บ้านอื่นเป็นเหมือนกันไหม... มีพี่น้อง 3 คน ผู้ชายหมด อยู่บ้าน อยู่ด้วยกันไม่ค่อยพูดอะไรกันเลย ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง จนคนแถวบ้านถามทำไมไม่พูดอะไรกันเลยพี่น้องบ้านนี้ ผมอยากรู้มันแปลกไหมครับ?

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

บ้านอื่นเป็นเหมือนกันไหม... มีพี่น้อง 3 คน ผู้ชายหมด อยู่บ้าน อยู่ด้วยกันไม่ค่อยพูดอะไรกันเลย ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง จนคนแถวบ้านถามทำไมไม่พูดอะไรกันเลยพี่น้องบ้านนี้ ผมอยากรู้มันแปลกไหมครับ?

21 พ.ค. 2024

          “คุณวอ (นามสมมติ)” อายุ 30 ปี สายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [15 พ.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล - ดีเจอั๋น’ เกี่ยวกับปัญหาพี่น้องในครอบครัว

          โดย ​“คุณวอ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมมีพี่น้อง 3 คนเป็นผู้ชายทุกคน ซึ่งผมเป็นพี่ชายคนโตอายุ 30 ปี น้องคนกลางอายุ 25 ปี และน้องคนเล็กอายุ 21 ปี โดยเมื่อก่อนเราทั้ง 3 คน เคยเช่าห้องอาศัยอยู่ด้วยกัน เราก็สนิทกัน พูดคุยกันเหมือนกับครอบครัวอื่น เพราะเราถูกเลี้ยงมาด้วยกัน เรียกได้ว่า เติบโตมาพร้อมกัน

          แต่เมื่อพวกเราโตขึ้น ต่างคนก็ต่างแยกย้ายออกไปใช้ชีวิตของตนเอง ซึ่งนับตั้งแต่ตอนนั้น พวกผมทั้ง 3 คนก็ไม่ได้ติดต่อ เพื่อพูดคุยหรือไตร่ถามสารทุกข์สุกดิบกันเลย จนญาติพี่น้องของผมก็เกิดความสงสัยว่า ทำไมพวกแกถึงไม่คุยกัน? ทำไมถึงโทรหากัน? ทำไมถึงไม่ติดต่อหากัน? ซึ่งผมก็เข้าใจ เพราะต่างคนก็ ต่างย้ายไปอยู่กันคนละที่ และด้วยความที่เราทั้ง 3 คนก็เป็นผู้ชายทั้งหมด ผมเลยไม่รู้ว่าเราจะโทรคุยอะไรกัน ?

          แต่ถึงอย่างนั้น พวกผมก็จะกลับมาเจอกันในช่วงงานเทศกาล เช่น งานปีใหม่ งานสงกรานต์ หรืองานรวมญาติ แค่ว่าพวกผมไม่ได้โทรคุยกันเท่านั้น แต่ญาติของผมก็ยังชอบพูดกรอกหูผม อยู่ตลอดเลยว่า เป็นพี่คนโต ทำไมไม่โทรหาน้องมันบ้าง ? ผมเลยอยากถามพี่ ๆ ดีเจว่า การที่ผมไม่ติดต่อกับน้อง ไม่โทรคุยกัน ถือว่าแปลกมั้ยครับ ?’

          ซึ่ง “ดีเจอั๋น” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เข้าใจว่า ญาติคงจะปรารถนาดี แต่วิธีแก้ง่ายที่ง่ายที่สุด คือ การสร้าง LINE GROUP สำหรับ 3 พี่น้อง ในฐานะที่เราเป็นพี่คนโต เราก็บอกกับน้อง ๆ เลยว่า เรามาสร้างกลุ่ม เพื่อไว้คุยเรื่องครอบครัวดีกันกว่า หรือมีไว้เพื่อ จะได้ติดต่อกันแบบรวดเร็ว เพราะบางครั้งการที่เราโทรคุยกัน เราก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร แต่การพิมพ์ข้อความ มันสามารถทำให้เราสื่อสารกันง่ายขึ้น ซึ่งถ้าญาติมาพูดอะไรอีก เราก็ไม่ต้องไปให้ความสำคัญกับทุกประโยค แต่ถ้าอยากทำให้ญาติสบายใจ คุณวอก็พูดว่า เดี๋ยวผมโทรให้เดี๋ยวนี้เลย แล้วก็ยื่นโทรศัพท์ให้คุยกัน’

          ต่อมา “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘ไม่แปลก คุณวอไม่แปลกเลย แทบจะเป็นเรื่องปกติเลย เพราะการที่เราไม่ได้โทรคุย แต่มาเจอกันในงานเทศกาล หรือวันสำคัญ และก็มีการพูดคุยกัน มันเรื่องปกติมาก ๆ เพราะสิ่งที่แปลกไม่ใช่คุณวอ แต่เป็นญาติ ซึ่งเอาจริงเขาก็อาจจะหวังดี ส่งสติกเกอร์สวัสดีวันจันทร์ก็ได้! หรือไม่ก็เอาญาติคนนั้น เข้า LINE GROUP ด้วย เพราะถ้าเขาคุยคนเดียวเขาก็จะเข้าใจว่า ทุกคนไม่ได้ว่าง ต้องทำงาน ทำการ ญาติถามอีกก็ตอบว่า ไม่มีใครมีปัญหาอะไรกัน

          และสุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘ปกติครับคุณวอ เราเจอกันในงานเทศกาล มาร่วมสังสรรค์กัน แล้วก็แยกย้ายกันไปใช้ชีวิต ละนาน ๆ ก็เจอกันที มันปกติมาก ๆ เพราะน้อง ๆ ของคุณวอก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ญาติเขาก็อาจจะแค่ถามแทน ซึ่งวันหลังหากว่าญาติถามอีกก็ตอบว่า ไม่แปลก ปกติเลยครับ เพราะตอนที่เจอก็คุยกันปกติ

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ผู้บริหารที่ต่างประเทศ เห็นรูปหนูแล้วชอบ เลยขอเสนอตัวมาดูงานที่ไทย เขาบอกชอบหนู อยากให้หนูกลับไปพร้อมเขาจะให้เงิน 7 หลัก แต่หนูปฏิเสธไป เพราะหนูก็มีสามีแล้ว แต่พอสามีรู้เรื่องนี้ เห็นเพื่อนมาแซว สามีก็เศร้า เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมเลย...

17 พ.ค. 2024

ผู้บริหารที่ต่างประเทศ เห็นรูปหนูแล้วชอบ เลยขอเสนอตัวมาดูงานที่ไทย เขาบอกชอบหนู อยากให้หนูกลับไปพร้อมเขาจะให้เงิน 7 หลัก แต่หนูปฏิเสธไป เพราะหนูก็มีสามีแล้ว แต่พอสามีรู้เรื่องนี้ เห็นเพื่อนมาแซว สามีก็เศร้า เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมเลย...

“คุณออ (นามสมมติ)” อายุ 29 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์คพุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (16 พ.ค. 67) ได้โทรเข้มาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล – ดีเจอั๋น’ เกี่ยวกับปัญหาที่ผู้บริหารเคยขอซื้อตัว 7 หลัก แต่เราปฏิเสธจนเพื่อนแซว แล้วสามีมาเห็น ทำให้ความสัมพันธ์เราเปลี่ยนไป โดย “คุณออ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูแต่งงานมาแล้ว 7 - 8 ปี ตอนนี้กำลังทำงานอยู่ที่บริษัทต่างชาติ มีผู้บริหาร 2 แบบ คือ แบบที่อยู่ประจำสาขาที่ไทย และประจำอยู่สาขาต่างประเทศที่บริษัทแม่ ซึ่งมีผู้บริหารท่านหนึ่งจากบริษัทแม่บินมาดูงานที่ไทย ท่านเห็นรูปหนูจากรูป Outing ของบริษัท แล้วท่านชอบ พอบินมาวันแรกก็เสนอเงินก้อนหนึ่งประมาณ 7 หลัก ให้หนูเลิกกับสามี แล้วบินไปอยู่กับท่านที่ต่างประเทศเลย แต่หนูปฏิเสธไป ท่านก็เคารพการตัดสินใจของหนู ทีนี้ประเด็นมันมาอยู่ที่สามีของหนูมาเห็นแชทที่คุยเรื่องผู้บริหารคนนี้เล่นกับพี่ๆในออฟฟิศ ประมาณว่าแซวกันเล่นๆ แล้วสามีของหนูเขานอยมาก หลังจากวันนั้นครอบครัวที่มีความสุขก็เปลี่ยนไป ทั้งที่หนูบอกอธิบายไปแล้วว่าหนูปฏิเสธ แล้วท่านก็เข้าใจ เขาคงคิดว่า หนูอาจจะไปสักวัน หรือไม่ก็อาจจะมีผู้บริหารคนอื่นติดต่อหนูมาอีก ตอนนี้ผ่านมา 6 เดือนแล้ว ก็ยังเหมือนเดิม บางครั้งที่อยู่ด้วยกันแล้วมีเสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ เขาก็จะถามว่า ใครไลน์มา หรือไม่ก็เวลาเขาดื่มแล้วเมาเขาก็จะชอบเอาเรื่องนี้กลับมาพูด บางครั้งพูดต่อหน้าผู้ใหญ่ ต่อหน้าพ่อแม่เขา และพ่อแม่เรา ทำนองว่า มีคนมาติดต่อขอเลี้ยงดู แรกๆหนูก็แกล้งตลกกลบเกลื่อนไป แต่หลังๆมันไม่ตลกแล้ว พอมันบ่อยเข้า จนหนูเองก็เริ่มรำคาญ หนูเคยเรียกเขามาคุยตอนเขาไม่เมาประมาณว่า พูดแบบนี้ต่อหน้าผู้ใหญ่มันไม่ดี พ่อแม่คุณจะมองเรายังไง หลังจากนั้นก็เงียบไป สักพักก็จะกลับมาพูดอีก บางครั้งผู้บริหารมาไทยต้องมีกินเลี้ยงต้อนรับกับบริษัท พอเราถ่ายรูปลง สามีก็จะมาเม้นต์ว่า จะไปเอาเงินล้านหรอ ไม่ใช่ในเชิงล้อเล่น จริงๆแล้วสามีหนูเขาไม่ใช่คนขี้ระแวง ไม่เคยหึงเลย แต่ว่ามีครั้งนึงที่เขาไปคุยกับคนอื่นแล้วหนูจับได้ หนูว่าเขาน่าจะฝังใจจากคราวนั้น คงกลัวว่าหนูจะเอาคืน ทั้งที่เรื่องนี้มันผ่านมาแล้ว ตั้งแต่คบกันก่อนแต่ง ที่ผ่านมาก็อยู่ด้วยกันได้ดีตลอด เขาดูเเลเราได้ดีทุกอย่าง อาจจะมีเรื่องเงินเดือนที่น้อยกว่า ประมาณสองเท่าตัว หรือว่าอาจจะเป็นเรื่องนี้ที่เขาไม่ค่อยมั่นใจ สามีกับหนูมีลูกด้วยกันคนเดียว อายุ 6 ขวบ เคยมีเหตุการณ์ครั้งนึงไปเที่ยวด้วยกันต่างจังหวัด ในตอนที่เรามีความสุขกันอยู่ ถึงไม่เมาเขาก็จะพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา หนูพยายามชมเขาต่อหน้ากันเอง และต่อหน้าคนอื่น แล้วลงโซเชียล จนทุกวันนี้หนูแทบจะโพสแต่เรื่องผัวหนูแล้ว หนูจะทำยังไงกับปัญหานี้ดี?’ โดย “ดีเจทั้ง 3 ท่าน” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เรื่องแรก เราอาจจะให้ลูกเป็นตัวเชื่อม โดยทำกิจกรรมร่วมกัน หรือไม่ก็อาจจะลงชื่นชมกับเขาในโซเชียล ครบรอบ Anniversary รักที่สุดเลยนะ อะไรแบบนี้ หรือเวลาที่บรรยากาศดีๆ แล้วเขาพูดปัญหานี้ ให้หนูลองกรี๊ดใส่หน้าเขา ให้เขารู้ว่าเราแปลงร่างได้ แล้วเขาจะงง หรือเมื่อไหร่ถ้าพูดเรื่องนี้ปรับ 1,000 บาท หรือพูดกับเขาตรงๆว่า อย่าทำให้เสียบรรยากาศ หรือว่าถ้าเกิดหนักๆเลย เขาพูดเรื่องนี้ เราก็เอาเรื่องที่เขานอกใจมาพูดบาง เอาคืนมันไปเลย และสุดท้ายแนะนำให้ทั้งคู่ชวนกันไปพบจิตบำบัด ไปปรึกษา ซึ่งการปรึกษาไม่จำเป็นต้องมีปัญหาถึงจะไปได้ แค่พูดคุยเพื่ออัพเดตชีวิตซึ่งกันและกันโดยมีคนกลาง ก็พูดกับสามีไปตรงๆเลยว่า เธอมีปัญหาเรื่องนี้ แต่ต้องพูดกันดีๆ ไม่ต้องทำเป็นเรื่องใหญ่ แล้วก็เตรียมปัญหาไป แบบ เธอมีปัญหาอะไร ฉันมีปัญหาอะไร? แล้วไปคุยกันตรงนั้นโดยที่ไม่ต้องทะเลาะกัน เขาอาจจะยังทำใจไม่ได้ ก็ให้เวลาเขา ชมเขาบ่อยๆให้เขามั่นใจเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูไปรักคนมีแฟน รู้อยู่แล้วว่าเขาคบกัน แต่หนูพลาดท้องกับเขา ตอนนี้หนูท้อง 6 เดือน เขามาแต่งงานกับหนู แต่ก็ยังไปหาแฟนของเขา เหมือนเขายังอยากคบพร้อมกัน 2 คน จะก้าวออกมาจากวงจรนี้ยังไงให้เจ็บน้อยที่สุดคะ??

17 พ.ค. 2024

หนูไปรักคนมีแฟน รู้อยู่แล้วว่าเขาคบกัน แต่หนูพลาดท้องกับเขา ตอนนี้หนูท้อง 6 เดือน เขามาแต่งงานกับหนู แต่ก็ยังไปหาแฟนของเขา เหมือนเขายังอยากคบพร้อมกัน 2 คน จะก้าวออกมาจากวงจรนี้ยังไงให้เจ็บน้อยที่สุดคะ??

“คุณดี (นามสมมติ)” อายุ 21 ปี สายแรกในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [15 พ.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล – ดีเจอั๋น’ เกี่ยวกับปัญหาไปมีความสัมพันธ์กับผู้ชายที่มีแฟนแล้ว สุดท้ายพลาดท้องกับเขา โดย “คุณดี (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูไปหลงรักคนที่มีแฟนแล้ว และคบหากันมาแล้ว 2 ปี จนตัวหนูเองพลาดท้อง เพราะหนูคบกับเขาก็อยากได้เขามาครอบครองเลยเอาลูกมาเป็นตัวยื้อ หนูเลยให้ฝ่ายชายเลือกว่าจะเลือก หนูกับลูก หรือ ผู้หญิงคนนั้น ซึ่งฝ่ายชายตอบกลับมาว่า จะเก็บไว้ทั้งสองฝ่าย ตอนแรกหนูยอมรับกับการที่เป็นมือที่สามของความสัมพันธ์นี้ พอมาถึงจุด ๆ หนึ่งหนูรู้สึกว่าหนูต้องการเขามาก ๆ และต้องการให้เขาอยู่กับหนูตลอดเวลา พ่อแม่ของฝั่งหนูก็รับไม่ได้ที่หนูท้องเลยต้องการให้ฝ่ายชายมาสู่ขอแต่งงานกับหนู ซึ่งฝ่ายชายก็ยอมแต่งกับหนูแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน และแฟนเขาอีกคนไม่รู้เรื่องนี้เลย จนเผอิญวันที่แต่งงานหนูลืมบุหรี่ไฟฟ้าที่มีรอยลิปสติกของหนูไว้บนรถฝ่ายชาย ทำให้แฟนอีกคนฝ่ายชายเห็นและรู้ว่าฝ่ายชายมีมือที่ 3 แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร เขาเลยทะเลาะเบาะแว้งกัน แต่เขาก็ไม่ยอมเลิกกัน ซึ่งหนูก็ไม่ยอมเลิกเหมือนกัน เพราะต่างคนต่างต้องการฝ่ายชายทั้งคู่ ซึ่งหนูต้องการให้เขาเลิกกับแฟนคนอีกคน แต่เขาบอกมาตลอดว่าไม่เลิก หนูเลยยังไม่มั่นใจว่าหนูจะมีความสามารถเลี้ยงดูลูกได้ดีหรือเปล่า เพราะหนูมีเงินเก็บไม่เยอะ เป็นจำนวนที่ไม่สามารถตั้งตัวได้ เพราะโดยปกติฝ่ายชายที่อายุมากกว่าระดับหนึ่งเลยจะเป็นคนสนับสนุนเรื่องการเงิน เพราะเขามีการงานที่ดี และมีฐานะ ตอนนี้หนูท้องได้ 6 เดือนแล้ว ซึ่งแผนที่วางไว้หลังคลอดคือให้ฝ่ายชายเป็นคนเลี้ยง และถ้าเลิกกันฝ่ายชายจะขอลูกไปเลี้ยงเอง หนูอยากถามพี่ๆดีเจว่า หนูจะถอยออกมาทันมั้ย อยากได้คำปรึกษาว่าเดินออกมายังไงให้เจ็บน้อยที่สุด’ โดย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เจ็บน้อยที่สุดอย่างแรกคือ คุณดีต้องให้ลูกกับผู้ชายไปเลี้ยง คุณดีอย่าเลี้ยงเอง พี่ว่าวุฒิภาวะ ความสามารถ และข้อมูลที่คุณดีให้พวกพี่มาตอนนี้ พี่ว่าคุณดีเลี้ยงลูกไม่ได้ คุณดียังไม่พร้อม เพราะการที่ให้ผู้ชายเลี้ยงก็จะแบ่งเบาภาระได้เยอะ คุณดีก็จะกลับไปอยู่สถานะโสด กับอีกอันหนึ่งที่เจ็บน้อยที่สุดพี่ว่าคุณดีต้องเข้าใจว่าความสัมพันธ์นี้เป็นความสัมพันธ์ที่คุณดีเลือกมาแล้วตั้งแต่ต้น ว่าคุณดีจะเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่เขาคบ ซึ่งผลที่ตามมาทั้งหมดมันคือสิ่งที่คุณดีตัดสินใจเลือกเอง พี่ว่าคุณดีน่าจะเห็นผลกระทบและปลายทางของมันแล้วว่าถ้าคุณดีใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆมันจะเป็นยังไง และการออกจากวงจรนี้คือสิ่งที่จะทำให้คุณดีไม่ต้องกลับไปเจ็บอีก และไปหาผู้ชายคนใหม่ที่เขารักและจะมีคุณดีแค่คนเดียวในชีวิต อันนี้พี่อยากจะฝากถึงการใช้ชีวิตของดีด้วย เพราะพี่เป็นห่วง การที่คุณดีอายุ 21 แล้วมีทัศนคติที่จะยอมเป็นมือที่สามของผู้ชายคนหนึ่ง แล้วปล่อยให้ตัวเองท้องโดยที่รู้ว่าผู้ชายมีนิสัยแบบนี้ รวมถึงทำไมยังดูดบุหรี่ไปฟฟ้าในขณะที่ตัวเองท้องอยู่ 6เดือน พี่อยากให้รู้ว่าการกระทำของคุณดีมันมีผลกับชีวิตทุกครั้ง การที่คุณดีเลือกจะทำสิ่งนี้หรือไม่ทำ มันมีผลกับชีวิตจริงๆ เพราะฉะนั้นหลังจากนี้อยากให้คุณดีเลือกสิ่งดี ๆ ให้กับตัวเอง’ ต่อด้วย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘วันนี้พี่ไม่แรง เพราะคุณดีกำลังตั้งครรภ์ และภาวะของการเป็นคุณแม่จะมีฮอร์โมนที่สวิงมาก “พี่ไม่ได้ปกป้องดี แต่พี่ปกป้องลูกในท้องคุณดี” พี่ยังอยากรู้สึกปกป้องลูกคุณดี คุณดีเป็นแม่ต้องปกป้องลูกให้มากกว่านี้ สิ่งที่เกิดขึ้นทำยังไงให้มันเจ็บน้อยที่สุดก็คือ เข้าใจและยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นก่อน เพื่อที่คุณดีจะได้ไปซ่อมสิ่งที่ยังเหลืออยู่ ที่ผ่านมามันผิดไปแล้ว แล้วถ้าคุณดียังอยู่ในวงจรเดิม ความผิดมันก็จะสะสมทับถมไปเรื่อย ๆ ในตอนที่คุณดีออกมามันจะมีหนึ่งช่วงที่เจ็บมาก ๆ คือวันที่ลูกคลอด ความผูกพันระหว่างแม่และลูกมันมีจะมีความผูกพันทางสายเลือด วันที่ผู้ชายรับเลี้ยงลูกคุณดีอาจจะเจ็บปวด ให้ระวังภาวะโรคซึมเศร้า หรือถ้ารู้สึกเจ็บปวดไม่อยากให้ลูกเขาไป ให้คุณดีคิดว่าถ้าคุณดีรักลูกจริง ๆ ต้องให้ลูกอยู่ในที่ที่ดีที่สุด คือการอยู่กับพ่อของลูก เพราะนี่คือปัญหาที่ใหญ่ที่สุด พี่รู้สึกว่าความเจ็บปวดของคุณดีจะน้อยลง เพราะว่าถ้าคุณดีไม่พร้อมที่จะเลี้ยงลูกมันจะกลายเป็นภาระ เมื่อเราไม่มีภาระตรงนี้ คุณดีก็สามารถหันกลับมาใช้ชีวิตของตัวเอง เพราะคุณดีพึ่งจะอายุ 21 แล้วให้จำสิ่งเหล่านี้เป็นบทเรียนแล้วอย่าทำอีก อย่างที่พี่เติ้ลบอก เจอผู้ชายดีๆ ให้เลือกอย่าไม่เลือก และต้องชัดเจนว่าถ้าเราจะคบกับใครเราจะต้องมองอนาคตข้างหน้าด้วย เพราะส่วนใหญ่การเป็นมือที่สามของใครมันไม่ดีทั้งนั้น มันไม่เหมือนในละครที่เราได้ชัยชนะโดยการเอาผู้ชายที่นอกใจมาครอง เพราะสุดท้ายแล้ววันหนึ่งผู้ชายที่นอกใจคนอื่นมาหาเรามันก็จะนอกใจเราไปหาคนอื่นอีกทีเป็นวงจรแบบนี้ เพราะฉะนั้นเมื่อเป็นบทเรียนที่เคยผิดพลาดแล้ว อย่าทำมันอีก’ สุดท้าย “ดีเจอั๋น” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ไม่อยากสรุปฟันธงว่ามันต้องเป็นยังไง เพราะพี่ยังไม่รู้เลยว่าในที่สุดแล้วเงื่อนไขของการที่ผู้ชายรับลูกไปเลี้ยง เขาจะอยู่ในสภาวะไหนเนื่องจากว่าถ้าผู้ชายเอาลูกไปเลี้ยง แฟนอีกคนของผู้ชายอาจจะเลิก ซึ่งพี่ก็งงอีกว่าถ้าเขาเลิกกันแล้วจะเป็นคุณดีแทนมั้ยที่ไปอยู่ในสถานะนั้น ถ้าถามพี่อย่างแรกเลยคือเราต้องตั้งสติ แล้วดูแลตัวเองให้ได้มาก ๆ ในความเครียดทั้งปวงอย่าคิดที่จะคลายความเครียดหรือหนีจากความเครียดด้วยการใช้ตัวช่วยแปลก ๆ ปัญหาทั้งหมดพี่อั๋นคิดว่ามันอาจจะเริ่มจากการที่คุณดีไม่ได้รักตัวเองอย่างถูกวิธี คุณดีอาจจะคิดว่าเราอยากจะมีชีวิตด้วยการหาทางลัดคือ ฉันจะเอาผู้ชายคนนี้ ที่จะพาฉันออกจากวงจรต่าง ๆ ที่ไม่ชอบ แต่พี่คิดว่าเราไม่ได้เริ่มต้นด้วยการทำตัวเองให้ดี นั่นคือปัญหา เพราะฉะนั้นตอนนี้ในส่วนที่เขากำลังดูแลอยู่ เราทำตัวเองให้ดีตรงไหนได้บ้าง เพราะพี่อั๋นคิดว่าหลังคลอดผู้ชายน่าจะไม่ได้เอาลูกไปเลย เพราะลูกต้องกินนมแม่ และมีอะไรหลายอย่างที่ซับซ้อน คือ ณ ตอนนี้ถ้าเป็นพี่อั๋น พี่จะโฟกัสลูก และคุณทั้งสองควรจะคุยกันดีโดยเอาลูกเป็นที่ตั้งว่าจะเลี้ยงลูกด้วยกันยังไง ซึ่งเลี้ยงด้วยกันไม่ได้แปลว่าต้องอยู่ด้วยกัน อาจจะแบ่งกันดูว่ายังไงเพราะที่ผ่านมาคุณดีใช้ลูกเป็นเครื่องมือในการรั้งเขาไว้ เพร่ะฉะนั้นคุณดีต้องป็นแม่ที่ดีให้ได้ คือการเอาลูกไปอยู่กับผู้ชายส่วนใหญ่ แต่ก็ต้องเคลียร์กับผู้ชายให้รู้เรื่องโดยเอาผลประโยชน์ลูกเป็นหลัก และต้องให้ฝ่ายชายเผชิญหน้ากับแฟนอีกคนเกี่ยวกับลูก แล้วหาทางออกว่าจะไปในทิศทางไหน ถ้าแฟนฝ่ายชายตกลงรับลูกเราไปเลี้ยง มันจะเป็นทางที่ดีที่สุด ถือว่าเราโชคดีไป’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

แปลกไหมคะ ถ้า "อดีตเมียน้อย" ที่แย่งสามีเรา จะกลายมาเป็น "เพื่อนสนิทเราในวันนี้" ตอนนี้เราทั้งคู่เลิกกับอดีตสามีไปแล้ว เขาทักมาเคลียร์ใจ ขอโทษ พอเจอกันบ่อยๆ รู้สึกสนิทกันจนเป็นเพื่อนสนิท แล้วเพื่อนเราที่เคยออกตัวสู้แทนเราในวันนั้นก็ไม่โอเคกับเราไปเลย

02 ธ.ค. 2024

แปลกไหมคะ ถ้า "อดีตเมียน้อย" ที่แย่งสามีเรา จะกลายมาเป็น "เพื่อนสนิทเราในวันนี้" ตอนนี้เราทั้งคู่เลิกกับอดีตสามีไปแล้ว เขาทักมาเคลียร์ใจ ขอโทษ พอเจอกันบ่อยๆ รู้สึกสนิทกันจนเป็นเพื่อนสนิท แล้วเพื่อนเราที่เคยออกตัวสู้แทนเราในวันนั้นก็ไม่โอเคกับเราไปเลย

“คุณแจน (นามสมมติ)” อายุ 35 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคือวันพุธที่ [27 พ.ย. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจอั๋น - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาเป็นเพื่อนสนิทกับเมียน้อยของสามีเก่า โดย “คุณแจน (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ต้องขอเท้าความก่อนว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้ว แจนแต่งงานมีสามี ซึ่งแต่งงานได้เพียง 1 ปี ก็จับได้ว่าสามีมีเมียน้อย ก็คือ...ผู้หญิงคนนี้ ขอให้นามสมมติผู้หญิงคนนี้คือ ‘คุณเอ’ ตอนนั้นพอจับได้ก็ทะเลาะกัน ด่ากันฉ่ำ ทั้งเพื่อนของแจนเอง ทะเลาะกันหนักพอสมควร ก่อนที่จะแยกย้ายกันออกมา ทีนี้ผ่านเวลาไปเราก็หย่ากันเรียบร้อย เลิกกันไม่ได้ติดต่อกัน จนเวลาผ่านไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้ทางคุณเอเขาก็ติดต่อแจนมา เล่าให้ฟังว่า เขาเลิกกับอดีตสามีเราแล้ว เรื่องของเขาก็ค่อนข้างจะน่าสงสารเหมือนกัน เหมือนผู้ชายก็ไปมีผู้หญิงใหม่อีกคนนึง ก็คือนอกใจ ตอนนั้นเราก็ไม่ได้ติดใจกับอดีตสามี ไม่มีความคิดนั้นแล้ว ก็เลยได้ปลอบใจคุณเอว่า... เราก็ต้องใช้ชีวิตนะ แล้วก็ด้วยความบังเอิญเจอกันครั้งแรก มีครั้งหนึ่งเหมือนเขาไปเดินห้าง ๆ นึง แล้วเราอยู่ที่นั่นพอดีก็เลยได้นัดเจอกันเป็นครั้งแรก พอเจอกันก็พูดคุย เขาก็เล่าเรื่องของเขาเรื่องเดิม หลังจากนั้นมันกลายเป็นว่าเราเจอกันเกือบทุกวัน จนกลายเป็นนัดกันทุกวัน บางครั้งเขาก็เป็นคนนัดเรา บางครั้งเราก็เป็นคนนัด พอคุยกันเขาก็พยายามจะขอโทษเราตลอดเวลา เขารู้สึกผิด ด้วยความที่ไลฟ์สไตล์ของเราเหมือน ๆ กัน เสื้อผ้าก็ชอบคล้าย ๆ กัน แล้วยิ่งอยู่ใกล้ ๆ กันด้วย กลายเป็นว่าหลังเลิกงานก็นัดไปกินข้าว ช่วงหลัง ๆ มาเริ่มไปต่างจังหวัดด้วยกัน ด้วยฟีลผู้หญิงชอบถ่ายรูป จนมีครั้งนึงก็ถ่าย TikTok ด้วยกัน เพื่อนของเราเห็น แล้วเพื่อนจำได้ เพื่อนก็โทรมาถามว่า ไปเที่ยวกับคนนี้หรอ? ตอนนั้นก็เลยโกหกเพื่อนไปว่าบังเอิญเจอ คือเราเป็นห่วงความรู้สึกเพื่อน ก็ไม่กล้าไปพูดว่าเขาก็ดีนะ กลัวเพื่อนรู้สึกไม่ดี แล้วอีกเรื่องนึงเราลงรูปใน Facebook แต่ไม่ทันได้ตรวจทานให้ดี ดันมีรูปคุณเอ จนเพื่อนอีกกลุ่มเห็นก็เลยมาถามอีก เราก็เลยเล่าให้เขาฟัง เพื่อนเลยบอกว่ามันไม่ได้นะ! กลายเป็นว่าหลังจากนั้นเราก็ปิดมาตลอด ไม่บอกใคร ไม่ได้ลงอะไรอีกเลย แต่ก็ยังเจอกันตลอดเพราะมีความรู้สึกว่า เขาไม่ได้แสดงใส่ เราก็เริ่มมาสนิทกันจริง ๆ เมื่อ 3 เดือนหลัง แต่เริ่มรู้จักกันเมื่อต้นปี หนูเลยอยากถามพี่ ๆ ดีเจว่า ‘มันแปลกมั้ย เราควรจะปิดบังกับเพื่อนของเรามั้ย หรือเราควรจะบอก หรือไม่บอกดี แล้วควรพูดกับเพื่อนอย่างไร?’ เริ่มที่ “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องปกติของโลกนี้ แต่พี่ว่ามันเกิดขึ้นได้ มันไม่ใช่ทุกเคสที่ เมียหลวงจะไปญาติดีกับเมียน้อย แต่มันมี พี่ว่ามันมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้ ควรบอกเพื่อนไหม? พี่ว่าควรบอก ถ้าหนูเจอกันขนาดนี้ สักวันนึงเพื่อนก็ต้องรู้ ถ้าจะบอกพี่ว่าต้องบอกความจริง คุยกับเขาก็ไม่ได้ติดค้างอะไร แล้วคุยกับเขาก็โอเคเป็นเพื่อนกันได้ แต่ก็เข้าใจเพื่อนแหละว่า เพื่อนคงเหว๋อ ‘ตอนนั้นกูยังด่ามันกับมึงอยู่เลย’ แต่ก็ต้องบอกเขาว่าเขาก็เลิกกันแล้ว เล่าที่มาที่ไป พี่ว่าเพื่อนก็น่าจะเข้าใจเราก็โต ๆ กันแล้ว จะเลือกคบใครเพื่อนก็แค่น่าจะเป็นห่วง เราก็ต้องดูดี ๆ เขาจะเข้ามาด้วยอะไร โตแล้วหนูคบก็ต้องดูว่าเขาไม่ได้มามีอะไรแอบแฝง พี่ว่าก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร’ ต่อมา “ดีเจอั๋น” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่า มันก็ไม่ใช่เรื่องปกติ พี่จะไม่ระแวง แต่พี่ก็จะระวัง พี่จะไม่ลืม พี่จะไม่มีวันลืมสิ่งนั้น แต่พี่จะไม่เอามันมาเป็นอุปสรรคนะ พี่ยินดีคบเป็นเพื่อนได้ แต่เราก็ต้องเข้าใจเพื่อนว่าจะรู้สึกอะไรบ้างเพราะว่าเขาเป็นเพื่อนที่เคยออกรบมากับเรา ถ้าเป็นพี่พี่จะนัดทานข้าวกับเพื่อนเราบอกว่า มันมีเรื่องแปลกเกิดขึ้นแล้วเล่าเลย แล้วพูดกับเพื่อน แกไม่ต้องห่วงนะ ฉันไม่ลืม กับสิ่งที่เขาเคยทำ แต่ฉันคบกับเขาวันนี้ แต่ฉันไม่ลืมอดีตของเขา’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘สถานการณ์นี้พี่หอมเคยเป็นเอ ก็คือผู้ชายไม่ได้บอกว่า มีแฟนแล้ว พอรู้ว่า แฟนเขาเริ่มโทรมาแสดงตัวว่าเขาคือแฟน เราก็เบรก แต่ส่วนผู้ชายก็จะไป ๆ กลับ ๆ จนเบอร์ 1 เริ่มท้อใจเสียใจ พอรู้ว่าผู้ชายหายไปก็จะเริ่มโทรตามที่เรา มันก็เหมือนผู้หญิงจะโทรคุยกับเรามากขึ้น เรารู้สึกว่ามันมีความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ณ ตอนนั้นเราก็ไปกับเขาเยอะ จนกลายเป็นที่ปรึกษาปรับทุกข์พูดคุยสอบถามกัน แต่เพื่อนเราก็จะเตือนแบบนี้เหมือนกัน เพื่อนเตือนว่า เห้ย! ไม่ใช่ ยังไงเขาก็เป็นแฟนเก่า ซึ่งเพื่อนก็จะไม่เข้าใจเราเหมือนกัน แต่ตอนนั้นเรารู้สึกว่าเราเข้ากันได้ดีเลย แต่ทีนี้ที่เรายุติเพราะว่าเขาก็ไม่ได้หยุดกับทางฝั่งผู้ชาย สรุปได้เลยว่า หอมก็เข้าใจว่าการที่พูดคุยมันก็มาจากคนที่เจ็บช้ำน้ำใจเหมือนกัน แล้วมันเข้าอกเข้าใจ จนกลายเป็นเปิดหมด เราแทบไม่มีความลับต่อกัน เพราะบางเรื่องเหมือนพูดกับเพื่อนไม่ได้ก็เลยเข้าใจว่า มันคบกันได้นะ เพราะมันไม่มีผู้ชายเป็นตัวแปรแล้ว แต่ก็อย่างที่พี่ ๆ เขาบอกกัน เราก็ไม่ต้องกระโดดไปทั้งหมดเพราะมันก็แค่พึ่ง 3 เดือน ในความรู้สึกหอมค่อย ๆ ดูกันไป ถ้ายังมีความสุขกับการอยู่ตรงนี้ แต่ก็ไม่แนะนำให้ปิดเพื่อน ทิ้งท้าย ดีเจทั้งสาม ก็ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า ‘ตอนนี้เพื่อนเป็นห่วงเรา แต่เราก็ไม่ได้ลืม แต่ก็ไม่ต้องไปยืนยันว่า แกเขาดีมาก ๆ เลย บอกเพื่อนว่ามันมีสิ่งนี้เกิดขึ้น แต่ว่าฉันมีสติอยู่นะแก แต่พี่ว่าเราก็ใช้เวลานาน ๆ หน่อย แม้แต่กับเพื่อนก็มีช่วงโปรโมชั่นเหมือนกันนะ’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูมีพี่ที่ทำงานคนนึง กลิ่นปากแรงมากกกกกกกก แล้วเค้าพูดกับหนูเยอะที่สุด ตอนนี้เจอยาอมตัวนึงอยากลองสั่งซื้อให้พี่เขา แต่จะให้ยังไงให้ดูไม่น่าเกลียดดีคะ?? ขอวิธีแบบเนียนๆ

19 ก.ค. 2024

หนูมีพี่ที่ทำงานคนนึง กลิ่นปากแรงมากกกกกกกก แล้วเค้าพูดกับหนูเยอะที่สุด ตอนนี้เจอยาอมตัวนึงอยากลองสั่งซื้อให้พี่เขา แต่จะให้ยังไงให้ดูไม่น่าเกลียดดีคะ?? ขอวิธีแบบเนียนๆ

“คุณทิพย์ (นามสมมติ)” อายุ 28 ปี สายที่ 3 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (17 ก.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล – ดีเจอั๋น’ เกี่ยวกับปัญหาพี่ที่ทำงานกลิ่มปากเหม็นมากกกก! “คุณทิพย์ (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘หนูย้ายที่ทำงานมาเกือบปีแล้ว ในแผนกจะมีพี่เลี้ยงคนหนึ่งคอยดูแลอยู่ตลอด เป็นคนที่คุยกับหนูเยอะที่สุดเพราะเวลามีงานใหม่ หรือเวลามีปัญหาก็ต้องถามเขา จึงต้องคุยกันตลอด แล้วพี่เขาปากเหม็นมาก แต่หนูก็ไม่กล้าบอกพี่เขาเพราะยังทำงานไม่ถึงปี แล้วก็ยังไม่สนิทถึงขั้นที่จะพูดว่าเขาปากเหม็นได้ หนูเลยต้องพยายามถามเขาให้น้อยที่สุด แต่บางทีพี่เขาคุยโทรศัพท์อยู่โต๊ะข้างๆหนู กลิ่นมันก็ลอยมา แล้วหนูก็พยายามเอาพัดลมมาเป่ากลิ่นไป พยายามชวนเขากินลูกอม แต่เขาก็ไม่กินเพราะลดน้ำตาล หรือบางทีหนูก็เอาแมสมาใส่เวลาเขามาคุยด้วย ไม่รู้ว่าเขาจะรู้ไหม หนูก็พยายามดูคนอื่นว่ามีปฏิกริยาแบบหนูไหม ปรากฎว่าไม่มีเลยสักคน หนูจึงต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามาเรื่อยๆ จนเมื่อไม่นานมานี้หนูไปเจอทวิตหนึ่ง เขาพูดถึงยาที่ช่วยดับกลิ่นมาจากข้างในเหงื่ออกก็หอม แต่หลักๆคือช่วยเรื่องกลิ่นปาก ซึ่งไม่ใช่ลูกอม แต่เป็นยาที่ต้องกลืนเข้าไป ซึ่งหนูอยากซื้อให้พี่เขา เลยอยากรู้ว่าจะให้ยังไงดีที่จะไม่กระอักกระอ่วน?’ โดยพี่ๆดีเจได้ให้คำปรึกษาไปในทางเดียวกันว่า ‘ลองใช้ลูกอมดับกลิ่นปากแบบไม่มีน้ำตาลก่อน เวลาเขามาคุยให้หนูทำเป็นกินลูกอมแล้วยื่นให้เขา พี่ว่าน่าจะเบากว่ายาดับกลิ่นปากที่หนูบอกนะ เพราะถ้าให้ยาอันนั้น ก็เท่ากับหนูพูดแล้วว่าเขาปากเหม็น ซึ่งพูดเลยอาจจะดูดีกว่าเอายาให้เขากิน ยาอันนี้มันเหมือนลรักษาถึงรากข้างในเลย จริงๆกลิ่นปากสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนในโลกเลย แต่ต่อให้เขากิน แล้วเขากินวันเดียว หายวันเดียว มันก็เท่านั้นมันไม่ได้แก้ปัญหา พี่ว่าเขาต้องรู้ว่าเขามีปัญหาเรื่องกลิ่นปากแล้วให้เขาไปแก้ เช่น ปัญหาเรื่องเหงือก ปัญหาเรื่องฟัน เพราะถ้ายังไม่แก้ต่อให้เขาอมอะไรก็ตาม มันก็จะไม่หาย หรือลองคุยกับเพื่อนที่ทำงานที่สนิท ลองเช็คว่าเราได้กลิ่นคนเดียวมั้ย หรือลองแจ้งแม่บ้าน ว่ามีกลิ่นเหมือนมีอะไรตาย ให้เขาลองเดินเข้ามาเช็คหลายๆวัน ถ้ามันไม่เจอก็ลองเกริ่นไปว่า หรือว่าปากหนูเหม็น’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1