บิวกิ้น พุฒิพงศ์ เผยความรู้สึกหลัง ‘หลานม่า’ ประสบความสำเร็จ พาขึ้นเป็นพระเอกพันล้าน

ENTERTAINMENT NEWS

บิวกิ้น พุฒิพงศ์ เผยความรู้สึกหลัง ‘หลานม่า’ ประสบความสำเร็จ พาขึ้นเป็นพระเอกพันล้าน

06 ส.ค. 2024

บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล ศิลปินและนักแสดงชื่อดัง ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับภาพยนตร์เรื่อง ‘หลานม่า’ จากค่าย GDH ที่ตอนนี้กำลังออกเดินทาง มอบความซาบซึ้งใจให้กับผู้ชมในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งนับรวมรายได้แล้วก็ทะลุผ่านหลัก 1,000 ล้านบาท ทำให้ บิวกิ้น ขึ้นแท่นพระเอกพันล้านได้จากหนังเรื่องแรกของตัวเอง

บิวกิ้น บอกว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นขอยกเครดิตให้กับทีมงานเบื้องหลังทุก ๆ ส่วน ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ ทีมนักแสดง และทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ‘หลานม่า’ และก็รู้สึกโชคดีที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกร์หนังไทยเรื่องนี้

“ยังไม่ค่อยชินหรอกพี่ (ยิ้มเขิน) ดีใจและภูมิใจครับ งานหนังมันเหมือนงานกลุ่มที่ต้องไปกันทั้งทีมครับ เราก็เต็มที่ในพาร์ตของเรา เราก็อยากทำให้งานนี้ออกมาดีที่สุด ผมรู้สึกโชคดีนะ เพราะจริง ๆ แล้วผมเข้ามาในโปรเจกต์นี้ท้าย ๆ เลยด้วยซ้ำครับ เพราะว่าเขาทำบทกันมานานมาก ทีมงานหลาย ๆ ส่วนก็ถูกล็อกไว้หมดแล้ว ผมเป็นทีมท้าย ๆ ที่เข้ามาแล้วครับ

“หนังหลาย ๆ เรื่อง อาจจะมีคนที่เล่นหนังได้ดีกว่าผมอีก แสดงได้ดีกว่าผมอีก แต่มันอาจจะไม่ได้มีจังหวะประจวบเหมาะแบบเดียวกับผม มันยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้หนังประสบความสำเร็จ เรื่องหน้าถ้าไม่ประสบความสำเร็จ ถ้าเราได้เต็มที่มันก็โอเคนะครับผม ผมว่าผมโชคดีที่ได้เกาะขบวนหลานม่าไปกับเขาด้วย”

ภาพ : GDH

related ENTERTAINMENT NEWS

สีดา พัวพิมล ใช้ประสบการณ์ในฐานะนักแสดงและแม่ที่สูญเสีย มาถ่ายทอดในภาพยนตร์ ‘วิมานหนาม’

15 ส.ค. 2024

สีดา พัวพิมล ใช้ประสบการณ์ในฐานะนักแสดงและแม่ที่สูญเสีย มาถ่ายทอดในภาพยนตร์ ‘วิมานหนาม’

ทันทีที่ภาพของนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง แม่สีดา พัวพิมล ปรากฎตัวเป็นหนึ่งในทีมนักแสดงนำของภาพยนตร์เรื่อง ‘วิมานหนาม’ จากค่าย GDH ผ่านการกำกับของ บอส-นฤเบศ กูโน ก็สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับคอหนังไทยมากทีเดียว เพราะนี่นับว่าเป็นการหวนคืนงานแสดงในรอบกว่า 20 ปี และหากย้อนไปเฉพาะงานภาพยนตร์ก็นานกว่า 36 ปีทีเดียวดังนั้นกลับมาทั้งทีแม่สีดาเลยหยิบเอาสกิลการด้านแสดง จากประสบการณ์ในฐานะนักแสดง และประสบการณ์ในฐานะแม่ที่สะสมมาตลอดชีวิต ร่วมถ่ายทอดลงไปเพื่อนำเสนอและสื่ออารมณ์ที่ดุเดือด ร่วมกับนักแสดงรุ่นใหม่ทั้ง อิงฟ้า วราหะ, เจฟ ซาเตอร์, เต้ย พงศกร และ เก่ง หฤษฎ์ แม้ว่าการถ่ายทำจะต้องเจอกับอุปสรรคและความท้าทายมากขนาดไหน แม่ก็สู้สุดใจไม่มีหวั่น จนเมื่อตัวอย่างแรกของ ‘วิมานหนาม’ ปล่อยออกมาก็ได้รับคำชื่นชมอย่างมาก โดยเฉพาะฝีมือของแม่สีดาแม่สีดาเล่าถึงการคัมแบ็กบนจอเงินรอบนี้ว่า สำเร็จตั้งแต่วันที่หนังยังไม่เข้าฉาย เพราะจากตัวอย่างและโปสเตอร์ที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ มีคนเข้ามาชื่นชมเรื่องการแสดงมากมาย จนทำให้แม่รู้สึกภาคภูมิใจ แม้ว่าจะอายุมากแล้ว แต่กระแสแรงมากจริง ๆ ก่อนที่จะยืนยันว่ายังแกร่ง ยังสู้ และยังอยากที่จะทำงานที่รักนี้ต่อไป“ที่ผ่านมาช่วงชีวิตมีหลายเรื่องราวมาก ความที่เราอยู่โดดเดี่ยวมานาน จนเกินจะอธิบาย พอได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ รู้สึกดีใจปนความไม่มั่นใจ มันกล้า ๆ กลัว ๆ ในหลาย ๆ อย่าง แต่ดีใจที่ได้กลับมาสู่อาชีพที่เรารัก ดีใจที่ยังมีคนเห็นคุณค่า บอกเลยว่าภูมิใจจนน้ำตาไหล ที่ผ่านมาเราได้ร่วมงานกับผู้กำกับรุ่นบรมครู พอได้มาร่วมงานกับน้องบอส ยอมรับเลยว่าต้องปรับตัวเยอะมาก แต่พอได้เห็นการทำงานของเขา ต้องยอมใจเลย เพราะเขาเป็นผู้กำกับรุ่นใหม่ที่มีฝีมือคนหนึ่ง เวลาบรีฟในแต่ละซีนทำให้เราเห็นภาพตัวละครชัดเจนมาก ทำให้เราดึงเอาอารมณ์มาใช้ได้แบบตรงคาแรกเตอร์”แม่สีดาบอกอีกว่า พาร์ตความท้าทายที่สุดคือบทที่จะต้องเป็นแม่ที่สูญเสียลูกเลย เลยหยิบเอาอารมณ์และความสู้สึกของตัวเองที่เคยต้องสูญเสียลูกชายไปจริง ๆ มาใช้ในการช่วยสื่ออารมณ์ ซึ่งบทที่ได้รับกับความเป็นจริงในชีวิต ก็มีความคล้ายกันคือชีวิตที่ยากลำบาก และการสูญเสีย“ฉากงานบวชเป็นอีกฉากที่ทำให้แม่อินมาก เพราะมีความเหมือนกับชีวิตจริงของแม่ ที่ลูกตายไปก่อนที่จะบวชให้ ซึ่งพอได้เล่นในซีนนี้ทำเอาน้ำตาซึม ตื้นตันใจ แถมยังยังตื่นตาตื่นใจกับประเพณีการบวชของแม่ฮ่องสอนที่เราเองยังไม่เคยเห็นมาก่อน อีกอย่างที่ดีใจมาก คือการที่ได้มาร่วมงานกับคนรุ่นใหม่ อย่างน้องอิงฟ้า น้องเจฟ น้องเต้ย น้องเก่ง ยอมรับฝีมือเลยว่าเด็กสมัยนี้เขาเก่งกันจริง ๆ“และถึงเบื้องหน้ามีฉากที่ต้องปะทะกันรุนแรงแค่ไหน แต่เบื้องหลังคือทุกคนดูแลแม่ดีมาก รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่มากองถ่าย แม้ว่าเวลาทำงานจะใส่เต็มจนหมดแรง เพราะบท ‘แม่แสง’ เป็นบทที่หนักหน่วงและท้าทายมาก ๆ เป็นตัวละครที่มีมิติ มีด้านน่าสงสาร มีด้านร้าย มีมุมที่คาดไม่ถึง แม่อยากขอบคุณที่เลือกแม่มารับบทนี้ เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจในชีวิตการแสดงของแม่ ซึ่งแม่เองอยากเชิญชวนแฟนภาพยนตร์ให้มาดูหนังวิมานหนามกันด้วยนะคะ เป็นหนัที่น่าดูมาก ตัวละครแต่ละตัวก็คือไม่ธรรมดา ฟาดฟันแล้วก็เชือดเฉือนกันหนักมาก ตัวแม่เองก็ฟาดมากเช่นกันค่ะ มาดูกันเยอะ ๆ นะคะ รับรองว่าจะติดใจค่ะ”‘วิมานหนาม’ เข้าฉายพร้อมกัน 22 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ภาพ : GDH

‘หลานม่า’ สร้างปรากฏการณ์เต็มรอบ-เต็มโรงหลังเข้าฉายวันแรก ทำรายได้เปิดตัว 21 ล้านบาท

05 เม.ย. 2024

‘หลานม่า’ สร้างปรากฏการณ์เต็มรอบ-เต็มโรงหลังเข้าฉายวันแรก ทำรายได้เปิดตัว 21 ล้านบาท

‘หลานม่า’ ภาพยนตร์ดราม่าครอบครัวประเดิมเรื่องแรกของปี 2567 จากค่าย GDH เปิดตัวแรงพร้อมสร้างปรากฏการณ์ทั่วโลกออนไลน์ และเป็นไอเดียในการครีเอทแคมเปญการตลาดของหลากหลายแบรนด์ดัง ไม่เพียงเท่านั้นตลอดทั้งวันที่เข้าฉายวันแรก (4 เมษายน 2567) ความไวรัลของหนังก็พุ่งทะยานติดอันดับ 1 ของเทรนด์เอ็กซ์ประเทศไทยตลอดทั้งวันล่าสุด GDH ได้ออกมาเปิดเผยรายได้เปิดตัวของ ‘หลานม่า’ หลังจากเข้าฉายให้ชมพร้อมกันทั้งประเทศ โดยทำเงินไปแล้วกว่า 21 ล้านบาท ขยับขึ้นมาเป็นหนัง GDH ที่ทำรายได้เปิดตัวสูงที่สุดในอันดับที่ 4 เป็นรอง ‘ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค’ (55 ล้านบาท), ‘บุพเพสันนิวาส 2’ (51 ล้านบาท) และ ‘Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน’ (24 ล้านบาท)กระแสของหนังถูกพูดถึงไปในทิศทางเดียวกันนั้นคือ เป็นผลงานคืนฟอร์มของ GDH ที่คนดูประทับใจกับทุกสิ่งที่ผู้กำกับอย่าง พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ ผสมผสานให้เข้ากันได้อย่างกลมกล่อมลงตัว อีกทั้งยังหยิบเอาเรื่องราวใกล้ตัวที่หลายคนมองข้าม มานำเสนอได้อย่างลึกซึ้ง บวกกับฝีมือการแสดงชั้นยอดของนักแสดงนำ ทั้ง บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล, ดู๋-สัญญา คุณากร, เผือก-พงศธร จงวิลาส, เจีย-สฤญรัตน์ โทมัส, ตู-ต้นตะวัน ตันติเวชกุล และนักแสดงหน้าใหม่วัย 76 ปี แต๋ว-อุษา เสมคำ ที่ช่วยสื่อสารบทต่าง ๆ ให้เข้าถึงคนดูอย่างตรงใจมารอลุ้นกันว่า ‘หลานม่า’ จะกลายเป็นผลงานที่เข้าทำเนียบหนัง 100 ล้านของ GDH เรื่องต่อไปได้หรือไม่ ชวนคนที่คุณคิดถึงไปซาบซึ้งด้วยกันกับภาพยนตร์ ‘หลานม่า’ เข้าฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ภาพ : GDH

‘Kang Mak’ หนังผีอินโดนีเซียที่รีเมกจาก ‘พี่มาก...พระโขนง’ ทำรายได้ผ่านหลัก 110 ล้านบาท

19 ส.ค. 2024

‘Kang Mak’ หนังผีอินโดนีเซียที่รีเมกจาก ‘พี่มาก...พระโขนง’ ทำรายได้ผ่านหลัก 110 ล้านบาท

แสดงความยินดีกับ ‘Kang Mak’ หนังผีอินโดนีเซียที่รีเมกอย่างถูกต้องตามลิขสิทธิ์จากหนังไทยพันล้านอย่าง ‘พี่มาก...พระโขนง’ โดยค่าย GDH ซึ่งเปิดตัวรอบกาลาพรีเมียไปเมื่อ 5 สิงหาคมและเข้าฉายอย่างเป็นทางการเมื่อ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ล่าสุดมีการเปิดเผยรายได้ 4 วันแรกสามารถทำเงินไปได้สูงถึง 110 ล้านบาท พร้อมกับยอดจำหน่ายตั๋วไปกว่า 1.23 ล้านที่นั่งสำหรับ ‘Kang Mak’ กำกับโดย เฮอร์วิน โนว์ยันโต (Herwin Novianto) ผู้กำกับยอดเยี่ยมของเทศกาลหนังอินโดนีเซีย นำแสดงโดย วีโน จี. บาสเตียน (Vino G Bastian) กับ มาร์ช่า ทิโมธี (Marsha Timothy) ได้รับคำชื่นชมอย่างถล่มทลายจากคอหนังอินโดนีเซีย โดยคำวิจารณ์ต่างบอกว่าเป็นการปรับเอกลักษณ์ของหนังต้นฉบับ ให้ออกมาสนุกเข้ากับบริบทความเป็นอินโดนีเซียได้อย่างลงตัวพาร์ตความน่ากลัวก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม อีกทั้งยังสามารถสร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมได้ในจังหวะที่เหมาะสม จนผู้ชมยกให้เป็น ‘หนังตลกสยองขวัญที่ดีที่สุดอีกเรื่อง’ ของวงการภาพยนตร์อินโดนีเซียภาพ : GDH

บิวกิ้น เล่าเหตุการณ์เจอซาแซงล้ำเส้น แอบจองตั๋วเพื่อนั่งล้อมบนเครื่องบิน ระหว่างเดินทางไปแฟนมีตติ้งที่มาเก๊า

31 ม.ค. 2024

บิวกิ้น เล่าเหตุการณ์เจอซาแซงล้ำเส้น แอบจองตั๋วเพื่อนั่งล้อมบนเครื่องบิน ระหว่างเดินทางไปแฟนมีตติ้งที่มาเก๊า

บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล ศิลปินและนักแสดงชื่อดังแห่งค่าย Billkin Entertainment ออกมาเล่าเหตุการณ์ที่ทำให้เขาไม่สบายใจ หลังจากมีแพลนจะต้องเดินทางไปจัดงาน BILLKIN PP KRIT ASIA FAN MEETING 2024 ที่มาเก๊า ในวันอาทิตย์ที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา แต่กลับพบว่าบนเครื่องถูกกลุ่มซาแซงแอบจองที่นั่งเพื่อนั่งประกบล้อมทุกด้าน ซึ่งในเหตุการณ์นั้นคนสนิทอย่าง พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ก็เผชิญชะตากรรมร่วมกันด้วยบิวกิ้น บอกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกคุกคามและรุกล้ำพื้นที่ความเป็นส่วนตัว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเครื่องเป็นการกระทำที่โหดเกินไป ก่อนจะตัดสินใจย้ายไปนั่งที่ชั้นอีโคโนมีแทน และจากที่เห็นคือเป็นกลุ่มแฟนคลับที่มักจะได้พบเห็นตามงานต่าง ๆ และทราบอยู่แล้วว่าเป็นคนเดียวที่ตามติดตลอด“ผมก็ตกใจนะครับ เพราะเขาเป็นกลุ่มแฟนคลับที่ตามเราตลอด เราเองก็ดีใจนะครับเวลามีแฟนคลับตามสนับสนุน แต่มันจะมีเส้นความพอดีอยู่มากกว่าว่าอยู่ในพื้นที่ที่จัดสรรและโอกาสที่เหมาะสม จริง ๆ คนนี้ก็ตามแบบฮาร์ดคอร์ครับ ตั้งแต่ตอนเช็กอิน เข้าเลาจน์ก็เดิมไล่บี้มาประกบ พอขึ้นเครื่องมาเจอนั่งข้าง ๆ อีก สำหรับผมผมว่าโหดนิดนึงครับ”“นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกนะครับ มีการพูดคุยไม้อ่อนไม้แข็ง แต่ก็รู้สึกว่าไม่ค่อยเป็นผลเท่าไหร่ แต่ครั้งล่าสุดก็โหดนิดนึงคือนั่งประกบเลย เราคุยภายในกันหลายครั้ง แต่มันเป็นเส้นที่จะกันยากนิดนึงครับ เพราะมันเป็นพื้นที่สาธารณะ ที่มันไม่มีข้อกฏหมายไหนเพื่อเอาผิดได้ ทั้งที่สนามบิน ในห้าง หรือบนเครื่องบิน เวลาเขามาประกบเราในงาน เขาก็จะบอกว่ามันเป็นที่สาธารณะที่เขาจะมาตามได้ ผมว่าแฟน ๆ ของผมกับพีพีส่วนใหญ่ก็น่ารักมากนะครับ หลังจากที่มีการขอความร่วมมือ ก็แทบจะไม่มีใครมาตามเลย ทุกคนก็ให้ความร่วมมืออย่างดี ไม่มีใครล้ำเส้นเลย”บิวกิ้น ยังเล่าอีกว่าการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนตัวไม่ทราบแน่ชัดว่าได้มายังไง แต่หลังจากนี้ยังมีความเชื่อลึก ๆ ว่าแฟนคลับทุกคนจะสามารถเข้าใจถึงความพอดีของเส้นแบ่งความเป็นส่วนตัว และหากยังมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกก็คงต้องพยายามหาวิธีเพื่อสร้างความปลอดภัยและสบายใจในการใช้ชีวิตส่วนตัววิธีอื่น ๆ ต่อไปภาพ : bbillkin

album

0
0.8
1