เรียนรู้เส้นทางชีวิต รับข้อคิดพลังใจ จาก “ทนายแก้ว มนต์ชัย” ผู้ตีความกฎหมายให้เป็นเรื่องที่ ‘พอดีคำ’ สู่ภาพจำ ‘ทนายโซเชียล’

Club Inspired Day Recap

เรียนรู้เส้นทางชีวิต รับข้อคิดพลังใจ จาก “ทนายแก้ว มนต์ชัย” ผู้ตีความกฎหมายให้เป็นเรื่องที่ ‘พอดีคำ’ สู่ภาพจำ ‘ทนายโซเชียล’

21 ต.ค. 2025

“กฎหมายมันต้องแก้ตลอดเวลา ดังนั้นเราหยุดอ่านหนังสือไม่ได้ โดยเฉพาะนักกฎหมายต้องเรียนรู้ และต้องอัปเดตกฎหมายอยู่บ่อย ๆ และเราจะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้ เราทุกคนจำเป็นต้องรู้กฎหมาย”

 

ที่ Club Inspired Day ทุก Story มีความหมาย ได้ Inspired ทุก Moment เมื่อ “ดีเจเป้” และ “ดีเจแคน” ได้เปิดไมค์ต้อนรับ “ทนายแก้ว มนต์ชัย” ทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายไทย ที่ได้ให้ความรู้ และอธิบายประเด็นทางกฎหมายที่ซับซ้อน และเป็นที่สนใจของสังคมในหลากหลายหัวข้อ เช่น กฎหมายครอบครัว (การฟ้องชู้ สินสมรส), กฎหมายอาญา (การหมิ่นประมาท การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ), ความเข้าใจผิดทางกฎหมาย (การอ้างว่าไม่รู้กฎหมาย), รวมถึง ประสบการณ์ส่วนตัวในการเป็นทนายความ และการทำคดีที่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยถึงการเปลี่ยนความฝันจากการเป็นหมอมาสู่อาชีพทนายความ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสน่ห์ของภาษาและข้อกฎหมายที่ต้องตีความอย่างละเอียดถี่ถ้วนในคดีข่มขืน นอกจากอาชีพทนายแล้ว ทนายแก้วยังกล่าวถึงธุรกิจส่วนตัวคือ ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดเฮียแก้ว ซึ่งมีถึง 27 สาขา และเรื่องราวในครอบครัว รวมถึงแนะนำประชาชนทั่วไปในการเลือกทนายความอีกด้วย เรื่องราวชีวิต พร้อมข้อคิดแรงบันดาลใจ ถูกแชร์ไว้แล้วในรายการ

 

 

จุดเริ่มต้นที่ไม่ได้ตั้งใจ จากฝันอยากเป็นหมอ สู่ทนายความที่ชื่นชอบกฎหมาย

ทนายแก้วเล่าว่าในวัยเด็ก และช่วงแรกของการศึกษา ท่านมีความฝันที่จะเป็น คุณหมอ เนื่องจากเรียนสายวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่แรก อย่างไรก็ตาม เมื่อการสอบเข้าไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจ จึงได้ตัดสินใจพัก และเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง

จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อได้นั่งฟังวิชากฎหมาย โดยเฉพาะวิชากฎหมายอาญา ที่อาจารย์ได้สอนเรื่องการข่มขืนกระทำชำเรา ท่านรู้สึกทึ่งในภาษา และถ้อยคำของกฎหมายที่ต้องใช้ความชัดเจนและสิ้นสงสัยอย่างมาก ทนายแก้วชื่นชมว่า กฎหมายมีความมหัศจรรย์และมีเสน่ห์ ทำให้ตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางชีวิตจากที่เคยอยากเป็นหมอ มาเป็นนักกฎหมายอย่างจริงจัง

จากเรื่องราวพาร์ทนี้จะเห็นว่า บางครั้งจุดมุ่งหมายในชีวิตอาจเปลี่ยนแปลงได้ หากเราเปิดใจค้นพบ “เสน่ห์” ในสิ่งที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน และความหลงใหลนั้นก็กลายเป็นแรงผลักดันให้เราประสบความสำเร็จในที่สุด

 

 

ปริญญาเอกและเนติบัณฑิต เส้นทางแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต

หลังจากค้นพบความหลงใหลในกฎหมาย ทนายแก้วได้ทุ่มเทอย่างหนัก โดยท่านระบุว่าได้ศึกษาด้านกฎหมายโดยตรงในทุกระดับตั้งแต่ ปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอกด้านกฎหมาย นอกจากนี้ ยังได้เรียนเสริมจนจบ เนติบัณฑิต อีกด้วย

ท่านเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากกฎหมายมีการปรับปรุงแก้ไขอยู่ตลอดเวลา ในช่วงที่เป็นนักเรียนกฎหมาย ท่านต้องอ่านหนังสือ และท่องกฎหมาย อย่างหนักถึงวันละ 8-9 ชั่วโมง ท่านมองว่านักกฎหมายที่ดีต้องมีความเชี่ยวชาญในทุกเรื่อง และต้องติดตามความเปลี่ยนแปลง เช่น การเปลี่ยนแปลงของหลักฐานทางกฎหมาย เช่น ปัจจุบันข้อความจากการแชทไลน์สามารถใช้ฟ้องร้องได้

ซึ่งความรู้ในวิชาชีพ โดยเฉพาะด้านกฎหมาย ไม่ใช่สิ่งที่หยุดนิ่ง หากต้องการเป็นผู้เชี่ยวชาญ เราต้องทุ่มเทให้กับการอ่านและการทบทวนอยู่เสมอ เพราะกฎหมายนั้น "ต้องแก้ตลอดเวลา"

 

 

"ก๋วยเตี๋ยวเป็ดเฮียแก้วทนายความที่มาพร้อมการเป็นนักธุรกิจ 27 สาขา

นอกเหนือจากการเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายที่มักปรากฏตัวในรายการ "โหนกระแส" และเชี่ยวชาญคดีสังคม (เช่น พินัยกรรม มรดก กฎหมายครอบครัว และกฎหมายแพ่ง) ทนายแก้วยังเป็นนักธุรกิจด้วย โดยเป็นเจ้าของร้าน ก๋วยเตี๋ยวเป็ดเฮียแก้ว ซึ่งมีมากถึง 27 สาขา ธุรกิจนี้เริ่มต้นจากความชอบส่วนตัวในการทานเป็ดพะโล้ที่คุณแม่ชอบซื้อมาให้ตั้งแต่เด็กนั่นเอง

 

 

เดิมพันชีวิตเพื่อชาวบ้าน สู่คดีที่ทนายแก้วประทับใจที่ได้ทำ

หนึ่งในภารกิจที่ทนายแก้วภาคภูมิใจที่สุดคือการทำงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) โดยไม่หวังผลตอบแทน ในปี 2564 ท่านได้รับมอบหมายจากสภาทนายความให้เป็นหัวหน้าชุดดูแลช่วยเหลือชาวบ้านที่ ต.นาเคียน และ ต.นาซราย จ.นครศรีธรรมราช ในคดีบ่อขยะขนาดใหญ่ บ่อขยะดังกล่าวมีขนาดเทียบเท่า 6 สนามฟุตบอล และกองสูงถึง 10 ชั้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและนาข้าวของชาวบ้านมากว่า 10 ปี คดีนี้เกี่ยวข้องกับอิทธิพลล้วน ๆ และมีการโทรมาข่มขู่ แต่ท่านก็เดินหน้าฟ้องหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมดถึง 14 หน่วยงาน ในที่สุด ศาลปกครองกลางได้พิพากษาให้ชาวบ้านชนะคดี แม้ว่าเบี้ยเลี้ยงที่ได้รับจากสภาทนายความจะน้อยมากเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แต่ความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการเห็นรอยยิ้มของชาวบ้าน การใช้ความรู้ความสามารถเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลหรือความอยุติธรรม เป็นความภาคภูมิใจที่เหนือกว่าผลตอบแทนทางวัตถุ

 

 

แสงสว่างในความมืด บทบาทของทนายความยุคใหม่

ทนายแก้วยังได้ให้ข้อคิดที่สำคัญเกี่ยวกับบทบาทของนักกฎหมายและประชาชน ไว้ดังนี้

1.การช่วยบรรเทาความทุกข์ ท่านเน้นย้ำว่าผู้ที่ถูกฟ้องหรือตกเป็นจำเลยจะรู้สึกเหมือน "ไฟเผาทรวง" คือมีความทุกข์ทรมานใจและกระวนกระวายอย่างมาก ท่านจึงฝากถึงนักกฎหมายว่า หากมีความรู้ก็ควรเร่งช่วยตอบและอธิบายแก่ชาวบ้าน เพื่อให้พวกเขาคลายความกังวลและได้หลับสบาย

2.สิทธิของจำเลย ท่านอธิบายถึงหลักการสำคัญของรัฐธรรมนูญว่า ตราบใดที่ศาลยังไม่ได้พิพากษา ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ การที่สื่อมักเบลอใบหน้าผู้ต้องหาก็เป็นไปตามสิทธินี้

3.หลักการทำงานของทนายความ ทนายความมีหน้าที่ให้ข้อดีข้อเสียแก่จำเลย เช่น การแนะนำให้รับสารภาพเพื่อรับโทษที่เบาลง หรือการช่วยเขียนฎีกา ไม่ได้หมายความว่าจะต้องช่วยให้จำเลยหลุดพ้นจากคดีเสมอไป

4.ประชาชนควรรู้กฎหมาย กฎหมายไม่อนุญาตให้บุคคลอ้างว่า "ไม่รู้กฎหมาย" ดังนั้นประชาชนทุกคนจึงควรมีความรู้พื้นฐานทางกฎหมายติดตัวไว้บ้าง เพื่อป้องกันตนเองไม่ให้กระทำความผิด

 

 

ในช่วงท้าย ทนายแก้ว ยังได้ฝากข้อคิดแรงบันดาลใจไว้ว่า "เราทำความดีต่อไปเถอะ อย่าไปท้อแท้" ในฐานะพลเมืองในสังคม เราต้องมีความเอื้อเฟื้อ และการใช้ความรู้เพื่อช่วยเหลือผู้ที่กำลังเดือดร้อน ถือเป็นหน้าที่ที่สำคัญของนักกฎหมาย

 

เปิดรับแรงบันดาลใจได้ใน Club Inspired Day คลับที่เต็มไปด้วยข้อคิดแรงบันดาลใจ และมีคลังความรู้ที่พร้อมแชร์ ไปกับ Iconic และสองดีเจสุดเท่ “ดีเจเป้” และ “ดีเจแคน”  ได้ในทุกสัปดาห์

 

ดูรายการย้อนหลัง

album

0
0.8
1