จันจิ รับจบอีกแล้ว! โดนชาวเน็ตแซะไปหาผู้ชายถึงบ้าน ต้องยกมือไหว้ ‘คบ 10 ปีแล้วขอหนูไปเถอะ’

ENTERTAINMENT NEWS

จันจิ รับจบอีกแล้ว! โดนชาวเน็ตแซะไปหาผู้ชายถึงบ้าน ต้องยกมือไหว้ ‘คบ 10 ปีแล้วขอหนูไปเถอะ’

04 พ.ย. 2024

ขยับตัวหรือแสดงออกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ปุ๊บ ก็มักจะโดนแซะจากชาวเน็ตที่คอยจับจ้องในทันที สำหรับนักร้องนักแสดงสาว จันจิ-จันจิรา จันทร์พิทักษ์ชัย ก่อนหน้ามีโดนโจมตีหนัก เพียงเพราะโพสต์ภาพถ่ายรูปคู่กับตุ๊กตาอาร์ตทอยในบ้านของ มาริโอ้ เมาเร่อ ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มที่คบกันนาน 10 ปี

ล่าสุดโดนอีกแล้ว หลังจากที่เธอโพสต์ภาพเดินทางไปดินเนอร์ที่บ้านของ มาริโอ พร้อมกับเพื่อน ๆ ก่อนจะถ่ายภาพลงโซเชียลมีเดีย ร้อนไปถึงเหล่าแอนตี้แฟนเข้ามากระหน่ำพร้อมกับคอมเมนต์กล่าวหาเธอในเชิงเสียหายว่า “กลัวคนไม่รู้ว่าไปหาผู้ชายที่บ้าน” ทำเอาแฟน ๆ ที่สนับสนุนทั้งคู่ออกมาสู้กลับว่าสิ่งที่ จันจิ ทำไม่ใช่เรื่องผิดหรือเสียหายอะไรเลย

เวลาต่อมาเธอได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า เป็นเรื่องปกติของคนที่คบกัน ส่วนกระแสโจมตีที่เกิดขึ้นเธอไม่รู้จะบอกอะไร ก่อนจะยกมือไหว้ขออนุญาตจากชาวเน็ตว่า คบกันมา 10 ปีแล้ว ขอไปบ้านพี่โอ้บ้างนะคะ เพราะตอนนี้ต่างฝ่ายต่างทำงานก็แทบไม่ค่อยมีเวลาเจอกันเลย

“ก็ไปบ้างค่ะ ไม่รู้จะบอกอะไร จันจิก็ไปเฉย ๆ 10 ปีแล้วนะคะให้จันจิได้ไปเถอะ จันจิว่ามันเป็นเรื่องปกติ ซึ่งชีวิตการทำงานเราก็แทบจะไม่ค่อยได้เจอกันเลย อาทิตย์หนึ่งว่างตรงกันแค่วันเดียวก็มีค่ะ บางช่วง 2-3 สัปดาห์กว่าจะได้เจอกันก็มีค่ะ ขอไปบ้างเถอะ อย่าว่าจันจิเลย หวงได้ค่ะแต่หวงในใจได้ไหม คือเราไม่ค่อยได้เจอกันจริง ๆ ค่ะ ช่วงนี้พวกเราทำงานกันเยอะค่ะ อย่าว่าจันจิเลย

“จริง ๆ คู่เราจะเป็นเหมือนกันคือ บางครั้งก็ไม่ได้อยากออกไปเจอข้างนอก เพราะเหนื่อยจากงานมาแล้ว ถ้าเรามีเวลาว่างเราก็แค่ไปนั่งดูทีวี ทานข้าวกัน อยากชิลล์ ๆ ดูรถดูแมว ขออนุญาตชาวเน็ตนะคะ จันจิโตแล้ว ขอไปบ้านพี่โอ้ จันจิโตแล้วค่ะ (หัวเราะ)”

ภาพ : junji_junp / mario_mm38

related ENTERTAINMENT NEWS

มาริโอ้ เมาเร่อ เผยวิธีที่พาความสัมพันธ์ จันจิ จันจิรา ยืนระยะ 11 ปี ไม่ว่าจะมีดราม่าอะไร..ก็ไม่มีวันปล่อยมืออีกคนให้สู้เพียงลำพัง

14 พ.ค. 2025

มาริโอ้ เมาเร่อ เผยวิธีที่พาความสัมพันธ์ จันจิ จันจิรา ยืนระยะ 11 ปี ไม่ว่าจะมีดราม่าอะไร..ก็ไม่มีวันปล่อยมืออีกคนให้สู้เพียงลำพัง

แม้โลกจะหมุนเร็วแค่ไหน หรือจะมีข่าวคราวและดราม่าผ่านเข้ามาเพียงใด คู่รักคนบันเทิง มาริโอ้ เมาเร่อ และ จันจิ จันจิรา ก็ยังคงจับมือกันแน่น ยืนหยัดเคียงข้างกันมาจนครบรอบ 11 ปี ไม่ใช่แค่ตัวเลขที่สวยงาม แต่เป็นบทพิสูจน์ว่าความรักที่มั่นคงนั้น ต้องอาศัยทั้งความเข้าใจ ความใส่ใจ และการสื่อสารอย่างสม่ำเสมอมาริโอ้ เล่าให้เราฟังว่า เคล็ดลับของพวกเขาไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แค่รู้จักดูแลกันแม้ในเรื่องเล็ก ๆ ไม่ละเลยการสื่อสาร และให้พื้นที่แก่กันเมื่อต้องการพักใจ“เวลาว่างเราก็เจอกัน ดูแลกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน คอยให้กำลังใจกัน ถ้าเครียดก็หาทางออกในแบบของตัวเอง อย่างเขาอาจจะเลือกไปเต้น ผมก็จะคอยบอกว่าอย่าไปเครียดกับข่าวลือ” – มาริโอ้ในความสัมพันธ์ที่ยืนระยะได้ยาวนานขนาดนี้ ไม่ใช่เพราะไม่มีปัญหา แต่เพราะทั้งสองคนเลือกที่จะไม่ปล่อยมือกันในวันที่เจอเรื่องยาก แม้จะมีเสียงรอบข้าง หรือดราม่าใด ๆ ผ่านเข้ามา พวกเขาก็ยังเลือกจะเดินไปด้วยกัน “ดราม่าไม่ได้ทำให้เรารักกันมากขึ้นหรอกครับ เพราะเราดูแลกันแบบนี้อยู่แล้ว แต่อย่างน้อยมันก็พิสูจน์ได้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราก็จะไม่ปล่อยมือกัน” – มาริโอ้ความรัก 11 ปีของ มาริโอ้ และ จันจิ อาจไม่ใช่เรื่องโรแมนติกที่หวือหวา แต่เป็นความสัมพันธ์ที่อบอุ่น เรียบง่าย และมั่นคง เพราะสุดท้ายแล้วการไม่ปล่อยมือกันในวันที่ยากที่สุด นั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ความรักเติบโตได้อย่างแท้จริงภาพ : junji_junp / mario_mm38

แฟนคลับแซว ‘โลกนี้ไม่ควรมี มาริโอ้ คนเดียว’ หลังออกมาให้สัมภาษณ์ปกป้อง จันจิ จากกลุ่มแอนตี้

13 พ.ย. 2024

แฟนคลับแซว ‘โลกนี้ไม่ควรมี มาริโอ้ คนเดียว’ หลังออกมาให้สัมภาษณ์ปกป้อง จันจิ จากกลุ่มแอนตี้

มาริโอ้ เมาเร่อ นักแสดงชื่อดังออกมาให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นเกี่ยวแฟนสาวอย่าง จันจิ จันจิรา ที่มักกลายเป็นสนามอารมณ์ของกลุ่มแอนตี้แฟน ถูกคอมเมนต์วิจารณ์แรงในทุก ๆ ความเคลื่อนไหวของเธอบนโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นการไปทานข้าวที่บ้านของ มาริโอ้ หรือแม้แต่การออกมาร่วมสนุกทำชาเลนจ์เต้นบน TikTok ก็ไม่วายโดนด่าโดย มาริโอ้ เล่าถึงเรื่องนี้ว่า แม้ที่ผ่านมา จันจิ จะไม่ค่อยเล่ารายละเอียดเรื่องนี้ให้ฟังมากนัก แต่ก็แอบเป็นห่วงเรื่องสภาพจิตใจแฟนสาว สำหรับการคอมเมนต์ที่อาจจะดูก่ำกึ่งระหว่างการพูดตรงกับพูดแรง มาริโอ้ บอกว่าจริงอยู่ที่เราสามารถพูดตรง ๆ ได้ แต่บางครั้งการพูดตรงไม่ต้องแรงก็ได้ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่ามันอาจไปกระทบใจคนฟังมากขนาดไหน ยิ่งการเจตนาพูดแรงเพื่อให้คนฟังรู้สึกแย่ยิ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นไม่ว่ากับใครทั้งนั้น“เขาก็คงมีอะไรในใจแหละครับ แต่เขาไม่ได้มาเล่ารายละเอียดอะไร สิ่งที่คนเห็นเหมือนว่าเขาเต้นไปวัน ๆ ไม่ทำอะไร จริง ๆ สิ่งที่เราเห็นคืองานของเขา ที่เห็นเขาเต้นทำคอนเทนต์อาจเป็นงานของเขาก็ได้ครับ ผมว่ามันก็ไม่ได้ไปเดือดร้อนใคร ผมเองไม่ได้ติดที่เขาทำคอนเทนต์ เพราะผมเองก็เคยโดนชวนอยู่บ่อย ๆ ผมค่อนข้างโอเคถ้ามันเป็นสิ่งที่เขาชอบนะครับ ที่สำคัญมันไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร“ผมว่าเดี๋ยวนี้เรื่องคอมเมนต์ก็แรง อาจจะต้องไม่ต้องแรง พูดตรง ๆ ได้แต่ไม่ต้องแรง ความแรงมันอาจไปกระทบใจ คอมเมนต์มันไม่ได้ผิดหรอกครับ แต่ก็อยากให้ดูความเหมาะสม สำหรับผมผมว่าบางที่เราบอกแรง ๆ มันอาจจะดูไม่ค่อยน่ารัก บอกเบา ๆ เขาอาจจะฟังกว่าก็ได้ เราห้ามการแสดงความคิดเห็นไม่ได้ เพราะมันเป็นสิทธิ์ของเขาที่เราห้ามไม่ได้ ผมมองว่าคอมเมนต์เป็นสิ่งที่ดีที่ทำให้คนเราเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ถ้ามันแรงเกินมันอาจไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย”นอกจากนี้ มาริโอ้ ยังบอกว่าส่วนตัวเองเป็นคนที่อ่านคอมเมนต์บนพื้นที่โซเชียลมีเดียบ้าง แต่ก็พยายามทำความเข้าใจและเลือกเสพ หากเป็นคอมเมนต์ที่จะช่วยให้พัฒนาตัวเองก็จะเก็บมาปรับปรุง แต่ถ้ามองแล้วเป็นความคิดเห็นที่มีแต่อารมณ์และความรู้สึกส่วนตัวล้วน ๆ ก็เลือกที่จะปล่อยผ่านภาพ : Mario Maurer

จันจิ จันจิรา และ เขื่อน ภัทรดนัย แชร์ประสบการณ์เที่ยว Coachella ไม่สนุก เพราะถูกขโมยมือถือและบัตรเครดิต

19 เม.ย. 2024

จันจิ จันจิรา และ เขื่อน ภัทรดนัย แชร์ประสบการณ์เที่ยว Coachella ไม่สนุก เพราะถูกขโมยมือถือและบัตรเครดิต

จากนักท่องเที่ยวกลายเป็นผู้ประสบเหตุที่แท้จริง สำหรับ จันจิ-จันจิรา จันทร์พิทักษ์ชัย และ เขื่อน-ภัทรดนัย เสตสุวรรณ 2 ศิลปินไทยที่ร่วมเดินทางไปเที่ยวในงานเทศกาลดนตรี Coachella ที่แคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่กลับพบว่าพวกเธอถูกแก๊งมือดีแอบขโมยโทรศัพท์มือถือ บัตรเครดิต และบัตรเดบิตไปจนเกลี่ยง ทำเอากุมขมับจนหมดสนุกไปเลยโดย จินจิ ได้ออกมาโพสต์บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเธอและเพื่อนว่า แม้จะตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่ทำได้คือปล่อยวาง พยายามมองในมุมบวกถือว่าเป็นโซเชียลดีท็อกซ์ แล้วหันมาสนใจผู้คนและสิ่งรอบข้าง ซึ่งก็ช่วยให้เธอดีขึ้นได้จริง ๆ“ในวันที่เกิดปัญหา สิ่งเดียวที่ทำได้คือทำใจ ช่างมัน ปล่อยวาง มันเกิดขึ้นกับจันจิละค่ะ ไฟลท์บังคับเลย นี่คือภาพหลังจากโดนขโมยมือถือ กับบัตรปชช เครดิต เดบิตที่ลืมอาญัติ 1 ใบ โดนเอาไปรูดฉ่ำที่งาน Coachella 1วัน เขื่อนก็โดนเช่นกัน ตอนนั้นช็อก หมดใจ หมดอารม แต่เพื่อนก็ซัปพอร์ตว่าไม่เป็นไร ยืมมือถือ ยืมเงินได้ก่อนเลย เขื่อนบอกถือว่า social detox มันก็ยังทำใจไม่ได้ จนคิดได้เองละว่าอย่าดันทุรัง แก้ไขสถานการณ์ตอนนี้ก่อน อายัติบัตร กดรีพอร์ตมือถือหาย ติดต่อผู้จัดการและคนรอบข้างให้ทราบ และก็บอกตัวเองช่างมัน มาไกลขนาดนี้นอยด์แล้วได้อะไร เราไม่มีความสุข คนที่มาด้วยใครเขาจะมีความสุข หลังจากวันนั้นก็ไม่ได้ใช้มือถือเลย social detox จริง ๆ ดื่มด่ำบรรยากาศ ดูผู้คน สัมผัสความรู้สึกที่ได้ ณ ปัจจุบันขณะ ตอนนี้กลับมาแล้ว พร้อมจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ชาร์ตพลังเต็มที่พร้อมออกไปทำงานต่อแล้วค่ะ”ในโพสต์มีแฟน ๆ เข้าไปให้กำลังใจมากมาย รวมถึงเพื่อนผู้ประสบเหตุอย่าง เขื่อน ก็เข้าไปปลอบใจ พร้อมกับซัปพอร์ตเธอว่า หายด้วยกัน ทำให้ได้ใช้เวลานั่งเล่นด้วยกันภาพ : junji_junp / koendanai

จันจิ จันจิรา โพสต์ขอโทษสำหรับพฤติกรรมที่อาจสร้างบรรยากาศไม่ดีต่อผู้อื่นในการรับชมคอนเสิร์ต

01 เม.ย. 2024

จันจิ จันจิรา โพสต์ขอโทษสำหรับพฤติกรรมที่อาจสร้างบรรยากาศไม่ดีต่อผู้อื่นในการรับชมคอนเสิร์ต

จันจิ-จันจิรา จันทร์พิทักษ์ชัย นักแสดงสาวชื่อดัง ออกมาโพสต์ข้อความผ่านบัญชีเอ็กซ์ (X) ส่วนตัว @junji_janjera ถึงดราม่าที่เกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อมีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียรายหนึ่งออกมาระบายความอัดอั้นตันใจ เพราะในระหว่างที่เข้าไปชมคอนเสิร์ต บรูโน่ มาร์ส (Bruno Mars) ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่กลับได้เจอกับบรรยากาศที่ไม่ดี เนื่องถูกรบกวนจากแสงแฟลชของผู้ชมที่อยู่แถวหน้าซึ่งทราบในเวลาต่อมาว่าเป็น จันจิ กับแก๊งเพื่อน ที่มีการเปิดแฟลชเพื่อหันมาถ่ายคอนเทนต์ลงโซเชียล โดยผู้โพสต์ระบุว่ามีการสะกิดเพื่อแจ้งให้กับผู้ชมกลุ่มดังกล่าวทราบแล้วว่า แสงแฟลชที่เปิดทำให้แสบตา และผู้ชมที่นั่งด้านหลังไม่สามารถถ่ายคลิปได้ แต่กลุ่มของดารากลับไม่สนใจ ทำให้เธอรู้สึกสงสารเพื่อนล่าสุด จันจิ ออกมาโพสต์ถึงกรณีนี้โดยระบุว่าเธอไม่ใช่คนต้นคลิป แต่เธอยอมรับว่าเธอเป็นคนเปิดแฟลชโทรศัพท์เพื่อถ่ายคลิปจริง จนทำให้ผู้ชมที่นั่งด้านหลังได้รับความเดือนร้อน“ในกรณีที่มีดราม่าเรื่องเปิดแฟลชใน คอนเสิร์ต bruno mars จันจิไม่ใช่คนต้นคลิปค่ะ แต่จันจิเปิดแฟลชถ่ายคลิป ทำให้ผู้อื่นที่อยู่ด้านหลังเดือดร้อน จันจิน้อมรับในการกระทำครั้งนี้ว่าผิด ไม่มีมารยาท และไร้ซึ่งการไตร่ตรอง จันจิไม่สามารถย้อนเวลาได้ จันจิได้รับบทเรียน และจะไม่ทำอีกค่ะ”พร้อมกันนี้เธอยังออกมาโพสต์ข้อความทิ้งท้ายด้วยว่า สำหรับใครที่ยังไม่พอใจกับการขอโทษและแสดงความรับผิดชอบ สามารถตักเตือนเธอได้ เธอพร้อมที่จะน้อมรับ และขอโทษอีกครั้งสำหรับพฤติกรรมที่อาจทำให้หลายคนรู้สึกผิดหวังภาพ : junji_junp

album

0
0.8
1