เปิดสีสันชีวิตทำความรู้จักตัวตน ของ “ใหม่ Powerpuff Gay” อินฟลูเอนเซอร์สุดเก๋ ผู้สร้างตำนานบทใหม่ทุกครั้งที่ไลฟ์

Club Pride Day Recap

เปิดสีสันชีวิตทำความรู้จักตัวตน ของ “ใหม่ Powerpuff Gay” อินฟลูเอนเซอร์สุดเก๋ ผู้สร้างตำนานบทใหม่ทุกครั้งที่ไลฟ์

25 ธ.ค. 2023

รายการ CLUB PRIDE DAY ต้อนรับแขกรับเชิญสุดต๊าช “ใหม่ Powerpuff Gay” หรือ “ใหม่ ลอว์เรน” อินฟลูเอนเซอร์สุดเก๋ ผู้สร้างตำนานบทใหม่ทุกครั้งที่ไลฟ์ กว่าจะมีวันนี้ เขาผ่านหลากหลายเรื่องราว ฝ่าฝันบททดสอบของชีวิตมากมาย และมีหลากหลายแรงบันดาลใจดี ๆ ที่ได้นำมาแชร์ไว้ในรายการด้วย

 

ใหม่ ลอว์เรน ชื่อนี้ได้แต่ใดมา

“ลอว์เรน เป็นชื่อหมอผี ใน The Conjuring ค่ะ เรื่องของเรื่องคือ วันนั้นแก๊งเราแต่งหน้าสไตล์ฝรั่ง แล้วนั่งคุยกันกับ น้องหนุ่ม ผ่านไลฟ์สด แล้ว น้องหนุ่ม ก็แซวว่า วันนี้ดูฝรั่งนะจ๊ะ ลอว์เรน เราก็ถามว่า หนุ่ม หล่อนเอา ลอว์เรน มาจากไหน หนุ่มบอกว่า หนูนึกอะไรไม่ออก แล้วเมื่อคืนหนูดูหนังผี The Conjuring แล้วหมอผีที่ปราบผีมันชื่ ลอว์เรน ก็เลยตั้งชื่อให้ว่า ลอว์เรน ซึ่งหนูว่าชื่อมันดูเปรี้ยวดี มันเลิศ ก็เลยใช้ชื่อ ใหม่ ลอว์เรน ตั้งแต่นั้นมาค่ะ”

 

 

ย้อนวัยใส ของ ใหม่ ลอว์เรน

“จริง ๆ แล้วพ่อกับแม่ของ ใหม่ รู้อยู่แล้วว่าเราเป็นมาตั้งแต่เด็ก เค้าก็พยายามที่จะปรับเปลี่ยนให้เราคบกับเพื่อนผู้ชาย ให้เราแต่งตัวที่ดูแมนขึ้น ซึ่งเราก็รู้สึกว่าตัวเองทำไม่ได้ เพราะเราลองทำแล้ว ลองตามใจเค้าแล้ว ด้วยความที่เราเป็นลูกคนเล็ก แล้วมีพี่สาวสองคน ก็เลยติดเล่นกับผู้หญิง แล้วแม่ก็ดันตามใจอีก จำได้เลยว่าของเล่นชิ้นแรกที่หนูอ้อนแม่ซื้อก็คือ บาร์บี้ แล้วพอโตขึ้น ถามว่าเราได้พิสูจน์ตัวเองไหม บอกเลยว่า ใหม่ ไม่ได้พิสูจน์อะไรเลย หนูแค่เป็นคนชอบทำมาหากินคนนึง แล้ววันหนึ่งเราก็เลี้ยงดูครอบครัวเราได้ เราใช้หนี้ให้แม่ได้ เราสามารถดูแลครอบครัวพี่สาวเรา ดูแลแม่บ้าน ดูแลคนงานในบ้านเราได้ ก็แค่นั้นเอง ไม่ได้เอาตัวเองมาพิสูจน์อะไรกับใคร

หนูเป็นคนที่รักตัวเอง รักความรู้สึกตัวเอง รักในสิ่งที่ตัวเองคิด แต่หนูเข้าใจความคาดหวังของผู้ใหญ่นะ ที่คาดหวังว่าเรียนจบเสร็จรับปริญญา รับปริญญาเสร็จบวช บวชเสร็จทำงานได้เงินเดือนเท่าไหร่ แต่งงานหรือยัง เป็นลำดับขั้นของชีวิต ซึ่งเราเข้าใจ แต่หนูก็จะพูดกับแม่เสมอว่า หนูไม่บวชนะ หนูรู้สึกว่าหนูทำอะไรให้แม่ได้ทุกอย่างเลย แต่หนูขอไม่บวชได้ไหม เพราะหนูรู้สึกว่า อะไรที่มันไม่ได้ทำมาจากใจของเรา เราจะทำมันได้ไม่ดี มันก็เหมือนอย่างเพจที่หนูทำอยู่ ถ้ามันไม่ได้มาจากใจ จากความชอบ หนูก็ทำมันไม่ได้ดีเช่นกัน”

 

 

กว่าจะเป็น Powerpuff Gay แก๊งสุดเก๋ สร้างไวรัลสุดปัง

“แต่เดิมความฝันของหนูคือ อยากเป็นดารานักแสดง เมื่อก่อนพ่อของหนูเคยเปิด จิรวัฒน์การละคร เป็นบ้านที่สอนเกี่ยวกับศิลปะการแสดง หนูก็จะซึมซับว่า ตัวเองอยากเล่นละคร อยากเป็นดารา เราเคยไปแคสงานโฆษณาเยอะมาก แต่ก็ไม่เคยได้ ก็เลยคิดแค่ว่า ถ้ามันได้มันก็กลายเป็นโบนัสของชีวิต เพราะเราก็มีธุรกิจส่วนตัวที่บ้านอยู่แล้ว แล้วการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ทุกวันนี้ได้ ย้อนกลับไปตอนนั้น หนูไม่รู้เลยว่าในอนาคตมันจะกลายมาเป็นแบบนี้

Powerpuff Gay เป็นเพจที่หนูสร้างขึ้นมาด้วยตัวของหนูเอง แล้วก็ไปจิ้มน้องใน Facebook ที่เป็นเพื่อนกันแต่ไม่เคยเจอกัน ซึ่งหนู กับ เต้ รู้จักกันมาก่อน จากรายการ Take Gay Out Thailand จากนั้นก็ชวนคนอื่น ๆ เข้ามาเพิ่ม

หนูสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า Powerpuff Gay หนูสร้างมากับมือที่เริ่มจากศูนย์ตอนนั้นหนูไม่มีความรู้อะไรเลย เรื่องรายได้ตัวเอง รายได้ให้น้อง คิดคอนเทนต์ ทำเองหมด เวลาคนมาเห็นกองถ่ายของ Powerpuff Gay ก็จะตกใจว่ามีกันแค่สี่คนเหรอ แล้วพอมีงานใหญ่ ๆ บางครั้งคนก็ไม่เชื่อว่าเราทำกันแค่สี่คน

เราทำกันสี่คน ตั้งกล้องเอง ทุกอย่างที่เห็นทั้งหมดไม่ว่าตำนานไหน ๆ ไม่มีใครอยู่หลังกล้องเลย เราอยู่หน้ากล้องกันทุกคน แต่มีงานหนึ่งที่มีคนอยู่หลังกล้อง เพราะมันเป็นงานที่หนูช่วยเหลือสังคม คือตอนนั้นสมัยที่โควิดมันหนักมาก ๆ แล้วพ่อค้าแม่ค้าไม่สามารถค้าขายได้ หนูก็เลยพิมพ์เลยว่า ใครอยากจะให้หนูไลฟ์สดขายอะไร หนูทำให้ฟรีเลย จำได้ว่ามีประมาณเกือบสามร้อยกว่าแบรนด์ที่ส่งมา แล้วหนูตั้งใจไลฟ์ให้เพราะหนูอยากทำด้วยใจจริง ๆ เพราะว่ามีบางคนที่อายุเยอะแล้ว เขานั่งวินมอเตอร์ไซค์จากปิ่นเกล้า มาบางกะปิ เพื่อที่จะเอาใบมายื่นให้ดูว่า ป้าตรวจโควิดแล้วนะ ป้าจึงทำกระท้อนยำนี้ แล้วเอามาให้พวกหนูไลฟ์สดเพื่อโปรโมท วันนั้นน้ำตาหนูจะไหล หนูรู้สึกขอบคุณมาก ๆ ที่เขาเห็นความสำคัญตรงนี้ คือเขาไม่เก่งโซเชียล เขาไม่รู้ว่าเขาจะทำยังไง ต้องถ่ายรูปยังไง แต่เขานั่งมอเตอร์ไซค์จากปิ่นเกล้าเพื่อมามาหาเรา งานนั้นกลายเป็นงานที่คนอยู่หลังกล้องทั้งหมด เพราะว่ามันเยอะมาก มีสินค้าเป็นร้อย ๆ  อย่าง

คอนเทนต์แรก ๆ หนูตั้งใจทำเลียนแบบ MV เพลงเหรอ ของ Zaza แล้วก็เลียนแบบโฆษณา ทำไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมีสปอนเซอร์ตัวหนึ่งเข้ามาเป็นสเปรย์พ่นเท้า ตอนนั้นตื่นเต้นมาก เขาถามว่าคิดค่าลงโฆษณาเท่าไหร่ แล้วเป็นงานแรกในชีวิต หนูก็เลยคิดว่าสองหมื่นห้าก็แล้วกัน เพราะเรามีกันห้าคน คนละห้าพันบาท ซึ่งหนูมองว่าการออกจากบ้านหนึ่งครั้ง ถ้าเกิดได้เงินห้าพันมันคุ้มละต่อวัน หลังจากนั้นเพื่อนของเขาก็มาติดต่อเป็นสปอนเซอร์ต่อ เป็นครีมสี่ตัวที่เป็นแบรนด์เดียว หนูก็เลยได้งานนั้นงานแรกที่ถูกจ้างราคาหนึ่งแสนบาท แล้วเราได้คนละสองหมื่นห้า เป็นครั้งเลยที่ได้เงินแสนเข้ามาในทีม แล้วทีมรู้สึกว่าพวกเราหาเงินได้

พวกหนูทำคอนเทนต์จากความชอบโดยตรง ในระยะแรกหนูเป็นคนก่อตั้งแก๊งขึ้นมาหนูมีความรู้เรื่องเสื้อผ้า แล้วหนูมีความรู้เรื่องคอนเทนต์บ้างเล็กน้อย ก็พยายามช่วยเหลือกันทั้งสี่คน น้องเต้ เป็นตากล้อง พี่อาร์ต เป็นครีเอทีฟ น้องหนุ่มเป็นผู้ช่วยหนู คอยช่วยในการหาของทำพร็อบ แล้วหนูเป็นคอสตูม มีเท่านี้เลย

หนูอยากจะบอกน้อง ๆ ทุกคนที่อยากจะเป็นครีเอเตอร์ หรือทำคอนเทนต์ว่า มันไม่จำเป็นที่จะต้องมีโปรดักชันใหญ่เลยนะ อย่าพยายามคิดว่าต้องมีโปรดักชันใหญ่ ต้องมีตากล้องเยอะ บอกเลยว่าโทรศัพท์เครื่องเดียวมันหาเงินได้ และอย่างหนึ่งที่หนูจะคอยสอนน้องทุกคนว่า ความไร้สาระมันหาเงินได้เสมอ

 

 

ย้อนคลิปสุดไวรัล แจ้งเกิด ใหม่ Powerpuff Gay

“คลิปที่มียอดดูสูงมากถล่มทลาย คือ ตำนานกรีดอายไลน์เนอร์ มันเป็นตำนานที่หนูไม่ได้ตั้งใจ แล้วหนูก็ขอโทษลูกค้าไปเรียบร้อย เรื่องมันเกิดจากวันนั้น หนูไปที่สตูดิโอของเพื่อน ซึ่งหนูจะกลับอยู่แล้ว แต่เพื่อนบอกว่าฉันได้อายไลน์เนอร์มา อยากให้เธอเอาไปเล่นกับไลฟ์สดขำ ๆ วันรุ่งขึ้นหนูก็นั่งเล่นแต่งหน้าเปิดกล้องไลฟ์สด ก็เลยเอาอายไลน์เนอร์มาไลฟ์ว่าใช้ดีนะ เป็น Water proof ก็กรีดที่หน้า แล้ว พี่อาร์ต ก็ดันพูดขึ้นมาว่า อายไลน์เนอร์ที่ดีมาก มันกันน้ำยังไงมันก็จะไม่หลุด ตอนนั้นหนูก็เช็ดเลย ปรากฏว่าอายไลน์เนอร์มันหลุด แต่หนูก็พยายามขอโทษลูกค้า ซึ่งเหตุผลจริง ๆ คือหนูไม่ได้ลงรองพื้น แล้วหนูเป็นคนหน้ามัน แล้วถ้าไม่ลงรองพื้นเครื่องสำอางทุกอย่างมันหลุดง่ายมาก หลังจากนั้นมันกลายเป็นการรีวิวแบบใหม่ที่ลูกค้าหลาย ๆ แบรนด์ชอบ และมันเริ่มกลายเป็นกระแสที่คนเริ่มชอบ ลูกค้าเริ่มบรีฟว่าพี่ขายไปเลย พี่อยากขายยังไงพี่ขาย พี่อยากรีวิวยังไงพี่รีวิว หนูไม่อยากบังคับพี่ หนูอยากได้ความเป็นตัวพี่

หลังจากนั้นก็เริ่มมีกระแสแต่มันก็ยังไม่ใช่จุดที่พีคที่สุด พวกเรามาดังตอนที่เราเป็นแบบ ม้าม่วง & ลอว์เรน เริ่มไลฟ์สดเล่นกัน คนก็เริ่มรู้จักมากขึ้น 4 เดือนนั้น หนูทำงาน ตลอด 120 วันเต็ม บางวันรับ 9 งานก็มี

เป็นช่วงที่อาหารเต็มบ้าน เราตื่นมากินแล้วไลฟ์สด ตอนนั้นเป็นช่วงโควิดที่ปิดเมืองด้วย แล้วน้อง ๆ ก็ได้งานกันด้วย ก็ต้องแยกย้ายไปทำงานของตัวเอง พอ 4 โมงปุ๊บก็กลับมาเจอกันเพื่อไลฟ์สดต่อ จนหนูทนไม่ไหวก็เลยตั้งกล้องแล้วนอนเลย ก่อนนอนหนูก็ขายของก่อนประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วหนูก็ตัดสติ๊กเกอร์เป็นหน้าพวกเรา 4 คน แปะที่ผลิตภัณฑ์ว่า 4 คนนี้จะเฝ้าของไว้ตั้งแต่คืนนี้จนถึงพรุ่งนี้เช้า แล้วตื่นเช้าขึ้นมา ฉันจะพูดใส่กล้องเพื่อขายอีกรอบ จนกลายเป็นตำนานที่คนชอบมากคือการ นอนไลฟ์ หลับบ้าง กรนบ้าง หนูก็ปล่อยเลยเพราะเราชอบความเรียล จนคนดูโทรมาปลุก หนูก็ตื่นขึ้นมาหันไปที่กล้อง ตัวเลขคนดูมันพุ่งขึ้น เพราะคนรอดูหนูตื่น จากเดิมมีคนดูอยู่ 1,800 คน แค่หนูบอกว่าตื่นแล้วนะ คนดูพุ่งเป็น 3,800 คนเลย สปอนเซอร์ก็ชอบเพราะได้มีเวลานานขายของตั้ง 8 ชั่วโมงเลย”

 

 

ใหม่ Powerpuff Gay กับตำนานเหมือนทุกอย่าง ยกเว้นตัวเอง

“หนูก็เป็นคนชอบแต่งตัวมาก แต่หนูแต่งตัวยังไงมันก็ตลก หนูใส่กางเกงลายจุดสีดำพื้นกางเกงสีชมพู หนูก็เหมือนนมชมพูที่ใส่ไข่มุก แล้วพอหนูมีหนวด ก็ดันไปเหมือนคนอื่นไปหมด พี่ป๊อป แคลอรี่ บ้าง พี่โอ๊ต ปราโมทย์ บ้าง หมอสุนิล บ้าง ล่าสุดคนบอกว่าหนูเหมือนหม้อหุงข้าว คือจริง ๆ แล้ว หนูต้องขอบคุณชาวเน็ต ที่เขาสรรค์สร้างอะไรให้เราหลาย ๆ อย่าง แล้วหนูก็เอามาต่อยอด แล้วพวกเราพยายามที่จะทำคอนเทนต์ในแง่บวก หนูจะเน้นกับน้อง ๆ เลยว่า ทุกอย่างที่ออกมาต้องเป็น positive แล้วก็ให้ความสุขเท่านั้น เราต้องเล่นอยู่บนความสุขที่ไม่ได้อยู่บนความทุกข์ของคนอื่น

แล้วก่อนจะเป็น Powerpuff Gay หนูเคยจะเป็น Powerpuff Ghost มาก่อนนะ หนูรู้สึกว่า LGBTQ+ บวกกับผีแล้วมันตลก ทีแรกหนูตั้งใจจะทำ Powerpuff Ghost ขึ้นมา โดยการเล่าเรื่องผีแต่ไม่มีผีเลย เล่าไปเรื่อยโดยให้เป็นกะเทยเป็นคนเล่า จริงหรือไม่จริงก็เล่าไป แล้วหนูรู้สึกว่าเอนเกจเมนท์มันน่าจะดี แต่ด้วยงานที่มันเยอะ ก็เลยไม่มีเวลาในการทำ แต่โลโก้เสร็จแล้วนะ เพราะตั้งใจทำไว้นานแล้ว แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ทำ เดี๋ยวในอนาคตอาจจะเอามาปัดฝุ่นแล้วทำดูสักครั้ง”

 

 

คำบูลลี่ ที่เคยกระทบจิตใจของ ใหม่ Powerpuff Gay

“โดยปกติหนูเป็นคนค่อนข้างสตรองมาก หนูรู้สึกว่า อะไรบางอย่างถ้าเราปิดตาได้ข้างนึงแล้วไม่ดูมัน มันก็ทำให้เราก้าวข้ามไปได้ บางคอมเมนต์ที่มันแย่หนูเห็นนะ แต่หนูก็รู้สึกว่ามันเป็นเพียงแค่คำพูด มันอาจจะทำร้ายจิตใจเราได้ แต่สุดท้าย มันไม่ใช่หน้าที่ที่หนูต้องคอยบอกคนทั้ง 76 ล้านคน ในประเทศไทย 77จังหวัดว่า ฉันเป็นคนแบบไหน เค้าจะคิดยังไง หรือเชื่อยังไงหนูก็ปล่อยผ่าน หนูแคร์เฉพาะคนที่อยู่รอบตัวเรา เข้าใจเราและอยู่ข้างเราเท่านั้นก็พอ

หนูเคยโดนครั้งหนึ่งที่หนูใส่ชุดว่ายน้ำ แล้วหนูโดนเพจหนึ่ง เข้ามาคอมเมนต์ว่าหนูเยอะมาก ๆ แล้วแชร์ภาพหนูไป แล้วด่าในคอมเมนต์แบบแรงมาก ๆ ซึ่งภาพมันอาจจะดูโป๊นิดนึงเพราะมันเป็นชุดว่ายน้ำ แต่ด้วยองค์ประกอบด้วยสี มันเป็นภาพที่สวยมาก ตอนที่โดนด่าหนูรู้สึกว่าทำไมใจร้ายจังเลย ทำไมคุณถึงใจแคบจังเลย เค้าตัดสินเราจากอะไร แต่หนูก็คิดได้ว่า อย่าแคร์คนที่ไม่ได้เข้ามารู้จักเราจริง ๆ หนูก็เลยปล่อยผ่าน”

 

 

ใหม่ Powerpuff Gay กับการปลดหนี้ให้ครอบครัวกว่า 10 ล้าน!

“หนูใช้หนี้ให้กับครอบครัวมาโดยตลอด เพียงแต่หนูไม่เคยออกมาเล่าเฉย ๆ ชีวิตหนูก็คือหนูใช้หนี้มาตลอด แล้วหนูเป็นคนชอบหาเงินมาก ได้เงินมาก็เอามาช่วยปิดหนี้บ้านบ้าง หนี้รถบ้าง จนกระทั่งล่าสุดที่หนูทำงานอย่างเต็มที่เพื่อจะปลดหนี้บ้านให้มันจบสักทีในชีวิต ทุกวันนี้บ้านที่หนูอยู่หนูรักมาก หนูอยากจะอยู่ที่นี่มาก ๆ จนกระทั่งวันหนึ่งที่ได้อยู่จริง ๆ หนูก็เลยคิดว่า หนูจะยอมเสียทุกอย่าง แต่หนูไม่ยอมเสียบ้านหลังนี้ไป เพราะมันเป็นโลเคชันที่หนูชอบและรักมันมาก ๆ หนูอยากจะเก็บบ้านหลังนี้เอาไว้แล้วก็อยากใช้หนี้ให้แม่ให้มันจบ เพราะว่าหนูทนความเจ็บปวดของการเป็นหนี้มาเป็น 10 ปีแล้ว มันทรมานมาก ๆ แต่มันทำให้หนูรู้สึกว่าตัวเองแกร่ง ในวันที่อาหารในบ้านหมดไม่มีเงินกินข้าว แล้วเราต้องแก้ปัญหาว่าจะกินอะไรที่มันอิ่มทั้งบ้าน มันทำให้หนูมองว่าการแก้ไขปัญหามันสนุก มันเหมือเล่นเกมว่าต้องจัดการยังไง ทำวิธีไหน ถึงจะจัดการปัญหานั้นได้สำเร็จ แล้วหนูชอบทดลอง ชอบแบบพิสูจน์ จนกว่าจะเจอผลลัพธ์ที่ดีที่สุด”

 

เรื่องนี้ที่ ใหม่ อ่อนไหวมากที่สุดในชีวิต!    

“เรื่องแม่ เรื่องครอบครัว เป็นเรื่องที่หนูอ่อนไหวที่สุดแล้ว หนูเคยมีวันที่ต้องออกไปหาโลเคชันถ่ายคลิป แล้วมันเป็นโปรเจคใหญ่มาก ๆ แล้วแม่ไปด้วย ซึ่งก่อนหน้านั้นตอนตี 3 แม่กลับมาจากต่างจังหวัด แล้วแม่บอกว่าเหมือนไม่สบายเลย หนูก็บอกว่าแม่อาจจะเพลียเพราะเดินทางไกล แม่ไปนอนเถอะ แล้วใหม่ก็จะรีบนอนด้วย พรุ่งนี้เช้าต้องตื่นไปสวนสาธารณะ พอประมาณตี 5 หนูก็ออกจากบ้าน ซึ่งโชคดีมากเพราะว่าพี่สาวเข้ามาที่บ้านพอดี เพราะแม่ตกเตียง แล้วปากเบี้ยวเลย เพระเส้นเลือดในสมองตีบ ตอนนั้นเรียกว่า สโตรค ซึ่งเราไม่มีความรู้ เพราะเราไม่คิดว่าคนในบ้านเราจะเป็น แล้วเราต้องมาเห็นแม่นอนอยู่บนเตียง ตอนนั้นเป็นช่วงทำ Powerpuff Gay ใหม่ ๆ หนูไม่มีเงิน แล้วต้องเอาแม่ไปอยู่โรงพยาบาลที่ไม่ได้เสียเงินแพง นอนห้องรวม พอเห็นแม่เราแบบนั้น หนูต้องทำหน้าปกติ แล้วหันหลังกลับมาร้องไห้ เป็นอยู่หลายวันมาก ๆ แต่ในวันที่หนูต้องดูแลแม่ หนูยอมจ่ายค่าจ้างพยาบาลในการดูแลแม่ตลอด 24 ชั่วโมง ต่อเดือน ซึ่ง ณ ตอนนั้นหนูหาได้ถูกสุดคือเดือนละ 2 หมื่นบาท เขาต้องตื่นตลอด 24ชั่วโมงเพราะแม่หนูทำอะไรไม่ได้เลยในช่วงแรก ๆ โรคนี้มันน่ากลัวมาก หนูต้องพยายามหาเงินเดือนละ 2 หมื่นบาท เพื่อมาจ่ายค่าพยาบาล ค่าน้ำค่าไฟ แล้วจ่ายหนี้ ที่มันยังมีอยู่เต็มไปหมด หนูเคยต้องผ่อนบ้านเดือนละ 6 หมื่นบาท หนูก็ปล่อยให้เขาทวง เพราะทำอะไรไม่ได้ รอเจอกันที่ศาล จะยึดเมื่อไหร่ก็ค่อยว่ากัน ทำได้แค่นั้น เพราะมันทำอะไรไม่ได้จริง ๆ”

 

 

เปิดความรัก ส่องหัวใจ ของ ใหม่ Powerpuff Gay

“ความรักครั้งแรกเป็นความรักเรียนปี2 เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ตื่นเต้นมาก เพราะว่ามีวัยรุ่นตีกันอยู่แถวตรอกข้าวสารตรงวัดชนะสงคราม แล้วหนูวิ่งหนีเพราะเค้าตีกัน แล้ว วิ่งหนีไปเจอผู้ชายที่เป็นรักแรก แล้วเค้ามาขอเบอร์เรา คือเจอกันที่หน้าวัด เป็นการได้เบอร์ครั้งแรก กลายเป็นความรักครั้งแรก แล้วเราก็เวอร์จิ้น เลยโกหกผู้ชายว่ามีรายงาน มาช่วยทำหน่อย เค้าก็มาทำการบ้านให้เรา แต่เราไปนั่งซักถุงเท้าให้เค้าในห้องน้ำ แต่สุดท้ายก็ได้กันกลายเป็นความรักครั้งแรก แต่ผู้ชายคนนี้เจ้าชู้มาก คบแฟนพร้อมกัน 12 คน วันที่เค้าซื้อของขวัญวาเลนไทน์มาให้หนู เค้าซื้อหมอนสำเพ็งโหลนึง ให้คนคุยทุกคน ก็เลิกกันไป แล้วความรักของหนูส่วนใหญ่จะสั้น ๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร

ส่วนความรักครั้งที่เฮิร์ทที่สุด คือ ครั้งที่ได้คบกับพี่คนนึงอายุประมาณ 35 ปี แล้วเราอายุ 32 ปี ซึ่งอายุไม่ได้ห่างกันมาก แต่เขากลับรู้สึกว่าเราเด็ก อาจจะเพราะว่าเขาชอบผู้ใหญ่แต่เขาดันมาคุยกับเรา เรารู้จักครอบครัวเขา แล้วเราดูแลพ่อแม่กับหลานเขา ซื้อขนมไปฝาก เราค้าขายมาด้วยกัน มันวางแผนทุกอย่างว่าจะเปิดร้านด้วยกัน แต่สุดท้ายเขาก็บอกเลิกเรา มันกะทันหัน แล้วหนูเฮิร์ทหนักมาก เหมือนคนเป็นไบโพลาร์ เป็นอยู่ 6 เดือน แล้วหนูมีแฟนใหม่ โดยการไปคว้าเขามา ด้วยความเหงา แล้ววันนึงการที่เราเอาเขามา โดยที่ไม่ได้รักเขาจริง เพราะเรายังลืมคนเก่าไม่ได้ หนูก็เลยบอกเลิกเขาในร้านอาหารญี่ปุ่น ซึ่งมันก็เป็นปมให้กับเขาจนทุกวันนี้เหมือนกัน เพราะทุกวันนี้เราเป็นเพื่อนกัน แล้วเขาพยายามจะพูดถึงเรื่องเก่าที่เราเคยบอกเลิกเขาอยู่เสมอ มันทำให้หนูรู้สึกว่า เวลาเราเลิกกับใคร เราไม่ควรที่จะรีบคว้าใครมาเลย เราต้องคิดให้มากกว่านั้น

ณ วันนี้ มันก็มีทั้งสถานที่เที่ยว มันมีทั้งการทักข้อความมาหา มันมีแอพหาคู่ มันเหมือนมีโอกาสที่เข้ามาเรื่อย ๆ แล้วเราก็ไม่ได้ปล่อยมันทิ้งไป มันก็เลยทำให้ได้คุย ได้เจอคนมากขึ้น พยายามหาคนที่ใช่ไปเรื่อย ๆ

เรื่อง #สมรสเท่าเทียม หนูมองว่า มันมีข้อดีอยู่เยอะ แต่สำหรับตัวหนูเอง หนูเป็นคนที่แบบว่าแต่งงานก็ได้ ไม่แต่งก็ได้ แต่หนูเคยมีแฟนคนหนึ่งที่เขาอยากแต่งงานกับหนูมาก ๆ ทุกวันนี้เค้าก็ยังอยากแต่งงานกับหนู เพียงแต่ว่าเค้ามีคนใหม่ไปละ เราก็อยู่ของเราไปละ หนูก็รู้สึกว่าเรื่องของกฎหมาย เรื่องของการพยาบาล การเซ็นยินยอม การตัดสินใจ หนูว่ามัน จริง ๆ แล้วทุกคนต้องการแค่ตรงนี้ ที่ทุกคนต่อสู้กันมา จุดนี้มันเป็นจุดสำคัญที่จะครอบคลุมใน LGBTQ+ ทุกคน”

 

 

แรงบันดาลใจ จาก ใหม่ Powerpuff Gay

“หนูรู้สึกว่า การมั่นใจในตัวเอง และการรักตัวเอง มันเป็นสิ่งที่ดี ทุกคนสามารถทำอะไรก็ได้ แต่ต้องไม่ทำร้ายใคร สำหรับเด็ก ๆ รุ่นใหม่ที่อยากเป็นอินฟลูเอนเซอร์ อยากจะทำโซเชียล อยากจะฝากไว้อย่างหนึ่งว่า อย่าเอาแต่ยอดไลค์ จนลืมคุณธรรม แล้วถ้าอยากจะเริ่ม หนูเริ่มต้นได้เลย โดยที่ไม่จำเป็นต้องรอมีนั่นมีนี่ ถ้าอยากทำก็ทำเลย ทำมาจากสิ่งที่เรารัก แล้วเราจะทำมันได้ดี” - ใหม่ Powerpuff Gay

 

พบเรื่องราวชีวิตหลากสีสันใน Club Pride Day  คลับที่เต็มไปด้วยแบ่งปันข้อคิดแรงบันดาลใจ และมีคลังความรู้ที่พร้อมแชร์ ไปกับแขกรับเชิญพิเศษ และสองดีเจสุดแซ่บ “ดีเจพี่อ้อย” และ “ดีเจก็อตจิ”  ได้ทุกสัปดาห์

 

 

ดูรายการย้อนหลัง

 

album

0
0.8
1