เรียนเลยเพราะไม่รับผิดชอบ แต่หลัง ๆ ก็ดีขึ้น เค้าก็ปรับตัวค่ะ เห็นแบบนี้ เวลาหนิงนิ่งน่ากลัวมากนะ แต่เวลาหนิงบ่นไม่น่ากลัวเลย”

 

ธัญญ่า “สำหรับธัญญ่าไม่ดุเลยค่ะ บ่นมากกว่า แต่ก็บ่นไปอย่างนั้น ส่วนพี่เป็ก บทจะตามใจก็คือตามใจมาก บทจะดุก็คือดุ เพราะลียาเค้าจะกลัวพี่เป็ก แต่กับเราเค้าไม่กลัวเพราะรู้ว่าแม่ใจอ่อน ตามใจ อยากทำอะไรก็จะหาวิธี บางทีก็มานั่งเตี๊ยมกันว่าเค้าอยากทำอย่างนี้แต่พ่อไม่ให้ เราจะทำยังไงดี เค้าจะรู้อารมณ์ว่าเค้าจะพูดกับพ่อเค้าตอนไหน พูดเรื่องอะไรได้ อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้”

 

 

สีสันแรงบันดาลใจ จาก หนิง & ธัญญ่า

หนิง “บางครั้งชีวิตเราพยายามที่จะอยู่กับโซเชียลจนลืมความเป็นตัวของเราเอง มันต้องแบ่งเวลาดี ๆ เพราะจะไม่อยู่กับโซเชียลเลยก็ไม่ได้ ด้วยงานที่เราต้องทำก็ยังต้องอยู่กับมัน ดังนั้นต้องเล่นกับมันให้เป็น และให้มันเกิดคุณค่า อย่าลืมว่าดาราสมัยก่อนรุ่นพวกเรากับสมัยนี้มันต่างกันนะ สมัยนี้ถ้าเรื่องไหนมันเกิดขึ้นมาแล้วไม่ใช่เรื่องจริงมันติดลบมันจะตีกลับหมดเลยนะ แต่ข้อดีคือมันทำให้เราประพฤติปฏิบัติอยู่ในกรอบและเป็นคนดีมากขึ้น” - หนิง ปณิตา

 

ธัญญ่า “ด้วยความที่เราเจอเรื่องราวมาค่อนข้างจะหนักหนาสาหัส แต่จริง ๆ เรื่องพื้นฐานครอบครัวก็สำคัญ บางทีกลัวว่าถ้าเด็กสมัยนี้เจอดราม่าหนัก ๆ แล้วจะเป็นโรคซึมเศร้า เพราะสมัยนี้มันรุนแรงจริง ๆ ต้องพยายามอย่าเสพสื่อมาก ถ้ามีข่าวดราม่าขึ้นมาแล้วคนด่าเยอะ วิจารณ์กันเยอะ อย่าไปอ่านเลย แป๊บเดียวเดี๋ยวมันก็เงียบ เพราะถ้าเด็กสมัยนี้ไม่เข้มแข็งพอเรากลัวโรคซึมเศร้า แล้วก็กลัวคิดสั้น” - ธัญญ่า ธัญญเรศ

 

 

พบเรื่องราวชีวิตหลากสีสันใน Club Pride Day คลับที่เต็มไปด้วยแบ่งปันข้อคิดแรงบันดาลใจ และมีคลังความรู้ที่พร้อมแชร์ ไปกับแขกรับเชิญพิเศษ และสองดีเจสุดแซ่บ “พี่อ้อย” และ “ก็อตจิ” ได้ในทุกสัปดาห์

 

ติดตามชมรายการย้อนหลัง

album

0
0.8
1