ไบร์ท วชิรวิชญ์ ใช้เวลาช่วงท้ายกล่าวขอโทษผู้ชมสำหรับความผิดพลาดบนคอนเสิร์ต ‘The Kingdom’

ENTERTAINMENT NEWS

ไบร์ท วชิรวิชญ์ ใช้เวลาช่วงท้ายกล่าวขอโทษผู้ชมสำหรับความผิดพลาดบนคอนเสิร์ต ‘The Kingdom’

03 มิ.ย. 2024

จบลงไปแล้วสำหรับ ‘The Kingdom Concert’ การรวมตัวของ 4 ศิลปินชายที่เป็นที่สุดแห่งยุคจาก 4 ค่ายอย่าง นนท์-ธนนท์ จำเริญ, ทอย-ธันวา บุญสูงเนิน, เจฟ-วรกมล ซาเตอร์ และ ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี เพื่อร่วมสร้างโชว์สุดพิเศษ โดยการแสดงทั้งในรอบวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ต่างก็ได้รับเสียงชื่นชมจากผู้ชมจำนวนมาก

ขณะเดียวกันก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยเกี่ยวความผิดพลาดของ ไบร์ท หนึ่งศิลปินหลักของคอนเสิร์ตนี้หลังมีการแชร์คลิปที่เขาร้องเพลงผิด-ร้องเพี้ยน ผู้ชมบางส่วนมองว่าเรื่องเสียงร้องเพราะหรือไม่เพราะ ถือเป็นความรู้สึกและความคิดเห็นเฉพาะบุคคล ไม่อยากใช้ประเด็นนี้เพื่อกล่าวโทษ ไบร์ท แต่การร้องผิดสะท้อนถึงการไม่เตรียมตัวหรือไม่ในฐานะศิลปินหลักของคอนเสิร์ตนี้? 

โดย ไบร์ท ได้รับรู้ถึงประเด็นดังกล่าว ทำให้เขาขออนุญาตใช้เวลาสั้น ๆ ในช่วงท้ายของการแสดง เพื่อกล่าวขอโทษต่อผู้ชมสำหรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบนเวที และยืนยันว่าเขาได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่มากแล้ว

“ร้องผิดพลาดบ้างต้องขอโทษจริง ๆ ผมเต็มที่มากแล้ว ขอโทษที่ทำให้ใครเสียเวลา แต่ว่า..ผมจะร้องเพลงต่อไป”

บนโซเชียลมีเดียมีการแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้มากมาย โดยเฉพาะบนบัญชีอินสตาแกรมของ ไบร์ท ที่มีคนเข้าไปคอมเมนต์มากกว่า 5,000 ข้อความ ซึ่งก็มีทั้งฝั่งที่ให้กำลังใจพร้อมสนับสนุน ฝั่งเห็นใจและก็ให้คำแนะนำเรื่องการเรียนร้องเพลงจริงจัง ขณะที่บางกลุ่มคอมเมนต์แรงถึงขั้นมองว่า ไบร์ท อาจจะเหมาะกับบทบาทนักแสดงมากกว่า

ภาพ : ALL NEWS EXPRESS

related ENTERTAINMENT NEWS

เหล่ท่อ..หล่อเท่! THE TOYS เตรียมปล่อยอั้ลบั้ม ‘6667’ ปรับลุคเป็นหนุ่มร็อคและเน้นภาพโชว์แบบ Full Band

26 ก.ย. 2022

เหล่ท่อ..หล่อเท่! THE TOYS เตรียมปล่อยอั้ลบั้ม ‘6667’ ปรับลุคเป็นหนุ่มร็อคและเน้นภาพโชว์แบบ Full Band

ทุกครั้งที่มีผลงานใหม่ ชื่อของ THE TOYSหรือทอย-ธันวา บุญสูงเนินศิลปินและโปรดิวเซอร์มากความสามารถจากสังกัดค่ายเพลงWhat The Duck ก็ไม่เคยทำให้เราผิดหวังเลยสักครั้ง เพราะในทุกๆ ซิงเกิลที่ปล่อยออกมาให้ได้ฟัง ไม่ว่าจะเป็น ‘หน้าหนาวที่แล้ว’, ‘ก่อนฤดูฝน’, ‘ลาลาลอย’, ‘ไวน์ลดา’, ‘เมะ’และ‘อาหมวยหาย’ ทุกๆ เพลงล้วนมีเอกลักษณ์และสไตล์ที่โดดเด่นแตกต่างกันไป อีกทั้งยังสามารถสร้างความนิยมจนติดชาร์ตเพลงทั่วประเทศ อีกทั้งยังกวาดยอดวิวทะลุล้านทุกเพลงและตอนนี้ THE TOYS เตรียมตอกย้ำภาพนักดนตรีมากความสามารถอีกครั้ง ด้วยการปล่อยอัลบั้ม‘6667’โปรเจกต์ที่จะมาสร้างตำนานครั้งใหม่ให้กับแนวเพลงร็อค ด้วยสไตล์การเล่นกีตาร์ที่เป็นเอกลักษณ์และหาตัวจับได้ยาก เพื่อชุบชีวิตเพลงร็อคให้กลับมามีสีสันอีกครั้ง พร้อมทั้งเน้นภาพโชว์แบบFull Bandที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ พิเศษไปกว่านั้นยังได้ร่วมงานกับ 1 ใน 10 มือกีตาร์ระดับโลกอีกด้วยสามารถรอฟังและสัมผัสประสบการณ์ร็อคสีสันใหม่จาก THE TOYS ได้ทุกช่องทางของ What The Duckภาพ : What The Duck

ตีตั๋วแล้วออกเดินทางไปกับ ‘Space Shuttle No.8’ คอนเสิร์ตเดี่ยวปิดท้ายเอเชียทัวร์ของ Jeff Satur ที่ตราตรึงใจทุกนาที

25 เม.ย. 2024

ตีตั๋วแล้วออกเดินทางไปกับ ‘Space Shuttle No.8’ คอนเสิร์ตเดี่ยวปิดท้ายเอเชียทัวร์ของ Jeff Satur ที่ตราตรึงใจทุกนาที

ปิดเอเชียทัวร์พาร์ทแรกอย่างยิ่งใหญ่สำหรับ est Cola Presents JEFF SATUR: SPACE SHUTTLE NO.8 ASIA TOUR IN BANGKOK คอนเสิร์ตใหญ่ของศิลปินมากความสามารถ เจฟ ซาเตอร์ ที่เจ้าตัวทุ่มสุดตัว เนรมิตยูโอบี ไลฟ์ ให้กลายเป็นจักรวาลของ เจฟ ด้วยโปรดักชันอลังการ และโชว์พิเศษสุดเซอร์ไพรส์เพื่อแฟนเพลงทุกคนโดยคอนเสิร์ตครั้งนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับผู้ชมกำลังนั่งชมละครเวที ที่มีการแบ่งองก์ในแต่ละช่วงอย่างชัดเจน จำลองบรรยากาศให้ทุกคนคือเหล่าผู้โดยสารที่ตีตั๋วขึ้น ‘Space Shuttle No.8’ ออกเดินทางไปพบเจอเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยกันตลอดทั้งโชว์ ซึ่งเป็นคอนเซปต์เดียวกับอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกในชีวิตของ เจฟ นอกจากจะจัดเต็มกับโปรดักชัน ในพาร์ตโชว์ เจฟ ก็สามารถสร้างความตราตรึงใจในทุก ๆ ช่วง ทุก ๆ บทเพลงแฟนเพลงที่พลาดโอกาสได้ร่วมเป็นหนึ่งในผู้โดยสาร ที่ได้ออกเดินทางไปกับ ‘Space Shuttle No.8’ EFM ได้แคปเจอร์โมเมนต์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนเวทีมาฝากกันด้วยพาร์ทแรกของคอนเสิร์ตเริ่มเล่าเรื่องด้วยการออกเดินทางด้วยขบวนรถไฟที่ไล่เรียงซิงเกิลฮิตอย่าง ‘Highway’, ‘ลืมไปแล้วว่าลืมยังไง (Fade)’ รวมถึงเพลงเก่า ๆ ของ เจฟ ที่ได้นำมาร้องใหัฟังในคอนเสิร์ตนี้เป็นครั้งแรก คล้ายเป็นการบอกเล่าการเดินทางที่ผ่านมาของ เจฟ และปิดพาร์ทนี้ด้วยเพลง ‘แค่เงา (Hide)’ ที่ เจฟ ได้โชว์ลีลาโซโล่กีตาร์สุดเท่ห์ และค่อย ๆ เลือนรางหายไปกับสเตจสุดอลังการหลังจากจบการเปิดตัวด้วยความเท่ของ เจฟ พาร์ทถัดมาจะเป็นการนำเพลงรักที่ซ่อนอารมณ์อ่อนไหว จากในอัลบั้ม Space Shuttle No.8 ไม่ว่าจะเป็น ‘Almost Over You’ และ ‘ส่วนน้อย (Yellow Leaf)’ เล่าผ่าน Visual บนเวทีในคอนเซ็ปต์ของโลกจินตนาการชวนฝันและตรึงให้คนดูตกอยู่ในภวังค์ รวมถึงเซอร์ไพรส์แรกจาก เจฟ ที่มีเฉพาะคอนเสิร์ตรอบการแสดงที่กรุงเทพฯ คือเหล่าแขกรับเชิญที่ เจฟ ชวนมาสร้างความสุขให้กับผู้ชม ประเดิมด้วย อิงค์ วรันธร ที่มาพร้อมสกิลสุด Awesome โชว์พลังเสียงหูเคลือบทองคู่กับ เจฟ พร้อมด้วย นนท์ ธนนท์ ในรอบวันเสาร์ ที่ชวนกันมาร้องเพลง ‘จำนน’ ให้แฟน ๆ ฟังกันแบบสด ๆ และ 4EVE ในการแสดงรอบวันอาทิตย์ ที่ทำให้ เจฟ ของต้องมาออกสเต็ปแดนซ์ร่วมกับสาว ๆ ในเพลง ‘Hot 2 Hot’ เรียกเสียงกรี๊ดได้ดังสนั่นไปทั้งฮอลล์อีกหนึ่งไฮไลท์ของคอนเสิร์ตนี้ต้องยกให้พาร์ท SUNSHINE ที่ถือว่าเป็นไฮท์ไลท์สำคัญ ที่เลือกเล่าเรื่องราวผ่านของ SUNSHINE ตัวละครที่แฟนเพลงน่าจะพอคุ้นหน้าคุ้นตา เพราะมักจะมีตัวละครนี้ผ่านมาทักทายกันอยู่บ่อย ๆ ในหลาย ๆ เพลงของ เจฟ เพลงไฮไลท์ของพาร์ทนี้เริ่มจาก ‘Dum Dum’, ‘Feeling Good’ และ ‘Black Tie’ ก่อนที่ตัวละคร SUNSHINE จะปรากฏตัวขึ้นในเพลง ‘Stranger’ ตามด้วย เจฟ ตัวจริงที่ขึ้นมาโชว์พลังเสียงเซอร์ไพรส์ซ้อนเซอร์ไพรส์ ถือเป็นหนึ่งในเพลงที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมมากที่สุดอีกหนึ่งเพลงของคอนเสิร์ตครั้งนี้เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายของ Space Shuttle No.8 เริ่มต้นด้วยเพลง ‘ซ่อน (ไม่) หา (Ghost)’ ซิงเกิลเปิดตัวอัลบั้มที่ล่าสุดกวาดยอดวิวใน YouTube 60 ล้านวิวเป็นที่เรียบร้อย โดย เจฟ ได้โชว์พลังเสียงจัดเต็มเลเวลหูเคลือบทอง ปิดท้ายด้วย ‘แค่เธอ (Why Don’t You Stay)’ เพลงดังที่ทำให้หลาย ๆ ได้คนรู้จัก เจฟ มากขึ้นในฐานะศิลปินคุณภาพของวงการเพลงไทยอีกคนหนึ่งการเดินทางครั้งนี้สิ้นสุดลงด้วยการโคจรรอบคุณวันเสาร์ เมื่อ เจฟ จัดเซอร์ไพรส์ด้วยการไปนั่งอยู่ที่แสตนด์เดียวกับคนดูท้ายฮอลล์ในเพลง ‘คุณวันเสาร์ (Saturdayss)’ เพลงที่ เจฟ แต่งขึ้นมาให้กับแฟน ๆ ของเขาโดยเฉพาะ ก่อนจะโดนคุณวันเสาร์เซอร์ไพรส์กลับด้วยแฟนโปรเจกต์สุดซึ้ง จนเจ้าตัวถึงกลับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ก่อนจะลาแฟน ๆ เป็นครั้งสุดท้ายด้วยเพลง ‘ลืมไปแล้วว่าลืมยังไง (Fade)’ ที่ เจฟ ขึ้นไปร้องอยู่บนเครนที่เคลื่อนที่ไปรอบทั้งฮอลล์ เพื่อให้แฟน ๆ ทุกที่นั่งได้เข้าถึงอย่างใกล้ชิดนอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยด้วยว่า เจฟ ซาเตอร์ ได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับการทำงานคอนเสิร์ตนี้ ตั้งแต่การวางคอนเซ็ปต์และเล่าเรื่องราว โปรดักชั่น รวมไปถึงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แม้แต่ผู้ชมเองอาจคาดไม่ถึง ถือเป็นการตอกย้ำความสามารถของเขาที่มีรอบด้านจริง ๆคอนเสิร์ต est Cola Presents Jeff Satur: Space Shuttle No.8 Asia Tour in Bangkok ครั้งนี้ ทำเอาคุณวันเสาร์และแฟนเพลงหลายคนตั้งหน้าตั้งตารอการเดินทางครั้งถัดไปของศิลปินมากความสามารถคนนี้แล้ว เพราะการเดินทางไปยัง Space Shuttle No.8 ครั้งนี้ คุ้มค่า ครบรส จนหลาย ๆ คนในโซเชียลมีเดียยกให้เป็นหนึ่งในคอนเสิร์ตที่โปรดักชันและพลังเสียงอลังการที่สุดของต้นปีนี้เลยทีเดียวภาพ : Warner Music Thailand / Live Nation Tero

นนท์ ธนนท์ ออกแบบหมวกลายพิเศษ เพื่อจำหน่ายนำรายได้สมทบสภากาชาดไทย เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนา 130 ปี

24 ต.ค. 2023

นนท์ ธนนท์ ออกแบบหมวกลายพิเศษ เพื่อจำหน่ายนำรายได้สมทบสภากาชาดไทย เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนา 130 ปี

งานเอ็นเตอร์เทนก็ไม่เคยพร่อง งานทำบุญ งานการกุศลก็ไม่เคยพลาด สำหรับศิลปินขวัญใจแฟน ๆ นนท์-ธนนท์ จำเริญ สังกัด LOVEiS ENTERTAINMENT ที่ล่าสุดร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบหมวกลวดลายพิเศษ เพื่อจำหน่ายและนำรายได้สมทบทุนมอบให้กับสภากาชาดไทย เนื่องในโอกาสที่สภากาชาดไทย ครบรอบวันคล้ายวันสถาปนา 130 ปีโดย นนท์ ได้ออกแบบหมวดสีชาว ลวดลายเป็นลายปักสีแดงตัวอักษร NONT TANONT ดีไซน์พิเศษ สวมใส่สบาย แมทช์ได้ทุกลุค พร้อมให้จับจองแล้ววันนี้ในราคาใบละ 490 บาท รายได้จากการจำหน่ายจะนำไปใช้ในภารกิจของสภากาชาดไทยสามารถสั่งซื้อได้ที่ สำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย ถนนพระรามที่4 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ หรือสอบถาม โทร.086-8295881, 02-2564623 หรือที่ E-Mail : shop@redcross.or.thภาพ : LOVEiS ENTERTAINMENT / We Love Tanont

เจฟ ซาเตอร์ จะมารับบทนำใน Project D ของ GDH ร่วมกับ อิงฟ้า วราหะ ซึ่งมีกำหนดเปิดกล้องปลายปีนี้

29 ส.ค. 2023

เจฟ ซาเตอร์ จะมารับบทนำใน Project D ของ GDH ร่วมกับ อิงฟ้า วราหะ ซึ่งมีกำหนดเปิดกล้องปลายปีนี้

GDH ออกมาอัปเดตความคืบหน้าของ Project D (Working Title) หนึ่งในโปรเจกต์ภาพยนตร์ชิ้นใหม่ของ GDH ผลงานของผู้กำกับ บอส-นฤเบศ กูโน ว่าจะกลับมาเริ่มกระบวนการทำงานอีกครั้ง หลังต้องระงับการทำงานไปชั่วคราว โดยมีความเปลี่ยนแปลงลิสของนักแสดงซึ่งครั้งนี้ได้ เจฟ ซาเตอร์ (Jeff Satur) ศิลปินและนักแสดงมากความสามารถมารับบทนำคู่กับ อิงฟ้า วราหะ“บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด ขอประกาศอัปเดตความคืบหน้าของภาพยนตร์ โปรเจกต์ D (Working Title) ซึ่งทางบริษัทมีเหตุจำเป็นต้องระงับการถ่ายทำไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากความไม่ลงตัวของระยะเวลาในการเตรียมงาน“ซึ่งทางบริษัทฯ ผู้กำกับภาพยนตร์ และทีมงานที่เกี่ยวข้องกับโปรเจกต์นี้ ได้ใช้เวลาในช่วงที่ผ่านมาในการแก้ไขปรับเปลี่ยนรายละเอียดต่างๆ ของบทภาพยนตร์จนสมบูรณ์เรียบร้อย ทางบริษัทฯ จึงขอแจ้งให้แฟน ๆ ทราบว่า ขณะนี้ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวกำลังจะเข้าสู่กระบวนการเตรียมงานก่อนการถ่ายทำจริงแล้ว โดยทีมนักแสดงหลักทั้ง 5 ท่าน ได้แก่ เจฟ ซาเตอร์, อิงฟ้า วราหะ, พงศกร เมตตาริกานนท์, หฤษฎ์ บัวย้อย และ สีดา พัวพิมล จะเริ่มทำการเวิร์กช็อปร่วมกัน เพื่อให้พร้อมสำหรับการเปิดกล้องที่จะเกิดขึ้นในปลายปีนี้“ทางบริษัทฯ ขอขอบคุณแฟนๆ ที่ให้ความสนใจรอชมภาพยนตร์เรื่องนี้ และให้การสนับสนุนที่ดีเสมอมา”สำหรับ Project D ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน GDH Line Up 2023 นำแสดงโดย พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร แต่เนื่องด้วยระยะเวลาในการเตรียมงาน รวมถึงสถานที่ที่ไม่ลงตัว ทำให้ต้องระงับการถ่ายทำไปชั่วคราว ขณะที่แฟนคลับเองก็แอบเสียดายที่จะไม่ได้เห็นฝีมือการแสดงภาพยนตร์ของ พีพี แต่ก็เคารพการตัดสินใจของทุกฝ่ายทางด้าน เจฟ ซาเตอร์ ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้แล้วว่า เป็นโอกาสดีที่ได้ร่วมงานกับทาง GDH และนักแสดงทุกคนในเรื่อง ส่วนตัวเขารู้สึกว่าเป็นงานที่ท้าทายมาก รวมถึงประเด็นหลักของเรื่องที่จะพูดถึงก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจทีเดียว“จริงๆ เราคุยกันมาประมาณ 3-4 เดือนแล้ว พอได้เห็นตัวบทก็รู้สึกว่ามันท้าทายมาก หลังจากนั้นก็ได้เข้าไปแคสต์กับพี่บอสผู้กำกับ ความน่าสนใจของตัวบทคือ มีการพูดถึงประเด็นที่น่าสนใจมาก ๆ ซึ่งเกี่ยวกับ LGBT ด้วย แล้วมันเป็นประเด็นที่ผมพูดมาตลอด เรารู้สึกว่าก็ดีนะถ้าเราจะได้เป็นตัวแทนในการพูดถึงเรื่องนี้แทนคนที่เขาไม่สามารถพูดออกมาได้ รวมถึงไดนามิกของเรื่องมันค่อย ๆ ไล่ไปจนถึงจุดที่มันไม่น่าจะไปถึงได้“ตอนแรกผมก็รู้สึกกังวลว่าผมเหมาะหรือเปล่า ซึ่งผู้ใหญ่บอกว่าจากการได้ดูวิดีโอแคสต์ก็รู้สึกว่านี่เป็นเวอร์ชั่นที่เขาอยากจะเห็นในหนังเรื่องนี้ ตอนแรกที่ผมกังวลเพราะตัวบทมันท้าทายมาก แล้วผมอาจจะมีเวลาเตรียมตัวไม่ได้เยอะขนาดนั้น แล้วการที่จะต้องทรานส์ฟอร์มตัวเองไปเป็นคนอื่นมันก็ยาก การทำงานเพลงมันคือการเป็นตัวเรา แต่งานหนังมันเป็นการทิ้งตัวเราแล้วไปเป็นคนอื่น“ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันกดดันอะไรในเรื่องนี้ แต่ถ้าจะกดดันผมกดดันกับเรื่องบทมากกว่า ในฐานะเป็นนักแสดงสิ่งที่ต้องทำการบ้านจริง ๆ คือตัวบท แล้วเราจะไปเป็นคนคนนั้นในหนังเรื่องนี้ได้ยังไง”เจฟ ยังบอกอีกว่า คาแร็กเตอร์ในเรื่องนี้ถือว่าเป็นที่สุดของการทรานส์ฟอร์มตัวเอง เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกที่แฟน ๆ ได้เห็นเขาในลุคผิวดำและต้องโกนหัว ซึ่งเขามองว่าหากจะต้องไปเป็นคนอื่น ก็ต้องทิ้งตัวตนของตัวเองไว้ที่หน้าเซ็ตแล้วเข้าไปในโลกของตัวละครนั้นจริง ๆ ต้องรอดูว่าฝีมือการแสดงของเขาจะออกมาเป็นยังไง แต่ที่แน่ ๆ เจฟ ก็ทุ่มสุดตัวเลยทีเดียวภาพ : Wayfer Records

album

0
0.8
1