“ชีวิตมันยาก เหมือนได้ไพ่มาแต่เลือกไพ่ไม่ได้ เราเลยต้องเล่นไพ่ในมือให้ดีที่สุด เวลาผมเจอปัญหาหรือเครียดมากๆ ผมจะเอากระดาษ A4 มาพับครึ่ง ด้านซ้ายเขียนสิ่งที่ควบคุมได้ในปัญหานี้ ด้านขวาเขียนสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ เมื่อไหร่ที่ใจเรากังวลในเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ ผมจะรีบถอยออกมาเลย มาโฟกัสเรื่องที่เราควบคุมได้ดีกว่า”
เพราะที่ Club นี้ ทุก Story มีความหมาย ได้ Inspired ทุก Moment กับสองดีเจสุดเท่ “ดีเจเป้” และ “ดีเจแคน” ที่เปิดไมค์ต้อนรับ “รวิศ หาญอุตสาหะ” นักธุรกิจและคอนเทนต์ครีเอเตอร์ชื่อดัง กับการแบ่งปันเรื่องราวแรงบันดาลใจในการฟื้นฟูธุรกิจศรีจันทร์ แบรนด์เครื่องสำอางเก่าแก่ของปู่ โดยเน้นการรีแบรนด์ให้ทันสมัย และการเลือกพรีเซนเตอร์อย่าง BamBam รวมถึงการเปลี่ยนแปลงจากการเป็นร้านขายยามาเป็นธุรกิจเครื่องสำอางเต็มตัว นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึง แนวคิดด้านการพัฒนาตนเอง การจัดการเวลา และการรับมือกับความเครียด โดยใช้หลักการแบ่งงานสำคัญในแต่ละวัน และการเขียนขอบคุณเพื่อมองเห็นสิ่งดีๆ ในชีวิต คุณรวิศเชื่อว่า ความโชคดี จังหวะชีวิต และการปรับตัว เป็นปัจจัยสำคัญที่นำพามาซึ่งความสำเร็จ และยังเน้นย้ำถึง ความสำคัญของการมีเมตตาต่อผู้อื่น เพราะเราไม่รู้ว่าแต่ละคนกำลังเผชิญกับอะไรมาบ้าง มุมมอง วิธีคิด พร้อมแรงบันดาลใจดี ๆ ถูกแบ่งปันเอาไว้แล้วในรายการ
จากพนักงานแบงค์ สู่เจ้าของศรีจันทร์พันล้าน
คุณรวิศ กล่าวว่า แรงบันดาลใจของเขา ไม่ได้สร้างขึ้นมาเอง แต่เป็นการส่งต่อมาจากผู้อื่น และ เรื่องราวของผู้คน เขาได้รับแรงบันดาลใจนั้นมาแล้วก็ส่งต่อไป โดยในปัจจุบัน เขามีสองอาชีพหลักคือ ทำธุรกิจศรีจันทร์ ซึ่งอยู่ในวงการความสวยความงาม และกำลังขยายไปสู่เรื่องของสุขภาพ และเป็น Content Creator โดยทำ Podcast ในช่อง YouTube Mission to the Moon ที่มีผู้ติดตามกว่าล้านคน
ธุรกิจศรีจันทร์ เริ่มต้นจากร้านขายยาที่ปู่ของเขาก่อตั้ง ด้วยความที่คุณปู่เป็นคนอนุรักษ์นิยม ธุรกิจจึงไม่ได้ขยายมากนัก และคุณพ่อไม่ได้สานต่อ ส่วนคุณรวิศ ก็ทำงานที่ธนาคารอย่างมีความสุขมาก จุดเปลี่ยนคือวันที่ไปรับคุณปู่ที่ร้านตอนอายุ 85 ปี เขารู้สึกเสียดายมากถ้าธุรกิจนี้จะหายไป เพราะไม่มีคนทำต่อ คุณรวิศเลยตัดสินใจ ลาออกจากงานธนาคาร ด้วยคำแนะนำของเจ้านายเก่าที่บอกให้ไปลองทำสักปีแล้วค่อยกลับมาใหม่หากไม่สำเร็จ ทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นยังคิดไม่ออกและเสียดายงาน คุณรวิศไม่มีพื้นฐานธุรกิจมาก่อนเลย และเริ่มต้นจากศูนย์ เมื่อ 17 ปีก่อนที่เข้าไปช่วยปรับปรุงธุรกิจ ตอนนั้นยังโบราณมาก พนักงานยังใช้เครื่องพิมพ์ดีด งานแรกคือการนำข้อมูลทั้งหมดเข้าระบบคอมพิวเตอร์ การไปถึงระดับพันล้านนั้นผ่าน การล้มลุกคลุกคลาน และ การลองทำหลายอย่าง
จุดเปลี่ยนสำคัญคือการ รีแบรนด์เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว และการออกผลิตภัณฑ์ แป้งฝุ่นโปร่งแสง (Srichand Translucent Powder) ฝาสีม่วง ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง โดยการเปลี่ยนชื่อภาษาไทย ให้กลายเป็น SRICHAND (ภาษาอังกฤษ) เพราะมีเป้าหมายเพื่อให้ชาวต่างชาติอ่านออก และรักษาชื่อแบรนด์ไทยไว้ ให้เป็นที่ภาคภูมิใจเมื่อเห็นในร้านเครื่องสำอางระดับโลก วิสัยทัศน์ขององค์กรเปลี่ยนจากเพียง "อยากรวย" เป็นการทำแบรนด์ที่คนไทยรู้สึกภูมิใจ ที่มีแบรนด์นี้อยู่ การเปลี่ยนเป้าหมายนี้กลับทำให้แบรนด์เติบโตขึ้นอีกจากการเลือก BamBam มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ มาจากเกณฑ์ที่ต้องการหาคนที่ มีความฝัน ทำงานหนัก และพาตัวเองไปถึงระดับโลก ซึ่งทำให้ SRICHAND มีผลตอบรับดีมาก ทั้งยอดขาย และเรื่องของ "แบรนด์เลิฟ"
ทำงานหนักแค่ 10%? เปิดเส้นทาง "คนโชคดี" อย่าง รวิศ หาญอุตสาหะ
คุณรวิศเชื่อว่าตัวเองเป็นคนโชคดีมาก การทำงานหนักมีส่วนประมาณ 10% ส่วนที่เหลือคือ จังหวะชีวิต และการสนับสนุนจากผู้คน เช่น แม่ที่สอนภาษาอังกฤษอย่างเข้มงวด, หัวหน้าเก่าที่ให้โอกาส และคนที่ช่วยเหลือเรื่องงานโฆษณา ที่ผ่านมาอุปสรรคมีมากมาย แต่สิ่งที่หนักที่สุดคือ การจัดการตัวเอง เวลาที่ล้มเหลวไม่ให้รู้สึกแย่เกินไป โดย คุณรวิศได้เรียนรู้ว่า ความเครียดส่วนใหญ่เป็นจินตนาการ ประมาณ 90% ของสิ่งที่กังวลไม่เคยเกิดขึ้นจริง การจัดการความเครียดต้องเริ่มจากการ ไม่ตื่นตระหนก และ ฝึกสติ
นอกจากนี้ คุณรวิศยอมรับว่า เคยเป็นคนใจร้อนและขี้โมโหมากในทุกเรื่อง และรู้ว่าเป็นนิสัยที่ไม่ดี จึงต้องฝึกฝนตลอดเวลา โดยการฝึกสติช่วยให้ยั้งปากได้ เมื่อความโกรธเกิดขึ้น แม้ความรู้สึกยังอยู่ และบางครั้งก็เลือกเดินหนีออกจากสถานการณ์เพื่อไม่ให้พูดสิ่งที่เสียใจภายหลัง การแช่น้ำแข็ง (Ice Bath) เกือบทุกวัน เป็นวิธีการฝึกที่ได้ผลดีสำหรับเขา เพราะความเย็นจัดเป็นการฝึกที่เข้มข้น ช่วยให้จัดการความตกใจ และฝึกสมาธิอยู่กับลมหายใจได้ เมื่อเจอความเครียดในชีวิตประจำวัน จะรู้สึกว่าจัดการได้ง่ายกว่าการแช่น้ำแข็ง นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องสุขภาพ ทำให้ภูมิแพ้หายอีกด้วย
เคล็ดลับจัดการชีวิต สไตล์ รวิศ หาญอุตสาหะ
สำหรับเคล็ดลับความโปรดักทีฟ และการจัดสรรเวลา คุณรวิศบอกว่า เขาไม่ใช่คนขยันมาก แต่พยายาม จำกัดเวลา โดยใช้ To-do list และ จัดลำดับความสำคัญ โดยในแต่ละวันจะมีงานสำคัญจริง ๆ เพียง 2-3 อย่าง เคล็ดลับคือ ทำงานสำคัญให้เสร็จก่อนเที่ยง เพราะสมองจะใส และทำงานได้ดีที่สุดในช่วง 5-6 ชั่วโมงหลังตื่นนอน โดยงานสำคัญ 2-3 อย่างนี้ส่งผลต่อผลลัพธ์ (Output) ถึง 80-90% การจัดลำดับความสำคัญคือการมองว่างานไหนเป็นเรื่องใหญ่ และ ส่งผลกระทบเยอะที่สุด เช่น การแก้ปัญหาใหญ่กับผู้บริหาร หรือปัญหาสำคัญกับลูกค้า แม้ไม่ได้ทำงานทุกอย่างใน To-do list ให้เสร็จ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะงานที่ไม่สำคัญมีผลกระทบน้อย สิ่งสำคัญที่สุดคือการ ไม่เช็คอีเมลก่อนเที่ยง และ ปิด Notification ทั้งหมด เพื่อมีสมาธิกับงานสำคัญ
โดย คุณรวิศ จัดตารางชีวิต ไว้คือ พยายาม นอน 7-8 ชั่วโมง เลิกงานให้ได้ก่อน 6 โมงเย็นหากเป็นไปได้ หลังเวลาทำงานคือเวลาพักผ่อน เล่นมือถือ ดูซีรีส์ และการออกกำลังกาย เป็นสิ่งที่ต้องทำทุกวัน เหมือนเป็นงานหนึ่ง เพราะดีต่อสุขภาพสมอง
ถอดรหัสชีวิต ธุรกิจ ความสุข จาก รวิศ หาญอุตสาหะ
ในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข คุณรวิศได้รับแรงบันดาลใจจากโฆษณาที่ทำให้คิดได้ว่า เราไม่รู้เลยว่าเบื้องหลังชีวิตของแต่ละคนเจอเรื่องอะไรมาบ้าง จึงอยาก ใจดีและมีเมตตา กับทุกคน รวมถึงตัวเองด้วย สิ่งสำคัญคือ ไม่ดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น
พร้อมมุมองที่ว่า ชีวิตคล้ายต้นไผ่ ที่คนมักมองว่าต้นไผ่โตเร็ว แต่จริง ๆ แล้วใช้เวลา 3-4 ปีในการสร้างรากใต้ดินก่อนจะเติบโตเร็ว ดังนั้นหากมั่นใจว่าใช้ชีวิตอยู่บนทางที่ถูก สิ่งที่ต้องมีคือ ความอดทนรอผล และเรียนรู้ว่า ชีวิตมันยาก หากเราได้ไพ่มาแล้วต้องเล่นไพ่ในมือให้ดีที่สุด เมื่อเครียดกับปัญหา ให้แยกสิ่งที่ควบคุมได้ ออกจากสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ และ โฟกัสทำในสิ่งที่ควบคุมได้เท่านั้น
ทั้งนี้คุณรวิศ ยังแบ่งปันเรื่องราวที่ตัวเอง ฝึกเขียน Gratitude Journal (ขอบคุณ 3 อย่างทุกวัน) เพื่อฝึกสมองให้โฟกัสสิ่งที่เรามี การโฟกัสสิ่งที่ขาดจะนำมาซึ่งความทุกข์เสมอ แม้จะมีมากแค่ไหนก็ตาม โดยโลกจะวุ่นวายไปเรื่อย ๆ ต้องปรับตัวและมีทัศนคติแบบ นักทดลอง โดยเฉพาะตลาดทองคำและสินทรัพย์อื่น ๆ มักเคลื่อนไหวด้วยความโลภ และความกลัวของมนุษย์ ต้องเรียนรู้และปรับตัวให้ทัน
Mission to the Moon และการเป็น Content Creator
คุณรวิศเริ่มทำ Mission to the Moon เมื่อ 7 ปีที่แล้ว เพราะรู้สึกตกยุค และต้องการอัปเดตความรู้ โดยชื่อมาจากชื่อหนังสือเล่มที่สองของเขา "คิดจะไปดวงจันทร์ อย่าอยู่แค่ปากซอย"ปัจจุบันเนื้อหาคอนเทนต์วนเวียนกับเรื่อง ธุรกิจ ฮีลใจ พัฒนาตัวเอง และการสัมภาษณ์ โดนจะมีการลงคอนเทนต์ทุกวัน และใช้วิธีอัดสต็อกไว้ล่วงหน้า การทำ Mission to the Moon เป็นงานที่คุ้มค่ามาก ๆ นอกจากรายได้ที่ดี ยังได้รับคำขอบคุณและฟีดแบ็กจากผู้ฟังว่าคอนเทนต์ของเขา ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและเปลี่ยนแปลงชีวิต ได้จริง มีหลายครั้งที่ผู้ฟังบอกว่า ฟังแล้วเปลี่ยนจากความท้อแท้ เป็นพลังของชีวิต และอีกหนึ่งบทบาทคือ การเป็นคุณพ่อ เขามองว่าการดูแลลูกเป็นเรื่องยาก แต่พยายามทำให้ดีที่สุด โดยสิ่งที่พยายามสอนลูกเสมอคือ การโฟกัสสิ่งที่เรามี ไม่ใช่สิ่งที่เราขาด
เปิดรับแรงบันดาลใจได้ใน Club Inspired Day คลับที่เต็มไปด้วยข้อคิดแรงบันดาลใจ และมีคลังความรู้ที่พร้อมแชร์ ไปกับ Iconic และสองดีเจสุดเท่ “ดีเจเป้” และ “ดีเจแคน” ได้ในทุกสัปดาห์
ดูรายการย้อนหลัง