Club Pride Day Recap

Club Pride Day Recap

กว่าจะเป็น “มิ้วกี้ ไปรยา” ตัวแม่สุดเซ็กซี่ซู่ซ่า กับการสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกเพศ หันมาใส่ใจดูแลตัวเอง

07 ก.พ. 2025

“หนูยังอยากให้ผู้หญิงทุกคน มีหน้าที่การงานของตัวเอง สามารถยืนได้ด้วยขาของตัวเอง เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าวันหนึ่งต้องเลิกกัน มันจะไม่แค่เสียใจที่จากกัน แต่มันจะวุ่นวายกว่านั้นมาก”

 

 

เรียนรู้วิธีคิด ผ่านชีวิตของแขกรับเชิญในทุกสัปดาห์ สำหรับ Club Pride Day คุยอย่าง Proud เมาท์อย่าง Pride กับสองดีเจสุดแซ่บ “ดีเจพี่อ้อย” และ “ดีเจก็อตจิ” ที่ได้ต้อนรับ “มิ้วกี้ ไปรยา” ยูทูบเบอร์สาวสุดแซ่บแห่งยุคที่ทั้งเก่งทั้งเซ็กซี่ ปัจจุบันเป็นเจ้าของช่องยูทูบ Milky Praiya เป็นไอดอลของสาว ๆ รวมถึงเป็นเจ้าของธุรกิจออนไลน์สุดปัง กว่าจะมีวันนี้ เธอเคยผ่านความอุปสรรค และความยากลำบากมาก่อน จนพบจุดเปลี่ยนที่ทำให้ชีวิตดีขึ้น เรื่องราวสีสันของชีวิต พร้อมข้อคิดแรงบันดาลใจ ได้ถูกแบ่งปันเอาไว้แล้วในรายการ

 

เรื่องยากในชีวิต ที่ต้องผ่านไปให้ได้

“เรื่องยากที่สุดของปีนี้ เพิ่งเกิดขึ้นเลยค่ะ คุณพ่อเสียชีวิตกะทันหันมากเลยแบบเราไม่ได้ตั้งตัว คือคุณพ่อรู้สึกแน่นหน้าอกตอน 11 โมง แล้วรู้สึกหายใจไม่ออก น้องสาวก็พาไปหาหมอ พอไปหาหมอได้สักพัก น้องสาวก็โทรมาบอกว่า คุณหมอบอกว่าคุณพ่ออาการ 50:50 เราก็ตกใจว่าเป็นหนักขนาดนั้นเลยเหรอ ตอนแรกเราก็คิดว่าคุณหมอน่าจะช่วยคุณพ่อได้ เพราะว่าคุณพ่อเคยผ่าตัดบายพาสเส้นเลือดหัวใจมาแล้ว

ตอนนั้นคุณพ่อก็รอดชีวิตมาได้ ครั้งนี่เราเลยคิดว่าคุณหมอก็น่าจะช่วยได้ มิวกี้ กับ คุณแม่ เลยรีบไปโรงพยาบาล ไปถึงน้องสาวก็บอกว่าคุณพ่อหยุดหายใจไป 20 นาทีและ ทีนี้มันเป็นฉากเหมือนในละครเลยค่ะ มิวกี้ น้องสาว และคุณแม่ นั่งอยู่ในห้องที่ปิดกระจกแล้วให้เรานั่งรอ เค้าก็จะมีจอทีวีให้เราเห็นการผ่าตัด สักพักก็มีพยาบาลท่านนึงเดินมาแล้วก็เปิดจอทีวี จังหวะนั้นเราก็หันไปคุยกับคุณแม่แป๊บเดียว ไม่ถึง 2 นาที หันกลับมาอีกที ก็มีคุณหมอสองท่านมายืน แล้วก็มีพยาบาลอีกประมาณ 4-5 ท่านมายืนแล้วก็บอกว่า ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ เราช่วยชีวิตคนไข้ไว้ไม่ได้ ด้วยความที่มิ้วกี้ตกใจมาก ๆ ก็เลยถามกลับไปด้วยความตกใจมาก ๆ ว่า หมายความว่าไงคะ คุณหมอพ่อเสียชีวิตเหรอคะ เค้าก็บอกว่า ใช่ครับ ด้วยความช็อกมิ้วกี้ถามย้ำแบบนี้อีก 2 ครั้ง ได้คำตอบเหมือนกันเลย ตอนนั้นมิ้วกี้ปล่อยโฮแล้วก็กอดกับคุณแม่ถามคุณหมอว่า ไม่มีทางช่วยเลยเหรอคะ เพราะเราก็คิดว่าครั้งนี้ก็น่าจะช่วยได้อีกสัก ครั้ง คุณหมอก็บอกว่า เสียใจด้วยนะครับ คุณพ่อเสียชีวิตแล้ว นี่คือเรื่องที่เรียกว่ายากมากเลยที่เกิดขึ้นกับมิ้วกี้”

 

 

มิวกี้ ไปรยา ทำอาชีพอะไรบ้าง?

“ก่อนหน้าที่จะเป็นอินฟลูเอนเซอร์ มีงานภาพยนตร์ หรือว่ามีละคร หนูเป็นนักธุรกิจหรือแม่ค้านั่นเอง แล้วหนูได้ตำแหน่ง Miss Sexy Leo Girl 2012 แล้วก็ได้อยู่ในวงการมาตั้งแต่ช่วงนั้น แล้วก็ออกจากวงการมาเร็วเพื่อมาทำธุรกิจ เพราะหนูรู้สึกว่า งานในวงการมันไม่ยั่งยืน ตอนที่ได้รับรางวัลหนูก็รีบทำงานกอบโกยแล้วก็รีบออกไป ตอนนั้นโซเชียลยังไม่เป็นที่นิยม ก็เลยไม่ค่อยมีคนรู้จักเรามากนัก แต่ก็จะมีฐานแฟนที่เป็นฐานแฟนจริง ๆ ที่รู้จักว่าเราอยู่ในวงการนี้มาตั้งแต่ปี 2012 แล้วก็รู้จักเรามานานแล้ว แล้วหนูก็รีบเก็บเงินให้เร็วที่สุด แล้วก็ออกจากวงการไปเปิดร้านอาหาร ไปทำอาหารเสริมเป็นแม่ค้าทำออนไลน์ จนวันหนึ่งได้กลับเข้ามาทำ Youtube อีกครั้ง จนมีชื่อเสียงกลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์อีกครั้ง แล้วก็มีโอกาสได้แสดงภาพยนตร์เป็นนางเอกอีกครั้งจนถึงทุกวันนี้ก็ยังเป็นทั้งแม่ค้า เป็นทั้งอินฟลูเอนเซอร์ แล้วก็เป็นตัวแม่ ที่ต้องต่อสู้ค่ะ”

 

ตัวแม่ ผู้อยู่ท่ามกลางความหลากหลาย

“หนูอยู่กับพี่สาว ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้อง ที่เป็นกะเทย แล้วน้องสาวของหนู ก็เป็นทอม ซึ่งหนูอยู่กับคนใกล้ตัวที่เป็น LGBTQ+ แล้วหนูไม่ได้มองว่ามันเป็นเรื่องแปลก หรือแตกต่างเลย หนูอยู่กับคนเหล่านี้มาตั้งแต่เกิด เลยไม่ได้รู้สึกว่าการมีเพศที่สาม หรือการมีกะเทย การมีทอม มีเลสเบี้ยน มีหญิงรักหญิง ชายรักชาย มันเป็นเรื่องพิเศษหรือแตกต่าง

และหนูโชคดีมากเลยที่ทุกคนในครอบครัวเปิดกว้าง อย่างคุณแม่ก็เข้าใจน้องมาก ๆ คุณพ่อก็เข้าใจ ที่บ้านไม่มีการบูลลี่ หรือพูดถึงความหลากหลายในทางที่ไม่ดี รวมถึงตัวหนูเองก็ไม่เคยว่าน้อง เราเข้าใจซึ่งกันและกัน มันเป็นเรื่องดีมากที่เราไม่ตัดสินด้วยเพศมากันตั้งแต่แรก แล้วหนูก็อยู่กับพี่สาวที่เป็นกะเทยนางโชว์ หนูก็จะซึมซับความเป็นกะเทยมาเยอะ ก็เหมือนสนิทกัน ไม่ได้รู้สึกว่ามันแปลกแตกต่าง มันเป็นธรรมชาติมาก ๆ”

 

 

คอนเทนต์ที่ไม่ได้สร้างแค่ความบันเทิง

“ที่คนชอบดูคอนเทนต์หนู หนูคิดว่าอาจจะเป็นเพราะว่า หนูไม่ได้ให้แต่ความบันเทิง หนูอาจจะให้แรงบันดาลใจ เพราะว่าหนูจะชอบเขียนแคปชั่น หรือพูดถึงเรื่องราวของตัวเอง ลงไปในช่องทางของตัวเอง ว่าเราเคยผ่านอะไร หรือเราเคยเจออะไรมาบ้าง เพื่อให้เป็นแนวทาง หรือสมมติว่ามีคนที่กำลังดาวน์อยู่ จากการเจอเรื่องราวแบบเดียวกับเรา แล้วเค้าผ่านมาเจอข้อความของหนู แล้วมันอาจจะช่วยเหลือเค้าได้ในวันที่เค้าแย่ที่สุด ซึ่งหนูได้รับข้อความจากแฟนคลับเยอะมาก ๆ ที่บอกว่า พี่มิ้วกี้หนูเคยคิดสั้นเพราะหนูเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หนูไม่มีงานทำ หมดสิ้นหนทางแล้ว หนูไปต่อไม่ได้แล้ว แต่พอหนูมาเจอพี่แล้วพี่ทำให้หนูรู้ว่า ผู้หญิงคนหนึ่งก็สามารถที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ แล้วก็ทำอะไรได้อีกหลายอย่าง เราได้ข้อความเหล่านี้เยอะมาก ซึ่งหนูรู้สึกดีมาก ๆ เลย แล้วอีกแรงผลักดันที่ทำให้หนูอยากอยู่ตรงนี้ต่อไป เพราะหนูรู้ดีว่าถ้าเราได้พูดอะไรแล้วเสียงมันมักจะดังกว่า ซึ่งหนูอยากจะทำให้คนที่เลิกกับสามี หรือว่ามีปัญหาอะไรก็ตามที่หากหนูได้พูดให้เค้าฟังแล้วเค้าสามารถเอาสิ่งที่หนูพูด ไปเป็นแรงบันดาลใจ หนูจะมีความสุขที่วันนี้หนูได้ช่วยเค้าเหล่านั้น ซึ่งความบันเทิงก็มีค่ะ มีให้ตลอด แต่หนูอยากให้อะไรที่มันมากกว่านั้น”

 

 

การช็อปปิ้ง ตามแบบฉบับของ มิวกี้ ไปรยา

“หลายคนคิดว่าหนูเริ่มมาจากการทำคลิปช็อปปิ้งเลย ซึ่งบอกก่อนเลยว่าคลิปแรกมันคือคลิปที่หนูพาลูกพาสามีเก่าไป Dreamworld แล้วหนูก็นั่งคิดว่าคลิปต่อไปทำอะไรต่อดี หนูก็เอาของที่หนูใช้อยู่มารีวิว ซึ่งหนูไม่ได้เสียเงินอะไรเลย หนูเสียแค่ค่าตัดต่อ  แล้วพอดีว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่หนูจะต้องไปต่างประเทศกับสามีพอดี ก็จะมีการไปเที่ยวกัน แล้วก็คุยกันเล่น ๆ แซวกันว่า วันนี้หนูจะช็อปปิ้ง พี่ให้หนูเท่าไหร่ไหนบอกมาซิ แล้วเค้าก็บอกว่า ล้านนึง หนูก็ตอบไปว่า ล้านนึงไม่พอหรอก ต้อง สองล้าน มันเหมือนสามีภรรยาแซวกันเล่น ๆ แล้วก็เริ่มไวรัลจากจุดตรงนั้น คนก็ชอบดูเวลาหนูช็อปปิ้งเพราะว่าหนูช็อปสนุก หนูช็อปแบบให้ความรู้ด้วย แล้วหนูก็มานั่งคิดกับตัวเองว่า หนูจะทำอะไรที่ทำให้หนูอยู่ตรงนี้ได้ยาว ๆ เพราะหนูยิ่งทำไปได้เรื่อย ๆ หนูก็ยิ่งรักในช่องของหนู เริ่มรักในตัวตนของมิ้วกี้ ไปรยา หนูก็เลยคิดว่างั้นเราต้องเป็นตัวเอง หนูชอบช็อปปิ้ง ก็เลยทำคลิปช็อปปิ้ง กลายเป็นตัวแม่แห่งการช็อปปิ้งไปเลย

แรก ๆ  อาจจะโดนด่าว่าอวดรวยบ้าง อวดความแพงบ้าง แต่ตอนหลัง ๆ ไม่ค่อยโดนด่าแล้ว เพราะว่ามันไม่ได้ปลอม หนูซื้อจริง ทุกอันที่ทำคลิปหนูซื้อจริง ๆ ตอนแรกที่โดนด่า หนูเคยอยากด่ากลับ แต่หนูก็รู้สึกว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรเลย หนูรู้สึกว่าแม้คนด่าเราทุกวันแต่เราไม่ได้ยิน เราแค่ไม่อ่านมันก็จบ ก็ปล่อยไป บางทีมันรำคาญตามากก็ลบไปเลย แต่ว่าถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ต้องอ่าน เราก็เลือกอ่านแต่คอมเมนท์ดี ๆ เมื่อก่อนหนูเคยพยายามอธิบายกับทุกคอมเมนท์เลย แต่หนูรู้สึกว่าไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่เราจะทำ ถ้าคนไม่ชอบเค้าก็ไม่ชอบอยู่ดี แล้วเค้าเป็นใครก็ไม่รู้ หลัง ๆ ก็เลยปล่อยวางค่ะ”

 

 

กว่าจะรวยมาก ชีวิตก็ผ่านความลำบากมาก่อน

“ย้อนกลับไปก่อนหนูจะมีชีวิตเหมือนทุกวันนี้ ตอนนั้นหนูไม่มีบ้าน จนอายุ 23-24 หนูอยู่บ้านเช่ามาหลายปี ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง บ้านหลังแรกจะเป็นบ้านที่เหมือนคุณพ่อไปปลูกร่วมกับญาติคุณพ่อ เป็นบ้านหลังเล็กมาก ๆ หนูก็อยู่กันพ่อแม่ แล้วก็น้องสาว หลังจากนั้นก็ย้ายไปอยู่บ้านคุณยาย ก็จะมีหลายห้อง แต่ก็จะมีคุณน้า หลาย ๆ คนอยู่ จนวันหนึ่งหนูก็บอกพ่อกับแม่ว่า เราน่าจะย้ายได้แล้วนะ เพราะว่าหนูกับน้องสาวก็เริ่มโตแล้ว เราจะอยู่ห้องรวมแบบนี้ไม่น่าจะได้ ก็ย้ายออกมามาอยู่บ้านเช่าซึ่งเป็นตึกแถว ค่าเช่าห้องละ 3,000 บาท

แต่หนูมุ่งมั่น หนูมีเป้าหมายที่ชัดเจนมาก ว่าถ้าโตขึ้นหนูจะทำให้พ่อแม่ไม่ต้องลำบาก  พ่อแม่หนูจะต้องไม่อยู่บ้านเช่า จะต้องอยู่ดี กินดี อยู่สบาย หนูจะทำทุกอย่างไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม เป้าหมายของหนูคือพ่อแม่จะสบายโดยที่ไม่ได้คิดว่าฉันจะมาเป็นนักช็อปปิ้ง แต่ทุกครั้งที่หนูผ่านตึกใหญ่ ๆ สูง ๆ หนูจะนั่งมองทุกครั้ง แล้วหนูก็จะคิดว่า สักวันหนึ่งหนูจะเป็นเจ้าของตึกพวกนี้ให้ได้ คิดโดยที่ไม่ได้บอกใคร เก็บเอาไว้ในใจ แล้วพอวันหนึ่งที่มันชัดภาพมันชัด หนูก็ค่อย ๆ เติบโตขึ้นมาเรื่อย ๆ และหนูจะพูดคำนี้เสมอว่า อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร หลายคนชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบ เช่น ตอนนี้ฉันอายุ 35 แล้ว ยังไม่มีอะไรเลย แต่ดูมิวกี้เค้ามีทุกอย่างเลยตอน 35 ซึ่งจริง ๆ แล้ว ความสำเร็จเค้าไม่ได้วัดแค่ตอนอายุ 35 หรือ 40 เค้าวัดกันทั้งชีวิต ช่วงเวลาของคุณอาจจะไม่ใช่ 35 แต่อาจจะเป็นช่วง 50 ก็ได้ ตอนคุณอายุ 50 คุณอาจจะมีทุกอย่าง มีบ้านที่มันมั่นคง มีรถ มีทุกอย่างที่มันมั่นคงก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่าเปรียบเทียบตัวเองกับใคร ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี แล้วข้อดีของหนูคือหนูไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้านเลย หนูโฟกัสหน้าที่ของหนู หนูทำงานของหนู แล้วหนูก็ไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร ไม่ด้อยค่าตัวเอง แม้ว่าหนูจะเจอเรื่องหนักแค่ไหนก็ตาม หนูไม่เคยด้วยค่าตัวเอง คนเราเจอปัญหาได้ คนเราล้มได้ ล้มแล้วต้องลุก คนตายเท่านั้นที่จะไม่สู้ เรายังไม่ตายเราต้องสู้”

 

 

ทำงานกับ มิวกี้ ต้องอย่าลืมความ Beauty

“หนูรู้สึกว่า การแต่งหน้า มันเป็นพลังอย่างหนึ่ง แล้วไม่ได้เกิดพลังแค่กับตัวเรา มันเกิดพลังกับคนรอบตัวด้วย ตัวอย่างเช่นเวลาเราไม่แต่งหน้า เราจะหลบหน้าผู้คน เราจะไม่อยากเจอใคร หรือฉันขอใส่แมสก์ดีกว่า แต่ถ้าเราแต่งหน้า เราจะมั่นใจ วันนี้ลูกค้ามาฉันพร้อมเปิดรับ ดังนั้นมันเลยกลายเป็นกฎเหล็กกับทุกคนในบริษัทหนูว่า  ทุกคนต้องแต่งหน้า เราขายความสวยความงามอยู่ ถ้าหน้าลูกน้องยังไม่พร้อม แล้วเราจะขายอะไร ดังนั้นทุกคนต้องแต่หน้า ตื่นมาพอเค้าได้แต่งหน้าทาปาก แล้วมันจะได้มีความมั่นใจ เพิ่มพลังให้ตัวเอง และสร้างความประทับใจให้กับคนที่พบเจอด้วย”

 

ความรักครั้งเก่า ที่ต้องก้าวผ่าน

“ความรักกับสามีเก่า มันเป็นการเลิกรากันที่ก็ไม่ได้คิดมาก่อนเหมือนกัน หนูเคยมีความคิดมาตลอดว่า คน ๆ หนึ่งจะสามารถอยู่กับอีกคนได้นานขนาดที่จะแก่ไปด้วยกันเท่ารุ่นพ่อแม่เราไหม จนวันหนึ่งหนูก็ได้ใช้ชีวิตครอบครัว แล้วก็อยู่กันมา 9 ปีแล้วหลังจากเลิกรากันไป มันค่อนข้างแย่พอสมควร เพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องของหนู และอดีตสามี แต่มันดันเป็นเรื่องของประชาชนด้วย มันกลายเป็นการเข้าใจผิดมากมายหลายอย่าง คนเดากันไปหลายอย่างมาก แต่ว่าคะแนนคนด่ามันมาทางหนูที่เป็นฝ่ายผิด หลายคนมองว่าหนูมีคนอื่น

ณ ตอนนั้นหนูรู้สึกว่า ความรัก ถ้ามันไม่เท่าเดิม มันควรจะเพิ่มขึ้น และต้องไม่น้อยลง แล้วตอนนั้นเราต่างทำงานเยอะมากกันทั้งคู่เหมือนกัน แล้วเค้าก็เหมือนอยู่กับโทรศัพท์ตลอดเวลา จากที่เมื่อก่อนเราคุยกัน ไปช็อปปิ้งด้วยกัน มันกลายเป็นก้มดูโทรศัพท์ตลอดเวลา จนหนูก็เริ่มรู้สึกไม่สบายใจเลยที่เค้ามากับเรา แล้วมันก็มีอีกหลายปัญหาที่ยิบย่อย ที่ทำให้หนูรู้สึกว่า ถ้าอย่างนั้นทำไมเราไม่อยู่คนเดียว หลายคนที่ไม่ได้ใช้ชีวิตคู่ ก็จะมาว่าหนูว่า เค้าดีจะตาย เค้าน่ารัก ซึ่งหนูไม่เถียงเลย เค้าเป็นสามีที่ดี ตั้งแต่เราอยู่กันมา 9 ปีไม่เคยมีเรื่องชู้สาว เราไม่เคยมีเรื่องนี้เลยทั้งคู่ แล้วก็ความรักมันไม่ใช่แค่เรื่องชู้สาว มันมีรายละเอียดอีกมากมายที่มันเกิดขึ้นระหว่างทาง และตอนหลัง ๆ  เราเริ่มคุยกันคนละเรื่อง หลาย ๆ อย่างที่เราเคยทำร่วมกัน หนูกลายเป็นทำคนเดียว หนูก็เลยเลือกอยู่คนเดียวดีกว่า

ต้องบอกก่อนว่า หนูเป็นผู้หญิงที่ทำงานและหาเงินเองอยู่แล้วตั้งแต่แรก และหนูอยากจะบอกผู้หญิงทุกคนเลยว่า ถ้าคุณโชคดีที่มีสามีที่รวยมาก แล้วเลี้ยงคุณได้ เนี่ยแล้วคุณมั่นใจมาก ๆ ว่าชีวิตนี้เค้าจะเลี้ยงคุณไปตลอดก็ไม่เป็นไร แต่หนูยังอยากให้ผู้หญิงทุกคนมีหน้าที่การงานเป็นของตัวเอง สามารถยืนได้ด้วยขาตัวเอง เพราะว่าวันหนึ่งเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เหมือนหนูก็ไม่ได้ตั้งตัวเหมือนกัน หนูก็ไม่ได้อยากให้เรื่องราวจบแบบนี้ แต่หนูโชคดีมากที่หนูทำงานหาเงินได้ด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นมันจะไม่ใช่แค่เสียใจที่จากกัน มันจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก

ในตอนที่เลิกกันมันกลายเป็นกระแส หนูโดนด่าหนักมาก จนประสาทเสียมาก ๆ  ตอนนั้นหนูยอมรับว่าหนูเซมาก ๆ หนูต้องจิตแข็งมากถึงยังมีชีวิตอยู่ได้ขนาดนี้ ทำไมชีวิตเราต้องมาเจอกับคนเหล่านี้ด้วย ที่เค้าด่าหนูเป็นเรื่องเป็นราว แต่ไม่เคยรู้จัก บางคนไม่เคยเจอ ไม่เคยคุยกับเราด้วยซ้ำ”

 

 

ล้มไม่ได้ เพราะต้องพายเรือส่งอีกหลายชีวิต

“มรสุมชีวิตช่วงนั้น หนูก็ลืมนึกไปเลยว่าสามารถผ่านมันมาได้ยังไง แต่ว่ามันยากมากกับภาวะจิตใจ รวมถึงหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้น เมื่อก่อนอ่ะหนูเป็นคนคิดเร็วทำเร็วมาก ๆ พอเจอปัญหาตรงไหน หนูจะรีบแก้ไขทันทีไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน หรือเรื่องอะไรก็ตาม แต่เรื่องของชีวิตคู่ เรื่องของความรักครั้งนี้ที่มันพังลง หนูยอมรับเลยว่าตัวเองเพิ่งจะเข้าใจว่า เรื่องบางเรื่อง มันต้องใช้เวลา

หนูตั้งสติว่าวันนี้เราตัวคนเดียวแล้ว เราต้องเดินหน้าต่อ เพราะว่าเรามีลูกที่รอเราอยู่ เรามีแม่ มีพ่อ ที่รอเราอยู่ มีลูกน้องที่รอเราอยู่ หนูเหมือนคนพายเรือ เหมือนหนูมีเรืออยู่ลำนึง แล้วหนูก็พายไปเรื่อย ๆ บนเรือหนูจะมีพ่อและแม่ แล้วก็มีลูกอยู่ด้วย แล้ววันนึงลูกน้องเจอก็อยากขึ้นฝั่ง หนูก็เรียกขึ้นมา จนเต็มเรือไปหมด เพราะฉะนั้นแล้วหน้าที่ของหนูคือ ต้องพายไปอย่างสม่ำเสมอ พายไปอย่างมั่นคง โดยที่ให้ทุกคนบนเรือไปถึงฝั่งแบบปลอดภัย เพราะฉะนั้นหนูจะมาทำตัวเมาเละเทะ ทำชีวิตพังไปวัน ๆ ไม่ได้ เพราะหนูมีอีกหลายอย่างที่หนูต้องรับผิดชอบ หนูดูแลหลายชีวิตมากเลย หนูรู้สึกว่าชีวิตเรามีคุณค่ามาก ๆ สำหรับการที่จะต้องดูแลคนหลาย ๆ คน ฉะนั้นต้องไปต่อ และการก้าวผ่านปัญหาครั้งนั้น มันทำให้หนูเปิดใจให้กับเพศที่สามมากขึ้น เปิดใจให้กับทุกเพศเลยที่เข้ามา มันไม่แปลกเลยถ้าเราจะชอบผู้หญิง ไม่เห็นแปลกเลยที่เรารู้สึกว่าอยู่กับผู้หญิงแล้วเรามีความรู้สึกดี คุยกันแล้วมันเข้าใจ คุยกันแล้วรู้เรื่อง เจอกันแล้วรู้สึกดีจังเลย เราก็เปิดใจได้ ไม่เห็นจะต้องปิดตัวเองสำหรับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเลย”

 

 

ความสุขแสนง่าย ของ มิ้วกี้ ไปรยา

“ความสุขของหนูง่ายมากเลย มันคือการตื่นมาแล้วแม่คลุกข้าวกับปลาดุกย่างให้หนูกิน แค่นั้นหนูก็มีความสุขแล้ว การที่หนูได้กินของที่ชอบ หนูก็มีความสุขแล้ว หนูรู้สึกว่าดีจังเลยที่วันนี้ตื่นมาแล้วไม่ปวดหัว เพราะหนูเป็นไมเกรน หนูเป็นคนที่มีความสุขกับอะไรที่ง่ายมาก ๆ อย่างผู้ชายที่มาจีบ หรือใครที่มาจีบจะเข้าใจว่าจะต้องทำอย่างงั้น หาสิ่งนั้นสิ่งนี้เพื่อให้หนู คือได้ของเราดีใจนะ แต่ถ้าถามตัวหนูจริง ๆ ความสุขของหนูคือง่ายมาก หนูเจอมิตรภาพที่ดี เจอผู้จัดการที่ดี หนูรู้สึกว่าเรามีความสุขกับสิ่งที่เรามี ณ ขณะนี้ มันดีที่สุดแล้ว ไม่ต้องทะเยอทะยานมากจนเกินไป รู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่ มีสติอยู่กับมัน แค่นี้ก็โอเคแล้ว”

 

ความเป็นคุณแม่ ของ มิ้วกี้ ไปรยา

“หนูค่อนข้างเลี้ยง น้องกาเนส แบบแมน ๆ ค่อนข้างเป็นแม่ที่มีความเป็นผู้ชายสูงมาก หนูจะไม่แบบลูกขา ทำอย่างนี้ค่ะ หนูเป็นแม่ที่ค่อนข้างมีความเป็นผู้ชายในตัวอยู่ด้วย

แล้ว น้องกาเนส เหมือน มิ้วกี้ ในเวอร์ชั่นจิ๋ว เวลาพูด เวลาทำอะไร คำศัพท์ต่าง ๆ ที่พูดออกมา รู้เลยใครเลี้ยงลูก และ มิวกี้ สอนลูกเสมอว่า ลูกต้องห้ามดูถูกเพศ ไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็ตาม เราไม่ชอบก็ห้ามว่า ให้เก็บไว้ในใจ แล้วโลกมันไปไกลมาก แม่จะมีแฟนเป็นผู้หญิงก็ได้ แล้วเค้าก็เห็นน้าสาวที่มีแฟนเป็นผู้หญิงเค้าก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาสงสัย แต่ มิ้วกี้ จะคุยกับเค้าเรื่องเพศบ่อยมากว่า ตอนนี้มันเปิดกว้างมาก สอนตลอดเพราะเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ลูกโตไปจะเป็นเพศไหน เผื่อวันหนึ่งเค้าสับสนในตัวเอง เค้าจะได้รู้ว่าแม่สอนเรามาแบบนี้ และเค้าจะได้กล้าเปิดกับเราว่า เค้าชอบอะไร

ก็อยากจะบอกเค้าว่า หม่ามี้ รัก กาเนส มาก ๆ แล้วก็อยากให้กาเนส สามารถอยู่กับคนได้ อยากให้กาเนสเป็นคนที่อยู่ง่ายกินง่ายเข้าใจง่าย แล้วก็เข้าใจทุกคน ทำตัวสบาย ๆ ยอมรับความหลากหลายและความแตกต่าง แม่อยากให้กาเนสอยู่กับใคร แล้วใคร ๆ ก็รักเค้า” - มิ้วกี้ ไปรยา

 

 

พบเรื่องราวชีวิตหลากสีสันใน Club Pride Day  คลับที่เต็มไปด้วยแบ่งปันข้อคิดแรงบันดาลใจ และมีคลังความรู้ที่พร้อมแชร์ ไปกับแขกรับเชิญพิเศษ และสองดีเจสุดแซ่บ “ดีเจพี่อ้อย” และ “ดีเจก็อตจิ”  ได้ในทุกสัปดาห์

 

ดูรายการย้อนหลัง

album

0
0.8
1
Contact usGreenwave02-665-8377EFM02-665-8373
Advertise with usมัลลิกา ปราบอริพ่าย (กบ)(Atime Showbiz, Online Content)063-282-6915จุฑา วนศานติ (บี) (EFM)02-669-9512, 081-923-9823
อังคณา พองาม (นุก) (Greenwave)02-669-9444-7
ดาวน์โหลด Application ได้แล้ววันนี้ที่atime online application download from app storeatime online application download from play storeติดต่อสอบถาม / แจ้งปัญหาการใช้งานatimeplatform@atimemedia.com
บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน)เลขที่ 50 อาคาร จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ถนนสุขุมวิท21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขต วัฒนา กรุงเทพ 10110