
15 ส.ค. 2025
ผมอายุ 27 ตอนนี้ทำงานเงินเดือน XXX,XXX บาท แต่ชีวิตผมไม่มีความสุขเลย เจอสังคมที่ทำงานแย่ หัวหน้าไม่พอใจอะไรขว้างของเสียงดัง จนตอนนี้ได้ไปฟัง PODCAST แล้วคิดได้ว่าอยากจะเก็บเงินก้อนนึง แล้วออกมาทำธุรกิจ
ผมอายุ 27 ตอนนี้ทำงานเงินเดือน XXX,XXX บาท แต่ชีวิตผมไม่มีความสุขเลย เจอสังคมที่ทำงานแย่หัวหน้าไม่พอใจอะไรขว้างของเสียงดัง จนตอนนี้ได้ไปฟัง PODCAST แล้วคิดได้ว่าอยากจะเก็บเงินก้อนนึง แล้วออกมาทำธุรกิจ เปิดร้านหมูกระทะเอง แต่ที่บ้านไม่สนับสนุนทุกคนบอกว่าเสี่ยงเกินไป ตอนนี้เราเป็นเหมือนเสาหลัก ค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมดยังต้องพึ่งเราอยู่ถ้าเราออกไปทำแล้วไม่รอด ก็จะเสียรายได้ประจำ 6 หลักไปเลยทุกคนคิดว่า ผมควรจะตัดสินใจยังไงดีครับ? “คุณจ๊อยส์ (นามสมมติ)” อายุ 27 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [13 ส.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจอ๋อง – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาทำงานประจำได้เงินเดือน 6 หลักแต่กลับไม่มีความสุขในการทำงานเลย โดย “คุณจ๊อยส์ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมทำงานประจำตอนนี้ได้เงินเดือน 6 หลักแต่ไม่มีความสุขในการทำงานเลย ด้วยความที่งานตอนนี้เพิ่งทำมาได้ 3 เดือน ยังไม่ผ่านโปรด้วยซ้ำ แต่ผมเครียดมาก กดดันมาก เหมือนพลังชีวิตมันพังลงและสูญเสียความเป็นตัวเองไปเยอะเลย คือต้องย้อนไปเมื่อตอนอายุ 19-20 ตอนนั้นผมเรียนช่าง จบปุ๊บเศรษฐกิจไม่ดี หางานยากมาก ผมก็เลยไปฝึกงาน 2 ที่รวมระยะเวลาก็ 9 เดือนเพราะผมเชื่อว่ามันจะเป็นใบเบิกทางชีวิตให้เราได้ พอฝึกจบก็เกิด COVID 19 พอดี ผมเลยตัดสินใจไปเรียนต่อปริญญาตรีสายวิศวกรรม แต่จังหวะดีโชคเข้าข้าง ทำให้ผมได้งานจากการที่ใช้วุฒิช่างยื่นไป ผมก็ทำงานควบคู่กันไป แต่พอทำงานเป็นกะด้วยเรียนด้วย ส่งผลให้ผมป่วยติดเชื้อในกระเพาะอาหาร ผมก็ฉุดคิดได้ว่าอยากลองทำงานอะไรที่มันใหญ่ขึ้นแล้วไม่กระทบเรื่องสุขภาพ ก็เลยตัดสินใจลาออกไปเรียนต่อปอโทที่ต่างประเทศ กลับมาไทยก็ได้เข้าทำงานต่อเลย ทุกอย่างเร็วไปหมดไม่ได้พักเลย บริษัทแรกที่เข้าไปทำยังไม่ตอบโจทย์ก็ลาออกมาทำในสายที่ผมคุ้นเคย พอย้ายมาบริษัทที่นี่ผมมีตำแหน่งที่สูงขึ้น คนภายนอกมองมาจะมองว่าผมชีวิตดีมากแต่ความจริงแล้วเบื้องหลังเต็มไปด้วยความเครียด มันหนักมากเหมือนเป็น Work ไร้ Balance จริง ๆ มันไม่มีเวลาได้พักหรือได้ใช้ชีวิตเลย แต่ที่มันหนักอาจเป็นเพราะหน้าที่และสภาพแวดล้อมของที่ทำงาน บางครั้งถ้ามีคนทำงานพลาด หัวหน้าก็จะมีความก้าวร้าวนิดนึง มีการปาข้าวของใส่บ้าง มันทำให้ผมเครียดว่าผมจะทำงานพลาดไม่ได้นะ นอกจากเรื่องหัวหน้าแล้วก็ยังมีงานที่โหลดหรือหลาย ๆ อย่างที่เราจะต้องตัดสินใจด้วย แต่จริง ๆ ก็ได้เงินเดือนสูงขึ้นตามไปด้วย มากกว่าที่เก่า 20% เลย หลัง ๆ ผมฟัง Podcast เยอะจนคิดว่าสิ่งที่ผมทำอยู่ตอนนี้ใช่สิ่งที่ผมชอบจริง ๆ หรือเปล่าหรือแค่เป็นสิ่งที่ต้องทำเพื่อความมั่นคง ก็เลยมานั่งคุยกับตัวเองจนตระหนักได้ว่าผมชอบงานบริการหนิ ชอบคุยกับคน เราเป็น Extrovert มันทำให้เกิดสิ่งที่ผมอยากทำคือการเปิดร้านอาหาร ผมก็เลยไปปรึกษาเพื่อน แต่คำพูดของเพื่อนทำให้ผมตกใจ เพื่อนบอกผมว่า “เฮ้ยจ๊อยส์ เราเป็นเพื่อนกันมา 10 ปีนี่เป็นครั้งแรกที่นายพูดว่านายชอบอะไร ชีวิตนายต้องเป็นยังไง” แต่พอผมเอาไปปรึกษากับที่บ้านกลับไม่มีใครเห็นด้วยกับผมเลยเพราะเขาก็มองว่ามันไร้สาระ ด้วยความแม่ผมป่วยเป็นโรคร้ายอยู่ด้วยและน้องสาวก็ยังเรียนอยู่มหาลัยเอกชน แม่ก็เลยพูดประชดผมว่าถ้าออกมาทำแล้วเจ๊งแม่ก็จะไม่รักษาต่อแล้ว ผมก็เลยอยากถามพี่ดีเจว่า ถ้าพี่เป็นผม ทำงานเก็บเงินไปสักพัก พอมีเงินก้อนก็ลาออกมาทำในสิ่งที่อยากทำมั้ย เพราะใจนึงผมก็อยากลองทำอะไรบางอย่างก่อนที่จะอายุ 30 อย่างน้อยถ้ามันไม่สำเร็จเราก็กลับมาหางานประจำทำใหม่ได้แต่ผมก็กังวลความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับเท่านี้แล้ว ’ เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ในระบบการศึกษาไทยค่อนข้างเร่งรีบ เรียนมัธยมจบก็ต้องเข้ามหาลัยเลย ถ้า Gap Year ก็จะถูกมองว่าสอบไม่ติด พอจบมหาลัยก็ต้องรีบหางานทำ ถ้า Gap Year ก็จะถูกมองว่าตกงาน ประเทศเราไม่เคยปลูกฝังหรือบอกเด็กว่าสามารถพักเพื่อค้นหาตัวเองได้ ถ้าถามว่าจะลาออกจากออฟฟิศไป Gap Year ได้มั๊ยก็ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดในชีวิตคุณ ถ้าเรื่องเงินและเวลาไม่ใช่ปัญหาก็ไปได้ ต้องถามว่าคุณจ๊อยส์คิดว่าตัวเองทำได้มั๊ย ถ้าได้ก็ลาออกเลย ถ้าไม่ได้ ผมก็ยังเชื่อว่าบริษัทนี้ไม่ได้เป็นที่เดียวที่ให้ผลตอบรับเท่านี้ คุณยังสามารถหางานแบบเดียวกันในบริษัทอื่นได้โดยที่อาจจะดีต่อสุขภาพจิตมากกว่า อย่าคิดว่าถ้าออกจากการทำงานนี้แล้วจะต้องหยุดงานไปเลย คราวนี้ต้องมาคำนวณรายรับ-รายจ่ายแล้วว่าจะพอกับการที่ Gap Year มั๊ยเพราะฉะนั้นประเมินข้อจำกัดของตัวเองและวางแผนให้สอดคล้องกับข้อจำกัด’ ต่อมา “ดีเจอ๋อง” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘คุณจ๊อยส์ต้องถามตัวเองก่อนว่าที่ไม่มีความสุขเพราะอะไร เพราะพี่มองว่าไม่ว่าจะงานอะไรก็เครียดและกดดันได้หมด ถ้าเราอยู่ไม่ถูกที่ แล้วคุณเคยถามตัวเองหรือยังว่าที่นี่ใช่ที่ของตัวเองมั๊ย การที่เราจะทำงานอะไรเราต้องมีความสุขกับมัน แต่ ณ เศรษฐกิจตอนนี้การที่มีงานเกาะไว้ก่อนก็ได้เปรียบกว่า แต่งานที่เกาะก็ต้องมีความสุขด้วย ถ้าไม่มีก็อยากให้หางานใหม่ถึงแม้เงินจะไม่ได้หกหลักหรือลดลงมาหน่อย แต่เรามีความสุขในการใช้ชีวิตอ๋องจะเลือกทางนี้มากกว่า และถ้าเงินเก็บเราเยอะพอที่จะใช้ได้ในระหว่างที่หยุดงานก็พักได้เลย แต่ไม่สนับสนุนเพราะไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีงานสนับสนุนเราอยู่หรือเปล่า แล้วตอนนี้เราสามารถทำงานประจำควบคู่กับการทำงานประจำได้มั๊ย จากที่ฟังข้อจำกัดต่าง ๆ รู้สึกว่างานประจำยังเป็นเซฟโซนกับเราได้อยู่ ถ้าเราหาความสุขกับงานนี้ไม่ได้เราก็ต้องไปหาจากความสุขสิ่งอื่น ใช้เวลาว่างทำในสิ่งที่ชอบแล้วดูว่ามันสามารถพัฒนาเป็นธุรกิจได้จริงหรือเปล่า อย่าเพิ่งหยุดงานประจำ ตอนนี้อาจจะเหนื่อยหน่อยแต่ก็คุ้ม’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘ทำอะไรให้นึกถึงภาระของเราเป็นที่ตั้ง จากนั้นเรามาหางานที่ทำให้เรามีความสุข ทำหลาย ๆ อย่างมาประกอบกันให้ได้รายรับพอกับค่าใช้จ่าย เช่น ชอบการไปสอนมากในวันเสาร์ แล้วจันทร์ - ศุกร์ทำอะไรได้บ้างที่ต้องไม่เกิดการลงทุนและเราทำควบคู่กับงานไปได้ด้วย อย่าเอาเงินไปลงทุนเพราะเศรษฐกิจบ้านเราช่วงนี้มันยังไม่ดี ลองมองตลาดออนไลน์ลองทำหลาย ๆ อย่าง แนะนำว่าถ้าเบื่องานเก่าจริง ๆ ให้ค่อย ๆ เริ่มทำงานใหม่โดยที่ไม่ต้องเอาตัวเราเข้าไปทำทุกวัน ถ้าชอบทำอาหารลองเปิดร้านขายอาหารที่เปิดแค่วันอาทิตย์อย่างเดียว ซึ่งต้องเป็นเมนูที่ไม่มีในท้องตลาด แล้วทำให้คนติดเพื่อรอให้ถึงวันอาทิตย์ และอีกงานที่น่าสนใจคืองานแบบ Affiliate กำลังเป็นที่นิยม ลองมองอาชีพแบบนี้ดู’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการInboxฝากเรื่องมาที่FacebookFanpageEFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา20.00 – 23.00น. ทางรายการวิทยุEFM94และAppAtimeFung Fin


