ตั้งแต่จำความได้ ผมอยากเป็นผู้หญิงมาตลอด เคยแอบแต่งหน้า โดนแม่ด่าอย่าทำอีก เก็บมาจนเรียนโรงเรียนชายล้วน โตมาผมมีแฟนผู้หญิง คบกันมา 10 ปี มีอะไรกันตามปกติ ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย แต่จะเห็นแก่ตัวไหม ถ้าจะแต่งงานกับเขา แล้วผมยังอยากแต่งหญิงแบบที่อยากเป็น

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ตั้งแต่จำความได้ ผมอยากเป็นผู้หญิงมาตลอด เคยแอบแต่งหน้า โดนแม่ด่าอย่าทำอีก เก็บมาจนเรียนโรงเรียนชายล้วน โตมาผมมีแฟนผู้หญิง คบกันมา 10 ปี มีอะไรกันตามปกติ ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย แต่จะเห็นแก่ตัวไหม ถ้าจะแต่งงานกับเขา แล้วผมยังอยากแต่งหญิงแบบที่อยากเป็น

29 พ.ย. 2024

ตั้งแต่จำความได้ ผมอยากเป็นผู้หญิงมาตลอด เคยแอบแต่งหน้า โดนแม่ด่าอย่าทำอีก

เก็บมาจนเรียนโรงเรียนชายล้วน โตมาผมมีแฟนผู้หญิง คบกันมา 10 ปี มีอะไรกันตามปกติ ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย

แต่จะเห็นแก่ตัวไหม ถ้าจะแต่งงานกับเขา แล้วผมยังอยากแต่งหญิงแบบที่อยากเป็น แต่แฟนผมไม่ชอบ

          “คุณบอล (นามสมมติ)” อายุ 29 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคือวันพุธที่ [27 พ.ย. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจอั๋น – ดีเจต้นหอม – ดีเจเติ้ล’ เกี่ยวกับปัญหามีแฟนเป็นผู้หญิง แต่ส่วนตัวผมก็ชอบแต่งหญิง แต่งหน้า

            โดย “คุณบอล (นามสมมติ)” ได้เกริ่นก่อนว่า ‘ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ป.3 - ป.4 ก็ได้รู้สึกแล้วว่าตัวเองอยากเป็นผู้หญิงมาตลอด แต่ตอนนั้นอยู่โรงเรียนชายล้วน ยังไม่เคยอยู่โรงเรียนสหศึกษามาก่อน และก็รู้สึกว่าตัวเองก็เป็นผู้ชาย เข้าสังคมผู้ชาย ไม่มีเพื่อนเป็นผู้หญิงเลยตั้งแต่เด็ก มีพี่ชายก็เป็นผู้ชาย ชายแท้ หลังจากโตขึ้นมา ก็มีความรู้สึกที่อยากเป็นผู้หญิงมากขึ้น มีแอบไปแต่งหญิงบ้าง ตอนเป็นเด็กแม่ก็เหมือนจะรับรู้ และโดนขู่ไว้ หลังจากนั้นก็เลยไม่กล้าบอกใคร

            จนโตมาเข้ามหาวิทยาลัย ยังมีความรู้สึกอยากแต่งเป็นผู้หญิงอยู่ เคยคิดที่จะแปลงเพศและเอาอวัยวะเพศออก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเคยชินหรืออะไร แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ไปทำหรือเอาออก อีกอย่างที่กลัวก็คือผมก็ชอบผู้หญิงด้วย เวลามีเซ็กส์ก็ไม่ได้รู้สึกฝืนอะไร เคยคิดว่าตัวเองชอบผู้ชายไหม แต่ก็ไม่ได้รู้สึกชอบ หลังจากเข้ามหาลัยก็ได้มีแฟนเป็นผู้หญิง และคบกับแฟนคนนี้มา 10 ปี จนตอนนี้มีแพลนว่าจะแต่งงานกัน ส่วนตัว ‘รู้สึกผิดกับแฟนที่ตัวเองอยากแต่งเป็นผู้หญิง แต่ไม่ยอมเลิก’ เพราะจริง ๆ แฟนก็ชอบผู้ชาย ตั้งแต่ปีแรกที่คบกัน ผมก็รู้สึกว่าจริงจังกับแฟนคนนี้ และได้บอกความจริงกับแฟนว่า ‘อยากแต่งเป็นหญิงนะ’ แต่แฟนรู้สึกไม่โอเค เคยเลิกกันไปครั้งหนึ่งเพราะเรื่องนี้ แต่ก็กลับมาคบกันอีกเพราะผมรู้สึกว่าขาดเขาไปไม่ได้

            ผมเคยลองคิดว่าจริง ๆ ตัวเองอาจจะชอบแค่การแต่งตัวเป็นผู้หญิงแค่นั้นหรือเปล่า? แต่พอโตขึ้นได้รับอิสระมากขึ้น ทั้งจากครอบครัวและคนรอบข้าง ความรู้สึกมันก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อยากมีหน้าอก ซื้อยาเทคฮอร์โมนมากิน แอบแต่งหญิงมากขึ้น ในอนาคตก็อยากจะเป็นผู้หญิง เลยอยากถามพี่ ๆ ดีเจว่า เห็นแก่ตัวเกินไปไหมถ้าจะแต่งงานกับคน ๆ นี้ทั้งที่ตัวเองก็พยายามจะเป็นผู้หญิงอีก และกลัวว่าอนาคตจะเป็นมากกว่านี้

            เริ่มให้คำปรึกษาที่ “ดีเจต้นหอม” ว่า ‘บอกเลยว่าเห็นแก่ตัว ถ้าคิดในกรณีของผู้หญิงที่ต้องแต่งงานกับใครสักคนหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าในอนาคตตัวของคุณ จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในสิ่งที่รับไม่ได้ ซึ่งแต่ละคนมีเงื่อนไขไม่เหมือนกัน มันมีผู้หญิงที่รับได้ ฉะนั้นเวลาที่เราแต่งงานกับใคร เราไม่ได้ศึกษาแค่ข้อดีของเขา เราต้องศึกษาข้อเสียของเข้าด้วย ว่าเรารับข้อเสียของเขาได้ไหม ถ้าเรารับได้เราถึงจะได้ร่วมชีวิตกัน แต่ถ้าตัวคุณบอลมีข้อเสียข้อใหญ่ ที่ผู้หญิงคนนั้นตั้งธงมาแล้วว่าเรื่องนั้นเขารับไม่ได้ แต่คุณรับปากส่ง ๆ ไปว่าโอเคเราจะเป็นแบบในสิ่งที่เขาชอบ ซึ่งวันหนึ่งคุณบอลเปลี่ยนแน่นอนอยู่แล้ว ‘มันรู้สึกเห็นแก่ตัว’ ฉะนั้นสองสิ่งมันไปด้วยกันไม่ได้ สิ่งที่เป็นตัวเรา ดันไปโดนข้อเสียที่เป็นข้อใหญ่ของเขา ที่เขาตั้งธงมาแล้วว่ารับไม่ได้ ฉะนั้นคุณบอลต้องเลือกว่า จะเป็นผู้หญิงหรือเลือกแฟนคนนี้ จะเปลี่ยนตัวเองหรือเปลี่ยนแฟน มันมีแค่นี้ สิ่งที่พี่แนะนำคือ เลือกชีวิตที่มันเป็นตัวเองไปเลย มันมีผู้หญิงที่รับได้ หรือถ้าเรารักผู้หญิงคนนี้จริง ๆ บอกผู้หญิงไปเลยว่า ‘เราเปลี่ยนไม่ได้จริง ๆ ’ เราขอโทษที่ให้ทุกอย่างไม่ได้ เพราะการใช้ชีวิตคู่ มันไม่ได้แชร์กัน 50/50 บางเรื่องถ้าเรายอมไม่ได้จริง ๆ นั่นแปลว่าเขาต้องยอมเราร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วถ้าเขาบอกว่าเรื่องนี้ก็ไม่ได้สำหรับเขาเหมือนกัน นั่นแปลว่าเราเป็น ‘เส้นขนาน’ กันแล้ว’

            ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ในเชิงคำว่าเห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่ตัวเนี่ย บอลก็รักเขาแหละ อย่างจริงใจ ประเด็นมันแค่ว่า ตอนนี้สิ่งที่สำคัญกับชีวิตบอลมากอะ มันไม่ไปกับสิ่งที่เขาต้องการ ซึ่งพี่จะมองในมุมที่ว่า ‘อย่าแต่งงานกันเลย’ เพราะว่ามันจะทำให้ทั้งสองคนไม่มีความสุขแค่นั้นเอง คือบอลจะเป็นอะไรก็ได้เลย แค่บอลต้องหาคนที่เขาโอเคกับสิ่งที่บอลเป็น ซึ่งพี่ว่าโลกนี้มันยังมีอยู่ มันมีอยู่แค่บอลยังไม่เจอเขา     เพราะฉะนั้นพี่ว่าได้เป็นตัวของตัวเองที่บอลฝันมาตั้งแต่เด็กเถอะ แล้วหาคนที่เขาโอเคกับมัน ส่วนผู้หญิงถ้าคุยกันอีกครั้ง แล้วเขาชัดเจนว่ายังไงก็ไม่มีทาง บอลก็ต้องปล่อยเขาให้ไปหาคนอื่นเหมือนกัน เพราะสิ่งที่บอลเป็น เป็นสิ่งที่ทำให้บอลมีความสุข ซึ่งบอลไม่มีทางเก็บมันไว้ตลอดได้อยู่แล้ว’

            สุดท้าย “ดีเจอั๋น” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าถ้าเราอยู่กับมันมานานพอที่เรารู้จักตัวเราเอง จนตกตะกอนได้ในระดับหนึ่งว่า สิ่งที่เราชอบ มันไม่ใช่แค่ลุกขึ้นมาแล้วแต่งคอสเพลย์ แต่มันคือสิ่งที่บอลอยากให้มันเป็นร่างของเราเลย อย่างแรกพี่อยากให้เราชัวร์ตรงนี้ก่อน เรื่องนี้มันเดินหน้าแล้วถอยหลังไม่ได้ ถ้าเป็นพี่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อน นอกเหนือจากที่เรารู้ตัวเราเองแล้ว บางทีมันอาจจะมีหลาย ๆ คำถามหรือมุมที่เราไม่รู้ว่าเราไม่รู้ จนกว่าเราจะไปเจอผู้เชี่ยวชาญ แต่อย่างไรก็แล้วแต่ พี่คิดว่าถ้าเราจะอยู่กับคนที่เป็นคู่ชีวิตเรา เขาน่าจะเป็นคนที่คุยกับเราได้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องนี้ ซึ่งเรายังพูดไม่ได้เลย ‘ว่าเราจะเป็นผู้หญิง ก็อยากเป็นผู้หญิงอะ’ ลองคุยกับเขาดู ถ้าเขารับได้ก็เท่ากับว่าเป็นคู่เราได้ แต่ถ้ารับไม่ได้ก็แปลว่าเขาไม่ใช่คู่ของเรา ‘ไม่ควรอยู่เพียงเพราะอยากจะเก็บเขาไว้ แล้วตัดสินใจว่าโกหกดีกว่า’ อันนี้ผิดแน่นอน พี่รู้ว่ามันละเอียดอ่อนและมีความซับซ้อนสูงมาก แต่อย่างหนึ่งพี่ ‘ไม่อยากให้บอลรู้สึกว่าเราผิดปกติ’ ในโลกนี้มันเปิดกว้าง ความหลากหลายในการเลือก มันไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติเลย ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของบอลที่จะตัดสินใจและเลือกเอง’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

คบกับรุ่นพี่ที่ทำงาน รู้ทีหลังเขามีลูกเมียอยู่แล้ว เราเลิกยุ่งทันที แต่ผู้ชายไม่ยอม ใช้มีดจี้คอเราที่ทำงาน จ้างนักสืบตามดูชีวิตเรา เราไปเดทกับผู้ชายคนใหม่ เขาตามมาที่ร้านลากเราออกไปตบหน้าร้าน ตอนนี้กลัวมาก ลาออกจากที่ทำงานมาแล้ว แต่ก็ยังกลัวเขาอยู่ดี

29 พ.ย. 2024

คบกับรุ่นพี่ที่ทำงาน รู้ทีหลังเขามีลูกเมียอยู่แล้ว เราเลิกยุ่งทันที แต่ผู้ชายไม่ยอม ใช้มีดจี้คอเราที่ทำงาน จ้างนักสืบตามดูชีวิตเรา เราไปเดทกับผู้ชายคนใหม่ เขาตามมาที่ร้านลากเราออกไปตบหน้าร้าน ตอนนี้กลัวมาก ลาออกจากที่ทำงานมาแล้ว แต่ก็ยังกลัวเขาอยู่ดี

คบกับรุ่นพี่ที่ทำงาน รู้ทีหลังเขามีลูกเมียอยู่แล้ว เราเลิกยุ่งทันที แต่ผู้ชายไม่ยอมใช้มีดจี้คอเราที่ทำงาน จ้างนักสืบตามดูชีวิตเรา เราไปเดทกับผู้ชายคนใหม่ เขาตามมาที่ร้านลากเราออกไปตบหน้าร้าน ตอนนี้กลัวมาก ลาออกจากที่ทำงานมาแล้ว แต่ก็ยังกลัวเขาอยู่ดี จะทำยังไงดีคะ? “คุณพิมพ์ (นามสมมติ)” อายุ 24 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [27 พ.ย. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจอั๋น – ดีเจต้นหอม – ดีเจเติ้ล’ เกี่ยวกับปัญหาการโดนคุกคาม โดย “คุณพิมพ์ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูได้เข้าไปทำงานที่บริษัทแห่งนึงแล้วไปชอบรุ่นพี่ที่ทำงานคนนึง ซึ่งเขาเป็นหัวหน้าเรา พอเข้าไปทำงานก็ได้เริ่มมีการคุยกันเพราะเขาเป็นหัวหน้าแผนก แล้วเราก็ได้แลกไลน์กัน เราสองคนก็คุยกันมาเรื่อย ๆ จนผ่านไปประมาณ 1 ปีเราก็ตัดสินใจที่จะคบกัน ตลอดเวลาที่คบกันมันดีมาตลอด จนมาเข้าปีที่ 3 คือหนูมีช่องทางการติดต่อของเขาทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Facebook , Instagram , Line หรือเบอร์โทรอะไรต่าง ๆ มีครบหมด เขาคงลงเปิดตัวเราหมดทุกช่องทาง แต่ประเด็น คือหนูดันไปเจอ Facebook ของเขาที่เป็นอีก Facebook นึง ซึ่ง Facebook นั้นเราไม่ได้เป็นเพื่อนกับเขา และเขาก็ไม่ได้เปิดโพสต์เป็นสาธารณะทั้งหมด หนูก็สงสัยเลยถามเขาไปวันนั้นว่า อันนี้คือ Facebook ที่เล่นอยู่ด้วยหรือเปล่าเพราะเราไม่ได้เป็นเพื่อน เขาก็บอกว่า อ๋อ อันนี้ไม่ได้เล่นแล้วเป็นบัญชีเก่า หนูก็สงสัยเพราะว่าเลื่อนดูโพสต์ เห็นมีผู้หญิงคนนึงที่กดหัวใจ ไม่ว่าเขาจะลงรูปอะไรก็กดหัวใจตลอด เราก็เลยเอา Facebook ตัวเองแอดไปแต่เขาไม่รับ มันก็ยิ่งคาใจเหมือนมันเป็นเซนส์ หนูก็เลยใช้เฟซบุ๊กของเพื่อนที่เป็นผู้ชายแอด Facebook นั้นไป ซึ่งเขารับหลังจากนั้นประมาณอาทิตย์นึง พอเขารับเสร็จเพื่อนก็เข้าไปส่องดูมันโป๊ะแตกเลย... คือเห็นทุกอย่าง เขาลงรูปคู่กับผู้หญิงอีกคนนึง ใช้ชีวิตด้วยกันทุกอย่าง ไปไหนเช็คอินตลอด แล้วที่จุกอกไปกว่านั้นคือเราไม่รู้ว่าเขามีลูก มีครอบครัวที่แต่งงานกันมาเป็น 10 ปีแล้ว เพราะว่าเพื่อนหนูแคปมาให้ดูว่า เฮ้ย เขาแท็กกันครบรอบแต่งงาน 10 ปีด้วยนะ ไทม์ไลน์คือมันถึงปัจจุบันเลย ที่หนูเห็นลงล่าสุดก็คือเดือนที่แล้ว ส่วน Facebook ที่เขาเปิดตัวหนู เขาก็ใช้หน้าเขา ชื่อเขาปกติเลย แล้วคือที่หนูไม่ได้เอ๊ะมาก่อน เพราะเขาใช้เวลาอยู่กับหนูทั้ง 24 ชั่วโมงเลยคืออยู่ด้วยกันตลอดเวลาไม่ได้แยกกัน แต่พอหนูรู้ว่าเขามีเบอร์ 1 ที่เป็นฝั่งหลวง ภรรยาของเขาอยู่ต่างจังหวัดแล้วเขาเข้ามาทำงานที่สมุทรปราการมันก็เลยทำให้แยกกัน ซึ่งเวลาที่เขามีดูงานต่างจังหวัด เขาก็จะกลับไปหาภรรยาเขา คือมันติดมาในใจหนูตลอดว่า เราก็ไม่ได้มาเพื่อที่จะแย่งเขามาตั้งแต่ทีแรกนะเพราะว่าเขาไม่ได้บอกเรา หนูถามเขาแล้ว ย้ำนักย้ำหนาว่าไม่มีใครใช่ไหม? เพราะว่าเขาก็ไม่ใช่คนหน้าตาขี้เหร่ แล้วเขาเป็นหัวหน้า เขาก็ดูฮอตในออฟฟิศ แล้วเขาก็มีเรื่องผู้หญิงอยู่ตลอด ส่วนเรื่องของเราคนในออฟฟิศก็มีรู้คือฝั่งที่รู้จักกับภรรยาเขารู้แต่เขาไม่ได้มาพูดกับหนูว่า พี่คนนี้มีภรรยาแล้วนะ เพราะว่าเขากลัวว่าจะมีปัญหา ตอนอยู่ที่ออฟฟิศเราก็มีกุ๊กกิ๊กกันบ้างแต่ก็ไม่ได้เกินหน้าเกินตา คนทั่วไปก็รับรู้ว่าหนูเป็นแฟนกัน เพื่อนสนิทฝ่ายแผนกหนูก็จะรู้ว่าหนูคบกับพี่คนนี้นะ แต่เพื่อนก็ไม่รู้ว่าพี่เขามีเมียอยู่แล้ว พอหลังจากที่หนูรู้แล้ว หนูก็คุยกับเขาเลย แคปภาพที่เพื่อนส่งมา ส่งไปให้เขาดู แล้วถามเขาว่านี่คืออะไร? ทำไมไม่บอกเราว่ามีเบอร์ 1 อยู่แล้ว ทำไมถึงให้เราโง่มาตลอดเลยในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เขาก็บอกว่าเขาขอโทษ เขาไม่ได้ตั้งใจแต่เขาก็เสียหนูไปไม่ได้ หนูก็เลยบอกว่าหนูไม่โอเคเพราะหนูไม่ได้ต้องการมาเป็นที่ 1 หรือที่ 2 ของใคร หรือว่าเป็นตัวเลือกของใครว่าให้เรามาขึ้นชื่อว่าเมียน้อย หนูเลิกกับเขาแบบหนูตัดวันนั้นเลย บล็อกทุกช่องทาง ถามว่าใจหนูมันยังรักไหม? หนูรักเพราะว่ามัน 3 ปี มันเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน จนมันมีเหตุการณ์นึง คือเขามาง้อหนูแหละ หนูเข้าไปอุ่นของเวฟในครัวที่ออฟฟิศ เขาก็เดินตามเข้ามาตอนนั้นเป็นช่วงพักเที่ยง เขาก็มาพูดกับหนูว่า ไม่ไปได้ไหม ไม่มีคนใหม่ได้ไหม ไม่เลิกกับพี่ได้ไหม พี่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีหนูแต่พี่ก็ทิ้งเขาไม่ได้ เขาก็พูดคำนี้มา หนูก็เลยบอกว่า ทำไม่ได้หรอก หนูไม่อยากมาเป็นที่ 2 หรือว่าให้คนอื่นเขามามองในทางไม่ดี อีกอย่างหนึ่ง คือ คนของพี่เขามาก่อนหนูตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เหมือนเขาไม่พอใจตรงที่หนูบอกว่าขนาดตัวพี่ พี่ยังเลือกไม่ได้เลย แล้วจะให้หนูมานั่งเลือกพี่ หนูก็เลือกไม่ได้เหมือนกัน มันมีมีดปอกผลไม้อยู่ในครัวแล้วเขาก็เอามาจี้ตรงคางหนู จี้แบบจิ้มเข้าไปเลยแล้วเขาก็พูดว่า ถ้าเขาเลิกกับหนูไป หนูก็ไม่มีทางมีความสุขได้ พอผ่านไปเป็นช่วงปลายปีพอดี หนูย้ายงานใหม่ หนูก็ย้ายตัวเองออกมา เฟดตัวออกมาทุกอย่าง ก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกัน แต่เขาไม่จบ เขาให้คนตามคอยสืบเรื่องหนูอยู่ตลอดว่าหนูอยู่ที่ไหน หนูทำอะไร หนูเช่าคอนโดพักอยู่ไหน หนูอยู่กับใครเขาจะจ้างคนมาสืบตลอด บางทีให้คนมาตามตัวหนูตลอด ที่หนูรู้เพราะบางทีหนูกำลังเดินเข้าซอยคอนโด หนูก็เห็นผู้ชายคนนึงถ่ายรูป หนูก็รู้แล้วว่าเป็นเขาเพราะว่ามันไม่มีใครยุ่งกับหนูเลยตลอดระยะเวลาที่ตั้งแต่หนูบอกเลิกเขา เขาพยายามทำมาตลอดแต่ตอนแรกเขาทำเอง เขาตามเอง หนูย้ายเข้าไปอยู่คอนโดเพื่อน เขาก็ตามมาวุ่นวายกับเพื่อนหนูว่า เอาหนูมาอยู่เนี่ยไม่ได้รับอนุญาตนะ เขายังไม่ได้เลิกกับหนู หนูอยู่ในการปกครองของเขา แต่ตอนนี้มันไม่ได้เยอะเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เขาก็พยายามส่งคนมาดูห่าง ๆ ว่าหนูทำอะไร อยู่ที่ไหน ล่าสุดที่เราเปิดใจคุยกับคนใหม่แล้วลองไปเดท ไปทานข้าว พอหลังจากทานข้าวเสร็จ เหมือนเขามาเจอเราที่ร้านนี้ แล้วเรานั่งเดทอยู่กับผู้ชายคนนึง เขาก็ไม่พอใจ เขาเดินเข้ามาในร้าน แล้วเขาก็ดึงกระชากหนูจากในร้าน คนเยอะมาก ออกไปหน้าร้านเพื่อที่จะออกไปถามว่า ผู้ชายคนนี้เป็นใคร หนูก็เลยบอกว่า เป็นคนใหม่ ซึ่งเราเลิกกันไปแล้วไม่มีเหตุผลอะไรที่จำเป็นจะต้องมาทำแบบนี้ ทำแบบนี้ไม่ได้นะ มันอยู่กลางที่สาธารณะเลย จะมาทำอะไรแบบนี้ไม่ได้มันไม่ถูก ผู้ชายคนนั้นที่มาเดทกับหนู เขาก็เดินตามออกมา เขาก็ถามว่า มีเรื่องอะไรกัน เหมือนเขาไม่พอใจกับคำตอบ แล้วยิ่งผู้ชายคนนั้นเดินออกมาตามหนู เขาก็ตบหน้าหนูตรงนั้นเลย หนูก็เลยโอเค มันเริ่มไม่ปลอดภัยแล้ว ผู้ชายคนนั้นเขาก็บอกว่ามันเริ่มไม่ปลอดภัย วันนั้นหลังจากที่เขากลับไป หนูก็เลยไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ หนูไม่รู้ว่าควรบอกเมียเขาดีไหม? เพราะมันมีช่วงนึงที่เมียเขาก็สงสัยเหมือนกันในตอนแรกตั้งแต่เขาคบหนู เขาก็พยายามให้น้องในออฟฟิศที่เป็นอีกฝ่ายนึงมาคอยตามสืบว่าเป็นใคร แต่หนูก็นั่งคิดว่าถ้าสมมุติเราไปบอกมันจะเหมือนกับว่าเราอยากแสดงตัวตนไหม? แล้วก็มีก่อนหน้านี้ประมาณ 2 อาทิตย์ที่แล้ว เขาโทรมาใช้เบอร์ใครไม่รู้โทรมาแล้วบอกกับหนูว่า คิดจะทำอะไรคิดให้ดีนะ อย่าคิดว่าจะมีความสุข อย่าคิดว่าชีวิตจะแฮปปี้ ถ้าพี่ไม่มีความสุข หนูก็ไม่มีทางมีความสุขได้ หนูออกมานานแล้วหนูไม่ได้ติดต่อกับเขานานแล้ว แต่หนูอยากจะถามวิธีจากพี่ๆดีเจว่า เราจะพยายามพูดยังไงกับเขาดี? ถ้าเขาโทรมาหรือเขาพยายามหาวิธีมาเจอกับเรา พยายามพูดบอกกับเขาให้หยุดการกระทำนี้สักที หนูใช้ชีวิตแบบหวาดระแวงตลอด เพราะกลัวว่าตัวเองจะโดนดักทำร้ายไหมในวันใดวันนึง?’ เริ่มที่ “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่คิดว่าการพูดกับเขามันไม่มีประโยชน์ เพราะเราปล่อยมานานมากจนทำขนาดนี้แล้วพี่ว่าต้องเหมือนหาวิธีอื่นในการคุมไม่ให้เขาทำได้อย่างแจ้งตำรวจ ลงบันทึกประจำวันแจ้งว่าคนนี้คือคนที่เขามาคุกคาม เขามีประวัติการทำร้ายหนูมาแล้วก็พอจากนี้ไปสมมุติโทรมาก็ต้องอัดเสียงหรืออะไรก็ตาม ให้มันเป็นหลักฐานเก็บหลักฐานว่าเขามีพฤติกรรมแบบนี้ เพื่อที่มันจะได้แจ้งข้อหา ให้มีหลัดฐานมากที่สุดแล้วตำรวจจะได้ชาร์จตัวได้ คือรู้สึกว่าน้องพิมพ์ต้องคิดถึงความปลอดภัยของตัวเอง พิมพ์ต้องบอกคนรอบข้างว่าตอนนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นคือสมมุติว่าถ้าเขาสืบจากเพื่อนของเพื่อนต้องบอกเพื่อนของเพื่อนว่าตอนนี้ปัญหามันเป็นแบบนี้จะมาเปิดเผยไม่ได้ว่าพิมพ์ไปอยู่ไหนเพราะเขาสะกดรอยตามหรือพิมพ์ก็ต้องบอกคนที่คอนโดนิติว่าตอนนี้มันมีคน ๆ นี้ตามเราอยู่ อันนี้คือความปลอดภัยของหนูล้วน ๆ เพราะเขาป่วยแล้วเลยตอนนี้’ ต่อมา “ดีเจอั๋น” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าเราก็ต้องใช้ชีวิตอย่างมีสติแล้ว ก็คือในห้องเราก็ต้องมีกล้องวงจรปิด ในมุมที่ตรงจุดไหนมันสามารถเก็บภาพได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาโทรมาเราต้องบันทึกเสียง การแชทในทุกช่องทางเก็บทั้งหมดเราก็ลองตัดสินใจดูเนื่องจากว่าเหตุมันพึ่งเกิดภายใน 2 เดือนว่าที่เขาตบเรามันถือว่าเป็นชิ้นเป็นอันมาเลยที่เราสามารถดำเนินการได้ ซึ่งกล้องวงจรปิดหน้าร้านคือไปเอามาไว้ก่อนใช้ไม่ใช้ไม่รู้แต่ฉันถือไว้แล้ว แต่ว่าพวกนี้พี่ไม่แน่ใจว่ามันมีอายุความอะไรของมันมากน้อยแค่ไหน แต่ว่าสมมุติว่าเราดำเนินคดีไว้ไม่ต้องตั้งใจว่าจะไปถึงตรงไหนก็ได้นะแต่สิ่งนั้นมันสามารถเป็นสิ่งที่เราไปยื่นให้ HR ของบริษัทเขาได้ ซึ่งเขาก็ต้องรู้ว่าชีวิตเขาก็มีต้นทุนนะ 1 เขามีครอบครัวมีเมียที่เขาก็ไม่อยากสูญเสียเพราะเขาบอกเองว่าเขาไม่อยากเสีย อันที่ 2 คือเขาคงไม่อยากจะเสียงานเพราะฉะนั้นถ้าหากว่าเขามีคดีแล้วมันมีหลักฐานแล้วบอกได้ว่าทั้งหมดพร้อมส่งให้ HR ฉันฝากทั้งหมดนี้ไว้กับพ่อแม่ฉันแล้วอีกเซทนึงเพื่อนสนิทฉันทุกคนมีหมด ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นทุกคนส่งทันทีส่งถึง HR คุณส่งถึงบ้าน ติดต่อครอบครัวคุณ แล้วส่งถึงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมด’สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ก็ได้ให้คำปรึกษาเสริมอีกว่า ‘ให้เขารู้ว่าหนูไม่ได้อยู่คนเดียว มีคนรับรู้เรื่องนี้เกิดขึ้นอยู่ว่าเขาทำแบบนี้ หนูต้องสู้เพื่อตัวเองแล้วเรื่องนี้ เพราะเขาเห็นเรายอมมันก็เลยข่มขู่ไปเรื่อย ๆ ตีแล้วที่รู้ตอนนี้รู้ยิ่งเร็วยิ่งดีตอนนี้ต้องเอาตัวเองปลอดภัยต้องดูแลตัวเองมาก ๆ ต้องระวังมีเพื่อนอะไรก็บอกเพื่อนไว้ด้วย’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1