รายการ Club Pride Day เปิดไมค์ต้อนรับแขกรับเชิญสุดพิเศษ ที่ไม่ได้มาแค่หนึ่ง แต่งานนี้มากันเป็นคู่ กับ “ฝน-นินิว” คู่ซี้ขยี้โซเชียล ที่นิยามตัวเองว่า “พวกฉันนี่แหละ! เจ้าหญิงแห่งวงการออนไลน์” เพราะไม่ว่าจะไลฟ์คู่กันเมื่อไร ยอดวิวถล่มทลายทุกครั้ง
เสียงหัวเราะเริ่มขึ้นตั้งแต่เปิดรายการ กับลุคสีชมพูสุดสดใส ที่ดูเหมือนนัดกันใส่ แต่จริงๆไม่ได้นัดกันมา จากนั้นสองดีเจสุดแซ่บ “ดีเจพี่อ้อย” และ “ดีเจก็อตจิ” ได้พาไปทำความรู้จักกับแขกรับเชิญทั้งสองคน ว่าก่อนที่จะมาไลฟ์คู่กันจนมียอดวิวถล่มทลาย แต่ละคนทำอะไรกันมาก่อน
“ฝน” ครีเอทีฟตัวแม่ ผู้อยู่เบื้องหลังรายการดังในโลกออนไลน์กว่า 30 รายการ จากครีเอทีฟรายการเทยเที่ยวไทย กลายเป็นที่รู้จักด้วยเอกลักษณ์การเป็นเจ้าของเสียงจากหลังกล้อง ที่สามารถต่อปากต่อคำกับพิธีกรหน้ากล้องได้อย่างออกรสออกชาติ จนทำให้คนเริ่มรู้จักมากขึ้น
“นินิว” จากไกด์สาวสุดแซ่บจากราชบุรี ที่ผันตัวสู่การเป็นตัวแม่เน็ตไอดอลสายฮา เจ้าของคลิปไวรัลเรียกเสียงหัวเราะมากมายสนั่นโลกโซเชียล นอกจากนี้เธอยังเคยเล่นเป็นนางเอก MV ของแคนดี้ รากแก่น ชื่อเพลง ตั้งแต่มีผัว หายหัวไปเลย และมีผลงานแสดงไดอารี่ตุ๊ดซี่ อีกด้วย
จุดเริ่มต้นของ “ฝน-นิว” สองเพื่อนรักนักช็อตฟีล สู่คู่ซี้ขยี้โซเชียล
ฝน เล่าให้ฟังว่า “เจอกันครั้งแรกก็คือที่ร้านของพี่คนนึงที่อยู่ที่ข้าวสาร ที่ได้มานั่งคุยกันจริงๆ แล้วพอเราได้มาทำรายการเทยหลังทุ่ม (รายการที่เอากะเทยไปเที่ยวด้วยกันตอนกลางคืนด้วยกัน) ก็ทำให้เราได้คุยกันมากขึ้น จนมีอยู่วันนึงเราได้มาทำรายการโต้วาเทยด้วยกัน แล้วเวลามาเจอกันเราชอบไลฟ์เพราะเวลาคุยกันแล้วมันตลก พอไลฟ์กันเสร็จก็เก็บเอาไว้”
จากการไลฟ์คู่กันเล่นๆ แต่มีลูกค้าเข้าจริง!
นินิว เล่าว่า “พอมีคลิปไลฟ์ เราก็เก็บเอาไปตัดลง TikTok แล้วลูกค้าเข้า คือเหมือนเราไม่ได้ตั้งใจจะมาหาเงินจากตรงนี้ เราเล่นเพื่อสนุกสนานเฉยๆ แล้วยิ่งลูกค้ามาลงแบบนี้ เราจะบอกเขาเลยว่า ขอความกรุณาอย่าบรีฟเยอะได้ไหมคะ เพราะถ้าบรีฟเยอะแล้วมันเกร็ง เพราะด้วยความที่เราสองคนไม่มีสคริปต์อะไรเลย ทุกอย่างสดหมดเลย แล้วถ้าลูกค้าบรีฟเยอะมันจะกังวลว่าต้องเข้าตรงไหน พูดยังไง แล้วมันจะนึกมุกอะไรไม่ออกเลย แล้วพอมันไม่ตลก มันจะตัดอะไรลงคลิปสั้นไม่ได้เลย”
ฝน เล่าเสริมว่า “เวลาลูกค้าเข้า จะเข้าทางนินิว แล้วเค้าเป็นคนชิว เวลาขอบรีฟ นางก็จะบอกแค่ว่า ก็ขายลิป แต่ชื่อแบรนด์กับราคา มันยังจำไม่ได้เลย (หัวเราะ) แต่ที่พีคคือ คนดูเค้าเป็นคนช่วยพวกหนู เค้าปักหมุดให้พวกหนู ชื่ออะไร ทายังไง สีอะไร แล้วก็เอารูปลิปที่เราไม่รู้ชื่อแบรนด์ไปหาซื้อกันเอง”
นินิว เผย “แล้วหนูก็เอาคลิปนั้นแหละมาตัดลง เชื่อมั้ยคนดูไปตามซื้อ จนลูกค้ากลับมาซื้ออีกหลายรอบมาก แล้วคนดูสามสี่ล้านเลยนะคลิปนั้น”
ถึงจะไลฟ์แล้วขายของดี แต่ก็มีสินค้าที่ไม่รับรีวิว
แม้จะไลฟ์แล้วขายดี จนลูกค้าซื้อแล้วซื้ออีก แต่ ฝน และ นินิว ก็ไม่ได้รับรีวิวสินค้าทุกอย่าง โดย นินิว ไม่รับรีวิวของกินที่ต้องไลฟ์ไปด้วยกินไปด้วย เพราะรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่เวลากินแล้วภาพลักษณ์จะไม่สวย ส่วน ฝน จะไม่รับสินค้าพวกยาทา ยากินที่สรรพคุณเกินจริง โดย นินิว พูดเสริมว่า “เราคำนึงถึงผลตอบรับของลูกค้าด้วยว่ามันจะได้มั้ยกับสินค้าอันนี้ และนี่คงเป็นสิ่งที่ทำให้คนดูสัมผัสได้ว่า เราจริงใจนะ”
เคยโดนโกงจากลูกค้าที่มาจ้างไลฟ์
เรื่องราวสุดพีคนี้ ฝน เล่าว่า “มันมีครั้งนึงที่ลูกค้ามาจ้างเราให้เราไลฟ์ เจ้าของแบรนด์ก็มานั่งไลฟ์กับเราด้วยนะ พอไลฟ์เสร็จเขาก็เงียบหายไปเลย จน นินิว โทรมาบอกว่า “เราโดนโกงแล้วแหละ” แล้วเราก็ขำ ๆ กัน เราสองคนไม่ซีเรียส เก็บไว้เป็นบทเรียน”
ช็อตฟีลกันบ่อย ด่ากันแรง เคยโกรธกันไหม?
แม้จะเห็นว่า ฝน กับ นินิว ชอบด่ากันแรง แซวกันหนัก เวลาไลฟ์คู่กัน แต่ทั้งสองคนก็ไม่เคยโกรธกัน นินิว เผยว่า “มีบางทีเราเล่นกันจนแรงเกินไป หนูก็ขอโทษ” ส่วน ฝน บอกว่า “เราก็รู้กันอยู่แล้ว ว่า นินิว เค้าก็จะมีเรื่องบางอย่างที่พูดแล้วจะล้ำเส้นไป แซวแล้วจะไม่ขำ บางทีมันดูเป็นคนตลก ดูเป็นคนจะพูดอะไรก็ได้ แต่จริงๆแล้ว พอเค้ามาเป็นเพื่อนเรา เราก็จะรู้ว่าจะไม่พูดเรื่องนี้เพราะเค้าไม่ชอบ”
การเป็นคนตลก ไม่จำเป็นต้องตลกตลอดเวลา
หนึ่งประสบการณ์ที่ ฝน แชร์ให้ฟัง เธอเล่าว่า “หนูอ่ะทำงานกับคนที่ตลกหมดเลยนะ แต่เชื่อมั้ย พอสั่งคัทปุ๊บ มันจะไม่ได้เป็นคนตลกแบบนั้น แล้วก็จะมีความเงียบ แบบอยู่กับตัวเองในโลกของเค้า ไม่ได้ขำ” นินิว พูดเสริมอีกว่า “ในมุมมองของหนู ถ้าสมมติว่าเราตลกแบบ 24 ชั่วโมง เราคือคนบ้าค่ะ (หัวเราะ) เราควรจะเบรกตัวเอง อยู่กับธรรมชาติ อยู่กับอะไรที่มันเงียบๆ เพื่อรีบูทตัวเองค่ะ”
ทำคอนเทนต์มาหลากหลาย เคยเจอคอมเมนต์จากโซเชียลในด้านลบบ้างไหม?
จากที่ทั้ง ฝน และ นินิว ทำคอนเทนต์มาหลากหลาย ทั้งรายการทีวี รายการออนไลน์ ซึ่งจะมีความควรและไม่ควรอยู่ แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่เคยเจอดราม่าจากคอมเมนต์ด้านลบ โดย ฝน เผยว่า “หนู กับ นินิว โชคดีที่เราจะมีการคิดก่อนพูด เรารู้ว่าเราพูดอะไรไปแล้วมันจะไม่ดราม่า คือมันจะระวังกันค่อนข้างเยอะ เราจะรู้ลิมิต” นินิว เผยต่อว่า “แต่เราก็มีการคุยตั้งแต่ต้นเลยว่าถ้ามี ดราม่าอะไรเราต้องเข้าใจนะ เพราะพื้นฐานคนดูมันมีหลากหลาย เราต้องไม่เก็บเรื่องพวกนั้นเอามาคิด พอเรามาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ต้องมีมุมมองที่ดีและเข้าใจความหลากหลายของคนดูให้ได้ เราต้องมีสติไว้ก่อน”
คอมเมนต์ดีๆ นำมาซึ่งกำลังใจให้อยากไลฟ์ต่อ
ความประทับใจหลังจากได้กำลังใจจากคอมเมนต์ดีๆ ฝน และ นินิว เล่าให้ฟังว่า “หนู กับ นินิวขอบคุณหลาย ๆ คอมเมนต์มาก ๆ ที่ชื่นชอบ บางคนก็บอกว่า หนูกำลังอกหัก แต่พอได้ดูพี่ ๆ แล้วลืมความอกหักไปเลย พี่คือรอยยิ้มแรกของหนู มันก็รู้สึกดีนะ เวลาได้เห็นแล้วใจฟู ดีใจที่คอนเทนต์เรายังมีประโยชน์สำหรับบางคน”
LGBTQ+ มักจะมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าเพศอื่น!?
มีประโยคที่หลายคนมักจะบอกว่า คนที่เป็น LGBTQ+ มักจะมีความคิดสร้างสรรค์ หนึ่งมุมมองจาก ฝน ครีเอทีฟมือทอง เธอได้แชร์มุมมองเรื่องนี้ว่า “จริง ๆ ก็ไม่เสมอไป เพราะชายจริง หญิงแท้ที่เขาทำอาชีพอื่น ๆ เขาก็มีความคิดสร้างสรรค์ในแบบของเขาได้ แต่พอเราได้ยินประโยคเหล่านี้ เป็นกะเทยมันเก่งนะ มันไอเดียเลิศ ทำไมเราต้องไปแปะป้ายให้เขาว่ากะเทยมันต้องเก่ง ไอเดียต้องเลิศ สำหรับหนูคิดว่าทุกคนเท่ากันหมด”
ฝากคำแนะนำ ถึงคนที่อยากทำคอนเทนต์
นินิว ได้แบ่งปันคำแนะนำไว้ว่า “สำหรับคนที่อยากทำคอนเทนต์ ต้องนึกถึงว่า คอนเทนต์นี้มันจะต่อยอดยังไงได้บ้าง และต้องเป็นคอนเทนต์ที่ทำแล้วมันสนุก อาจจะเป็นเรื่องที่เราชอบหรืออะไรก็ได้ คิดว่าเราเอาสิ่งนี้ออกมา คนดูน่าจะชอบเหมือนเรานะ”
ด้าน ฝน แชร์ว่า “มีหลายๆคนมักจะชอบปรึกษาว่า อยากทำคอนเทนต์ อยากจะตลก แต่เราบอกว่า บางทีเธอไม่ต้องตลกก็ได้ ไม่เคยเห็นใน Tiktok เหรอ บางคนเค้าก็พูดธรรมดาก็ยังมีคนไปดูเลย ไม่เห็นต้องเค้นให้มันดูขำ ถ้าเธอไม่ขำเธอก็ไม่ต้องขำ เป็นตัวของตัวเอง”
ฉายา “ฝน โจร” คืออะไร แล้วมีที่มายังไง?
กลายเป็นฉายาประจำตัวของ ฝน ไปแล้ว สำหรับ “ฝนโจร” งานนี้ ฝน ได้เผยที่มาของฉายานี้ไว้ว่า “เวลาที่เราไปออกกองตามรายการต่าง ๆ โดยเฉพาะรายการเคหะสถานบานปลาย คือมันจะต้องไปออกกองที่บ้านคนดัง ดารา ไฮโซ แล้วเขาจะมีของที่ไม่ค่อยได้ใช้แล้วเยอะมาก เราก็เห็นว่าทิ้งไว้ก็เสียเปล่า เลยไปตะล่อมถามว่าอันนี้ขอได้ไหม ล่าสุดไปบ้านป้าตือ พี่ฟรอยด์ไปได้นาฬิกา Bottega เราก็เลยไปลองใส่รองเท้า Prada ของป้าตือ ดันใส่ไซส์เดียวกันอีก ก็เสร็จฉันสิจ๊ะ เคยไปบ้านพี่อั๋น แล้วเขาให้ทีวีมา เพราะพี่ฟรอยด์นั่นแหละ ไปตะล่อมคุยกับพี่อั๋น พี่อั๋นก็เลยบอก ถ้ายกไปได้ ให้ไปเลย งานนี้เราขนเลยค่ะท้ายรายการ“
เรื่องราวความรัก ของ “ฝน-นินิว”
นอกจากเรื่องราวการทำงาน การเป็นเพื่อน การใช้ชีวิต งานนี้ ฝน และ นินิว ยังได้อัพเดทสถานะหัวใจให้ฟังกันด้วย
โดยด้าน ฝน อัพเดทสถานะหัวใจว่า “แม้จะทำงานเยอะ แต่สามีไม่ว่าเลยค่ะ เพราะหนูมองว่า คนที่จะมาอยู่ข้างเรา คือคนที่เราเลือกแล้ว ว่าเค้าไม่ได้เป็นภาระเรา และเราก็ไม่ได้เป็นภาระให้เค้า เค้าต้องพร้อมซัพพอร์ตเรา แต่เราก็ต้องมีเวลาให้เค้านะ ทุกวันมันจะมีสิ่งที่ต้องทำด้วยกันทุกวัน ดูหนังด้วยกัน คุยกัน ต่างคนต่างซัพพอร์ตกัน ตอนนี้แต่งงานกันมา 5 ปี ถ้ารวมระยะเวลาที่คบกันมาก็ 9 ปีแล้วค่ะ ส่วนความตั้งใจที่จะมีลูก ตอนนี้ถ้ามันยังมีไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ หนูคุยกับสามีแล้ว ก่อนหน้านี้เราทำกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์มาหมดแล้ว ตอนนี้ยังไม่มีก็เริ่มทำใจแล้วค่ะ ก็อยู่กันไปแบบนี้แหละ”
ด้าน นินิว ก็ได้เล่าเรื่องราวความรักให้ฟังว่า “ก็มีคนที่คุย ๆ กันอยู่แต่ไม่ได้มีสถานะ เหมือนเราคุยกันมานาน รู้จักกันมาประมาณ 7-8 ปี เหมือนอยู่กันแบบนี้ก็ดีแล้ว เป็นความสัมพันธ์แบบลางๆ ค่ะ”
รับสายสุดเซอร์ไพรส์ ส่งต่อแรงบันดาลใจให้ ฝน-นินิว
มีหนึ่งสายปริศนาที่ได้โทรเข้ามาเซอร์ไพรส์ ฝน-นินิว ที่ตอนแรกทักทายด้วยน้ำเสียงของชายหนุ่ม ที่ทั้ง 4 คนในห้องจัดต้องช่วยกันเดาว่าคนโทรมาคือใคร และท้ายที่สุดก็เฉลยว่า คนที่โทรเข้ามาคือ “ป้าตือ สมบัษร” คนที่ ฝน และ นินิว เคยพูดว่า ชีวิตในอนาคตอยากจะใช้ชีวิตแบบ “ป้าตือ”
งานนี้ ป้าตือ ยังได้พูดถึงคู่ซี้ ฝน-นินิว ไว้ว่า “สองคนนี้ เป็นคนที่ Positive ไม่ค่อยนินทาคนอื่น ซึ่งมันเป็นข้อดีของสังคมยุคนี้ และสองคนนี้คือผลิตผลที่ดีของตือ ที่ตือฝึกให้พูดกับตัวเองหน้ากระจกทุกวัน จนมีวันนี้ ชื่นชมทั้งคู่”
“หนูอยากขอบคุณทุกคนที่เข้ามาคอมเมนต์ เข้ามาดูคลิปของเรา ทำให้เราได้มีงานได้มีเงิน มีลูกค้า อยากจะขอบคุณนะคะ ในโอกาสหน้าถ้าสมมติเราทำอะไรผิดพลาดไป ก็อยากให้ใจดีกับเราหน่อย มันอาจจะมีวันนั้น รักทุกคนนะคะ” - นินิว
“ขอบคุณทุกคนที่คอยถาม คอยอยากจะให้เราทำนู่นทำนี่กัน เราไม่อยากบอกว่าเราจะทำ หรือว่าเราจะไม่ทำ แต่ถ้าเห็นว่าเราไปออกรายการ แล้วเข้ามาดูเราก็ดีใจมากแล้ว ขอบคุณนะคะ” – ฝน
ติดตามรายการย้อนหลัง Club Pride Day “ฝน นินิว” 6 เมษายน 2566