หนูเพิ่งโดนแฟนบอกเลิก รู้เหตุผลมาจากเพื่อนของเขาอีกที เขาบอกว่าเราเป็นแฟนที่ไม่ค่อยเอาใจใส่ ไม่ค่อยถามเขาว่าเหนื่อยไหม? ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน หนูก็ให้ความรักเขาเต็มที่แล้ว ปกติดีทุกอย่าง ตอนนี้อยากเดินหน้าง้อเขากลับมาในความสัมพันธ์เดิม

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูเพิ่งโดนแฟนบอกเลิก รู้เหตุผลมาจากเพื่อนของเขาอีกที เขาบอกว่าเราเป็นแฟนที่ไม่ค่อยเอาใจใส่ ไม่ค่อยถามเขาว่าเหนื่อยไหม? ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน หนูก็ให้ความรักเขาเต็มที่แล้ว ปกติดีทุกอย่าง ตอนนี้อยากเดินหน้าง้อเขากลับมาในความสัมพันธ์เดิม

17 มี.ค. 2025

หนูเพิ่งโดนแฟนบอกเลิก รู้เหตุผลมาจากเพื่อนของเขาอีกที เขาบอกว่าเราเป็นแฟนที่ไม่ค่อยเอาใจใส่

ไม่ค่อยถามเขาว่าเหนื่อยไหม? ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน หนูก็ให้ความรักเขาเต็มที่แล้ว ปกติดีทุกอย่าง

ตอนนี้อยากเดินหน้าง้อเขากลับมาในความสัมพันธ์เดิม แต่เขาไม่เปิดใจให้เราเข้าไปเลย

            “คุณเอ (นามสมมติ)” อายุ 29 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [12 มี.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจอ๋อง – ดีเจอ้อย” เกี่ยวกับปัญหาโดนแฟนบอกเลิก เพราะเรื่องไม่ค่อยใส่ใจ

เขาพูดกับเพื่อนว่า เราไม่ดูแล ไม่ถามเขาว่าเหนื่อยมั้ย?

            โดย “คุณเอ (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘หนูเพิ่งรู้สาเหตุที่เลิกกับแฟน คือแฟนเพิ่งบอกเลิกเมื่อเดือนที่แล้ว ทั้ง ๆ ที่ตลอดเวลาที่คบกัน เขาเป็นคนที่สม่ำเสมอมาก ช่วงก่อนเลิกกัน แฟนขายของออนไลน์กับหนู ทำให้ได้ใช้เวลาร่วมกันตลอด ไม่ว่าจะไปไหนมาไหน แต่วันหนึ่งเราคุยกันว่า รายได้ที่มีอยู่ตอนนี้พอหารสองแล้วไม่พอใช้ แฟนก็เลยกลับไปทำงานกับที่บ้าน แล้วทางบ้านแฟนก็ไปเคลียร์ที่เพื่อทำสวน ทำธุรกิจที่ต่างจังหวัดเพิ่มเติม เลยทำให้แฟนต้องเดินทางไป - กลับ 2 – 3 วันกลับมาที่ หรือมาหาดึก แต่ตอนเช้าต้องเดินทางต่อ ระหว่างนั้นทุกครั้งที่เขากลับมา เขาก็ยังมารับและไปส่งเราตอนเช้าเหมือนเดิม มันก็เป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม

            จนวันหนึ่ง เขาก็มาบอกว่าขอไม่ไปรับเพราะรู้สึกเหนื่อย ถึงแม้เราจะน้อยใจ แต่ก็เข้าใจ และบอกเขาว่าไม่โกรธ ทำให้ 1-2 สัปดาห์ก่อนเลิกกัน เราไม่ได้เจอกันเลย แต่ยังคุยกันผ่านแชทและโทรหากันตลอด จนวันที่เราเลิกกัน วันนั้นหนูไปมูกับเพื่อน แล้วแฟนกลับมาพอดี เราก็เลยคุยกันว่า เดี๋ยววันนี้เค้าไปหานะ จะไปนอนที่บ้านเธอ หนูมาถึงบ้านเขาก่อน ซึ่งระหว่างทางก็คุยกันปกติ ไม่มีปัญหาอะไร เขายังถ่ายรูป ส่งรายงานหนูตลอด พอเขามาถึง เขากลับบ่นว่าโทรหาแล้วหนูไม่รับ ทำให้เขาเข้าบ้านไม่ได้ ต้องบอกก่อนว่า ก่อนหน้านั้นโทรศัพท์หนูตกจนหน้าจอแตก ทำให้บางครั้งสายที่โทรเข้ามา มันก็ไม่แจ้งเตือน แล้วพอเขาเข้าไปในบ้าน เขาก็มานอนนิ่ง ๆ บนพื้น ดูเหนื่อยมาก หนูเลยปล่อยให้เขานอนไปก่อน แต่หนูก็สังเกตเห็นว่าเขาทำหน้าแปลก ๆ เลยถามว่าเธอเป็นอะไร? ตอนแรกเขาบอกว่าไม่มีอะไร ช่างมันเถอะ แต่หนูดูออกว่าต้องมีอะไรแน่ๆ เลยถามเขาไปอีกว่าเป็นอะไร? แต่สุดท้ายเขาก็ยอมพูดว่า เขานอนมานานแล้ว ทำไมหนูไม่ถามเขาเลยว่าเหนื่อยไหม เป็นยังไงบ้าง?

            หนูก็พยายามง้อ แต่เขาเงียบ ไม่พูดอะไร และสีหน้าดูแปลกไป ตลอด 4 ปีที่คบกัน เขาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย แล้วอยู่ ๆ เขาก็ร้องไห้ และบอกว่า เขารู้สึกว่าตัวเองทำตามแผนที่เราคุยกันไว้ไม่ได้ เขาไม่พร้อม ไม่รู้เลยว่าถ้าย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดแล้วชีวิตจะเป็นยังไงต่อ ซึ่งช่วงต้นปีใหม่ เขาอยากให้หนูไปต่างจังหวัดด้วย แต่ความคิด ณ ตอนนั้น คือด้วยความที่หนูขายของอยู่ที่นี่ ฐานลูกค้าหนูอยู่ที่นี่ หนูก็เลยกลัวว่ามันจะเกิดปัญหาตามมา ถ้าจะไปอยู่ที่นู้น แล้วต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ พ่อแม่หนูเขาก็เป็นห่วง แต่เขาก็ไม่ได้ห้าม เขาบอกว่า ถ้าสุดท้ายเราจะอยู่กับเขา เขาเชื่อว่าเราโตแล้ว เราตัดสินใจได้ แก้ปัญหาได้อยู่แล้ว ถ้าอยากจะไปก็ไป หนูก็บอกเขาว่า ถ้าหนูไป เป็นไปได้ก็อยากทำอะไรให้มันถูกต้องก่อน เหมือนเขาเก็บเรื่องนี้เอาไปคิด แล้วเขาก็มาพูดกับเราแบบนั้น หนูก็บอกเขาว่า แผนมันเปลี่ยนได้นะ คือหนูคิดไว้อยู่แล้วว่าในอนาคตหนูก็คงไป แต่หนูก็ไม่เคยบอกเขาว่าหนูคิดจะไป

            หลังจากเลิกกัน 2-3 วัน หนูก็ไปถามเพื่อนเขาว่าเขาเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น เพราะเหตุผลที่เขาบอกหนูมันดูไม่ค่อยเมคเซ้นต์ แต่หนูก็ไม่ได้นึกถึงเรื่องที่เขามีคนอื่น เพราะที่ผ่านมาเขาเป็นแฟนที่ดีมาก ไม่เคยมีเรื่องปิดบังเลย อยู่กับหนูตลอดเวลา ใส่ใจตลอดเวลา ไม่มีเรื่องผู้หญิงเลย หนูก็สงสัยว่ามันคงมีเหตุผลอื่นแหละ แล้วเพื่อนเขาก็เลยบอกว่า แฟนหนูก็ไปพูดว่ามันมีเรื่องนิสัยของหนูที่เขาไม่โอเค บางเรื่องเขาก็พูดนะ แต่บางเรื่องส่วนใหญ่เขาผิดเองที่ไม่ได้พูด หลักๆคือเขาบอกว่าหนูไม่ค่อยใส่ใจ ไม่ค่อยเทคแคร์เขา ซึ่งจริง ๆ ที่ผ่านมาหนูมองว่าหนูเทคแคร์แล้ว แต่หนูก็เข้าใจว่าภาษารักของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การแสดงออกของหนู คือหนูให้เวลาเขา เวลามีอะไรเขาเป็นที่หนึ่งตลอด หนูทำอะไรคล้ายๆเขา ก็เลยคิดว่าที่ผ่านมามันดีมากตลอด ส่วนเรื่องนิสัยหนูเป็นคนพูดห้วน ๆ ไม่ค่อยอ้อน ในขณะที่แฟนเด็กกว่า จะมีความอ้อน บางครั้งเขาทำอะไรที่ทำตามอารมณ์มากกว่า และต้องการการดูแลมากกว่านี้ ผิดกับหนูที่หนูเป็นคนชอบวางแผน ชอบเตือนแฟนว่า ถ้าเธอทำแบบนี้ เกิดเหตุการณ์แบบนี้เธอจะทำยังไง? เหมือนเรายกตัวอย่างให้เขาฟัง แล้วเขาจะคิดว่าเราชอบคิดในแง่ร้ายไปก่อน

            ตอนที่หนูไปง้อ เขาบอกว่าเขาพอแล้ว และเขาไม่ได้รู้สึกรักหนูเหมือนเมื่อก่อน แต่ค่าใช้จ่ายที่เราหารกันปัจจุบัน รายรับ - รายจ่าย - รายได้ เรายังหารกันเหมือนเดิม แต่เขาบอกว่าเขาจะแบ่งให้แค่ช่วงแรกเท่านั้น ซึ่งหนูคิดว่าถ้าเรากลับมาคบกัน ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้อยู่แล้ว หนูรู้แล้วว่าเขาต้องการอะไร แล้วข้อเสียของหนูที่เขาไม่ชอบมันคืออะไร ที่ผ่านมาหนูก็เชื่อว่าหนูสามารถทำได้ เพราะหนูก็เคยเป็นคนแบบนั้นมาก่อน ทั้งขี้อ้อน พูดจาดี แต่พอเราโตขึ้น อะไรหลายๆอย่างมันทำให้หนูแข็งขึ้น แต่หนูอาจจะแข็งมากเกินไป หนูก็พร้อมจะเปลี่ยนแปลงและแคร์เขามากขึ้น แต่ตอนนี้เขาใจแข็งมาก เขามองว่าเราเปลี่ยนนิสัยตรงนี้ไม่ได้หรอก หนูเลยอยากจะถามพี่ ๆ ดีเจว่า หนูควรวางตัวยังไงคะ? หนูพร้อมที่จะเป็นคนที่แคร์เขามากขึ้น อยากให้เขาเชื่อว่าหนูทำได้ เปลี่ยนเพื่อเขาได้’

            เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เวลาโดนบอกเลิก ก็คงอยากทำทุกอย่างเพื่อง้อ เพื่อคืนดี ซึ่งเอมีสิทธิ์ง้อได้ แต่เขาจะคืนดีหรือเปล่าก็เป็นสิทธิ์ของเขานะ ซึ่งตอนนี้เราพยายามหาเหตุผลทุกอย่างมาอธิบายการเลิกกัน ซึ่งพี่บอกเลยว่าเราไม่มีทางรู้หรอกว่าเหตุผลที่แท้จริงคืออะไร แต่เอาเป็นว่า เขาไม่ได้อยากคบหาเราแล้วตอนนี้ อันนี้คือความจริงที่เกิดขึ้น คนเราเวลาทะเลาะกัน ถ้าอยากที่จะคบหากันอยู่ มันจะหาวิธีแก้ ไม่ได้หาวิธีเลิก แต่สิ่งที่คนทุ่มเทในการง้อใครสักคนต้องเจอ คือเจอรีแอคที่ทำร้ายจิตใจกันแบบสุด ๆ คนนึงหวังที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่อีกคนไม่เอาแล้ว การแสดงออกมันจะตรงกันข้ามกันเลย มันจะยิ่งทำให้เราเจ็บนะ ต้องยอมรับความจริง และรอด้วยความเจ็บพอสมควร’

            ต่อมา “ดีเจอ๋อง” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เอต้องมีสติก่อน เพราะเขาพูดเองแล้วว่า เขาไม่รักเหมือนเดิม และกลับมาไม่ได้แล้ว นี่คือเคลียร์สุด ๆ เขาไม่ได้ต้องการเราในชีวิตอีกแล้ว พี่ว่าการปรับปรุงตัวเพื่อเขาอาจไม่เวิร์ค เพราะต่อให้เอเปลี่ยนยังไง เขาก็หมดรักไปแล้ว และคนหมดรักจะโทษเราแค่ไหนก็ได้ ถ้าถามพี่ เอควรมูฟออน หรือถ้ายังรักแล้วอยากง้อ ต้องตั้งลิมิตให้ตัวเอง แต่ตอนนี้สิ่งเดียวที่ควรทำคือ รักตัวเอง ให้เวลาตัวเอง ตั้งสติ และก้าวออกมา’

            สุดท้าย “ดีเจอ้อย” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ความเบื่อมันทำหน้าที่ทุกวัน เราต้องยอมรับ แต่ทำไมบางคนถึงรักกันได้นานเป็น 10 ปี? เพราะเขาคุยกัน มีอะไรบอกกัน แต่แฟนเอเลือกที่จะเงียบ แล้วไปพูดกับเพื่อนแทน มันแฟร์กับอีกคนไหม? แต่สิ่งที่พี่ห่วงตอนนี้คือ เอกำลังโทษตัวเองหมดทุกอย่าง ซึ่งมันไม่ใช่ คนเลิกกันไม่มีใครต้องรับผิดชอบความผิดแต่เพียงผู้เดียว สิทธิ์ในการขอโทษเป็นของเอ สิทธิ์ในการให้อภัยเป็นของเขา แต่เออย่าด้อยค่าตัวเอง คุณค่าของเราอยู่ที่ตัวเราเอง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเขาเลือกหรือไม่เลือก’

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

แฟนหนูเขาชอบแสดงความรักโดยการ เอาเอวมาถูที่ตัวหนู แล้วกะยึกๆน้องชายเขาให้มันขยับกะยึกๆ ความรู้สึกหนูเหมือนมีหนอนมาดุ๊กดิ๊กๆใส่เรา บอกไปแล้วว่าไม่ชอบ แต่แฟนก็ยังแกล้งทำอยู่ จะทำยังไงให้แฟนไม่กะยึกๆน้องชายใส่เราดีคะ

17 มี.ค. 2025

แฟนหนูเขาชอบแสดงความรักโดยการ เอาเอวมาถูที่ตัวหนู แล้วกะยึกๆน้องชายเขาให้มันขยับกะยึกๆ ความรู้สึกหนูเหมือนมีหนอนมาดุ๊กดิ๊กๆใส่เรา บอกไปแล้วว่าไม่ชอบ แต่แฟนก็ยังแกล้งทำอยู่ จะทำยังไงให้แฟนไม่กะยึกๆน้องชายใส่เราดีคะ

“คุณเเตง (นามสมมุติ)” อายุ 36 ปี สายสุดท้ายในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [12 มี.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจอ๋อง - ดีเจพี่อ้อย” เกี่ยวกับปัญหาพฤติกรรมการเเสดงความรักของเเฟนเเบบเเปลกๆ โดย “คุณเเตง (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูคบเเฟนคนนี้มา 4 ปี จะ 5 ปีแล้ว อยู่ด้วยกันก็อบอุ่น ละมุนละไม บอกรัก น่ารักกันมากๆ แต่พอเราอยู่ด้วยกัน เผยตัวตนของกันและกัน หนูเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับการเเสดงความรักของเขา ซึ่งวิธีการเเสดงความรักของคนปกติก็อาจจะกอดกัน หอมกัน หวานๆ เเต่ของเเฟนหนูมันค่อนข้างจะทุเรศ คือเขาจะวิ่งมากอดเเล้วเอาขามาก่ายตัวหนู ประเด็นคือเวลาเขาทำเเบบนั้น น้องเจลลี่เเบร์เขา(อวัยวะเพศ) จะมาโดนที่ขาเรา ถ้าเเค่โดนเฉยๆแล้วมันนิ่งหนูก็จะโอเคกับมัน เเต่มันไม่นิ่ง เพราะเเฟนหนูเขาจะทำให้มันกะยึกๆมาชนสะโพก ชนขาเรา หนูรู้สึกได้ว่าเขากำลังขมิบ หนูก็รู้สึกรำคาญเหมือนโดนหนอนนุ่มๆมาอยู่ตรงขาเรา บางทีหนูก็คิดว่าเเค่กอดกันเเบบปกติไม่ได้หรอ เเล้วเขาก็ไม่เคยที่จะหยุดทำเลย ไม่ว่าจะนอนกอดท่าไหน หรือหนูนั่งตัก ถึงเขาจะไม่ได้ทำเเบบนี้ทุกที่ เเต่ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์เเบบ Feel good ต่อกันเขาก็จะทำเเบบนี้ และจะจบด้วยการที่หนูด่าเขา หรือบางทีเคยจับมือกันแล้วบอกให้หยุด พอแล้ว พอนะ! แต่เขาจะรีแอคแบบยิ้มๆ แล้วพูดว่า นั่นไม่ใช่เรา อยู่ตลอดเลย เคยมีครั้งหนึ่งโมโหมากๆ หนูก็ฟาดไปที่เป้าเขาเลย แล้วเขาก็จบ หนูสงสารเขา แต่หนูก็ว่าเขาสมควรแล้ว เหมือนเขาดูภูมิใจทุกครั้งที่ทำให้หนูโมโหได้ด้วยสิ่งนี้ หนูเลยคิดว่านี่มันเป็นนิสัยปกติของเธอแล้วใช่มั้ย มันหนักถึงขั้นทำให้หนูรู้สึกอยากเลิกกับเขาเลย เพราะบางครั้งที่หนูทำงานมาเหนื่อยๆก็เเค่อยากได้กอดธรรมดาๆ ไม่อยากให้เขามาทำแบบนี้ เเต่เขาก็ยังทำ แล้วเขาเหมือนทำว่ามันเป็นเรื่องตลก เรื่องขำๆอยู่ตลอด พอหนูบอกเขา ด่าเขา เขาก็จะสลด แล้วหยุดไปแปปนึง เเล้วสักพักก็กลับมาทำอีก เพราะเขารู้สึกว่าเรื่องแค่นี้มันอาจจะไม่ได้ทำให้เราเลิกกัน ส่วนตัวก็แอบคิดในใจว่าเรื่องติ๊งต๊องแบบนี้จะทำให้เราเลิกกันจริงๆหรอ แต่มันก็ทำให้รู้สึกรำคาญได้จริงๆ หนูเลยอยากปรึกษาพี่ๆดีเจว่า เเฟนหนูเขาเป็นโรคจิตรึป่าวคะ? ผู้ชายรู้สึกดีที่ได้ทำเเบบนี้หรอคะ แล้วทำยังไงเขาถึงจะหยุด?’ เริ่มที่ “ดีเจพี่อ้อย” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่รู้สึกว่าการที่หนูไปตีเขา มันทำให้รู้สึกว่า ยิ่งเธอไม่ชอบ ฉันยิ่งอยากที่จะเเกล้ง พี่เลยคิดว่าภาษารักคนเราอาจจะต่างกัน เเต่ถ้าสมมุติในวันหนึ่งเขาไม่ได้ทำเเบบนี้กับเราเเล้ว เขาไปมีความสุขกับสิ่งอื่น เเตงก็อาจจะคิดว่าทำไมเขาถึงไม่ได้คลั่งไคล้เราเท่าเมื่อก่อนเเล้ว ซึ่งถ้าเขาทำเเบบนี้ในพื้นที่ส่วนตัว ไม่ได้ทำต่อหน้าคนอื่นเเบบนี้ก็ยังโอเคเเต่ถ้าเขาทำต่อหน้าเพื่อนเรา อันนี้ก็จะเหมือนเขาไม่ให้เกียรติเราเลย เพราะงั้นคบกันมา 4 ปี เเล้วก็ควรที่จะพูดคุยกันให้เยอะมากขึ้นว่าต้องการเเบบไหน’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าปัญหาของเเตง ถ้านำไปเล่าให้คนอื่นฟัง ก็อาจจะมีคนที่อิจฉา เพราะเขาอาจจะอยากได้เเฟนที่ขี้ๆเล่นเเบบนี้ เเละการที่มีคู่ไหนที่จะเลิกกันด้วยเหตุผลเล็กๆ ผมเชื่อว่าคู่นั้นอาจจะสื่อสารกันไม่มากพอ เพราะงั้นพี่เลยคิดว่าอาจจะให้เเตงบอกเขาให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่าเเตงต้องการอะไรหรือไม่ชอบอะไร’ เเละสุดท้าย “ดีเจอ๋อง” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ฉันว่าเธอโทรมาไม่ได้เหมือนมาปรึกษาเเต่เหมือนมาอวด เพราะฉันอิจฉาเธอมาก เเต่อ๋องจะบอกคุณเเตงว่าที่คุณเเตงบอกอยากเลิกเพราะเรื่องนี้ ถึงมันจะเป็นเหตุผลที่เล็กน้อยเเค่ไหนเเต่มันทำให้เรารู้สึกไม่ได้ คุณเเตงก็อาจจะต้องพูดออกไปตรงๆกับเเฟนเลย ลองเปิดใจคุยกันเเบบอาจจะไม่ต้องถึงขั้นซีเรียส เเต่เป็นการเเชร์มุมมองกัน เเต่สุดท้ายอ๋องก็คิดว่าถ้าเขาเเสดงออกเเบบนี้อาจจะเเปลว่าเขารักเราจริงๆ สุดท้ายก็อยู่ที่การพูดคุยกัน’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ทุกครั้งที่ผมมีแฟน ผมรักแฟนของผมมาก แต่ทุกครั้งที่มีโอกาสผมก็จะนัดไปมีอะไรกับคนอื่น โดยที่แฟนไม่รู้เลย เพราะผมคิดว่าถ้าแฟนไม่รู้ก็ไม่ผิดรึเปล่า แต่ทุกคนที่ผมนอนกับเขาผมไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เพราะผมรักแฟนของผมคนเดียว

13 มี.ค. 2025

ทุกครั้งที่ผมมีแฟน ผมรักแฟนของผมมาก แต่ทุกครั้งที่มีโอกาสผมก็จะนัดไปมีอะไรกับคนอื่น โดยที่แฟนไม่รู้เลย เพราะผมคิดว่าถ้าแฟนไม่รู้ก็ไม่ผิดรึเปล่า แต่ทุกคนที่ผมนอนกับเขาผมไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เพราะผมรักแฟนของผมคนเดียว

ทุกครั้งที่ผมมีแฟน ผมรักแฟนของผมมาก แต่ทุกครั้งที่มีโอกาสผมก็จะนัดไปมีอะไรกับคนอื่นโดยที่แฟนไม่รู้เลย เพราะผมคิดว่าถ้าแฟนไม่รู้ก็ไม่ผิดรึเปล่าแต่ทุกคนที่ผมนอนกับเขาผมไม่ได้รู้สึกอะไรเลยเพราะผมรักแฟนของผมคนเดียว อยากหยุดพฤติกรรมนี้ ควรจะเริ่มจากอะไรดีครับ? “คุณนัท (นามสมมติ)” อายุ 28 ปี สายที่หนึ่งในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [12 มีนาคม 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจอ๋อง – ดีเจอ้อย’ เกี่ยวกับปัญหามีแฟนอยู่แล้ว แต่ยังไปมีอะไรกับคนอื่นทุกครั้งที่มีโอกาส โดย “คุณนัท (นามสมมติ)” ได้เล่าว่า ‘ผมมีแฟนเป็นผู้ชาย ตั้งแต่แฟนคนแรก ก็เป็นแฟนที่ผมรักมาก เพราะมันเป็นรักแรก ทุกอย่างก็อาจจะจับผิด จับถูก แต่ทุกครั้งเลยที่ผมมีแฟน ถ้ามีโอกาสผมก็จะนัดเจอกับคนอื่นหรือว่ามีเซ็กส์กับคนอื่นทุกครั้ง ถ้าโดนจับได้ แล้วแฟนให้อภัย ผมก็ยังเลือกที่จะรักแฟนต่อ แต่แฟนคนแรกไม่ได้โชคดี เพราะเขารับไม่ได้เลยเลิกกันไป พอมาแฟนคนที่สอง ผมก็รักมาก ยังรู้สึก appreciate กับแฟนเสมอ แต่ทุกครั้งที่มีโอกาส ผมก็จะนัดกับคนอื่น ไม่ใช่แค่นัดมีเซ็กซ์อย่างเดียว แต่จะนัดเจอหาเพื่อนทานข้าว นัดแฮงค์เอ้าท์กัน แต่ว่าที่นัดกันไม่ใช่เพื่อนของผม ผมจะหาคนแปลกหน้าคนอื่น และเป็นแบบนี้อยู่เรื่อยๆ จนกระทั้งถึงแฟนคนปัจจุบัน ที่คบกันได้จะ 3 ปีแล้ว ช่วงแรกๆ ที่คุยกันเหมือนความสัมพันธ์มันยังไม่ชัดเจน เราก็รู้สึกฟรีสไตล์อยู่แล้ว จะเจอใครก็ได้ และตั้งแต่แฟนคนแรกจนถึงคนนี้ มันไม่เกี่ยวกับช่วงเวลา ถึงจะเป็นการจีบกันตั้งแต่เดือนแรกๆ ผมก็จะสามารถไปมีอะไรกับคนอื่นได้ ผมไม่มีช่วงโปรโมชั่นเลย ผมจะคุยกับเขาบอกฝันดี อะไรเสร็จ พอมีเวลา ผมก็จะไปดื่ม ไปกับคนอื่น ยกเว้นตอนคบกับแฟนคนแรก ผมยังรู้สึกแบบไม่กล้าทำ และจะมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมลองทำ มันรู้สึกตื่นเต้น ตั้งแต่นั้นมามันก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ผมทำแบบนั้น ทุกวันนี้ผมก็ยังอยู่กับแฟน เขาจะไปๆ มาๆ ระหว่างบ้านเขากับคอนโดผม แฟนไม่รู้เลยว่าผมไปมีอะไรกับคนอื่น เขาก็เคยจับได้ 1 ครั้ง แล้วเขาก็ให้อภัย และอีก 1 ครั้ง คือเกือบจะจับได้ แต่ผมก็บอกไปว่านั้นเป็นเพื่อนผมจริงๆ เพราะตอนที่จับได้ตอนนั้นคือการไป แฮงค์เอ้าท์ แต่ตัวผมเวลาที่มีโอกาส ไม่ว่าแฟนจะกลับบ้านหรืออยู่ห่างกัน ผมก็จะมีเพื่อนที่แฮงค์เอ้าท์หรือว่ามีเซ็กส์กันได้ และก็ไม่ใช่คนเดิม เวลาที่ผมจะปรึกษาเพื่อน หรือคนรอบตัว เพื่อนก็จะเป็นสไตล์ประมาณว่า ไม่ได้เบลม ไม่ได้ห้ามอะไร ก็จะกลางๆ ผมเลยไม่ได้มองมุมอื่นว่าจะมีคนที่รู้สึกแบบนี้ไหม แล้วผมอยากรู้ว่า จะเริ่มจากอะไร ถ้าเราไม่อยากทำแบบนี้แล้ว แล้วเหตุผลอะไรที่เราต้องไม่ทำแล้ว การที่ผมเหงาแล้วนัดกับคนอื่นตลอด อยากเจอคนอื่น หรือว่ามีเซ็กส์ ผมรู้สึกว่าถ้าแฟนจับไม่ได้มันก็ดูไม่ได้มีอะไร ด้วยความที่ผมรู้ว่าเขาจะจับผมได้ด้วยอะไร และก็คำพูดอะไรที่เขาจะยอมใจอ่อน แต่ผมก็ยังไม่ได้นึกภาพวันนั้นว่าเขาจะจับได้ แล้วเลิกกับผมเลยหรือเปล่า แล้วเรื่องเซ็กส์กับแฟน แรกๆ มันก็บ่อย แต่พอมาหลังๆ ก็ยังมีอยู่ มันก็ไม่แย่ แฟนก็ไม่ได้รู้สึกว่าผมทำแย่ และผมก็ยังแฮปปี้ทุกครั้งที่มีอะไรกับเขาอยู่ แต่ก็ไม่ได้บ่อยครั้งเหมือนเมื่อก่อน ด้วยความที่แฟนผมก็งานยุ่ง ยิ่งตอนทำงานต่างคนก็ต่างยุ่ง คือ เลิกงานมามันก็เหนื่อย แต่ว่าบางครั้ง สมมติว่าผมไปเจอคนอื่นมาแล้ว หรือว่าไปทำกับคนอื่นมาแล้ว พอกลับมามันก็ไม่ได้อยากจะมีอะไรกับเขา เพราะว่าเราก็เหนื่อยแล้ว ซึ่งผมก็เปิดเผยตัวแฟนกับที่บ้านอยู่แล้ว คือผมก็อยากมีแฟน อยากไปไหนมาไหน แล้วมีแบบว่าคนนี้นะ คือแฟนเรา อะไรแบบนี้ และผมก็รักแฟนมาก เพราะทุกครั้งผมไม่เคยคิดที่จะหนีคนนี้ไปคบกับใคร ที่เคยไปเจอกันเลย ต้องบอกว่าจริงๆ ผมรู้สึกเหงาทุกครั้งที่อยู่คนเดียว เพราะมันก็จะมีบางอย่างที่ผมขาดไปในตอนเด็ก เรื่องปมในตอนเด็ก คือ ผมรู้สึกว่าผมเป็นคนขี้น้อยใจ ตั้งแต่ตอนเด็กๆ ผมเป็นลูกคนสุดท้อง ซึ่งผมเป็นลูกคนเดียวที่พ่อแม่ไม่ได้เลี้ยง เนื่องจากช่วงที่ผมเกินเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดี พ่อกับแม่ต้องทำงานหนักมาก ผมเป็นคนเดียวที่ถูกจ้างเลี้ยงและอยู่ห่างไกลจากคุณพ่อคุณแม่ แบบกินนอนอยู่กับคนที่เลี้ยง ทุกคนนี้ก็ยังติดต่อกับคนที่เลี้ยงผมอยู่และสนิทกับเขามาก แต่บางทีผมก็รู้สึกว่า ผมน้อยใจที่พอไปเปิดรูปตอนเด็กๆ จะมีรูปที่พ่อแม่อยู่กับพี่สาวพี่ชายทุกรูปเลย และตอนที่ผมเป็นเด็ก ก็ไม่มีรูปผมเลย ซึ่งน้อยมากๆ พอเทียบกับพี่สาวพี่ชาย เช่น ตอนที่พี่ๆ รับบัณฑิตจะมีรูปคู่ตลอด และคือ พี่สาวคนกลางเขาจะได้รับความเป็นห่วงจากครอบครัวมาก หรือว่าผมคิดไปเอง ผมก็ไม่แน่ใจ ซึ่งต่างจากผมเลย มันเป็นคนรู้สึกด้วยที่ตอนเด็กๆ ผมรู้ว่านี่คือ พ่อกับแม่นะ แต่ผมไม่ได้นอนกับพวกเขาเลย รู้แค่ว่าตอนเย็นเขาก็จะมารับผมกลับบ้าน มันเลยยังรู้สึกน้อยใจจนถึงทุกวันนี้ ผมก็พยายามคิดว่ามันเกี่ยวกันหรือเปล่า แต่พอมาจนถึงตอนนี้ ผมก็ยังแอบรู้สึกว่า ถ้าสมมติว่าเขาจับได้ อาจจะไปกันไม่รอดแล้ว และตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ไม่ว่าจะเทศกาลไหนก็แล้วแต่ ผมจะโรแมนติกมาก ทำทุกอย่างให้เขา จากใจจริงๆ ไม่ใช่ทำเพื่อกลบความผิด แต่เวลาที่เขาไม่อยู่ เขากลับบ้านหลายวันอะไรแบบนี้ ผมก็ไม่อยากอยู่คนเดียว แต่ถ้าเกิดแฟนผมไปมีอะไรกับคนอื่น ผมว่าผมก็คงไม่โอเค แล้วคิดว่าเขาก็คงจะไม่ทำ ผมอยากจะปรึกษาพี่ๆ ดีเจว่า ถ้าผมจะหยุด ผมควรจะเริ่มจากอะไรดี และการหยุดของผมเป็นสิ่งที่ดีมากๆ ใช่ไหมครับ?’ เริ่มที่ “ดีเจอ๋อง” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘หลังจากนี้ ถ้าเราเหงาและอยากไปมีอะไรกับคนอื่น ลองเปลี่ยนไปทำในสิ่งที่เราชอบและมีคุณค่าในชีวิตแทนดีไหม?’เพราะบางครั้ง ความเหงาอาจมาจากความไม่มั่นใจในตัวเอง รู้สึกดีไม่พอ หรือไม่สามารถอยู่กับตัวเองได้อย่างสบายใจ จึงพยายามหาคนอื่นมาช่วยเติมเต็มให้รู้สึกว่ามีค่าและได้รับความสนใจ แต่จริง ๆ แล้วคุณค่าในตัวเองไม่ได้ขึ้นอยู่กับการได้รับความสนใจจากคนอื่น เราสามารถเติมเต็มตัวเองได้ด้วยสิ่งที่มีความหมายในชีวิต และที่สำคัญ อย่าลืมนึกถึงแฟนของเราด้วย อย่ามัวแต่พยายามทำให้คนอื่นมีความสุขจนลืมใส่ใจคนที่อยู่ข้าง ๆ’ ต่อมา “ดีเจอ้อย” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘คำว่าแฟนต้องแฟร์ มันมีคู่หลาย ๆ คู่นะที่รักกันแล้วก็ไปมีอะไรกับคนอื่นได้ แต่อันนั้นต้องเกิดภายใต้เงื่อนไขว่า ทุกฝ่ายต้องรู้ แต่อันนี้น้องปิดบังแฟน พี่กลับรู้สึกว่าถ้ามีแฟนแล้วเอาไว้หลอก อย่างงั้นก่อนจะเลิกมีเซ็กพล้ำเพื่อ พี่ว่าน้องเลิกกับแฟนก่อนดีกว่า คำว่าแฟนไม่ได้เป็นเครื่องประดับ ว่ามีคนนี้เป็นแฟนแล้วจบ แต่การเป็นแฟนคือการที่เรารับผิดชอบความรู้สึกซึ่งกันและกัน ทั้งต่อหน้าและรับหลัง คนทุกคนอยากได้ความจริงใจ อย่าเอาความหลายใจไปแลกกับความรัก เพราะมันแลกกันไม่ได้’ สุดท้าย “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘คำถามที่นัทโทรมาถามว่า “การหยุดเรื่องราวเหล่านี้เป็นเรื่องดีใช่ไหม?” ถ้าจุดเริ่มต้นคือคำถามนี้ ว่าอะไรดีหรือไม่ดี นั่นถือว่าหนักเลยนะ… เพราะคนเราจะหยุดบางอย่างได้เพราะสองเหตุผลหลัก ๆ คือ เราคิดได้ และ หยุดเพื่อใครสักคน แต่ถ้านัททำไม่ได้สักอย่าง การหยุดอาจไม่ใช่คำตอบของนัทก็ได้ ลองตกลงกับตัวเองให้ดีว่าต้องการอะไรจริง ๆ”เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album
อย่าแตกสลายเพราะใครเลย

Artist: Jeep Sarah Salora

0
0.8
1
Contact usGreenwave02-665-8377EFM02-665-8373
Advertise with usมัลลิกา ปราบอริพ่าย (กบ)(Atime Showbiz, Online Content)063-282-6915จุฑา วนศานติ (บี) (EFM)02-669-9512, 081-923-9823
อังคณา พองาม (นุก) (Greenwave)02-669-9444-7
ดาวน์โหลด Application ได้แล้ววันนี้ที่atime online application download from app storeatime online application download from play storeติดต่อสอบถาม / แจ้งปัญหาการใช้งานatimeplatform@atimemedia.com
บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน)เลขที่ 50 อาคาร จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ถนนสุขุมวิท21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขต วัฒนา กรุงเทพ 10110