หนูโกนขนจิโม๊ะจนเกลี้ยง รักษาความสะอาด พอหนูกำลังจะทำกิจกรรมกับสามี สามีเห็นแล้วตกใจจนน้องชายหลับกลางอากาศ สามีบอกว่าไม่ชินเลย ที่จิโม๊ะไม่มีขนแบบนี้ ตอนนี้หนูจะจัดการปัญหานี้ยังไงดีคะ?? จะโกนขนจิโม๊ะให้เกลี้ยงแบบนี้ต่อไปดีไหม

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูโกนขนจิโม๊ะจนเกลี้ยง รักษาความสะอาด พอหนูกำลังจะทำกิจกรรมกับสามี สามีเห็นแล้วตกใจจนน้องชายหลับกลางอากาศ สามีบอกว่าไม่ชินเลย ที่จิโม๊ะไม่มีขนแบบนี้ ตอนนี้หนูจะจัดการปัญหานี้ยังไงดีคะ?? จะโกนขนจิโม๊ะให้เกลี้ยงแบบนี้ต่อไปดีไหม

09 ก.ย. 2025

              “คุณนิดา (นามสมมติ)” อายุ 34 ปี เป็นสายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [3 ก.ย. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล - ดีเจเกลือ” เกี่ยวกับปัญหาของขนน้องสาวที่มากวนใจทำให้ต้องกำจัดทิ้ง แต่มันกลับทำให้สามีไม่มีอารมณ์ร่วม

            โดย “คุณนิดา (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘แต่งงานกับสามีมาประมาณ 8-9 ปี ไม่เคยมีปัญหาเรื่องอื่น ๆ เลย ก่อนหน้านี้เราทายยาคุม ประจำเดือนก็มาน้อยเราเลยไม่ได้สนใจกับเรื่องขนน้องสาวขนาดนั้น  แต่พอตัดสินใจว่าจะมีลูกกับสามีก็เลยหยุดทานยาคุมไป ประจำเดือนก็มาเยอะขึ้น เราเลยมีการเล็มขนน้องสาวให้สั้นลงบ้าง แต่มีอยู่วันหนึ่งเราเล่นโทรศัพท์อยู่ก็มีความรู้สึกว่า อยากกำจัดขนน้องสาสออกไปให้หมดเลย จะได้เป็นการรักษาความสะอาดไปด้วย เราเลยลองสั่งครีมกำจัดขนมากำจัดขนน้องสาวจนหมดเกลี้ยง ตอนแรกก็ได้มีการบอกสามีแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นปัญหา พอแฟนเขาเห็นน้องสาวของเราเขาก็ตกใจบอกว่าเหมือนของเด็กเลย แล้วเขาก็บอกว่าน่ากลัว มีอยู่วันหนึ่งก็มีอะไรกัน แล้วมือเขาก็สัมผัสไปโดนตรงนั้นของเรา แล้วเขาก็บอกเราว่า เขาทำต่อไม่ได้แล้ว แล้วอยู่ดี ๆ น้องชายของเขาก็หลับกลางอากาศไปเลย แล้วหลังจากวันนั้นเขาก็ไม่เข้าใกล้ แล้วก็ไม่ยุ่งกับตรงนั้นอีกเลย ก็เลยคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นปัญหาจริง ๆ หรอสำหรับชีวิตคู่ เลยอยากมาขอความคิดเห็นว่ามันเป็นเรื่องปกติไหมที่สามีจะไม่มีอารมณ์เพราะเราไม่มีขนน้องสาว?’

            ซึ่ง “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่คงตอบในมุมผู้ชายไม่ได้ในเรื่องของความรู้สึก แต่พี่จะตอบในเรื่องของความสวยงาม ปกติผู้หญิงเขาก็กำจัดขนกันอยู่แล้ว พี่ว่ามันเป็นรสนิยมส่วนบุคคลมากกว่า มันก็ไม่แปลกถ้าแฟนจะรู้สึกว่ามันแปลก ๆ อาจจะต้องคุยกับเขาว่าควรทำยังไงดี อธิบายให้เขาเข้าใจเรื่องความสะอาด’

            ต่อมา “ดีเจเกลือ” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘มันเป็นไปได้ที่แฟนเราจะไม่มีอารมณ์เพราะเราไม่มีขนน้องสาว มันมีกลุ่มอาการที่เรียกว่า Phobia เราไม่รู้ว่าเขามี Trauma อะไรเกี่ยวกับความเกลี้ยงเกลา เหมือนกับคนที่เป็นโรคกลัวขน อันนี้เราก็ต้องเข้าใจเขา ซึ่งมันก็ต้องเกิดจากการพูดคุยว่าจะหาทางออกยังไง หรือถ้าเราอยากจะกำจัดขนจริง ๆ แต่ถ้าแฟนเขายังไม่มีอารมณ์ร่วมให้ลองปรึกษานักจิตวิทยาเพื่อเข้ารับการบำบัดดู’

            และสุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เมื่อไหร่ที่ผู้หญิงกำจัดขนออกมันจะเห็นสีที่แท้จริงของน้องสาวเรา ซึ่งผู้ชายจะไม่เคยเห็นมาก่อน พี่แนะนำว่าไปเลเซอร์ฝังสี ขนน้องสาวมันมีประโยชน์ แต่ข้อเสียของขนคือมันจะทำให้เกิดกลิ่นได้ง่าย คราวนี้เราต้องแยกให้ออกว่าเขาไม่ชอบสีของน้องสาวเราหรือไม่ชอบความเกลี้ยงเกลาจริง ๆ ไม่งั้นเจ็บตัวฟรี ลองเลือกดูว่าวิธีไหนเหมาะกับคู่เรา’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูอายุ 27 อาสาลาออกจากงาน มาดูแลคุณปู่ที่ป่วย คุณปู่หนูเส้นเลือดในสมองแตก หนูดูแลสุดความสามารถ แต่หนูไม่รู้ว่าตลอดระยะเวลาเกือบเดือน ที่คุณปู่พูดไม่ได้ แต่เอามือเกาๆแขนตลอด คืออาการแพ้ยาของปู่ จนอาการลุกลาม สุดท้ายคุณปู่หนู จากไปด้วยโรคมะเร็งปอด

09 ก.ย. 2025

หนูอายุ 27 อาสาลาออกจากงาน มาดูแลคุณปู่ที่ป่วย คุณปู่หนูเส้นเลือดในสมองแตก หนูดูแลสุดความสามารถ แต่หนูไม่รู้ว่าตลอดระยะเวลาเกือบเดือน ที่คุณปู่พูดไม่ได้ แต่เอามือเกาๆแขนตลอด คืออาการแพ้ยาของปู่ จนอาการลุกลาม สุดท้ายคุณปู่หนู จากไปด้วยโรคมะเร็งปอด

หนูอายุ 27 อาสาลาออกจากงาน มาดูแลคุณปู่ที่ป่วย คุณปู่หนูเส้นเลือดในสมองแตกหนูดูแลสุดความสามารถ แต่หนูไม่รู้ว่าตลอดระยะเวลาเกือบเดือน ที่คุณปู่พูดไม่ได้แต่เอามือเกาๆแขนตลอด คืออาการแพ้ยาของปู่ จนอาการลุกลาม สุดท้ายคุณปู่หนูจากไปด้วยโรคมะเร็งปอด ตอนปู่มีชีวิต หนูพูดจาไม่ดีใส่ ดุใส่ปู่ตลอด เพราะไม่เข้าใจพอตอนนี้ปู่จากไปแล้วหนูกลับมาโทษตัวเองตลอดว่าทำได้ไม่ดีพอ ทุกครั้งที่หนูนึกถึงปู่หนูอยากจะมีความสุข หนูไม่อยากจมอยู่กับความรู้สึกผิดแบบนี้ ทำยังไงดีคะ? “คุณพี (นามสมมติ)” อายุ 27 สายที่ 2 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [3 ก.ย. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจต้นหอม – ดีเจเติ้ล – ดีเจเกลือ” เกี่ยวกับปัญหาความรู้สึกผิดในใจที่มีต่อคุณปู่ที่เสียไปแล้ว โดย “คุณพี (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘คุณปู่ของหนูได้เสียไปแล้ว ท่านเป็นเส้นเรื่องในสมองแตก ท่านอายุ 80 ปีแล้ว ที่บ้านเลยเลือกที่จะไม่ผ่า เพราะกลัวท่านจะเจ็บ ทรมาน เลยเลือกที่จะรักษาตามอาการ กลายเป็นว่าท่านกลายเป็นอัมพาตครึ่งซีกที่ข้างขวา พูดไม่ได้ บ้านหนูเลยส่งไปอยู่ศูนย์ที่ไว้สำหรับดูแลผู้ป่วยที่มีลักษณะแบบนี้ อยู่ไปได้ประมาณเดือนนึง น้ำหนักคุณปู่ลงมาถึงสิบโล ทางนั้นเขาก็ไม่ได้แจ้งว่าให้ท่านทานอะไร ก็เลยพากลับมาดูแลที่บ้าน หนูลาออกจากงานมาเป็นคนดูแลหลัก หลังจากนั้น ก็พาท่านไปทำกายภาพ ไปตรวจคลินิก หมอเขาให้ยาทานมา แต่ผ่านไปหนึ่งเดือน คุณปู่แพ้ยานั้น หนูเลยรู้สึกผิดเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ทั้งๆที่เราเป็นคนดูแลเขา เราดูไม่ออกเลยว่า ท่านแพ้ยา พอท่านเกามากขึ้น ก็คิดว่าผิวท่านบางแก่แล้ว พอมาดูดีๆ มันมีผื่นเยอะเกินไป เลยได้ไปตรวจ คุณปู่กลายเป็นโรคผิวหนังอย่างรุนแรงมากมาตลอดสองปีเต็มๆ ท่านเคยเกาจนเลือดออกทั้งตัว หนูกลายเป็นคนหงุดหงิดง่าย เพราะคุณปู่ดื้อมากๆ ไม่เคยทำตามที่บอกเลย คุณปู่ก็ต้องสวมปลอกมือ เพื่อกันไม่ให้เกาอีก แต่กลายเป็นว่าดื้อหนักขึ้นเพราะพยายามจะแกะออก ที่บ้านก็เริ่มรู้ว่า หนูพูดไม่ดี ทำให้ทำร้ายจิตใจท่าน เขาก็ส่งคุณปู่ไปที่ศูนย์อีกครั้ง แต่ครั้งนั้น ที่นั่นก็ดูแลไม่ดี ทำให้คุณปู่มีแผลกดทับ ไม่เช็ดตัว รักแร้เลยส่งกลิ่นเหม็นออกมา หนูเลยขอโทษที่บ้าน และขอโอกาส เพื่อที่จะดูแลท่านอีกรอบ หนูพูดจากับท่านดีขึ้น ไม่โมโหใส่ รอบนี้ที่ท่านกลับมา มีฝีขึ้นที่รักแร้จนต้องผ่า ขึ้นๆซ้ำถึงสามรอบ มีโรคแทรกซ้อนขึ้นมาเรื่อยๆ เป็นน้ำท่วมปอด หมอเลยดูดออก เอาเลือดไปตรวจ เลยได้รู้ว่าท่านเป็นมะเร็งปอดอีก คุณหมอไม่ได้ให้ทำคีโม เพราะอายุมากแล้ว เลยได้รักษาแบบประคับประคอง จนท้ายที่สุด วันที่ยี่สิบเจ็ด คุณปู่หายใจครืดคราด หัวใจเต้นดังมากๆ พอหนูวัดเครื่องชีพจรของท่านตอนช่วงตีสาม ก็เกินร้อย เลยตื่นเช้ามาวัดอีกรอบ ก็ยังสูงอยู่ จึงให้ที่บ้านพาไปโรงพยาบาล คุณหมอบอกว่า ข้างในไหวแล้ว เลยให้คุณปู่ไปอยู่ในห้องผู้ป่วยระยะสุดท้าย งดน้ำ งดอาหาร จะอยู่ได้ไม่เกินสองถึงสามวัน แต่ท่านสู้มากๆ อยู่ได้ถึงห้าวัน โดยที่ไม่กินข้าวกินน้ำ และวันที่หนึ่งมิถุนา คุณปู่ก็ได้จากไป ที่บ้านเขาไม่ได้ว่าอะไรหนู แต่เรารู้สึกกับตัวเองว่าที่ผ่านมา ทำได้ไม่ดี ทำไมถึงไม่รู้ว่าท่านแพ้อะไร ทำไมหนูถึงอารมณ์เสียใส่ท่าน ทั้งที่คุณปู่ก็ป่วยอยู่ หนูอยากขอโทษเขา เพราะทุกครั้งที่หนูอารมณ์ไม่ดี ท่านก็ยิ้มให้เราตลอด ทั้งที่ก็พูดไม่ได้ ข้างในหนูยังคงรู้สึกผิดต่อท่าน ถึงแม้ว่าคุณปู่จะจากไปแล้วก็ตาม วันที่ยี่สิบเจ็ดตอนตีสาม ที่วัดชีพจรรอบแรก ถ้าหนูพาท่านไปโรงพยาบาลตั้งแต่แรก ท่านจะไม่ตายใช่มั้ย หนูอยากได้กำลังใจจากพวกพี่ อยากเปลี่ยนความคิดเวลาที่คิดถึงคุณปู่ ให้ไม่รู้สึกผิด’ เริ่มที่ “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่จะแชร์ในมุมที่เราพึ่งสูญเสียคนรัก เพราะเมื่อวันศุกร์ทีผ่านมาาพี่พึ่งจะเสียคุณพ่อไป การที่เขาเสียมันดีกว่าการที่เขาจะต้องนอนทรมานอยู่บนเตียง การสูญเสียครั้งนี้สำหรับพี่ พี่คิดว่ามันดีกับเขา เพราะฉะนั้นแม้ว่าเขาจะจากไป มันเป็นเรื่องที่จะต้องเสียใจ แต่เขาไปสบายแล้ว ถ้าเขายังจะต้องอยู่ ความทรมานของตัวเขาเองที่เป็นหลักสำคัญ และการที่เขาจากไปแบบที่เขาเห็นว่าพีเป็นคนดูแลเขาในวาระสุดท้าย ไม่มีอะไรที่พี่จะต้องรู้สึกติดค้าง พียังเป็นคนปกติ เป็นเด็กวัย 27 ปี ที่ต้องมาดูแลคนป่วย การดูแลไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะต้องแข็งแรงทั้งร่างกาย และจิตใจ อย่างน้อยพีก็รู้สึกตัว และพยายามแก้ไขมัน พีอยากนึกถึงเขาแล้วยิ้มออกมา พีก็นึงถึงรอยยิ้มที่เขายิ้มให้พี คุณปู่เขารักหลานคนนี้ ไม่มีอะไรต้องติดค้าง ต้องเสียใจ สิ่งที่พีทำ ดีที่สุดเท่าที่จะทำให้ได้แล้ว’ ต่อมา “ดีเจเกลือ” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เราต้องตระหนักรู้ในตัวเองให้ได้ว่า เราทำเต็มที่ที่สุดแล้ว สำหรับคนที่เรารัก ยังไงใจของเรา ก็จะรู้สึกว่า มันยังคงน้อยไปอยู่ดี แต่สุดท้ายสิ่งที่เราต้องมองให้เห็นคือ เรามีความปรารถนาดีต่อคุณปู่ของเรา การที่คนเราอยู่ด้วยกัน มันไม่มีทางสมบูรณ์หรอก มันมีทั้งความสุข การทะเลาะกัน เมื่อเวลาผ่านไป มันจะกลายเป็นอดีต อยู่ที่ตัวเราจะเลือกสิ่งไหนมาจดจำไว้ เราเลือกได้ อยู่ที่การเปลี่ยนมุมมอง ถ้ามันเกินเดือนนึง ให้ปรึกษา นักจิตวิทยา’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกเสริมว่า ‘ในชีวิตคนเรา เราทั้งทำไม่ดีกับคนอื่น และทำดีกับคนอื่นเสมอ ให้ดูที่เจตนาของเรา ที่อยากจะช่วยเหลือเขา พีทำดีที่สุดแล้ว ขอบคุณที่พีมาแชร์เรื่องนี้ มันทำให้คนอื่นอาจจะหันไปดูแลคนรักมากขึ้น’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางhttps://www.youtube.com/watch?v=5P-zvY_YXRIt=1sใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

หนูทำงานที่นี่มาปีกว่าๆ แต่ตอนนี้ได้ย้ายแผนก มาอยู่อีกแผนกที่มีพี่ที่ทำงานคนนึง ทำงานมา 20+ ปี เป็นคนขวางโลก ไล่จับผิดคนแผนกอื่นไปหมด ใส่ร้ายคนอื่น ว่าคนอื่นลับหลัง ล่าสุดหนูเจอกับตัว ทำงานแทนเขาแท้ๆ สุดท้ายเขาไปบอกหัวหน้า ว่าหนูไม่ทำงาน อู้งาน

09 ก.ย. 2025

หนูทำงานที่นี่มาปีกว่าๆ แต่ตอนนี้ได้ย้ายแผนก มาอยู่อีกแผนกที่มีพี่ที่ทำงานคนนึง ทำงานมา 20+ ปี เป็นคนขวางโลก ไล่จับผิดคนแผนกอื่นไปหมด ใส่ร้ายคนอื่น ว่าคนอื่นลับหลัง ล่าสุดหนูเจอกับตัว ทำงานแทนเขาแท้ๆ สุดท้ายเขาไปบอกหัวหน้า ว่าหนูไม่ทำงาน อู้งาน

หนูทำงานที่นี่มาปีกว่าๆ แต่ตอนนี้ได้ย้ายแผนก มาอยู่อีกแผนกที่มีพี่ที่ทำงานคนนึงทำงานมา 20+ ปี เป็นคนขวางโลก ไล่จับผิดคนแผนกอื่นไปหมด ใส่ร้ายคนอื่น ว่าคนอื่นลับหลังล่าสุดหนูเจอกับตัว ทำงานแทนเขาแท้ๆ สุดท้ายเขาไปบอกหัวหน้า ว่าหนูไม่ทำงาน อู้งานหนูจะทนอยู่กับคนแบบนี้ยังไง ใจก็ไม่อยากลาออก เพราะสังคมที่นี่คนอื่นดีมากเงินเดือนก็พอใจ และ เป็นงานที่เรายังชอบอยู่ “คุณนุ่น (นามสมมติ)” อายุ 30 ปี เป็นสายที่สี่ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [3 ก.ย. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจต้นหอม - ดีเจเติ้ล - ดีเจเกลือ” เกี่ยวกับปัญหารุ่นพี่ในทีมเอาเปรียบการทำงาน โดย “คุณนุ่น (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูโดนย้ายแผนกในที่ทำงาน ตอนนี้ทำแผนกนี้มาได้เกือบปีแล้ว แต่มีรุ่นพี่ที่ทำงานเอาเปรียบในเรื่องการทำงาน เขาเป็นคนไม่ทำงาน แต่เขาไปฟ้องหัวหน้าว่าเราไม่ทำงาน สัปดาห์ที่แล้วมีการประชุมแผนก พี่คนนี้เขาก็ไปฟ้องหัวหน้าว่าหนูไม่ทำงาน ก่อนหน้านี้หัวหน้ามอบหมายงานของพี่เขามาให้หนูทำ ซึ่งพี่เขาปฎิเสธงานนี้ แล้วเขาก็ไปฟ้องรุ่นพี่อีกคนในแผนกเดียวกันว่าหนูไม่ทำงาน ทั้งๆที่หนูทำงานแทนเขาจนดึกเลย ทีนี้เขาก็ให้รุ่นพี่ที่เขาไปฟ้อง ไปฟ้องหัวหน้าอีกทีนึงว่าหนูไม่ทำงาน หัวหน้าเขาก็เลยพูดในที่ประชุม ประมาณว่าหนูทำงานให้เขาจนดึก แบบมา defend ให้หนู อีกวันนึง พอหนูมาถึงออฟฟิศก็มีเอกสารมาส่ง หนูก็เอาเอกสารไปวางไว้ที่โต๊ะ เพราะเป็นงานของพี่เขา แล้วพี่เขาก็ไปฟ้องรุ่นพี่ว่าหนูทำเอกสารหาย หนูก็เลยกลัวว่าคนอื่นจะมองว่าหนูไม่มีความรับผิดชอบขนาดนั้นเลยหรอ ไม่ทำงานด้วย แถมยังทำเอกสารหายอีก คนที่ใส่ร้ายหนูเป็นแค่คนที่ร่วมงานด้วยเท่านั้น หนูอยากให้ความรู้สึกแย่กับเขามันหายไป เราต้องทำงานด้วยกันต่อไปเรื่อยๆ พอหัวหน้าไม่อยู่ เขาก็จะไม่ทำงาน จะหายไปจากแผนกเลย ซึ่งถ้าเกิดเขาไม่รับผิดชอบ คนที่หัวหน้าจะมอบหมายให้ก็คือหนู งานก็ต้องมาตกที่หนูอีก จริงๆหนูไม่ต้องพูดก็ได้ เพราะพี่คนนี้ทำงานที่นี่มา 20 ปี เขาก็จะรู้ว่าคนนี้เป็นยังไง แต่พวกคนที่สนิทกับเขาก็จะเชื่อเขา เพราะหนูก็เพิ่งย้ายมาแผนกนี้ แต่ไม่ได้มีผลอะไรกับหัวหน้า หัวหน้าเขาก็รู้ว่าหนูทำงาน แล้วประเด็นคือหัวหน้าหนูตอนนี้กำลังจะเกษียณ ซึ่งคนที่จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าต่อไปคือคนที่เขาไปฟ้อง หนูกลัวเขาจะเข้าข้างกันเพราะเขาทำงานมาด้วยกันมานานมากๆ ตอนนี้ความรู้สึกหนูแย่มาก หนูอยากมีความรู้สึกดีขึ้น อยากมีกำลังใจในการทำงานขึ้น เมื่อก่อนหนูไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เข้ามาเลย หนูจะจัดการความรู้สึกของหนูยังไง? และไม่ให้เขารังแกหนูอีก’ เริ่มด้วย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘หนูไม่ต้องกลัวเรื่องการฟ้อง ความจริงคือความจริง ใครทำเอกสารหายมันเปลี่ยนไม่ได้ ส่วนเขาจะชอบหรือไม่ชอบเราไม่เป็นไร แต่ถ้าเขาไปฟ้องอะไรที่เป็นเรื่องแต่ง หนูสามารถเดินไปบอกหัวหน้าได้เลย ต่อให้เป็นเพื่อนกันก็ตาม หนูไม่ได้มาขอความเห็นใจ หนูมาชี้แจง ส่วนแก๊งของแม่ป้าที่สุ่มหัวว่าเรา ไม่ต้องแคร์ คนศีลเสมอกันมันก็คบกันได้ เราไม่ใช่ที่จะอยู่ในกลุ่มนั้น ไม่ต้องแคร์คนที่เกลียดเรา ต่อให้เราดีกับคนเหล่านั้นมากขนาดไหนก็ตาม ถ้ามันเกลียดเราแล้วมันก็คือเกลียดเรา เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องแคร์ แคร์เฉพาะคนที่อยู่กับเรา และแคร์เนื้อหาของงานเรา ต้องไม่กระทบกับภาพลักษณ์และประสิทธิภาพการทำงานของเรา’ ต่อมา “ดีเจเกลือ” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘แน่นอนมันไม่มีอะไรดีไปหมด บรรยากาศ สภาพแวดล้อมที่เราอยู่มันมีทั้งดีและไม่ดี แต่มันอยู่ที่มุมมองของเราว่าจะอยู่ที่จุดไหน ถ้าเรามองในสิ่งดีๆ เราก็จะเริ่มรู้สึกว่าเดี๋ยวสิ่งไม่ดีก็จะผ่านไปได้ อยู่กับตัวเราเอง เอาตัวเองและหัวใจไปอยู่กับคนที่เขาดีกับเรา เพราะฉะนั้นอย่าไปเสริมแรงเขา อย่าไปทำให้เขาสำเร็จผลในการที่จะทำให้เรามีความทุกข์ นั่งภวงค์กับเรื่องนี้ ถ้าอยากแก้แค้นเขา จงทำตัวเองให้มีความสุขในที่ทำงานให้มากที่สุด สุดท้ายแล้วความจริงใจ ความตั้งใจทำงานของเรามันจะแสดงผลเอง ต่อให้หนูกังวลว่าพี่คนที่เขาไม่ชอบหนูได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าคนต่อไป หนูก็ต้องรู้แล้วว่าถ้าเขาได้ขึ้นมาจริงๆแล้วเขาเข้าข้างเพื่อนเขาที่คอยเป่าหูอยู่ตลอด เป็นคนหูเบา หนูจะอยู่กับหัวหน้าแบบนั้นไปทำไม’ สุดท้าย “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘สำหรับพี่ พี่จะไม่ปล่อยให้มันมีผลกับชีวิตพี่เลย เต็มที่พี่จะหัวเราะกับเพื่อนพี่ เพราะฉะนั้นเราไม่ต้องไปทำตามเกมเขา ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกับเราเลย แต่แนะนำว่าหลังจากนี้จะทำอะไร ถ่ายรูปเก็บหลักฐานไว้หน่อย พอโดนว่าอะไรมาค่อยปล่อยหลักฐานไป อย่าให้มันมาบั่นทอนจิตใจตัวเอง ขนาดหัวหน้าเรายังเห็นว่าเราเป็นยังไง อย่าเสียเวลาและให้ค่าคนแบบนี้’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1