รับแรงบันดาลใจจาก “คิวเท โอปป้า” กับเรื่องราวการเปลี่ยนผ่านสู่ "ความสุขที่ละเอียดกว่า" ในชีวิตจริง

Club Inspired Day Recap

รับแรงบันดาลใจจาก “คิวเท โอปป้า” กับเรื่องราวการเปลี่ยนผ่านสู่ "ความสุขที่ละเอียดกว่า" ในชีวิตจริง

10 พ.ย. 2025

“เรื่องกรรม จริง ๆ เวลาเราทำผิดพลาดไป มันก็กลายเป็นกรรมแล้ว เราไม่สามารถให้คนอื่นมาช่วยแก้กรรมให้เราได้หรอก คนที่จะช่วยได้คือตัวเราเองนี่แหละ ถ้าเราเคยทำอะไรไม่ดีมาก่อน พอรู้ตัวเอง ก็จงเปลี่ยนตัวเอง คนเราเปลี่ยนแปลงตัวเราเองได้ตลอดเวลา และสุดท้ายหากเจตนาเราดี ทุกอย่างมันก็จะดีเองครับ”

 

 

ที่ Club Inspired Day ทุก Story มีความหมาย ได้ Inspired ทุก Moment เมื่อ “ดีเจเป้” และ “ดีเจแคน” ได้เปิดไมค์ต้อนรับ คิวเท โอปป้า ยูทูบเบอร์ชื่อดังชาวไทยเชื้อสายเกาหลี ที่ได้แชร์ประสบการณ์ของ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของคิวเท ตั้งแต่วัยเด็ก การสร้างตัวตนแบบโอเวอร์ในฐานะยูทูบเบอร์ระดับต้น ๆ ที่มีผู้ติดตามหลายล้านคน ไปจนถึงการเผชิญกับ ความทุกข์ทางจิตใจอย่างรุนแรง แม้จะมีชื่อเสียงและทรัพย์สินมากมาย สิ่งที่ผลักดันให้เขาผ่านพ้นช่วงเวลานั้นและเปลี่ยนมาเป็นคนปัจจุบันคือ การศึกษาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง ซึ่งนำไปสู่การปรับเปลี่ยนแนวทางการทำคอนเทนต์ให้เป็นไปในทางสร้างสรรค์ และมีสติมากขึ้น รวมถึงการใช้หลักธรรมในการดำเนินชีวิตและการทำงาน โดยเฉพาะประสบการณ์จากการเดินเท้าจากกรุงเทพฯ ไปพัทยาที่ถือเป็นการ ฝึกปฏิบัติธรรมในชีวิตจริง ที่ช่วยให้เขาเกิดความสุขที่ละเอียดและยั่งยืน  เรื่องราวชีวิต พร้อมข้อคิดแรงบันดาลใจ ถูกแชร์ไว้แล้วในรายการ

 

 

จุดกำเนิด 'เกาหลีบ้า' และความสุขที่ฉาบฉวย

คิวเท โอปป้า ได้รับการยกย่องว่าเป็นยูทูบเบอร์เบอร์ต้น ๆ ของไทยในยุคที่ YouTube เริ่มรุ่งเรือง โดยเขาเป็นคนที่ขยันมาก สามารถลงคลิปได้ถึงสัปดาห์ละ 3 คลิป

เบื้องหลังคาแรกเตอร์สุดเหวี่ยง บุคลิกในคลิปของเขา (เช่น ท่าแนะนำตัวที่เป็นเอกลักษณ์ หรือการทำอะไรที่ "โอเวอร์" และ "แรง ๆ") นั้น แตกต่างจากตัวตนจริง ที่ค่อนข้างเงียบ และเรียบร้อยเมื่ออยู่โรงเรียน คาแรกเตอร์นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจของคนไทย โดยเริ่มจากการทำคลิปล้อเลียน (Parody) เช่น "เกาหลีเต้นสายย่อ" จนกลายเป็นฉายาที่คนมักเรียกเขาว่า “เกาหลีบ้า”

ในช่วงแรก คิวเทรู้สึกมีความสุขที่ได้ทำอะไรแปลก ๆ แล้วคนสนใจ และความฝันในตอนนั้นคือการมี 1,000,000 Subscribe แม้ว่าเป้าหมายนี้จะสำเร็จ เพราะมียอดถึง 9,000,000 Subscribe ในปัจจุบัน รวมถึงการมีรถและมีบ้าน แต่เขากลับพบว่าความสุขเหล่านั้นอยู่ได้เพียงชั่วคราวและเขายังคงมีปัญหาในชีวิตอยู่เรื่อย ๆ

 

 

เมื่อชื่อเสียงเงินทอง ไม่อาจเยียวยา 'ความทุกข์ใหญ่หลวง'

แม้ว่าชีวิตภายนอกจะดูเพอร์เฟค มีเงินทองชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ความทุกข์ภายในกลับทำให้เขาต้องเริ่มคิดหลายอย่างมากขึ้น ซึ่งความทุกข์ครั้งใหญ่ของคิวเทเกิดจากเรื่องพื้นฐาน เช่น ความเชื่อใจและการหักหลัง ในความสัมพันธ์ เขาตระหนักว่าก่อนหน้านั้นเขาพยายามทำเป็นไม่รู้ และยึดติดกับความคิดที่ว่าสิ่งดี ๆ ที่มีอยู่จะคงที่ตลอดไป แต่เมื่อชีวิตมีการเปลี่ยนแปลง เขาจึงเริ่มเป๋เหมือนกัน

ความทุกข์นี้ทำให้เขาเริ่มมีวุฒิภาวะในการตัดสินใจน้อยลง และนำไปสู่ความรู้สึกที่เหมือนกับซึมเศร้า เขาถึงกับรู้สึกว่าขาไม่มีแรงที่จะก้าวเดินไปห้องน้ำ เพราะความทุกข์มันเยอะมาก ความคิดลบจะหมุนวนอยู่ในสมอง ซึ่งช่วงเวลาแห่งความทุกข์นี้ยาวนานประมาณหนึ่งปี

 

 

จากสายคริสต์ สู่การค้นพบ 'ทางดับทุกข์' ด้วยธรรมะ

เมื่อเจอกับปัญหาหนักหน่วง คิวเทเริ่มหาทางออกจากความทุกข์ และพบว่าธรรมะ คือสิ่งที่ช่วยให้เขาหลุดออกมาได้จริง โดยมียูทูบเบอร์ชื่อดังอย่าง SPD คือผู้ที่แนะนำให้เขาเริ่มศึกษาธรรมะเป็นคนแรก โดยแนะนำให้ลอง ถือศีล 5 คิวเทยอมรับว่าครอบครัวเขาเป็นคริสต์ (คุณพ่อเป็นมิชชันนารี และบาทหลวง) และเขาเคย แอนตี้เรื่องวัดและพระ มาก่อน

แต่ในช่วงที่ความคิดลบวนเวียนหนักขึ้นจนเกิดอาการหลอน (คิดไปเองว่าคนอื่นหัวเราะหรือนินทาเขา) เขาจึงตัดสินใจไปวิเวก (อยู่เงียบ ๆ ตัดขาดจากโลกภายนอก) โดยเดินทางไปยังชายแดนที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีอินเทอร์เน็ต การเดินทางครั้งนี้ใช้เวลา 5 วัน โดยเขานำเครื่องเล่น MP3 ที่มี พุทธวจนะ (คำสอนของพระพุทธเจ้า) ไปฟัง

 

 

หยุด 'วงจรความคิดลบ' ด้วยสติ พร้อมบทเรียนจากนันทิและลมหายใจ

หลังจากฟังพุทธวจนะไปเรื่อย ๆ ประมาณวันที่ 3 หรือ 4 เขาก็เริ่มเข้าใจคำสอนบางอย่าง เขาเรียนรู้ว่าการที่เรา เพลินกับความคิดไม่ดี (อกุศล) นั้นเรียกว่า นันทิ ซึ่งเปรียบเหมือนการกดปุ่มหรือใส่ใจอารมณ์นั้น ๆ ทำให้ความคิดลบวนซ้ำ

คิวเทถูกสอนว่าเมื่อมีความคิดไม่ดีเข้ามา ให้รีบดึงสติกลับมาอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง สติ เหมือนเป็นเบรก และการฝึกโฟกัสที่ลมหายใจ จะช่วยให้สติเด้งขึ้นมาเป็นเบรก ในการหยุดความคิดลบไม่ให้ไหลต่อไป

เขาเริ่มเห็นว่าความคิดลบที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงข้อมูลจาก อดีต หรือการวาดภาพ อนาคต และให้กำลังใจตัวเองว่ามันจบไปแล้ว จะคิดไปก็เปล่าประโยชน์ การฝึกดึงสติกลับมาอย่างต่อเนื่องนี้เหมือนกับการฝึกฝน หรือขี่จักรยาน ทำให้เขามั่นใจว่าสามารถนำทักษะนี้กลับไปใช้ในชีวิตปกติได้

คิวเทเตือนว่าในช่วงแรกของการปฏิบัติธรรมอาจเกิดกับดักธรรมะ ที่เรียกว่า บ้าธรรมะ คือการคิดว่าตัวเองเหนือกว่าหรือตัดสินผู้อื่น ซึ่งก็เป็นความคิดที่ไม่ดี (อกุศล) เช่นกัน เขาจึงเน้นย้ำถึง สายกลาง คือการปฏิบัติธรรมนิด ๆ หน่อย ๆ ทุกวัน เช่น นั่งสมาธิ และใช้ชีวิตปกติอย่างมีสติ การวางตัวให้ฉลาดเมื่ออยู่กับผู้คนในทางโลกก็เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่เอาธรรมะไปพูดกับทุกคนจนคนเบื่อ

 

 

บทพิสูจน์ 5 วันบนถนน เปลี่ยนความท้อเป็น 'พลังแห่งการให้'

หลังจากผ่านช่วงวิกฤต คิวเทต้องการเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่มีความสุขและสดใสมากขึ้น จึงได้ตัดสินใจทำคลิป เดินเท้า 6 วันจากกรุงเทพฯ ไปพัทยา เขาสัญญา และตัดสินใจกับตัวเองว่าจะไม่โมโห ไม่โกรธ ไม่ท้อ และจะเป็นคนคิดบวกตลอดเวลา

เมื่อเกิดความรู้สึกเหนื่อยหรือท้อ เขาลองเปลี่ยนจากการหายใจไปโฟกัสที่เท้า ทำให้ความคิดลบหายไป เหมือนกับการฝึกจดจ่ออยู่กับปัจจุบัน ซึ่งเขาเลือกที่จะเดินจริง ๆ ตลอดทาง ไม่ใช้รถ (ยกเว้นในสถานการณ์จำเป็นและมีการถ่ายให้คนดูเห็น) เพราะเขาอยากซื่อสัตย์ต่อผู้ชม

การเดินทำให้เขาเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวเองอย่างชัดเจน จากวันแรกที่เต็มไปด้วยความคิดลบ สู่การไม่รู้สึกอะไรเลยในวันสุดท้าย เขาตระหนักว่าที่ผ่านมาเขาคิดไปเอง ทั้งหมดว่าคนอื่นไม่ชอบเขา แต่สิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจที่สุดคือ การให้ แม้ความสุขจากการครอบครองจะอยู่เพียงไม่นานแล้วหายไป แต่เมื่อเขาแจกของและเห็นคนอื่นมีความสุข เขากลับมีแรงเดินต่อ ความสุขจากการให้เป็นความสุขที่ละเอียดยิ่งกว่า และทำให้ใจรู้สึกเบา

 

 

ทิ้งคลิปขยะ 600 คลิป พร้อมแรงบันดาลใจจากการ 'เปลี่ยนเจตนา'

คิวเทได้ทำการลบคลิปเก่า ๆ ที่มียอดวิวสูง (รวมถึงคลิป 20 กว่าล้านวิว) ทิ้งไปกว่า 600 คลิป เพราะเขารู้สึกผิดและละอาย ต่อสิ่งที่เคยทำไป เพราะมันขัดแย้งกับหลักการในปัจจุบัน แม้ว่าคลิปเหล่านั้นอาจจะไม่ได้แย่ตามมาตรฐาน Content ยุคใหม่ แต่เขากลัวว่ามันจะเป็น คอนเทนต์ขยะ ที่ส่งผลกระทบและทำให้เด็กเลียนแบบ การตัดสินใจลบคลิปทั้งหมดเป็นการตัดสินใจที่รวดเร็วและไม่เสียดายเลย เขามั่นใจว่าการเปลี่ยนมาทำคอนเทนต์ ที่เป็น น้ำดี นั้นดีกว่ามาก

คิวเทเน้นย้ำเรื่องกรรม ซึ่งหมายถึง เจตนา เราไม่สามารถให้คนอื่นมาช่วยแก้กรรมได้ คนที่จะช่วยได้คือตัวเราเองทุกคนสามารถเปลี่ยนนิสัยหรือการกระทำได้ตลอดเวลา หากมีเจตนาที่ดี เขาไม่ได้วางเป้าหมายว่า 30 หรือ 40 ปีจะต้องเป็นอย่างไร แต่พยายามทำปัจจุบันให้ดีที่สุด หากวันนี้ดี พรุ่งนี้ก็จะดีเอง "ถ้าเราเจตนาเราดีอ่ะ เดี๋ยวทุกอย่างมันจะดีเอง"

 

 

การเรียนรู้ที่จะควบคุมความคิดลบด้วยสติของคิวเท เปรียบเสมือนการที่เรากำลังขับรถชีวิต (ความคิด) ที่มีแนวโน้มจะพุ่งชน โดย สติ ทำหน้าที่เป็นพวงมาลัยและเบรก หากเราฝึกใช้เบรกนี้บ่อย ๆ รถก็จะค่อย ๆ ลดความเร็วและไม่พุ่งชนสิ่งที่ไม่ดี เหมือนกับการฝึกกล้ามเนื้อทางจิตใจให้แข็งแรงและควบคุมได้

 

เปิดรับแรงบันดาลใจได้ใน Club Inspired Day คลับที่เต็มไปด้วยข้อคิดแรงบันดาลใจ และมีคลังความรู้ที่พร้อมแชร์ ไปกับ Iconic และสองดีเจสุดเท่ “ดีเจเป้” และ “ดีเจแคน”  ได้ในทุกสัปดาห์

 

ดูรายการย้อนหลัง

album

0
0.8
1