เปิดเรื่องราวชีวิต รับข้อคิดพร้อมคำทำนาย ของ “ต๊อกแต๊ก A4” ตัวแม่สายมู สู่เจ้าของฉายา “หมอดูเงินล้าน!”

Club Pride Day Recap

เปิดเรื่องราวชีวิต รับข้อคิดพร้อมคำทำนาย ของ “ต๊อกแต๊ก A4” ตัวแม่สายมู สู่เจ้าของฉายา “หมอดูเงินล้าน!”

19 เม.ย. 2024

“เหรียญมี 2 ด้านเสมอ อะไรมากเกินไปก็ไม่ดี น้อยเกินไปก็ไม่ดี เรื่องดวง ต๊อกแต๊ก พูดเสมอว่า อย่าไปเอาหมอดูมาเป็นตัวตัดสินใจทั้งหมด ให้มองว่าหมอดูเป็นแค่ไกด์ไลน์ชีวิต เพราะสิ่งที่เกิดในชีวิต มันมาจากดวงส่วนนึง และการกระทำของเราอีกส่วนนึง ซึ่งมันจะมีผลของมันอยู่”

 

Club นี้มีเรื่องราวมากมาย Club นี้มีหลากหลายสีสัน และ Club นี้ยังคอยแบ่งปันแรงบันดาลใจดี ๆ ในทุกสัปดาห์ สำหรับ Club Pride Day คุยอย่าง Proud เมาท์อย่าง Pride ทอล์คกระทบไหล่กับตัวแม่ กับสองดีเจสุดแซ่บ “ดีเจพี่อ้อย” และ “ดีเจก็อตจิ” ที่ได้เปิดไมค์ต้อนรับแขกรับเชิญสุดต๊าช “ต๊อกแต๊ก A4” ตัวแม่สายมูเตลู กับเหตุการณ์เซ้นส์พลิกชีวิต ให้กลายเป็นหมอดูชื่อดัง เจ้าของฉายา “หมอดูเงินล้าน” สีสันของชีวิต ข้อคิดแรงบันดาลใจ พร้อมคำทำนายสุดจึ้ง ได้ถูกแชร์ไว้ในรายการอีกด้วย

 

 

ดร.ณฐอร นพเคราะห์ กับเส้นทางการท่องเที่ยวตามรอยพญานาค

“ต๊อกแต๊ก เพิ่งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก Marketing Communication ซึ่งหลักสูตรนี้เป็นของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งตอนปริญญาตรี ต๊อกแต๊ก เรียนจบคณะศิลปกรรมศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม หนูเป็นเด็กบ้านนอก พอเข้ามาในกรุงเทพปุ๊บ เราก็เหมือนต้องมาบากบั่นหาเงิน แล้วก็ส่งเสียครอบครัว ส่งน้องสาวเรียนด้วย ตอนนั้นเราก็เลยไม่มีโอกาสเรียนต่อ แต่สุดท้ายหนูได้ทุนจาก มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งในตอนแรกหนูได้ทุน ป.โท ก่อน แล้วพอเรียนประมาณ 1ปี คณบดีบัณฑิตวิทยาลัยก็แจ้งข่าวสารมาว่า ทางมหาวิทยาลัย อนุมัติให้ต๊อกแต๊ก เรียนหลักสูตรโทควบเอก หนูก็เลยต้องลาออกแล้วไปลงเรียนใหม่ ผ่านไป 4 ปี ก็เรียนจบ เพิ่งรับปริญญามาเมื่อ วันที่ 29 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมาค่ะ

ความเชื่อในเรื่องพญานาค ด้วยความที่ต๊อกแต๊ก เป็นเด็กอุบลราชธานี มีคุณตาเป็นหมอธรรม  คือเป็นคนที่ศึกษาเรื่องของไสยเวท ส่วนคุณปู่ก็เป็นเหมือนหมอดูด้วย เป็นหมอดูที่ต้องเขียนกระดานชนวน แล้วทั้งคู่ก็จะมีความเชื่อในเรื่องของพญานาค ทำให้ต๊อกแต๊กก็เชื่อในเรื่องของพญานาคอยู่แล้ว เชื่อว่าท่านบันดาลฝน ช่วยเหลือมนุษย์ และนำพาความเจริญรุ่งเรืองมาให้เรา

แต่พอเรามาอยู่ในบทบาทการเป็นนักวิชาการ เราก็ต้องห้ามอคติกับข้อมูล แล้วก็ต้องศึกษาหลาย ๆ มุม บวกกับตัวเองเป็นคนที่ชอบความอลังการ ความสวยงาม งานสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ต๊อกแต๊ก เลยได้นำเรื่องราวของพญานาค มาสร้างเป็นสตอรี่ เพื่อให้เกิดการท่องเที่ยว โดยพื้นที่ขอบเขตงานวิจัยของหนูคือเส้นแม่น้ำโขง ตั้งแต่จังหวัดเลย ไปจนถึง จังหวัดอุบลราชธานี  เราก็ไปเลือกแหล่งท่องเที่ยวมา แล้วนำมาจัดกรุ๊ปเป็นเส้นทางแต่ละเส้นทาง ได้ทั้งหมด 99 แหล่งท่องเที่ยว ใน 9 เส้นทาง

ความเชื่อเรื่องพญานาค ของคนภาคอีสาน เค้าจะมี ฮีตสิบสอง คลองสิบสี่ ฮีตสิบสองก็คือประเพณีที่เป็นจารีตที่ทำต่อ ๆ กันมา ซึ่งมันจะมีช่วงที่ฝนแล้งต้องขอฝน คนอีสานก็เลยต้องขอพญาแถน โดยการจุดบั้งไฟขึ้นไป นอกจากนี้คนอีสานก็เชื่อว่าพญานาคก็เป็นผู้บันดาลฝน บันดาลน้ำ พอเราได้ไปศึกษาความหมายของพญานาค ตามข้อมูลงานวิจัย หรือตามเอกสารต่าง ๆ บอกว่าพญานาคเป็นผู้ยิ่งใหญ่ทางน้ำ และมีความเชื่อเรื่องของการบันดาลฝน บันดาลน้ำ บันดาลความเจริญอุดมสมบูรณ์ เพราะน้ำคือตัวแทนความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งหากเรามองในยุคปัจจุบัน จากการเก็บข้อมูล เราจะเห็นว่าในภาคอีสานมีพญานาคอยู่หลาย ๆ แห่ง ซึ่งตรงไหนที่มีพญานาค ส่วนใหญ่จะเกิดเศรษฐกิจชุมชน เช่น ขายบายศรี ขายดอกไม้ ขายพวงมาลัย รวมไปถึงขายสลากกินแบ่ง มันก็เป็นการสร้างเม็ดเงินหมุนเวียน ต๊อกแต๊ก ก็เลยมองว่า จริง ๆ แล้วถ้ามองในเรื่องของความเชื่อสมัยก่อน ที่เชื่อว่าพญานาคให้ความเจริญ อาจจะหมายถึงการทำให้น้ำอุดมสมบูรณ์ ทำให้พืชผลทางเกษตรกรรมเจริญงอกงาม แต่ในปัจจุบันนี้อาจจะหมายถึง การทำให้เม็ดเงินเกิดการหมุนเวียนในจังหวัด อย่างเช่น นครพนม กำลังจะพัฒนาจากเมืองรองเป็นเมืองหลัก บึงกาฬกำลังจะมีสนามบิน นอกจากนี้สนามบินกำลังจะเกิดขึ้นใน มุกดาหาร พะเยา พังงา ส่วน กาฬสินธุ์ และ มหาสารคาม ก็จะร่วมกันทำสนามบินต่อไปในอนาคตค่ะ”

 

 

ต๊อกแต๊ก A4 กับจุดเริ่มต้นบนเส้นทางหมอดู

“ฉายา ต๊อกแต๊ก A4 มาจากกระดาษ A4 ที่เราใช้จดชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด แล้วก็จะดูดวงจากกระดาษ A4 เลยเป็นที่มาของ ต๊อกแต๊ก A4 จุดเริ่มต้นของการดูดวง ย้อนกลับไปก่อนจะเป็นหมอดู สมัยก่อนเราเป็น AE แล้วก็ต้องไปดูการตัดต่อ เพราะต้องไปดูโฆษณาให้ลูกค้า แล้วพอตัวเราไปโดนกับตัดต่อปุ๊บ เราก็เห็นเป็นภาพที่ต่อกันเป็นเรื่องราว แล้วก็พูดกับน้องตัดต่อคนนั้นว่า ที่บ้านมีต้นวาสนาเหรอ ต้นสูงดีนะ นี่เพิ่งเปลี่ยนรถมาเหรอ น้องก็ตกใจว่า พี่ต๊อกแต๊ก ดูดวงผมรึเปล่าเนี่ย เราก็เลยมีสติขึ้นมา แล้วก็เก็บเซ้นส์นั้นมา หลังจากนั้นก็มีรุ่นพี่ที่เป็นร่างทรง ก็แนะนำต๊อกแต๊กว่า ถ้าไม่อยากเป็นร่างทรงก็ให้ไปขอกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือ ซึ่งตอนนั้น เรานับถือพระแม่อุมา ที่วัดแขก ซึ่งเป็นองค์เดียวที่นับถือในตอนนั้น แล้วเราก็ขอองค์แม่ว่า ขอให้ลูกได้เป็นผู้หญิงเหมือนองค์แม่ จนกระทั่งช่วงอายุ 24 ปี ใกล้เบญจเพส ก็มีโอกาสได้เป็นพรีเซ็นเตอร์โรงพยาบาลศัลยกรรมขึ้นชื่อของไทย ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้เป็นคนดัง เป็นแค่กะเทยคนนึงที่มีนักข่าวมาสัมภาษณ์ความรู้สึกและความต้องการศัลยกรรมของเรา แล้วเราก็บอกว่าอยากจะแปลงเพศที่โรงพยาบาลนี้ แล้วปรากฏว่าได้แปลงเพศฟรี ในปี 2552 เราเลยรู้สึกว่านี่เป็นพรของพระแม่ เพราะตอนนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะได้แปลงเพศ เราเป็นแค่กะเทยบ้านนอกที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพ เงินเดือน 8,000 บาท จะไปหาเงินจากไหนมาแปลงเพศ

 

ต๊อกแต๊ก A4 กับเซ้นส์ที่มีติดตัวมาตั้งแต่เด็ก

“เรื่องของเซ้นส์จริง ๆ แล้วมันมีมาตั้งแต่เราเป็นเด็ก เราก็จะเห็นว่าบ้านหลังนี้ดูเค้ามีปัญหาครอบครัวนะ ซึ่งคนรอบตัวเราก็จะงงว่า ต๊อกแต๊ก อยู่ดี ๆ ทำไมถึงทักแบบนี้ แล้วเซ้นส์นี้มันก็หายไปตอน ต๊อกแต๊ก เรียนมหาวิทยาลัย แล้วก็กลับมาอีกทีตอนที่กลับมาทำงาน

แต่ก่อนเซ้นส์มันมาหนักมาก จนรู้สึกว่าบางเรื่องเราขอไม่เห็น แต่เราปิดระบบไม่ได้ บางทีเราไปนอนสระผมที่ร้าน เราก็เห็นเรื่องราวของคนที่มาสระผมให้ หรือบางทีเวลามีคนมาดูดวงกับเรา เราก็เห็นว่ามีคนเดินตามเค้ามา จนกระทั่งวันหนึ่งอาจจะเป็นความแก่กล้าของเรา เราเริ่มควบคุมเซ้นส์ได้ อะไรที่ไม่อยากรับรู้เราก็ตัดไปเลย ไม่สนใจมันไปเลย

เคยมีแม่ลูกมาดูดวงกับต๊อก ซึ่งลูกของเค้าเกิดมาแล้วเป็นมะเร็งเลย ตอนนั้น ต๊อกแต๊ก ยังไม่เคยรู้จักท้าวหิรัญพนาสูร แต่อยู่ดี ๆ ตอนนั้น เราก็รู้สึกว่าเคสนี้ต้องไปกราบท้าวหิรัญพนาสูรนะ แล้วไปเข้าคอร์สรักษา ซึ่งพอเค้าไปทำตามลูกเค้าก็หายจริง ๆ พอดูดวงมาเยอะ ๆ เราก็เรียนรู้ว่าทุกคนต้องเผชิญกรรมของตัวเอง ทุกอย่างมันอยู่ที่บุญและกรรมของเรา ซึ่ง ต๊อกแต๊ก ก็ไม่ได้อยากจะมาเป็นหมอดูหรอก แต่ในเมื่อวันนี้ ถ้าเส้นทางของ ต๊อกแต๊ก มันโดนขีดมาแล้วว่าต้องเป็นหมอดู ดังนั้น ต๊อกแต๊ก ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่ไปเอาเปรียบคนอื่น เราต้องพูดตามที่เราเห็น ตามเซ้นส์ที่เราสัมผัสได้ ต๊อกแต๊ก ก็เลยทำแบบนั้นมาโดยตลอด 17 ปีค่ะ”

 

 

เช็คดวงหลังสงกรานต์ 2567 ราศีไหนปัง ราศีไหนต้องระวัง!

“ราศีที่ต้องระวังเป็นพิเศษ จะมี ราศีสิงห์ และ ราศีธนู ที่อาจจะต้องระมัดระวังหน่อย และอาจจะเหนื่อยหน่อยในปีนี้ ราศีเมถุน ปีนี้ก็จะเจอปัญหาหรือเจออะไรที่มันยาก อย่างถ้าน้อง ๆ ที่เรียนหนังสืออยู่ หรือทำงานอยู่ หรือที่ต้องฝ่าฝัน หรือต้องสอบแข่งขัน อาจจะยากหน่อย ส่วนราศีที่โดดเด่นและเฮง ในปีนี้ก็จะมี ราศีกุมภ์ ราศีพฤษภ ราศีพิจิก ราศีกันย์ และราศีตุลย์จะโดดเด่นในเรื่องโดยรวมทั้งงาน ทั้งเงิน มีโอกาสใหม่ ๆ เกิดขึ้น ใครที่มองในเรื่องของการลงทุนอยู่ ราศีราศีเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นราศีที่โดดเด่นเลยค่ะ

โดยวิธีการนับราศีของ ต๊อกแต๊ก จะนับง่ายมากคือวันที่ 16-15 อย่างเช่น 16 มิถุนายน จนถึง 15 กรกฎาคม คือราศีเมถุน แบบนี้ค่ะ แต่ก็จะมีหลาย ๆ ท่านที่เค้าดูตามลัคนา”

 

เปิดความหมายตัวเลขท้ายบัตรประจำตัวประชาชน จาก ต๊อกแต๊ก A4

“ต้องบอกว่าเลข 3 ตัวท้ายบัตรประชาชนของเรา เลขที่ดี เลขที่เฮง เลขที่ฆ่าไม่ตาย ส่วนใหญ่จะต้องมี เลข 1 เลข 5 และ เลข 9

เลข 1 เกี่ยวข้องกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คนตรงไปตรงมา มีความมั่นคง แบบสิ่งศักดิ์สิทธิ์อวยพร มีแต้มบุญเก่ามาดี และอาจจะมีโลกส่วนตัวสูงหน่อย

เลข 2 เป็นเลขของความเหนื่อย ความอดทน ความพยายาม ถ้าต้องเลือกลูกน้องสักคน เลขบัตรประชาชนของเค้าควรจะมีเลข 2 หรือเกิดวันที่ 20 วันที่ 2 เพราะเลข 2 มันเป็นเลขของความพยายาม ความอดทน เป็นคนขยัน ถึงแม้จะเหนื่อยหน่อย แต่ว่ามันก็มีโอกาสประสบความสำเร็จ แต่เลข 2 ไม่ควรที่จะไปหุ้นกับคนอื่น

เลข 3 ไอเดีย ความคิด แต่บางครั้งก็คิดมากเกินไป อย่างถ้าเลข 3 ไปอยู่กับวันจันทร์ พุธ ศุกร์ จะเป็นคนอีโมชั่นนอลเยอะ เพราะ เลข 3 คือความวิตกกังวลได้ง่าย เป็นคนคิดมาก

เลข 4 จะมีผลเรื่องของความรัก คือความรักที่ไม่สมบูรณ์แบบ รักเพศเดียวกัน รักคนต่างประเทศ รักพ่อแม่แม่หม้าย ต้องแต่งงาน 2 รอบ หรือรักซ้อนซ่อนรัก เลข 4 ถ้าเราโสด หรืออยากแต่งงานกับคนเลขนี้ วิธีการแก้ก็คือจัดงานแต่งงานได้แต่ไม่ต้องจดทะเบียน หรือบางคนจดทะเบียนแล้วจดทะเบียนหย่าแล้วจดทะเบียนใหม่ หรือบางคนก็แยกห้องนอน หรืออาจจะใช้เตียง 2 เตียงติดกันก็ได้ และเลข 4 เป็นเลข LGBTQ+ ได้ด้วย คนที่เป็น LGBTQ+ ส่วนใหญ่จะมีเลข 4 ในชีวิต

เลข 5 คือเลขเงินเลข อำนาจ วาสนา คล้ายกับเลข 1 ตรงที่ว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง

เลข 6 จะมีความเป็นตัวเองคือเหมาะกับการทำอะไรเป็นของตัวเอง ธุรกิจของตัวเอง หรือเป็นนายตัวเอง บางทีก็จะโลกส่วนตัวสูงหน่อย

เลข 7 เลขเกี่ยวกับต่างประเทศ ชาวต่างชาติ อะไรที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศจะดี

เลข 8 เป็นเลขดารา เป็นเลขที่ต้องใช้ปากทำมาหากิน เช่น พ่อค้า แม่ค้า นักร้อง พีอาร์ เซลล์ขายของ อาชีพที่ต้องใช้ปากทำมาหากินทั้งหลาย

เลข 9 ก็คือความมั่นคงในชีวิต เป็นอีกเลขนึงที่เป็นเกี่ยวข้องกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็จะเป็นเลขที่ค่อนข้างที่จะมีความมั่นคง แต่บางครั้งมันก็จะทำให้เราเป็นคนที่ตรงหรือโลกส่วนตัวสูงมากเหมือนกัน

เลข 0 สำหรับต๊อกแต๊กจะไม่นับ ยกเว้นว่าคนที่มีเลข 0 0 0 (ในตำแหน่ง 3 ตัวท้ายบัตรประชาชน) ให้ดูเป็นเลขตัวแรกก่อนที่จะเป็นเลข 0 แทน”

 

 

ประสบการณ์ดูดวง ของ ต๊อกแต๊ก A4

“ต๊อกแต๊ก ไม่ดูดวงตัวเอง เพราะไม่ว่ามันจะเป็นกลางขนาดไหน เราก็อดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ และกับญาติพี่น้องหรือกับคนสนิทก็จะดูดวงให้ไม่ได้เหมือนกัน แต่มีเหตุการณ์ที่เป็นเรื่องของครอบครัวเลย คือ ต๊อกแต๊ก ฝันว่าคุณตาลื่นล้ม แล้วมีวิญญาณมาดึงคุณตา พอตื่นเช้ามา ต๊อกแต๊ก ก็โทรหาคุณแม่ว่าคุณตาอยู่ไหม แม่ก็บอกว่าคุณตาล้ม เราก็เลยตกใจ เพราะรู้ว่าล้มรอบนี้หนักแน่ แต่แม่ก็บอกว่าไม่หนักนะ กลับมาอยู่บ้านแล้ว แล้วแม่ก็ถามว่าทำไมต๊อกแต๊กถึงรู้ เราก็เล่าเรื่องความฝันที่ฝันถึงคุณตาให้แม่ฟัง

อีกเหตุการณ์หนึ่งคือ ที่บ้านของต๊อกแต๊ก จะมีรถสีส้ม เป็นรถสองแถวคันใหญ่ แล้ววันหนึ่ง ต๊อกแต๊ก ก็ฝันว่า รถคันนี้ไปขนอะไรมา แล้ว ต๊อกแต๊ก ก็ขับมอเตอร์ไซค์อยู่ข้างหน้า แล้วรถคันนี้ขับตาม แล้วเหมือนหลังรถขนไม้หรือขนบางสิ่งอยู่ข้างหลัง แล้วภาพก็ตัดไปเป็นภาพบ้าน แล้ว ต๊อกแต๊ก ก็เดินเข้าไปในบ้าน พอตื่นเช้ามา ต๊อกแต๊ก ก็โทรไปถามแม่ว่า แม่เอารถไปขนอะไรมารึเปล่า แม่บอกว่าเอาไปขนบ้านร้างที่มีคนเสียชีวิตจากจังหวัดอื่นมา ซึ่งกับครอบครัวส่วนมากเซ้นส์จะมาในแบบความฝัน ถ้าฝันแล้วจะค่อนข้างแม่น

แต่ก่อน ต๊อกแต๊ก จะใช้แค่กระดาษ A4 แล้วก็ดูดวงดวงตามเซ้นส์ หลัง ๆ มันต้องมีตัวช่วยอื่น ๆ อย่างเช่นให้จับไพ่ซิ แล้วเราก็อ่านตามไพ่ หรืออย่างตอนดูดวงให้ แซมมี่ เราก็ให้ไปหยิบใบไม้มา เด็ดมาแล้วอธิษฐานจิต แล้วเราก็ทักตามที่เห็นจากใบไม้ และเวลาคนมาดูดวง เราก็ต้องขออนุญาตเค้า และเค้าต้องอนุญาตให้เราดูดวง เราถึงจะดูดวงให้ได้ค่ะ”

 

ต้องดูดวงอย่างไร ให้จากลบ กลายเป็นบวก

“ต๊อกแต๊ก จะเป็นคนที่คำนึงว่า ถ้าเป็นเราไปดูดวงแล้วมีคนพูดกับเราแรงๆ  เราก็คงไม่ชอบ  เราก็เลยต้องพยายามคิดก่อนว่า เราจะทำยังให้จากที่มันจะเป็นลบให้กลายเป็นบวก อย่างเช่นเรารู้ว่าเค้าจะมีเกณฑ์เกิดอุบัติเหตุแบบหนัก ๆ เราก็จะบอกว่าช่วงนี้ขับรถให้ระมัดระวัง หรือถ้าออกกำลังกายก็ให้ระมัดระวังเพราะว่ามีเกณฑ์เกิดอุบัติเหตุอยู่ ลองไปบริจาคเลือด ไปเอาเลือดออกหน่อย ไปทำฟัน หรือไปจิ้มหน้า ให้ตัวเองมีเลือดออก หรือไปบริจาคโรงศพ แล้วอุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวร หรือบางทีอย่างสุขภาพของคุณพ่อคุณแม่ของเค้า มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เราก็ต้องบอกว่า ช่วงนี้คุณพ่อคุณแม่ต้องระวังนะคะ โดยเฉพาะคุณแม่มีเกณฑ์เจ็บป่วย แต่ ต๊อกแต๊ก คิดว่ามันน่าจะเป็นไปตามวัย อาจจะพาเค้าไปเช็คร่างกายหน่อย เหมือนเป็นการฟาดเคราะห์ พอพูดแบบนี้ลูกของเค้าก็จะพาไปตรวจร่างกายหน่อย พาไปฟาดเคราะห์หน่อย เพราะคนแก่ส่วนใหญ่ พอคนอื่นทักมักไม่ฟัง แต่พอบอกหมอดูทักกลับเชื่อ”

 

 

การดูดวง ที่มาพร้อมการเก็บสถิติ

“ต๊อกแต๊ก ชอบในเรื่องของการเก็บข้อมูล เพราะแต่ก่อนคนมาดูดวง จะต้องบอกชื่อ วัน เดือน ปี เกิด อายุ เราจะรู้เลยว่าคนที่มาดูดวงกับเรา 10 คน อายุอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ แล้วอาชีพที่มาดูดวงกับเราเยอะที่สุดคือ เซลล์ ลูกเรือ นักการตลาด หมอ และอาจารย์มหาวิทยาลัย โดยคนที่มาดูดวงอายุต่ำสุดอยู่ที่ 25-26 ปี เป็น First Jobber และอายุที่เยอะที่สุด ก็ประมาณ 35 ปี จึงกลายเป็นที่มาว่า ทำไมดวงรายปักษ์ ของ หมอดูต๊อกแต๊ก A4 ถึงมีเรื่องงาน เรื่องเงิน เรื่องสุขภาพ เรื่องความรัก เรื่องศีลสมดุลย์ และเรื่องการทำบุญ ซึ่งตอนเริ่มสื่อโซเชียลยังไม่มาเลย แล้วพอมันเริ่มมีโซเชียล ต๊อกแต๊ก ก็เริ่มมาเขียนดวง เขียนในโน้ตโทรศัพท์ แล้วก็แคปเอามาลง กลายเป็นว่ามีคนติดตามเยอะ

เวลาดูดวง คนชอบถามเรื่องงานก่อน แล้วจะมีเงินไหม ความรักเป็นยังไง แล้วถึงถามเรื่องสุขภาพ จริง ๆ แล้ว ต๊อกแต๊ก มองว่า สุขภาพสำคัญที่สุดในชีวิตคนเรา แต่คนจะเอาสุขภาพไว้ที่หลัง ต่อให้เรามีเงินขนาดไหน แต่ถ้าสุขภาพเราไม่ดี เงินของเราก็จะหมดไปกับสุขภาพ เราจะไม่มีเวลาใช้เงิน แต่ถ้าเราสุขภาพดี แล้วเรามีแรงในการทำมาหาเงิน ต๊อกแต๊ก ว่าอันนี้สำคัญมาก”

 

เปิดทริค มูความรักอย่างไรให้ปัง!

“ถ้าเอาในพาร์ทของหมอดูก่อน ต๊อกแต๊ก ก็จะบอกว่า ถ้าเรามีเลข 4 ในดวง ซึ่งส่วนมากจะอาภัพรัก เราก็ไม่ต้องกลัว สำหรับ ต๊อกแต๊ก คิดว่าเผชิญกับมันไปเลย อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดเราห้ามกันไม่ได้ แต่เราต้องมีสติแล้วก็รับมือมันให้ได้ ดังนั้นถ้าเรารู้เร็วว่ามีเลข 4 ก็ให้ไปแก้เคล็ดก่อน ซึ่งมันมีวิธีการแก้เคล็ดก็จริง แต่มันไม่ได้บอกว่าจะสำเร็จแบบ 100% บางคนแก้แล้ว แต่ก็ยังเลิกอยู่ดี แต่ ต๊อกแต๊ก ก็จะให้วิธีการสำหรับคนที่มีเลข 4 แล้วมีคู่ยาก ก็ลองไปขอถอนคำสาบานที่ ร.5 เสร็จปุ๊บก็ไปไหว้พระนอน เพื่อขอถอนคำสาบาน คำสาปแช่ง คำสัญญา ที่เราเคยมีชาติที่แล้ว และเราขออนุญาตมีคู่ในชาตินี้ จากนั้นเราค่อยไปขอเทพองค์อื่น พระแม่ลักษมี พระแม่อุมา แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เรายังไม่ไปถอนคำสาบาน ไปขอยังไงก็ไม่ได้ เพราะว่าเรามีคนที่ห่วงเราอยู่

ส่วนอีกพาร์ทที่ไม่ได้เป็นหมอดู ต๊อกแต๊ก มองว่าการที่จะมีความรัก มันคือแต้มบุญของเราส่วนนึง แล้วก็การวางตัวของเราแต่ละคน มันต้องมาพร้อม ๆ กันคือ การมูเตลู การออกไปหา การไปเจอ การไปเรียนรู้ และบางครั้งเราอาจจะพลาดคนดี ๆ ไปก็ได้ ถ้าเรามองเห็นเค้าภายนอก แล้วเรารู้สึกว่าไม่ใช่ ต้มยำ 2 ถ้วย รสชาติยังไม่เหมือนกันเลย ถ้าไม่ลองชิมก่อน เราจะรู้ได้ยังไงว่ามันเปรี้ยวไป เค็มไป หรือหวานไป เราต้องลองชิมดูก่อน”

 

 

เปิดหัวใจ ส่องความรักของ ต๊อกแต๊ก A4

“ก่อนจะมีความรักที่ดี ต๊อกแต๊ก เคยโดนพระที่เป็นเกจิที่ตัวเองนับถือมาก ๆ ท่านทักว่า ต๊อกแต๊ก ต้องผิดหวังกับความรักทั้งหมด 11 ครั้ง พอรู้เราก็ตกใจนะ แต่ก็ตัดสินใจเผชิญกับมัน เราทุ่มเทกับความรักทุกครั้ง เราใส่ใจคนรัก เราให้เกียรติ เราเต็มที่ในพาร์ทของความรัก แต่เมื่อไหร่ที่มันไปต่อไม่ได้ เราต้องรู้จักที่จะยอมรับมันแล้วก็มูฟออน ทุกวันนี้ก็กลายเป็นเพื่อนกัน ครั้งหนึ่งเราเคยรักเค้า เค้าก็เคยรักเรา

เรื่องมูเตลู ต๊อกแต๊ก ไปขอกับ ร.5 ที่ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ไปกับ คุณนิว นภัสสร ตอนนั้น คุณนิว ยังไม่มีลูกเลย ก็ไปกราบขอพรหลวงพ่อสมเด็จวัดโพธิ์ แล้วนิวก็บอกว่าพานดอกไม้เหลือ ไปไหว้เสด็จพ่อ ร.5 ไหม ก็เลยไปไหว้กัน หลังจากนั้นคนก่อนหน้านี้ก็เข้ามาในชีวิต เราก็คิดว่านี่คงเป็นคนที่เรารอคอยมานาน แต่กลับกลายเป็นว่ามันไม่รอด แล้ววันที่เลิกกัน ก็คือวันที่ไปกราบศพสมเด็จะพระสังฆราชที่วัดนี้พอดี เราก็ไปกราบ ร.5 ด้วยกัน แล้วก็บอกเลิกกันวันนั้น เราเลิกกันด้วยดีเพราะเรารู้สึกว่ามันไปต่อไม่ได้ เรารู้สึกว่าท่านให้เราสองคนมาชดใช้กรรมให้มันหมดเพื่อที่จะให้เราเจอคนใหม่ ซึ่งแฟนคนปัจจุบันเราก็ไปขอพระแม่อุมา ที่วัดแขก ก็ได้ความรักครั้งนี้มา

กับ คุณตั๊ก เรารู้จักกันมาประมาณ 6 ปี แต่ว่าเพิ่งมาคบกันเมื่อปีที่แล้ว เพราะว่าก่อนหน้านี้ ต๊อกแต๊ก ก็มีความรักมาก่อน แต่ไม่ได้สมหวัง กับคนนี้ เราเพิ่งคบกันเมื่อตอน สิงหาคม 2566 รู้จักกันเพราะว่าเค้ากับรุ่นน้องของเรารู้จักกัน แล้วรุ่นน้องก็เป็นคนพาเค้ามาดูดวงกับเรา ตอนนั้นเค้าเพิ่งย้ายมาจากอเมริกา แล้วจะมาอยู่มาเลเซีย เค้าก็เลยมาดูดวง ซึ่งตอนนั้นยังไม่สนใจกันเพราะต่างคนต่างมีแฟน แต่เค้าก็ติดตาม Instagram เรา แล้วก็ทักมาบ้าง จึงได้เริ่มได้พูดคุยกัน แต่พอคุยกันไปสักพักมันก็มีเหตุให้เราต้องหยุดการคุยกันไป ต่างคนต่างใช้ชีวิต แต่ว่าเค้าก็ไม่เคยหายไปแบบ 100% เค้าก็ยังมีไปทำบุญตรงนี้นะเอาบุญมาฝาก แล้วก็ให้กำลังใจกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน หรือเรื่องความรัก แต่ในวันที่มาคบกัน มันเหมือนพอรู้จักกันมาแล้วแล้วเราอายุเท่า ๆ กัน เลยได้คุยกันแบบผู้ใหญ่ และเราสองคนจะต้องไม่เป็นภาระของกันและกัน เค้าก็บอกโอเคเพราะเค้าก็อยากจะกลับมาดูแลคุณพ่อคุณแม่ มาดูแลกิจการที่บ้าน มาทำธุรกิจของเค้า แล้วเราก็ต่างคนต่างซัพพอร์ทกันไป กลายเป็นความรักที่ดีค่ะตอนนี้”

 

 

ต๊อกแต๊ก A4 กับการผลักดัน พ.ร.บ. #สมรสเท่าเทียม

“ก่อนหน้านี้ มันก็จะมีร่างของหลาย ๆ พรรคการเมือง แต่ก็จะมีอุปสรรคในเรื่องของการเข้าไปในสภาแล้วมันโดนตีตก ซึ่งพวกเราก็สู้กันมาโดยตลอด แต่พอ ต๊อกแต๊ก ได้มีโอกาสเข้าไปนั่งเป็นนักวิชาการประจำกรรมาธิการเด็กเยาวชนสตรีผู้สูงอายุผู้พิการกลุ่มชาติพันธุ์และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร มันก็มีเรื่องของเจนเดอร์ ในเรื่องของการสมรสขึ้นมา ซึ่ง ต๊อกแต๊ก เป็นคนกดไมค์แล้วพูดว่า จริง ๆ เป็นประเทศที่เปิดกว้างมากเลยสำหรับ LGBTQ+ แต่ว่าเปิดกว้างในด้านของพฤตินัย แต่ด้านนิตินัยยังไม่ได้เปิดรับ ข้อที่สองคือ มีงานวิจัยที่เราเก็บข้อมูลมาเยอะมากว่า กลุ่ม LGBTQ+ ที่ต่างประเทศเค้าอยากจะมาเที่ยวประเทศไทย ติด Top 5 ของโลก และ LGBTQ+ มีพฤติกรรมผู้บริโภคคือเป็นคนที่มีกำลังซื้อกำลังจ่าย ต๊อกแต๊ก มองว่า ถ้ากฎหมายบ้านเรามันผลักดันกัน หรือมันมีการปรับเปลี่ยน มันมีการสมรสเท่าเทียม หรือในเรื่องคำนำหน้า มันจะทำให้เม็ดเงินเข้าประเทศชาติเราได้ แล้วเราทำแคมเปญสื่อสารออกไปให้ต่างชาติได้รับรู้ว่าประเทศไทยมีกฎหมายรองรับ ไม่บูลลี่ ไม่เหยียดหยาม ไม่อันตราย ไม่ทำร้ายกลุ่ม LGBTQ+ ต๊อกแต๊ก เชื่อว่าต่างชาติเค้ามาประเทศไทยแน่นอน

แล้วที่ผ่านมา ต๊อกแต๊ก ก็ยอมรับในฐานะ LGBTQ+ คนหนึ่ง เวลาที่เราไปพูดเรื่องกฎหมาย หรือเราจะผลักดันอะไรก็แล้วแต่ เราไม่เคยไปพูดในมุมการเปลี่ยนให้เกิดภาพใหญ่ในประเทศ  เราจะไปพูดในมุมของเรา เช่น ฉันใช้สวัสดิการของแฟนไม่ได้ ฉันไปต่างประเทศแล้วโดน ตม.จับ ครอบครัวไม่ยอมรับ แต่ในวันที่ ต๊อกแต๊ก พูด เราพูดในมุมของที่ว่า ปัจจุบันนี้การแพทย์มันไปไกลมาก ทรานส์เจนเดอร์ก็สวยมากขึ้น และ ต๊อกแต๊ก เก็บข่าวเยอะมาก ต๊อกบอกเลยว่าปัจจุบันนี้ชายจริงหญิงแท้แต่งงานเป็นสามีภรรยากันถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าวันหนึ่งสามีนอกใจภรรยาไปเป็นชู้กันกับทรานส์เจนเดอร์ แต่กฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1148 มันระบุแค่ว่า ชายใดนอกใจภรรยาไปเป็นชู้สาวกับหญิงอื่น ดังนั้นกรณีข้างต้นไม่สามารถเอาผิดทรานส์เจนเดอร์ได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เปลี่ยนกฎเป็น บุคคลใดบุคคลหนึ่งนอกใจคู่สมรส ไปมีชู้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง คุณเอาผิดได้เลย เพราะว่าไม่ว่าเพศไหนก็แล้วแต่ นอกใจคือนอกใจ อันนี้คือคุณเอาผิดได้ พอพูดเรื่องนี้ทุกเพศเข้าใจ มันก็เลยกลายเป็นภาพใหญ่ และ ต๊อกแต๊ก ได้เรียนรู้ว่า เวลาเราจะพูดอะไรก็แล้วแต่ มันต้องเกิดผลได้หรือผลเสีย หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงกับภาพใหญ่ มันถึงจะเกิดการผลักดัน ดังนั้น ณ ตอนนี้ สมรสเท่าเทียม ต๊อกแต๊ก กล้าพูดได้เลยว่าผ่านแน่นอน เพราะเค้าทำอย่างประณีต แล้วเค้ามีภาคประชาชน ต้องขอบคุณมากเลยนะคะ ภาคประชาชนก็มาช่วยกันเต็มที่มาก ภาคของสภาผู้แทนราษฎร ตอนนี้ไปอยู่ที่สมาชิกวุฒิสภา ซึ่งมันเหลืออีกวาระเดียวก็จะบรรจุเป็นบังคับใช้แล้ว”

 

 

สีสัน แรงบันดาลใจ จาก ต๊อกแต๊ก A4

“อยากจะฝากน้อง ๆ ที่เป็นหมอดู และคนที่ฟังหมอดูต๊อกแต๊กอยู่ว่า การที่เราให้เกียรติซึ่งกันและกันสำคัญที่สุดเลย นอกจากนี้เราต้องเชื่อมั่น และซื่อสัตย์กับจรรยาบรรณ และวิชาชีพของตัวเอง คนเราเกิดมามีเซ้นส์ได้ เป็นหมอดูได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำงานก็ให้มันพอดีแบบสุจริต คนที่ไปดูดวงก็เหมือนกัน ควรมีสติในทุกอย่าง อย่าไปเชื่ออะไรง่ายเกินไป บางทีอาจจะโดนหลอกได้ ที่เราบอกว่า หมอดูคู่กับหมอเดา แม่หมอก็อยากจะบอกทุกคนว่า ไม่มีใครตอบได้ว่าเราดูดวงแม่นหรือไม่แม่น แต่คนที่ดูดวงไปแล้ว ถึงจะตอบได้ว่ามันใช่หรือมันไม่ใช่ ดังนั้นฟังหมอดูเป็นไกด์ไลน์ชีวิตดีกว่าค่ะ”ต๊อกแต๊ก A4

 

 

พบเรื่องราวชีวิตหลากสีสันใน Club Pride Day คลับที่เต็มไปด้วยแบ่งปันข้อคิดแรงบันดาลใจ และมีคลังความรู้ที่พร้อมแชร์ ไปกับแขกรับเชิญพิเศษ และสองดีเจสุดแซ่บ “พี่อ้อย” และ “ก็อตจิ” ได้ในทุกสัปดาห์

 

ติดตามชมรายการย้อนหลัง

album

0
0.8
1