ที่บ้านหนูมีแม่บ้านคนนึง เป็นแม่นมประจำครอบครัว อยู่ดูแลหนูและครอบครัวมา 40 กว่าปีแล้ว เคารพรักเหมือนแม่คนนึงของพวกหนูเลย แต่ล่าสุด เงินรายเดือนที่ให้คุณยายหายไป 8,000-10,000 เลยติดกล้องวงจรปิด

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ที่บ้านหนูมีแม่บ้านคนนึง เป็นแม่นมประจำครอบครัว อยู่ดูแลหนูและครอบครัวมา 40 กว่าปีแล้ว เคารพรักเหมือนแม่คนนึงของพวกหนูเลย แต่ล่าสุด เงินรายเดือนที่ให้คุณยายหายไป 8,000-10,000 เลยติดกล้องวงจรปิด

15 ส.ค. 2025

ที่บ้านหนูมีแม่บ้านคนนึง เป็นแม่นมประจำครอบครัว อยู่ดูแลหนูและครอบครัวมา 40 กว่าปีแล้ว

เคารพรัก เหมือนแม่คนนึงของพวกหนูเลย แต่ล่าสุด เงินรายเดือนที่ให้คุณยายหายไป 8,000-10,000

เลยติดกล้องวงจรปิด ถึงได้รู้ว่าทุกครั้งที่หนูออกจากบ้าน แม่บ้านคนนี้จะเปิดตู้ ค้นของในบ้าน

ขโมยเงินสดในบ้าน ตอนนี้มีหลักฐานครบหมดทุกอย่างแล้ว แต่มีคนรู้ไม่กี่คน

ทุกคนก็ยังไม่ได้จัดการอะไร เพราะใจนึงก็สงสารและผูกพัน จะทำยังไงต่อไปดีคะ?

ตอนนี้เขายังทำตัว ค้นของ ตามปกติ โดยไม่รู้ว่าพวกหนูรู้แล้วว่าเขาทำอะไรในบ้านของหนู

          “คุณเอ (นามสมมติ)” อายุ 29 ปี สายแรก ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [13 ส.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจอ๋อง - ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาแม่นมที่ไว้ใจขโมยเงิน

          โดย “คุณเอ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ที่บ้านมีคุณยาย อายุค่อนข้างเยอะแล้ว อาศัยอยู่ที่บ้าน ในแต่ละเดือนก็จะให้เงินท่านทุกเดือน  ประมาณเดือนละ 8,000 บาท แต่คุณยายก็ไม่ได้ออกไปไหน ซื้อมากสุดก็แค่ยาคูลท์เล็กๆน้อยๆ แต่พอคุณแม่มาดูเงิน ก็หมดแทบจะทุกเดือน บางเดือนไม่เหลือ และคุณยายก็มาขอเพิ่ม จนครอบครัวก็เริ่มสงสัยว่า มันเกิดจากอะไร?

          ที่บ้านของเราเป็นบ้านแฝด มีสองครอบครัวอยู่ในพื้นที่เดียวกัน เป็นครอบครัวคุณแม่ และน้องสาวคุณแม่ ในตอนนี้คุณยายได้ย้ายไปอยู่ฝั่งบ้านน้า เพราะจะได้อยู่ชั้นหนึ่ง มีพี่เลี้ยงคอยดูแล ประมาณสามสี่คน รวมแม่บ้านด้วย

            ทางครอบครัวเราก็เป็นห่วง กลัวว่าคุณยายจะสติเลอะเลือน  ไปให้เงินคนอื่นมั่วๆซั่วๆ  เลยซื้อกล้องที่ดูไม่เหมือนกล้องวงจรปิดมาติดไว้ในห้องของคุณยาย หลังจากติดแล้ว เราก็รู้ว่าเป็นใคร เขาคือหัวหน้าแม่บ้าน  เขาจะเข้ามาค้นกระเป๋า ตอนคุณยายไปสวดมนตร์ ถ้าเราเปลี่ยนที่ซ่อนไปเรื่อยๆ เขาก็จะหาจนเจอ และเขาเป็นเหมือนแม่นมเราเลยก็ว่าได้ อยู่กับที่บ้านมานานกว่าสี่สิบปี  บ้านเรารักเขามาก

            แต่เรื่องหลักๆเลย คือ อำนาจในการตัดสินใจว่าจะให้คนอยู่หรือไป ส่วนมากเป็นคุณน้า เพราะแม่บ้านจะอยู่ฝั่งบ้านนั้นเป็นหลัก คุณน้าของเราเป็นคนที่ไม่ค่อยรับฟัง โมโหแรง และชีวิตของคุณน้าพึ่งพาแม่บ้านคนนี้เป็นหลักเลย ในเรื่องอาหารการกินในทุกวัน เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดกับแม่บ้านคนนึง ที่เราไม่ได้ผูกพันมาก คุณน้าพอรู้เรื่อง ก็ให้เขามาขอโทษ แล้วก็จบไป ไม่ได้ไล่ออก ยังให้อยู่ต่อ เลยอยากปรึกษาพี่ๆดีเจว่า เราควรจัดการกับเรื่องนี้ยังไงดี? กับแม่นมที่เรารักมากๆแล้วเขาขโมยของคุณยาย’

            เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าให้ง่ายที่สุด ต้องเรียกเจ้าตัวมาคุย แต่เป็นการพูดคุยกันที่เรา ไม่ต้องไปคาดหวังว่าผลจะเป็นยังไง เขาจะลาออกมั้ย ผมเชื่อว่าปฏิกิริยาของเขาจะเป็นคำตอบให้เอทราบเอง ว่าควรจะทำยังไงต่อ ยังไงเราก็ดูแลชีวิตเขามาอย่างดีสี่สิบปีแล้ว แต่ถ้าเป็นบ้านผม ผมคงจะให้เขาออก ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่กับบ้านผมมานาน แต่ถ้าบ้านของเอรู้สึกว่า ให้เขาไป เขาก็ไม่รู้จะไปไหน ต้องถามบ้านเอทั้งบ้านว่า ยังไว้ใจเขาได้มั้ย พร้อมที่จะอยู่กับความหวาดระแวงหรือเปล่า ส่วนคุณน้า เขาก็ควรได้รู้ว่า คนที่อยู่ใกล้ตัวเขามีพฤติกรรมแบบนี้  เขาจะระวังหรือเปล่า ให้อยู่ต่อหรือเปล่าก็เป็นการตัดสินใจของเขา’

            ต่อมา‘ดีเจอ๋อง’ ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่แนะนำให้คุยตรงๆก่อน  เข้าใจที่เอ ผิดหวัง และเสียใจ แต่พี่จะปลอบใจในแง่ที่ว่า เราสามารถเสียใจได้เต็มที่เลย แต่ต้องมีสติ  ความรักที่เราให้เขาไปตลอดสี่สิบปี    ที่ผ่านมา ไม่ได้ช่วยให้เขาไม่ทำไม่ดีกับเรา เขารู้อยู่แก่ใจว่ามันผิด แต่เขาก็ยังเลือกที่จะทำ เพราะเขาไม่เห็นคุณค่าความรักของเราที่มีให้กับเขา พี่มองว่าเราไม่ต้องประนีประนอมขนาดนั้น  เพราะถ้าเขาเห็นค่าความรักของเรา ถ้าเขามีปัญหาอะไร เขาจะขอความช่วยเหลือ ถ้าคนมันรักดี’

            สุดท้าย‘ดีเจต้นหอม’ ได้ให้คำปรึกษาเสริมอีกว่า ต้องเข้าทางน้า แล้วยกตัวอย่างเรื่องอะไรก็ได้ ที่ดูเป็นกรณีคล้ายคลึงกัน กับเรื่องที่เกิดขึ้นในบ้าน อาจจะบอกว่าเป็นเรื่องของเพื่อน ลองปรึกษาเขาดู เพื่อดูท่าที เช่น สมมุติว่าแม่นมที่บ้านเราขโมยของน้าจะทำยังไง แต่ถ้าเขาเข้าข้างแม่นม ก็ไม่ต้องผ่านน้าแล้ว เอคุยกับแม่นมโดยตรงเลย บอกเขาว่า เรามีคลิปเป็นหลักฐาน ให้เลือกว่า จะลาออกไปเอง หรือจะให้แจ้งตำรวจ และเรื่องนี้จะไม่ถึงน้า เราจะรู้กันแค่นี้ หรือ คุยกับแม่นมว่า อย่ายุ่งกับยาย ไม่งั้นเราจะแจ้งตำรวจ แต่ก็ต้องพูดกับน้าด้วย ว่าคนๆนี้จะไม่ยุ่งกับเรื่องของยายอีก ถ้าน้าจะให้อยู่ต่อ ก็แล้วแต่น้า

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION 

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ผมอายุ 27 ตอนนี้ทำงานเงินเดือน XXX,XXX บาท แต่ชีวิตผมไม่มีความสุขเลย เจอสังคมที่ทำงานแย่ หัวหน้าไม่พอใจอะไรขว้างของเสียงดัง จนตอนนี้ได้ไปฟัง PODCAST แล้วคิดได้ว่าอยากจะเก็บเงินก้อนนึง แล้วออกมาทำธุรกิจ

15 ส.ค. 2025

ผมอายุ 27 ตอนนี้ทำงานเงินเดือน XXX,XXX บาท แต่ชีวิตผมไม่มีความสุขเลย เจอสังคมที่ทำงานแย่ หัวหน้าไม่พอใจอะไรขว้างของเสียงดัง จนตอนนี้ได้ไปฟัง PODCAST แล้วคิดได้ว่าอยากจะเก็บเงินก้อนนึง แล้วออกมาทำธุรกิจ

ผมอายุ 27 ตอนนี้ทำงานเงินเดือน XXX,XXX บาท แต่ชีวิตผมไม่มีความสุขเลย เจอสังคมที่ทำงานแย่หัวหน้าไม่พอใจอะไรขว้างของเสียงดัง จนตอนนี้ได้ไปฟัง PODCAST แล้วคิดได้ว่าอยากจะเก็บเงินก้อนนึง แล้วออกมาทำธุรกิจ เปิดร้านหมูกระทะเอง แต่ที่บ้านไม่สนับสนุนทุกคนบอกว่าเสี่ยงเกินไป ตอนนี้เราเป็นเหมือนเสาหลัก ค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมดยังต้องพึ่งเราอยู่ถ้าเราออกไปทำแล้วไม่รอด ก็จะเสียรายได้ประจำ 6 หลักไปเลยทุกคนคิดว่า ผมควรจะตัดสินใจยังไงดีครับ? “คุณจ๊อยส์ (นามสมมติ)” อายุ 27 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [13 ส.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจอ๋อง – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาทำงานประจำได้เงินเดือน 6 หลักแต่กลับไม่มีความสุขในการทำงานเลย โดย “คุณจ๊อยส์ (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมทำงานประจำตอนนี้ได้เงินเดือน 6 หลักแต่ไม่มีความสุขในการทำงานเลย ด้วยความที่งานตอนนี้เพิ่งทำมาได้ 3 เดือน ยังไม่ผ่านโปรด้วยซ้ำ แต่ผมเครียดมาก กดดันมาก เหมือนพลังชีวิตมันพังลงและสูญเสียความเป็นตัวเองไปเยอะเลย คือต้องย้อนไปเมื่อตอนอายุ 19-20 ตอนนั้นผมเรียนช่าง จบปุ๊บเศรษฐกิจไม่ดี หางานยากมาก ผมก็เลยไปฝึกงาน 2 ที่รวมระยะเวลาก็ 9 เดือนเพราะผมเชื่อว่ามันจะเป็นใบเบิกทางชีวิตให้เราได้ พอฝึกจบก็เกิด COVID 19 พอดี ผมเลยตัดสินใจไปเรียนต่อปริญญาตรีสายวิศวกรรม แต่จังหวะดีโชคเข้าข้าง ทำให้ผมได้งานจากการที่ใช้วุฒิช่างยื่นไป ผมก็ทำงานควบคู่กันไป แต่พอทำงานเป็นกะด้วยเรียนด้วย ส่งผลให้ผมป่วยติดเชื้อในกระเพาะอาหาร ผมก็ฉุดคิดได้ว่าอยากลองทำงานอะไรที่มันใหญ่ขึ้นแล้วไม่กระทบเรื่องสุขภาพ ก็เลยตัดสินใจลาออกไปเรียนต่อปอโทที่ต่างประเทศ กลับมาไทยก็ได้เข้าทำงานต่อเลย ทุกอย่างเร็วไปหมดไม่ได้พักเลย บริษัทแรกที่เข้าไปทำยังไม่ตอบโจทย์ก็ลาออกมาทำในสายที่ผมคุ้นเคย พอย้ายมาบริษัทที่นี่ผมมีตำแหน่งที่สูงขึ้น คนภายนอกมองมาจะมองว่าผมชีวิตดีมากแต่ความจริงแล้วเบื้องหลังเต็มไปด้วยความเครียด มันหนักมากเหมือนเป็น Work ไร้ Balance จริง ๆ มันไม่มีเวลาได้พักหรือได้ใช้ชีวิตเลย แต่ที่มันหนักอาจเป็นเพราะหน้าที่และสภาพแวดล้อมของที่ทำงาน บางครั้งถ้ามีคนทำงานพลาด หัวหน้าก็จะมีความก้าวร้าวนิดนึง มีการปาข้าวของใส่บ้าง มันทำให้ผมเครียดว่าผมจะทำงานพลาดไม่ได้นะ นอกจากเรื่องหัวหน้าแล้วก็ยังมีงานที่โหลดหรือหลาย ๆ อย่างที่เราจะต้องตัดสินใจด้วย แต่จริง ๆ ก็ได้เงินเดือนสูงขึ้นตามไปด้วย มากกว่าที่เก่า 20% เลย หลัง ๆ ผมฟัง Podcast เยอะจนคิดว่าสิ่งที่ผมทำอยู่ตอนนี้ใช่สิ่งที่ผมชอบจริง ๆ หรือเปล่าหรือแค่เป็นสิ่งที่ต้องทำเพื่อความมั่นคง ก็เลยมานั่งคุยกับตัวเองจนตระหนักได้ว่าผมชอบงานบริการหนิ ชอบคุยกับคน เราเป็น Extrovert มันทำให้เกิดสิ่งที่ผมอยากทำคือการเปิดร้านอาหาร ผมก็เลยไปปรึกษาเพื่อน แต่คำพูดของเพื่อนทำให้ผมตกใจ เพื่อนบอกผมว่า “เฮ้ยจ๊อยส์ เราเป็นเพื่อนกันมา 10 ปีนี่เป็นครั้งแรกที่นายพูดว่านายชอบอะไร ชีวิตนายต้องเป็นยังไง” แต่พอผมเอาไปปรึกษากับที่บ้านกลับไม่มีใครเห็นด้วยกับผมเลยเพราะเขาก็มองว่ามันไร้สาระ ด้วยความแม่ผมป่วยเป็นโรคร้ายอยู่ด้วยและน้องสาวก็ยังเรียนอยู่มหาลัยเอกชน แม่ก็เลยพูดประชดผมว่าถ้าออกมาทำแล้วเจ๊งแม่ก็จะไม่รักษาต่อแล้ว ผมก็เลยอยากถามพี่ดีเจว่า ถ้าพี่เป็นผม ทำงานเก็บเงินไปสักพัก พอมีเงินก้อนก็ลาออกมาทำในสิ่งที่อยากทำมั้ย เพราะใจนึงผมก็อยากลองทำอะไรบางอย่างก่อนที่จะอายุ 30 อย่างน้อยถ้ามันไม่สำเร็จเราก็กลับมาหางานประจำทำใหม่ได้แต่ผมก็กังวลความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับเท่านี้แล้ว ’ เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ในระบบการศึกษาไทยค่อนข้างเร่งรีบ เรียนมัธยมจบก็ต้องเข้ามหาลัยเลย ถ้า Gap Year ก็จะถูกมองว่าสอบไม่ติด พอจบมหาลัยก็ต้องรีบหางานทำ ถ้า Gap Year ก็จะถูกมองว่าตกงาน ประเทศเราไม่เคยปลูกฝังหรือบอกเด็กว่าสามารถพักเพื่อค้นหาตัวเองได้ ถ้าถามว่าจะลาออกจากออฟฟิศไป Gap Year ได้มั๊ยก็ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดในชีวิตคุณ ถ้าเรื่องเงินและเวลาไม่ใช่ปัญหาก็ไปได้ ต้องถามว่าคุณจ๊อยส์คิดว่าตัวเองทำได้มั๊ย ถ้าได้ก็ลาออกเลย ถ้าไม่ได้ ผมก็ยังเชื่อว่าบริษัทนี้ไม่ได้เป็นที่เดียวที่ให้ผลตอบรับเท่านี้ คุณยังสามารถหางานแบบเดียวกันในบริษัทอื่นได้โดยที่อาจจะดีต่อสุขภาพจิตมากกว่า อย่าคิดว่าถ้าออกจากการทำงานนี้แล้วจะต้องหยุดงานไปเลย คราวนี้ต้องมาคำนวณรายรับ-รายจ่ายแล้วว่าจะพอกับการที่ Gap Year มั๊ยเพราะฉะนั้นประเมินข้อจำกัดของตัวเองและวางแผนให้สอดคล้องกับข้อจำกัด’ ต่อมา “ดีเจอ๋อง” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘คุณจ๊อยส์ต้องถามตัวเองก่อนว่าที่ไม่มีความสุขเพราะอะไร เพราะพี่มองว่าไม่ว่าจะงานอะไรก็เครียดและกดดันได้หมด ถ้าเราอยู่ไม่ถูกที่ แล้วคุณเคยถามตัวเองหรือยังว่าที่นี่ใช่ที่ของตัวเองมั๊ย การที่เราจะทำงานอะไรเราต้องมีความสุขกับมัน แต่ ณ เศรษฐกิจตอนนี้การที่มีงานเกาะไว้ก่อนก็ได้เปรียบกว่า แต่งานที่เกาะก็ต้องมีความสุขด้วย ถ้าไม่มีก็อยากให้หางานใหม่ถึงแม้เงินจะไม่ได้หกหลักหรือลดลงมาหน่อย แต่เรามีความสุขในการใช้ชีวิตอ๋องจะเลือกทางนี้มากกว่า และถ้าเงินเก็บเราเยอะพอที่จะใช้ได้ในระหว่างที่หยุดงานก็พักได้เลย แต่ไม่สนับสนุนเพราะไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีงานสนับสนุนเราอยู่หรือเปล่า แล้วตอนนี้เราสามารถทำงานประจำควบคู่กับการทำงานประจำได้มั๊ย จากที่ฟังข้อจำกัดต่าง ๆ รู้สึกว่างานประจำยังเป็นเซฟโซนกับเราได้อยู่ ถ้าเราหาความสุขกับงานนี้ไม่ได้เราก็ต้องไปหาจากความสุขสิ่งอื่น ใช้เวลาว่างทำในสิ่งที่ชอบแล้วดูว่ามันสามารถพัฒนาเป็นธุรกิจได้จริงหรือเปล่า อย่าเพิ่งหยุดงานประจำ ตอนนี้อาจจะเหนื่อยหน่อยแต่ก็คุ้ม’ สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ให้คำปรึกษาว่า ‘ทำอะไรให้นึกถึงภาระของเราเป็นที่ตั้ง จากนั้นเรามาหางานที่ทำให้เรามีความสุข ทำหลาย ๆ อย่างมาประกอบกันให้ได้รายรับพอกับค่าใช้จ่าย เช่น ชอบการไปสอนมากในวันเสาร์ แล้วจันทร์ - ศุกร์ทำอะไรได้บ้างที่ต้องไม่เกิดการลงทุนและเราทำควบคู่กับงานไปได้ด้วย อย่าเอาเงินไปลงทุนเพราะเศรษฐกิจบ้านเราช่วงนี้มันยังไม่ดี ลองมองตลาดออนไลน์ลองทำหลาย ๆ อย่าง แนะนำว่าถ้าเบื่องานเก่าจริง ๆ ให้ค่อย ๆ เริ่มทำงานใหม่โดยที่ไม่ต้องเอาตัวเราเข้าไปทำทุกวัน ถ้าชอบทำอาหารลองเปิดร้านขายอาหารที่เปิดแค่วันอาทิตย์อย่างเดียว ซึ่งต้องเป็นเมนูที่ไม่มีในท้องตลาด แล้วทำให้คนติดเพื่อรอให้ถึงวันอาทิตย์ และอีกงานที่น่าสนใจคืองานแบบ Affiliate กำลังเป็นที่นิยม ลองมองอาชีพแบบนี้ดู’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการInboxฝากเรื่องมาที่FacebookFanpageEFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา20.00 – 23.00น. ทางรายการวิทยุEFM94และAppAtimeFung Fin

ตอนนี้เรากับสามี มีลูกอายุ 2 ขวบกันแล้วค่ะ เขาเป็นพ่อที่ดี เป็นสามีที่ดี หน้าที่ไม่ขาดตกบกพร่อง แต่ตั้งแต่ก่อนคบกัน เขาสัญญาว่าจะเลิกบุหรี่ จนคบกัน ก็สัญญาว่าจะเลิก ก็ยังไม่เลิก จนแต่งงานกันบอกว่าจะเลิกสูบ ก็ยัง

15 ส.ค. 2025

ตอนนี้เรากับสามี มีลูกอายุ 2 ขวบกันแล้วค่ะ เขาเป็นพ่อที่ดี เป็นสามีที่ดี หน้าที่ไม่ขาดตกบกพร่อง แต่ตั้งแต่ก่อนคบกัน เขาสัญญาว่าจะเลิกบุหรี่ จนคบกัน ก็สัญญาว่าจะเลิก ก็ยังไม่เลิก จนแต่งงานกันบอกว่าจะเลิกสูบ ก็ยัง

ตอนนี้เรากับสามี มีลูกอายุ 2 ขวบกันแล้วค่ะ เขาเป็นพ่อที่ดี เป็นสามีที่ดี หน้าที่ไม่ขาดตกบกพร่องแต่ตั้งแต่ก่อนคบกัน เขาสัญญาว่าจะเลิกบุหรี่ จนคบกัน ก็สัญญาว่าจะเลิก ก็ยังไม่เลิกจนแต่งงานกันบอกว่าจะเลิกสูบ ก็ยัง มาถึงตอนนี้บอกว่ามีลูกแล้วจะเลิกสูบ ก็เหมือนเดิมเขาแอบไปสูบในห้องน้ำ แอบสูบที่ทำงาน เราไม่ชอบคนสูบบุหรี่เลย สุขภาพก็เสียด้วยถ้าจะหย่ากับสามีเพราะเหตุผลนี้ จะแรงไปไหม?แต่ใจก็ยังรักเขาอยู่ แค่อยากให้สามีเลิกได้จริงๆจังๆสักที “คุณเพลง (นามสมมติ)” อายุ 27 ปีเป็นสายที่ 3 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [13 ส.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจอ๋อง - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาที่สามีไม่สามารถเลิกบุหรี่สักที กลัวมันจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพสามีและลูก โดย “คุณเพลง (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘แฟนของเราสัญญาว่าจะเลิกสูบบุหรี่ตั้งแต่ประมาณ 5 ปีที่แล้ว ตอนนั้นยังไม่มีลูก เราขอให้เขาลดหรือเลิกสูบตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ที่เริ่มคบกัน เขาก็รับปากว่าจะเลิก แต่จนถึงตอนนี้เรามีลูกด้วยกันแล้ว ลูกอายุ 2 ขวบ เขาก็ยังไม่สามารถเลิกได้ ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะสามีภรรยา เขาเป็นพ่อที่ดี สามีที่ดีในหลาย ๆ ด้าน ยกเว้นแค่เรื่องเดียวคือบุหรี่ เขาเปลี่ยนจากสูบบุหรี่มวนมาเป็นบุหรี่ไฟฟ้า ถึงจะไม่สูบต่อหน้าลูกหรือเราโดยตรง แต่เขาก็จะแอบไปสูบในห้องน้ำ ซึ่งเราเคยจับได้เพราะไปเจอบุหรี่ในกระเป๋า ที่ผ่านมาเราเลือกเงียบ ไม่พูดถึง แต่ในใจก็รู้สึกอึดอัด เพราะเรื่องนี้เราเคยคุยกันหลายครั้ง โดยเฉพาะช่วงที่เรารู้ว่าตั้งครรภ์ เราเคยขอร้องอย่างจริงจัง เราพยายามเข้าใจว่าเขาสูบมานานตั้งแต่วัยรุ่น การจะเลิกคงจะยาก เขาเองก็อาจจะเครียดเพราะเป็นหัวหน้าครอบครัว ที่ต้องรับผิดชอบหลายเรื่องในบ้าน แต่ในมุมของเรา เราไม่เห็นประโยชน์อะไรจากบุหรี่เลยโดยเฉพาะกับสุขภาพของเขา และเรายังห่วงลูกมาก ๆ กลัวผลกระทบจากควันบุหรี่มือสอง รวมถึงในอนาคต กลัวว่าถ้าลูกไปเจอสังคมที่มีคนสูบบุหรี่ แล้วเขาจะสอนลูกได้ยังไง ในเมื่อเขาเองยังทำไม่ได้ เรามีงานที่มั่นคงต่อให้เลิกกัน เราก็ยังสามารถเลี้ยงดูลูกได้ เลยอยากรู้ว่าการหย่าเพราะเรื่องบุหรี่จะรุนแรงเกินไปไหมสำหรับเขาและอนาคตเด็กคนหนึ่ง?’ ซึ่ง “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ปัจจุบันเด็กไม่จำเป็นต้องมีพ่อมีแม่ เดี๋ยวนี้เราใช้แค่คำว่ามีผู้ปกครองหรือคนที่ดูแลเขาได้อย่างดีก็พอแล้ว ถ้ามันเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเราการหย่าจะไม่ถือว่ารุนแรงไป แต่น่าเสียดายที่เขาเป็นพ่อที่ดีและเป็นสามีที่ดี เพราะฉะนั้นลองแก้ไขดูก่อน วิธีแก้คือยื่นคำขาด บอกว่าเราจะแยกกันอยู่ เพื่อที่จะกดดันเขา แล้วถ้าวันไหนเขาพร้อมค่อยให้เขามาทำหน้าที่พ่อ เพราะคนจะเลิกบุหรี่ต้องเลิกด้วยตัวเอง ลองดูว่าวิธีไหนจะเหมาะกับเรา แล้วถ้าปัญหานี้แก้ไม่ได้จริง ๆ การเลิกกันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เขาควรจะได้รู้ว่าปัญหามันจริงจังขนาดไหน มันจะนำไปสู่การเลิกกันมากกว่าการที่อยู่ดี ๆ หย่ากันเลย ผมไม่ได้ปกป้องคนสูบบุหรี่นะ แต่อยากให้คิดอีกมุมด้วยว่าบางทีการที่มีพ่อที่สูบบุหรี่ก็ไม่ได้หมายความว่าลูกจะสูบบุหรี่ด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งไปคิดว่าลูกจะเป็นยังไง ต่อให้คุณเพลงหย่ามันก็ไม่มีอะไรการันตีได้ว่าลูกคุณเพลงจะไม่สูบบุหรี่ แต่เท่าที่ได้ฟังก็เสียดายที่ต้องจะเลิกรากันไปด้วยปัญหานี้ที่มันสามารถแก้ไขกันได้ ด้วยการเลิกสูบบุหรี่ ก็ต้องถามคุณเพลงกลับว่าทั้งคู่ยังอยากอยู่ด้วยกันไหม ถ้าอยากอยู่ด้วยกันก็ทำให้เขารู้ว่าปัญหานี้มันจริงจังแค่ไหน ผมรู้สึกว่าการสูบบุหรี่มันลำบากกับการใช้ชีวิต สูบเสร็จก็ต้องล้างมือ แปรงฟัน บางทีก็ต้องถึงขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้า ก็อยากให้เขาหาเหตุที่ทำให้เลิกบุหรี่ให้ได้ ไม่เพื่อครอบครัวก็เพื่อตัวเอง อย่าไปเลิกเอาในวันที่หมอบอกให้เลิกแล้ว ตอนนั้นสุขภาพมันคงไม่ไหวแล้ว’ สุดท้าย “ดีเจอ๋อง” ได้ให้คำคำปรึกษาว่า ‘ไม่ติดที่คุณเพลงจะมีความรู้สึกอยากหย่าเพราะเรื่องนี้ ถ้าตัวสามีเขารู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นเรื่องไร้สาระ อันนี้น่าจะไปต่อได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เขามองเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยแบบนั้นคือยาก คนสูบบุหรี่มันต้องมีอะไรในใจ สิ่งที่อยากให้คุณเพลงทำคืออยู่ข้าง ๆ เขา เราใช้ทุกวิธีแล้ว งั้นก็ทำให้เขาเห็นว่าถ้ายังเลิกไม่ได้ไม่เป็นไร เราก็จะอยู่ข้าง ๆ แบบนี้ แล้วหาให้ได้ว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้เขาต้องไปสูบบุหรี่คืออะไรอ๋องเคยสูบบุหรี่มาเป็น 10 ปี แต่เลิกได้ด้วยการหักดิบ วันแรกที่อ๋องเลิกบุหรี่อ๋องไปเจอว่าสารในบุหรี่มันอยู่ในร่างกายเราแค่ 24 ชั่วโมงเท่านั้นเอง แสดงว่าหลังจากนั้นที่ทำให้คนเราติดมันอยู่ที่นิสัยเราล้วน ๆ เลย มันก็เป็นความรับผิดชอบเราส่วนหนึ่ง ที่ตอนเป็นแฟนกันเราก็ไม่เลิกกับเขาแล้วไปแต่งงานกับเขาเอง ดังนั้นวันนี้อยากให้ลองจับมือแล้วสู้ไปด้วยกันก่อน’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการInboxฝากเรื่องมาที่FacebookFanpageEFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา20.00 – 23.00น. ทางรายการวิทยุEFM94และAppAtimeFung Fin

album

0
0.8
1