ซีรีส์ ‘อย่ากลับบ้าน’ ขึ้นอันดับ 3 หมวดซีรีส์ภาษาต่างประเทศ ที่มีผู้ชมสูงสุดทั่วโลกบน Netflix

ENTERTAINMENT NEWS

ซีรีส์ ‘อย่ากลับบ้าน’ ขึ้นอันดับ 3 หมวดซีรีส์ภาษาต่างประเทศ ที่มีผู้ชมสูงสุดทั่วโลกบน Netflix

07 พ.ย. 2024

อีกหนึ่งผลงานออริจินัลซีรีส์ไทยที่มาแรงมาก สำหรับ ‘อย่ากลับบ้าน’ ผลงานการกำกับของ ต้น-วุฒิดนัย อินทรเกษตร ที่สตรีมให้ได้ชมพร้อมกัน 190 ประเทศทั่วโลกแบบครบ 6 EP. รวดบน Netflix เมื่อ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา

ซึ่งคนที่ได้ชมต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่คือมิติใหม่ของซีรีส์ไทยที่ฉีกและล้ำกว่าที่คิดไว้มาก ไม่ใช่แค่การสับขาหลอนคนดู แต่ยังได้รับเสียงชื่นชมในทุก ๆ องค์ประกอบศิลป์ การถ่ายทอดอารมณ์ของทุกตัวละคร หรือแม้แต่เพลงประกอบที่แค่ท่อนแรกขึ้นมาก็ทำผู้ชมน้ำตารื้น จนเรียกว่าเป็นชิ้นงานมาสเตอร์พีซก็ไม่จะไม่ผิด

ล่าสุดผลงานซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้ฮิตแค่ในไทยเท่านั้น เพราะมีข้อมูลเผยว่า ‘อย่ากลับบ้าน’ กลายเป็นไวรัลในต่างประเทศ พร้อมก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 3 หมวดซีรีส์ภาษาต่างประเทศ ที่มีผู้ชมสูงสุดทั่วโลกบน Netflix ในเวลาไม่ถึงสัปดาห์หลังจากเปิดตัว อีกทั้งยังเป็น TOP 10 ซีรีส์ภาษาต่างประเทศยอดนิยมพร้อมกันถึง 39 ประเทศด้วย

ขณะที่ทาง Netflix ก็แทนคำขอบคุณสำหรับกระแสตอบรับของซีรีส์ ด้วยการปล่อยเพลงประกอบ ‘ความทรงจำ’ บทเพลงออริจินัลจากวง Musketeer ที่ถูกหยิบมาถ่ายทอดในมุมและอารมณ์ใหม่ โดย วี-วิโอเลต วอเทียร์ มาให้ฟังเต็ม ๆ แล้ว หลังจากเกิดกระแสเสียงร้อง และบางคนวอนลูปซ้ำเพื่อฟังเพลงนี้ใน EP. สุดท้าย

‘อย่ากลับบ้าน’ จะพาผู้ชมไปติดตามเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นในบ้านหลังหนึ่ง เมื่อ วารี (รับบทโดย นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี) ตัดสินใจพา มิน (รับบทโดย เจแปน-พลอยปภัส ฝนแก้วศิวพร) ลูกสาวคนเดียวของเธอหนีกลับไปยัง ‘บ้านจารึกอนันต์’ บ้านเก่าของครอบครัวที่เธอเคยอาศัยอยู่เมื่อ 30 ปีก่อน จากนั้นสองแม่ลูกก็ได้เผชิญเหตุการณ์ประหลาดที่หาคำอธิบายไม่ได้ในบ้านหลังนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งลูกสาวเกิดหายตัวไปอย่างลึกลับ จึงทำให้ ฟ้า (รับบทโดย แพร-พิชชาภา พันธุมจินดา) ตำรวจหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ได้เข้ามาสืบสวนคดี ทว่าในระหว่างที่ ฟ้า พยายามรวบรวมเบาะแสเพื่อตามหานั้น หลักฐานต่าง ๆ ก็ชี้ให้เธอสงสัยว่า บ้านเก่าแก่หลังนี้เก็บซ่อนความลับแบบใดไว้กันแน่

‘อย่ากลับบ้าน’ สตรีมให้ชมครบทั้ง 6 EP. แล้ววันนี้

ภาพ : Netflix

related ENTERTAINMENT NEWS

ออกแบบ ชุติมณฑน์ ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล International Emmy Awards จากซีรีส์ ‘Hunger’

27 ก.ย. 2024

ออกแบบ ชุติมณฑน์ ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล International Emmy Awards จากซีรีส์ ‘Hunger’

ต้องขอแสดงความยินดีกับอีกหนึ่งก้าวของความสำเร็จ เมื่อ ออกแบบ-ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง นักแสดงมากความสามารถ ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม ในงาน International Emmy Awards ครั้งที่ 52 จากผลงานออริจินัลของ Netflix อย่าง ‘HUNGER (คนหิว เกมกระหาย)’ ฝีมือการกำกับของ โดม-สิทธิศิริ มงคลศิริ และ คงเดช จาตุรันต์รัศมีโดย ออกแบบ ได้โพสต์ภาพจากกองถ่ายผลงานเรื่องนี้ พร้อมกับเขียนข้อความสั้น ๆ เกี่ยวกับการถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลระดับโลกว่า นี่เป็นความรู้สึกที่เหมือนกับความฝัน การได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล International Emmy Awards สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยหากไม่มีทีมนักแสดง รวมถึงทีมงานเบื้องหลังของผลงานชิ้นนี้ทุกคน และการถูกเสนอชื่อให้เข้าชิงครั้งนี้มีความหมายในฐานะนักแสดงของเธอมาก ๆ พร้อมกับทิ้งท้ายด้วยการขอบคุณทุกคนในทีม Hunger และ NetflixTHสำหรับรายชื่อนักแสดงหญิงจากทั่วโลกที่ได้เข้าชิงในสาขานี้ ประกอบไปด้วย เอเดรียน่า บาร์ราซ่า (Adriana Barraza) ชาวอิตาลีจากผลงาน ‘El Último Vagón’, ซารา ฌิโรโด (Sara Giraudeau) ชาวฝรั่งเศสจากผลงาน ‘Tout va bien’ (Everything is Fine) และ เจสสิก้า ไฮเนส (Jessica Hynes) จากสหราชอาณาจักร เข้าชิงจากผลงาน ‘There She Goes’International Emmy Awards เป็นงานประกาศรางวัลที่จัดขึ้นโดยสถาบันศิลปะ และวิทยาการด้านโทรทัศน์นานาชาติ เพื่อยกย่องผลงานโทรทัศน์ที่ผลิตและออกอากาศนอกประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 52 แล้ว และที่ผ่านมามีผลงานที่ออกอากาศทางโทรทัศน์จากประเทศไทยเข้าชิงมาแล้ว 2 ครั้ง คือ ‘MasterChef Thailand Season 3’ และภาพยนตร์สารคดี ‘Hope Frozen: A Quest To Live Twice’ ของ ไพลิน วีเดล ซึ่งชนะรางวัลจากเวทีนี้ด้วยภาพ : NetflixTH

Netflix ประกาศอย่างเป็นทางการ “Squid Game” ซีซั่น 2 กลับมาอย่างแน่นอน!

13 มิ.ย. 2022

Netflix ประกาศอย่างเป็นทางการ “Squid Game” ซีซั่น 2 กลับมาอย่างแน่นอน!

“ฮวังดงฮยอก” ผู้กำกับ ผู้เขียนบท และผู้อำนวยการผลิตซีรีส์เรื่อง “Squid Game” หรือชื่อไทย “สควิดเกม เล่นลุ้นตาย” ประกาศยืนยันอย่างเป็นทางการว่า จะกลับมาในซีซั่น 2 อย่างแน่นอน หลังจากซีซั่นแรก ได้สร้างกระแสตอบรับอย่างดีจากทั่วโลก และเป็นซีรีส์เกาหลีเรื่องแรกที่สามารถไต่ขึ้นอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกา มีผู้ชมกว่า 95% แถมยังครองอันดับ 1 ใน 94 ประเทศที่ Netflix ให้บริการ และทำเงินให้กับ Netflix สูงเกือบ 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 30,000 ล้านบาท โดยใช้ต้นทุนการผลิตราว 21.4 ล้านดอลลาร์ หรือราว 714 ล้านบาท ซึ่งหากนับถึงช่วงเวลาดังกล่าวมีผู้รับชมซีรีส์เรื่องนี้เพียง 2 นาที มากว่ากว่า 130 ล้านคน โดยผู้กำกับ “ฮวังดงฮยอก” ได้เปิดเผยจดหมายบนโลกโซเชียลว่า “สควิดเกม เล่นลุ้นตาย (Squid Game) ซีซั่นแรกใช้เวลาสร้างนานถึง 12 ปี ก่อนจะมาโลดแล่นบนหน้าจอเมื่อปีที่แล้ว (ค.ศ.2021) แต่กลับใช้เวลาแค่ 12 วันก่อนจะดังเป็นพลุแตก จนกลายมาเป็นซีรีส์ ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจาก Netflix ในฐานะผู้เขียนบท ผู้กำกับ และผู้สร้าง Squid Game ขอขอบคุณแฟนๆ ทั่วโลกอย่างมากที่ให้เสียงตอบรับ รับชม และชื่นชอบซีรีส์ของเรา กีฮุนกลับมาแล้ว ฟรอนต์แมนกลับมาแล้ว พบกับซีซั่น 2 แน่นอน ชายในชุดวอร์มสวมหน้ากากอาจกลับมาอีกครั้ง ครั้งที่เราจะได้พบชอลชู แฟนของยองฮีด้วย มาสนุกในรอบใหม่กับเรา” ภาพ : Netflix

Netflix จัดให้ตามคำเรียกร้อง! เตรียมสร้างภาค 2 เพื่อสานต่อความสนุกของ ‘Wednesday’ และครอบครัว ‘Addams’

09 ม.ค. 2023

Netflix จัดให้ตามคำเรียกร้อง! เตรียมสร้างภาค 2 เพื่อสานต่อความสนุกของ ‘Wednesday’ และครอบครัว ‘Addams’

หลังจากออนแอร์และได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้ชมทั่วโลก จนล่าสุด Netflix ออกมาประกาศข่าวดีกับคอซีรีส์ว่า พวกเขาเตรียมสานต่อความสนุก ด้วยการสร้างภาค 2 ของ Wednesday ออริจินัลซีรีส์ยอดฮิต เจ้าของสถิติการรับชมสูงถึง 1.2 พันล้านชั่วโมงภายในเวลาเพียง 28 วันของการฉาย อีกทั้งยังเป็นซีรีส์ที่สร้างไวรัลถล่มทลายบนแพลตฟอร์มโซเชียลสำหรับ ‘Wednesday’ ซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากเรื่องราวของ ‘The Addams Family’ ผลงานของนักเขียน ชาร์ลส์ แอดดัมส์ (Charles Addams) บอกเล่าเรื่องราวของลูกสาวคนโตของครอบครัวอย่าง Wednesday ในโรงเรียนใหม่ Nevermore Academy จนเธอได้พบกับปมปริศนาบางอย่างที่มีนิมิตเชื่อมโยงกับคนรอบตัวเธอ อีกทั้งยังเล่าเรื่องราวมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่น่าประทับใจแม้ในภาคใหม่จะยังไม่ได้มีการเปิดเผยว่าทีมนักแสดงในภาคแรกจะกลับมาทำงานเรื่องนี้กันแบบครบทีมหรือไม่ และเรื่องราวในภาคใหม่จะยังเกิดขึ้นที่โรงเรียน Nevermore Academy หรือเปล่า แต่แฟนๆ ก็ตื่นเต้นไม่น้อยที่ทีมผู้สร้างออกมาคอนเฟิร์มเรื่องการสานต่อความสนุกนี้ หากใครยังไม่ได้ชมภาคแรก ยังสามารถเข้าไปติดตามทั้ง 8 ตอนได้บน Netflixภาพ : Netflix

‘The Glory’ ซีรีส์สุดเข้มข้นที่ได้รับคำชมเรื่องการแคสติ้งนักแสดงทั้งวัยรุ่นและตอนโต ว่ามีใบหน้าคล้ายกันสุดๆ

04 ม.ค. 2023

‘The Glory’ ซีรีส์สุดเข้มข้นที่ได้รับคำชมเรื่องการแคสติ้งนักแสดงทั้งวัยรุ่นและตอนโต ว่ามีใบหน้าคล้ายกันสุดๆ

ผลงานซีรีส์ที่มาแรงด้วยการครองแชมป์ความนิยมอันดับ 1 บน Netflix Thailand ขณะนี้อย่าง ‘The Glory’ นอกจากจะถูกผู้ชมพูดถึงและยกย่องให้กับความสามารถด้านการแสดงของตัวละคร เข้มข้นของบทบาท และเรื่องราวการล้างแค้นของ ‘มุนดงอึน’ รับบทโดย ซงฮเยคโย (Song Hye-kyo) ที่ต้องเอาใจช่วยแล้ว หนึ่งสิ่งที่คอซีรีส์ทั้งในเกาหลีและไทย รวมถึงทุกคนที่ได้ชมผลงานชิ้นนี้ต้องพูดถึงคือ การแคสติ้งของทีมเบื้องหลัง ที่สามารถคัดเลือกนักแสดงนำทั้ง 2 รุ่นได้หน้าละม้ายคล้ายคลึงกันแบบสุดๆไม่ว่าจะเป็นตัวละคร ‘มุนดงอึน’ ที่วัยเด็กรับบทโดย จองจีโซ (Jung Ji-So) และตอนโตรับบทโดย ซงฮเยคโย (Song Hye-kyo), ‘พัคยองจิน’ ที่วัยเด็กรับบทโดย ชินเยอึน (Shin Ye-Eun) และตอนโตรับบทโดย ลิมจียอน (Lim Ji-Yeon) หรือแม้แต่ตัวละคร ‘จอนแจจุน’ ที่รับบทโดย พัคซองฮุน (Park Sung-Hoon) ก็มีใบหน้าที่คล้ายกับผู้รับบทนี้ในตอนวัยรุ่นเช่นกันสำหรับ ‘The Glory’ เป็นออริจินัลซีรีส์เรื่องล่าสุดจากทาง Netflix ผลงานของนักเขียนบท คิมอึนซุก จากซีรีส์สุดฮิตอย่าง ‘The Heir’, ‘Secret Garden’,​ ‘Goblin’ , ‘​Descendants of​ the​ Sun’, ‘Mr. Sunshine’, ‘The King : Eternal Monarch’ และผู้กำกับ อันกิลโฮ จาก ‘Happiness’, ‘Stranger’, ‘Memories of the Alhambra’ ที่เล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในโรงเรียน จนเธอได้รับความทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ อีกทั้งความฝันที่อยากเป็นสถาปนิกก็ต้องพังทลาย ท่ามกลางมรสุมที่ทำให้ทั้งชีวิตของเธอดิ่งลงเหว เธอจึงใช้เวลาทั้งหมดเพื่อเฝ้ารอและวางแผนเพื่อกลับมาล้างแค้นอย่างสมโดยพาร์ท 1 ปล่อยออกมาให้ได้ชมครบทั้ง 8 ตอนแล้ว ส่วนพาร์ท 2 ที่หลายคนเฝ้ารอติดตามความเข้มข้น รอชมพร้อมกันได้ในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ภาพ : Netflix

album

0
0.8
1