"ไม่ยอมให้ความเครียดทำลาย" เปิดมุมคิด ของ “เกรซ กาญจน์เกล้า” กับบทเรียนสุขภาพที่เปลี่ยนชีวิตจากภายใน

Club Inspired Day Recap

"ไม่ยอมให้ความเครียดทำลาย" เปิดมุมคิด ของ “เกรซ กาญจน์เกล้า” กับบทเรียนสุขภาพที่เปลี่ยนชีวิตจากภายใน

02 ก.ค. 2025

“เราต้องมานั่งถามตัวเองดี ๆ นะว่า งานที่ทำอยู่ตอบโจทย์ความฝันตัวเองไหม ตอบโจทย์สุขภาพร่างกายตัวเองไหม หรือตอบโจทย์แต่เรื่องเงินอย่างเดียว สุดท้ายก็ต้องเอาเงินที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรง มารักษาตัวเอง จะดีกว่าไหมถ้าเราบาลานซ์ชีวิต ไม่สุดโต่งเกินไป อย่างเกรซตอนนี้ ใครจะมาด่าว่าเรื่องเยอะก็ไม่เป็นไร เพราะสุดท้ายแล้วมันไม่ได้มีใครมารับผิดชอบชีวิตหรืออวัยวะเรา ดังนั้นเรื่องของสุขภาพต้องมาเป็นเรื่องแรก”

 

 

ที่ Club Inspired Day ทุก Story มีความหมาย ได้ Inspired ทุก Moment กับสองดีเจสุดเท่ “ดีเจเป้” และ “ดีเจแคน” ที่เปิดไมค์ต้อนรับ “เกรซ กาญจน์เกล้า” นักแสดงและอินฟลูเอนเซอร์ผู้มากความสามารถ 
ที่เข้าวงการตั้งแต่อายุ 15 ปี เธอได้พูดคุยเกี่ยวกับการเรียนปริญญาโทด้าน Anti-Aging ซึ่งเป็นศาสตร์การดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่เธอสนใจหลังจากมีปัญหาสุขภาพจากการทำงานหนัก เกรซเน้นย้ำถึงความสำคัญของสมดุลในการใช้ชีวิต ทั้งเรื่องการทำงาน การพักผ่อน การออกกำลังกาย และโภชนาการ โดยเธอเชื่อว่า สุขภาพที่ดีต้องมาจากภายใน และควรให้ความสำคัญกับการดูแลร่างกายมากกว่าการมุ่งหาเงินทองเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ เธอยังแบ่งปันประสบการณ์การทำงานในวงการบันเทิงที่ต้องปรับตัวตลอดเวลา และมุมมองส่วนตัวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่เน้นความเข้าใจและให้เกียรติ รวมถึงความคิดเรื่องการใช้ชีวิตที่ไม่ยึดติดกับธรรมเนียมหรือความคาดหวังของสังคม พลังใจเปี่ยมล้น พร้อมข้อคิดดี ๆ ได้ถูกแชร์เอาไว้แล้วในรายการ

 

 

แรงบันดาลใจ จากการเรียนรู้สู่สุขภาพองค์รวม

แม้จะมีพร้อมทุกอย่าง แต่เกรซเลือกที่จะศึกษาต่อในระดับปริญญาโทด้านวิทยาศาสตร์ชะลอวัย (Anti-aging) ซึ่งเธออธิบายว่าเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (holistic approach) สิ่งนี้แตกต่างจากการแพทย์เฉพาะทางที่มุ่งเน้นการรักษาอวัยวะใดอวัยวะหนึ่ง แรงบันดาลใจในการเรียนรู้ของเธอมาจากประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยต้องเผชิญกับปัญหาด้านสุขภาพจากการทำงานหนัก และใช้ชีวิตไม่เป็นเวลา เช่น การต้องกินยานอนหลับและยาลดกรดจนเป็นติ่งเนื้อในลำไส้ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงของยา เธอรู้สึกเบื่อหน่ายกับวงจรชีวิตที่พึ่งยาและต้องการหาวิธีแก้ไขที่ต้นเหตุ การได้พบกับแพทย์ทางเลือกที่รับฟังและใส่ใจในรายละเอียดชีวิตของเธอ ทำให้เธอตระหนักว่านี่คือทางออกที่ดี

การเรียนปริญญาโทเป็นเรื่องที่ยาก และลำบากสำหรับเกรซ เธอตัดสินใจงดรับงานละคร เพื่อทุ่มเทให้กับการเรียนอย่างเต็มที่ เพราะการเรียนนั้นเข้มข้นมาก มีการสแกนนิ้วเข้าเรียน และต้องเรียนทั้งวันเสาร์-อาทิตย์ แม้จะยากลำบาก แต่เธอรู้สึกว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง และเปลี่ยนชีวิตเธอไปอย่างมาก เธอตระหนักว่าสิ่งที่เคยรู้เกี่ยวกับสุขภาพเป็นเพียงผิวเผิน และสุขภาพเป็นเรื่องที่ซับซ้อน เธอยังให้ความสำคัญกับฮอร์โมนอย่างมากในการดูแลสุขภาพ เพราะเป็นตัวขับเคลื่อนระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ปัจจุบันเธอวางแผนจะเรียนปริญญาโทอีกใบในสาขาโภชนาการ (Nutrition) เพราะเชื่อว่าการกินเป็นส่วนสำคัญที่ซับซ้อนและมาพร้อมกับการดูแลสุขภาพ

 

 

มุมมองใหม่ของการออกกำลังกายและการใช้ชีวิต

เกรซเผยว่าในช่วง 3-4 ปีหลัง เธอไม่ค่อยออกกำลังกายหนักเท่าเมื่อก่อน เพราะเคยออกกำลังกายหนักมากจนหน้าตอบและไม่ได้นอนดี เธอได้เรียนรู้เกี่ยวกับภาวะต่อมหมวกไตล้า ซึ่งเกิดจากการที่ฮอร์โมนความเครียด (คอร์ติซอล) หลั่งเยอะและผิดเวลา โดยเฉพาะในคนที่ทำงานหนัก เครียด พักผ่อนไม่พอ หรือโภชนาการไม่ดี เธอย้ำว่าการออกกำลังกายก็เป็นความเครียดรูปแบบหนึ่ง และหากร่างกายพักผ่อนไม่ดี โภชนาการไม่ดี และมีความเครียดจากการทำงาน ก็ไม่ควรเพิ่มความเครียดด้วยการออกกำลังกายหนักเกินไป

เธอเน้นย้ำถึงความสำคัญของสมดุลในการใช้ชีวิต การเรียนรู้ทำให้เธอเข้าใจคำว่า Balance มากขึ้น และกล้าที่จะปฏิเสธสิ่งที่ไม่ใช่ การพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลกระทบอย่างมาก เช่น การนอนดึกเพียงคืนเดียวอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายถึง 3 วัน สำหรับการออกกำลังกาย เกรซแนะนำให้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล โดยพิจารณาจากคุณภาพการนอน การกิน และระดับความเครียด เธอแนะนำแมกนีเซียม และซิงค์ เป็นแร่ธาตุเสริมที่สำคัญ โดยแมกนีเซียมดีมากสำหรับผู้หญิง ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ลดความเครียด และช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น รวมถึงช่วยลดอาการปวดประจำเดือนและไมเกรน

 

 

การจัดการความเครียดและบทเรียนจากโรคภัย

เกรซยอมรับว่าเธอมีความเครียด แต่เป็นคนที่ไม่ปล่อยให้ตัวเองเครียดนาน เธอเข้าใจว่าความเครียดเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และฮอร์โมนความเครียดก็จำเป็นต่อการรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ บทเรียนที่สำคัญที่สุดคือการเป็นติ่งเนื้อในลำไส้ ซึ่งเป็นผลจากการที่เธอไม่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เช่น การทำงานและกินที่ไม่เป็นเวลา เธอเล่าว่าคุณหมอต่อว่าที่เธอเอาแต่เสียเงินรักษาแต่ไม่ยอมเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ จากเหตุการณ์นั้น ทำให้เธอหยุดกินยาลดกรดอย่างต่อเนื่องและตระหนักว่าเซลล์ที่ผิดปกติมีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้ เธอจึงยึดหลักว่า สุขภาพต้องมาเป็นอันดับแรก และเลือกที่จะดูแลตัวเอง แม้ใครจะมองว่าเธอเรื่องมาก

เกรซเชื่อว่าทุกคนรู้ว่าอะไรดีไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ส่วนใหญ่อดใจไม่ได้ เธอเน้นว่าการกำหนดเป้าหมายด้านสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ และการรักษาสุขภาพที่ดีนำไปสู่รูปร่างที่ดีได้ เธอเปรียบเทียบการทำงานหนักโดยไม่ใส่ใจสุขภาพเหมือนกับการเอาเงินที่หามาได้ไปรักษาตัวเองในภายหลัง เธอยังให้ข้อคิดว่าความเครียดร้ายกาจกว่าน้ำตาล และการที่คนเราเป็นโรคร้ายเร็วขึ้นในปัจจุบันเป็นผลมาจากวิวัฒนาการที่ทำให้ร่างกายอักเสบสะสม เช่น PM2.5, อาหารแปรรูป, แสงสีฟ้า ร่างกายมนุษย์ยังคงทำงานแบบเดิม แต่ต้องเผชิญกับโมเลกุลอาหารใหม่ๆ ที่ไม่คุ้นเคย ทำให้ทำงานหนักขึ้น

 

 

เป้าหมายชีวิตและความสุขที่แท้จริง

เกรซคิดว่าความสุขที่แท้จริงของเธอในตอนนี้คือการได้นอนหลับครบ 8 ชั่วโมงโดยไม่พึ่งยานอนหลับ เธอเชื่อว่าการนอนหลับเต็มอิ่มทำให้เธอสดชื่น มีพลังงาน และอารมณ์ดี ซึ่งส่งผลให้ดูสวยขึ้น หากนอนไม่ดีจะหงุดหงิดง่ายและไม่สวย เธอจึงมองว่าการนอนหลับเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต เธอยังแนะนำเรื่องการใช้โซเชียลมีเดียว่า ไม่ควรจับมือถือทันทีที่ตื่นนอน เพราะอาจทำให้ความจำสั้นและมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าสูง และควรจำกัดเวลาการเล่นโซเชียล โดยไม่ควรเกิน 30 นาทีต่อครั้ง โดยเฉพาะก่อนนอน เพราะจะกระตุ้นระบบประสาทที่ทำให้ตื่นตัวและขัดขวางการนอนหลับ

เกรซยอมรับว่าความล้มเหลวในชีวิตของเธอคือการนอนน้อย ตลอด 20 ปีที่ผ่านมาในวงการบันเทิง ซึ่งการนอนน้อยเท่ากับอายุสั้น เธอเน้นย้ำว่าการมีเป้าหมายชีวิตควรมีทั้งด้านการเงิน ความฝัน และที่สำคัญคือ สุขภาพ และจิตใจ

 

 

เส้นทางในวงการบันเทิง และเรื่องราวความรัก

เกรซเล่าว่าเธอเข้าวงการบันเทิงจากการประกวด มิสทีนไทยแลนด์ ปี 2004 ตอนอายุ 15 ปี โดยที่เธอไปเชียร์เพื่อนและโมเดลลิ่งเห็นแวว เธอไม่ได้ตั้งใจเข้าวงการมาเป็นนักแสดง แต่ถูกชักชวนให้เล่นละครโดยมีเงื่อนไขให้ร้องเพลงประกอบละครได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอชอบในตอนนั้น การทำงานต้องเรียนรู้จากประสบการณ์หน้างานเอง เธอเคยมีประสบการณ์จำฝังใจคือการ ร้องไห้กับกำแพง ในฉากละครเพราะนักแสดงคู่ไม่มา แม้จะโหด แต่ก็ทำให้เธอต้องดึงศักยภาพสูงสุดออกมา ปัจจุบันเธอเลือกรับละครที่บทท้าทายและไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เพราะเข้าใจว่าการเป็นนักแสดงต้องเผชิญกับความเครียดและอาจหลุดออกจากตัวละครไม่ได้

สำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากเข้าวงการบันเทิง เธอแนะนำว่ายุคนี้ทุกคนเป็นดาราและอินฟลูเอนเซอร์ได้ในโลกของตัวเอง แต่ต้องหาจุดเด่นที่ชัดเจน และสร้างความจดจำให้กับตัวเอง ก่อนที่ AI จะเข้ามาแทนที่ทุกอย่าง เธอยกตัวอย่างลุค Art Toy ของเธอว่า มาจากปมในวัยเด็กที่พ่อแม่ไม่ให้เล่นตุ๊กตาบาร์บี้ ทำให้เธอเก็บกดและนำมาสร้างสรรค์เป็นตัวตนที่โดดเด่นในปัจจุบัน

ในด้านความรัก เกรซคบกับแฟนมา 6 ปี และความสัมพันธ์ของพวกเขาคือการเป็น เซฟโซน และ เหมือนเพื่อนกัน เธอเชื่อว่าคู่ชีวิตคือเพื่อนที่ดีที่สุด เธอเรียนรู้จากบทเรียนความรักในอดีตว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงใครได้ และความรักต้องอาศัย ความเข้าใจและให้เกียรติซึ่งกันและกันสูงมาก เธอและแฟนไม่ได้ซีเรียสเรื่องการแต่งงาน หากจะแต่งก็คงแต่งเพื่อพ่อแม่หรือเพื่อตอบคำถามสังคมมากกว่า เธอยังไม่คิดเรื่องการมีลูก เพราะรู้สึกว่าน้องสาวทั้งสองคนเหมือนลูกของเธอแล้ว และเธอยังอยากทุ่มเทดูแลพ่อแม่ให้เต็มที่ก่อน แม้จะมีความชอบที่แตกต่างกัน (เช่น เธอชอบทะเล แต่แฟนไม่ชอบ) เธอย้ำว่าทั้งคู่ต้องผลัดกันยอม และเข้าใจในความต่าง

 

 

เปิดรับแรงบันดาลใจได้ใน Club Inspired Day คลับที่เต็มไปด้วยข้อคิดแรงบันดาลใจ และมีคลังความรู้ที่พร้อมแชร์ ไปกับ Iconic และสองดีเจสุดเท่ “ดีเจเป้” และ “ดีเจแคน”  ได้ในทุกสัปดาห์

 

ดูรายการย้อนหลัง

album

0
0.8
1