อิงฟ้า วราหะ เล่าถึงความท้าทายที่ต้องเจอในหนังเรื่องแรก ‘วิมานหนาม’

ENTERTAINMENT NEWS

อิงฟ้า วราหะ เล่าถึงความท้าทายที่ต้องเจอในหนังเรื่องแรก ‘วิมานหนาม’

14 ส.ค. 2024

นับถอยหลังเพื่อรอพบกับการฟาดฟันสุดเข้มข้นในภาพยนตร์เรื่อง ‘วิมานหนาม’ ผลงานล่าสุดจาก GDH ที่จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์พร้อมกัน 22 สิงหาคมนี้แล้ว นี่คือผลงานการกำกับของ บอส-นฤเบศ กูโน ซึ่งมอบเซอร์ไพรส์แรกตั้งแต่วันเปิดตัวโปรเจกต์นี้ด้วยการจับคู่ อิงฟ้า วราหะ และ เจฟ ซาเตอร์ มาปะทะฝีมือบนจอเงินครั้งแรก

และจากตัวอย่างที่มีการปล่อยออกมาเป็นน้ำจิ้มก่อนหน้านี้ หลายคนค่อนข้างเซอร์ไพรส์กับความทุ่มเทของ อิงฟ้า ที่เราจะคุ้นตากับคุลนางงามที่สวยเป๊ะทุกองศา แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้เราจะได้เห็น อิงฟ้า หน้าเปลือยไร้เมกอัพ อีกทั้งยังสาดอารมณ์แบบไม่ยั้ง จนแทบไม่เชื่อว่านี่คือการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอ

อิงฟ้า บอกกับเราว่า เธอยังไม่ลังที่จะทุ่มเทแบบสุดตัว เปลี่ยนลุคจัดเต็มทั้งเสื้อผ้าหน้าผมเพื่อรับบท ‘โหม๋’ หญิงสาวชาวบ้านที่ดูธรรมดา แต่มีปมบางอย่างที่ซ้อนไว้ จนนำมาสู่การแย่งชิงสิ่งที่ต้องการ อิงฟ้า เล่าว่าด้วยความเป็นการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรก นั่นทำให้เธอต้องเตรียมตัวเพื่อรับมือกับหลากหลายความท้าทายทางการแสดงครั้งนี้

“วิมานหนาม เป็นหนังเรื่องแรกในชีวิตของฟ้าเลยค่ะ ประทับใจมากที่ได้พลิกบทบาทมาเป็น ‘โหม๋’ ตอนแรกมีความกังวลว่าเราจะเล่นได้ถึงอย่างที่ผู้กำกับเขาวางคาแรกเตอร์เอาไว้ไหม เพราะมีเรื่องของการไต่อารมณ์เยอะมาก แต่พอได้ออกกอง ได้ลงมือทำงานจริง ๆ รู้สึกว่าสิ่งที่เราคิดคือพังทลายไปตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอพี่บอสผู้กำกับเลยค่ะ รู้สึกไม่กดดัน ไม่เครียด และรู้สึกสนุกมากในระหว่างการถ่ายทำ พี่บอสบอกว่า ในซีนอารมณ์ ถ้าอยากนำเสนออะไร ให้ลองเล่น ลองแสดงออกมาก่อน ซึ่งพอเปิดกว้างแบบนี้ มันทำให้การแสดงของเรามีมิติมากขึ้น

“ซึ่งการต้องมารับบทโหม๋ ฟ้าต้องปรับเปลี่ยนเยอะมากค่ะ ทั้งเรื่องของคอสตูม เรื่องลุคต่าง ๆ รวมถึงอินเนอร์ด้วย ซึ่งพอได้อ่านบทตั้งแต่ต้นจนจบ ฟ้าก็เข้าถึงตัวโหม๋ทันที อาจจะด้วยความที่ตัวโหม๋มันมีตัวตนอะไรบางอย่างที่ฟ้าคลิกได้ ซึ่งโชคดีมากที่การเล่นหนังครั้งแรกได้ร่วมงานกับเจฟและแม่สีดา ที่คอยรับส่งอารมณ์ทั้งทางสายตา คำพูดและท่าทาง ทำให้การแสดงไหลลื่นมาก ๆ ค่ะ สุดท้ายก็อยากจะฝากให้ทุกคนได้ไปเที่ยวอีกโลกหนึ่งของพวกเรา ซึ่งฟ้ากับเจฟเก็บเอาไว้นานมาก กว่าที่วิมานหนามจะได้ออกสู่สายตาของทุกคน มันมีหลากหลายอารมณ์ ฟ้าและนักแสดงทุกคนเต็มที่กันมาก ๆ ห้ามพลาดนะคะ”

‘วิมานหนาม’ ภาพยนตร์ที่จะชวนขุดหนามในตัวออกมาฟาดฟัน เพื่อแย่งชิงวิมานในฝันมาครอบครอง มีกำหนดจะเช้าฉาย 22 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

ภาพ : GDH

related ENTERTAINMENT NEWS

บ้านเช่า..บูชายัญ เปิดตัวอันดับ 1 ด้วยรายได้วันแรก 9.1 ล้าน พร้อมกับคำวิจารณ์เชิงบวก

07 เม.ย. 2023

บ้านเช่า..บูชายัญ เปิดตัวอันดับ 1 ด้วยรายได้วันแรก 9.1 ล้าน พร้อมกับคำวิจารณ์เชิงบวก

เข้าฉายอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวานนี้ (6 เมษายน 2566) สำหรับ บ้านเช่า..บูชายัญ ภาพยนตร์สยองขวัญลุ้นระทึกเรื่องใหม่จาก GDH โดยผู้กำกับ จิม-โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ ที่เคยฝากความประทับใจมาแล้วจากเรื่อง ลัดดาแลนด์ โดยมีนักแสดงนำคุณภาพทั้ง เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ, มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน และ ต่าย-เพ็ญพักตร์ ศิริกุล มาถ่ายทอดประสบการณ์ความหลอนที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคดีสะเทือนขวัญเกี่ยวกับ ‘บ้านเช่า’ ที่เคยเป็นข่าวดังในสังคมไทยล่าสุดทาง GDH ออกมาเปิดเผยว่า บ้านเช่า..บูชายัญ สามารถเปิดตัวอันดับ 1 พร้อมกับรายได้วันแรกกว่า 9.1 ล้านบาท อีกทั้งยังได้รับคำวิจารณ์ในเชิงบวกจากผู้ชม ซึ่งส่วนใหญ่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หลอนครบรส เป็นหนังผีที่ไปสุดในทุกๆ มิติจริงๆ โดยเฉพาะคำชมต่อผู้กำกับ ซึ่งเพจ จับผิดหนัง ได้ให้คะแนนผลงานเรื่องนี้ว่า เป็น Master of Horror ของพี่จิม โศภณ อย่างแท้จริงขณะเดียวกันกระแสการตอบรับจากต่างประเทศก็ไม่น้อยหน้า เพราะหลังจากที่ บ้านเช่า..บูชายัญ เข้าฉายในไทยแล้ว ก็เตรียมเดินทางไปมอบประสบการณ์ความหลอนระทึกและเปิดให้เช่าที่ต่างประเทศด้วย โดยจะเดิมกันที่บ้านบ้านอย่างกัมพูชา พร้อมกับเปิดตัวโปสเตอร์โปรโมทเรียกน้ำจิ้มจากคอหนังสยองขวัญชาวกัมพูชาด้วยสัมผัสความหลอนในบ้านเช่าหลังนี้ได้แล้วทุกโรงภาพยนตร์ สามารถเช็ครอบได้ทาง openlink.co/homeforrentภาพ : GDH

สงคราม ส่งด่วน เข้าชิงซีรีส์ยอดเยี่ยม และอีก 4 รางวัลใหญ่ บนเวที Asian Academy Creative Awards 2025

01 ต.ค. 2025

สงคราม ส่งด่วน เข้าชิงซีรีส์ยอดเยี่ยม และอีก 4 รางวัลใหญ่ บนเวที Asian Academy Creative Awards 2025

ขอแสดงความยินดีกับซีรีส์ไทย สงคราม ส่งด่วน (Mad Unicorn) ผลงานจาก Netflix ผลิตโดย GDH ที่ได้รับเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าชิงถึง 5 สาขารางวัลใหญ่ บนเวทีระดับเอเชีย Asian Academy Creative Awards 2025 งานประกาศรางวัลสุดยิ่งใหญ่ที่เชิดชูผลงานด้านโทรทัศน์และสื่อดิจิทัล ครอบคลุมทั้งซีรีส์ ภาพยนตร์ สารคดี ข่าว ไปจนถึงการแสดงและการกำกับ โดยมีผู้เข้าชิงจากหลากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียโดยปีนี้ สงคราม ส่งด่วน ตัวแทนจากประเทศไทย ได้เข้าชิงใน 5 สาขาสำคัญ ได้แก่ซีรีส์ยอดเยี่ยม | Producer เก้ง–จิระ มะลิกุล, วัน–วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์บทซีรีส์ยอดเยี่ยม | ไก่–ณฐพล บุญประกอบ, แฮม–วสุธร ปิยารมณ์, เป็ด–ทศพล ทิพย์ทินกร, ธ–หาญทวีวัฒนา, แตง–ภัทรนาถ พิบูลย์สวัสดิ์ผู้กำกับยอดเยี่ยม | ไก่–ณฐพล บุญประกอบนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม | ไอซ์ซึ–ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม | เจนเย่–เมธิกา จีรนรภัทรการได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในเวทีนี้ ไม่เพียงสะท้อนคุณภาพของงานสร้าง แต่ยังตอกย้ำถึงพลังของคอนเทนต์ไทยที่สามารถก้าวขึ้นสู่เวทีสากลได้อย่างภาคภูมิสงคราม ส่งด่วน เป็นซีรีส์ดราม่าธุรกิจที่พาผู้ชมย้อนกลับไปสำรวจชีวิตของ สันติ เด็กดอยผู้ใฝ่ฝันอยากหลุดพ้นจากความยากจน เขาก่อตั้งบริษัทขนส่งพัสดุ ธันเดอร์ เอ็กซ์เพรส หลังถูกเจ้าสัวทุนใหญ่หักหลังและขโมยไอเดียไปให้ลูกชายบริหาร จนต้องร่วมมือกับ เสี่ยวหยู นักการเงิน และ รุ่ยเจี๋ย โปรแกรมเมอร์ เพื่อท้าชนกับบริษัทยักษ์ใหญ่และช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดกลับคืนมาสำหรับใครที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจเพื่อพิสูจน์ตัวเองและก้าวสู่การเป็นหัวแถว สามารถรับชม สงคราม ส่งด่วน ครบทั้ง 7 ตอน ได้แล้ววันนี้ ทาง Netflix เท่านั้นภาพ : Netflix

‘หลานม่า’ กลายเป็นหนังทำเงินสูงที่สุดในรอบปี หลังเข้าฉาย 14 วัน ทำรายได้ทะลุ 250 ล้าน มุ่งสู่ 300 ล้าน

17 เม.ย. 2024

‘หลานม่า’ กลายเป็นหนังทำเงินสูงที่สุดในรอบปี หลังเข้าฉาย 14 วัน ทำรายได้ทะลุ 250 ล้าน มุ่งสู่ 300 ล้าน

ผ่านไป 2 สัปดาห์แล้วที่ ‘หลานม่า’ ภาพยนตร์ดราม่าครอบครัวจาก GDH เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ พร้อมสร้างปรากฏการณ์ความซาบซึ้งทั่วไทย ซึมเข้าไปทุกหัวใจและทุกครอบครัว โดยล่าสุด GDH ออกมาเปิดเผยว่า ‘หลานม่า’ ทำรายได้ทะลุผ่านหลัก 250 ล้านบาทไปเรียบร้อยแล้ว และกำลังมุ่งหน้าสู่หนังไทย 300 ล้านอีกทั้งข้อมูลรายได้จากการเข้าฉายตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ยังส่งให้ ‘หลานม่า’ ก้าวขึ้นแท่นเป็นหนังไทยทำเงินสูงที่สุดในปีนี้ และกำลังเตรียมออกฉายไปประเทศต่าง ๆ แถบเอเชีย โดยจะประเดิมที่ จีน, เกาหลีใต้, ลาว, เวียดนาม ฯลฯ‘หลานม่า’ เป็นฝีมือการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของ พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ หยิบยกเอาความผูกพันของสมาชิกหลากเจเนอเรชันในครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนมาถ่ายทอดได้อย่างกลมกล่อม บวกกับฝีมือของนักแสดงนำทั้ง บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล, ดู๋-สัญญา คุณากร, เผือก-พงศธร จงวิลาส, เจีย-สฤญรัตน์ โทมัส, ตู-ต้นตะวัน ตันติเวชกุล และนักแสดงหน้าใหม่วัย 76 ปี แต๋ว-อุษา เสมคำ ก็สร้างความประทับใจผ่านการแสดงที่เป็นธรรมชาติไปซาบซึ้งด้วยกันกับภาพยนตร์ ‘หลานม่า’ กันได้วันนี้ในโรงภาพยนตร์ภาพ : GDH

เจฟ ซาเตอร์ จะมารับบทนำใน Project D ของ GDH ร่วมกับ อิงฟ้า วราหะ ซึ่งมีกำหนดเปิดกล้องปลายปีนี้

29 ส.ค. 2023

เจฟ ซาเตอร์ จะมารับบทนำใน Project D ของ GDH ร่วมกับ อิงฟ้า วราหะ ซึ่งมีกำหนดเปิดกล้องปลายปีนี้

GDH ออกมาอัปเดตความคืบหน้าของ Project D (Working Title) หนึ่งในโปรเจกต์ภาพยนตร์ชิ้นใหม่ของ GDH ผลงานของผู้กำกับ บอส-นฤเบศ กูโน ว่าจะกลับมาเริ่มกระบวนการทำงานอีกครั้ง หลังต้องระงับการทำงานไปชั่วคราว โดยมีความเปลี่ยนแปลงลิสของนักแสดงซึ่งครั้งนี้ได้ เจฟ ซาเตอร์ (Jeff Satur) ศิลปินและนักแสดงมากความสามารถมารับบทนำคู่กับ อิงฟ้า วราหะ“บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด ขอประกาศอัปเดตความคืบหน้าของภาพยนตร์ โปรเจกต์ D (Working Title) ซึ่งทางบริษัทมีเหตุจำเป็นต้องระงับการถ่ายทำไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากความไม่ลงตัวของระยะเวลาในการเตรียมงาน“ซึ่งทางบริษัทฯ ผู้กำกับภาพยนตร์ และทีมงานที่เกี่ยวข้องกับโปรเจกต์นี้ ได้ใช้เวลาในช่วงที่ผ่านมาในการแก้ไขปรับเปลี่ยนรายละเอียดต่างๆ ของบทภาพยนตร์จนสมบูรณ์เรียบร้อย ทางบริษัทฯ จึงขอแจ้งให้แฟน ๆ ทราบว่า ขณะนี้ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวกำลังจะเข้าสู่กระบวนการเตรียมงานก่อนการถ่ายทำจริงแล้ว โดยทีมนักแสดงหลักทั้ง 5 ท่าน ได้แก่ เจฟ ซาเตอร์, อิงฟ้า วราหะ, พงศกร เมตตาริกานนท์, หฤษฎ์ บัวย้อย และ สีดา พัวพิมล จะเริ่มทำการเวิร์กช็อปร่วมกัน เพื่อให้พร้อมสำหรับการเปิดกล้องที่จะเกิดขึ้นในปลายปีนี้“ทางบริษัทฯ ขอขอบคุณแฟนๆ ที่ให้ความสนใจรอชมภาพยนตร์เรื่องนี้ และให้การสนับสนุนที่ดีเสมอมา”สำหรับ Project D ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน GDH Line Up 2023 นำแสดงโดย พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร แต่เนื่องด้วยระยะเวลาในการเตรียมงาน รวมถึงสถานที่ที่ไม่ลงตัว ทำให้ต้องระงับการถ่ายทำไปชั่วคราว ขณะที่แฟนคลับเองก็แอบเสียดายที่จะไม่ได้เห็นฝีมือการแสดงภาพยนตร์ของ พีพี แต่ก็เคารพการตัดสินใจของทุกฝ่ายทางด้าน เจฟ ซาเตอร์ ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้แล้วว่า เป็นโอกาสดีที่ได้ร่วมงานกับทาง GDH และนักแสดงทุกคนในเรื่อง ส่วนตัวเขารู้สึกว่าเป็นงานที่ท้าทายมาก รวมถึงประเด็นหลักของเรื่องที่จะพูดถึงก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจทีเดียว“จริงๆ เราคุยกันมาประมาณ 3-4 เดือนแล้ว พอได้เห็นตัวบทก็รู้สึกว่ามันท้าทายมาก หลังจากนั้นก็ได้เข้าไปแคสต์กับพี่บอสผู้กำกับ ความน่าสนใจของตัวบทคือ มีการพูดถึงประเด็นที่น่าสนใจมาก ๆ ซึ่งเกี่ยวกับ LGBT ด้วย แล้วมันเป็นประเด็นที่ผมพูดมาตลอด เรารู้สึกว่าก็ดีนะถ้าเราจะได้เป็นตัวแทนในการพูดถึงเรื่องนี้แทนคนที่เขาไม่สามารถพูดออกมาได้ รวมถึงไดนามิกของเรื่องมันค่อย ๆ ไล่ไปจนถึงจุดที่มันไม่น่าจะไปถึงได้“ตอนแรกผมก็รู้สึกกังวลว่าผมเหมาะหรือเปล่า ซึ่งผู้ใหญ่บอกว่าจากการได้ดูวิดีโอแคสต์ก็รู้สึกว่านี่เป็นเวอร์ชั่นที่เขาอยากจะเห็นในหนังเรื่องนี้ ตอนแรกที่ผมกังวลเพราะตัวบทมันท้าทายมาก แล้วผมอาจจะมีเวลาเตรียมตัวไม่ได้เยอะขนาดนั้น แล้วการที่จะต้องทรานส์ฟอร์มตัวเองไปเป็นคนอื่นมันก็ยาก การทำงานเพลงมันคือการเป็นตัวเรา แต่งานหนังมันเป็นการทิ้งตัวเราแล้วไปเป็นคนอื่น“ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันกดดันอะไรในเรื่องนี้ แต่ถ้าจะกดดันผมกดดันกับเรื่องบทมากกว่า ในฐานะเป็นนักแสดงสิ่งที่ต้องทำการบ้านจริง ๆ คือตัวบท แล้วเราจะไปเป็นคนคนนั้นในหนังเรื่องนี้ได้ยังไง”เจฟ ยังบอกอีกว่า คาแร็กเตอร์ในเรื่องนี้ถือว่าเป็นที่สุดของการทรานส์ฟอร์มตัวเอง เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกที่แฟน ๆ ได้เห็นเขาในลุคผิวดำและต้องโกนหัว ซึ่งเขามองว่าหากจะต้องไปเป็นคนอื่น ก็ต้องทิ้งตัวตนของตัวเองไว้ที่หน้าเซ็ตแล้วเข้าไปในโลกของตัวละครนั้นจริง ๆ ต้องรอดูว่าฝีมือการแสดงของเขาจะออกมาเป็นยังไง แต่ที่แน่ ๆ เจฟ ก็ทุ่มสุดตัวเลยทีเดียวภาพ : Wayfer Records

album

0
0.8
1