รายการ Club Pride Day เปิดไมค์ต้อนรับแขกรับเชิญสุดพิเศษ ที่บอกเลยว่าถ้าไม่มีเธอคนนี้ ก็ไม่มีรายการ Club Pride Day เพราะเธอคนนี้คือแขกคนแรกที่มาทำเดโม่ให้กับรายการ
ความสนุกเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 2 ดีเจ ดีเจพี่อ้อย และ ดีเจก็อตจิ เปิดไมค์กล่าวต้อนรับ "ตอนยอน" TIKTOKER สุดเก๋ ที่จะมาเผยเรื่องราวว่ากว่าจะกลายเป็นที่รู้จักจากวลีฮิต “BASIC GAY VOCABULARY” ตอนยอน ต้องผ่านอะไรมาบ้าง

“ติดแกรม” คำศัพท์ใหม่ ที่สอนกันสดๆในรายการ
เรียกว่ามาพูดคุยครั้งนี้ ตอนยอน ยังได้นำคำศัพท์ใหม่ของ “BASIC GAY VOCABULARY”
มาสอนให้ 2 ดีเจได้เข้าใจความหมายกันด้วย นั่นคือคำว่า “ติดแกรม” โดย ตอนยอน อธิบายว่า “คำนี้นะคะ In Thai ติดสวย In Basic Gay ติดแกรม ซึ่งคือลักษณะของคนที่อยู่ ๆ ก็ติดสวยขึ้นมา เช่น ผู้หญิงคนหนึ่ง ปกติเวลาอยู่กับเพื่อนจะเฮฮาดี๊ด๊า แต่พอมีผู้ชายที่ชอบเดินผ่านมา อยู่ ๆ ก็ทำตัวนิ่ง เก็กสวย ยิ้ม นี่คือลักษณะของคนที่ ติดแกรม โดยคำว่าแกรม มาจากคำว่า Glamorous นั่นเอง” เรียกว่าทั้งสองดีเจร้องอ๋อ เมื่อได้เรียนรู้ศัพท์ใหม่ ที่ ตอนยอน เอามาสอนในรายการ
แรงบันดาลใจ ที่ทำให้อยากเรียนครุศาสตร์
ตอนยอน ได้เล่าประการณ์ด้านการศึกษาให้ฟัง โดนเธอเรียนจบจากคณะครุศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ-เทคโนโลยีการศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งแรงบันดาลใจในการเรียนคณะนี้ ตอนยอน ได้เล่าให้ฟังว่า “หนูเป็นเด็กต่างจังหวัด และได้มองเห็นความเหลื่อมล้ำทางการศึกษามาตั้งแต่ตอนนั้น ทำให้เรารู้สึกว่าขาดโอกาสหลายอย่างที่ไม่เท่าคนอื่น และพอมีช่วงที่ต้องสอบเข้า รู้สึกว่าเนื้อหาที่เราเรียน หรือว่าความรู้ที่ได้รับจากโรงเรียนมันไม่พอที่จะไปสอบแข่งกับเด็กโรงเรียนอื่น หรือว่าเด็กที่ได้เรียนพิเศษ ก็เลยเปิด Youtube ดูคลิปติวฟรีตามโครงการต่าง ๆ แล้วเห็นครูที่เป็นติวเตอร์คนหนึ่ง การที่เขาพูดหนึ่งครั้ง แต่มีเด็กที่รอดูถ่ายทอดสดครั้งนั้นเป็นแสนคน เราเลยรู้สึกว่าถ้ามีโอกาสเราอยากเป็นคนนั้น ที่ได้พูดให้ความรู้กับเด็กหลายๆ คนทั่วประเทศ”
นอกจากนี้ ตอนยอน ยังได้เล่าความตั้งใจ มุ่งมั่น ทุ่มเท ที่จะสอบให้ติดคณะที่อยากเรียนไว้ว่า “นอกจากไม่มีเงินไปเรียนพิเศษให้ได้เกรดดี ๆ ก็ยังไม่มีโอกาสขึ้นกรุงเทพฯ ไปติวเหมือนเพื่อน ๆ ที่เค้าไปกันด้วย แต่เราตระหนักดีว่าการศึกษามันสำคัญ ช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นได้ เลยขอคอมพ์กับเครื่องปริ้นท์จากคุณพ่อคุณแม่ แล้วขอกระดาษใช้แล้วจากครูที่โรงเรียน เอามาปริ้นท์ข้อสอบและแบบฝึกหัดที่เค้าแจกฟรีทางอินเทอร์เน็ตมานั่งเรียนนั่งทำเองเป็นพัน ๆ ข้อ"
พอได้เริ่มเรียน กลับมีความคิดที่อยากจะลาออกจากคณะ
จากความมุ่งมั่นตั้งใจ ทำให้ ตอนยอน ได้ทำตามความฝัน เธอสามารถสอบเข้าคณะครุศาสตร์ตามที่ตั้งใจได้ แต่พอได้เข้ามาเรียนจริงๆ ตอนยอน กลับเคยคิดที่จะลาออกจากคณะ โดยเธอเล่าให้ฟังว่า “พอได้เข้าไปเรียนจริง ๆ มันมากกว่าที่เราสนใจ อย่างเช่น หนูเข้าไปเอกภาษาอังกฤษ คิดว่าคงจะได้ไปเจอภาษาอังกฤษเยอะ ๆ แต่พอเข้าไปเรียนคณะด้านการศึกษาจริง ๆ สัดส่วนที่เกือบจะเท่ากันกับวิชาเอก ก็คือวิชาความเป็นครู ต้องไปเข้าโรงเรียน ต้องไปซ้อมยืนเข้าแถว ต้องไปดูเวรนักเรียนทำความสะอาด มันก็เป็นประสบการณ์ใหม่เหมือนกัน แต่น่าจะไม่ใช่สิ่งที่เราชอบ”

นิเทศศาสตร์ อีกหนึ่งความฝันของ ตอนยอน
พอได้เรียนไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มเปิดโลกให้กับ ตอนยอน มากยิ่งขึ้น จนทำให้เธอได้เจอความชอบที่แท้จริงของตัวเอง โดย ตอนยอนเล่าให้ฟังว่า “ตอนนั้นเริ่มอยากเรียนคณะนิเทศศาสตร์ เพราะหนูได้เจอความชอบในอีกมุมหนึ่งของตัวเอง จากสมัยมัธยมเราเหมือนเป็นเด็กเนิร์ดสายวิชาการ แต่พอมามหาวิทยาลัย มันเปิดโลกมาก พอได้รับน้อง ได้ทำกิจกรรม ทำให้เรารู้ตัวเองว่าชอบพูด ชอบแสดงออก เลยมองไปที่คณะนิเทศศาสตร์ ตอนนั้นในช่วงกำลังจะขึ้นปี 2 หนูก็ยื่นไปนิเทศศาสตร์เลย พอติดมันเลยต้องตัดสินใจว่า จะเรียนครุศาสตร์ต่อ หรือ ไปนิเทศศาสตร์เลย ตอนนั้นคิดหนักมากเลยนะ มีเวลาให้ตัดสินใจ 1 เดือน เอาแต่นั่งคิดว่าจะเอายังไงดี จะออกหรือไม่ออก เพราะยังมีความคิดฝังหัวกับค่านิยมของเด็กต่างจังหวัดอยู่ว่าจบนิเทศศาสตร์แล้วหางานยาก จบไปแล้วจะทำอะไรต่อดี จะมีความมั่นคงรึเปล่า จนวันสุดท้ายประมาณบ่ายสามโมง หนูโทรไปหาสำนักงานทะเบียนถามเค้าว่ายังลาออกทันมั้ย เจ้าหน้าที่บอกทำได้แต่ขั้นตอนยุ่งยากหน่อย ตอนนั้นเลยแบบโอเค ยอมแพ้ไม่ลาออกแล้ว”
“ตอนยอน” ชื่อเหมือนชาวเหนือ แต่ไม่ได้เป็นคนภาคเหนือ
เมื่อได้ยินชื่อ “ตอนยอน” หลายคนคงคิดว่าเธอคือคนภาคเหนือรึเปล่าถึงใช้ชื่อนี้ งานนี้
ตอนยอน จึงได้เผยที่มาของชื่อนี้ว่า “จริงๆแล้วหนู เป็นคนพังงา เป็นคนใต้ จุดเริ่มต้นของชื่อ ตอนยอน คือตอนเข้าชมรมสันทนาการของคณะครุศาสตร์ ชื่อเล่นจริง ๆ ของเราคือ เจมส์ แต่ตอนนั้นมันต้องมีชื่อลับเป็นสเตจเนม เราก็อยากได้อะไรที่มัน contrast กับตัวเอง พอดีเป็นคนใต้เลยเลือกชื่อ ตอนยอน แล้วกัน ที่เป็นคำเหนือ แปลประมาณว่า ลั้นลา chill chill พอตั้งชื่อแบบนี้คนก็จะชอบมาถามว่า เป็นคนเหนือเหรอ มันดูมี Topic ให้เราได้คุยต่อ เลยชอบชื่อนี้ค่ะ”

“ประธานค่ายจุฬาพังงา ครั้งที่ 1” กิจกรรมที่ ตอนยอน ภูมิใจที่สุด
แม้จะเป็นเด็กกิจกรรมแถวหน้าของมหาวิทยาลัย ผ่านกิจกรรมมาเยอะมาก เช่นการเป็นพิธีกร MC of Chula , MC of CU Band แต่ก็มีหนึ่งกิจกรรมที่ ตอนยอน รู้สึกภูมิใจที่สุดที่ได้ทำ นั่นคือการได้เป็น ประธานค่ายจุฬาพังงา ครั้งที่ 1 โดยเธอได้เล่าความภูมิใจนี้ว่า “หนูรู้สึกว่ากิจกรรมนี้เป็นสิ่งที่หนูอยากทำให้ตัวเองในตอนเด็ก เพราะตอนนั้นหนูรู้สึกว่าตัวเองเข้าไม่ถึงการแนะแนวที่ดี ซึ่งปกติที่จุฬาฯ เค้าจะมีค่าย เช่น จุฬาขอนแก่น จุฬาเชียงราย จุฬาเชียงใหม่ เป็นเหมือน Community คนจังหวัดนั้นๆ ที่เค้ามาเรียนที่นี่ แล้วกลับไปทำค่ายที่จังหวัดตัวเองทุกปี แต่จุฬาพังงายังไม่มี หนูก็เลยจัดค่ายจุฬาพังงา ครั้งที่ 1 ขึ้นมา ซึ่งกว่าค่ายนี้จะจัดได้ หนูต้องทำตามกระบวนการต่างๆเยอะมากกว่าจะสำเร็จ แล้วพอมันสำเร็จ ได้เห็นประกายในดวงตาของน้องๆ ที่เค้ารู้สึกว่า เป็นเด็กพังงาก็สอบติดมหาวิทยาลัยได้ มันรู้สึกตื้นตันมากๆ”
การเป็นครู ที่ต้องมาพร้อมกฎเกณฑ์ที่ถูกวางเอาไว้
มีเรื่องราวช่วงของการฝึกสอน ที่ ตอนยอน ต้องได้เจอกับกฎเกณฑ์ของบางโรงเรียน เช่น ต้องใช้หางเสียง “ครับ” เวลาสอนนักเรียน ซึ่งเธอมองว่า “หนูรู้สึกว่าการพยายามให้เราพูดครับ อันนั้นคือปัญหา เพราะเวลาเราสอน เราแสดงท่าทาง อินเนอร์การสอน การพูดค่ะมันเป็นตัวเองมากๆ เราสามารถทำได้เต็มที่โดยไม่ต้องกังวล แต่พอมีกฎเกณฑ์ที่ต้องพูดครับ บางทีมันก็พูดผิดๆถูกๆ งงกันทั้งนักเรียนทั้งครู หนูรู้สึกว่า เวลาคนชอบมองว่าครูคือแม่แบบของนักเรียน แล้วทำไมแม่แบบต้องมีแค่แบบเดียว เป็นผู้ชายต้องเป็นแบบนี้ เป็นผู้หญิงต้องเป็นแบบนี้ ในห้องเรียนก็มีเด็กที่เป็นตุ๊ด แล้วทำไมเราไม่มีครูที่เป็นตุ๊ดบ้าง เพราะฉะนั้นนักเรียนเค้าก็ชอบในแบบที่เราเป็นเรา แล้วเราก็อยากทำให้นักเรียนเห็นว่าเป็นแบบนี้ก็สามารถเป็นครูได้”
ไม่เคยเสียดายที่เลือกเรียนครุศาสตร์ให้จบ
ตอนยอน ได้เผยความรู้สึกนี้ให้ฟังว่า “หนูไม่รู้สึกเสียดายเลยที่เลือกเรียนครุศาสตร์จนจบ แล้วค่อยเบนเข็มมาทำงานสายนิเทศศาสตร์ เพราะท้ายที่สุดแล้วความพิเศษของการได้เรียนคณะครุศาสตร์ คือการที่เราได้ลองเป็นครูจริง ๆ และได้ประสบการณ์ที่ถ้าเรียนคณะอื่นก็คงจะไม่ได้เข้าไปสอนในโรงเรียนจริง ๆ หนูคงจะไม่ได้มีลูกศิษย์รุ่นแรก มันทำให้หนูไม่เสียดายและไม่เสียใจ อย่างน้อยเราก็มีโอกาสได้ลองทำอะไรบางอย่างที่มีคำตอบให้กับตัวเองว่าเราชอบหรือไม่ชอบ”

จุดเริ่มต้นของ “BASIC GAY VOCABULARY”
การก้าวเข้าสู่การเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์สุดแซ่บ ตอนยอน ได้เล่าจุดเริ่มต้นครั้งนี้ว่า “ช่วงที่หนูเริ่มทำคอนเทนต์คือหลังจากที่เรียนจบ ต้องออกจากหอใน ออกมาใช้ชีวิตเอง ตอนนั้นเริ่มมีความรู้สึกว่า มันเข้าสู่ชีวิตการทำงานจริง ๆ แล้วนะ แต่ยื่นใบสมัครไปที่ไหนก็ยังไม่ตอบรับ ซึ่งหนูรู้สึกว่า เราจะตื่นลืมตาขึ้นมาในแต่ละวันให้มันผ่านไปเฉย ๆ ไม่ได้ หนูก็เลยเริ่มต้นทำคอนเทนต์ กำหนดกับตัวเองไว้ว่าทุกวันที่ตื่นขึ้นมาจะต้องมีคอนเทนต์ลงแพลตฟอร์มของตัวเอง 1 คลิป หนูใช้เวลาทำไปเรื่อย ๆ ประมาณ 1 เดือน็็้็าาาาา”
“จุดเริ่มต้นของคลิป BASIC GAY คลิปแรก เบื้องหลังคือเป็นคลิปที่ส่งประกวด ตอนนั้นมีหน่วยงานที่รับสมัครแข่งทำคลิปในอีเวนต์ Pride Month ชิงเงินรางวัล 5,000 บาท และตอนนั้นเป็นช่วงที่หนูต้องหาเงินพอดี เลยทำคลิป BASIC GAY ขึ้นมา เป็นคลิปสอนภาษาเกย์ปรากฏว่าคนชอบ เป็นไวรัล แม้ท้ายที่สุดคลิปไม่ชนะ แต่สิ่งที่ได้จากการทำคลิปนั้นคือการที่ Follower เราเพิ่มขึ้น หนูเลยทำคลิปต่อ จนมีลูกค้าเข้า เรียกว่าเปลี่ยนชีวิตเลย”
“หนูว่าภาษาเป็นเรื่องสนุก ในขณะเดียวกันมันมีความน่าสนใจของความเป็นภาษากะเทย ภาษาเกย์ อีกหลายมิติมาก ทั้งรูปแบบประโยคของกะเทย ก็ถอดความได้อีกหลายอย่าง ดังนั้นภาษา และการเรียนรู้คำแสลงมันเกิดขึ้นได้ตลอด หลายคำหนูต้องไปหาว่ามันมีที่มากี่ปี คำนี้ปรากฎในโลกอินเทอร์เน็ตครั้งแรกเมื่อไหร่ ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปมอง นอกจากความบันเทิงที่เกิดขึ้น มันเป็นสิ่งที่เราเรียนมาจากคณะครุศาสตร์เยอะเลย”

เปิดมุมมองความรักของ ตอนยอน
นอกจากมาพูดคุยเรื่องการเรียน การทำงาน ตอนยอน ก็ยังได้มาเล่าเรื่องราวความรักของตัวเองไว้ว่า “ตอนนี้แห้งเหี่ยวค่ะ ไม่มีแฟน เคยมีแฟนจริง ๆ ก็ตอนมัธยม พอมามหาวิทยาลัยก็ไม่มีแฟนเลย เหมือนเป็นคนที่ไม่เข้าใกล้ความรักกับใครเลย เคยคิดว่า เพราะผมยาวหรือเปล่าที่ทำให้เราไม่มีแฟน เพราะตอนเข้ามหาลัยแล้วเราเริ่มไว้ผมยาว จริง ๆ เราไม่ได้ตั้งใจจะแต่งหญิงนะ แต่เราชอบผู้ชายลุคแบบเซอร์ ๆ แบบเด็กสถาปัตย์ไว้หนวด ผมยาว มันเหมือนเป็นทั้งสเปค และต้นแบบในการแต่งตัวของเราเลย แต่พอเรามาทำพิธีกร MC ของมหาลัย
กลายเป็นว่า ผมยาวของเราก็สามารถใช้แต่งหญิงออกงานได้ คนก็เลยจำภาพเราว่าที่ไว้ผมยาวเพราะอยากแต่งหญิง แต่จริง ๆ เราไม่ได้อยากเป็นผู้หญิง แต่ความสุขของการ
แอบชอบใคร มันก็มีอยู่บ้างนะคะ อย่างน้อยเวลาฟังเพลงเศร้าแล้วมันอินขึ้น แต่ ณ ตอนนี้
ก็ยังไม่รู้จริง ๆ ว่าเราจะหาแฟนได้จากไหน”
รับสายสุดเซอร์ไพรส์ ส่งต่อกำลังใจให้ ตอนยอน
มีหนึ่งสายที่โทรเข้ามาในรายการด้วยความคิดถึง นั่นคือสายของ น้องฮันน่า หนึ่งในนักเรียนที่ได้เรียนกับ ครูตอนยอน ในช่วงที่ฝึกสอน โดย น้องฮันน่า ได้ฝากความคิดถึง และส่งกำลังใจถึงครูตอนยอน ไว้ว่า “หนูเจอกับครูวันแรกหนูก็รู้สึกว่า หนูเรียนกับครูคนนี้แล้วหนูต้องไม่เครียดแน่ๆ ตั้งแต่ครูเข้ามาในห้องเรียนคาบแรกครูก็ตลกเลยค่ะ และครูสอนดีมากมีกิจกรรมให้เด็กทำหลายอย่าง ไม่ใช่แค่ท่องจำอย่างเดียว ทำให้หนูชอบและอยากเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้นไปอีก หนูดีใจที่ได้ครูมาสอนภาษาอังกฤษหนู หนูคิดถึงครูมากนะคะ”

ท้ายรายการ ตอนยอน ได้พูดทิ้งท้ายไว้ว่า “ยินดีมากๆ ที่วันนี้ได้มาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการศึกษา เพราะมันคือส่วนหนึ่งที่ยิ่งใหญ่และสำคัญในชีวิตหนูเหมือนกัน ขอบคุณค่ะ” – ตอนยอน

ติดตามรายการย้อนหลัง
