เปิดสีสันชีวิต รับข้อคิดพลังใจ จาก “หมอไวท์ เปิดดวง” หนุ่มวิศวะหน้าใส ผู้หลงใหลในโหราศาสตร์

Club Pride Day Recap

เปิดสีสันชีวิต รับข้อคิดพลังใจ จาก “หมอไวท์ เปิดดวง” หนุ่มวิศวะหน้าใส ผู้หลงใหลในโหราศาสตร์

18 ธ.ค. 2024

“ผมอยากให้คนที่มาดูดวง มีความเชื่อมั่นในตัวเองเป็นหลักก่อน แล้วค่อยปรึกษาหมอดูเป็นแนวทางเสริม เพราะไม่มีใครรู้เรื่องชีวิตของเรา ได้ดีเท่าตัวของเราเอง”

 

เรียนรู้วิธีคิด ผ่านชีวิตของแขกรับเชิญในทุกสัปดาห์ สำหรับ Club Pride Day คุยอย่าง Proud เมาท์อย่าง Pride กับสองดีเจสุดแซ่บ “ดีเจพี่อ้อย” และ “ดีเจก็อตจิ” ที่ได้ต้อนรับ “หมอไวท์ เปิดดวง” หมอดูหน้าใส ที่ไม่ได้มีแค่หน้าตา แต่มากด้วยฝีมือการทำนายตามหลักโหราศาสตร์ กับจุดเปลี่ยนของชีวิต จากเด็กวิศวะ สู่นักธุรกิจแบรนด์จิวเวลลี่ ที่ต้องผันตัวเรียนรู้ เข้าสู่วงการแห่งความศรัทธา จนได้ฉายาเป็น “หมอดูโอปป้า” เรื่องราวสีสันของชีวิต พร้อมข้อคิดแรงบันดาลใจ ได้ถูกแบ่งปันเอาไว้แล้วในรายการ

 

 

เปิดดวง 12 ราศี ปี 2568

“ปีหน้าจะเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เลยนะครับ หลายคนเริ่มรู้สึกว่าชีวิตตัวเองเปลี่ยนตั้งแต่ปี 2567 หรือมีผลกระทบมาค่อนข้างเยอะนะครับ แต่ว่าพอเข้าปี 2568 จะเป็นช่วงที่ดาวใหญ่ย้าย 3 ดวงในเวลาเดียวกัน คือช่วงเดือนพฤษภาคม วันที่ 5 พฤษภาคม มีราหูย้าย ดาวเสาร์ย้าย แล้วก็มีดาวพระพฤหัสบดีย้าย ซึ่งมันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เลยนะครับทั้งเรื่องของ การงาน การเงิน ความรัก บางคนถ้าเกิดว่าถึงจุดที่จะต้องเปลี่ยนแล้วยังไม่เปลี่ยนตั้งแต่ปี 2567 ในปี 2568 มันจะเป็นจุดพีคในเรื่องของการเปลี่ยนให้เราเห็น

จริง ๆ ปกติแล้วถือว่ายากนะครับที่ดาว 3 ดาวย้ายในเวลาเดียวกัน เพราะว่ามันเป็นจุดเปลี่ยนของดวงเมือง ดวงโลกด้วย วิธีการตั้งหลักก็อาจจะต้องเตรียมตัวในเรื่องการบริหาร ในเรื่องของการใช้ชีวิต ถ้าใครรู้สึกว่าการงานไม่มั่นคง งานมันตกเทรนด์ไปแล้ว หรือว่ามันไม่ค่อยมีในเรื่องของอนาคตการต่อยอด ก็แนะนำให้เรียนเพิ่ม ศึกษาเพิ่ม หรือว่าไปหาสิ่งที่ใหม่ ๆ เข้ามา 

ราศีที่ดีที่สุดลำดับต้น ๆ ของปี 2568 ก็คือ ราศีพฤษภ เพราะเป็นหนึ่งในราศีที่ได้รับอิทธิพลของดาวการเงินเด่นในรอบ 12 ปี เพราะฉะนั้นคนเกิดราศีพฤษภ แนวโน้มจะมีจังหวะในเรื่องของการได้เงินเพิ่ม มีรายได้เพิ่ม รวมไปถึงในเรื่องงาน เพราะดาวประจำเรื่องงานคือราหู ซึ่งเหมาะกับยุคปัจจุบัน เพราะว่า ราหู จะมีความเกี่ยวกับเรื่องของการขายออนไลน์ และเลขของราหู ก็คือเลข 8 แล้วปีหน้า ราหู เป็นตำแหน่งเกษตรตามโหราศาสตร์เค้าเรียกว่า ย้ายเข้าเรือนตัวเอง แล้วมันจะมีความมั่นคง เพราะฉะนั้นคนเกิดราศีพฤษภได้เปรียบในเรื่องของดาวราหูอยู่แล้ว ก็เลยทำให้เรื่องงานค่อนข้างจะดีกว่าราศีอื่น ซึ่งราศีพฤษภ คือคนที่เกิดตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคมถึงวันที่ 14 มิถุนายน รวมไปถึงเรื่องการเงินด้วย เพราะว่าพอดาวราหูย้ายเข้าเรือนการงาน แต่ว่าดาวพฤหัสเข้าไปส่งในเรื่องการเงิน เป็นเรื่องของโชคลาภทางการเงิน ก็ทำให้มีเรื่องของการเงินเพิ่ม บางคนอาจจะมีเรื่องของรางวัลใหญ่ ถูกรางวัล หรือว่ามีโชคจากทางการเงินเข้ามา ก็เป็นปีที่โดดเด่นครับ

ราศีมังกร คือคนที่เกิดระหว่างวันที่ 15 มกราคม ถึง 12 กุมภาพันธ์ ชาวราศีมังกรดาวประจำตัวคือดาวเสาร์ แล้วดาวเสาร์จะเป็นดาวที่เคลื่อนช้า ถ้าเปรียบเทียบกับราศีอื่น 2 ปีครึ่งถึงจะเคลื่อนที เพราะฉะนั้นในช่วงที่ผ่านมาดาวเสาร์ไม่ได้ย้ายเรือน ถึงทำให้คนเกิดราศีมังกรตั้งแต่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาค่อนข้างจะเหมือนไม่ค่อยได้พัฒนาอะไรเท่าไหร่ หรือว่ามีปัญหาชีวิตที่เกิดขึ้นในเรื่องของหนี้สิน หรือการหาเงินมันไม่ค่อยมีช่องทางใหม่ ๆ ให้ขยับ พอในปีหน้าจะเป็นปีที่ดาวเสาร์ย้าย แล้วจะย้ายเข้าไปในตำแหน่งของราศีมีน ส่งผลทำให้การเดินหน้าของดาวประจำตัวพอดี เกิดความมั่นคงในเรื่องอาชีพใหม่ ๆ เกิดขึ้นได้ครับ รวมไปถึงในเรื่องการหาเงินตรงนี้เป็นจุดเด่นของราศีมังกร

ราศีกุมภ์ ดาวประจำตัวคือราหู อย่างที่บอกว่าปีหน้าราหูเด่น ชาวราศีกุมภ์จะมีความโดดเด่นขึ้นในเรื่องของดาวประจำตัว ส่งผลให้มีเสน่ห์ เกิดความน่าสนใจ ในเรื่องของอาชีพการงาน เค้าก็จะไปเจออาชีพที่มั่นคง บางคนเป็นอินฟลูเอ็นเซอร์ หรือการปั้นแบรนด์ตัวเอง คนเกิดราศีกุมภ์ค่อนข้างจะเป็นปีทองเลยนะครับ แล้วก็มีโอกาสดีในเรื่องของการเงิน แต่ว่าต้องระวังนิดนึงเพราะว่าในช่วงปีหน้า ก็เป็นปีที่ดาวเสาร์ย้ายเข้าทับเรือนการเงิน ดาวเสาร์คือดาวแห่งความเครียด ถ้าเข้าทับเรือนไหนเครียดเรื่องนั้น มันเลยส่งผลทำให้คนเกิดราศีกุมภ์ มีโอกาสเครียดในเรื่องการเงิน ตีความว่า อาจจะไปซื้อทรัพย์สินใหม่ ๆ เพิ่ม มีการลงทุนเพิ่ม แล้วมันมีรายจ่ายบานปลาย เพราะฉะนั้นชาวราศีกุมภ์ เป็นหนึ่งราศีที่ต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องการใช้จ่าย

ราศีมีน จะเป็นราศีที่มีดาวเสาร์ย้ายเข้าไปทับ ก็จะเกิดความเครียดจากคลื่นพระเสาร์ แต่ว่าพอดีว่าชาวราศีมีน ดาวเสาร์เป็นตำแหน่งเจ้าเรือนลาภะ ลาภะแปลว่าโชคลาภ เพราะฉะนั้นพอมีโชคลาภย้ายเข้าไป ถึงแม้ว่าเครียด แต่ว่าเครียดเพื่อสิ่งที่ดีกว่า หรือว่ามีสิ่งใหม่ ๆ ที่เข้ามาอาจจะเป็นความกดดันเกิดขึ้นเรื่องของหน้าที่การงาน อาจจะมีความพัฒนายิ่งใหญ่ไปอีกสำหรับคนเกิดราศีมีน แต่ก็นำมาพร้อมกับความเครียดเกิดขึ้นด้วย รวมไปถึงในเรื่องของการต้องระมัดระวังเรื่องของสุขภาพด้วยเล็กน้อย ถ้าแนะนำก็เหมาะกับการทำบุญในการช่วยเหลือสังคมนะครับ บุญแบบใหญ่ ๆ อย่าง ร่วมสร้างอาคารตามโรงพยาบาล ซึ่งจะช่วยทำให้คนเกิดราศีมีนรอดพ้นปลอดภัยในปีหน้า

ราศีเมษ ดาวประจำตัวคือดาวอังคาร แล้วก็เป็นตัวแทนของดวงเมืองดวงโลก ซึ่งถ้าดูจากปีที่ผ่านมา ราศีเมษก็จะเป็นหนึ่งในราศีที่เหมือนมีปัญหาเยอะ ดวงเมืองก็เจอทั้งน้ำท่วม มีการเปลี่ยนนายก หรือว่าเรื่องต่าง ๆ ที่มีการจัดการเยอะ พอเข้าปี 2568 ก็จะมีแนวโน้มที่ต้องมีการจัดการเกี่ยวกับเรื่องของงาน เพราะคนเกิดราศีเมษเหมือนจะต้องมีกลยุทธ์ใหม่ ๆ จะมีการทำมาร์เก็ตติ้ง จะมีการวางแผนเรื่องของระบบ เพราะว่าดาวเสาร์โคจรเข้าทัพตำแหน่งเรือนวินาศเค้าเรียกว่า เรือนการงานเข้าเรือนวินาศ มีผลทำให้ปรับเปลี่ยนต้องใช้กลยุทธ์เข้ามา มันอาจจะมีเรื่องของการผสมผสานสิ่งต่าง ๆ เข้าร่วมด้วยกัน เพื่อให้คนราศีเมษมีโอกาสที่จะทำมาหากินได้ดีในปีถัดไป อาจจะพัฒนาในเรื่องของธุรกิจ อย่างบางคนอาจจะไม่เคยทำออนไลน์ หรือว่าทำออนไลน์แล้ว แต่ว่ายังไม่มีประสิทธิภาพเท่าไหร่ ซึ่งในปีที่จะถึง อาจจะเป็นเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องการทำงานมากขึ้นครับ

ราศีเมถุน จะเป็นหนึ่งราศีที่โชคดีในเรื่องของดาวพระพฤหัสบดีย้ายเข้ามาทับดวง เพราะว่าเป็นเจ้าภาพของการที่รับดาวพระพฤหัสบดี พระพฤหัสบดีก็เป็นตำแหน่งดาวที่ดี เพราะฉะนั้นคนเกิดราศีมิถุนถือว่าโชคดี ในเรื่องของการงาน ในเรื่องคู่ครอง บางคนมีเกณฑ์แต่งงาน หรือใครที่เหมือนคบกับคู่มานานแล้ว กำลังวางแผนที่จะแต่งงาน เมถุนก็อยู่ในราศีที่มีเกณฑ์แต่งงาน รวมไปถึงเรื่องของธุรกิจใหม่จะไปเกี่ยวข้องกับเรื่องธุรกิจที่ต้องทำร่วมกับคนอื่นด้วย ในปีที่จะถึง

ราศีกรกฎ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบหลายปี เหมือนเป็นการรีสตาร์ทชีวิตใหม่ ๆ บางคนอยากเปลี่ยนงาน ย้ายงาน หรือว่าเริ่มต้นชีวิตใหม่ ราศีกรกฎจะเกิดขึ้นในช่วงปีที่จะถึง เพราะฉะนั้นในช่วงปลายปีนี้ ไปจนถึงต้นปี ก็ต้องพยายามเตรียมความพร้อมเยอะ ๆ เพราะว่าคนเกิดราศีกรกฎ ต้องรับมือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่จะมาถึง จริง ๆ เหมือนสถานการณ์เค้าถูกเลือกให้ต้องเลือกที่จะทำธุรกิจใหม่แล้ว เพราะอาจจะเป็นไปได้ว่าธุรกิจเก่าอาจจะไม่หารายได้ได้ดีเท่าไหร่ เพราะว่าปีที่จะถึง พระราหูย้ายเข้าเรือนมรณะ มันเหมือนเป็นการจบจากสิ่งเก่า เริ่มต้นสิ่งใหม่ เพราะฉะนั้นก็จะเป็นปีแห่งการเริ่มต้น ถ้าหากตัดสินใจในช่วงนี้ อยากเรียนรู้อะไรเริ่มใหม่ ผมว่าเป็นจังหวะที่ดี

ราศีสิงห์ เป็นธาตุไฟ จะเป็นคนที่ไฟแรง ดาวประจำตัวเป็นดาวอาทิตย์ ปีที่ผ่านมามีดาวเสาร์ซึ่งเป็นเจ้าเรือนอริเล็งดวงอยู่ ทำให้จังหวะของดวงบางทีเหมือนมีลุ้น คาดหวังได้ไม่เต็มที่เท่าไหร่ แต่ว่าปีที่จะถึงดาวเสาร์ย้ายออก คืออริย้ายเข้าเรือนมรณะ แปลว่าศัตรูแพ้ภัยนะครับ ปัญหาในเรื่องของสิ่งต่าง ๆ ที่จะเจอในช่วงปีที่ผ่านมาก็จะจบไป แต่ว่าราหูจะย้ายมาเล็งดวงแทน ซึ่งเป็นจุดที่คนเกิดราศีสิงห์ จะต้องระมัดระวัง เพราะว่าพอราหูย้าย มันก็จะมีปัญหาเกิดขึ้นในเรื่องของบุคคลได้ หรือว่าเราไปชอบใครสักคนแบบหลงไหลเค้าได้ เพราะว่าดวงราศีสิงห์คือคู่เรือนเป็นราหู เค้าก็จะมีลูกเล่น มีเสน่ห์ มีความวาไรตี้ต่าง ๆ ที่เห็นแล้วลุ่มหลง ซึ่งถ้ารู้สึกว่ามีใครที่เข้ามาในรูปแบบประมาณนี้ต้องระวังครับ

ราศีกันย์ ก็จะเป็นราศีที่ถือว่าดวงดีขึ้นจากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เค้ามีปัญหาเยอะนะครับเพราะว่าคนเกิดราศีกันย์ โดนดาวเสาร์เล็ง แล้วเดี๋ยวราหูเล็งอีก แล้วก็ปีก่อนหน้านี้คือดาวพฤหัสบดีตกเรือนมรณะ บางคนมีปัญหาเรื่องหนี้สิน การสูญเสีย หรือว่ามีผลกระทบ เค้าเจอเรื่องของการเปลี่ยนแปลงใหญ่ ๆ ไปแล้ว เพราะฉะนั้นปีที่จะถึงมันเป็นปีที่ค่อนข้างจะเป็นการเริ่มต้นการเติบโต หรือว่าสิ่งที่เค้าทำในช่วงปี 2567 ก็จะถูกพัฒนาในช่วงปี 2568 ก็ถือว่าเป็นราศีที่มีความราบรื่น มีความโดดเด่นเรื่องการทำงานกับคนในครอบครัว แล้วก็มีบริวารเข้ามาช่วยซัพพอร์ทดี

ราศีตุลย์ เด่นเรื่องการพ้นเคราะห์ เพราะว่าปีที่ผ่านมา ดาวพฤหัสเข้าเรือนมรณะของราศีตุลย์ทำให้คนเกิดราศีตุลย์มีปัญหาคือจะมีเรื่องของการสูญเสีย เสียเงิน เสียคนรัก ที่มีผลกระทบมาในช่วงปีก่อนครับ พอเข้าปี 2568 ก็ถือว่าจุดเด่นของดวงค่อนข้างดี แล้วก็ราหูเป็นเจ้าเดือนปุตตะ ปุตตะแปลว่าเรื่องของโชคก็ได้ เรื่องของบริวารก็ได้ เพราะฉะนั้นคนเกิดราศีตุลย์ ค่อนข้างจะมีโชคดี เป็น 1 ใน 12 ราศี ที่เด่นเรื่องโชคมาก ๆ ครับ

ราศีพิจิก ก็เป็นหนึ่งในราศีที่มีแนวโน้มของการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ เพราะว่าชาวราศีพิจิก ดาวพระพฤหัสบดีจะย้ายเข้าเรือนมรณะ ชาวราศีพิจิกในช่วงกลางปี ก็จะเหมาะกับการทำอะไรที่เกี่ยวกับต่างประเทศ ดวงเหมือนโกอินเตอร์ ถ้าหากว่าทำธุรกิจกิจการต่าง ๆ แนะนำให้ไปทำเกี่ยวกับต่างชาติแล้วจะดี หรือค้าขายก็แนะนำให้มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของการขายออนไลน์เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะการขายออนไลน์ก็ยังเป็นจุดเด่น เพราะปีหน้าเป็นเลข 8 เป็นเลขของราหู เพราะฉะนั้นก็จะเป็นยุคที่เราจะต้องทันในเรื่องของโลกโซเชียลมากขึ้น

ราศีธนู เมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา ราศีธนูจะพบในเรื่องของปัญหาเยอะ เพราะว่าดาวประจำตัวเข้าเรือนอริปัญหา เรื่องของการที่ผู้สื่อสารเจรจาแล้วไปมีผลกระทบกับคนใกล้ตัว พูดแล้วก็ทะเลาะกับคนใกล้ตัวบ้าง เรื่องคู่ เรื่องความรัก ก็โดนมาหมด รวมไปถึงเรื่องของคนในที่ทำงานด้วย ดังนั้นพอปีที่จะถึง 2568 จุดเด่นก็คือดาวประจำตัวย้ายออกจากเรือนอริ ส่งผลให้เป็นคนที่เหมือนมีสมรรถภาพเรื่องร่างกายแข็งแรงขึ้น คำพูดมีน้ำหนักขึ้น ทำให้ลดทอนในเรื่องของอริศัตรูไปครับ”

 

 

ต้อนรับปีใหม่ มูเตลูอย่างไรดี?

“ช่วงต้นปีก็แนะนำให้ไหว้ศาลหลักเมือง เป็นการเอาฤกษ์เอาชัย แล้วก็วัดริมน้ำ จะเป็นเทรนด์ของปีที่จะถึง เพราะว่าเป็นการช่วยในเรื่องของการขจัดสิ่งที่ไม่ราบรื่น วัดที่แนะนำให้ไปก็อย่างเช่น วัดกัลยาณมิตร ไปขอในเรื่องมิตรตามชื่อเลย วัดอรุณก็ขอให้ชีวิตรุ่งอรุณ แล้วก็วัดระฆังก็ขอในเรื่องชื่อเสียงเรื่องการงาน อย่างผมไปเยอะมากเลย ก็มีวัดอรุณ วัดกัลยาณมิตร วัดระฆัง วัดยานนาวา ใครที่อยากได้เงินก้อนใหญ่ๆ ก็แนะนำเป็นวัดยานนาวา แล้วก็อีกจุดหนึ่งที่เด่นคือ วัดหงส์ ที่จะเด่นเกี่ยวกับเรื่องของ บ่อน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์

ต่างประเทศก็ไปหลายที่ อย่างเช่นปีที่ผ่านมา ผมไปมูอินเดีย เน้นเกี่ยวกับเรื่องของการทำบุญใหญ่ ๆ เพราะว่าเค้าจะมีขอทานเยอะ ใครที่รู้สึกว่าเหมือนปีนั้นดวงตก ก็แนะนำให้ไปทำบุญแบบจัดเต็มที่อินเดีย แล้วก็อีกที่หนึ่งใกล้ประเทศไทยแล้วก็เดินทางง่ายคือ ฮ่องกง ไปมูเรื่องฮวงจุ้ย สำหรับคนที่อยากปรับเปลี่ยนดวงชะตาด้วยตัวเอง หรือเอาตัวเองไปอยู่ในฮวงจุ้ยที่เค้ารับพลังงานดี ๆ ฮ่องกงก็จะมีศาลเจ้าแม่ทับทิมที่เก่าที่สุดอยู่ที่ริมน้ำ เด่นที่จะขอเรื่องการเงิน ได้ดีมาก ๆ การไปต่างประเทศมันก็เหมือนเปลี่ยนพลังงาน เปลี่ยนแอตติจูดความคิดในช่วงเวลานั้นการเอาตัวเองไปอยู่ในโมเม้นท์ที่ดี พลังงานดี ๆ หรือว่าเปลี่ยนบรรยากาศชีวิต มันก็คือการรับสิ่งใหม่ๆ เข้ามาครับ

จริง ๆ ปีหน้าถ้าให้แนะนำก็อยากให้เน้นการทำบุญ ปีใหม่ ก็ถือว่าเป็นฤกษ์ดีเลย เพราะเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ หลัก ๆ คือไปไหว้ศาลหลักเมือง ไหว้พระประจำวันของตัวเองก็ได้ พอทำบุญเสร็จเราก็ทำทานด้วยนะครับ เพื่อให้สอดคล้องกัน พอทำทานเสร็จก็ไปไหว้เทพเพื่อขอเงิน ผมจะใช้จังหวะประมาณนี้ ไม่ได้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็คือทำให้ครบ อย่างเช่นเทพที่ผมศรัทธาที่ไหว้ประจำก็จะเป็น พระพิฆเนศ เพื่อขอในเรื่องการเงินการงานครับ”

 

ดวงเมืองไทย ปี 2568

“จริง ๆ ดวงเมืองไทยปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ราหูจรเป็นกาลกิณี มันเลยทำให้มีปัญหาเยอะ แล้วก็ไปส่งผลกระทบกับดวงเมืองมาก ๆ ในเรื่องของน้ำ เป็นผลกระทบหลักเลย แล้วก็เรื่องของความชุลมุน เพราะว่าราหูไปร่วมกับดาวพุธเป็นเลข 48 สี่ คือการเจรจา แปด คือเรื่องเกี่ยวกับทางโลก เกี่ยวกับเรื่องของการราหูหรือกลโกงก็ได้ มันเลยทำให้มีปัญหาเรื่องของกลโกงเกิดขึ้น คนที่ไม่ดีอะไรต่าง ๆ เกิดขึ้นมาเต็มเลย

ปีหน้าช่วงต้นปีจะต้องระวังเรื่องแบบนี้อยู่เหมือนกัน แต่พอหลังจากราหูย้าย แนวโน้มตรงก็จะเปลี่ยน เหมือนคนมีสติขึ้น มีสมาธิขึ้น เหมือนรู้ทัน ก็เลยทำให้เรื่องแบบนี้มันน่าจะหายไปจากช่วงต้นปีไปถึงกลางปี แต่พอหลังจากนั้นมันจะไปพบผลกระทบจากดาวเสาร์ที่เข้ามาเจอกับดาวศุกร์ ตรงนี้ก็จะเกี่ยวกับเรื่องของการเงิน เศรษฐกิจก็ยังต้องดูอยู่เหมือนกันครับผม ปีหน้าราหูเป็นเกษตรในดวงเมืองดวงโลก ส่งผลทำให้คนที่เข้าไปค้นพบสิ่งที่ใช่จะมีมากขึ้น เหมือนเค้าเริ่มทันโลก ทันกับเทรนด์ ไม่ว่าจะอยู่วัยไหนก็ตาม พอเราเรียนรู้แล้วเราทันเกี่ยวกับเทรนด์ มันก็ทำให้เรามีอนาคต สามารถหาเงินได้ ซึ่งก็จะเป็นจุดเด่นที่จะเกิดขึ้น

2568 ถ้าสมมติว่า 6 ดาวศุกร์ 8 เป็นเลขราหู ปีหน้าก็จะเป็นลักษณะเหมือนตัวเลข 8 เด่น เป็นเลขของการแข่งขัน เพราะฉะนั้นมันก็จะเป็นเรื่องของการแข่งขันมากขึ้นไปอีก ปีที่ผ่านมาคนก็ดิ้นรนมากแล้ว ปีถัดไปก็จะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน แต่เราก็ต้องพยายามเรียนรู้เพื่อเอาตัวรอดให้ได้ครับ

ปีที่แล้ว 2024 ถ้า 24 คือ 2+4 เนี่ยเป็น 6 ส่วน 2025 2+5 ตกเลข 7 เลข 7 ก็ดูเหมือนเครียดเกี่ยวกับเรื่องของระบบ เพราะฉะนั้นมันก็น่าจะมีเรื่องเครียด ๆ เกิดขึ้นเยอะเหมือนกัน ที่จะต้องผ่านพ้นไปให้ได้ เพราะว่าดูจากปัจจุบันแล้ว บางคนก็กังวลเรื่องสงคราม แล้วก็เตรียมพบกับการเปลี่ยนแปลงจากตำแหน่งดาวใหญ่ ๆ อีก เพราะฉะนั้นถ้าวันนี้เราสามารถเตรียมความพร้อมได้ในทุกด้าน ทั้งเรื่องของการวางแผนทางการเงิน คือปีหน้าเราก็ต้องมองแล้วว่า ถ้าจะไปลงทุนซื้อของอะไรเยอะ ๆ แนะนำว่าอย่าเพิ่งดีกว่า เพราะว่ามันจะกลายเป็นการเพิ่มภาระ อะไรที่ปัจจุบันไม่เป็นภาระ ไม่เป็นหนี้ ผมว่ามันจะเซฟตัวเราในอนาคตมากกว่าครับ”

 

 

สนใจศึกษาเรื่องโหราศาสตร์ เพราะความกังวล

“จริง ๆ สนใจมาตั้งแต่เด็กครับ แต่เริ่มเรียนจริงจังประมาณสัก 4-5 ปีที่ผ่านมา มันเกิดจากการที่เราเป็นคนที่มีความกังวล อาจจะออกแนวแพนิคเล็ก ๆ เหมือนเราลุ้นกับเรื่องอนาคต เรื่องงาน เรื่องการเรียน มันก็เลยทำให้ผมไปเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องของโหราศาสตร์ แล้วก็เก็บสถิติ กลายเป็นว่าสามารถตอบโจทย์เราได้เหมือนกัน เพราะเราจะเอามาช่วยวางแผนว่าปีนี้จะเจอเรื่องนี้ จะแก้ยังไง จะต้องไปลุ้นกับเรื่องนี้ มีความหวังแค่ไหน

วิศวะ กับ โหราศาสตร์ ในเรื่องวิศ จะเกี่ยวกับเรื่องการคำนวณ ถ้าสมมติว่าเราไม่มีพื้นฐานของการคำนวณ ในวิชาโหราศาสตร์ก็อาจจะทำให้เราคาดคะเนได้คลาดเคลื่อน เพราะว่าวิศวะ จะใช้หลักการเรื่องเหตุและผล ถ้าผมไม่ได้เรียนในเรื่องเหตุและผลมา บางทีมันอาจจะทำให้ผมมีความเชื่อแบบสุดโต่งมากเกินไป มันเลยไม่มีจุดยับยั้ง พอเรียนวิศวะมันเลยเป็นข้อดีอีกอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เรารู้สึกว่าต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง มันก็เลยทำให้เรามีความเชื่อที่มีเหตุมีผลครับ

แล้วก่อนหน้าที่จะเป็นหมอดู ผมก็ไปทำงานธุรกิจเกี่ยวกับจิวเวอรี่ ค้าขายเครื่องประดับ แล้วพอที่บ้านมารับรู้ว่าเราเป็นหมอดู ก็กลายเป็นว่าเค้าโอเค และคอยซัพพอร์ตดี เพราะเค้ารู้ว่าเราชอบจริง ๆ แล้วปกติผมชอบไปทำบุญ ก็จะอยู่กับเรื่องของสิ่งเหล่านี้มาตลอด ส่วนเพื่อนค่อนข้างติง เพราะว่าเพื่อนที่รุ่นเดียวกันที่เรียนมา เค้าจะรู้สึกว่าทำไมเราไม่ทำงานประจำ อาจจะด้วยความที่เค้าอาจเป็นห่วง หรือว่าเค้ารู้สึกว่าจริง ๆ เราก็เรียนมาเยอะ เหมือนลงทุนกับการเรียนเยอะมาก เพราะฉะนั้นควรทำงานประจำไว้ดีกว่า

และอีกหนึ่งปัจจัยที่เลือกเรียนโหราศาสตร์ เพราะโดนทักว่าดวงถึงคาด คือตอนที่ผมไปเรียนกับพระอาจารย์ ผมเรียนได้ 3 วัน พอวันที่ 3 พระอาจารย์บอกว่า วันนี้มีเรื่องจะบอกนะ ดวงของคุณถึงคาดในปีนี้นะครับ แล้วก็จะมีการเสียชีวิตจากการโดนฆาตกรรม เราก็ตกใจเพราะเราเป็นคนที่เชื่อเรื่องนี้อยู่แล้ว แล้วก็ศรัทธาเรื่องนี้มาก ๆ หลังจากนั้นก็ไปเรียนเพิ่ม แล้วพยายามศึกษาไปอีก เพื่อที่จะตอบให้ได้ว่า ดวงเราจะถึงคาดจริง ๆ ไหม เพราะว่าปีนั้นเหมือนมีดาวประจำตัวไปตกเดือนมรณะ แต่จริง ๆ พอเราเรียนไปเรื่อย ๆ ก็ได้รู้ว่าโหราศาสตร์มันมีนัยยะเยอะ แล้วก็เราจะจับทางในสไตล์การทำนายของเราได้ ซึ่งมันตีความเป็นอย่างอื่นได้ ดาวประจำตัวไปตกเดือนมรณะ มันสามารถแปลว่าต่างประเทศได้ แปลว่าโหราศาสตร์ได้ มันเลยเป็นจุดเปลี่ยนทำให้เราเปลี่ยนอาชีพ เปลี่ยนเข้ามาอาชีพโหราศาสตร์ ซึ่งเป็นการทำนายเกี่ยวกับชีวิตคน มันก็ทายไปในทางนี้ได้เลยครับ”

 

 

การทำนาย ที่ช่วยชีวิตคน

เรื่องของการที่คนเข้ามาดูดวง บางทีมีคนคิดสั้นนะครับ หรือว่าเค้าหมดความหวังในชีวิต ไม่มีหนทาง ก็เลยปรึกษาหมอดู ซึ่งหมอดูก็จะต้องตอบคำถามให้ได้ว่า เค้าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต  แต่วันนั้นที่ผมวิเคราะห์ดวงลูกค้าท่านนึง เค้าโทรหาผมบอกว่าเค้าจะฆ่าตัวตายในเร็ว ๆ นี้เลย ซึ่งผมบอกว่าหยุดก่อน เพราะว่าดูจากพื้นดวง มันยังมีเวลาที่คุณจะทำอะไรอย่างอื่นได้อีกเยอะ ณ โมเม้นท์ที่คุณคิดสั้น แต่จริง ๆ ดวงคุณยังทำอย่างอื่นได้เยอะ ยังหาเงินได้ ยังสามารถทำงานได้ ผมก็แนะนำแนวทางไปว่าอีก 4 เดือน เดี๋ยวค่อยมาคุยกัน ดวงจะมีจุดเปลี่ยน เค้าก็เลยเชื่อ หลังจากนั้น 4 เดือน เค้าก็โทรมาใหม่ว่าเค้าไปทำธุรกิจหนึ่ง แล้วมันได้เงินเข้ามาเกินกว่าที่เค้าคิดจากตอนแรกที่มีปัญหาเรื่องของหนี้สินต่อเดือน จนถึงขั้นที่จัดการเรื่องหนี้สินไม่ได้ ซึ่งการดูดงครั้งนั้นมันก็ทำให้มีความหวัง เพราะว่าคนที่ส่วนใหญ่จะคิดสั้น ต่อเมื่อหมดความหวังไปแล้ว หรือมันไม่เหลืออะไรแล้ว แต่พอเราสามารถเติมพลังใจให้เค้าได้ หรือว่ามีสิ่งที่ดีให้กับเค้า  เค้าก็รู้สึกว่าจริง ๆ แล้วชีวิตเค้ามีคุณค่าครับผม”

 

 

ที่มาของฉายา หมอดูโอปป้า

“มันเกิดจากที่ผมชอบแต่งตัวไปเล่น Tiktok แต่งเหมือนสไตล์โอปป้า ตอนนั้นอาจจะยังไม่ค่อยมีหมอดูเยอะเท่าไหร่ในโซเชียล ก็เลยมีคนมาแซว ก็เลยเป็นฉายาว่า โอปป้า ครับ

ซึ่งตอนที่ทำโซเชียลใหม่ๆ ผมก็จะโพสต์คีย์เวิร์ดที่ค่อนข้างจะติดความสองแง่สองง่าม มันอาจจะดูทะลึ่งนิด ๆ แล้วเราก็ดังจากคีย์เวิร์ด ดวงได้ของใหญ่ พอมีการทำนายว่ามีดวงได้ของใหญ่ ก็มีคนแชร์ มีคนเล่นตาม เค้าก็เลยไปตีความกันว่าอะไรที่ใหญ่

ด้วยความที่ลุคเราจะดูเด็ก ยังดูโอ้ปป้าแบบนี้ ส่วนมากก็จะโดนผู้ใหญ่ทัก เพราะว่าเวลาเราไปทำงานที่แบบมันต้องใช้ความน่าเชื่อถือมาก ๆ เราก็จะโดนติงเปรียบเทียบกับหมอดูที่เค้าดูน่าเชื่อถือ เป็นซินแส มีเครา มีหนวด แล้วมันทำให้น้ำหนักของเราดูเทียบเท่าเค้าไม่ได้ ก็จะโดนติงไปเปลี่ยนเสื้อ อยากเปลี่ยนลุคเราให้เป็นอีกแบบ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ท้าทายว่าเราก็ต้องพยายามโตไปกับอาชีพนี้ เพราะว่าผมมาทำงานตรงนี้ ผมก็ต้องพัฒนาไปเรื่อย ๆ การเก็บสถิติมันเริ่มจากวันแรกมันมาถึงวันนี้ สมมติว่าผ่านไปอีก 10 ปี สถิติที่ผมเก็บมันก็จะพัฒนาไปอีกขั้นนึง  เพราะฉะนั้นผมก็ต้องพิสูจน์ให้คนเห็นจากการที่ทำงานให้พัฒนาไปเรื่อย ๆ”

 

 

เป็นหมอดู ดวงดวงตัวเองไหม?

“จริง ๆ ผมดูดวงให้ตัวเองเป็นประจำนะครับ เพราะว่ายิ่งเราดูดวงตัวเอง มันจะยิ่งทำให้เราได้ศึกษาเพิ่ม เหมือนพอเรารู้หลักการ เราก็จะวิเคราะห์ตลอดว่า เราจะเจอกับอะไร ซึ่งผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องดวงช้ำ เพราะผมรู้สึกว่า สถิติมันเป็นการคำนวณไปเรื่อย ๆ แล้วก็สามารถคำนวณได้ตลอด

การเริ่มดูดวง จริง ๆ ก็แล้วแต่เรื่องที่อยากรู้ ซึ่งถ้าเราอยู่ในวัยเรียน หรือวัยทำงาน เรื่องของโหราศาสตร์จะช่วยให้เราได้เป็นประโยชน์มากกว่า ดังนั้นช่วงประมาณกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย ก็อาจจะอยากรู้ว่าอาชีพที่มันทำเงินให้กับเรา ดวงในโหราศาสตร์จะบอกในตำแหน่งดาวที่เหมาะกับเรื่องของอาชีพครับ เพราะฉะนั้นก็จะเป็นประโยชน์ให้แนวทางว่าให้เค้าเรียนวิชานี้ไปเลย การเงินเค้าเหมาะกับด้านนี้”

 

ตัวเลข บอกอะไรได้บ้าง?

“เรื่องเกี่ยวกับตัวเลข มีอิทธิพลไปหมดในทุก ๆ ด้าน ถ้าเลขเด็ดอย่างเช่นเลข 1 เพราะเลข 1 คือดาวอาทิตย์ ถ้าเราเอาไปคู่กับดาวที่ดี ก็จะส่งผลให้พลังของดาวนั้นแรง อย่างเช่นถ้ามี 1 ไปคู่ 5 จะเกี่ยวกับเรื่องของวิชาการ เรื่องของสติปัญญา ที่เค้าเรียกว่าผู้ใหญ่อุปถัมภ์ มันก็จะมีความโดดเด่นขึ้น แล้วก็เลข 1 หรือ 3 มันแล้วแต่คน ว่าบางคนกลัวเลข 13 พี่ ไม่กล้าออกไปไหนวันศุกร์ 13 แต่สำหรับผม ผมเป็นคนที่เจอเลข 13 บ่อยมาก อย่างเช่นขึ้นเครื่องบินก็จะไปเจอสายพานที่ 13 กลายเป็นว่าเลขเนี้ยมันเป็นลัคกี้นัมเบอร์ของผม มีดาวอาทิตย์กับอังคารก็จะไปเกี่ยวข้องกับความขยัน ความตั้งใจ ความสำเร็จ จริง ๆ เลข 13 ก็เป็นเลขที่ดี ส่วนเลข 6 คือเลขเกี่ยวกับดาวศุกร์ เป็นดาวเกี่ยวกับคู่ ถ้าเรานำเลข 6 ไปคู่กับเลขที่ดีอย่างเช่นเลข 2 เป็น 26 ก็จะเกี่ยวกับเรื่องความรัก ความราบรื่น เสน่ห์ หรือเลข 24 ก็ได้ เพราะว่า 2 เป็นดาวพระจันทร์ 4 เกี่ยวกับเรื่องดาวพุธ กลายเป็นว่ามีเสน่ห์ในเรื่องการเจรจา แล้ว 2 บวก 4 กลายเป็น 6 ก็จะออกเลขดาวศุกร์ แล้วจะเป็นเลขเกี่ยวกับความรัก

 

เลข 67 นะฮะอย่างเช่นปีที่ผ่านมาเลข 67 เลข 6 67 นะฮะ ปี 2567 ตัวเลข 67 เนี่ยก็จะเป็นเลขที่ดูเหมือนมีความรุนแรงนะครับที่จริงมันก็จะไปเป็นเลขดาวศุกร์คู่กับดาวเสาร์ ศุกร์นี่คือความสุข เสาร์คือดาวความเครียด พอศุกร์คู่เสาร์มันมีความเครียดง่ายทำให้ไม่มีความสุขมันจะเป็นตัวเลขที่ 1 บางคนจะติดปัญหาเรื่องความรักนะครับ มีคู่ก็ต้องเลิก หรือบางคนก็ถึงหย่าร้างนะครับ มีปัญหาเรื่องการเงินหรือมีคู่ยากนะครับ

การมีคู่ ก็คือเลข 6 ไปคู่เลข 2 หรือคู่เลข 4 ก็ได้ เป็น 46 หรือ 26  แล้วก็เลข 3 ตัวก็คือ 146 ก็คือเป็นเลขที่ดี ใช้ต่อท้ายชื่อ Line ก็ได้ แล้วมันก็จะมีเลขที่สันโดษ เช่น เลข 5 จะเป็นดาวพฤหัสบดี จะเป็นผู้ให้ จริง ๆ ดีนะ แต่ว่าถ้าเกิดดีมากไป มันจะทำให้เราต้องเป็นผู้ให้คนอื่นมากไป อย่างเช่นยิ่งถ้า 5 ไปคู่ 9 ก็จะเป็นเลขเกี่ยวกับอาจารย์ เลขปลง เลขสันโดษ ทำให้ไม่มีคู่ เลข 36 ก็ดีนะครับ เกี่ยวกับความรัก เหมือนแบบว่ามีความรักแบบรุนแรงขึ้นมานิดนึง มีความตื่นเต้นเพราะว่ามีดาวอังคารเป็นไปร่วมดาวศุกร์”

 

 

ดวงไม่สมพงษ์ แต่งงายกันได้ไหม?

“ถ้าดวงไม่สมพงษ์ พอเราทราบเกี่ยวกับเรื่องดวง มันทำให้เราวิเคราะห์ได้ว่า มันจะไปติดขัดเรื่องไหน อย่างเช่น ตำแหน่งการพูดดวงจิตของเค้ามันไม่สื่อสารกับเรา ตำแหน่งดาวความคิดเค้าเป็นดาวอาทิตย์ แต่ดาวความคิดเราเป็นดาวพระจันทร์ มันทำให้คู่ขัดแย้งเกิดขึ้น เค้าคิดแบบหนึ่ง เราคิดแบบหนึ่ง พอถึงเวลาต้องตัดสินใจอะไรร่วมกัน มันจะไปในทิศทางที่ไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่ ฉะนั้นมันก็ทำให้จุดของชีวิตคู่มันค่อนข้างจะดำเนินไปด้วยกันยาก

ซึ่งดวงไม่สมพงษ์กัน แต่งงานกันได้ครับ ถ้าเค้าสามารถที่จะปรับในเรื่องของความเข้าใจกันได้ เพราะที่จริงก็จะอยู่ได้ในบริบทแตกต่าง อย่างเช่นถ้าดวงไม่สมพงษ์กัน อยู่ด้วยกัน เค้าอาจจะอยู่ได้ แต่ว่ามันก็จะมีความทุกข์เกิดขึ้นในแต่ละเรื่องที่เค้าต้องเจอ แต่เค้าก็ยังประครองคู่กับไปได้ครับ มันเป็นเรื่องของไทป์ด้วย เหมือนเอ็กซ์โทรเวิร์ด กับ อินโทรเวิร์ด กว่ามันจะบาลานซ์กันก็ใช้เวลา แต่ถ้าสามารถทำความเข้าใจกันได้ ก็สามารถอยู่ด้วยกันได้ครับ”

 

ดวง กับแนวทางการใช้ชีวิต

“สำหรับผม ผมค่อนข้างเชื่อเรื่องดวงแบบมาก ๆ เพราะฉะนั้นเรื่องดวงมันก็จะมีอิทธิพลกับชีวิตของเรามากเหมือนกัน เช่น ถ้าผมมองแล้วรู้เลยก็คือ โหงวเฮ้ง เราจะรู้เลยว่า โหงวเฮ้ง ของเค้าบ่งบอกนิสัยเค้าเป็นยังไง ฉลาดมั้ย สมองเค้าเป็นยังไง แต่มันไม่ละเอียดนะครับ เพราะว่าบางทีจะเอามาใช้ในการตัดสินไม่ได้ทั้งหมด เพราะว่าบางคนก็โหวงเฮ้งไม่ดี แต่ถ้าดวงเค้าดี นั่นแปลว่าเค้าก็ยังมีของ มีสิ่งที่ดีอยู่

หลักการก็คือเรื่องของกรรมเก่าเรื่องของบุญ แล้วก็เรื่องของการกระทำมันก็ควบคู่กันไป พอเราเป็นหมอดู เราก็ต้องไปดูบุญดูกรรมของคนอื่น แล้วก็การกระทำปัจจุบัน มันเป็นเรื่องของลูกดวงว่าเค้าจะเดินยังไงต่อ ถ้าหากว่าเค้าเป็นคนดี เดินทางที่ดี มันก็สามารถช่วยปรับเส้นทางของการเดินทางของเค้าได้

จริง ๆ ที่ผ่านมา 2567 เป็นปีที่หมอดูก็ได้รับผลกระทบเยอะเหมือนกัน แล้วมันมีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย หมอดูที่ดี หลักการคือมันอยู่เรื่องของคุณธรรม เหมือนเวลาเราบอกให้ลูกดวงเราไปทำแบบไหน กรรมนั้นมันก็กลับมากับเรา เหมือนถ้าเราบอกให้เค้าไปจ่ายเงินเยอะ ๆ นั่นคือหมอดูสร้างกรรมด้วย คือผลการกระทำของเราด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นผมก็เลยคิดว่า เรื่องคุณธรรม มันจะทำให้เราอยู่ในเส้นทางนี้ได้นาน แล้วมันก็จะเป็นสิ่งที่ทำให้เราปลอดภัยด้วยครับ

จิตสัมผัส เป็นหลักสำคัญในการที่จะเป็นหมอดู ก่อนหน้านี้คือเราเรียนแล้วเชื่อเรื่องเหตุและผลมากเกินไป โดยไม่ใช้ความรู้สึก พอไม่ใช้ความรู้สึก มันเหมือนอินเนอร์หรือของข้างในครูบาอาจารย์อะไรต่าง ๆ เราไม่นำมาใช้ในการเป็นการวิเคราะห์ดูด้วย มันก็จะไม่ได้ใช้จิตสัมผัส อย่างผมเองเวลาไปวัดต่าง ๆ เราก็จะมีเซ้นส์ว่า ตรงนี้มีเทวดา มีเทพ ก็จะสัมผัสได้ครับ

จริง ๆ ถ้าดวงไม่ดี มีวิธีการแก้ครับ เรื่องของการดูดวง เป็นเรื่องของการบริหารบุญกรรม เหมือนพอเราไปดูดวงของลูกค้า เราจะทราบว่าเค้าติดเรื่องกรรมอะไร แล้วก็ปีชง หรือว่าดวงในช่วงปีนั้นเป็นปีที่ดาวเสาร์เข้าทัพเล็ง ก็มีวิธีในการปรับเปลี่ยน เหมือนเสริมดวง คือถ้าเกิดว่าติดกรรมในเรื่องนี้ ก็ไปทำบุญประเภทนี้ เพื่อเสริมดวงเข้าไป จะช่วยให้ลดทอนกรรม แต่จริง ๆ ก็เน้นหลัก ๆ เรื่องการทำบุญ เพราะว่าการกระทำมันก็ส่งผลให้กับตัวเราเอง ผมก็จะแนะนำลูกค้าส่วนใหญ่ ว่าถ้าเราทำดี มันก็เป็นเกราะป้องกันดวงชะตาเราในรูปแบบหนึ่งแล้วครับ”

 

 

หากว่าเราตัดสินใจตามความรู้สึก หัวใจเรามันจะนำพาไปเจอในสิ่งที่เราชอบ

“สมัยของผมเป็นเจนที่หากไม่ทำตามสิ่งที่ตัวเองเรียนมา มันเป็นอะไรที่ดูแปลกตา แต่ยุคปัจจุบัน ผมว่าเด็กรุ่นใหม่เค้ามีความกล้าที่จะเปลี่ยนมาก ๆ ซึ่งผมมองว่า ถ้าหากเราเรียนมา แต่ว่าใจเราไม่ชอบพอ ถึงจุดหนึ่งเราจะทำมันได้ไม่ดี หรือทำมันได้ไม่สุด ผมเลยเชื่อว่า ถ้าหากว่าเราตัดสินใจตามความรู้สึก หัวใจเรามันจะนำพาไปเจอในสิ่งที่เราชอบ มันจะลุยในสิ่งนั้นได้ดีกว่า แล้วมันจะมีความสุขกับชีวิตมากกว่า แล้วเรื่องของเซ้นส์ เรื่องของสิ่งที่ประกอบต่าง ๆ มันจะดีกว่าสิ่งที่เราไม่ชอบครับผม

ซึ่งอาชีพหมอดู ก็ช่วยคนได้ และเป็นโทษได้ ถ้าจัดการกับความรู้สึกตัวเองไม่ได้ ก็เป็นการทำให้ความรู้สึกตัวเองดิ่งลงไปอีกด้วย เพราะว่าเรารับของคนอื่นมา ถ้าเราเชื่อในเรื่องพลังลบ เราฟังแต่เรื่องของพลังลบมาตลอด เราจะดิ่งมาก ๆ ผมก็เลยต้องพยายามปรับแอดติจูดตัวเอง ให้ตัวเองได้พลังบวกเข้ามาเรื่อย ๆ การอ่านธรรมะ การไปวัดการทำบุญ กว่าจะฮีลใจตัวเองจนมาถึงวันนี้มันก็ใช้เวลาเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้มันก็เคยมีประสบการณ์ที่ตัวเองเครียด นอนไม่หลับ หรือว่ามีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพที่ส่งผล ดังนั้นเราต้องจัดการความคิดดี ๆ”

 

สีสันแรงบันดาลใจ จาก หมอไวท์ เปิดดวง

“ผมเป็นหมอดูที่ผมอยากจะให้คนที่เข้าไปดูดวง ตั้งใจทำงานแล้ว เป็นคนที่มีความพร้อมในเรื่องของงาน เรื่องของการเงินด้วย และสิ่งที่ไปคุยกับหมอดู เป็นแค่การรับฟังเพื่อพัฒนาในสิ่งที่ตัวเองอยากได้มากกว่า เพราะฉะนั้นเราต้องมีสติ เพราะถ้าเกิดว่าเราไปเชื่อเลย มันอาจจะเป็นผลลบก็ได้ บางทีเค้าอาจจะวิเคราะห์ได้ไม่ดีเท่าตัวเราก็ได้ เพราะตัวเราจะรู้ตัวเองมากกว่า เพราะฉะนั้นยังไงก็ต้องเชื่อตัวเองเป็นหลัก แล้วก็หมอดูเป็นแนวทางเสริมครับผม” หมอไวท์ เปิดดวง

 

 

พบเรื่องราวชีวิตหลากสีสันใน Club Pride Day  คลับที่เต็มไปด้วยแบ่งปันข้อคิดแรงบันดาลใจ และมีคลังความรู้ที่พร้อมแชร์ ไปกับแขกรับเชิญพิเศษ และสองดีเจสุดแซ่บ “ดีเจพี่อ้อย” และ “ดีเจก็อตจิ”  ได้ในทุกสัปดาห์

 

ดูรายการย้อนหลัง

https://www.youtube.com/watch?v=v0BgcA2NXK8

album

0
0.8
1