เปิดปีนักษัตรสุดปัง เสริมพลังส่งท้ายปี ไปกับ “ซินแสเป็นหนึ่ง” จากชีวิตที่เคยเสียศูนย์ สู่ซินแสขวัญใจคนดังทั่วฟ้าเมืองไทย

Club Pride Day Recap

เปิดปีนักษัตรสุดปัง เสริมพลังส่งท้ายปี ไปกับ “ซินแสเป็นหนึ่ง” จากชีวิตที่เคยเสียศูนย์ สู่ซินแสขวัญใจคนดังทั่วฟ้าเมืองไทย

27 ธ.ค. 2024

“ฮวงจุ้ย คือความสบายใจ แล้วอะไรที่เป็นประโยชน์ ถือว่าเป็นฮวงจุ้ยที่ดี และอะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ ก็ถือว่าเป็นฮวงจุ้ยที่ไม่ดี เช่นบ้านนี้มีประตู 5 บาน แต่ประตูไม่เคยมีคนใช้เลย ถือว่าเป็นฮวงจุ้ยที่ไม่ดี”

 

 

เรียนรู้วิธีคิด ผ่านชีวิตของแขกรับเชิญในทุกสัปดาห์ สำหรับ Club Pride Day คุยอย่าง Proud เมาท์อย่าง Pride กับสองดีเจสุดแซ่บ “ดีเจพี่อ้อย” และ “ดีเจก็อตจิ” ที่ได้ต้อนรับ “ซินแสเป็นหนึ่ง” ซินแสที่ดาราดังหลายคนต่างใช้บริการในการปรึกษาเรื่องราวต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นซินแสที่ฮอตสุด ๆ ถ้าใครจะดูดวงต้องจองคิวข้ามปี ซึ่งกว่าจะมาเป็นซินแสชื่อดังในวันนี้ ท่านเคยล้มเหลวจากการทำธุรกิจ เคยเจ็บใจจากการปรับฮวงจุ้ย ไม่มีข้าวกิน ไม่มีที่นอน ต้องอาศัยวัด จนพบประโยคพลิกชีวิต “น้ำเทลงผืนทรายย่อมมีทางไหลของมันเอง” เรื่องราวสีสันของชีวิต พร้อมข้อคิดแรงบันดาลใจ ได้ถูกแบ่งปันเอาไว้แล้วในรายการ

 

เปิดคำทำนายปีนักษัตร 2568 กับอาจารย์เป็นหนึ่ง

ปีชวด มีโอกาสได้รับตําแหน่งที่โตขึ้น แต่ต้องระมัดระวังเรื่องการเงินอย่าไปไว้อย่าไว้ใจใคร ความรัก อาจจะมีคนโสดเข้ามา แต่โสดยังไม่สุด สุขภาพ ให้ระวังเรื่องของช่องปาก เรื่องของฟัน

ปีฉลู งานราบรื่น อะไรก็ตามที่รู้สึกแย่เนี่ยมันจะจบทันทีก่อนปีใหม่ ความรัก คนโสดมีโอกาสจะได้เจอคนใหม่ ๆ สุขภาพ ระวังเจ็บป่วยเล็กน้อย

ปีขาล 2 - 3 เดือนสุดท้ายต้องควบคุมอารมณ์ให้ดี ถ้านิ่งได้จะมีโอกาสดี ๆ มากมาย การเงิน มีเงินเข้ามาแต่ต้องรอบคอบ ความรัก คนโสดต้องรอก่อน อาจจะเจ็บตัวเรื่องความรักได้ สุขภาพ เรื่องของการทานอาหาร การพักผ่อนให้เพียงพอ อาจจะมีภาวะปัญหาช่องท้องที่ต้องระมัดระวัง

ปีเถาะ มีโอกาสปรับเปลี่ยนในเรื่องงานที่ดีมาก ๆ การเงินมาจากการเดินทางจะมีโอกาสในการเงินที่ดี ความรัก คนโสดเนี่ยจะมีโอกาสเจอคน แต่ไม่แนะนําทุ่มเทให้เต็มที่ แนะนําให้ดูก่อนสุขภาพ อาจจะมีโอกาสในการอุบัติเหตุเดินเล็กน้อยแต่ไม่ได้เป็นอะไรหนัก โชคลาภ กรณีเจอเพศตรงข้าม จะมีโอกาสดีสําหรับคุณ

ปีมะโรง มีโอกาสได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ ความรัก คนโสดแอบชอบคนมีเจ้าของ สุขภาพ มีโอกาสที่คอบ่าไหล่เจ็บปวดต่าง ๆ ถ้าคุณไม่ดูแลตัวเอง อาจจะเรื้อรัง ต้องรีบรักษา โชคลาภ มาจากบุญเก่า

ปีมะเส็ง โดยส่วนใหญ่ต้องเพิ่มความรอบคอบ ความรัก คนที่โสดจะเจอคนที่ใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในวงการเดียวกัน ส่วนคนมีคู่ราบรื่น โชคลาภ จะมาแบบไม่คาดฝัน

ปีมะเมีย จะมีคนยุแยงแยงตะแคงตะแคงรั่วเลยตลอดเวลา ต้องระมัดระวังโดยเฉพาะเรื่องงานการเงิน มีเงินเก็บมาแต่ต้องโอนทันที สุขภาพ ให้ระวังเรื่องราวของกล้ามเนื้อต่าง ๆ ความรัก ระวังความเข้าใจผิด

ปีมะแม จะมีการเปลี่ยนแปลงที่ต้องยอมรับ เป็นโอกาสที่ถ้าคุณปฏิเสธไป คุณจะช้าไปเป็น 10ปี ความรัก คนโสดอาจจะเจอคนไม่โสด โชคลาภ จะมีโอกาสได้ทรัพย์สิน จะมีบ้านที่คุณอยากได้ มีโอกาสดี ๆ มาออฟเฟอร์ให้คุณมีเงินก้อนใหญ่

ปีวอก งานใหญ่จะสําเร็จตามเป้า ความรัก คนโสดมีคนเข้ามาแต่ ยังไม่ใช่ ดังนั้นควรจะคิดความสัมพันธ์เป็นเพื่อนไว้ก่อน สุขภาพ สุขภาพไม่น่าห่วง โชคลาภ มีเข้ามาแบบเรื่อย ๆ

ปีระกา งานต้องสู้และพิสูจน์ สําหรับเมืองนอกที่คุณรอ มีโอกาสสมหวังตามความปรารถนาการเงิน ต้องประหยัดอดออม ความรัก คนโสดควรดูกันนาน ๆ สุขภาพ ระวังเรื่องระบบการย่อยอาหาร อาจจะมีปัญหาเรื่องอาหารการกิน

ปีจอ มีโปรเจ็กต์ใหญ่ มีโอกาสครั้งสําคัญที่คุณจะได้ทําสิ่งใหญ่ การเงิน ต้องระวังการใช้จ่าย ส่วนใหญ่หมดไปกับออนไลน์ ความรัก คนโสดเจอคนใหม่ ได้เจอโอกาสสังคมใหม่ ๆ สุขภาพ ไม่มีปัญหาใด ๆ โชคลาภ ได้มาจากผู้ใหญ่

ปีกุน จะมีโอกาสรับงานใหม่ มีโอกาสดี ๆ จะได้โชคลาภในเรื่องการเงินจากผู้ใหญ่ ความรัก คนโสดจะเจอคนที่ถูกใจ สุขภาพ ดูแลระบบการย่อยอาหาร

 

 

ปีชงคืออะไร ปี 2568 นักษัตรไหนชงบ้าง?

“ปีหน้ามี 4 ปีนักษัตร ปีกุน ปีมะเส็ง ปีขาล ปีวอก ที่เป็นปีชง หลายคนถามอาจารย์ว่า มันจะมีเรื่องเลวร้ายไหม จริง ๆ ต้องอธิบายว่าเรื่องของปีชง เป็นเรื่องราวของคนจีนแผ่นดินใหญ่ กาลครั้งหนึ่งเราเคยอยู่ในช่วงปีชง แล้วก็บินตรงไปที่เมืองจีนเลย เพราะจะมีความรู้สึกว่าต้องไปแก้ที่นั่น พอไปถึงเหล่าซือที่เค้าทำพิธีใหญ่มาก ๆ เค้าถามว่า เราคือคนไทยใช่ไหม เราก็บอกว่าใช่ เราเป็นคนไทย เค้าบอกว่าลื้อไม่ชงนะ เราก็บอกว่าไม่ชงได้ยังไง เพราะเราเป็นคนไทยเชื้อสายจีน เค้าบอกว่า จริง ๆ ลื้อไม่ได้ชงนะ เรื่องปีชงโดยส่วนใหญ่เนี่ยเป็นเรื่องของคนจีนแผ่นดินใหญ่ ดังนั้น 4 ปี ที่คุณต้องระมัดระวังอารมณ์ แล้วก็ตามสถานที่ที่มีการแก้ แนะนำให้คุณไปเถอะเพื่อความสบายใจ แต่ความเป็นจริงไม่ต้องไปวิตกกังวล เค้าจะวัดผลในเดือนธันวาคม ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์อะไร มันจะกลายเป็นชงขึ้น แต่ถ้ามีเหตุการณ์ต้องเลือดตกยางออก แสดงว่าตลอดทั้งปีคุณต้องระมัดระวัง แต่ถ้าเกิดในเดือนธันวาคมไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย แสดงว่า 4 นักษัตร จะชงรวยทันที อันนี้ถือว่าจะดี

จริง ๆ แล้ว ปีชง คือปีที่เค้าให้ระมัดระวังอารมณ์ของตัวเอง คุณสังเกตดูนะ ตารางของปีชงมันจะมีช่วงอายุ เค้ากำหนดมาตามตารางปีชง ซึ่งเป็นช่วงอายุที่มีอารมณ์แปรปรวน เช่นพออายุ 15 ขับรถต้องระวัง พออายุ 60 เป็นช่วงจังหวะที่มีความเครียดมีความกังวลใจ ดังนั้นคนจีนจึงระบุช่วงอายุตามตารางของปีนักษัตร หรือปี พ.ศ.เกิด เป็นช่วงระหว่างที่คุณต้องควบคุมอารมณ์ให้ได้ และมาเตือนเป็นกุศโลบายว่า ช่วงปีพวกนี้ พวกคุณโดยส่วนใหญ่ต้องระมัดระวัง เมื่อไหร่ที่คุณสามารถคิดดี ทำดี พูดดี ใช้ชีวิตให้ดี ทุกอย่างจะดีหมด”

 

 

ปี 2568 เศรษฐกิจจะดีขึ้นไหม?

“ต้องบอกว่าจะดีไม่ดี มันเหมือนแผล เวลาแผลสดมันจะตกตะกอน เราก็จะรู้ว่ามันหายแล้ว แต่ถ้าเกิดระหว่างที่แผลเหมือนเป็นสะเก็ด แล้วเรารู้สึกว่ามันคัน แสดงว่าใกล้หาย แต่วันนี้คุณรู้สึกไหมว่ามันเพิ่งเป็นแผลสด มันเพิ่งเริ่มมีสัญญาณให้เราเห็น แล้วมันเป็นระดับโลกมันไม่ใช่เป็นแค่ประเทศไทย ไม่ว่าเรื่องสงคราม เรื่องค่าเงินที่มันผันผวน ในระยะหลังเราจะเห็นว่าสัญญาณทุกอย่างมันมาเกือบครบแล้วในเรื่องความเสื่อมของหลาย ๆ สิ่ง ไม่ว่าจะเป็นความเสื่อมเรื่องของความมีชื่อเสียงของใครหลายคน เรื่องของพุทธศาสนาที่เจอเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย และทำให้เรารู้สึกว่า ฉันต้องระวัง จะพูดอะไรต้องระวัง และหลายสิ่งมันเป็นสัญญาณให้เราเห็นว่า ปีหน้าหนักกว่านี้อีก”

 

 

ย้อนวันวาน ของนักธุรกิจ ที่เคยเจ็บใจ ในเรื่องการปรับฮวงจุ้ย

“ก่อนหน้านี้เราเป็นนักธุรกิจมาก่อน เมื่อประมาณเกือบ 30 ปีที่แล้ว แล้วก็เจ๊ง แล้วครั้งที่เราล้มเหลว บังเอิญมันมีจุดเปลี่ยนก็คือ บรรดาเพื่อน ๆ หรือผู้ใหญ่ที่เอ็นดูเรา ก็จะมองว่าเป็นหนึ่ง เธอไม่น่าจะล้มนะเพราะเธอเป็นคนเก่ง เธอเป็นคนที่สามารถทำให้คน หรือใครก็ตามมีธุรกิจเติบโตขึ้นได้ แต่คุณล้มเพราะอะไร พวกเราคิดว่าเธอต้องไปเช็คดวงแล้วนะ

ณ วันที่เราเจ๊ง ไม่เหลืออะไรแล้ว แต่เรามีเงินส่วนหนึ่งที่จะต้องเลย์ออฟพนักงาน เราก็เลยมีความคิดว่า ถ้าเราปรับทั้งหมดเงินก็จะเพิ่มขึ้นเ ราก็จะมีเงินจ้างพนักงานได้ และก็เริ่มต้นจากการดูหมอ เราเลยบอกน้อง ๆ ทีมงานที่ยังเหลืออยู่ก่อนจะปิดบริษัท ให้น้อง ๆ ตามหาหมอดูให้ดิฉันหน่อย ดิฉันอยากจะดูดวงกับหมอดูให้ได้วันละ 2 คน แล้วเราเหลือเวลาอีก 31 วัน เอา 31 คูณ 2 เป็น 62 คน หมอดูที่มาดูดวงให้เรา 62 คน ไล่ดูเราตั้งแต่คนแรกถึงคนที่ 62 ซึ่งคนที่ 62 เป็นคนที่เรารู้สึกว่า เราใส่อารมณ์กับเค้า หงุดหงิดใส่ที่สุด เราพูดกับเค้าว่า คุณไม่ถามดิฉันเลยว่าอาชีพฉันทำอะไร คุณไม่ฟังแนวคิดฉันเลยว่าฉันทำงานอะไร คุณไม่ถามฉันเลยว่าวิธีการใช้ชีวิตฉันเป็นยังไง แล้วคุณก็บอกให้ฉันไปปล่อยนกปล่อยปลา ปฏิบัติธรรมแล้วจะดีขึ้น คุณไม่ถามเลยเหรอ สมมติวันนี้เธอเจ๊งจากธุรกิจมา เราต้องมานั่งคุยกันเพื่อมารื้อว่าการตลาดคุณเป็นยังไง HR คุณเป็นยังไงสตรองไหม ฝ่ายขายคุณขายเป็นยังไง ผลประกอบการเป็นยังไง เพื่อมาหาจุดโหว่ แล้วก็โปะมัน รีแบรด์ดิ้งใหม่ แต่หมอดูไม่เห็นถามเรื่องนี้เลย เชียร์เราอย่างเดียวให้ปล่อยนกปล่อยปลาปฏิบัติธรรม แล้วมันดีเหรอ สุดท้ายหมอดูคนนี้ก็ตกใจกับสิ่งที่ดิฉันถาม แล้วเค้าบอกว่าพอดีที่หนูเรียนมาแบบนี้ เราเลยบอกว่าโอเค เดี๋ยวฉันจะทำตามเธอทุกอย่าง ซึ่งแปลกอยู่เรื่องหนึ่ง คือหมอดูทั้ง 62 คน เค้ามักจะพูดทิ้งท้ายว่า เมื่อทำแบบนี้แล้วอีก 15 วันจะดีขึ้น ดิฉันก็เลยจบทุกอย่างใน 62 คน

ก็เลยเรียกน้อง ๆ มาบอกว่าฉันพร้อมที่จะต้องทำบุญ อันดับแรกคือปล่อยปลา เป็นหนึ่งปล่อยปลาไป 150,000 บาท เพราะดิฉันอยากปลดหนี้ วันที่ไปปล่อยปลาจำได้เลยคือ เราไปขออนุญาตผู้ดูแลบอกว่าพอดีเราอยากจะปล่อยปลา เค้าก็เลยบอกว่าปล่อยสิ ทำไมต้องมาบอกผม แต่พอเค้าเห็นรถสิบล้อบรรทุกปลามาเค้าก็ตกใจ ซึ่งหลังจากปล่อยปลาไป 45 วันฉันดีขึ้นไหม ไม่เลย แย่กว่าเดิม และเราต้องมีหนี้เพิ่มอยู่ที่ 150,000 บาท ก็เลยคิดต่อว่า หรือว่าต้องปล่อยนก ดิฉันก็เลยไปปล่อยนกอีก 150,000 บาท รวมเป็นเงิน 300,000 บาท เราเสียเวลา 45 วัน 2 ครั้ง เสียเวลาไป 90 วัน ชีวิตแย่ลง ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นเลย สุดท้ายก็เลยตัดสินใจไปปฏิบัติธรรม ซึ่งทำให้เราได้เห็นสัจธรรม เราเลือกไปปฏิบัติธรรมที่หลวงพ่อจรัญ ซึ่งตัวเองไม่เคยคิดจะไปเข้าวัดเลย แล้วพอเข้าไปปฏิบัติธรรมจริง ๆ ก็ทำไม่ได้ เพราะมันต้องเดินชั่วโมง เดินยุบหนอพองหนอ ระหว่างที่เดินหัวมันก็คิดว่าจะทำยังไงดี หนี้ก็ต้องใช้ เงินก็จะหมด เราก็เลยตั้งจิตอธิษฐานบอกว่า หลวงพ่อจรัญถ้ามีอยู่จริง ถ้าเรื่องความเชื่อ หรือสิ่งที่ควรที่จะต้องทำ ถ้ามีอยู่จริงขอให้ท่านแสดงปาฏิหาริย์ให้ลูกหน่อย ตอนนี้ลูกจะตายแล้ว ผลปรากฏว่า เราได้ยินเสียงตามสายระหว่างที่เราเดิน เสียงตามสายพูดว่า น้ำเทลงผืนทรายย่อมมีทางไหลออกมาเอง ท่านย้ำ 2 ครั้งดิฉันก็เลยหยุด แล้วก็บอกแม่ชีว่า เราได้ยินเสียงเนี้ย แล้วแม่ชีบอกว่าหยุด ห้องนี้ไม่มีลำโพง คุณต้องสงบ หลังจากนั้นเช้ามาเราก็ได้ไปกราบตรงลาน เราก็บอกขอบคุณท่านมาก คำว่าน้ำเทลงผืนทรายย่อมมีทางไหลออกเอง มันทำให้เรารู้สึกว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นคุณต้องเป็นน้ำ คุณต้องไปในทุก ๆ ที่ที่น้ำไป ฉันต้องเดินหน้าลุยต่อ เรื่องของดวงจากหมอดู 62 คน มันคือบทเรียนที่เราก็เข้าใจ การปล่อยนกปล่อยปลาไม่ได้ช่วยให้คุณหนี้สินหมด แต่ทำให้คุณสบายใจกับการปลดปล่อยเท่านั้นเอง

หลังจากนั้นก็เจอเรื่องที่ใหญ่ขึ้น คือเพื่อนก็มาแนะนำว่า ต้องดูฮวงจุ้ย เราถามว่าฮวงจุ้ยคืออะไร คือยุคนั้นฮวงจุ้ยเป็นเรื่องที่มันสูงมาก แต่ก็อยากลองก็โดนไปทั้งหมด 3 คน เราเชิญมาทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งแรกที่เชิญมา ตอนนั้นเราไม่รู้หรอกว่าซินแสคืออะไร แต่ท่านก็บอกว่าบ้านเราไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ เราเลยถามกลับไปว่ามีคำพูดดีกว่านี้ไหม คือเราเป็นคนชัดเจน เราเชิญคุณมาเพื่อต้องการอยากให้คุณมาช่วยเรา แต่ไม่ได้มาซ้ำเติมเรานะ ก็เลยถามไปว่าต้องทำอะไรบ้าง เค้าบอกว่าสมัยก่อนเรามีบ่อปลาคาร์ฟ แล้วบ่อนั้นเป็นบ่อที่เราอยากทำมาก แต่เค้าบอกให้กลบ เค้าบอกว่าบ่อปลาคาร์ฟบ่อนี้ทำให้เราล้มเหลวในชีวิต ให้กลบแล้วชีวิตจะดีขึ้นใน 45 วัน สุดท้ายเราก็กลบ เงินหมดไปเป็นล้านเลยนะ ผ่านไป 45 วัน ชีวิตไม่เห็นจะดีขึ้น แย่ลงด้วยซ้ำ  เลยปรึกษาซินแสคนที่สอง เค้าเข้ามาแล้วก็มาหยุดที่ตรงจุดเดิม แล้วก็บอกต้องทำบ่อปลาคาร์ฟ เราด่าเลยนะ เรียนมาจากไหน ทำไมพูดกันคนละเรื่อง จนสุดท้าย มาเจอซินแสคนสุดท้าย ท่านบอกว่าถ้าลื้ออยากจะโชคดี ลื้อต้องเช่าสิงห์ของเรา คู่ละ 500,000 บาท สิงห์เนี่ยจะไล่ล่าเงิน สิงห์นี้มาจากเมืองจีน มีคู่เดียวที่มีเลข 1 1 1 แล้วดันเป็นชื่อเราอีก ด้วยความที่เราไม่ฉลาดในตอนนั้นเพราะเรารู้สึกว่าอยากจะปลดหนี้ ก็เลยจ่ายแล้วจบเลย จนสิงห์มาส่ง เราก็ดูมันมีเลข 1 1 1 ก็โอเค แล้วซินแสก็บอกว่า เดี๋ยวตอนเช้าลื้อตื่นมาตี 3 ครึ่ง แล้วลื้อกระซิบทางหูของสิงห์ บอกว่าขอให้รวย พูดแบบนี้ไป 45 วัน พอทำไปได้สักไม่เกิน 7 วัน ได้ผลปรากฎว่า ลูกน้องบอกว่า พรุ่งนี้บ่ายโมงจะมีกองบังคับคดีมานะ เพราะว่ามันน่าจะจบ ธุรกิจเรามีปัญหา พรุ่งนี้บ่ายโมงเดี๋ยวจะมีหลาย ๆ คนมาคุยเรื่องของต่าง ๆ แล้วพอตอนเช้า เราตื่นมา 9 โมง ไปนั่งเศร้าอยู่หน้าบ้าน นั่งมองสิงห์ คิดว่าเราทำอะไรลงไป พอบ่ายโมงรถจอด เราเลยวิ่งไปกอดสิงห์ ร้องไห้ บอกว่าทำไมต้องหลอกฉัน มันคือเงินก้อนสุดท้าย แล้วก็มีผู้ใหญ่คนหนึ่งลงมาจากรถแล้วก็ตบบ่าเราบอกว่า เป็นหนึ่งคุณตื่นนะ เรื่องนี้ไม่มีอยู่จริง คุณต้องลุกขึ้นสู้ หลังจากนั้น 2-3 วัน เราต้องเก็บเคลียร์ของทุกอย่าง แล้วเราเคยอ่านในหนังสือว่า เวลาคนเราจะตาย หรือเค้าจะคิดสั้น เค้าจะเห็นว่าข้างล่างเป็นน้ำ ซึ่งมันจริงนะ ตอนนั้นเราเดินขึ้นไปอยู่ตึกชั้น 4 เรามองเห็นข้างล่างเป็นทะเล แล้วก็มีความรู้สึกว่า ถ้าฉันโดดมันคือจบ หน้าตา ศักดิ์ศรี ความไม่เหลือแล้ว มันจบนะ แล้วระหว่างที่กำลังจะตัดสินใจ แม่บ้านเปิดประตูเข้ามา แล้วบอกว่าคุณเป็นหนึ่งจะทำอะไร เราบอกว่า ป้ามันไม่เหลือ เราไม่สามารถจะพาป้าไปถึงฝั่ง แต่เป็นหนึ่งก็พาป้ามาจนถึงวันนี้นะ จากนั้นป้าควักเงินในกระเป๋าออกมา ป้าบอกว่าทั้งชีวิตป้าทำงานกับเป็นหนึ่งมา ป้าให้เป็นหนึ่งนะ มันไม่ได้เยอะนะ แต่เป็นเงินที่ป้าเก็บ เป็นหนึ่งเอาเงินนี้ไปใช้หลังจากนี้นะ เพราะหลังจากนี้ต้องแยกย้ายกัน เงินนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่า เรามีสติขึ้นมาทันที เราก็เลยลืมทุกอย่าง แล้วเราก็เข้ากรุงเทพ มานอนตามป้ายรถเมล์ มานอนอยู่ที่วัดธาตุทอง นอนแบบคนบ้า เสียสติทุกอย่างประมาณเกือบเดือน แล้วก็มีเงินติดตัวอยู่ 5 บาท พยายามจะเก็บไม่ให้ 5 บาทหาย มีอยู่วันหนึ่งเราไปเจอร้านก๋วยเตี๋ยว เราหิวมาก เราอยากกินก๋วยเตี๋ยว ก็เลยไปยกมือบอกเจ้าของร้านขอผักบุ้งซัก 4-5 ชิ้นได้ไหม ปรากฎว่าเจ้าของร้านตักให้เต็มจานไปหมดเลย ป้าก็ให้เรากินฟรี แล้ว 5 บาทเราก็ยังเก็บ จนมาวันหนึ่งเราไปถ่ายรายการ คนถามว่าเป็นหนึ่ง 5 บาทนั้นเธอเก็บไว้ทำไม เราบอกว่า ฉันเก็บไว้โทรหาแม่ตอนสุดท้ายที่ฉันต้องตายแล้วไง จะได้บอกแม่ว่าไม่อยู่แล้วนะ แล้วฉันก็เก็บไว้”

 

 

น้ำเทลงผืนทรายย่อมมีทางไหลของมันเอง

“สุดท้ายชีวิตมันกลับมาฟื้นด้วยคำของหลวงพ่อจรัญ คือน้ำเทลงผืนทรายย่อมมีทางไหลของมันเอง เพราะหลังจากนั้นเราก็ไปสมัครงาน แต่ในการสมัครงานไม่ใช่เรื่องง่าย มีบริษัทหนึ่งถามเราว่า ขอโทษนะคะ เราถามตรง ๆ อย่าโกรธเรานะ เราจะรับคุณมาได้อย่างไร ในเมื่อคุณเป็นคนล้มเหลว บริษัทคุณยังไปไม่รอดเลย เราจะต้องรับคุณเหรอ ซึ่งเราตอบเค้าว่า เราเองเรารู้ความล้มเหลวในอดีต แต่เมื่อไหร่ที่คุณได้มีโอกาสรับเราทำงาน คุณจะไม่มีวันที่จะล้มแบบเรา เพราะเราเรียนรู้ที่จะล้มมาแล้ว แต่ไม่เป็นไร ไม่รับเราไม่ได้มีปัญหา เราก็ถือว่าเราได้มาเจอ ต้องขอบคุณที่เปิดโอกาสให้เราได้สัมภาษณ์งาน กว่าจะได้งานทำ กว่าจะได้โอกาส พอเราเริ่มมีงานต่าง ๆ ชีวิตเริ่มดีขึ้น เราบอกกับตัวเองเลยว่าฉันจะไปศึกษาเรื่องนี้เองที่เมืองจีนด้วยความเจ็บใจ พอไปเรียนที่เมืองจีนมา สิ่งที่เราฟังมาไม่มีอยู่จริง เสาไฟฟ้าอยู่หน้าบ้านได้ไม่แปลก บันไดเทออกไปทางหน้าบ้านได้ไม่แปลก ประตูซ้อนกันได้ไม่แปลก ทุกอย่างที่เราเรียนรู้มามันมีครบหมดโดยที่ไม่มีปัญหาใดๆ เลย

ส่วนเรื่องของสิงห์ ตามตำราเค้าจะไม่วางอยู่หน้าบ้าน เพราะสิงห์เป็นสัญลักษณ์ของการส่งวิญญาณ ถ้าเป็นเมืองจีนต้นตำหรับเลย เค้าจะวางสิงห์ไว้ที่สุสาน วัด หน่วยงานราชการ หรือโรงพยาบาล เค้าจะไม่นิยมวางในบ้าน แล้วไม่ว่าจะเป็นสิงห์ หรือนกอินทรีย์ต่าง ๆ เป็นเหมือนอุปกรณ์ตกแต่ง เพื่อยกระดับฐานะของคนยุคนั้น ซึ่งไม่เกี่ยวกับความเชื่อเลย เหมือนบ้านหนึ่งถ้าคุณสามารถมีนกอินทรีย์อยู่บนหลังคาได้ แสดงว่าบ้านนี้ต้องรวยมาก มันเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ในการยกฐานะของคน แต่บังเอิญพอยุคมันเปลี่ยน คนมันมีเชิงพาณิชย์มากขึ้น มันก็เลยหากินจากการขายสิ่งเหล่านี้ แล้วพอมันมีกิเลส มันก็เจอเรื่องราวต่าง ๆ นี่คือสิ่งที่มันเป็นความจริง”

 

 

ฮวงจุ้ย คืออะไร?

“ฮวงจุ้ย มันคือความสบายใจ ให้คุณจำไว้เลยว่า อะไรที่มีประโยชน์ ถือว่าเป็นฮวงจุ้ยดีที่สุด แล้วอะไรที่ไม่มีประโยชน์ ถือว่าไม่ดี เช่นสมมติบ้านหนึ่งหลังมีประตู 5 บาน แต่ถ้าเกิด 5 บานไม่มีคนใช้ แสดงว่าไม่มีประโยชน์ ฮวงจุ้ยไม่ดี แล้วคำว่าฮวงจุ้ย เค้าแบ่งไว้ชัดเจนว่ามันคืออะไร ห้องนั่งเล่น คือ นั่งยังไงให้มันนั่งสบาย ห้องนอน คนนอนต้องหลับลึกหลับสบาย ห้องครัว คือการทำอาหารได้อย่างเอร็ดอร่อย ห้องน้ำ คือห้องแห่งความสุขปลดทุกข์เท่านั้นเอง

แต่พอมายุคนี้มันเปลี่ยน คนดันเอาไปประกอบพาณิชย์ขายความกลัว ความกลัวมันขายง่าย คนเรากลัวไม่กี่เรื่อง เรื่องผัว เรื่องครอบครัว เรื่องลูก เรื่องสิ่งที่เค้ารัก เค้าถึงเอามาแปลงว่าถ้าเกิดนอนห้องนี้โอกาสจะสูญเสียลูก เค้าก็ต้องกลัว วางของตรงนี้สามีจะมีปัญหา เค้าก็ต้องกลัว ดังนั้นพอขายความกลัวของคนมันง่าย

แล้วข้อสุดท้ายที่อยากจะบอกทุกคน คืออย่าไปทักทายใครในแง่มุมที่มันเป็นลบ เช่น เธอบ้านเลขที่นี้ บ้านเธอจะมีปัญหานะ นั่นมันคือวจีกรรม เหล่าซือสอนว่า ลื้อจำไว้เลยนะเป็นหนึ่งต่อให้ลื้อเรียนเรื่องพวกนี้มาจนจบ ห้ามไปทักทายใครในมุมที่รู้สึกเป็นลบให้เค้าเกิดทุกข์ คุณจะติดวจีกรรมไปตลอดชีวิต

และต้องบอกว่าในศาสตร์ของอาจารย์ พุทธคุณมีเพียง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น อีก 95 เปอร์เซ็นต์คือมานะตน” ซินแสเป็นหนึ่ง

 

 

พบเรื่องราวชีวิตหลากสีสันใน Club Pride Day  คลับที่เต็มไปด้วยแบ่งปันข้อคิดแรงบันดาลใจ และมีคลังความรู้ที่พร้อมแชร์ ไปกับแขกรับเชิญพิเศษ และสองดีเจสุดแซ่บ “ดีเจพี่อ้อย” และ “ดีเจก็อตจิ”  ได้ในทุกสัปดาห์

 

ดูรายการย้อนหลัง

album

0
0.8
1