พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

ทำไมยังเป็นผมคนเดียวที่ Move on จากความรู้สึกแย่ๆนี้ไม่ได้สักที สงกรานต์ปีที่แล้ว แฟนเราไปนัวกับเพื่อนเรา 3 คนพร้อมกันในห้องน้ำ เหตุการณ์วันนั้นรู้เห็นกันเป็น 10 คน แต่ปิดปากเงียบไม่พูดกันเลยสักคน จนเราต้องไล่ถามทีละคนถึงรู้ความจริง

14 มี.ค. 2025

ทำไมยังเป็นผมคนเดียวที่ Move on จากความรู้สึกแย่ๆนี้ไม่ได้สักที

สงกรานต์ปีที่แล้ว จับได้ว่าแฟนเรา ไปนัวกับเพื่อนเรา 3 คนพร้อมกันในห้องน้ำ

แล้วมีเพื่อนอีกคนช่วยดูต้นทาง เหตุการณ์วันนั้นรู้เห็นกันเป็น 10 คน

แต่ปิดปากเงียบไม่พูดกันเลยสักคน จนเราต้องไล่ถามทีละคนถึงรู้ความจริง

“คุณไอ (นามสมมติ)” อายุ 27 ปี สายที่สามในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [5 มี.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก – ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาแฟนแอบไปมีอะไรกับเพื่อนของเรา

โดย “คุณไอ (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘ผมคบกับแฟนผู้ชายมา 4 ปีแล้วครับ พวกเราเป็นคนต่างจังหวัดที่ย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ช่วงสองปีแรกทุกอย่างเป็นปกติดี แต่หลังจากนั้น แฟนเริ่มอยากให้มี “คนที่สาม” เข้ามามีอะไรกัน ซึ่งผมไม่โอเคเลย ทำให้เราทะเลาะกันหนัก จนถึงขั้นที่เขาบอกเลิกผม ผมพยายามเจรจาแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผลก็เลยยอมตอบตกลง เพราะอยากให้เขามีความสุข จากนั้นมาเราคบกันต่อ และเป็นแบบนั้นอยู่ประมาณ 3 - 4 ครั้ง นอกเหนือจากนี้เขาก็มีเปลี่ยนมู้ดบ้าง ไปเล่นเว็บแคมผู้ใหญ่

จนถึงช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว ผมพาแฟนกลับบ้านเกิดเป็นครั้งแรก และแนะนำให้เขารู้จักกับเพื่อน ๆ สมัยมัธยมที่รวมตัวกัน พวกเราฉลองสงกรานต์กันที่บ้าน ฟีลเหมือนถนนข้าวสาร มีซุ้ม แล้วก็มีการกินเหล้าจนเมา ไม่ได้สติกันทั้งคู่ แล้วก็ภาพตัดไป

ตื่นเช้าวันที่ 2 ผมพบว่าตัวเองอยู่ที่โรงแรมกับแฟน จำอะไรไม่ได้เลย เสื้อผ้าขาดหมด ในขณะที่เรากำลังพักฟื้นอยู่ที่โรงแรม แฟนพูดขึ้นมาว่า “อยากพาเพื่อนของผมมาทำอะไรด้วยกัน” ซึ่งทำให้ผมแปลกใจมาก เพราะแฟนไม่เคยพูดถึงเพื่อนคนนี้มาก่อน ผมเลยถามว่าทำไมถึงอยากชวนเพื่อนคนนี้ เขาบอกว่าเพื่อนคนนั้น (นามสมมุติ “A”) ทักมาหาเขาผ่านแอปพลิเคชัน

ซึ่งในวันที่ 2 ก็ใช้ชีวิตกันตามปกติ กับบ้านแฟน เล่นน้ำกับแฟน และในช่วงเย็นของวันนั้น           ผมได้รับข้อความจากเพื่อนอีกคน (นามสมมุติ “C”) ส่งมาบอกว่า “ดูแลแฟนตัวเองดีๆ นะ” ผมไม่ได้ตอบอะไร เพราะงง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น

จนวันสงกรานต์วันสุดท้าย ผมแยกกับแฟนและกลับมาที่บ้านเกิดคนเดียว ได้กลับมาเจอเพื่อนกลุ่มเดิมที่เล่นน้ำด้วยกันวันแรก และมีโอกาสเจอ A ผมเลยถามว่า “วันนั้นทักไปหาแฟนเราทำไมหรอ?”              A กลับตอบว่า “เราไม่ได้เป็นคนทัก แฟนเธอเป็นคนขอคอนแทคเราเอง แล้วก็ชวนเรากลับห้อง”

A ยังบอกอีกว่า จริงๆ แล้วเขาไม่ได้ทำอะไร แต่เพื่อนอีกคน (นามสมมุติ “B”) เป็นคนลากแฟนผมเข้าไปในห้องน้ำ และ A เป็นคนยืนดูต้นทาง ซึ่งทำให้ผมช็อกหนักมาก

ผมพยายามหาตัว B แล้วเดินไปถามตรงๆ ว่า “วันนั้นเธอทำอะไรกับแฟนเรา?” B ตอบว่า “อุ้ย เราเมามาก จำอะไรไม่ได้ แต่เธออย่าโกรธเรานะ ” ซึ่งทำให้ผมยิ่งงงว่า ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ก็พยายามทำตัวปกติเพื่อที่ให้ทุกคนไม่ช็อตฟีล และเล่นน้ำด้วยกันจนจบเทศกาลเพื่อที่จะเก็บของกลับสู่สภาวะปกติ และไม่ได้เลือกที่จะโทรไปเคลียกับแฟนในวันนั้นเพราะมันดึกแล้ว

หลังจากสงกรานต์จบ ผมยังคงรู้สึกติดใจ จึงติดต่อหา C ที่เคยเตือนผมวันนั้น ผมถามว่า “มันเกิดอะไรขึ้น?” C เล่าให้ฟังว่า คืนที่ผมเมาหลับอยู่ มีเหตุการณ์เกิดขึ้นตรงซุ้มที่เราเล่นน้ำกัน A เดินเข้ามาดึงแฟนผมไปจูบกัน ซึ่ง C แอบถ่ายคลิปไว้

ซึ่งในคลิป B เขาได้เดินเข้ามาเห็น A ทำอะไรกับแฟนเราอยู่ A ก็เลยผลัก B เข้าไปในห้องน้ำ แล้วก็คอยยืนดูต้นทางให้ นอกเหนือจากนั้นมีเพื่อนอีกคน (นามสมมุติ “D”) ตามเข้าไปในห้องน้ำด้วย ซึ่งทั้ง 3 คนหายเข้าไปในห้องน้ำนานมาก

พอทุกคนออกจากห้องน้ำกันหมด C จึงเดินมาปลุกผม พอผมเริ่มรู้สึกตัว แต่แฟนผมหายตัวไป ทุกคนเลยช่วยกันหา จนเจอว่าเขากำลังจะขึ้นรถไปกับ A เพื่อนๆ ต้องรีบดึงตัวเขากลับมา แล้วพาผมกลับโรงแรม

ซึ่งพอได้ฟังถึงตรงนี้ ผมรู้สึกสับสนมาก เลยตัดสินใจโทรหาเพื่อนทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ประมาณ 10 กว่าคนได้ ซึ่งหลาย ๆ คนเขารู้เรื่องนี้กันแต่ไม่มีใครบอกผมเลย แล้วทุกคนเล่าเรื่องนี้ในทิศทางเดียวกันหมดเลยว่าใครทำอะไร ที่ไหน อย่างไรบ้าง

ผมเลยตัดสินใจคุยกับแฟนตามตรงว่า เธอเล่าในมุมเธอบ้างให้ฟังได้ไหม ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขายอมรับว่า “มีสติ 50-50” แต่ไม่กล้าเล่าทั้งหมด เพราะกลัวผมโกรธ หลังจากนั้น ผมรู้สึกเหมือนมองหน้าเขาไม่ติดไปเป็นสัปดาห์ จนแฟนเริ่มอึดอัด และพูดว่า “ถ้าเกิดว่าเราใช้เวลาทำใจนานเกินไป เขาจะรู้สึกรักเราน้อยลงและอยากเลิกกับเรานะ”

และคืนนั้นเขาออกไปเที่ยวกับเพื่อน ปล่อยให้ผมอยู่ห้องคนเดียว ผมเลยนั่งเล่นโซเชียลและเปิดเว็บแคมตามปกติ อยู่  ๆ เขาก็เข้ามาเช็กผ่านเว็บแคม และทักทำนองว่า “หึงหวง”เราอยู่ ถามเราว่า ทำไมยังไปเล่นอะไรแบบนั้นอยู่ ตอนนั้นผมฟิวขาด เลยตอบกลับไปว่า “เธอจะมาหวงอะไร ทั้งๆ ที่ตัวเองทำเรื่องแย่กว่านั้นไปแล้ว”

สุดท้ายเราตัดสินใจเลิกกัน เขากลับมาเก็บของและแยกทางกัน โดยปัจจุบันผมโสด และไม่ได้เจอเขามาเกือบปีแล้ว แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่า เหมือนทุกคนดูเหมือนจะมูฟออนกันหมด ยกเว้นผมที่ยังเดินหน้าถอยหลังอยู่ตรงนี้ มันรู้สึกแย่ที่เรารู้เรื่องนี้เป็นคนสุดท้าย และรู้สึกดาวน์มาก เลยอยากจะปรึกษาพี่ ๆ ว่า จากเรื่องทั้งหมดผมต้องปรับปรุงตัวอะไรบ้างไหมครับ ผมอยากได้วิธีการแก้ไขปัญหา หรือมุมมอง แง่คิด จากพี่ ๆ เพื่อเอามาปรับใช้กับสถานการณ์ที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้’

เริ่มที่ “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ออกไปมีสังคมที่ดีกว่านี้ คบหาคนที่ดีกว่านี้ ทั้งแฟนทั้งเพื่อน แล้วการที่ไอยังอยู่ท่ามกลางคนเหล่านี้ ใครฟังก็ต้องรู้สึกกลัวในสิ่งที่คนกลุ่มนี้ทำ มันรุนแรงถึงขั้นแจ้งความได้เลยนะ แต่ทุกคนดูไม่ได้เดือดร้อนอะไร แม้แต่แฟนของไอเอง แต่กลับเป็นไอที่มานั่งตั้งคำถามว่าเราต้องปรับนิสัยอะไรไหมนะ พี่ว่าเราอยู่สังคมแบบไหนเราคบเพื่อนแบบไหน มันก็จะพาเราไปสู่ชีวิตแบบนั้น เลือกเพื่อนให้ดีครับ’

ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าสิ่งที่ไอตัดสินใจก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ในการที่จะแยกออกมา พี่ว่าไม่ต้องตั้งคำถามตั้งแต่เขามาละเมิดกฏแล้วหล่ะ การที่เราไม่ได้แฮปปี้ที่จะมีอะไรกัน 3 คน แต่เรารักเขาจนเรายอมปรับในสิ่งที่เราไม่ได้ชอบ นั่นก็คือเราทำเพื่อชีวิตคู่มากแล้ว เพราะฉนั้น พี่ว่านี่มันคือสิ่งที่ถูกต้องแล้วที่เราเลือกสิ่งที่ดีให้กับชีวิต แล้วไอก็แค่มีความสุขกับตัวเอง เพื่อวันนึงได้ไปเจอคนใหม่ที่เขามีคอนต์เซปในการใช้ชีวิตอยู่เหมือนกัน’

 

สุดท้าย “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ไอโชคดีแล้ว เพราะแฟนเราและเพื่อนคนนี้ศีลเสมอกัน คือ เลวได้ทั้งกลุ่ม ไม่ได้เหมาะกับเราเลย แล้ววิธีแก้ปัญหาคือ ไปหาสังคมที่ใช่สำหรับเรา พี่เชื่อว่าสังคมดี ๆ มันมีเยอะมาก ไอสามารถมูฟออนได้เลยเพราะเราอยู่ในจุดที่พ้นน้ำแล้ว เราต่ำตมไม่พอที่จะให้เขาได้รับความเป็นเพื่อนหรือเป็นแฟนกันด้วยซ้ำ’

 

เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามชมได้ทาง

ใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION

รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

related พุธทอล์ค พุธโทร RECAP

หนูอยู่โซนยุโรป คบกับสามีต่างชาติ รักกันปกติดีทุกอย่าง แต่มีอยู่เรื่องเดียวที่เป็นปัญหา เพิ่งรู้ตอนย้ายเข้าไปที่บ้านเขา เขาเป็นคนหลับยากมาก เราหลับง่ายสุดๆ แล้วสามีจะไม่เปิดแอร์ ไม่เปิดพัดลมใดๆที่มีเสียง เพราะ ทำให้เขานอนไม่หลับ

02 ก.ย. 2024

หนูอยู่โซนยุโรป คบกับสามีต่างชาติ รักกันปกติดีทุกอย่าง แต่มีอยู่เรื่องเดียวที่เป็นปัญหา เพิ่งรู้ตอนย้ายเข้าไปที่บ้านเขา เขาเป็นคนหลับยากมาก เราหลับง่ายสุดๆ แล้วสามีจะไม่เปิดแอร์ ไม่เปิดพัดลมใดๆที่มีเสียง เพราะ ทำให้เขานอนไม่หลับ

หนูอยู่โซนยุโรป คบกับสามีต่างชาติ รักกันปกติดีทุกอย่าง แต่มีอยู่เรื่องเดียวที่เป็นปัญหาเพิ่งรู้ตอนย้ายเข้าไปที่บ้านเขา เขาเป็นคนหลับยากมาก เราหลับง่ายสุดๆ แล้วสามีจะไม่เปิดแอร์ไม่เปิดพัดลมใดๆที่มีเสียง เพราะ ทำให้เขานอนไม่หลับ แต่เราขี้ร้อน แยกนอนเขาก็งอนอีก ทำไงดีคะ?“คุณเรน (นามสมมติ)” อายุ 27 ปี สายที่ 4 ในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (28 ส.ค. 67) ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจต้นหอม- ดีเจเติ้ล – ดีเจอั๋น’ เกี่ยวกับปัญหาเราหลับง่ายสุดๆ แต่สามีนอนหลับยากมาก ตอนนี้กลายเป็นปัญหาการนอนของเรา!โดย “คุณเรน (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘หนูเพิ่งแต่งงานกับสามีมาได้ 1 เดือน แต่คบกันมา 5 ปีแล้ว อยู่กินกันมา 1 ปี ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันจะมีปัญหามากๆเลยก็คือ เขาเป็นคนที่นอนหลับยาก ยากมากๆ ต่างจากเรา คือ เวลาเราหัวถึงหมอนก็หลับไปเลย เลยทำให้เราไม่เข้าใจว่านอนหลับยากมันเป็นยังไง? มันขนาดนั้นเลยหรอ? เพราะสภาพแวดล้อมที่โตมา ทั้งพ่อ แม่ ญาติ พี่น้อง แม้กระทั่งรูมเมท นอนกันเปิดทีวีกันทั้งคืนก็ไม่เคยตื่นเลยพอเรามาแต่งงานกับเขา ก็มาอยู่ที่ต่างประเทศ ช่วงหน้าหนาวจะไม่มีปัญหาเพราะอากาศเย็นอยู่แล้ว นอนหลับสบาย แต่พอหน้าร้อน เขาจะบังคับเราว่าห้ามเปิดพัดลม ห้ามเปิดแอร์ เพราะเขาจะได้ยินเสียงแล้วทำให้นอนไม่หลับทั้งคืน ซึ่งอุณหภูมิตอนกลางวัน 40 กว่าๆองศา ส่วนตอนกลางคืนก็ประมาณ 39 องศา แถมอากาศแห้ง หนูหลังเปียก หนูเคยตื่นมาแล้วเลือดกำดาวไหล ไม่รู้ว่าเขาจะยอมใส่ที่อุดหูไหมเวลานอน แต่เวลาขึ้นเครื่องบินเขาจะใส่ เขามีอุปกรณ์พวกนี้อยู่แล้ว พอเราจะแยกกันนอนก็ไม่ได้อีก เพราะเขาจะงอน หนูเคยลองใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นนอนแล้ว ก็ยังร้อนอยู่ดี เขา Sensitive มากๆเลย แล้วหนูก็เล่นโทรศัพท์ไม่ได้เลยเพราะแสงจากโทรศัพท์จะแยงตาเขาจนนอนไม่หลับ ลองให้กินเมลาโทนินทุกคืน บางคืนก็ยังไม่นอน อาจจะเกี่ยวที่เขาเป็นคนเครียดประมาณนึงด้วย หนูอยากถามพี่ๆดีเจว่า ควรแก้ที่เราหรือแก้ที่เขา เพราะเราพยายามพูด แต่เขาก็บอกว่า มันปกติสำหรับเขาที่จะไม่เปิดแอร์หรือพัดลมนอน เพราะพ่อแม่เขาก็ปิดทั้งหมดเหมือนกัน’ซึ่งทาง “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้ากรณีนี้ เรานอนด้วยกันไม่ได้ สิ่งหนึ่งที่เขาต้องยอมรับคือ เขามีปัญหา แต่ถ้าจะนอนด้วยกัน เงื่อไขของเราคือต้องเปิดแอร์ ถ้าเธอไม่เปิดแอร์ ปิดทุกอย่าง มันจะกลางเป็นคนนอนไม่หลับ 2 คน แต่ถ้าเปิดแอร์ จะมีคนหลับ 1 คน คือเราหลับเขาไม่หลับ แต่จริงๆแล้วหอมจะพูดทุกอย่างเพื่อให้เปิดแอร์ หรือพัดลม ถ้าเสียงจะกวนเขา ให้แก้ที่เขาเพราะเขาผิดปกติ ถ้าเรานอนเหงื่อออกทั้ง 2 คนก็จะนอนไม่หลับ ต้องแก้เรื่องเสียง เช่น Air pod เปิดโหมดตัดเสียงรบกวนเลย เราเคยใช้วิธีนี้ กับอีกวิธีที่ทพให้นอนหลับง่ายคือ เขาต้องไปหาจิตแพทย์ เพราะมีความเครียด หรือลองนั่งสมาธิจะช่วยได้ ปล่อยให้ร้อนแล้วนอนมันไม่ดี ร่างกายเราขาดน้ำ เราสามารถไหลตายได้เลยนะ มันอันตราย พูดให้เขากลัวเยอะๆ’ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ได้ให้คำแนะนำว่า ‘ลองพัดลมไฮโซที่มันเงียบมากๆ แต่ราคาแพง เช่นแอร์ที่เงียบที่สุดคือแอร์ในสตูดิโอ เพราะต้องให้เงียบที่สุดเวลาอัดเสียง พี่รู้สึกว่ามันคือห้องนอนของเรา 2 คนเพราะถึงขนาดที่เลือดกำดาวไหลพี่ว่าไม่ใช่แล้ว เขาต้องยอมใส่ที่อุดหู เพราะถ้าใช้ที่อุดหูบนเครื่องได้ นอนที่นี่ก็น่าจะใช้ได้ ให้เขาลองพยายามก่อน เราต้องหาตรงกลางอยูาด้วยกัน ไม่ได้แปลว่าต้องมีใครคนใดคนหนึ่งเสียสละ 100%’และ “ดีเจอั๋น” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เรื่องนอนเป็นเรื่องใหญ่มาก ฟังดูไร้สาระ แต่มันไม่ไร้สาระ พี่มีเพื่อนที่หย่ากับสามี เพราะทั้งคู่เป็นคนนอนฝั่งซ้ายของเตียง ถ้าย้ายไปฝั่งขวาจะนอนไม่หลับ แล้วเขามารู้ตอนที่แต่งแล้ว กลับมาที่เรื่องของเรา ถ้าเขานอนไม่หลับขนาดนั้น พี่ว่าการไปพบผู้เชี่ยวชาญเรื่องการนอน ไปทำ Sleep Test เขาจะได้รู้จักตัวเอง แล้ะเราก็ควรไปเพราะมันคือการแก้ปัญหาของทั้งคู่ เขาจะได้มีการนอนที่ดีขึ้น และการนอนที่ดีขึ้นของเขา ก็จะทำให้เรามีการนอนที่ดีขึ้นด้วย ในขณะเดียวกันเทคโนโลยีในโลกมีอะไรเอามาใช้ให้หมด ไม่ว่าจะที่อุดหู พัลม แอร์แบบเงียบที่สุดก็มี ถ้าไม่งั้นก็คือ เธอเขาไปนอนก่อน เธอหลับเดี๋ยวฉันค่อยตาม แต่ก็คือไม่ได้นอนพร้อมกันอยู่ดี’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

เป็นเจ้าของธุรกิจร้านคาเฟ่เล็กๆ ทั้งร้านมี 3 ที่นั่ง แต่เจอลูกค้าที่ชอบนั่งแช่นานๆ มาคนเดียวยังนั่งโต๊ะใหญ่ ทั้งวันสั่งกาแฟแก้วเดียว บางวันเอาน้ำขวดใหญ่เข้ามากินในร้าน พีคสุดคือหายไปเข้าห้องน้ำครึ่งชั่วโมง จะจัดการกับลูกค้าประเภทนี้ยังไงดี..

17 ม.ค. 2025

เป็นเจ้าของธุรกิจร้านคาเฟ่เล็กๆ ทั้งร้านมี 3 ที่นั่ง แต่เจอลูกค้าที่ชอบนั่งแช่นานๆ มาคนเดียวยังนั่งโต๊ะใหญ่ ทั้งวันสั่งกาแฟแก้วเดียว บางวันเอาน้ำขวดใหญ่เข้ามากินในร้าน พีคสุดคือหายไปเข้าห้องน้ำครึ่งชั่วโมง จะจัดการกับลูกค้าประเภทนี้ยังไงดี..

เป็นเจ้าของธุรกิจร้านคาเฟ่เล็กๆ ทั้งร้านมี 3 ที่นั่ง แต่เจอลูกค้าที่ชอบนั่งแช่นานๆมาคนเดียวยังนั่งโต๊ะใหญ่ ทั้งวันสั่งกาแฟแก้วเดียว บางวันเอาน้ำขวดใหญ่เข้ามากินในร้านพีคสุดคือหายไปเข้าห้องน้ำครึ่งชั่วโมง จะจัดการกับลูกค้าประเภทนี้ยังไงดี.. “คุณโมโม่ (นามสมมติ)” สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [15 ม.ค. 68] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม’ เกี่ยวกับปัญหาลูกค้าชอบนั่งแช่ในคาเฟ่นานๆ โดย “คุณโมโม่” ได้เล่าว่า “ที่ร้านจะเป็นร้านขายขนมเล็กๆ มีที่นั่งประมาณ 3 ชุด คือ โต๊ะใหญ่ 1 ชุด โต๊ะเล็ก 2 ชุด แล้วจะมีน้องลูกค้าคนหนึ่งที่แรกๆ เขาก็มาซื้อทุกวันปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่จะมีเหตุการณ์หนึ่งที่พีคๆ ของเขา คือ เขามานั่งทานที่ร้านคนเดียว แล้วเขาเอาชุดวาดระบายสีมากางเต็มโต๊หะ ซึ่งเขาเลือกที่จะนั่งโต๊ะใหญ่ แล้วก็นั่งแช่อยู่แบบนั้น แต่เขาจะสั่งกาแฟวันละ 1 แก้วเท่านั้น แล้วก็อยู่ยาวๆ เลยคือ 2 - 3 ชั่วโมงจนไม่มีลูกค้าแล้ว เขาก็ทานกาแฟแก้วนั้นแป๊ปเดียวก็หมด แต่เขาก็ยังนั่งอยู่ เหตุการณ์ต่อมา คือ ช่วงปีใหม่ที่ร้านลูกค้าจะเยอะมากอยู่แล้ว น้องคนนี้เขาก็มาแต่พกขวดน้ำส่วนตัว 1.5 ลิตรมาด้วย เราก็ไม่เห็น มาเห็นตอนที่เราไปเก็บโต๊ะแล้วน้องเขาทิ้งขวดไว้ อันนี้เราก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่อีกวันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ติดๆ กันทุกวัน เขาก็มาเหมือนเดิม สั่งน้ำแก้วเดียว 65 บาท แล้วก็นั่งทานที่ร้าน เขาเลือกนั่งโต๊ะเล็กและมีอุปกรณ์ของเขาครบมือเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้เขาเอาหูฟังอันใหญ่ๆ ที่แบบครอบทั้งหูมาใส่ ซึ่งน้องก็ยังเป็นเด็กมัธยม มีหนังสือ IPad มือถือ น้องเขาก็นั่งอยู่แบบนั้นจนลูกค้าเยอะ ไม่มีที่นั่ง น้องเขาก็ไม่ลุกไปไหน เราก็แบบเอ๊ะ... น้องเขาทำอะไร หนูเลยไปดู ทีนี้ก็เห็นน้องเขานั่งหลับ หนูก็ไม่ได้ว่าอะไร ปล่อยไปจนลูกค้าหมดร้านไป วันต่อมาน้องเขาก็มาอีก ลูกค้าในร้านก็เยอะอยู่ เขาก็เอาหนังสือมาอ่าน อุปกรณ์ก็ยังครบมือเหมือนเดิม จนลูกค้าหมด ตอนอยู่ที่โต๊ะเขาไม่ได้อ่านหนังสือแต่เล่นมือถือ พอไม่มีลูกค้าก็จะเหลือแค่หนู แล้วก็น้องลูกค้าคนนี้ 1 คน เขาก็เอาหนังสือไปอ่านในห้องน้ำ ทีนี้เราก็จับเวลาเลยว่าเขาเข้าไปกี่นาที ก็คือเขาเข้าไปประมาณครึ่งชั่วโมง อีกวันหนึ่งเขามาอีกเหมือนเดิม แต่ไม่สั่งขนมเลย ทั้งๆที่ร้านเราเน้นขายขนม แล้วเขาก็เอาขวดน้ำดื่มของตัวเองไปเติมน้ำที่ร้าน เพราะที่ร้านเราจะมีน้ำดื่มให้ทานฟรีเป็นแบบเหยือก เขาก็เอาขวดตัวเองไปเติมจนหมดเหยือก แต่หนูก็ไม่ได้ว่าอะไร และอีกวันหนึ่งน้องเขาก็มาอีก จนเราเดินเข้าไปถามน้องเขาว่า “น้องรับอะไรเพิ่มไหมคะ?” น้องก็มองหน้าเรามึนๆ แล้วก็บอกว่า “อ๋อ ไม่ครับ” เราก็บอกว่า “พอดีว่าเดี๋ยวมีลูกค้าจองโต๊ะเข้ามา พี่ขอรบกวนได้มั้ยคะ” น้องก็บอก “อ๋อ งั้นผมย้ายไปนั่งโต๊ะอื่นได้ไหม” ทั้งๆ ที่น้องก็ไม่เหลืออะไรทานแล้ว เขาสั่งแค่น้ำแก้วเดียวแต่เขาก็ยังนั่งอยู่ หนูก็เลยบอกเขาไปว่า “อ๋อ พอดีว่าเขามาเยอะอ่ะค่ะ” ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลาบ่าย 2 ครึ่ง น้องก็เลยบอกว่า “อ๋อเดี๋ยวบ่าย 3 ผมไปครับ” แล้วก็คือบ่าย 3 เป๊ะน้องเขาก็ไปจริงๆ อีกวันหนึ่งเขาก็มาอีก พกขวดน้ำมาอีก ทีนี้เราก็เลยเดินไปเตือนเขาว่า “น้องครับ ขอรบกวนไม่เอาน้ำดื่มหรืออาหารข้างนอกเข้ามาทานที่ร้านได้มั้ยครับ” เขาก็แบบ “อ๋อ ครับ” แค่นี้ ก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร หลังจากนั้นเขาก็ยังมาทุกวัน ๆ เหมือนเดิม แต่พฤติกรรมพกขวดน้ำมาก็เริ่มหายไป มีวันหนึ่งที่หนูก็ทักเขาว่า “อ๋อ น้องวันนี้เหมือนเดิมเนอะ” น้องเขาก็เหมือนไม่ได้อยากคุยกับเรา น้องก็บอก “อ๋อ ไม่ครับ” แล้วเปลี่ยนเป็นเมนูอื่นเลย หนูก็เข้าใจได้ว่า น้องเขาก็ไม่ได้อยากให้ใครรบกวนเขา หนูไม่ทราบว่าเขาโดดเรียนมามั้ย หรืออีกอย่างหนึ่งก็คือช่วงเด็กม.6 ใกล้สอบเข้ามหาลัยอาจจะเข้า-ออกโรงเรียนช่วงไหนก็ได้ บางทีน้องเอาของมาวางโต๊ะเต็ม ลูกค้าที่ไม่มีที่นั่งเขาก็กลับไป ซึ่งตรงนี้เราเสียโอกาส เสียลูกค้าที่เขาตั้งใจมากินขนม หนูอยากถามพี่ๆ ดีเจว่า จะจัดการกับลูกค้าประเภทนี้ยังไง?” ทางด้านดีเจทั้ง 3 ท่าน “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” ให้ความคิดเห็นไปในทางเดียวกันว่า ‘ให้ตั้งกฎเวลาว่าให้นั่งได้กี่ชั่วโมง 1 แก้ว ให้นั่งได้กี่ชั่วโมง หรือลองถามๆ เรื่องเรียนเขาหน่อยว่าไม่เข้าเรียนหรอ หรือมีเรื่องอะไรที่บ้าน เผื่อน้องเขามีปัญหา เราจะได้จัดการกับเขาอีกแบบหนึ่ง’ นอกจากนี้ “คุณโมโม่” ยังทิ้งท้ายถึงผู้ใช้บริการด้วยว่า “อยากให้เห็นใจผู้ประกอบการนิดนึง การใช้สถานที่หรืออะไรก็ตาม บางทีเราเอางานไปทำในที่ของเขา อยากให้เขาเห็นใจทางร้านด้วย เพราะบางทีทางร้านก็อึดอัดใจที่จะพูด เพราะกลัวจะเป็นดราม่า”เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATION รับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 20.00 – 23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

ผมเป็นครูมา 10 ปี เพิ่งเคยเจอ ผมเสียใจร้องไห้มา 2 อาทิตย์แล้วครับ ได้มาสอนชั้นอนุบาล เจอผู้ปกครองไปขอผอ. ย้ายลูกไปเรียนห้องอื่น เหตุผลเพราะเขาเห็นผมเป็น LGBTQ+ เขากลัวว่าลูกจะโตมาเป็นแบบผม แล้วการที่ผมเป็นแบบนี้ ผมผิดอะไร?

09 ส.ค. 2024

ผมเป็นครูมา 10 ปี เพิ่งเคยเจอ ผมเสียใจร้องไห้มา 2 อาทิตย์แล้วครับ ได้มาสอนชั้นอนุบาล เจอผู้ปกครองไปขอผอ. ย้ายลูกไปเรียนห้องอื่น เหตุผลเพราะเขาเห็นผมเป็น LGBTQ+ เขากลัวว่าลูกจะโตมาเป็นแบบผม แล้วการที่ผมเป็นแบบนี้ ผมผิดอะไร?

ผมเป็นครูมา 10 ปี เพิ่งเคยเจอ ผมเสียใจร้องไห้มา 2 อาทิตย์แล้วครับ ได้มาสอนชั้นอนุบาลเจอผู้ปกครองไปขอผอ. ย้ายลูกไปเรียนห้องอื่น เหตุผลเพราะเขาเห็นผมเป็น LGBTQ+เขากลัวว่าลูกจะโตมาเป็นแบบผม แล้วการที่ผมเป็นแบบนี้ ผมผิดอะไร? ลูกเขายังร้องไห้ อยากเรียนกับผมอยู่เลย “คุณคิม (นามสมมติ)” อายุ 30 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ [7 ส.ค. 67] ได้โทรเข้ามาปรึกษา ‘ดีเจอ้อม - ดีเจเติ้ล - ดีเจอั๋น’ เกี่ยวกับปัญหาสอนชั้นอนุบาล แต่ผู้ปกครองอยากย้ายลูกไปเรียนห้องอื่น เพราะเราเป็น LGBTQ โดย “คุณคิม (นามสมมติ)” เล่าว่า ‘ผมเป็นครูกำลังจะเข้าปีที่ 10 ผมเป็น LGBTQ+ ผมก็มีแฟนและใช้ชีวิตปกติ ปีนี้ผมลงไปสอนชั้นอนุบาล แล้วผมก็เจอผู้ปกครองกลุ่มหนึ่งที่ค่อนข้างมีฐานะ พอเปิดเทอมได้เดือนเศษ ๆ ผู้ปกครองกลุ่มนี้ก็เข้าพบผู้อำนวยการ และจะขอย้ายลูก 2 คนไปเรียนอีกห้องหนึ่ง ซึ่งเค้าให้เหตุผลว่าไม่อยากให้ลูกเป็นเกย์ เป็นกะเทย ผมเลยถูกผู้อำนวยการเรียกไปคุยแต่ท่านไม่ได้บอกเหตุผลเพราะกลัวผมเสียใจ แต่ผมทราบจากผู้ปกครองคนอื่นที่เค้าคุยกันในกลุ่มไลน์ ผมก็เลยมีความรู้สึกว่าแล้วเราผิดอะไรที่เราเป็นแบบนี้ ผมก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ผมตั้งใจสอนเด็กทุกคน ตลอดระยะเวลาที่ผมเป็นครูมา ผมก็ไม่เคยทำอะไรที่เสียหายหรือเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีสำหรับเด็ก แล้วทุกวันนี้เด็ก 2 คนนี้ก็ถูกย้ายไปอยู่อีกห้องนึง แต่ผมก็เจอทุกวัน ล่าสุดผมเจอเหตุการณ์ที่ผมไม่ไหว คือ เด็ก 2 คนนี้ลงรถมาจากผู้ปกครอง แล้วเค้าวิ่งมาหาผมแล้วบอกว่า “อยากไปเรียนห้องครูคิม” แล้วผู้ปกครองก็เอาลูกเค้าไป แล้วเค้าตีลูกและบอกว่า “ให้เรียนอีกห้อง วิ่งไปห้องนั้นทำไม” นี่คือเหตุการณ์ที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผมก็ไม่อยากเกิดเป็นแบบนี้ ผมเลยคิดว่าเดือนตุลาคมนี้ผมจะลาออก เพราะเหตุการณ์นี้ ผมก็เลยอยากถามพี่ ๆ ดีเจว่าผมจะมูฟออนจากเหตุการณ์นี้ยังไง และจะดำเนินชีวิตต่อยังไง? ควรไปต่อหรือพอแค่นี้’ ซึ่ง “ดีเจอั๋น” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่คิดว่าถ้าเราอยากไปต่อเราไป ถ้าเรายังมีความสุขกับการเป็นครู แล้วมันยังเป็นความฝันความตั้งใจ เรายังรู้สึกว่ามันเป็นประโยชน์ตรงนั้น เราเห็นคูณค่าของตัวเองตรงนั้น “ทำ” แค่นั้นเอง อย่างแรกเลยพี่ไม่คิดว่าเราควรเอาคุณค่าของเราไปแขวนกับความคิดเห็นหรือความรู้สึกของคนอื่น เราไม่จำเป็นต้องให้ค่ากับทุกคน มันเป็นไปไม่ได้ในชีวิตที่จะทำให้ทุก ๆ คนรักเรา ชอบเรา แม้แต่เราทำถูกต้องทุกอย่าง ก็ยังสามารถมีคนบอกว่าเราผิดได้ แม้เราทำทุกอย่างเหมาะสม ก็มีคนบอกว่าเราไม่มีมารยาทได้ เพราะฉะนั้นมันคือเรื่องปกติของโลกที่เราจะต้องเจอกับความผิดปกติ รวมถึงเราอาจจะเจอกับความผิดปกติของทัศนคติของคนที่มาจากไหนก็ไม่รู้ และบางทีไม่ต้องหาเหตุผล พี่อั๋นก็ยังยืนยันว่ามันคือส่วนน้อย และเราควรมีภูมิคุ้มกันเพราะเราต้องเจอเรื่องแบบนี้อีกเยอะ และเราควรเป็นตัวอย่างให้เด็ก ๆ ได้เห็นว่าเราจะต้องเจอกับเรื่องอะไรได้อีกเยอะมากในโลกที่มันไม่มีเหตุผลเลย โดยไม่จำเป็นจะต้องเสรยเวลาอธิบายอะไรมากมายเกี่ยวกับเรื่อง LGBTQ+ กันอีกต่อไป เพราะ ณ วันนี้อย่างแรกเลย คิมเองต้องไม่รู้สึกว่าสิ่งนี้ผิดปกติ ไม่มีใครด่าเราว่าเราผิกปกติได้ ถ้าเราไม่รู้สึกว่ามันผิดปกติเอง เราต้องไม่ทำร้ายตัวเองในสิ่งที่เราไม่ได้ผิด อย่าหยิบมีดมาแทงตัวเอง โลกมันเดินไปแล้ว แต่เราไม่สามารถบังคับให้ทุกคนเดินไปกับเราได้ ถ้าเค้าทุกข์ปล่อยเค้าทุกข์ เราแค่เอาใจช่วยว่าลูกเค้าหวังว่าลูกเค้าจะเติบโตมาดีกว่าพ่อแม่เค้า’ ต่อมา “ดีเจเติ้ล” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่พึ่งไปงานไพรด์ที่สวีเดน เค้าจะมีขบวนที่เป็นตัวแทนของครูและอาชีพต่าง ๆ สิ่งที่พี่รู้สึกคือเค้าทำให้เห็นว่ามันคือเรื่องธรรมดาและปกติ เพราะฉะนั้นเราไม่รู้สึกว่ามันคือสิ่งผิดปกติเลย เพราะว่าคิมเจอเหตุการณ์นี้และรู้สึกกับมัน พี่เป็นห่วงไม่อยากให้คิมคิดแบบนี้ เพราะพี่รู้สึกว่าสิ่งที่คิมเจอ คนอื่นก็เจอในแง่มุมอื่นเหมือนกัน พี่รู้สึกว่ามันไม่แฟร์กับคิม ส่วนผู้ปกครองเราต้องเมตตาเค้าที่เค้าไม่รู้ว่าครู LGBTQ+ ไม่ได้ทำให้ลูกเป็น LGBTQ+ เท่ากับครูพละหล่อ ๆ พี่เสียดายถ้าคิมจะยุติอาชีพที่ทำมา 10 ปีและมีความสุขกับตรงนั้น เพราะฉะนั้นอยากให้คิมมีกำลังใจ และมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองทำ’ และสุดท้าย “ดีเจอ้อม” ก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่เห็นใจคิมนะ แต่ว่านั่นคือปัญหาของแม่เด็กนักเรียน ไม่ใช่ปัญหาเรา เพราะถ้าเป็นพี่ พี่แค่รู้สึกว่าคำว่าครูคิมมั่นใจว่าคิมทำได้ดี ขนาดที่เด็กโดนย้ายร้องไห้และอยากมาเรียนกับคิม แสดงว่าคิมต้องเป็นครูที่สอนเราได้ดี เราดีพอและเด็กรัก อวยพรให้แม่เค้าต้องย้ายลูกไปเรื่อย ๆ เพราะนั่นคือความรักของแม่ แม่ไม่ได้ผิด แต่ถ้าแม่เค้าเลือกที่จะย้ายลูกไปเรื่อย ๆ และไม่ยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็นก็ต้องเอาใจช่วยแม่เค้าจนกว่าจะพอใจ ปัญหาหลักคือเค้าไม่สามารถสอนลูกได้ด้วยตัวเอง จึงไปจัดการสิ่งแวดล้อมอื่น และคิดหรอว่าคนเราจะจัดการสิ่งแวดล้อมไปตลอดได้ เพราะฉะนั้นในหน้าที่การงานคิมไม่ได้บกพร่อง จงภูมิใจในสิ่งที่เราเคยทำและทำมันต่อไป แล้วปล่อยให้ปัญหานี้เป็นของมารดาเค้า’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

รู้สึกผิดที่ด่าแม่แฟนไป แต่เค้าก็สมควรโดนด่า! คบกับแฟนมา เราโพสน้อยใจแฟนลงเฟซ แม่แคปไปด่ากับลูกเค้า แม่เคยด่าเราว่า "มึงมันเป็นกระเทยสูบเลือด สูบเนื้อ อยู่กับลูกเขาไม่มีอะไรดีขึ้น" จากนั้นหนูขุดสรรพสัตว์ทุกตัวบนโลกมาด่าแม่เขา พอใจเย็นลงตอนนี้หนูรู้สึกผิด

10 มี.ค. 2025

รู้สึกผิดที่ด่าแม่แฟนไป แต่เค้าก็สมควรโดนด่า! คบกับแฟนมา เราโพสน้อยใจแฟนลงเฟซ แม่แคปไปด่ากับลูกเค้า แม่เคยด่าเราว่า "มึงมันเป็นกระเทยสูบเลือด สูบเนื้อ อยู่กับลูกเขาไม่มีอะไรดีขึ้น" จากนั้นหนูขุดสรรพสัตว์ทุกตัวบนโลกมาด่าแม่เขา พอใจเย็นลงตอนนี้หนูรู้สึกผิด

รู้สึกผิดที่ด่าแม่แฟนไป แต่เค้าก็สมควรโดนด่า! คบกับแฟนมา เราโพสน้อยใจแฟนลงเฟซแม่แคปไปด่ากับลูกเค้า แม่เคยด่าเราว่า "มึงมันเป็นกระเทยสูบเลือด สูบเนื้อ อยู่กับลูกเขาไม่มีอะไรดีขึ้น"จากนั้นหนูขุดสรรพสัตว์ทุกตัวบนโลกมาด่าแม่เขา พอใจเย็นลงตอนนี้หนูรู้สึกผิด ควรขอโทษดีไหมคะ? “คุณพี (นามสมมุติ)” อายุ 22 ปี สายที่สองในรายการ พุธทอล์ค พุธโทร เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา [5 มีนาคม 2568] ได้โทรเข้ามาปรึกษา “ดีเจเผือก - ดีเจเติ้ล - ดีเจต้นหอม” เกี่ยวกับปัญหาความสัมพันธ์ของหนูกับเเม่เเฟน โดย “คุณพี (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘หนูรู้สึกผิดที่ด่ากับแม่ของเเฟน เเต่เขาก็สมควรโดนด่าเเล้ว ต้องเล่าก่อนว่าหนูคบกับเเฟนมาประมาณ 8 ปี ทางบ้านก็รับรู้ทุกอย่างเเม่ของเเฟนก็ดูแลหนูดีมาก หนูไม่ต้องทำงานบ้านหรือต้องทำอะไรเลยตอนอยู่บ้านเขา เเต่สิ่งที่ทำให้หนูมีปัญหากับเเม่ของเเฟนคือ เเม่เขาเริ่มขอเงินเเฟนบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเงินที่เเม่เขาขอไปก็เป็นเงินที่หนูกับเเฟนหามาด้วยกันทั้งคู่ ตอนเเรกหนูกับเเฟนก็ตกลงกันเเล้วว่าจะให้เงินกับเเม่เป็นรายเดือน จะไม่มีการให้เงินเเบบยิบย่อย ทั้งเเม่ของเขาเเละเเม่ของหนูเอง เรื่องที่ทำให้หนูกับเเม่ของเเฟนมีปัญหากัน เกิดขึ้นเมื่อตอนเดือนตุลาคมปีที่เเล้ว คือหนูน้อยใจเเฟน หนูเลยโพสต์ประมาณตัดพ้อในเฟซบุ๊ก แล้วเเม่ของเเฟนก็มาเห็นเลยเเคปภาพ เเล้วส่งไปให้เเฟนหนูดู เขาก็พูดว่า เเฟนมึงจะโพสต์อะไรหนักหนา หนูเลยทักไปหาเเม่ของเเฟนเลยว่า เเม่หนูน้อยใจเเฟน หนูก็โพสต์ในหน้าเฟสหนู ทีลูกสะใภ้คนโตโพสต์ด่าเเม่ เเม่ก็ลองไปว่าเขาบ้างนะ พอหนูพูดไปเเบบนั้น เเม่เขาก็เริ่มหงุดหงิดมากขึ้น หลังจากที่หนูพิมพ์ไปเสร็จเเม่เเฟนก็ไปคุยกับเเฟนว่า หนูมันเป็นกะเทยสูบเลือด สูบเนื้อ อยู่กับลูกเขาไม่มีอะไรดีขึ้น ไปหาคนใหม่ดีกว่า พอหนูรู้ว่าเเม่เเฟนพูดเเบบนั้น หนูก็เลยด่ากลับไปบ้างเลย พอเเฟนรู้ เเฟนก็โกรธเเล้วเราก็ทะเลาะกัน เขาก็กลับบ้านไปหาเเม่เขาก่อน หนูก็เลยลองโทรไปหาเขาว่าจะเอายังไงจะเลิกใช่ไหม? เขาก็ไม่เลิกเเล้วก็หนีจากบ้านกลับมาหาเรา พอเเม่เขาจับได้ว่าลูกเขาหนีมาหาเรา เเม่เขาก็ด่าหนูอีกเเละก็โพสต์เเซะอยู่เรื่อยๆ ตอนนี้หนูรู้สึกผิดที่ทำให้เเม่ลูกเขาทะเลาะกัน หนูเลยอยากปรึกษาพี่ๆดีเจว่า หนูควรจะทำยังไงดีกับเเม่เเฟน หนูควรจะขอโทษเลยดีไหม?’ โดย “ดีเจเติ้ล” ให้คำปรึกษาว่า ‘ถ้าแม่ลูกคู่นั้นเขายังคิดถึงกันอยู่ ส่องเฟซกันไปมา พี่ก็คงบอกให้เขากลับไปคุยกับเเม่เถอะ เเต่ก็ต้องบอกเขาว่าถ้าเขากลับไปปัญหาเรื่องเงินมันก็จะกลับมาเหมือนเดิม สุดท้ายถ้าจะจัดการเรื่องนี้ไม่ได้ก็ต้องถามตัวพีว่า พีจะเเยกกระเป๋าไหม สุดท้ายก็ให้เขาไปคุยกันเพราะพี่ก็ไม่อยากให้เขาตัดแม่ ตัดลูกเพราะเรื่องของเรา เเละเรื่องขอโทษถ้าพีรู้สึกไม่สบายใจ พี่ว่าพีก็ไปขอโทษเขาได้’ ต่อมา “ดีเจต้นหอม” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘พี่ว่าให้อยู่ในจุดที่ต่างคนต่างอยู่ เเล้วเเยกกระเป๋ากันดีกว่า ถามเเฟนว่าอยากกลับไปหาเเม่ไหม ถ้าอยากก็ต้องคุยเรื่องเงินกันให้เคลียร์ไปเลย เเละก็พยายามไม่ใช้คำที่เเรงมากเกินไป เพราะคนที่เจ็บไม่ใช่เเม่เเฟน เเต่เป็นตัวของเเฟนพีเองมากกว่า’ ต่อมา “ดีเจเผือก” ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘ถามว่าจะทำยังไงเพราถึงจะมีเรื่องมีราวมากเเค่ไหน เเต่ต้องทำให้เเม่ลูกเขาไม่คุยกันเลยเนี้ย มันก็ต้องรู้สึกผิดอยู่เเล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องจะขอโทษดีไหม พี่ว่าถ้าทำไปก็ไม่ได้เสียหายอะไรนะ เเต่สถานการณ์มันจะดีขึ้นไหม ไม่รู้เเต่พี่เชื่อว่าพีจะรู้สึกสบายใจไปเรื่องนึง เหมือนยกภูเขาออกจากอกเลย’เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ทางใครมีปัญหาอยากโทรเข้ามาในรายการ Inbox ฝากเรื่องมาที่ Facebook Fanpage EFM STATIONรับชมรายการสดได้ทุกวันพุธ เวลา 21.00-23.00 น. ทางรายการวิทยุ EFM94 และ App Atime Fung Fin

album

0
0.8
1
Contact usGreenwave02-665-8377EFM02-665-8373
Advertise with usมัลลิกา ปราบอริพ่าย (กบ)(Atime Showbiz, Online Content)063-282-6915จุฑา วนศานติ (บี) (EFM)02-669-9512, 081-923-9823
อังคณา พองาม (นุก) (Greenwave)02-669-9444-7
ดาวน์โหลด Application ได้แล้ววันนี้ที่atime online application download from app storeatime online application download from play storeติดต่อสอบถาม / แจ้งปัญหาการใช้งานatimeplatform@atimemedia.com
บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน)เลขที่ 50 อาคาร จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ถนนสุขุมวิท21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขต วัฒนา กรุงเทพ 10110